ตอนที่ยี่สิบสอง พิธีวิวาห์
อดีตผู้คุ้มกันอวยพรแล้วกระโดดหายออกไปทางหน้าต่าง
หลังจากนั้นเซียงเจินจูก็ไม่สามารถหลับตาลงได้อีก นางนอนครุ่นคิดถึงเรื่องจี้หยกและความสัมพันธ์อันวุ่นวายจนเวียนหัว
เฮ้อ!... ทำไมเรื่องมากเพียงนี้
อีกเพียงวันเดียวก็จะถึงพิธีวิวาห์ เซียงเจินจูพยายามเลิกคิดมากแล้วตั้งสติจดจ่อกับงานแต่งงาน แต่จู่ๆอาถังก็กระโดดเข้ามาอีกจนนางซึ่งยังคงนอนครุ่นคิดอยู่ตกใจ
“มีเรื่องใดอีกหรือ” หญิงสาวถามออกไปทันที
“กุ้ยเฟยตอบกลับมาแล้ว นางมั่นใจว่าคุณหนูคือบุตรสาวขององค์หญิงรอง”
“หา! จะใช่ได้อย่างไร องค์หญิงรองแต่งงานแล้วหรือ&rdquo
ตอนที่ยี่สิบสอง พิธีวิวาห์“พวกเจ้าคุยเรื่องใดกัน หัวเราะจนผู้อื่นเข้าใจว่าเปิดการแสดงแล้ว” หวางชิวเฟินซึ่งรีบปลีกตัวออกมาจากงานเลี้ยงเปิดประตูเข้ามา “เหตุใดพี่ชิวเฟินมาเร็วเช่นนี้ ข้ายังเล่าไม่จบเลย” มู่เยว่ฉีโวยวาย “เอาไว้วันอื่นค่อยเล่าต่อเถอะ เจ้าออกไปได้แล้ว” ซือถูหนุ่มรีบเอ่ยปากไล่ “ชิ ยามนี้ข้าคงไม่สำคัญแล้ว” มู่เยว่ฉีแสร้งแง่งอนแต่ก็ยอมเดินออกไปโดยดีแล้วยังหันหน้ามาล้อเลียนเซียงเจินจูอีก เซียงเจินจูรีบปิดผ้าลงแล้วเมื่อนึกขึ้นได้ “พี่เฟินคงไม่ว่าอันใดที่ข้ากินขนมรอ”
ตอนที่ยี่สิบสาม กลืนกินร่างบางสั่นกระตุก มือเท้าจิกเกร็ง ยกสะโพกลอย แอ่นอกค้าง งุนงงกับความรู้สึกแปลกใหม่ “ดีหรือไม่” เสียงถามอย่างไม่ต้องการคำตอบด้วยชายหนุ่มยังคงใช้นิ้วโป้งหนาบดคลึงเม็ดกระสันเพื่อปลุกเร้าความซาบซ่าน ก่อนจะก้มลงไปถอดกางเกงของตนเองเพื่อล้วงแท่งหรรษาออกมา เซียงเจินจูเคยเห็นความใหญ่โตมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อมาเห็นอีกครั้งก็ยังคงแตกตื่นกับความอวบแน่นจนต้องเผลอกลืนน้ำลาย หวางชิวเฟินเห็นสายตาของเจ้าสาวหมาดๆจึงก้มลงไปจุมพิตปลอบอีกคราก่อนจะอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มใช้นิ้วมือแทรกโพรงอุ่นทีละนิ้วเพื่อเปิดทาง แล้วค่อยๆแหวกร่องดอกไม้แดงเพื่อดันท่อนเอ็นแข็งเข้ามาในบุปผางามอย่างช้าๆ เพียงเริ่มแรกเซียงเจินจูก็กรีดร้องด้วยควา
ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกเขียนโดยวันว่างว่างของหญิงใหญ่แนะนำตัวละครเซียงเจินจู หลานสาวของตายายเจ้าของร้านขายชาเซียงซือไข่มุก หญิงสาวเจ้าของร้านชานมไข่มุกในอาคารสำนักงานอันหรูหราหวางชิวเฟิน ขุนนางใหญ่ตำแหน่งเจ้ากรมศึกษา(ซือถู)มู่หวังเยี่ยน เลขาและเพื่อนสนิทของหวางชิวเฟินมู่เยว่ฉี น้องสาวของมู่หวังเยี่ยนยายเหลียน ยายเฒ่าของเซียงเจินจูคิดจะยึดที่ดินร้านชาของนางหรือ ผู้ใดจะยอมกัน แต่เขาทั้งหล่อทั้งมีตำแหน่งใหญ่โต