ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน อวี้จินก็ล้างไม้ล้างมือจนสะอาด ระหว่างทางเธอซื้อขนมมาฝากคุณย่าด้วย
"ย่าคะ หนูกลับมาแล้ว"
แม่เฒ่าอวี้ที่ได้ยินเสียงของหลานสาวจึงรีบเดินออกมาจากในครัวก่อนจะต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นว่าบนแก้มซ้ายของอวี้จินมีรอยฝ่ามือปรากฏอยู่ชัดเจน
"หน้าไปโดนอะไรมาน่ะจินจิน"
แม่เฒ่าอวี้รีบเดินเข้ามาจับใบหน้าหลานสาวอย่างห่วงใย อวี้จินเบ้หน้าเล็กน้อยเพราะยังรู้สึกปวดระบมไม่หาย
"จินจิน ว่ายังไง หน้าหลานไปโดนอะไรมา"
แม่เฒ่าอวี้เอ่ยถามย้ำ อวี้จินเองก็ไม่คิดจะปิดบัง จึงบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างไปตามความจริง แม่เฒ่าอวี้เมื่อได้ฟังก็เดือดดาลเป็นอย่างมาก
"ลูกเวรนั่นกล้าลงมือกับหลานเชียวเหรอ หลานไม่ต้องกลัวนะ หลานไม่ผิด หลานทำถูกแล้ว เรื่องนี้ย่าจะจัดการเอง"
อวี้จินพยักหน้า ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำเพราะเธอเหนียวตัวมาก หลังจากที่อวี้จินแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะเดินออกมาจากห้อง ก็ได้ยินเสียงของย่าที่กำลังด่าพ่อของเธอและแม่เลี้ยงเจียงลี่อย่างไม่ไว้หน้า อวี้จินลอบขบขันในใจ รู้สึกสมน้ำหน้าคนพวกนั้นเป็นอย่างมาก ชาตินี้เธอจะไม่ยอมเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของใครอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อพวกเขาทำให้เธอทุกข์ใจ เธอก็จะทำให้พวกเขาไม่มีความสุขเช่นเดียวกัน
เจียงลี่และอวี้ตงถูกด่าจนหูชา ส่วนอวี้หลิงก็นั่งฟังไปด้วยร้องไห้ไปด้วย เธอเพิ่งไปทำแผลที่โรงพยาบาลกลับมา ย่าไม่ถามไถ่อาการของเธอสักคำก็เอาแต่ก่นด่า เธอน้อยใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งอวี้จินยังตบหน้าเธออีกด้วย เธอเจ็บแค้นใจเหลือเกิน
เจียงลี่ลอบมองอวี้จินที่เดินออกมาจากห้องด้วยแววตาเย็นเฉียบ แต่เมื่อเด็กสาวมองกลับมาเธอก็แสร้งทำเป็นยิ้มแย้มอ่อนโยน แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนที่ได้สบตากับอวี้จินเธอรู้สึกเย็นเยียบที่แผ่นหลังจนหนาวสะท้านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เรื่องราวจบลงที่พ่อของอวี้จินโดนผู้เป็นแม่ด่าสาดเสียเทเสีย ตัวเขาเองไม่กล้าเถียงมารดา ก่อนหน้านี้ก็ถูกคำพูดของอวี้จินแทงใจดำมารอบหนึ่งแล้ว จึงเอ่ยวาจาใดไม่ออกอีก
อวี้จินไม่อยากจะสนใจอีก เธอเดินไปที่หลังบ้าน ซึ่งมีน้ำบ่ออยู่ หญิงสาวตักน้ำบ่อขึ้นมา ก่อนจะนำไปต้มให้คุณย่าเอาไว้อาบไว้ใช้ เมืองซานซูยังไม่ได้เจริญมากเท่าใดนัก เครื่องอุปโภคบริโภคบางอย่างก็ยังเข้าไม่ถึง บางเรื่องก็ต้องช่วยตนเองไปก่อน
ระยะนี้อวี้จินคอยสังเกตความเป็นไปของ
เจียงลี่ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าการตายของคุณย่าใน ชาติก่อนมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ การป้องกันเอาไว้ก่อนนับว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไรอาหารเย็นวันนี้ อวี้จินเป็นคนลงมือทำ เรื่องพวกนี้เธอทำจนเคยชินเสียแล้ว อีกอย่างมันเป็นสิ่งที่เธอชอบทำมาก
