Home / รักโบราณ / ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว / นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวัง 2

Share

นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวัง 2

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-07-17 07:30:44

เมื่อถึงตำหนักปีกซ้ายที่เป็นที่พำนักของท่านชายน้อยหย่งเยี่ย หานฉงหรงจึงได้ขอให้ขันทีน้อยสั่งไปยังห้องเครื่องให้ต้มน้ำขิงพุทราแดงเอาไว้ ส่วนเรื่องปรุงรสเมื่อนางอาบน้ำหย่งเยี่ยเสร็จแล้วก็จะไปทำด้วยตนเอง

พอสั่งจบก็หันไปทางหย่งเยี่ยน้อยที่ยืนหลบหลังอยู่ที่ฉากกั้น รอคอยให้นางวิ่งดักหน้าล้อมหลังตามจับไปอาบน้ำ ซึ่งก็เป็นดังคาด มีเสียงวิ่งตึงตังดังออกมาจากตำหนักปีกพร้อมเสียงหวีดร้องของเด็กน้อย และแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะสดใสปานไข่มุกกระทบจานหยกจนบรรดาข้ารับใช้ที่คอยท่าอยู่ด้านนอกยังอดแปลกใจมิได้ ท่านชายน้อยของพวกเขานั้นเป็นเด็กเอาแต่ใจ เปลี่ยนหรูหมู่ (แม่นม) และพี่เลี้ยงบ่อยครั้งเพราะเป็นเด็กเบื่อง่ายและไม่ชอบการถูกขัดใจหรือจ้ำจี้จ้ำไช แต่เวลาที่อยู่กับหานฉงหรงผู้นั้นกลับเชื่อฟังดีราวกับบุตรที่เชื่อฟังมารดาอย่างไรอย่างนั้น จนมีบางคนอดคิดอกุศลไม่ได้ว่านางกำนัลมาใหม่ผู้นี้จะลอบวางยาหรือใช้เล่ห์กลอันใดหรือไม่

ซึ่งคำพูดที่ต่างพากันโจษจันถึงหานฉงหรงนั้นเข้าหูคนที่กำลังวิ่งไล่จับเด็กชายตัวน้อยในห้องทุกถ้อยคำ แต่นางก็เลือกที่จะเมินเฉยเสียเพราะจุดประสงค์ของนางที่มาที่นี่คืออันใด ก่อนจะหันไปให้ความส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวัง 2

    เมื่อถึงตำหนักปีกซ้ายที่เป็นที่พำนักของท่านชายน้อยหย่งเยี่ย หานฉงหรงจึงได้ขอให้ขันทีน้อยสั่งไปยังห้องเครื่องให้ต้มน้ำขิงพุทราแดงเอาไว้ ส่วนเรื่องปรุงรสเมื่อนางอาบน้ำหย่งเยี่ยเสร็จแล้วก็จะไปทำด้วยตนเองพอสั่งจบก็หันไปทางหย่งเยี่ยน้อยที่ยืนหลบหลังอยู่ที่ฉากกั้น รอคอยให้นางวิ่งดักหน้าล้อมหลังตามจับไปอาบน้ำ ซึ่งก็เป็นดังคาด มีเสียงวิ่งตึงตังดังออกมาจากตำหนักปีกพร้อมเสียงหวีดร้องของเด็กน้อย และแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะสดใสปานไข่มุกกระทบจานหยกจนบรรดาข้ารับใช้ที่คอยท่าอยู่ด้านนอกยังอดแปลกใจมิได้ ท่านชายน้อยของพวกเขานั้นเป็นเด็กเอาแต่ใจ เปลี่ยนหรูหมู่ (แม่นม) และพี่เลี้ยงบ่อยครั้งเพราะเป็นเด็กเบื่อง่ายและไม่ชอบการถูกขัดใจหรือจ้ำจี้จ้ำไช แต่เวลาที่อยู่กับหานฉงหรงผู้นั้นกลับเชื่อฟังดีราวกับบุตรที่เชื่อฟังมารดาอย่างไรอย่างนั้น จนมีบางคนอดคิดอกุศลไม่ได้ว่านางกำนัลมาใหม่ผู้นี้จะลอบวางยาหรือใช้เล่ห์กลอันใดหรือไม่ซึ่งคำพูดที่ต่างพากันโจษจันถึงหานฉงหรงนั้นเข้าหูคนที่กำลังวิ่งไล่จับเด็กชายตัวน้อยในห้องทุกถ้อยคำ แต่นางก็เลือกที่จะเมินเฉยเสียเพราะจุดประสงค์ของนางที่มาที่นี่คืออันใด ก่อนจะหันไปให้ความส

