Share

บทที่ 49

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
มุมปากเซี่ยซางพลันหยักขึ้นอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฉวยโอกาสกับผู้อื่นมิใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว สิ่งที่เจียงเฟิ่งหัวต้องการก็คือความชอบจากใจจริงของสามี เช่นนี้นางจึงยินดีมอบความจริงใจออกไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สามีที่ดี นางไม่เหมือนซูถิงหว่าน นางต้องการเพียงความชอบเล็กน้อยเท่านั้น

ก่อนหน้านี้นางได้รับการปกป้องทะนุถนอมจากสกุลเจียง นางไม่ประสาเรื่องทางโลก นางเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้นเอง!

เขาวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือ นางหาท่าที่สบายตัวนอนหลับฝันหวาน ท่าทางปราศจากเล่ห์เพทุบายโดยสิ้นเชิง

เขายิ้มบาง ลองเรียกอีกครั้งว่า “หรวนหร่วน”

ไม่ได้รับคำตอบรับ จากนั้นเขาก็นอนลงข้างกายนางอีกครั้ง กุมมือนางเงียบๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายนาง เขาเองก็ค่อยๆ นอนหลับไปเช่นกัน

วันรุ่งขึ้น ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวตื่นนอน เซี่ยซางก็จากไปแล้ว

นางนอนดึกตื่นสาย ไม่รู้เลยว่าเซี่ยซางจากไปตั้งแต่เมื่อใด

เจียงเฟิ่งหัวค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน หันไปถามหงซิ่วว่า “ตอนนี้เป็นยามไหนแล้ว?”

“ยามซื่อแล้วเพคะ พระชายาไม่ตื่นสายเช่นนี้มานานแล้ว คืนวานท่านอ๋องพักที่หอหล่านเยว่ ความสัมพันธ์ระหว่างพระช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 50

    ชาติก่อนเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยได้รับการคารวะจากซูถิงหว่าน เนื่องจากไม่ได้รับความโปรดปรานจากเซี่ยซาง ข้ารับใช้ในจวนก็สร้างความลำบากให้นางสารพัด ชาตินี้ คืนวานเซี่ยซางเพิ่งเดินออกมาจากห้องของนาง ทุกคนล้วนเห็นกับตาย่อมจะเคารพนบนอบต่อนางเป็นธรรมดา“พระชายารองซูไม่ต้องมากพิธี ล้วนแต่เป็นคนครอบครัวเดียวกัน รีบนั่งลงเถอะ” นางสั่งความเสียงลุ่มลึก “หงซิ่วยกน้ำชาให้พระชายารองซู”“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” ซูถิงหว่านนั่งลงอย่างเรียบร้อยแล้วเอ่ยว่า “เมื่อวานหม่อมฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป ขออภัยด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวอมยิ้มมุมปาก อ่อนโยนดุจสายลมวสันต์เดือนสาม “ท่านอ๋องอธิบายให้ข้าฟังแล้ว เขาบอกว่าพระชายารองซูเติบโตที่ชายแดนมาตั้งแต่เล็ก คำพูดและการกระทำเถรตรง นิสัยตรงไปตรงมา ทว่าจิตใจดีงาม ข้าจะโกรธเคืองเจ้าได้อย่างไรกัน ล้วนผ่านไปแล้ว”อาซางอธิบายแทนนาง ซูถิงหว่านพลันปวดใจ เจียงเฟิ่งหัวอ่อนโยนแบบนี้ นางรู้สึกว่าอ่อนนุ่มยวบยาบ ใช้กำลังไม่ได้แม้แต่น้อย นางนึกว่าอาซางไม่ชอบสตรีที่อ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้เสียอีก นางผิดไปแล้ว อาซางถูกเจียงเฟิ่งหัวดึงดูดได้เหมือนกัน ตอนนี้นางอยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน นางจะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 51

