Share

ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี
ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี
Author: ฤดูหนาวที่เงียบเหงา

ตอนที่ 1 ชายในฝัน

last update Huling Na-update: 2025-11-05 14:32:20

ในยามค่ำคืนอันเงียบสงัด สวี่ซินหลับใหลเหมือนเช่นทุกคืน และทุกครั้งที่ดวงตาปิดลง นางมักฝันเห็นใบหน้าของชายคนหนึ่งเสมอ ชายหน้านิ่งผู้นั้นมีดวงตาคมดุจนน่าหวาดหวั่น แม้รูปลักษณ์จะหล่อเหลาน่าเอ็นดู หากแต่ในความฝันกลับมีเพียงความโกรธแค้นฉายชัดในแววตา ไม่รู้เลยว่านางเคยล่วงเกินสิ่งใดให้เขาโกรธเกลียดได้ถึงเพียงนั้น

สวี่ซินสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก ร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าร้อนผ่าว นางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

‘ฝันเรื่องนั้นอีกแล้วหรือ? ชายในฝันผู้นั้นเป็นใครกันแน่…’

นางพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบห้า ปีหลังมานี้นางฝันเช่นนี้ติดต่อกันมาห้าปีเต็ม

เมื่อแรกเริ่ม นางมองเห็นเพียงเงาร่างลางเลือนของชายผู้นั้น แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ภาพนั้นยิ่งคมชัดขึ้นทุกที ทั้งแววตา ท่าทาง และบรรยากาศรอบตัวก็สมจริงจนน่าหวาดหวั่น ราวกับนางเคยมีชีวิตอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ และในความฝันนั้น ชายผู้นั้นหาได้มองนางด้วยความรัก หากกลับแฝงไว้ด้วยแรงโกรธแค้นลึกล้ำ

ยิ่งฝันครั้งนี้ยิ่งชัดเจน… ยิ่งน่ากลัว

ชายผู้นั้นพยายามจะทำบางสิ่งกับนางอยู่เสมอ ขณะที่นางก็หนีอย่างอ่อนแรงและหวาดหวั่น ไม่เคยรอดพ้นไปได้เลย

ในฝัน นางพายเรือลอยเคว้งกลางทะเลกว้าง ไม่เห็นแม้แต่ฝั่งไกลตา ทว่ามีชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกำลังว่ายน้ำตามมาอย่างไม่ลดละ ความรู้สึกกลัวแล่นเข้าจับใจ

แม้จะบอกตัวเองว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน ไม่มีทางเป็นจริงได้ แต่นางก็อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้

สวี่ซินลุกขึ้นอาบน้ำ เตรียมตัวออกไปทำงานเช่นทุกวัน แม้ใจยังอึดอัดและไม่รู้ว่ากังวลเรื่องใดกันแน่…

หลังเลิกงาน นางแวะกินข้าวข้างทางพร้อมจิบเหล้าย้อมใจเพียงเล็กน้อย หวังเพียงค่ำคืนนี้จะไม่ต้องฝันเห็นชายผู้นั้นอีก เมื่อนางกลับถึงห้อง ก็ล้มตัวลงนอนทันที ความเหนื่อยล้าจากการงานและการอดนอนสะสมทำให้นางเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว

คืนนั้นนางหลับสนิทกว่าทุกคืน… แต่ในความฝัน ก็ยังเป็นชายคนเดิม คนที่ไล่ล่านางมาตลอดห้าปี

หากแต่ฝันในคราวนี้แตกต่างออกไป…

คราวนี้นางไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หากกลับกลายเป็นผู้เฝ้ามองจากที่ไกล

นางมองเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กับหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังนั่งเรือไปด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศสงบงดงาม ทว่าเมื่อเรือแล่นไปถึงจุดซึ่งสายน้ำเชี่ยวกรากวนเวียนเป็นวงกลมน่าหวาดกลัว จู่ ๆ หญิงสาวกลับผลักชายหนุ่มตกลงไปในกระแสน้ำนั้น