พูดถึงเรื่องทำอาหาร ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อวี้จินยังไม่ได้จัดการ นั่นก็คือการทวงสมบัติของแม่กลับคืนมา ชาติก่อนเพราะเธอไม่ทันเล่ห์กลของแม่เลี้ยงใจชั่ว เจียงลี่จึงเอาที่ดินของแม่เธอไปขายมาเล่นพนันจนหมด
รอจนกระทั่งทุกคนกินอาหารอิ่มแล้ว อวี้จินจึงเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา
"ย่าคะ อีกไม่นานหนูก็จะเรียนจบมัธยมปลายแล้ว หนูมีเรื่องที่อยากขอร้องย่าน่ะค่ะ"
ทุกคนหันมามองอวี้จินเป็นตาเดียว
"เรื่องอะไรเหรอ"
"หนูตั้งใจว่าจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ สักร้านน่ะค่ะ จะได้เป็นการหารายได้เพิ่มอีกทาง หนูจำได้ว่าก่อนแม่จะตายได้ทิ้งร้านค้าเอาไว้ให้หนูสองร้าน หนูอยากจะดูแลร้านนั้นด้วยตนเอง”
ว่าแล้วก็หันไปส่งยิ้มประจบประแจงเจียงลี่
“แม่คะ แม่ช่วยคืนกุญแจร้านค้าทั้งสองร้าน มาให้หนูได้ไหมคะ อย่างไรนั่นก็คือสมบัติที่แม่บังเกิดเกล้าทิ้งไว้ให้หนูหนูอยากเก็บรักษาเอาไว้เอง"
เจียงลี่ถึงกับลอบกำมือแน่น แต่ไหนแต่ไรอวี้จินไม่เคยถามหาสมบัติ แต่ตอนนี้กลับคิดจะมาทวงคืน เธอไม่มีทางยอมปล่อยให้มันกลับคืนไปสู่เจ้าของเดิมเป็นอันขาด ร้านค้าสองร้านนั้นทำเลดีมาก หากเอาไปขายต้องได้เงินหลายร้อยหยวนเป็นแน่!
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเจียงลี่ก็เอ่ยกับอวี้จินอย่างอ่อนโยน
"จินจิน เดิมทีแม่ก็ตั้งใจจะมอบให้ลูกเป็นของขวัญหลังเรียนจบมัธยมปลายอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ลูกมีหน้าที่เรียนหนังสือก็ควรตั้งใจเรียนให้จบเสียก่อน อย่าเพิ่งเอาใจไปฝักใฝ่เรื่องอื่นเลย ผู้หญิงเราน่ะเรียนจบก็ต้องแต่งงานดูแลสามี จะไปเปิดร้านให้วุ่นวายทำไมกัน เอากุญแจร้านฝากไว้ที่แม่ก่อนดีกว่านะจ๊ะ"
อวี้จินไม่ได้แปลกใจเท่าใดนัก น้ำตาลอยู่ในปากมด มีหรือมดมันจะยอมคายออกมาโดยง่าย เธอรู้อยู่แล้วว่าเจียงลี่เจ้าเล่ห์ขนาดไหน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา
"ขอบคุณแม่ที่เป็นห่วงนะคะ แต่นั่นเป็นสมบัติของแม่ที่ให้กำเนิดทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าหนูอยากจะรักษาเอาไว้ ฮึก ที่ผ่านมาต้องขอบคุณแม่มากที่ช่วยดูแลรักษาเอาไว้ให้แต่ตอนนี้หนูโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ดีว่าจะต้องจัดการทุกอย่างด้วยวิธีไหน ฮือ ย่าคะ หนูอยากเปิดร้านจริงๆ นะคะหนูชอบทำอาหาร อีกอย่างหนูอยากสานต่อเรื่องที่แม่อยากทำ ย่าเคยเล่าให้หนูฟังว่าตอนแม่ยังอยู่ชอบทำอาหารมาก และฝันอยากจะเปิดร้าน แต่กลับต้องมาด่วนจากไปก่อน ช่างน่าสงสารเหลือเกิน ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้ว หนูอยากจะสานต่อความฝันของแม่ ย่าเห็นด้วยกับหนูเถอะนะคะ อีกอย่างหนูจะไม่แต่งงาน หนูจะดูแล
คุณย่าไปตลอดชีวิตเลย"อวี้จินกอดแขนย่าของเธออย่างออดอ้อน อีกทั้งยังร้องไห้อย่างน่าสงสาร เจียงลี่กัดฟันกรอด นังเด็กเวรนี่กำลังยุแยงแม่สามีให้หลงเชื่อ เจียงลี่หันไปมอง
อวี้ตงที่ตอนนี้เอาแต่นิ่งเงียบไม่มีปากมีเสียงก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา"จินจิน แม่ว่า.."