    “ไม่สะดวกอย่างไรกันเพคะ ถ้าพระชายาไม่ไปแสดงว่ายังโกรธหม่อมฉันอยู่” ซูถิงหว่านพูดมาอีกว่า “พระชายาเป็นคนเซิ่งจิง จะต้องคุ้นเคยกับเทศกาลชมบุปผามากกว่าหม่อมฉันเป็นแน่!”เจียงเฟิ่งหัวมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ “ที่ผ่านมาพี่ใหญ่ไปเป็นเพื่อนข้า คนเยอะเกินไป ข้าไม่ค่อยชอบ”ซูถิงหว่านกล่าว “นอกจากชมบุปผา ยังมีการประชันบุปผาด้วยนะเพคะ น่าสนใจยิ่งนัก ช่วงหลายวันนี้ท่านอ๋องอาจมีงานราชการรัดตัว ปีนี้เขาอาจไม่มีเวลาไปชมบุปผาเป็นเพื่อนหม่อมฉันก็ได้เพคะ”“งั้นก็ได้!” เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าตกลงอย่างฝืนใจ อยากเห็นนักว่าพวกเจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรเดิมนางก็จะไปร่วมเทศกาลชมบุปผาอยู่แล้ว ตอนนี้ซูถิงหว่านมานัดหมายกะทันหัน สามารถใช้นางมากลบเกลื่อนได้พอดีที่ผ่านมานางก็เข้าร่วมเทศกาลชมบุปผา แต่นางไม่เคยใช้สถานะสตรีออกมาข้างนอก......วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาที่จัดขึ้นปีละครั้ง ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวออกมาก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง รวบผมขึ้นสูง แลดูค่อนข้างองอาจคล่องแคล่วเจียงเฟิ่งหัวคิด นางไม่ได้มีรูปโฉมงามล้ำ แต่ก็ยังนับว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง สาเหตุที่เซี่ยซางชอบนางคงเป็นเพราะชอบบุคลิกภาพเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 52

    เซี่ยซางรีบรุดมาที่ทะเลสาบร้อยบุปผาก็เห็นว่าที่นั่นมีผู้คนคลาคล่ำ แน่นขนัดเบียดเสียด เขาถาม “เหตุใดที่นี่จึงมีคนมากมายเช่นนี้?”หลินเฟิงอธิบาย “วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาประจำปีพอดีพ่ะย่ะค่ะ งานเทศกาลจัดขึ้นที่ทะเลสาบร้อยบุปผาจึงมีคนมากมายเช่นนี้”เขารู้แล้วว่าเกิดเรื่องอันใดที่ทะเลสาบร้อยบุปผา สาเหตุความวุ่นวายคือคดีหญิงสาวหายสาบสูญเมื่อสามปีก่อน มีคนปล่อยข่าวที่ทะเลสาบร้อยบุปผาว่าหยางจิ้งเจ้ากรมอาญาเป็นฆาตกร ทั้งยังวาดภาพที่หยางจิ้งสังหารหญิงสาวอีกด้วย ภาพนั้นสมจริงสมจังจนทำให้สาธารณชนเดือดดาล ความผิดมากเกินกว่าจะเขียนบรรยายออกมาได้หมดข่าวที่เจ้ากรมอาญาถูกฆาตกรรมเผยแพร่ออกมาแต่แรกแล้ว ยามนี้คนที่ทราบว่าเขาก่อกรรมทำเข็ญมามากมายขนาดนั้นล้วนด่าทอว่าตายได้ก็ดี ความตายยังไม่สามารถชดใช้ความผิดได้หมด เพราะหยางจิ้งข่มขืนและสังหารโหดหญิงสาวไปหนึ่งร้อยกว่าคน หยางจิ้งตายไปแล้วก็รู้สึกเพียงว่าสาสมใจนักเป็นผู้ใดที่มีคุณธรรมปานนี้ ทางการไม่เพียงไม่ตกรางวัล แต่ยังติดประกาศตามจับตัวฆาตกร ดังนั้นทุกคนจึงประท้วงขึ้นมาเซี่ยซางเห็นว่าสถานการณ์วุ่นวายขนาดนั้นก็สั่งความเสียงขรึม “ให้กองกำลังรักษาความ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 53