สวี่ซินอุทานด้วยความตกใจ นางเห็นชัดเจน…รอยยิ้มสมใจของหญิงสาวผู้นั้น

เมื่อนางพยายามโน้มตัวลงไปดูชายแปลกหน้าและเอื้อมมือหวังจะดึงเขาขึ้นมา กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ชายผู้นั้นโผล่ขึ้นจากสายน้ำ…จ้องนางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะคว้ามือของนางฉุดลงไปพร้อมกัน

สวี่ซินดิ้นรนพยายามจะว่ายขึ้นมาจากน้ำ แต่ทุกครั้งที่นางจะโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ ชายผู้นั้นกลับกดร่างนางจมลงไปอีก ราวกับไม่ยอมให้นางหลุดพ้นจากความผิดที่ไม่รู้ว่าเคยก่อไว้เมื่อใด

ในวินาทีสุดท้ายที่กำลังสิ้นใจ มีมือหนึ่งยื่นเข้ามาฉุดร่างนางขึ้นจากผืนน้ำ

สวี่ซินหอบหายใจเฮือกใหญ่ สูดอากาศเข้าเต็มปอด ดวงตาพยายามลืมขึ้นท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาที่ใบหน้า และภายใต้แสงนั้นเอง นางเห็นเงาชายที่ฝังแน่นอยู่ในฝันตลอดห้าปี

ความกลัวแล่นปราดกลับมาทันทีที่ภาพนั้นปรากฏ นางรีบผลักชายผู้นั้นออกห่างโดยสัญชาตญาณ

“นี่ท่านจะทำอันใดกันแน่!” นางร้องถาม สายตากวาดไปรอบตัว พบเห็นชาวบ้านแต่งกายมอซอ และที่น่าตกใจกว่านั้น… นางนอนอยู่บนชายฝั่งทะเลแห่งหนึ่ง!

“หลิวซิน เจ้ายังมีสติหรือไม่?”

เสียงหญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยถามพลางก้าวเข้ามาใกล้ สีหน้าฉายชัดถึงความเป็นห่วง

“ข้า…หรือ?” นางชี้มือตัวเองอย่างสับสน

“ตกน้ำจนปัญญาอ่อนไปแล้วหรือไร ถึงจำชื่อตนเองมิได้?” หูหลันถามพลางขมวดคิ้ว

หลิวซินมองหญิงผู้นั้นนิ่งไปชั่วครู่ พยายามรื้อฟื้นความทรงจำเท่าไรก็นึกไม่ออก หรือว่านางจะเสียสติไปจริง ๆ?

“ข้าไม่เป็นไร…” สวี่ซินตอบเสียงเบา พลางกวาดตามองชาวบ้านที่เริ่มทยอยเดินเข้ามามุงดูด้วยความอยากรู้

“เจ้ายังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกหรือ? เจ้าเป็นหญิงยังมิได้ออกเรือน แต่กลับถูกเนื้อต้องตัวกับบุรุษเช่นนี้ จะให้พวกเราทำเป็นไม่เห็นได้อย่างไรกัน เจ้าเองก็ต้องแต่งงานกับเขาเสีย!”

“ใช่ ๆ เจ้าต้องแต่งกับตงจวินแล้วล่ะ พวกเราก็เห็นกันเต็มตา ช่างน่าอับอายจริง ๆ”

เสียงชาวบ้านเริ่มดังเซ็งแซ่จนสวี่ซินรู้สึกอึดอัด นางยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมด้วยความสับสน ในยามนี้มิได้สนใจเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ ขอเพียงมีเวลาสักครู่ให้นางได้ตั้งสติและคิดทบทวน

“เหตุใดข้าจึงต้องแต่งงานด้วยเล่า? ข้าเพียงตกน้ำ แล้วก็มีผู้ช่วยชีวิตขึ้นมาเท่านั้นเอง!” เสียงของนางสั่นเล็กน้อย แต่ยังพยายามรักษาความมั่นคงเอาไว้

“หรือเจ้ารังเกียจตงจวินเพราะเขายากจน เจ้าถึงไม่ยินดีจะแต่งกับเขาใช่หรือไม่?”

เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาจากเบื้องหลัง สวี่ซินหันกลับไปมอง เห็นหญิงหน้าตาหยาบกร้านผู้หนึ่ง สีหน้ามิได้แสดงความเป็นมิตรแม้แต่น้อย

สายตานางเลื่อนไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ห่าง เขาเงียบขรึม แววตาเรียบนิ่งราวกับมิได้สนใจสิ่งใด ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับตนโดยตรง

“เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร! เรื่องฐานะก็ส่วนหนึ่ง แต่หากมิได้มีใจให้กัน จะให้แต่งงานกันได้เยี่ยงไร? การแต่งงานควรเกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย!”

สวี่ซินเอ่ยเสียงหนักแน่น นี่เป็นเรื่องที่นางไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องเผชิญมาก่อน

“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ต้องไปแจ้งเรื่องนี้ให้มารดาของเจ้าทราบ นางคงจะดีใจนักที่ลูกสาวขายออกเสียที”

เหอซานกล่าวพลางหัวเราะเสียงดังด้วยความสะใจ นางรู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นหลิวซินตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ใบหน้างดงามของอีกฝ่ายยิ่งทำให้นางรู้สึกริษยาไม่เลือนหาย

“จริงดังที่เหอซานว่า เรื่องนี้ต้องให้มารดาของนางเป็นผู้ตัดสิน จะเลือกขายหน้า หรือจะขายลูกสาวออกไปก็ว่ากันไป!”

เสียงเห็นด้วยดังขึ้นเป็นทอด ๆ

ขณะที่เสียงชาวบ้านยังถาโถมกดดันให้แต่งงาน จู่ ๆ ก็มีหญิงผู้หนึ่งวิ่งมาด้วยท่าทางร้อนรน

“หลิวซิน! ลูกแม่ เป็นอย่างไรบ้าง?”

หญิงผู้นั้นรีบทรุดตัวลงข้างกาย เอื้อมมือแตะหน้าผาก ลูบศีรษะ พลิกตัวลูกสาวซ้ายขวาเพื่อตรวจดูว่ามีบาดแผลใดหรือไม่

เห็นท่าทางเป็นห่วงของหญิงผู้นั้น สวี่ซินรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หญิงคนนี้ต้องเป็นมารดาของนางแน่

“ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ…” นางตอบเสียงแผ่ว พยายามฝืนยิ้มเพื่อให้มารดาเบาใจ

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้าเช่นนั้น…กลับบ้านกันเถิด”

กัวหยุนค่อย ๆ ประคองลูกสาวให้ลุกขึ้นอย่างทะนุถนอม

แต่ก่อนจะเดินจากมา เสียงของชาวบ้านก็ยังไม่ยอมจางหาย

“กัวหยุน! เจ้าจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือ หากมีผู้ใดล่วงรู้เข้า ลูกสาวเจ้าคงไม่มีใครกล้าสู่ขออีกแล้ว!”

“ใช่แล้ว เจ้าควรคิดให้รอบคอบ เรื่องเช่นนี้มิอาจมองข้ามได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น กัวหยุนเริ่มลังเล แม้จะสงสารบุตรสาวเพียงใด แต่ธรรมเนียมปฏิบัติในหมู่บ้านนี้ก็ไม่อาจละเลยได้ หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน หากถูกเนื้อต้องตัวกับบุรุษ ย่อมถือเป็นเรื่องเสื่อมเสีย แม้จะงดงามเพียงใด ก็อาจไม่มีใครกล้ามาขอแต่ง

นางหันไปมองหลิวซินด้วยสายตาเวทนา ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาด้วยความรักและหวงแหน วันนี้กลับต้องมาเผชิญเรื่องอัปยศเช่นนี้

แต่เมื่อสายตาหญิงชราเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผู้ช่วยลูกสาวเอาไว้ ใจของนางก็คล้ายเบาลง

แม้ตงจวินจะไร้พ่อแม่ ไม่มีผู้ใดค้ำจุน แต่เขาเป็นชายหนุ่มขยันขันแข็ง และเป็นที่หมายปองของหญิงสาวในหมู่บ้านมากมาย รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม แม้ดวงตาจะดูดุอยู่บ้าง แต่ก็ดูน่าเชื่อถือกว่าบัณฑิตบางคนที่ลูกสาวเคยหมายตาเสียอีก…