หรือนางจะยอมให้เขายึดทั้งร้านทั้งตัวนางดี ไม่ใช่สิ นางต้องสร้างร้านชาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปต่างหากสาวน้อยผู้ย้อนไปอยู่ในร่างของหลานสาวเจ้าของร้านชาชื่อดัง แต่กลับอยู่ในช่วงที่โดนข่มขู่เพื่อจะยึดที่ดินไปสร้างเป็นสำนักศึกษา หญิงสาวจึงไม่ยอมและตั้งใจจะเปิดร้านชาต่อไปโดยนำความรู้ที่มีมาพัฒนา ไม่คาดว่าจะพบกับเจ้ากรมการศึกษาผู้หล่อเหลามาดดี นางจึงเจรจาต่อรองจนได้เปิดร้านชาใหญ่โต สองหนุ่มสาวเริ่มต้นจากความไม่ลงรอย ความสัมพันธ์ค่อยคืบหน้าไปในทางที่ดี ขณะที่ร้านชาเจริญรุ่งเรือง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกตอนที่หนึ่งเซอร์ไพรส์หญิงสาวตื่
ตอนที่หนึ่ง เซอร์ไพรส์ไข่มุกจำได้ว่าตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามคุณยายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้วไข่มุกซึ่งกำลังตั้งสติจ้องมองใบหน้าซึ่งเหี่ยวย่นกว่าเมื่อคืนพร้อมเสื้อผ้าซึ่งแปลกตาพลางขมวดคิ้วทำไมคุณยายแต่งตัวคล้ายชุดโบราณ ว่าแต่ เธอนอนอยู่ที่ไหน ไม่ใช่คอนโดแล้วก็ไม่ใช่ในร้านชาด้วยแล้ว...เมื่อกี้ คุณยายเรียกเธอว่าอะไรนะหญิงสาวมีแต่คำถามเต็มหัวจนมือเหี่ยวย่นมาวางทาบบนหน้าผากแล้วลูบไล้เนื้อตัวด้วยกิริยาห่วงกังวล“อืม...ตัวไม่ร้อนแล้ว สีหน้าดีขึ้น”ไข่มุกมองตามมือที่ลูบไล้ตัวเองไปจนพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เป็นชุดโบราณคล้ายกับของคุณยายเฮ้ย!...ทำไมฉันใส่ชุดนี้ล่ะ หรือว่าเมื่อคืนเผลอทำอะไรไม่ดีจนคุณยายต้องเปลี่ยนชุดให้ “อาจู เหตุใดจึงมีสีหน้าเช่นนั้น หรือว่ายังปวดหัวอยู่ เอาเถอะ เจ้ายังไม่หายดี นอนพักอีกหน่อย ยายจะไปต้มยาแล้วนำเข้ามาให้”ไข่มุกฟังคำพูดจาแปลกๆและท่าทีห่วงใยของคุณยายด้วยความฉงนใจ จนเมื่อร่างเล็กของยายเดินลับหายไป เธอจึงล้มตัวลงนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนต่อเมื่อคืนเธอกำลังนอนเกลือกกลิ้งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบออยู่บนพื้นในร้านชานมไข่มุกที่เปิดอยู่ในอาคา
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ มุกถามว่าเมื่อไหร่” หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น“ก็ตั้งแต่หนูยังอยู่ที่ร้านนั่นแหละค่ะ” สาวน้อยบนเตียงเห็นว่าผู้ชายคนเดียวในห้องยังยืนนิ่งไม่ยอมพูดจึงตอบออกมาเสียเองแถมยังขยายความแก้โง่เพิ่มอีก“คุณไข่มุกคงไม่รู้ว่าพี่เขาเต๊าะหนูตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว วันไหนที่คุณไม่อยู่ พวกเราก็โบ๊ะบ๊ะกันในร้านทุกครั้ง” อดีตลูกจ้างของไข่มุกลอยหน้าลอยตาบอก “น้องมุก ยัยนี่ก็แค่ของกินเล่นชั่วครั้งชั่วคราว อย่าคิดมากไปเลยนะ ยังไงพี่ก็รักน้องมุกคนเดียว” แฟนหนุ่มของเธอรีบแก้ตัวหน้าด้านด้าน“จะของเล่นของชั่วคราวยังไง มุกก็ไม่สน แค่พี่กินลูกจ้างในร้านมุกก็ไม่ยอมแล้ว นี่ยังแอบกินกันในร้านของมุกอีก เห็นร้านมุกเป็นอะไร ร้านนั่งดริ๊งก์เหรอ” หญิงสาวตะโกนต่อว่าทั้งน้ำตา “พี่คงติดนิสัยกินไม่เลือก ทำไมคะ แค่มีรูให้เสียบ จะรูไหนก็เสียบได้ใช่ไหมคะ” ไข่มุกหันไปตะโกนถามแฟนหนุ่มด้วยความเจ็บใจ “พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะมุก ก็มุกไม่ยอมพี่สักที มัวแต่เล่นตัวอยู่ได้ สมัยนี้คนเป็นแฟนกันคู่ไหนจะไม่เคยมีอะไรกันบ้าง พวกเราเป็นแฟนกันมาจะครบปีอยู่แล้ว มัวแต่หอมแก้มจูบปากนิดหน่อยแค่นั้น มัน
ตอนที่สองร้านชาเซียงซือจู่ๆ ไข่มุกก็รู้สึกปวดหัวแทบระเบิด ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาราวสายน้ำเพล้ง เพล้ง เพล้งเสียงกาน้ำชาและข้าวของแตกกระจายพร้อมเสียงหวีดร้องของลูกค้าซึ่งวิ่งหนีกันอลหม่านเรียกให้เซียงเจินจูซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านหลังร้านต้องรีบวิ่งไปลอบมองดูเหตุการณ์“นายท่าน อย่าได้ทำลายร้านของข้าเลย มีเรื่องใดพูดกันดีดีเถิดขอรับ” ตาเฒ่าเซียงหม่ากำลังจับมือชายคนหนึ่งไม่ให้ขว้างกาน้ำชาลงบนพื้นพลางก้มหัวขอร้องด้วยท่าทีอ่อนน้อม“ชาของเจ้าทั้งจืดชืดแล้วยังไม่ร้อน เจ้าดูถูกว่าข้าไม่มีเงินซื้อชาดีดีหรือจึงจัดชาถูกๆมาให้เช่นนี้”เสียงโวยวายหาเรื่องดังออกมาก่อนชายคนนั้นจะส่งสัญญาณให้พรรคพวกทุบกาและถ้วยน้ำชาที่วางอยู่จนแตกละเอียด“นายท่าน พวกเราไม่เคยคิดเช่นนั้น ลูกค้าทุกคนคือผู้มีพระคุณ อย่าได้ทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ หากท่านไม่พอใจพวกเรายินดีชดใช้เงินคืนให้นะเจ้าคะ” ยายเหลียนรีบคุกเข่าโขกหัวขออภัยจนหัวบวมปูด“เชอะ ชดใช้หรือ พวกเจ้ามีกี่ชีวิตกันจึงจะชดใช้ให้ข้า” เสียงข่มขู่ดังออกมาอย่างวางอำนาจ“ทางที่ดีรีบปิดร้านแล้วย้ายกลับไปอยู่บ้านนอกของเจ้าเสีย อย่าได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก เข้าใ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ตาเซียงหม่าก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวประกอบกับความเสียใจจึงสิ้นลมไปในอ้อมกอดของเมียคู่ทุกข์คู่ยากและหลานสาวเซียงเจินจูซึ่งเดิมเป็นเด็กสาวอ่อนแอเรียบร้อยถึงกับล้มป่วยไปอีกคนด้วยความเศร้าเสียใจ และนั่นก็เป็นวันที่ไข่มุกได้เข้ามาในร่างนี้พอดีหมายความว่านายทุนใหญ่อยากได้ที่ดินตรงนี้จึงส่งนักเลงมาคุกคามสร้างเรื่องทำให้ตาของเซียงเจินจูต้องตาย