Share

บทที่ 254  

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงเฟิ่งหัวน้ำตาคลอเบ้า เพื่อลูกนางพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองไว้ “อืม หรวนหร่วนเข้าใจแล้วเพคะ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต หรวนหร่วนก็จะปกป้องลูกของพวกเราให้ดี หม่อมฉันเพียงแค่กังวลท่านแม่รอดพ้นเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปได้ แต่ครั้งหน้า แค่คิดก็รู้สึกครั่นคร้ามแล้วเพคะ”

“มีข้าอยู่ ไม่มีใครกล้าทำร้ายครอบครัวของหรวนหร่วน พวกเขาก็เป็นคนในครอบครัวของข้าเช่นกัน” เซี่ยซางเอ่ยด้วยเสียงขรึม: “และยิ่งไม่มีใครกล้าทำร้ายเจ้าและลูกของเราด้วย” แววตาของเขาฉายประกายโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้สั่นสะท้านหวาดหวั่น

เขารู้ดีมารดาเจียงเป็นคนดีมาก ใครกันที่คิดจะทำร้ายนาง สกุลเจียงเป็นสกุลที่ดำรงซึ่งความซื่อสัตย์มาตลอด ไม่เคยผูกพยาบาทเป็นศัตรูกับผู้ใด ดังนั้นคนที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายเกรงว่าจะไม่ใช่เจียงฮูหยิน

ในใจของเซี่ยซางคาดเดาว่าอาจจะเป็นฝีมือของคนสกุลซู หากว่าสกุลซูกล้าลงมือทำร้ายเจียงเฟิ่งหัวจริง เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าเขาไม่ไว้หน้าแม่ทัพซูแล้วกัน

วันนี้ยิ่งคนมากสายตายิ่งมาก ยากต่อการสืบความจริง ไม่มีหลักฐานเขาก็ไม่กล้ากล่าวหาอย่างบุ่มบ่าม

คนอื่นล้วนปลอดภัยดี มีเพียงมารดาเจียงเท่านั้นที่ถูกวางยาพิษ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ณัชชา อ้วนละมัย ชาแนล
รออยู่นะคะ...🫰
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 255  

    เจียงจิ่นเหยียนผงะไป “นาง นางดีมาก เป็นตัวเลือกภรรยาที่ไม่เลวคนหนึ่ง พวกข้าคุยกันถูกคอ และถูกชะตากันมากทีเดียว” อย่างน้อยเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันก็มิใช่ปัญหา เจียงเฟิ่งหัวรู้ว่าเขาตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ทว่าคู่สามีภรรยาก็เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ? จะมีสามีภรรยาสักกี่คู่กันที่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความรัก แต่สุดท้ายจะคู่ไหนล้วนจำเป็นต้องอาศัยการดูแลในภายหลังอยู่ดี สตรีที่มีความกล้าหาญไล่ตามความรักเหมือนจางอวี่มั่วมีน้อยมาก พี่ใหญ่คงพอจะรู้สึกชมชอบนางได้กระมัง นางเอ่ยขึ้น “หวังว่าจะได้ดื่มสุรามงคลของพวกท่านในเร็ววัน” “อืม ข้าจะเชิญมารดาไปพูดคุยสู่ขอสะใภ้ที่จวนสกุลจาง” เขาเอ่ย จางอวี่มั่วหลบอยู่ด้านนอกประตูได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเข้าโดยบังเอิญ ในที่สุดความปรารถนาของนางก็เป็นจริงแล้ว ดีใจจนแทบจะตะโกนส่งเสียงออกมา เพียงแต่อิ๋งเอ๋อร์ที่เขาพูดถึงคือใครกัน? นางพลันหดหู่ใจทันที ที่แท้ในใจของเขาก็มีใครบางคนอยู่ก่อนแล้ว อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน? “ยังไม่กลับอีกหรือ?” เจียงจิ่นเหยียนพลันปรากฏเบื้องหน้านาง จางอวี่มั่วสีหน้ากระอักกระอ่วน พูดติดขัด “ขะ…ข้าก็แค่ยังเป็นห่ว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 256  