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 11 ได้วันแต่งงาน

    หลิวซินรีบออกมาจากมิติ เมื่อถึงยามเที่ยงก็เห็นมารดาเดินหอบตะกร้ากลับมา นางรีบวิ่งออกไปช่วยถือของเข้าบ้านด้วยท่าทางคล่องแคล่ว“เจ้าไม่ต้องช่วยแม่หรอก มือของเจ้ายังเจ็บอยู่มิใช่หรือ” กัวหยุนเหลือบตามองแผลของลูกสาวด้วยความห่วงใย“ตอนนี้มือของข้าดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่เพิ่งกลับมา เหนื่อยทั้งเช้า ควรกินข้าวเสียก่อน” หลิวซินเอ่ยพลางมองมารดาด้วยแววตาเวทนา ตั้งแต่บิดาสิ้นชีวิต มารดาก็เป็นผู้แบกรับทุกสิ่ง เลี้ยงดูนางเพียงลำพัง“ท่านแม่เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ” เสียงของนางอ่อนโยน แฝงความสงสารอย่างจริงใจกัวหยุนชะงักไป ดวงตาคู่สวยแดงก่ำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่เลี้ยงลูกสาวมาก็ไม่เคยได้ยินถ้อยคำห่วงใยเช่นนี้ “แม่ไม่เหนื่อยหรอก ยังมีแรงเลี้ยงหลานเจ้าได้อีกหลายคน” นางยิ้มบาง ๆ ทั้งยังแอบฝันเงียบ ๆ ว่าอยากอยู่ดูหลานน้อยในอนาคตหลิวซินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใจเจือด้วยความอบอุ่น ชาติที่แล้วมารดามีอายุไม่ยืน ครั้งนี้ข้าจะทำให้ทุกความปรารถนาของท่านเป็นจริงให้ได้… เมื่อแต่งงานแล้ว จะรับท่านแม่ไปอยู่ด้วย แต่เรื่องนี้นางยังมิได้เอ่ยออกไป“วันนี้ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนี้ หรือว่าตอนตกน้ำศีรษะกระแทกจนเปลี่ยนไป” มารด

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 10 แสดงละครให้ใครดูกัน

    “ท่านมาหาข้าที่นี่ คงไม่ใช่เพียงเรื่องเล็กน้อยใช่หรือไม่?” นางหรี่ตาคมมองชายตรงหน้าอย่างคาดคั้นเจียงหมินหัวเราะเบา ๆ พลางทำท่าทางใสซื่อเช่นที่นางเคยชอบ “พี่ไม่ได้ตั้งใจมารบกวนหรอก เรื่องที่จะพูด อาจทำให้น้องลำบากใจอยู่บ้าง” เขาอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยออกมาในที่สุด“อีกเจ็ดวันพี่ต้องเดินทางไปสอบที่เมืองตงชาง จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แต่เงินที่พี่มีไม่เพียงพอ” เขาเหลือบมองนางด้วยแววตาน่าสงสาร “น้องพอจะช่วยพี่ได้หรือไม่”หลิวซินไม่แปลกใจ นางคิดไว้แล้วว่าเขาจะต้องมาขอเรื่องนี้ หากเป็นเมื่อก่อน นางคงควักเงินที่มี หรือแม้กระทั่งแอบขโมยจากมารดามอบให้เขาจนหมด แต่ตอนนี้…อย่าหวังเลยว่าจะได้แม้แต่อีแปะเดียวจากนางนางแสร้งไอเบา ๆ “ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยสบาย ท่านก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าตกน้ำจนป่วย และวันนี้ยังล้มจนมือบาดเจ็บอีก จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาตัวอยู่มาก ข้ากำลังตั้งใจจะไปหาท่านพอดี อยากจะขอยืมเงินจากท่านสักเล็กน้อย พอเป็นค่ารักษายา” นางหยุดพูดพลางไอออกมาอีกครั้ง“ท่านพอจะมีให้ข้าบ้างหรือไม่ เงินที่ข้ามี หมดไปกับค่ารักษาข้าหมดแล้ว ไหน ๆ อีกไม่นานเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วไ