    เซี่ยซางขมวดคิ้วแน่น ทั่วบริเวณวุ่นวายสับสน สถานการณ์ขณะนั้นไม่สงบเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องมีคนแสดงท่าทีออกมา มิฉะนั้นราษฎรไม่มีทางเชื่อถือทางการ เรื่องนี้ต้องรายงานให้ฝ่าบาททรงทราบโดยเร็วที่สุดเซี่ยซางพลันกระโดดขึ้นไปยืนบนสะพานโค้งเหนือทะเลสาบร้อยบุปผา เอ่ยเสียงลุ่มลึกว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งวู่วาม ข้าคือเซี่ยซางผู้ดูแลเขตเมืองหลวง วันนี้ข้ายินดีเป็นผู้นำลงนามหนังสือหมื่นประชาลงนามร้องทุกข์นำไปกราบทูลฝ่าบาท จะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมกับตระกูลหยางแทนทุกท่านรวมถึงเหล่าสตรีที่ตายไปอย่างแน่นอน และประจานพฤติกรรมอันชั่วร้ายของหยางจิ้งให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน”เห็นเขาสวมเครื่องแบบขุนนางสีม่วง ท่าทางน่าเกรงขาม ทรงอำนาจบารมี แววตาหนักแน่น ในไม่ช้าก็มีคนตัดผ้าขาวยาวสิบจั้งก้าวออกมาผ้าขาวนั้นทอดยาวจากปลายด้านหนึ่งของสะพานโค้ง โอบล้อมทะเลสาบร้อยบุปผาได้ครึ่งทางเซี่ยซางหยิบกริชขึ้นมากรีดนิ้ว เขียนตัวอักษรสองตัวว่า ‘เซี่ยซาง’ อย่างทรงพลังและสง่างาม เพื่อสื่อว่าวันนี้เขาจะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ปวงชนอย่างแน่นอน ทุกคนอึ้งงันไปอย่างเหลือเชื่อ ฉับพลันนั้นทุกคนก็เงียบเสียง เหิงอ๋องเป็นผู้นำลง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 54

    หลินอวี่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวมีปณิธานยิ่งใหญ่และมีความสามารถไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก ตอนมีราชโองการสมรสพระราชทานลงมาเมื่อครึ่งปีก่อน เจียงเฟิ่งหัวน้อมรับด้วยความยินดี ทั้งยังดีใจมากอีกต่างหาก นางจึงเข้าใจว่าคนที่นางชอบคือเหิงอ๋องเซี่ยซางแต่เจียงเฟิ่งหัวกลับบอกนางว่าตนเองไม่ชอบเขา ต่อไปก็ไม่มีทางชอบหลินอวี่หลินอวี่งุนงงไปหมดแล้วหลินอวี่กับเจียงเฟิ่งหัวรู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาพวกนางไม่ได้เป็นเพียงนายบ่าว แต่เหมือนพันธมิตรและมิตรแท้สำหรับกันและกันมากกว่าต่อมา เจียงเฟิ่งหัวลงทุนก่อตั้งกิจการหอสุราแห่งนี้ หลินอวี่กลายเป็นเถ้าแก่หอสุราตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าการตัดสินใจทุกอย่างมีเจียงเฟิ่งหัวคอยกำกับอยู่หลังม่านพวกนางพบกันครั้งแรกที่หอสังคีต เปลือกนอกเป็นหอสังคีต แต่แท้จริงแล้วเป็นหอโคมเขียวแต่สถานการณ์ของพวกนางกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง หลินอวี่ถูกขายให้หอสังคีต ชะตาชีวิตนางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องชวนสลดน่าสังเวช อยู่มิสู้ตาย กระทั่งว่าที่พึ่งชั่วชีวิตของนางคือการปรนนิบัติเอาใจบุรุษ เมื่อเข้าไปในหอโคมเขียว เดิมนางก็สิ้นหวังไปแล้วทว่าคล้ายกับว่าสวรรค์นำโช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 55

    “เจ้าหมายความว่าหนังสือหมื่นประชาลงนามเป็นสิ่งที่เหิงอ๋องเตรียมการเอาไว้แต่แรกแล้ว” หลินอวี่รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง “เขาทำแบบนี้ไม่กลัวว่าฮ่องเต้จะทรงกริ้วรึ?”“กฎหมายไม่ลงโทษคนหมู่มากนี่นา” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว “เขาร้องทุกข์เรียกร้องความยุติธรรมแทนราษฎร เรื่องยังวุ่นวายใหญ่โตปานนี้ ถ้าฮ่องเต้ทรงลงโทษเหิงอ๋องแล้วจะอธิบายต่อไพร่ฟ้าอย่างไรเล่า” อย่างไรเสียเซี่ยซางก็ไม่เคยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เขาคงไม่สนใจอันใดอีกแล้วจึงทำเช่นนี้กระมัง!ทางด้านนี้ หลังจากเซี่ยซางง้อซูถิงหว่านเสร็จแล้ว ราชโองการจากในวังก็มาถึง ทว่าคนที่มาถ่ายทอดราชโองการกลับเป็นองค์ชายรองเซี่ยอวี้เซี่ยอวี้เห็นว่าซูถิงหว่านอยู่ข้างกายเซี่ยซางก็เสียดสีว่า “ผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาสืบคดีก็ไม่ลืมพาอนุคนงามมาด้วย พวกเจ้าช่างรักใคร่กันดีเหลือเกินนะ!”ซูถิงหว่านฟังออกว่าเซี่ยอวี้พูดจาเสียดสีจึงอธิบายว่า “อวี้อ๋องเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันมาเจอท่านอ๋องโดยบังเอิญ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องกำลังสืบคดีอยู่ที่นี่”เป็นเพราะเซี่ยซางอธิบายสถานการณ์ให้นางฟัง นางจึงรู้ว่าเซี่ยซางกำลังสืบคดีอยู่ เดิมยังคับข้องใจที่เซี่ยซางไม่ให้ความร่วมมือนา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 56