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวัง 3

    หานฉงหรงหลุบตาลงต่ำ คล้ายทบทวนสิ่งที่เขาบอกกล่าวมาตลอดระยะเวลาที่เดินทางจากจี๋หลินมายังเมืองหลวงแห่งนี้ “หม่อมฉันคือ เหลียงเจียจื่อ [2] ที่ได้รับการแนะนำจากหานกูกู่ซึ่งเป็นอดีตนางกำนัลเก่าแก่ในตำหนักเป่ยหนานหวังให้เข้ามาทำงานที่นี่ ตอนนี้หม่อมฉันทำหน้าที่ดูแลและสอนหนังสือท่านชายหย่งเยี่ยที่ตำหนักปีกเพคะ”เขาพยักหน้า “โชคดีที่หานกูกู่ผู้นั้นเป็นญาติห่างๆ ของบิดาเจ้าจริงๆ อีกทั้งเจ้าเองก็เป็นถึงธิดาของบัณฑิตระดับสูง ดังนั้นคุณสมบัติของเจ้าที่เจ้ามีจึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ทุกประการโดยที่ข้าไม่ต้องปกปิดหรือเปลี่ยนประวัติให้กับเจ้า” จากนั้นจึงเลื่อนสมุดเล่มที่เขาอ่านอยู่จนถึงเมื่อครู่ส่งให้ “นี่คือวันเดือนปีเกิดของเจ้า พรุ่งนี้จะมีการบันทึกชื่อของเจ้าในฐานะนางกำนัลระดับสูงให้ทางฝ่ายในรับทราบ เจ้านำไปตรวจให้ถี่ถ้วน จะได้ไม่เหมือนกับกรณีของตัวโง่งมฉางซื่อหลางผู้นั้น”หานฉงหรงลอบบุ้ยปากเล็กน้อยเมื่อเขากล่าววาจาเสียดสี อดรนทนไม่ได้ต้องโต้ตอบเล็กน้อย “ต้องขอบพระทัยหวางเยี่ยที่อุตส่าห์ลำบากคอยให้คำชี้แนะแผนการอันชาญฉลาดนั้นให้หม่อมฉันเพคะ”อวิ๋นรุ่นทำเสียงแค่นจมูก “แน่นอน ข้าลำบากยิ่ง แต่ถึงข้าไม