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 9 คำหวานของคนเลว

    หลิวซินมองการกระทำของเขาอย่างตั้งใจ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้เพ่งพินิจชัด ๆ จึงเห็นว่าเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใด ถึงจะไม่เรียบร้อยงดงามแบบบัณฑิตในเมืองใหญ่ แต่ร่างสูงใหญ่สง่างาม ใบหน้าคมแฝงความอ่อนหวานอย่างลงตัว ริมฝีปากได้รูปรับกับสันจมูกโด่งผึ่งผาย… นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นหน้าของตงจวินอย่างจริงจัง ‘สามีเช่นนี้ เหตุใดชาติก่อนข้าถึงตามืดบอด มองไม่เห็นคุณงามความดีของเขากันเล่า’ในขณะที่นางกำลังยิ้มบางมองเขาอยู่นั้น พอดีกับที่ตงจวินเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาสบเข้ากับรอยยิ้มหวานแฝงความลึกซึ้งทันทีหลิวซินสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบยิ้ม มือที่ถูกเขาจับอยู่ค่อย ๆ ดึงกลับ “ข้าขอบคุณท่านมาก” นางเอ่ยเสียงเบา แม้เขาจะทำแผลให้นาง แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเท่าใดนัก“เจ้าแน่ใจหรือไม่ ว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนผลักเจ้า” เขาถามด้วยความเป็นห่วงทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์ย้อนเข้ามา แม้นางหันหลังอยู่ แต่ยังพอมองเห็นร่างหนึ่งรีบก้าวออกจากโขดหินอย่างลนลาน และนางจำแผ่นหลังนั้นได้ชัดเจน เหอซาน หญิงสาวที่แอบรักตงจวินข้างเดียว นางเลือกที่จะไม่บอกเรื่องนี้ออกไป หากอีกฝ่ายหมายเอาชีวิตตน เช่นนั้นนางก็จะตอบแทนก

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 8 หน้ามืดตาบอด

    หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย หลิวซินก็แบกตะกร้าเดินตามมารดาออกมาหาของขายริมทะเล ช่วงนี้นางยังไม่คิดหาหนทางสร้างรายได้ด้วยตนเองนัก จึงตั้งใจลองติดตามมารดามาดูเผื่อจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆทว่าเมื่อมาถึงกลับเห็นว่ามีผู้คนจับจองพื้นที่กันอยู่ก่อนแล้ว ชาวบ้านมากมายต่างกระจายกันหาของขาย ไม่ใช่ว่านางมาช้า เพียงแต่คนอื่นมาก่อน จึงทำให้หลิวซินกับมารดากลายเป็นจุดสนใจในสายตาผู้คนทันทีสายตาของเหอซานสะดุดเข้ากับหลิวซินตั้งแต่นางก้าวเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ยิ่งเห็นใบหน้างดงามของอีกฝ่าย ความขุ่นมัวในใจยิ่งก่อตัวแรงขึ้น หลังได้ยินคำยืนยันจากชายหนุ่มที่ตนหมายปอง ความริษยาที่มีอยู่แต่เดิมก็ยิ่งทวีขึ้น จากเดิมที่อิจฉาเพียงเพราะความงาม กลับกลายเป็นทั้งอิจฉาและเกลียดชังจนอยากให้หลิวซินเลือนหายไปจากโลกนี้เสียจริงหลิวซินยิ้มทักทายชาวบ้านรอบข้าง ทว่าความรู้สึกเหมือนถูกสายตาใครบางคนจ้องมอง ทำให้นางเผลอเหลียวตาม และดวงตาก็สบเข้ากับเหอซานพอดี แววตาของหญิงสาวผู้นั้นเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร หลิวซินหวนคิดถึงชาติก่อน เหอซานก็มีบทบาทอยู่ในชีวิตนางเช่นกัน เพียงแต่ไม่เคยแสดงท่าทีเกลียดชังโจ่งแจ้งเช่นตอนนี้ ทว่าเรื่องน