    จ้องมองเงาแผ่นหลังของเจียงเฟิ่งหัวที่เดินจากไป จางอวี่มั่วหน้าแดงเป็นผลพลับสุกปลั่ง นางอาศัยจังหวะที่หยาดน้ำตาบนขอบตาเอ่อล้นออกมาโผเข้าสู่อ้อมกอดของเจียงจิ่นเหยียนพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา เจียงจิ่นเหยียนไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับน้ำตาของสตรีมาก่อน เขานิ่งเหมือนเสาแข็งทื่อปล่อยให้จางอวี่มั่วกอดและร้องไห้ตามสบาย พลางคิดในใจ คงต้องคอยให้นางร้องไห้จนพอกระมัง เมื่อร้องไห้จนพอใจแล้วนางก็จะหยุดร้องเอง! จางอวี่มั่วก็สบโอกาสนี้เลื่อนมือขึ้นโอบรัดเอวของเขาไว้ ถึงอย่างไรก็จะแต่งงานกันแล้ว ในที่สุดนางก็สมดังใจปรารถนาแล้ว ขอกอดให้มากกว่านี้อีกสักนิดเถิด เหลียนเย่เดินอยู่ข้างกายเจียงเฟิ่งหัวแอบหรี่ตามองกลับไปแวบหนึ่ง “กับเรื่องปลอบโยนแม่นางคุณชายใหญ่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนักเพคะ รวดเร็วเพียงนี้ก็กอดกันแล้ว” เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยในใจ นั่นไม่ใช่เพราะจางอวี่มั่วใจกล้าพอหรืออย่างไร บุรุษล้วนพึงใจสตรีที่รู้จักออดอ้อนทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับคนที่รูปโฉมงดงามแล้วยังชอบออดอ้อนตัวติดคนแบบนั้น จางอวี่มั่วมีหน้าตางามล้ำ มีความสามารถเพียบพร้อม สตรีลักษณะเช่นนี้บุรุษใดเล่าจะไม่ชมชอบบ้าง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ท่านพี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 257  

    การบรรเทาพิบัติภัยในเมืองเจียงหนานเร่งด่วนมาก เซี่ยซางจึงเรียกเจียงจิ่นเหยียนให้เดินทางไปด้วยกัน ภายในเมืองหลวงเซิ่งจิ่งยังคงมีงานรื่นเริงครึกครื้นเหมือนเคย ร้องรำทำเพลงสนุกสนาน ผู้คนควรจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ใช้ชีวิตไปตามปกติเช่นนั้น หนึ่งเดินต่อมา วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่เจ็ดสิบของท่านจางกั๋วกงพอดี ของขวัญอวยพรจากกรมวังก็ส่งมาถึงจวนจางกั๋วกงตั้งแต่เช้าตรู่ ขุนนางและตระกูลผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในเมืองเซิ่งจิ่งต่างรู้จักสังเกตท่าที เห็นในวังหลวงส่งของขวัญอวยพรมาให้ ทุกคนก็พากันหอบหิ้วของขวัญไปอวยพรถึงหน้าประตูจวน หลังจากเจียงฮูหยินฟื้นตัวก็รีบสั่งให้คนไปหารือกับเจียงเฟิ่งหัวเรื่องที่จะใช้โอกาสในวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่เจ็ดสิบของจางกั๋วกงเพื่อสู่ขอสะใภ้จากสกุลจาง และจะได้ถือโอกาสอันดีในคราวนี้ปัดเป่าข่าวลือของสองคนให้หมดไป เจียงเฟิ่งหัวครุ่นคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เอ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านต้องคิดให้ดี หากต้องเดินทางไปสู่ขอสะใภ้จากสกุลจางในวันนี้จริง หากเกิดความผิดพลาดระหว่างทาง ผลลัพธ์อาจจะกลายเป็นตรงกันข้ามแทน” “แม่คิดดีแล้ว หากให้พวกเขาสมรสกันอย่างลับ ๆ นั่นก็เท่ากับตอกย้ำว่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 258  

    ฮูหยินรองจางสอดสายตามองไปยังจีเฉินที่ท่วงท่าสง่างามผ่าเผย ก่อนจะถามขึ้นว่า “คุณชายท่านนี้คือผู้ใดกัน?” “เขาเป็นผู้น้อยที่ข้ายอมรับ รุ่นเดียวกับพวกหลาน ๆ ในสกุลซูของข้า ข้าจึงฉวยโอกาสอ้างความอาวุโสให้เขาเรียกตัวข้าว่าท่านย่าสักคำ และที่เขามาเมืองหลวงก็เพื่อเตรียมตัวสอบคัดเลือกขุนนางช่วงฤดูใบไม้ผลิ ข้าจึงพาเขามาเปิดหูเปิดตาสัมผัสความองอาจของจางกั๋วกงสักครั้ง” “ช่างเป็นหนุ่มรูปงามสง่าผ่าเผยเสียจริง มาสอบคัดเลือกขุนนางอย่างนั้นหรือ จะต้องมีความรู้มากแน่ๆ” จีเฉินรีบละสายตาจากเจียงเฟิ่งหัว ก่อนจะทำความเคารพอย่างนอบน้อม “ผู้น้อยนามว่าจีเฉิน คารวะฮูหยินขอรับ” “ไม่ต้องมากพิธี รีบเข้าไปด้านในเถิด! ผู้มาเยือนวันนี้เป็นบัณฑิตก็มาก ล้วนเข้าร่วมการสอบคัดเลือกขุนนางฤดูใบไม้ผลิทั้งสิ้น ประเดี๋ยวพวกเจ้าพูดคุยสนทนากันให้เต็มที่เถิด ปัญญาชนควรอยู่ด้วยกันให้มาก ถกปัญหาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้” ขณะที่เดินผ่านข้างกายเฝิงจิ้งย่วนไป ฮูหยินผู้เฒ่าซูปรายสายตามองนางอย่างลุ่มลึก “เจียงฮูหยินสบายดีหรือ!” เฝิงจิ้งย่วนสีหน้าเรียบเฉย มิได้ถ่อมตัวและมิได้แข็งกร้าว “ฮูหยินผู้เฒ่าซูสบายดี” “ฟังว่าเจียงฮูหยินร