"อะไรของเธอกัน จินจินอยากได้ของๆ แม่แท้ๆคืน เธอก็แค่มอบให้เท่านั้น มันไม่ใช่ของๆ เธอสักหน่อย อีกอย่างจินจินจะเอาไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของจินจิน หรือว่าที่เธอมัวแต่โอ้เอ้ไม่ยอมคืนกุญแจร้านให้สักที ก็เพราะว่าเธออยากจะฮุบสมบัติของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง?"
"ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ เพียงแต่"
"ตกลงตามนี้ล่ะ เอากุญแจร้านค้าสองร้านนั้นมาให้ฉัน ฉันจะเก็บไว้ให้จินจินเอง"
"ค่ะแม่"
เจียงลี่หมดคำจะกล่าว เธอรู้สึกโมโหจนควันออกหู ร้านค้าตรงนั้นทำเลดีงามมาก เธอไม่ใช่คนชอบทำอาหาร คิดว่าจะเก็บเอาไว้ให้อวี้หลิง ไม่ก็ขายเอาเงินมาใช้ แต่คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ อวี้จินจะรีบมาทวงคืนกลับไปรวดเร็วแบบนี้ อีกทั้งเธอเองก็ไม่อาจหาข้ออ้างเก็บร้านค้าสองร้านนั้นเอาไว้กับตัวได้อีกต่อไป จึงต้องจำใจส่งคืนให้เจ้าของเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เห็นทีคงจะเก็บอวี้จินเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ปีนี้ก็อายุสิบเจ็ดแล้ว เด็กสาวบ้านอื่นที่พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนหนังสือล้วนแต่งงานมีสามีกันไปหมดเแล้ว เห็นทีเธอคงจะต้องรีบหาสามีที่ดีให้อวี้จินเสียแล้ว หล่อนจะได้เลิกมือยืดมือยาวมาทวงสมบัติคืนสักที!