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 7 ไม่ใช่ใข่มุกธรรมดา

    กัวหยุนเห็นว่าลูกสาวไม่อยากอยู่ตรงนั้นนาน นางจึงไม่รั้งรีบพาเดินตรงไปยังร้านผ้าตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อไปถึงก็เลือกผ้าสีแดงสดผืนใหญ่ขึ้นมา สีสันนั้นช่างขับผิวของบุตรสาวให้งามยิ่งนัก นางไม่ลังเลที่จะควักเงินเก็บจ่ายทันทีหลิวซินมองมารดาที่กำลังยิ้มชื่นชมผ้าสีแดง รู้สึกอบอุ่นใจ แต่ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “ท่านแม่… ผ้าผืนนี้ช่างใหญ่ยิ่งนัก ท่านซื้อเกินไปหรือไม่” เพราะด้วยขนาดนี้ นอกจากจะทำชุด ยังพอเย็บผ้าห่มหรือผ้าม่านได้อีกหลายผืนเลยทีเดียวกัวหยุนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบผืนผ้าในมือ “ไม่ใหญ่ไปหรอก แม่จะตัดชุดให้เจ้า ทำผ้าห่ม หมอน และยังทำผ้าม่านสีเดียวกันอีกด้วย ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่จะแต่งงานทั้งที ย่อมต้องจัดให้สมเกียรติ อย่าให้ผู้ใดมาดูถูกได้”น้ำเสียงอบอุ่นแฝงความหวังลึก ๆ ว่าอีกไม่นานบ้านหลังนี้คงจะไม่เงียบเหงา หากมีเสียงหัวเราะและเสียงก้าวเดินเล็ก ๆ ของหลาน ๆเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น ใบหน้าของหลิวซินก็แดงซ่าน ความหมายที่มารดาสื่อออกมา นางเข้าใจดีจนอยากแทรกแผ่นดินหนีกัวหยุนเห็นท่าทีเขินอายของลูกสาวก็พลอยยิ้มเอ็นดู หลังจากเลือกผ้าที่ต้องการเสร็จ ทั้งสองก็แวะไปยังร้านขายหมูต่อหลิวซินกวาดตามอง เห

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 6 ความเขินอายของสองคน

    “ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะถูกตัวเจ้า” ตงจวินเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” หลิวซินตอบพลางก้มหน้า เสียงแผ่วเกือบขาดหาย ถึงแม้ครั้งหนึ่งนางจะเคยแต่งงานกับเขามาแล้ว แต่ความใกล้ชิดเช่นนี้ก็ยังทำให้นางไม่เคยชินทั้งสองจึงแยกย้ายไปนั่งประจำที่ของตน ตงจวินบังคับเกวียนวัวให้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลกัวหยุนที่มองเหตุการณ์อยู่ตลอด อดยิ้มกรุ้มกริ่มไม่ได้ นางหันไปมองลูกสาวด้วยแววตาล้อเลียน“ท่านแม่…ยิ้มอันใดกันหรือเจ้าคะ” หลิวซินเงยหน้าถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นรอยยิ้มของมารดา“ก็ยิ้มไปตามเรื่อง เมื่อเห็นสิ่งที่ข้าพอใจก็ยิ้มเท่านั้นเอง” กัวหยุนตอบพร้อมแกล้งหยอกเล็กน้อย“ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว” หลิวซินทำเสียงงอน ก่อนหันสายตาออกไปมองสองข้างทางแทน“เอาเถอะ อย่างไรเจ้าสองคนก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว สนิทกันไวเสียหน่อยจะเป็นไรไป” มารดากล่าวพลางหัวเราะเบา ๆ ราวกับเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเอ็นดูหลิวซินได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับมามองค้อนทันที ถึงมารดาจะไม่ถือ แต่นางถือ เรื่องแบบนี้น่าอายจนใจเต้นแรงแทบระเบิดตงจวินรับฟังเงียบ ๆ มิได้กล่าวแทรก แต่แววตากลับสะท้อนความอบอุ่นอย่างที่เจ้าตัวเองยังไม่รู้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status