มิคกี้ชวนเกรทมาที่บ้าน ส่วนเกรทก็ตามมาอย่างง่ายดาย เพราะแต่ก่อนเกรทก็มาเป็นประจำ พึ่งหายไปช่วงที่เรียนจบ เพราะเกรทต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงที่บ้านของกำนัน เกรทก็ชวนมิคกี้เป็นเล่นน้ำที่แม่น้ำ ที่ทั้งสองเคยเล่นกันเป็นประจำ
เมื่อมาถึงที่บ้านกำนันบุญมี มิคกี้ได้ให้ไก่เอาของที่ซื้อมา ไปเก็บไว้ที่ห้องของมิคกี้ หลังจากนั้นมิคกี้กลับเกรทก็เดินไปยังแม่น้ำ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านกำนันบุญมีมากนัก
“ตกลงนายจะเรียนไหม”เกรทเป็นฝ่ายถามก่อน พร้อมเดินนำทางไปยังแม่น้ำ ซึ่งเขาก็แปลกใจเหมือนกันที่มิคกี้บอกจำทางไปแม่น้ำไมได้
“เรียนซิ อีกสองสามวันจะไปสมัครสอบ”
“นายจะเรียนคณะอะไรล่ะ แล้วเรียนที่ไหน”
“ที่มหาลัยพิพัฒนเมธา คณะ รัฐศาสตร์ ตอนแรกจะเรียนบริหาร พ่อไม่ให้เรียนอยากให้เราเรียนรัฐศาสตร์
“แปลก ปกติพ่อกำนันให้ไปซ้ายนายจะไปขวา จะทำอะไรตรงข้ามตลอด แต่อะไรดลใจนายให้ตามใจพ่อกำนัน”
“ก็ท่านเป็นพ่อไง เราก็ตามใจท่านซักหน่อย นายล่ะเรียนคณะอะไร”
“อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับนายนั่นแหละ”
“ว้าว สุดยอดไปเลย”
“อะไรของนาย ว้าว ว้าว ว้าว เราล่ะปวดกับคำพูดของนายจังเลย”
“อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน”
“คงนานแหละ ถึงแล้วเห็นไหมแม่น้ำ”
“กว้างมากเลย แต่เล็กกว่าแม่น้ำเจ้าพระยาอีก”มิคกี้ตื่นเต้นอย่างมาก เพราะความใสในแม่น้ำแห่งนี้
“ทำอย่างกับเคยไปน่ะ”
“อยู่นั่นเลยแหละผ่านทุกวันตอนกลับจากโรงเรียน”
“เหรอ ถ้าจะบ้าไปใหญ่แล้วไอ้ต่อ”
“ทีหลังอย่าเรียกต่อ ถ้ารักเราต้องเรียก มิคกี้”
“เปลื่ยนชื่อใหม่ตั้งแต่เมื่อไร”เกรทถามด้วยความมึนงง
“ไม่ได้เปลื่ยนหรอก ชื่อนี้ตั้งนานแล้ว”
“ถ้าจะบ้าของแท้”เกรทเกาศีรษะ
“เล่นน้ำอย่างไง แก้ผ้าอาบเลยเหรอ”มิคกี้พูดขึ้น
“จะแก้ได้ไง ใส่กางเกงในอาบน่ะซิ”เมื่อเกรทพูดจบก็ถอดเสื้อกางขาสั้นออก เหลือเพียงกางเกงในสีแดงตัวเดียวแล้วกระโจนลงในแม่น้ำทันที
ในส่วนมิคกี้ก็กล้าๆกลัวๆ เพราะเคยเล่นแต่ในสระน้ำ และในทะเล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ลงเล่นในแม่น้ำ มิคกี้เห็นเกรทดำผุดดำว่าย เขาเลยอยากลองเล่นบ้าง มิคกี้จึงรีบถอดเสื้อกางเกงออก จนเหลือเพียงกางเกงในสีเทา หลังจากนั้นมิคกี้ก็กระโดดลงไปในแม่น้ำที่เย็นจนสบายตัว
เมื่อมิคกี้สู่ใต้น้ำแล้วเขาจึงดำว่ายไปหาเกรท ที่กำลังลอยคอยอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เมื่อเข้าใกล้เกรทเขาจึงดันร่างสู่เหนือน้ำและกอดเกรทไว้ในอ้อมกอด
“ไอ้ต่อมึงมากอดกูทำไมไอ้นี่เป็นอะไรของนาย”เกรทรู้สึกตกใจจากอ้อมกอดไม่พอ เพราะน้องชายของมิคกี้ได้มาโดนบั้นท้ายของเขา