    สำนักหลิงอวิ๋นเมื่อเซี่ยซางมาถึงหน้าทางเข้าสำนัก บ่าวเฝ้าประตูไม่ได้ถามว่าเป็นใคร กลับเอ่ยทันที “เหิงอ๋องโปรดเชิญทางนี้ เจ้าสำนักของพวกเรารอท่านนานแล้ว”เซี่ยซางเต็มไปด้วยความสงสัย ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ฐานะของเขา เชื่อว่าน่าจะเตรียมการไว้แต่แรก เขาเดินตามบ่าวเฝ้าประตูเข้าไปในสำนักอย่างเงียบขรึมเมื่อเข้ามาในสำนักเขาจึงได้รู้ว่าด้านในแตกต่าง ลูกไม้แพรวพราวถานหว่านชิงเตรียมน้ำชาไว้แต่แรก เดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง “หม่อมฉันถานหว่านชิงคารวะเหิงอ๋องเพคะ”เซี่ยซางหันไปมอง หญิงสาวตรงหน้าซึ่งมีอายุประมาณยี่สิบปีเศษเท่านั้น นางสวมชุดทะมัดทะแมงสีดำทั้งชุด แต่งกายด้วยชุดของบุรุษ ดูเหมือนผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเขาไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าคือเจ้าสำนักหลิงอวิ๋น“เจ้าสำนักถานเกรงใจเกินไปแล้ว ในสายตาเจ้าสำนักถานข้าคงเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น” เขากล่าวต่อ “ขนาดเจ้ากรมอาญา พวกเจ้ายังสังหารโดยไม่ให้รู้ตัว”ถานหว่านชิงกล่าวด้วยแววตาจริงใจ “ตอนหยางจิ้งทำให้น้องสาวหม่อมฉันตายนางอายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น ขณะที่นางตายเอาแต่ขอร้องตลอด แต่หยางจิ้งกลับไม่ได้หยุดพฤติกรรมเยี่ยงเดรัจฉานของเขา น้องสาวหม่อมฉันถูกเขาท

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 57

    เซี่ยซางไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไปมากกว่านี้ ต่อให้คนของเขาสืบสาวมาถึงสำนักหลิงอวิ๋น เขาก็ไม่ได้ให้ใครรู้เขาเอ่ยเสียงเข้ม “สำนักหลิงอวิ๋น ข้าจะจำไว้”พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องรับแขกทันที เมื่อมาถึงด้านนอก จึงเห็นคนมามุงอยู่เต็มเรือน หนำซ้ำยังเป็นสตรีทั้งหมด สีหน้าพวกนางหวาดกลัว จ้องเขาตาไม่กระพริบเซี่ยซางถูกหญิงมากมายจ้องมอง อีกทั้งนึกถึงหญิงสาวร้อยกว่าคนที่ตายไป จู่ ๆ ในใจเขาหวาดกลัวเล็กน้อย ดูท่าคงต้องให้หลินเฟิงไปสืบที่มาของสตรีเหล่านี้ทว่าสุดท้ายกลับทำให้เซี่ยซางผิดหวัง หญิงเหล่านี้เป็นเพียงหญิงน่าสงสารที่ไม่มีบ้าน ถานหว่านชิงเองก็เป็นหญิงชาวบ้าน ที่ถูกหยางจิ้งทำร้ายจนบ้านแตกสาแหรกขาด ส่วนพวกหญิงสาวที่อยู่ในสำนักหลิงอวิ๋นถูกนางรับไว้ทั้งหมดสำนักหลิงอวิ๋นก็เป็นเหมือนศูนย์เมตตาธรรม......อีกด้านหนึ่ง เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับไปที่ทะเลสาบร้อยบุปผา งานชมบุปผาได้จบลงแล้วงานชมบุปผาปีนี้มีทั้งเรื่องประหลาดใจและเรื่องน่าเสียใจ ทุกคนพูดกันไปต่าง ๆ นานา “คุณชายใหญ่เจียงไม่มาร่วมงาน น่าเสียดายยิ่งนัก ปีก่อนที่เขาร่วมงาน เวลานี้งานชมบุปผาก็ยังไม่จบ ทุกคนแข่งกันจนไม่อยากกลับ เด็กรับ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 380  