กว่าไข่มุกจะบีบอัดย่อยความทรงจำเหล่านั้นจนเข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น เหงื่อก็ออกจนเปียกท่วมตัวหญิงสาวนอนนิ่งคิดอย่างกังวัลใจ เธอยังต้องตื่นไปดูแลร้านชานมไข่มุกของตนเอง แม้จะมีลูกน้องอยู่หลายคน แต่ด้วยร้านของเธอขายดีมากเพราะเธอใช้ใบชาที่ผสมผสานจากการคิดค้นอยู่หลายเดือน อีกทั้งยังมีสูตรการต้มที่ไม่เหมือนใครจึงทำให้รสชาติชาหอมอร่อย เพียงแค่กำลังต้มกลิ่นก็ลอยออกไปยั่วจมูกจนลูกค้าต้องมายืนออรอที่หน้าร้านแล้วลูกน้องที่สลับสับเปลี่ยนกันมักจะชงชาให้ลูกค้าไม่ทันโดยเฉพาะช่วงพักซึ่งจะมีคนทำงานแห่มาสั่งพร้อมๆกันทีละหลายๆแก้วจนแม้แต่เธอยังหัวหมุนหญิงสาวจึงไม่ใคร่ยอมไปไหนเพราะงกเงินไม่อยากพลาดการหารายได้ที่มีเข้ามา อีกอย่างเธอไม่เคยบอกสูตรการผสม
ตอนที่สามลุกขึ้นสู้รุ่งเช้า ไข่มุกในร่างเซียงเจินจูลุกขึ้นออกมาเดินสำรวจภายในร้านชาจนทั่ว ข้าวของซึ่งโดนทุบทำลายยังกองเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย ร้านชาเซียงซือไม่เหลือสภาพให้เปิดทำการได้ในเร็ววันนี้แน่ “อาจู ดีขึ้นแล้วหรือ เช่นนั้นวันนี้พวกเราไปส่งตาเฒ่าด้วยกันเถอะ” เสียงเศร้าพร้อมน้ำตารินหลั่งเป็นภาพที่สะเทือนใจหญิงสาว สองตายายใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาหลายสิบปี คงไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องพรากจากกันอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ แม้ยายเหลียนจะไม่อยากให้หลานสาวออกไปข้างนอกแต่ด้วยเห็นว่าเป็นการส่งตาเฒ่าครั้งสุดท้าย จึงพานางไปด้วย นั่นจึงเป็นครั้งแรกของเซียงเจินจูและไข่มุกซึ่งได้ออกมาเห็นโลกภายนอก พิธีส่งศพของตาเซียงหม่ามีคนมาร่วมงานมากมาย ด้วยตาเฒ่ามีอัธยาศัยดีและมีน้ำใจจึงเป็นที่รักของลูกค้าและผู้คนรอบข้าง หญิงสาวเดินประคองร่างอ่อนแรงของยายเหลียนไปมองผู้คนที่มาร่วมงานไปอย่างประเมินสถานการณ์ เสียงพูดคุยของคนรอบข้างดังเข้ามาเป็นระยะ “น่าเสียดายจริงๆ ตาหม่าตายไปแบบนี้ ต่อไปพวกเราจะหาชาที่ทั้งอร่อยทั้งหอมหวานเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก”
ตอนที่ยี่สิบสาม กลืนกินร่างบางสั่นกระตุก มือเท้าจิกเกร็ง ยกสะโพกลอย แอ่นอกค้าง งุนงงกับความรู้สึกแปลกใหม่ “ดีหรือไม่” เสียงถามอย่างไม่ต้องการคำตอบด้วยชายหนุ่มยังคงใช้นิ้วโป้งหนาบดคลึงเม็ดกระสันเพื่อปลุกเร้าความซาบซ่าน ก่อนจะก้มลงไปถอดกางเกงของตนเองเพื่อล้วงแท่งหรรษาออกมา เซียงเจินจูเคยเห็นความใหญ่โตมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อมาเห็นอีกครั้งก็ยังคงแตกตื่นกับความอวบแน่นจนต้องเผลอกลืนน้ำลาย หวางชิวเฟินเห็นสายตาของเจ้าสาวหมาดๆจึงก้มลงไปจุมพิตปลอบอีกคราก่อนจะอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มใช้นิ้วมือแทรกโพรงอุ่นทีละนิ้วเพื่อเปิดทาง แล้วค่อยๆแหวกร่องดอกไม้แดงเพื่อดันท่อนเอ็นแข็งเข้ามาในบุปผางามอย่างช้าๆ เพียงเริ่มแรกเซียงเจินจูก็กรีดร้องด้วยควา