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 259  

    เอ่ยถึงอวิ๋นฟาง ไฟโทสะในแววตาของจีเฉินพลันปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มุ่งหวังเพียงจะปีนป่ายให้ได้ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ ทว่าบัดนี้กลับเปลี่ยนใจมาพัวพันกับเขาแทน บอกว่านางเสียตัวให้เขาแล้วกลายเป็นคนของเขาแล้ว มิวายยังบอกอีกว่าเหิงอ๋องออกหน้าทวงความยุติธรรมให้นางบัดนี้นางเป็นภรรยาของเขาไปแล้วอีก อวิ๋นฟางถึงกับวิ่งไปร่ำไห้ฟูมฟายร้องทุกข์ต่อเบื้องหน้าฮูหยินผู้เฒ่าซู จนสุดท้ายนางก็กลายเป็นคนของสกุลซูไป อีกทั้งยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าซูต้องการผลักดันให้เขาเข้าร่วมการสอบเคอจวี่ เขาจึงต้องรับอวิ๋นฟางเป็นภรรยาอย่างจนใจ บัดนี้เขาไม่กล้าล่วงเกินเจียงเฟิ่งหัว ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนบงการเรื่องระหว่างเขากับอวิ๋นฟางอย่างแนบเนียนไม่มีผู้ใดล่วงรู้ และจับจุดอ่อนของพวกเขาเอาไว้อยู่หมัด ไม่รอให้จีเฉินเอ่ยปาก สีหน้าของฮูหยินรองจางก็ไม่สู้ดีแล้ว ที่แท้ก็สมรสแล้วหรือ มิหนำซ้ำคู่สมรสยังเป็นสาวใช้ของจวนเหิงอ๋องอีก ฮูหยินรองจางเอ่ยขึ้น “ฮูหยินผู้เฒ่าซูเชิญเถิด” ฮูหยินรองจางถือโอกาสนี้ค้อมกายให้เจียงเฟิ่งหัวเล็กน้อย “พระชายา เจียงฮูหยินเองก็เชิญเข้าไปด้วยกันเถิด!” ท่าทางแสด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 260  

    ฮูหยินรองจางมองจางอวี่มั่วปราดหนึ่ง และเดินมาข้างกายนาง พลางเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “มั่วเอ๋อร์ ยังไม่รีบไปคุกเข่าคารวะอวยพรท่านปู่ของเจ้าอีกหรือ นั่งเซ่ออยู่ตรงนี้เพื่ออะไร” จางอวี่มั่วหันไปทักทายคนสกุลเจียงแล้ว มารดาเจียงก็เอ่ยว่า “ไปเถิด” นางรีบลุกไปหาจางกั๋วกงทันที ก่อนจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าจางกั๋วกงและโขกศีรษะคำนับเสียงดังสามครั้ง “อวี่มั่วอวยพรให้ท่านอายุยืน ขอให้ท่านปู่มีโชคลาภมากมายดุจทะเลตะวันออก อายุยืนยาวกว่าขุนเขาทางใต้” เป็นเด็กสาวที่จางกั๋วกงและฮูหยินผู้เฒ่าจางเลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบใหญ่มากับมือ พวกเขาย่อมรักและเอ็นดูเป็นที่สุด “รีบลุกขึ้นเถิด” จางอวี่มั่วเดินไปข้างกายจางกั๋วกง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงกระซิบ “ท่านปู่ วันนี้ท่านป้าเจียงก็มาร่วมยินดีด้วย นางอยากจะพบหน้าท่านและท่านย่าลำพังสักครั้งเจ้าค่ะ” จางกั๋วกงผงะไป เพราะมั่วเอ๋อร์พัวพันอยู่กับเจียงจิ่นเหยียนเอง บัดนี้จะต่อว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้แล้ว หากว่าเจียงจิ่นเหยียนไม่ยินยอมก็มิอาจบีบบังคับ เพราะเจียงจิ่นเหยียนมิได้เข้ามาสู่ขอ จางอวี่มั่วก็มิได้อธิบายความคิดของเข้าให้สองผู้เฒ่าสกุลจางเข้าใจ อีกทั้งยังออกเดินทางกะทันหัน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 261