    ส่วนความแค้นระหว่างสกุลเฉิงและสกุลซู เฉิงฮองเฮาวางความสำคัญไว้หลังเซี่ยซางแล้ว ขอเพียงเซี่ยซางได้เป็นฮ่องเต้ ไม่ว่าเรื่องอะไรนางสามารถละทิ้งไปก่อนชั่วคราวได้ทั้งสิ้น ซูถิงหว่านยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเซี่ยซางจะต้องได้เป็นฮ่องเต้ และนางก็เชื่อมั่นอย่างไร้ข้อกังขา รู้สึกว่าโอรสของตนเองมีความสามารถมากถึงเพียงนั้น สมควรได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาท เป็นฮ่องเต้ นางเฝ้ารอวันที่ว่านี้มายี่สิบกว่าปีแล้ว เฉิงฮองเฮาเปลี่ยนน้ำเสียงให้อบอบอุ่นอ่อนโยน “ความหมายของหรวนหร่วนคือ? แม่นางเหล่านี้ไม่ว่าด้วยอุปนิสัย รูปโฉมหน้าตา หรือชาติกำเนิดล้วนหาได้ยากยิ่ง หากพวกนางหมั้นหมาย หรือสมรสกับผู้อื่นไปแล้วจริง ๆ ก็เท่ากับว่าพลาดไปแล้ว ข้าเองก็คิดเพื่อซางเอ๋อร์นะ” นางยังเอ่ยด้วยเสียงที่เบาลงอีกว่า “หรวนหร่วน ความจริงข้าเองก็กำลังคิดว่าจะดึงขุนนางให้มาเป็นพวกพ้องของซางเอ๋อร์ เจ้าในฐานะภรรยาของเขา ก็น่าจะรู้ว่าบิดาของพวกนางมีความสำคัญในราชสำนักอย่างไรบ้าง” ได้ยินถึงตรงนี้ เจียงเฟิ่งหัวอยากจะอาเจียนออกมาเต็มที คนที่ไม่รู้คงเข้าใจผิดไปกันใหญ่ว่านางกำลังเฟ้นหาลูกสะใภ้ให้ตนเอง ทั้งที่ความจริงแม่สามีเป็นคนลากลูกสะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 379  

    เฉิงฮองเฮาก็หยิบภาพเหมือนออกมาให้เจียงเฟิ่งหัว พลางอธิบายทีละใบว่าคนในภาพเป็นธิดาของขุนนางท่านใด หลังจากเจียงเฟิ่งหัวดูแล้ว ในบรรดาภาพเหมือนเหล่านั้นก็มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง ดูเหมือนว่านางจะเตรียมการทุกอย่างให้เซี่ยซางตามกฎเกณฑ์การคัดเลือกพระสนมจริง ๆ “สตรีที่เสด็จแม่ทรงเลือกมาเหล่านี้ งดงามเพริศพริ้งจริงเพคะ เพียงแต่ชาติกำเนิดของพวกนางจะไม่เอิกเกริกเกินไปหรือเพคะ ล้วนเป็นธิดาจากตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ทั้งสิ้น พวกนางจะยอมสมรสกับท่านอ๋องเป็นเพียงอนุภรรยาได้อย่างไรเพคะ เสด็จแม่หากไปสู่ขอแบบนี้ เกรงว่าจะหมางใจกับขุนนางได้นะเพคะ!” “ได้เป็นอนุชายาของซางเอ๋อร์ ถือเป็นวาสนาของพวกนางแล้ว” เฉิงฮองเฮาเริ่มอวดดีขึ้นมาบ้างแล้ว คอยให้โอรสของตนได้เป็นฮ่องเต้ พวกเขาจะต้องระริกระรี้อยากส่งบุตรีเข้าวังจนทนไม่ไหวแน่ เจียงเฟิ่งหัวได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก ตอนนางเชิญท่านแม่เข้าวังเมื่อครั้งแรก ก็แสดงท่าทางสูงส่งถือดีเช่นนี้เหมือนกัน ราวกับว่าการที่เจียงเฟิ่งหัวได้สมรสเป็นพระชายาของโอรสของนาง นับว่าเป็นโชคดีที่บรรพบุรุษได้สั่งสมบุญบารมีจุดธูปใหญ่บูชาสวรรค์มา ก่อนที่เฉิงฮองเฮาจะเล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 378  