ตอนที่ยี่สิบสอง พิธีวิวาห์“พวกเจ้าคุยเรื่องใดกัน หัวเราะจนผู้อื่นเข้าใจว่าเปิดการแสดงแล้ว” หวางชิวเฟินซึ่งรีบปลีกตัวออกมาจากงานเลี้ยงเปิดประตูเข้ามา “เหตุใดพี่ชิวเฟินมาเร็วเช่นนี้ ข้ายังเล่าไม่จบเลย” มู่เยว่ฉีโวยวาย “เอาไว้วันอื่นค่อยเล่าต่อเถอะ เจ้าออกไปได้แล้ว” ซือถูหนุ่มรีบเอ่ยปากไล่ “ชิ ยามนี้ข้าคงไม่สำคัญแล้ว” มู่เยว่ฉีแสร้งแง่งอนแต่ก็ยอมเดินออกไปโดยดีแล้วยังหันหน้ามาล้อเลียนเซียงเจินจูอีก เซียงเจินจูรีบปิดผ้าลงแล้วเมื่อนึกขึ้นได้ “พี่เฟินคงไม่ว่าอันใดที่ข้ากินขนมรอ”
ตอนที่ยี่สิบสอง พิธีวิวาห์อดีตผู้คุ้มกันอวยพรแล้วกระโดดหายออกไปทางหน้าต่างหลังจากนั้นเซียงเจินจูก็ไม่สามารถหลับตาลงได้อีก นางนอนครุ่นคิดถึงเรื่องจี้หยกและความสัมพันธ์อันวุ่นวายจนเวียนหัวเฮ้อ!... ทำไมเรื่องมากเพียงนี้ อีกเพียงวันเดียวก็จะถึงพิธีวิวาห์ เซียงเจินจูพยายามเลิกคิดมากแล้วตั้งสติจดจ่อกับงานแต่งงาน แต่จู่ๆอาถังก็กระโดดเข้ามาอีกจนนางซึ่งยังคงนอนครุ่นคิดอยู่ตกใจ “มีเรื่องใดอีกหรือ” หญิงสาวถามออกไปทันที “กุ้ยเฟยตอบกลับมาแล้ว นางมั่นใจว่าคุณหนูคือบุตรสาวขององค์หญิงรอง” “หา! จะใช่ได้อย่างไร องค์หญิงรองแต่งงานแล้วหรือ&rdquo
ตอนที่ยี่สิบเอ็ด เบาะแส“คุณหนูไม่ต้องตกใจ ข้าไม่ได้มาร้าย เพียงอยากพูดคุยสักครู่เท่านั้น” ร่างนั้นถอยออกไปเพื่อเว้นระยะห่างไม่ให้หญิงสาวตื่นกลัว “แล้วเหตุใดไม่มาตอนกลางวัน” “ข้าเกรงมีคนพบเห็นแล้วคุณหนูจะมีภัย” “เจ้าเป็นคนของแคว้นอื่นหรือ” สาวน้อยรีบถามออกมา “ใช่ขอรับ ข้าขอโทษที่ทำให้คุณหนูเดือดร้อน พวกเราเพียงอยากหาคนๆหนึ่ง ยามที่ท่านอยากได้ผู้คุ้มกันจึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะซึ่งจะมีที่หลบซ่อนตัวและได้เงินไปด้วยพร้อมกัน” “เหตุใดคนกลุ่มนั้นที่ฉุดกระชากข้าจึงทำร้ายพวกเจ้า”&