“กอดแค่นี้ก็ไม่ได้นายเป็นอะไร หวงตัวกับแฟนไปได้ ยุคใหม่มันต้องแบบนี้ เดี๋ยวนี้สังคมรับได้แล้วรู้ไหม”มิคกี้ยังเชื่อสนิทใจว่าเป็นแฟนกับเกรท และเขาก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ชิดเกรท
“นายพูดอะไรเราไม่เข้าใจ แต่ ปล่อยเราก่อน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ไม่ต้องอายหรอก คนเราก็ต้องแสดงความรักต่อกันบ้างซิ”
“เราบอกให้ปล่อย ถ้าไม่ปล่อยนายโดนดีแน่”
“นายจะทำอะไรเรา อยากรู้จัง ถ้าอย่างงั้นไม่ปล่อยดีกว่า”
หลังจากมิคกี้พูดจบ เกรทก็จับไปที่น้องชายของมิคกี้ทันทีและบีบนิดหน่อย แต่เขาก็ต้องแปลกใจเพราะมิคกี้เฉยมาก แถมปล่อยให้จับบีบไม่ว่าสักคำ จนเกรทต้องปล่อยมือจากน้องชายของมิคกี้ เพราะเขาเริ่มรู้สึกได้ว่าน้องชายของมิคกี้เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
“นายนี่มันบ้าเกินคนจริงๆโดนจับขนาดนี้ยังยืนให้จับอยู่ได้”
“ก็นายชอบจับไม่ใช่เหรอ เราก็เลยให้นายจับได้เต็มที่ ส่วนเราก็ชอบเหมือนกันโดนจับ”
“ใครชอบจับพูดไปเรื่อย”เกรทไมได้อยากจับหรอก สาเหตุที่จับเพราะจะให้มิคกี้ปล่อย แต่ดันผิดแผนมิคกี้ยอมให้จับแต่โดยดี
“ไม่ชอบแล้วจับทำไม”
“พูดกับนายประสาทจะแดก มาว่ายน้ำแข่งกันดีกว่า”เกรทหาวิธีที่จะให้มิคกี้เลิกกอดเขา และหันมาสนใจสิ่งอื่น
“ก็ได้ รู้ไหมเราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วย เราเคยเรียนกับโค้ชระดับอดีตทีมชาติเชียวนะ”
“ไอ้ขี้โม้ นายกับเราฝึกกันเอง ใช้ลูกมะพร้าวแห้งสองลูกฝึกต่างหาก”
“นายพูดอะไรเราไม่เข้าใจ ถ้าเป็นห่วงยางก็ว่าไป ใช้มะพร้าวแห้งมาทำอะไร”มิคกี้งง
“ก็เอามาลอยคอน่ะซิ โอ๊ยไม่พูดกับนายแล้ว มาว่ายน้ำแข่งกันดีกว่า”
“ก็ได้ ถ้าแพ้ทำไง”
“แพ้ก็แพ้ซิจะให้ทำไง”
“ไม่สนุกถ้าแพ้ต้องโดนหอมแก้ม”
“นายนี่ตัณหาจัดไม่สนใจอะไรเลย วันๆคิดแต่เรื่องลามก กับเพื่อนนายยังไม่ละเว้น”
“เพื่อนที่ไหนแฟนต่างหาก”
“เอ่อ นายอยากพูดอะไรก็เรื่องนาย แต่ตอนนี้ปล่อยเราได้แล้ว จะได้ว่ายน้ำแข่งกันซักที”
“ไม่ปล่อยถ้านายไม่รับปากว่าคนแพ้ต้องโดนหอมแก้ม”
“ก็ได้”เกรทตัดความรำคาญ เพราะถ้าไม่รับปากมิคกี้ก็จะกอดอยู่อย่างนี้
“ก็แค่นี่แหละ”มิคกี้คลายกอดทันที ทันใดนั้นเกรทก็ลักไก่ว่ายน้ำไปก่อนมิคกี้
“ฝีมือมีแค่นี้ ลูกมะพร้าวจะมาสู้ห่วงยางได้ไง”มิคกี้ตะโกนแล้วว่ายน้ำตามเกรทไป
ช่วงตัวของมิคกี้ที่ยาวกว่า ไม่ว่าจะเป็นขาแขนลำตัว จึงทำให้สโตรกของมิคกี้เหนือชั้นกว่าเกรทอย่างมาก ยิ่งมิคกี้เป็นนักกีฬาหลายชนิด กับแค่ว่ายน้ำจึงไม่พ้นขีดความสามารถของเขา ซึ่งมิคกี้ใช้เวลาไม่นานก็ว่ายน้ำนำเกรทไปหลายช่วงตัว จนเขาต้องหยุดรอที่ริมตลิ่งที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นร่มเงา พอเกรทว่ายมาถึงที่มิคกี้ยืนรออยู่ เขาจึงหยุดว่ายน้ำต่อไปในทันที
“นายไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“แต่ก่อนที่ต่อเป็น ไม่ว่าจะแข่งหรือทำอะไรต่อจะแพ้เกรทตลอด”
“ก็บอกแล้วไง นักกีฬาว่ายน้ำทีมโรงเรียนเชียวนะ”
“พูดไปเรื่อย ไม่พูดด้วยแล้วเว้ย พูดแต่เรื่องไร้สาระที่ไม่เป็นจริงเลย”
“ไม่อยากฟังไม่พูดก็ได้ แต่อย่าลืมถ้าแพ้ต้องโดนหอมแก้ม”มิคกี้อมยิ้ม
“นายเอาจริงเหรอ”
“จริงสิ”
เกรทแปลกใจในพฤติกรรมของมิคกี้หนักขึ้นทุกที แต่ในเมื่อรับปากไว้แล้วว่าคนแพ้ต้องโดนหอมแก้ม เขาจึงไม่มีทางปฏิเสธได้ เกรทจึงมองซ้ายมองขวาและหันหน้ามามองมิคกี้
“เร็วๆเข้า กำลังไม่มีคน”
“ได้เลย”มิคกี้รีบยื่นหน้าจนริมฝีปากจะโดนแก้มของเกรท แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็ดังอยุ่บนตลิ่ง
“ทำอะไรกัน”ไก่ทันมาเห็นพอดี จึงตะโกนถามด้วยความสงสัย
มิคกี้จึงขยับหน้าออกห่างและหันมามองไก่ ด้วยสายตาที่รำคาญจนอยากจะขึ้นไปไล่เตะซักที
“พ่อกำนันให้มาตาม เพราะสิ่งที่ลูกพี่ขอ พ่อกำนันทำให้เกือบหมดแล้ว”
“จริงเหรอ”มิคกี้ยิ้มทันที และหันไปมองเกรท
“นายขอให้พ่อกำนันทำอะไรเหรอ”เกรทรู้สึกสงสัยอย่างมาก
“นายตามเรามาเลยเดี๋ยวนายก็จะรู้”
เมื่อมิคกี้พูดจบเขาก็ขึ้นจากแม่น้ำพร้อมกับเกรท และรีบใส่เสื้อกางเกง เดินไปที่บ้านของกำนันบุญมี อย่างรวดเร็วเพราะมิคกี้อยากเล่นอินเตอร์เน็ต จะได้ส่งข่าวสารให้ทางบ้านรับรู้ เพราะเขาก็กลัวว่าพ่อกับแม่จะเป็นห่วง
มิคกี้รีบเดินอย่างรวดเร็วเพื่อไปดูสิ่งที่ขอ จนเกรทต้องวิ่งตามเกว่าจะทัน เมื่อไปถึงตรงบันได้ มิคกี้รีบขึ้นทันทีแต่ก็ไม่ทันได้ขึ้น เพราะกำนันบุญมีที่ยืนอยู่หน้าบันได้พูดขึ้นก่อน
“ล้างตีนด้วย”
“ไม่เห็นมีตุ่มเลย”มิคกี้มองไปรอบๆ
“ก็อ่างน้ำตรงตีนมึงนะ”
มิคกี้หันไปมองด้านข้าง เขาก็เห็นอ่างน้ำที่ตรงกลาง เป็นสี่เหลื่ยมยื่นออกมา มิคกี้ไม่รู้จะทำอย่างไง เขาเลยหันไปมองเกรทที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“ล้างอย่างไงเกรท”มิคกี้ใช้สายตาที่เว้าวอนอย่างมาก
“นายนี่นับวันจะยิ่งเพี้ยนหนักขึ้นทุกที”เกรททนไม่ได้เลยก้าวเท้าไปเหยียบ ตรงกลางอ่างและใช้เท้ากวักน้ำขึ้นมาล้างจนสะอาด หลังจากนั้นก้าวเท้าออกมาและเช็ดผ้าที่วางไว้ ก่อนที่จะขึ้นบันไดไปบนบ้าน มิคกี้จึงทำตามอย่างเกรททุกอย่าง หลังจากนั้นเขาจึงตามเกรทขึ้นไปบนบ้าน
“ไหนพ่อ ทำอะไรให้ผมบ้าง”
“เกือบทุกอย่างที่มึงขอนั่นแหละ กูต้องเกณฑ์คนนับสิบมาทำให้มึง”
“ขอบคุณมากครับพ่อ”มิคกี้ยกมือไหว้กำนันบุญมี
“รีบเข้าไปดูเถอะลูก ถ้าไม่ถูกใจหรือต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บอกอานกได้เลยนะ”จันทราพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ครับแม่”มิคกี้ยกมือไหว้ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปในห้องของเขา โดยมีเกรทเดินตามไม่ห่าง เพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่า กำนันบุญมีได้ทำอะไรให้ต่อไว้บ้าง