เรื่องราวทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากเกิดเรื่องกับฟ่านหยวน ฟ่านหลีก็ถูกรับตัวกลับไปที่บ้าน เธอสูญเสียแม่ไป และพี่ชายก็ติดคุก โชคดีที่พ่อฟื้นกลับมาได้ เธอจึงตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตใหม่ ตัดใจจากกู้อวิ๋นฟาน ก้าวเดินไปตามทางของตนเอง แบกรับภาระหน้าที่ของตระกูลแทนพี่ชายกู้อวิ๋นฟานอาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะเกิดเรื่องทำให้เขาไม่ได้กลับบ้าน นายพลกู้รีบมาที่เมืองซานซูพร้อมครอบครัวเพื่อดูอาการลูกชาย นั่นทำให้อวี้จินได้พบกับครอบครัวของกู้อวิ๋นฟาน พวกท่านใจดีมาก อีกทั้งยังสนทนากับเธออย่างไม่ถือตัว ทำให้อวี้จินไม่รู้สึกเกร็งเลยแม้แต่น้อยอวี้จินอยู่เฝ้ากู้อวิ๋นฟานที่โรงพยาบาลทุกวัน จนอาการของเขาดีขึ้นและสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ กู้อวิ๋นฟานกอดอวี้จินเอาไว้และปลอบโยนเธอเรื่องของหยางเมี่ยว อวี้จินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร หยางเมี่ยวได้เลือกทางเดินของตนเองแล้ว เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อนรัก งานศพของหยางเมี่ยวนั้นไป๋เซียงและฟางมู่เองก็มาแสดงความไว้อาลัยและเสียใจไม่ต่างจากอวี้จินเช่นเดียวกันตอนนี้หยางเมี่ยวคงได้พบกับแม่ของเธอบนสวรรค์แล้วคนตระกูลกู้พักอยู่ที่เมืองซานซูจนอาการขอ
กู้อวิ๋นฟานไม่ได้เกรงกลัวฟ่านหยวนเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขามองฟ่านหยวนเหมือนมองคนแปลกหน้า"ฟ่านหยวน ที่ผ่านมาระหว่างพวกเรามีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด แล้วมันเพราะอะไรกันที่ทำให้นายคิดจะฆ่าฉัน คิดจะทำร้ายฉันและตระกูลกู้ ต้นเหตุมันมาจากอะไรกันแน่"ฟ่านหยวนเมื่อได้ยินก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยัน"ต้นเหตุของเรื่องนี้น่ะเหรอ.."เขาจ้องมองกู้อวิ๋นฟานราวศัตรูคู่อาฆาต ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กู้อวิ๋นฟานได้ฟังอย่างไม่มีตกหล่น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขาและพ่อของกู้อวิ๋นฟาน ไปจนถึงเรื่องที่แม่ของเขาตั้งท้องและแต่งเข้าตระกูลฟ่าน ต้องถูกคนตระกูลฟ่านกดขี่ ถูกสามีทุบตีเหมือนวัวเหมือนลาอวี้จินหันมามองกู้อวิ๋นฟานพร้อมกับจับมือเขาเอาไว้แน่น กู้อวิ๋นฟานที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะพ่อของเขาและแม่ของฟ่านหยวนเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างนั้นเหรอและฟ่านหยวนแท้จริงก็เป็นพี่น้องกับเขา!นี่มันเรื่องอะไรกันกู้อวิ๋นฟานไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ฟ่านหยวนเล่ามาจะเป็นความจริง ที่ผ่านมาพ่อและแม่ของเขารักกันดีมาตลอด พ่อไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ และแม่ของเขาก็ไม่เคยเอ่ยถึงเช่นกัน
หลายสิบวันต่อจากนั้น ก็มีคนนำอาหารกระป๋องราคาถูกกว่าโรงงานของตระกูลกู้มาขาย เมื่อกู้อวิ๋นฟานที่ทราบเรื่องไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเท่าใดนัก ตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าฟ่านหยวนคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ครั้งนี้ฟ่านหยวนกลับไม่ได้เปิดโรงงานโดยใช้ชื่อคนอื่นบังหน้าเหมือนที่เคยทำในครั้งก่อนอีก แต่กลับเลือกเอามาขายโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง เปิดเป็นร้านขายอาหารกระป๋องธรรมดาทั่วไป อวี้จินเมื่อได้ทราบเรื่องก็ตรงมาหากู้อวิ๋นฟาน และพูดคุยหารือกับเขาในเรื่องนี้"ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของฟ่านหยวนจริงๆ"กู้อวิ๋นฟานเพียงยกยิ้มมุมปากและไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงมีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อยเมื่อสองคืนก่อนเขาฝันถึงเรื่องในชาติก่อนอีกครั้ง ครั้งนี้ความฝันชัดเจนกว่าครั้งก่อนๆ เขาเห็นแผ่นหลังของฆาตกรที่ฆ่าเขาในชาติที่แล้ว แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังแต่เขากลับจำได้ดีเป็นฟ่านหยวน!คนที่ฆ่าเขาในชาติก่อนก็คือฟ่านหยวนทุกอย่างล้วนปะติดปะต่อร้อยเรียงและเกี่ยวพันกับฟ่านหยวนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงแต่แรงจูงใจที่ทำให้ฟ่านหยวนผูกใจเจ็บจนอาฆาตแค้นเขามันคือเรื่องอะไรกันแน่อวี้จินไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก เธอนั่งอยู่ข้
ในที่สุดวันหยุดก็มาถึง อวี้จินได้ทำตามที่กู้อวิ๋นฟานบอกเอาไว้ นั่นก็คือชวนหยางเมี่ยวไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานด้วยกัน เธอบอกเพียงว่าจะจัดงานฉลองให้กับตัวเองที่ทำคะแนนสอบได้ดี กินกันแค่สองคนออกจะเหงาเกินไป ย่าก็ไม่สะดวกไปร่วมงานเลี้ยงเพราะแก่แล้ว ส่วนพ่อของอวี้จินก็ไม่ได้ลงรอยกับกู้อวิ๋นฟาน เธอจึงชวนหยางเมี่ยวไปด้วยกัน แรกเริ่มหยางเมี่ยวลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อหลายวันก่อนฟ่านหยวนบอกกับเธอว่าเขาอยากได้ขั้นตอนการผลิตอาหารกระป๋องของกู้อวิ๋นฟานให้เธอหลอกถามจากอวี้จิน แต่อวี้จินกลับไม่รู้อะไรเลย เธอจึงยังไม่มีข้อมูลไปให้เขาวันนี้ได้ไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานนับว่าเป็นเรื่องดีแม้ในใจจะรู้สึกผิด แต่หยางเมี่ยวไม่มีทางเลือกเธอกลัวว่าคนตระกูลอวี้จะต้องลำบาก ตระกูลอวี้มีบุญคุณกับเธอ หยางเมี่ยวไม่ใช่คนเนรคุณคน เธอไม่มีทางทำให้บ้านตระกูลอวี้ต้องประสบภัยแม้นี่จะฟังดูเหมือนเป็นเหตุผลที่ดี แต่ภายในส่วนลึกแล้วมันเป็นเพราะว่าเธอรักฟ่านหยวนเธอหลงรักคนสารเลวนั่นจนหมดหัวใจ!ท่าทีของหยางเมี่ยวล้วนอยู่ในสายตาของอวี้จิน เธอเดาไม่ผิดจริงๆ หยางเมี่ยวมีเรื่องบางอย่างที่กำลังปิดบังเธอเอาไว้แต่อ
วันคืนก็ผ่านพ้นไปเช่นนี้ ในที่สุดโรงงานของกู้อวิ๋นฟานก็ได้เปิดรับคนงานเข้ามาทำงานเสียที ครั้งนี้พ่อของเขาส่งพ่อบ้านคนใหม่มาช่วยดูแลเขาแทนลุงหม่า กู้อวิ๋นฟานแม้ภายนอกจะทำตัวปกติ แต่เขารู้ดีอยู่ในใจว่าไม่มีใครแทนลุงหม่าได้อวี้จินยังคงไปเรียนตามปกติ เพราะระยะนี้ใกล้ถึงวันสอบแล้วเธอจึงเอาแต่อ่านหนังสือและไม่ค่อยได้พบกับกู้อวิ๋นฟานเท่าใดนัก ต่างคนต่างมีงานให้ต้องจัดการสุขภาพของย่าช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก อวี้จินค่อนข้างเป็นกังวล แต่คุณย่าบอกกับเธอว่าย่าแก่มากแล้ว การเจ็บป่วยอย่างไรย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่อวี้จินกลับหวั่นใจ ชาตินี้เธอช่วยย่าไม่ให้ตายอย่างปริศนาได้แล้ว