    แต่นางเล่า ก็ได้แต่ทนทรมานต่อไปแบบนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้หลุดพ้นออกมาเสียที ปัจจัยสำคัญคือบุตรชายไม่มีปัญญาจะไปแย่งชิงตำแหน่งนั้น มิเช่นนั้นนางเองก็… ฮองเฮาเห็นนางเงียบไปไม่พูดจา กระนั้นก็มิได้สั่งให้นางออกไป แต่ตรัสขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า “ใกล้จะปีใหม่แล้ว พวกเจ้าทุกคนประสงค์จะฉลองวันปีใหม่อย่างไรหรือ ข้าขอย้ำประโยคนั้น อย่าฟุ่มเฟือยสิ้นเปลือง บัดนี้ที่เขตชายแดนกำลังทำศึกสงคราม พวกเรายิ่งสมควรมัธยัสถ์ ต่อหน้าสตรีทั้งใต้หล้าควรเป็นแบบอย่างที่ดี พวกเจ้าทุกคนจงจำไว้ พวกเราเป็นสตรีของฝ่าบาท จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้คนปฏิบัติตาม แต่ละตระกูลของพวกเจ้า ก็ให้พวกเจ้าทุกคนกลับไปดูแลควบคุมกันเอง…” เฉิงฮองเฮาพร่ำพูดแต่เรื่องเดิมราวกับกำลังท่องบทสวดภาวนา ถ้อยคำเหล่านี้พวกนางฟังจนเบื่อหน่ายแล้ว ทุกคนขานรับด้วยความนอบน้อมราวกับสายน้ำไร้ชีวิต “เพคะ หม่อมฉันน้อมรับพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮาอย่างเคร่งครัดเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวมองดูแล้ว ก็รู้สึกจืดชืดไร้รสชาติ นางฉลองปีใหม่ที่จวนสกุลเจียงยังน่าสนใจมากกว่า คนทั้งเรือนล้อมวงกินอาหารด้วยกัน ท่านพ่อท่านแม่ยังมอบเงินแต๊ะเอียปีใหม่ให้พวกนางเหล่าพี่สาวน้อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 377  

    “หากเยี่ยนเฟยประสงค์จะพบพี่สะใภ้รอง ส่งคนไปตามนางก็ได้เพคะ เพียงแต่บัดนี้เสด็จพ่อทรงมอบราชกิจให้นาง และนางก็กำลังยุ่งมากเพคะ เกรงว่าจะไม่มีเวลาว่าเขาวังมาปรนนิบัติเยี่ยนเฟย มองจากพระวรกายของเยี่ยนเฟยแล้วเหมือนจะสบายดีเพคะ!” เจียงเฟิ่งหัวสุขุมเยือกเย็นมิได้ขุ่นเคือง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จะอย่างไรก็ตาม ความไม่กตัญญูมีสามประการ การไร้ทายาทสำคัญที่สุด…” เยี่ยนเฟยเพิ่งเอ่ยปากออกมา ทันใดนั้น เหล่านางสนมจากในวังก็ทยอยเดินออกมา เห็นเพียงพวกนางแสดงความเคารพต่อเจียงเฟิ่งหัวอย่างนอบน้อมก่อนคนแรก “น้อมคารวะพระชายาเหิงอ๋อง” นางผุดยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยว่า “คารวะพระสนมทุกท่าน” เดิมทีวันนี้เป็นวันที่เหล่านางสนมในวังทุกพระองค์ต้องเข้ามาถวายบังคมต่อฮองเฮาในยามเช้า มองจากอาภรณ์แพรพรรณและการแต่งกายของพวกนางก็เห็นชัดเจนแล้วว่า ในระยะนี้นางสนมพระองค์ใดได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมากที่สุด ใบหน้าของพวกนางยิ่งเปล่งปลั่งแดงเรื่อ มากถึงขั้นฉายแววภาคภูมิใจอย่างเต็มที่ หย่าเฟยเป็นผู้คว้าชัยเหนือใครอย่างไม่ต้องสงสัย และนางก็ยังคงวางมาดงามสง่าในแบบองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ดังเดิม ทรวดทรงอรชรอ้อนแอ้น ด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status