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวัง 1

    7นิราศจากบ้านเกิด สู่ตำหนักเป่ยหนานหวังแม้จะล่วงเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ที่เมืองหลวงแห่งนี้ก็ยังคงมีลมหนาวพัดแรง พัดพาเอากลิ่นหอมของดอกอิงที่เริ่มผลิบานสะพรั่งให้ลอยเข้ามายังสถานที่ที่ใหญ่โตโออ่าไม่น้อยหน้าวังหลวงอย่างตำหนักเป่ยหนานหวังหานฉงหรงกระชับเสื้อคลุมกันลมทรงระฆังของหย่งเยี่ยให้จนแน่ใจว่าจะไม่มีอากาศหนาวเล็ดลอดเข้ามาในร่างกายนุ่มนิ่มอบอุ่นของเด็กน้อยแล้วจึงยอมลงจากรถม้า หย่งเยี่ยมองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “ท่านแม่ไม่หนาวหรือ?”หานฉงหรงยิ้มละไมเอ่ย “ข้าอังเตาถ่านในรถม้าจนอุ่นพอแล้ว ไม่หนาวหรอก”หย่งเยี่ยกลับใช้สองมือเล็กป้อมประคองมือขาวนุ่มนิ่มปานไร้กระดูกของหานฉงหรง พินิจไปมาก็กล่าว “แต่มือท่านทั้งเย็นทั้งแดงมาก” ว่าจบก็อ้าปากน้อยๆ พ่นลมหายใจอุ่นระอุใส่มือแดงระเรื่อ ท่ามกลางสายตาเอื้อเอ็นดูของหานฉงหรงที่ยังมองมิวางตา จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างของนางก็พลันเลือนด้วยม่านน้ำตา ในใจคิดเพียงว่า ถ้าลูกของนางยังอยู่...ถ้าลูกของนางยังอยู่...แต่ด้วยเพราะยังเล็กเกินไป แม้หย่งเยี่ยจะทั้งเป่าไอร้อน หรือเอาไปแนบแก้มกลมของตนเองมือของหานฉงหรงก็ยังคงเย็นอยู

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   งานวิวาห์ 2

    สามวันหลังจากนั้น ฉางซื่อหลางอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าสาวต้องกลับมาเยี่ยมบิดามารดาที่บ้านเดิมลากหลินหลางที่กลายเป็นฮูหยินน้อยสกุลฉางไปเสียแล้วด้วยใบหน้าที่เก็บโทสะไว้เต็มท้อง เพื่อขอพบเจ้าบ้านสกุลอย่างหานเซียงอวิ๋นที่กำลังดื่มชาอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่บ้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษาโดยมีสาวใช้ที่เขาไม่คุ้นหน้าผู้หนึ่งคอยรับใช้อยู่“ท่านพ่อตา! ท่านทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไรกัน!” ฉางซื่อหลางระเบิดโทสะทันทีที่เจอหน้า ก่อนเหวี่ยงร่างบอบบางของหลินหลางลงกับพื้นอย่างไม่ออมแรงจนถลาล้มคว่ำแทบเท้าผู้สูงวัยกว่าหานเซียงอวิ๋นเพียงปรายตามองก็เห็นว่าใบหน้าของหลิงหลางนั้นบวมเป่ง แม้จะใช้แป้งหอมทาทับกลบก็มิอาจปิดบังรอยช้ำได้ทั้งหมด ยังไม่นับรวมร่องรอยฟกช้ำตามแขนเรียวที่โผล่พ้นแขนเสื้อนั่นอีก แค่นึกว่าถ้าคนที่นอนฟุบอยู่ตรงหน้ามิใช่หลินหลาง หากแต่เป็นบุตรสาวที่เขารักถนอมปานแก้วตาดวงใจ หัวใจเขาก็เริ่มเจ็บหนึบดั่งถูกมือมารขยุ้มเต็มแรงแต่ไม่หมายมาดให้เขาแดดิ้นในทันทีหลังจากสบตากันเพียงอึดใจหลินหลางก็ฟุบหน้าลงกับพื้นอีกครั้งพร้อมสะอึกสะอื้นจนแทบขาดใจหานเซียงอวิ๋นเห็นสภาพของนางก็ให้นึกสังเวชในใจ เขาเบื