“ไม่ทราบว่าคุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งอีกหรือไม่เจ้าคะ”“ข้าเพียงอยากมาเห็นหน้าเจ้าแล้วทำความรู้จักกันไว้ ถึงอย่างไรอีกไม่นานพวกเราก็ต้องอยู่ในจวนเดียวกัน”“จวนเดียวกัน คุณหนูหมายความว่าอย่างไร”“อ้าว...พี่ชิวเฟินไม่ได้บอกเจ้าไว้แล้วหรือ ว่าข้าจะแต่งเข้าไปเป็นภรรยาเอกหลังจากนี้อีกสองเดือน อ้อ...ลืมไป ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเอง ข้าชื่อต้วนโหลวชิง เป็นบุตรสาวของเสนาบดีโยธา เดิมทีท่านพ่อของพี่ชิวเฟินได้ตกลงกับท่านพ่อของข้าเอาไว้หลายเดือนแล้ว แต่ติดขัดที่ข้าต้องคอยดูแลท่านยายอยู่ที่ต่างเมือง เพิ่งได้กลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน”หญิงสาวตรงหน้าแนะนำตัวอย่างยิ้มแย้ม“ความจริงตามธรรมเนียมภรรยาเอกควรได้แต่งเข้าไปก่อน แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าใจกว้างไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย อีกหน่อยพวกเราก็ช่วยกันดูแลพี่ชิวเฟิน ดูแลจวนก็เพียงพอแล้ว”เซียงเจินจูได้ฟังถึงกับปวดหัวด้วยความไม่เข้าใจอีกคนแล้ว หวางชิวเฟิน ท่านจะมีหญิงสาวมาบอกว่าเป็นคู่หมาย เป็นคนรัก แล้วยังจะแต่งเป็นภรรยาเอกอีกกี่คน ชัก
ตอนที่ยี่สิบ อีกแล้ว“ข้าไม่ชอบคบหากับสตรีเรื่องมาก”“ข้าไม่ใช่คนเรื่องมาก เหตุใดแม่นางมู่ไม่คิดจะมีคนเอาไว้ให้หวงแหนเพิ่มอีกสักคน พวกเราต่างเป็นหญิงย่อมมีเรื่องให้พูดคุยและเข้าใจกันได้มากกว่าเหล่าบุรษหยาบกร้านพวกนี้”“อ้าว...” มู่หวังเยี่ยนอ้าปากจะเถียงแต่โดนหวางชิวเฟินเตะขาเป็นสัญญาณให้เงียบก่อนจึงจำต้องหุบปาก“หากมีเวลาพวกเราก็นั่งลงดื่มชากินขนมอร่อย จากนั้นเจ้าก็เล่าเรื่องผจญภัยสนุกสนานที่ชายแดนให้ข้าฟัง ส่วนข้าก็เล่าเรื่องลูกค้าที่วุ่นวายในแต่ละวันให้เจ้าฟัง พวกเรายังสามารถแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องต่างๆได้อีก เช่นนี้ไม่ดีหรือ”มู่เยว่ฉีโดนเกลี้ยกล่อมจนเริ่มคล้อยตาม นางมีเพียงพี่ชายบวกกับที่ผ่านมาใกล้ชิดแต่บุรุษเพศ จึงไม่เคยมีช่วงเวลาอย่างที่เซียงเจินจูเอ่ยบอก เมื่อคิดดีดีหากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงดีไม่น้อยจึงพยักหน้ายอมรับ“เซียงเจินจู เจ้าเป็นสตรีที่ไม่เหมือนหญิงอื่น มีความฉลาดและช่างเจรจา เอาเถอะ ข้าจะยอมรับเจ้าให้แต่งงานกับพี่ชิวเฟินก็ได้ แต่ถึงอย่างไร
ตอนที่สิบเก้าเกลี้ยกล่อม“บ้านหลังนี้อยู่ริมลำธารใส บรรยากาศดีและเหมาะแก่การเที่ยวเล่น ยามเด็กน้อย พวกเราสามคนมักขี่ม้ามาเล่นด้วยกันที่นี่”“อ้อ...มิน่า พี่เฟินจึงติดตามมาได้เร็วนัก”“เจ้าหายตกใจแล้ว พวกเราออกไปเดินเล่นกันดีหรือไม่”“ได้ พักบ้างก็ดีเหมือนกัน”กลายเป็นว่าสองหนุ่มสาวได้โอกาสเดินเล่นพักผ่อนอย่างที่หลายวันผ่านมาแทบไม่เคยได้พัก หวางชิวเฟินจับจูงมือน้อยเดินไปพร้อมกันอย่างเช่นคู่รัก“เจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือไม่”“น่าจะใกล้แล้ว พี่เฟินเล่า”“พี่ไม่ต้องเตรียมสิ่งใด จึงพร้อมอยู่นานแล้ว”“เชอะ...กลับไปจัดการเรื่องยุ่งยากให้เรียบร้อยเถอะ” สาวน้อยย้อนอย่างหมั่นไส้เซียงเจินจูมองธรรมชาติรอบข้างอย่างผ่อนคลายก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าป่านนี้ยายเหลียนคงกังวลใจแทบตายแล้วจึงรีบชวนชายหนุ่มกลับไปยังร้านชาวันถัดจากนั้น หวางชิวเฟินได้ส่งผู้คุ้มกันมีฝีมือมาเพิ่มให้อีก2คน ด้วยบัดนี้เ