แต่เธอไม่ได้เตรียมใจที่จะสูญเสียย่าไปอีก แม้ว่ามันจะต้องเป็นไปตามครรลองก็ตามทุกคนล้วนมีเรื่องที่ตนยึดติดไม่ใช่หรืออวี้จินวางหนังสือในมือลง ก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง ตอนนี้ย่าของเธอกำลังนอนหลับตอนกลางวัน ส่วนพ่อก็ไปที่สวนผัก ตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้น อวี้จินสังเกตได้ว่าพ่อของเธอดูเปลี่ยนไปมาก เขาพยายามพูดคุยและทำดีกับเธอ แต่อวี้จินกลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเท่าใดนัก อาจเพราะความเจ็บปวดในชาติก่อนมันยังคงกัดกินจิตใจของเธอ
เวลาก็ผ่านไปเช่นนี้ การก่อสร้างโรงงานของกู้อวิ๋นฟานนับว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างมากวันนี้อวี้จินไม่มีเรียน เธอจึงมาหาเขาที่บ้านพร้อมกับนำอาหารมื้อกลางวันติดมือมาด้วย กู้อวิ๋นฟานที่เห็นว่าคนรักมาแล้วก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก อวี้จินวางอาหารลงบนโต๊ะและยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"ฉันทำอาหารมาให้พี่หลายอย่างเลย พี่ลองชิมดูสิว่าชอบไหม""อะไรที่เธอทำพี่ก็ชอบหมด"อวี้จินยิ้มตาหยี ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มและมอบจูบที่แสนหวานให้กับเขา กู้อวิ๋นฟานมองอวี้จินด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะจูบตอบหล่อนอย่างดูดดื่มในขณะที่คนทั้งสองกำลังมีความสุขแสนหวานชื่น ฟ่านหลีก็เดินเข้ามามาพอดี เธอเห็นเต็มสองตาว่าสองคนนั้นกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ฟ่านหลีกำมือแน่น รู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก เธอหลงรักกู้อวิ๋นฟานมานานหลายปี แต่เขากลับไม่สนใจเธอและยังมาเลือกเด็กสาวบ้านนอกคนนี้อีกอวี้จินและกู้อวิ๋นฟานหันมามองฟ่านหลีพร้อมกัน เป็นกู้อวิ๋นฟานที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย"ฟ่านหลี มีอะไรเหรอ"ฟ่านหลียิ้มออกมาอย่างฝืดเฝื่อน"ฉันให้คนทำอาหารมาให้พี่ พี่ลองชิมดูสิ"เอ่ยจบหล่อนก็นำอาหารมาวางบนโต๊ะ
หยางเมี่ยวมองฟ่านหยวนด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยนคนนั้น แท้จริงแล้วจะซ่อนความอำมหิตเอาไว้เธอพอจะรู้เรื่องของกู้อวิ๋นฟานมาบ้าง เพราะอวี้จินเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง กู้อวิ๋นฟานเป็นลูกชายของนายพลกู้ มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ที่เขามาที่นี่เพราะต้องการมาช่วยกิจการของที่บ้าน เธอก็รู้เพียงเท่านี้ แต่ไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลคนมีอำนาจมากกว่านี้เลยแม้แต่เรื่องเดียวทั้งที่ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนสนิทของกู้อวิ๋นฟานแต่กลับคิดจะฆ่าเพื่อนของตนเองและทำร้ายตระกูลกู้แท้จริงแล้วพวกเขามีเรื่องบาดหมางอะไรกันแน่หยางเมี่ยวเอ่ยอะไรไม่ออก เธอเดินเข้ามารู้เรื่องราวนี้เอง คาดว่านับจากวันนี้คงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว แต่จะให้เธอทำอะไรได้ หากชะตาชีวิตกำหนดมาว่าให้เธอต้องตายอยู่ที่นี่นั่นก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เสียดายก็แต่ไม่อาจช่วยอวี้จินและคนรักของเพื่อนได้ ไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณก็ต้องมาจากไปเสียก่อนฟ่านหยวนมองหยางเมี่ยวด้วยแววตาที่ครุ่นคิด เด็กสาวคนนี้แต่ก่อนเขาไม่ได้สนใจจะมองหน้าตาของหล่อนให้มากนัก แต่วันนี้เมื่อได้มองดูให้ชัดเจนก็พบว่าสวยไม่เบาเลย อยู่ๆ ความ