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   วันวิวาห์ 1

    นอกจากหานฉงหรงและเป่ยหนานหวัง ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าคำตอบที่หานฉงหรงมอบให้นั้นคือสิ่งใด แต่ที่ผู้คนในจี๋หลินรับรู้ คือหลังจากวันนั้นผ่านไปหกวัน ก็เป็นวันแต่งงานระหว่างธิดาบัณฑิตหานปั๋วซื่อที่มีแต่ผู้คนนับหน้าถือตา กับมือปราบนามกระเดื่องอย่างฉางซื่อหลางเสียงปะทัดดังขึ้นจากสองข้างทางยามที่ขบวนเจ้าบ่าวผ่านไปตั้งแต่แสงเงินแสงทองจากดวงตะวันยังไม่ทันจับอยู่ที่ขอบฟ้า ใบหน้าหล่อเหลาของฉางซื่อหลางที่นั่งอยู่บนหลังอาชาพ่วงพีดูแช่มชื่นสดใสสมกับเป็นว่าที่เจ้าบ่าว ยิ่งสวมชุดแดงเช่นนี้กลับยิ่งทำให้ร่างแกร่งดูมีชีวิตชีวาระยะทางจากบ้านตระกูลฉางจนถึงบ้านสกุลหานนั้นใช้เวลาไม่นานนัก ขบวนเจ้าบ่าวก็มาถึงโดยมีหานเซียงอวิ๋นคอยท่าต้อนรับ ข้างๆ ของชายวัยกลางคนมีเจ้าสาวของเขาที่สวมอาภรณ์แดงมงกุฎหงส์คลุมทับด้วยผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวปักลายมู่ตานด้วยด้ายทองดูงดงามอ่อนหวาน ฉางซื่อหลางมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีอิ่มเอม หัวใจพองฟูขึ้นมาเต็มอกดั่งเห็นชัยชนะอยู่เพียงเอื้อม เขาช่วยแม่สื่อประคองเจ้าสาวขึ้นนั่งเกี้ยวแปดคนหามอย่างที่เคยให้คำสัญญากับหานฉงหรงเอาไว้เมื่อแรกเริ่มคบหา จากนั้นมโหรีประจำขบวนเจ้าสาวก็เริ่มบรรเลงก้องอีกครั้

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   กินปูนร้อนท้อง 3

    "ข้ากับลูกน้องมีธุระต้องไปสะสาง มิอาจไปเช้าเย็นกลับ อีกทั้งนอกจากข้าแล้วหลี่ฉางและข้ารับใช้คนอื่นก็ไม่อาจรับมือหย่งเยี่ยได้ เกรงว่าถ้าเกิดเขาไม่พอใจขึ้นมาจะแอบหนีไปอย่างวันก่อนอีก ข้าเห็นว่าหย่งเยี่ยสนิทกับเจ้าที่สุด จึงเห็นว่านำมาฝากกับเจ้าไว้น่าจะดีที่สุด""กี่วันหรือเพคะ""สักห้าวัน"หานฉงหรงได้ยินเช่นนั้นก็ให้รู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่าง ณ ปลายอุโมงค์ ทว่ากลับแอบซ่อนท่าทีลิงโลด ก่อนตอบเสียงนุ่ม "ขอบพระทัยหวางเยี่ยที่ไว้วางใจหม่อมฉัน ทว่าหม่อมฉันเองก็จนใจที่ไม่อาจดูแลท่านชายน้อยได้จนถึงเวลาที่กำหนด เนื่องจากอีกหกวันหลังจากนั้นจะเป็นงานวิวาห์ของหม่อมฉัน"อวิ๋นรุ่น ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดก่อนเอ่ยเสียงเรียบ "กับชายที่มีเรื่องที่ตรอกชิงฮวานั่นน่ะหรือ""หวังเยี่ยทราบ?""เรื่องที่มีสตรีตบตีเพื่อแย่งคู่หมั้นธิดาของหานปั๋วซื่อที่ตรอกชิงฮวาชาวบ้านร้านตลาดลือกันให้กระฉ่อน ต่อให้ข้าไม่ต้องส่งคนไปสืบก็ลอยเข้าหูข้าอยู่ดี"หานฉงหรงอมยิ้มเล็กน้อย รู้สึกขบขันที่ความพยายามในการกลับดำเป็นขาวของฉางซื่อหลางนั้นช่างเปล่าประโยชน์สิ้นดี "เพคะ เป็นเช่นนั้น"อวิ๋นรุ่นแค่นยิ้ม "เพราะมีงานมงคลนี่เองจึงได้เตรียมสุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status