ตอนที่สิบแปด คนรักหรือเมื่อได้ยินคำพูดจากหญิงแปลกหน้า เซียงเจินจูจึงเงยหน้าขึ้นมองสำรวจอย่างตั้งใจหญิงสาวผู้นี้แต่งกายคล้ายชายหนุ่ม พกกระบี่เล่มหนึ่งที่เอว เครื่องหน้าจัดว่างดงามรูปร่างสมส่วน ยามพูดจาฉะฉานชัดเจน“เจ้าเป็นอันใดกับพี่เฟินหรือ”“ข้าเป็นคนรักของเขา”“คนรัก?”อีกคนแล้วหรือ เหตุใดมีแต่หญิงสาวมาบอกว่าเป็นคู่หมายบ้าง เป็นคนรักบ้าง หวางชิวเฟินผู้นี้เนื้อหอมไม่เบาเสียงม้าควบขี่เข้ามาราวพายุ จากนั้นร่างของหวางชิวเฟินก็ปลิวลงมาโอบประคองเซียงเจินจูไว้ในอ้อมกอดก่อนจะหันไปตวาดหญิงสาวแปลกหน้า“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ เหตุใดฉุดคร่าผู้คนตามอำเภอใจเช่นนี้ ข้าจะให้ท่านแม่ทัพลงโทษเจ้า”“พี่ชิวเฟิน ท่านเห็นนางดีกว่าข้าหรือ ข้าไม่ยอม” หญิงแปลกหน้าไม่แก้ตัวแต่กลับโวยวายกระเง้ากระงอดเข้ามาคว้าแขนของหวางชิวเฟินฉุดดึงให้ออกห่างจากเจ้าของร้านชาสาว“เยว่ฉี เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อใด” มู่หวังเยี่ยนซึ่งขี่ม้าตามมากระโดดลงมาทักทายหญิ
ตอนที่สิบแปด คนรักหรือหวางชิวเฟินหัวเราะขำจนหลงลืมเรื่องที่อยากจะทำไปจนได้ เขาประคองร่างบางให้ลุกยืนก่อนจะพาไปหาของกินต่อแล้วรีบพากลับไปส่งก่อนที่จะเกิดอารมณ์จับนางกินจนไม่เหลือกระทั่งกระดูกเซียงเจินจูกลับมานอนเกลือกกลิ้งคิดไปคิดมา แม้จะแน่ใจ9ใน10ส่วนว่าสองพ่อลูกสกุลหวางน่าจะไม่ผิดคำพูดและมาสู่ขอนางแน่ แต่ตราบใดที่ขบวนขันหมากยังไม่ผ่านประตูมา ทุกเรื่องย่อมเปลี่ยนแปลงได้ดังนั้นนางจะยอมให้เขาจับกินก็ต่อเมื่อได้รับของหมั้นและกำหนดวันแต่งงานแล้ว แม้จะอยากลองของเพียงใดแต่ความกริ่งเกรงยังมีมากกว่าจนต้องเลิกคิดแล้วหันมาใส่ใจเรื่องร้านชาของตนเองต่อไม่กี่วันต่อมาหวางชิวเฟินก็มานัดแนะวันเวลากับยายเหลียนให้เตรียมตัว จากนั้นจึงส่งเทียบมาอย่างเป็นทางการ จนเช้าวันที่เจ็ดขบวนขันหมากอย่างเต็มพิธีจึงถูกยกเข้ามายังห้องโถงของร้านชาเซียงซือยายเหลียนยืนรอรับขบวนอย่างตื่นเต้นสองหน่วยตาเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปิติยินดีตาเฒ่าหม่าเอ๊ย เจ้าเห็นหรือไม่ หลานสาวของเราจะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับชายหนุ่มที่ดีแล้ว