เมื่อมิคกี้เข้ามาภายในห้องของต่อแต่เดิม แต่ปัจจุบันเป็นของเขา สิ่งแรกที่เขามองหาคือโน๊คบุ๊คแต่ไม่มี สิ่งที่เขาเห็นกับเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ พร้อมเครื่องปริ้นตัวอย่างใหญ่
“ชอบไหมต่อ”อานกของต่อพูดขึ้น เมื่อเขาเห็นมิคกี้ในร่างต่อเดินไปดูคอมพิวเตอร์
“โน๊ตบุ๊คไม่มีเหรอครับ ใช่อานกไหม”
“ไม่เจอกันอาทิตย์หนึ่งจำอาไม่ได้แล้วเหรอ”
“พูดเล่นครับอา โน๊ตบุ๊คล่ะ”
“ไม่มีขายหรอก ตั้งโต๊ะนี่ก็หรูแล้ว”
“ก็ได้ครับ แล้วได้ติดตั้งไวไฟไหมครับ”
“ไวไฟอะไร”นกมีสีหน้าที่งงพอสมควร
“ก็อินเตอร์เน็ตไร้สายไงอา”
“อ๋อ ไม่มีนะ มีแต่สายใช้สัญญาณโทรศัพท์บ้าน แต่ติดตั้งยังไม่ได้หรอก”
“ทำไมไม่ยังติดตั้งไม่ได้ครับ เพราะนี้มัน พ.ศ.2567 แล้วนะ”
“หกเจ็ดอะไรปีนี้พึ่งสามแปด”นกพูด
“ลูกพี่เป็นอะไรเมื่อเช้าก็เถียงกับผมอยู่เลย”
“ช่างมันเถอะ จะพ.ศ.อะไรก็ไม่สำคัญ ได้แค่นี้ก็ดีแล้วครับ”มิคกี้เสียงอ่อยด้วยความผิดหวัง
“มีอะไรอยากให้อาทำเพิ่มให้ไหม บอกอาได้นะไม่ต้องเกรงใจ”
“ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกครับ ถ้าคิดออกแล้วผมจะบอกอานะครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรอากลับก่อนนะ นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย”
“ขอบคุณมากครับอา”มิคกี้ยกมือไหว้อานกของเขา ซึ่งนกก็แปลกใจอีกเหมือนกัน ว่าต่อนั้นเปลื่ยนไปมาก
“ไม่เป็นไรหรอกอาไปแล้วนะ ไก่เก็บของแล้วเอาไปไว้ที่รถด้วย”
“ครับอานก”ไก่เก็บของที่เหลือนิดหน่อย แล้วรีบตามนกออกไปนอกห้องทันที
“อย่าพึ่งดูอะไรเลยไปอาบน้ำกันเถอะ กางเกงเปียกแชะไปหมดแล้วเนี่ย”เกรทเอ่ยขึ้น
“เอ่อว่ะใช่ นายเลือกเสื้อกางเกงในตู้ใส่ได้เลยนะ คืนนี้นายจะนอนนี่หรือเปล่า”มิคกี้ถาม
“ก็นอนซิวะ เดี๋ยวเราโทรหาแม่ก่อนนะ”
“นายมีมือถือเหรอ”
“มือถืออะไรล่ะ เราจะใช้โทรศัพท์บ้านของนายโทรนี่แหละ”เกรทเดินไปยังที่โทรศัพท์บ้าน ที่พ่วงมาจากนอกบ้านที่อานกของมิคกี้ทำไว้ให้
มิคกี้มองดูเกรทใช้นิ้วแหย่ไปในรูหมายเลข หลังจากนั้นก็หมุนแล้วเปลื่ยนเลขใหม่ไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลานี้มิคกี้ค่อนข้างสับสนตัวเองว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เพราะแต่ละสิ่งแต่ละอย่างที่เขาเห็นมันช่างโบราณย้อนยุคไปยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว มิคกี้ยืนมองตาลอยและครุ่นคิดไปสารพัดเรื่อง
“เหม่ออะไร”เกรทเดินมาจ้องหน้ามิคกี้
“เปล่า อาบน้ำกันเถอะ”
“ไป”เกรทพูด