ระยะนี้กู้อวิ๋นฟานและอวี้จินสนิทสนมกันมากกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็คืบหน้าไปไม่น้อยเลย เขามักจะไปรับส่งเธอที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ ตั้งแต่ที่เขาบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใครนั้น กู้อวิ๋นฟานก็ไม่ได้กลับไปนอนที่ร้านโจ๊กอีก เดิมทีคิดว่าจะปิดร้านไปซะ แต่มันกลับขายดีและทำเงินได้เขาจึงให้ลุงหม่าเปิดร้านต่อไป กู้อวิ๋นฟานซื้อบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของอวี้จิน แม่เฒ่าอวี้และอวี้ตงออกจะตกใจไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่าฐานะของกู้อวิ๋นฟานไม่ธรรมดา อีกทั้งยังกังวลเป็นอย่างมาก แต่อวี้จินกลับบอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอไม่นานมานี้คนของกู้อวิ๋นฟานมารายงานว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างคนก่อนที่ถูกเขายกเลิกงานไปได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว จากนั้นไม่นานก็บ้านแตกสาแหรกขาด ผู้รับเหมาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย มองผิวเผินแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่สำหรับกู้อวิ๋นฟานกลับรู้สึกว่ามันผิดปกติ ดูแล้วราวกับเป็นการจัดฉากเพื่อฆาตกรรมเสียมากกว่ากู้อวิ๋นฟานมีท่าทีครุ่นคิด เขามาอยู่ที่ซานซูนานแล้ว หาทางปิดช่องโหว่ทุกอย่าง พ่อของเขาเองเมื่อได้ทราบเรื่องน่าสงสัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในทุกๆ คืนเขามักจะ
กู้อวิ๋นฟานเมื่อได้เห็นชายหญิงทั้งสองคน แววตาเขาก็ทอประกายความเป็นมิตรขึ้นมาหลายส่วนสองคนนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาตอนอยู่ที่เมืองหลวงชื่อว่าฟ่านหยวนและฟ่านหลี ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนรักของเขา มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อว่าฟ่านหลี สองพี่น้องตระกูลฟ่านเป็นลูกของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง มีโรงงานหลายแห่ง และที่สำคัญฟ่านหยวนเองก็กำลังจะมีโครงการก่อสร้างโรงงานที่เมืองซานซูเช่นเดียวกัน แม้จะทำธุรกิจเหมือนกัน แต่เขาและฟ่านหยวนกลับไม่ได้เป็นศัตรูกัน อีกทั้งยังเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่นานมานี้ฟ่านหยวนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้"อาหยวน นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่"กู้อวิ๋นฟานไม่ได้ตอบคำถามของฟ่านหลี แต่กลับเอ่ยถามฟ่านหยวนแทน ฟ่านหยวนยิ้มและเอ่ยตอบ"เพิ่งกลับมาไม่กี่วันนี้ อีกอย่างโรงงานใกล้จะสร้างแล้ว ฉันเลยต้องมาดูเสียหน่อย""มีที่พักหรือยัง""มีแล้ว ฉันซื้อบ้านเอาไว้หลังหนึ่ง"เอ่ยจบฟ่านหยวนก็หันมามองอวี้จินพร้อมกับส่งยิ้มให้หล่อน อวี้จินเพียงยิ้มตอบอย่างมีมรรยาทเมื่อเห็นว่ากู้อวิ๋นฟานเมินตน ฟ่านหลีก็รู้สึกไม่พอใจ เธอถลึงตาใส่อวี้จินทันที ก่อนจะเดินเข้ามาหมายจะแทรกกลางคนทั้งสอง แต