    ฮูหยินรองจางเห็นจางอวี่มั่ววิ่งเข้าไปร้องไห้ในอ้อมกอดคนนอก ความโกรธขึ้งก็ปรากฏขึ้นในแววตา ทำอย่างกับว่าสกุลจางรังแกนางเสียอย่างนั้นนางกระชากจางอวี่มั่วออกมาจากอ้อมอกเฝิงจิ้งย่วน กล่าวอย่างกระแทกแดกดัน “เรื่องในบ้านสกุลจางของเราเจียงฮูหยินก็ไม่ต้องมาเป็นห่วงให้ลำบากหรอก อวี่มั่วไร้พ่อแม่ตั้งแต่เด็ก พวกข้าที่เป็นอาหญิงก็เห็นนางเป็นลูกสาวแท้ ๆ มาตลอด เรื่องตบแต่งของนางซึ่งเป็นเรื่องใหญ่พวกเราย่อมเป็นผู้ตัดสิน สกุลจางเราตกลงรับการสู่ขอของสกุลซูแล้ว อีกไม่นานมั่วเอ๋อร์กับแม่ทัพน้อยซูก็จะแต่งงานกันแล้ว”เฝิงจิ้งย่วนมองที่ฮูหยินผู้เฒ่าจาง กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านก็เห็นชอบกับการแต่งงานครั้งนี้ของอวี่มั่วหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าจางมองจางกั๋วกงแวบหนึ่ง กล่าวเสียงหนักแน่น “เห็นชอบแล้ว มั่วเอ๋อร์ของบ้านเราก็ควรจะออกเรือนได้แล้ว”พวกเขารู้สึกว่าไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือเหล่านี้ของจางอวี่มั่วกับเจียงจิ่นเหยียน ชื่อเสียงก็ย่อยยับเช่นนี้แล้ว สกุลเจียงก็ไม่มาสู่ขออย่างจริงใจ ตอนนี้สกุลเจียงก็มาขอพอดี ให้นางแต่งออกไปอยู่ไกล ๆ หน่อยเสียจะดีกว่า ไปชายแดน นางมีครอบครัวแล้วต่อไปก็จะม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 262

    ทะเลสาบลึกขนาดนี้ พอลงไปก็ไม่เห็นตัวคนแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าจางกับจางกั๋วกงกังวลจนเกือบเป็นลมล้มพับพวกผู้ชายยิ่งไม่กล้าลงน้ำไปช่วยคน ถึงอย่างไรจางอวี่มั่วก็ไม่เพียงข้องแวะกับคุณชายสกุลเจียง เพิ่งถอนหมั้นกับบ้านเจ้ากรมหลี่ ตอนนี้ยังหมั้นหมายกับแม่ทัพน้อยสกุลซูแล้วอีก ใครก็ไม่กล้าลงไปยุ่งเกี่ยวกับนางให้เกิดความคลุมเครืออีกแล้ว ร่างกายของหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนคนหนึ่งใครกันจะกล้าแตะต้องเจียงเฟิ่งหัวว่ายน้ำเป็น แต่ว่านางกำลังมีครรภ์ ยังไม่ต้องพูดถึงน้ำในทะเลสาบอันหนาวเย็นในช่วงฤดูนี้ กำลังกายของนางก็พยุงจางอวี่มั่วไม่ได้ ถึงเวลาทั้งสองคนจะสิ้นชีพกันพอดี “อ้าวเสวี่ย” นางกล่าวอ้าวเสวี่ยกอดกระบี่ไว้เฝ้าอยู่ข้างกายนาง ไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียวอ้าวเสวี่ยตัดสินใจว่า “หน้าที่ของข้าน้อยคือปกป้องพระชายา อีกอย่างข้าน้อยก็ว่ายน้ำไม่แข็งนัก น้ำในทะเลสาบในจวนสกุลจางนี้ไม่นิ่ง เกรงว่าจะเชื่อมต่อกับทะเลสาบด้านนอก ใครลงไปก็เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น”จีเฉินคิดอยากจะลงไปช่วยคน หากช่วยขึ้นมาได้จริง เช่นนั้นแล้วแม่สาวน้อยคนสวยนี้ก็ไม่พ้นต้องแต่งกับเขา แต่หากเขาตายขึ้นมาก็ไม่คุ้ม เขาจึงเลือกที่จะถอย ความม

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status