“นายอาบก่อนเดี๋ยวเราอาบทีหลัง”มิคกี้ยังไม่เลิกคิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา
“จะอาบก่อนอาบหลังอะไรก็อาบพร้อมกันนี่แหละ”
“ฮ่ะ”มิคกี้หันหน้ามามองเกรท
“อะไรของมึงวะหรือว่ามาอายอะไรตอนนี้”
“ไม่อายเลยไปอาบเลยตอนนี้แหละ”มิคกี้อมยิ้ม
มิคกี้ไม่รอช้าถอดเสื้อผ้าจนหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว หลังจากนั้นเขาเอาผ้าเช็ดตัวที่ซื้อมาใหม่มานุ่ง แล้วหันมาหาเกรทที่แก้ผ้าหมดเหมือนกัน ซึ่งเขาก็ไม่เห็นเกรทมีท่าที่อาย มิคกี้จึงยืนมองน้องชายน้อยๆของเกรท
“มองอะไรว่ะทำอย่างกับไม่เคยเห็นประสาท”เกรทหยิบผ้าขาวม้าของมิคกี้มานุ่ง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนมิคกี้
ส่วนมิคกี้ก็รีบตามเข้าไปในห้องน้ำทันที และสิ่งที่เขาต้องแปลกตาแปลใจ เพราะตุ่มน้ำนั้นได้หายไป มีอ่างอาบน้ำเข้ามาแทนที่ พร้อมกับฝักบัวเครื่องทำน้ำอุ่น
“พ่อกำนันเองนี่ใจถึงวะ ทำให้นายทุกอย่างที่ต้องการเลย เราอยากให้พ่อของเราเป็นแบบพ่อของนายบ้าง”
“เหรอ”มิคกี้จ้องมองไปที่ก้นของเกรทที่อวบอิ่ม
“ทะลึ่งนายมามองก้นเราทำไม”
“ไม่ได้ทะลึ่ง”
“พอเลยอาบน้ำได้แล้ว”เกรทเปิดฝักบัวหลังจากพูดจบ
มิคกี้นั้นยังไม่วางสายตาจากก้นอวบๆของเกรท เขาจึงค่อยๆเดินไปใกล้ๆเกรทเพื่ออาบน้ำด้วยกัน ในขณะเดียวกันมิคกี้ก็จับก้นของเกรท
“ไอ้ต่อ ถ้ามีงเล่นแบบนี้อีกกูจะเลิกคบมึงแล้วนะ”
“ก็ได้”มิคกี้ทำหน้าบูดใส่ หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจเกรทอีกเลย เพราะเขาต้องรีบอาบน้ำเพื่อที่จะไปดูสิ่งต่างที่กำนันบุญมีหามาให้เขาอย่างมากมาย ตามที่มิคกี้ต้องการทุกอย่าง
เมื่อมิคกี้กับเกรทออกมาจากห้องน้ำ มิคกี้ไม่ต้องหาเสื้อผ้าให้เกรทเลย เพราะเกรทจัดแจงหาด้วยตัวเองมาใส่ ยกเว้นกางเกงในที่เกรทไม่ใส่ของมิคกี้ ส่วนมิคกี้ก็รีบใส่เสื้อกางเกง หลังจากนั้นเขาก็เปิดแอร์ ต่อด้วยเปิดทีวีสียี่สิบเอ็ดนิ้วที่เครื่องใหญ่และหนามาก มิคกี้จึงกดดูช่อง17 แต่มิคกี้ก็อดแปลกใจไม่น้อย เพราะรายการทีวีที่ออนแอร์ ทั้งพิธีกรและแขกรับเชิญชื่อดังทั้งคู่ ทำไมยังดูหนุ่มและสาวกันอยู่เลย
ถึงแม้เกรทจะเรียนจบตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เพราะคนที่เขาผูกพันที่สุดนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ใจจริงต่อก็อยากที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศกับบิว แต่เขาหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งมิคกี้ตัวจริงจะได้กลับมา และตัวของเขาจะได้กลับไปสู่อดีตที่จากมา ต่อนั่งครุ่นคิดนิ่งอยู่พักใหญ่ จนพายัพเดินมาเห็นลูกชายที่นั่งนิ่งเชย เหมือนมีอะไรคาใจอยู่มากมาย “ลูกพ่อเป็นอะไรคิดถึงบิวเหรอ บอกให้ไปเรียนต่อกับบิวก็ไม่ไปเองนี่” “เปล่าครับ ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆครับ” “ลูกก็โตแล้วควรคิดได้แล้วว่าจะทำงานอะไร แต่พ่อก็ไม่ได้เร่งรีบให้ลูกทำงานหรอกนะพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยว่ากันก็ได้” “ครับพ่อ” “ทำไมลูกไม่ไปเที่ยวพักผ่อนสมองซะหน่อยล่ะ” “ไม่รู้จะไปเที่ยวไปหนครับ” “พอดีพ่อจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดไปกับพ่อไหม” “ไปก็ได้ครับ” “ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปเลย” “ครับพ่อ”ต่อพยักหน้ารับคำอย่างยินดี ต่อรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพ่อของเขาพามาที่วัด แต่ต่อก็ไม่ถามไถ่ผู้เป็นพ่อของเขาแต่อย่างใด จ
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมิคกี้นั้นกลับมาเยือนอีกครั้ง เขานั่งเฝ้าสุกี้อยู่ข้างเตียงที่ไม่แตกต่างกับหน่อยแม้แต่น้อย สุกี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง ในห้องที่สุกี้พักนั้นเป็นห้องรวม ซึ่งมีพ่อแม่และพี่สาวของสุกี้มาอยู่ด้วยตลอด “ขอบใจเรามากนะต่อ”พ่อของหน่อยพูดขึ้น ส่วนมิคกี้ในร่างต่อพยักหน้ารับคำ “แล้วคุณอาคิดไว้ว่าจะทำอย่างไรกับหน่อยครับ” “ทางเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้หน่อยไป เพราะยื้อไว้ก็ไม่มีทางรอดไม่ใช่ว่าอาไม่รักลูก ก็เพราะอารักลูกนี่แหละที่ต้องทำอย่างนี้” มิคกี้ไม่สิทธิอะไรในตัวหน่อย เขาจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ มิคกี้ได้แต่มองร่างของหน่อยที่มีสายระโยงระยาง แต่ภายในนั้นเป็นตัวตนของสุกี้ มิคกี้ไม่สามารถที่จะอดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างโดยเร็ว มิคกี้ปิดประตูห้องน้ำและพิงประตู เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงต่ำ จนก้นเกือบติดพื้นมิคกี้ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาของเขาได้หลั่งไหลพลั่งพลูออกมาอย่างไม่ขาดสาย มิคกี้ร้องไห้แท่บขาดใจ เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ “มิคกี้อยู่ในนั้นหรือเปล่า”เสียงชายหนุ่มดังขึ้น มิ
ด้วยความโกรธโมโหยูโรที่กระทำต่อมิคกี้ และแอบน้อยใจที่ยูโรมีใจให้มิคกี้ บิวจึงไปดักรอยูโรที่สนามฟุตบอล เมื่อยูโรออกมาจากสนามฟุตบอล บิวเดินเข้าไปหาทันทีและต่อว่ายูโรไม่ยั้ง “นายเป็นเพื่อนมิคกี้นะ ทำไมนายทำกับมิคกี้อย่างนั้น” “ทำอะไร” “ก็นายจะทำแบบนั้นกับมิคกี้นั่นไง” “แบบไหนบอกมาซิ”ยูโรมีสีหน้าที่กวนบิวพอสมควร “พูดตรงนี้ไม่ได้ต้องไปคุยในรถ” “ก็ได้ นายไม่ได้เอารถมาเหรอ” “เปล่า” “แผนสูงที่จะให้เราไปส่งแน่เลย” “ใช่” “ตามมา”ยูโรแสยะยิ้มแล้วเดินนำหน้าบิว เมื่อทั้งสองอยู่ในรถ บิวมองยูโรไม่ว่างสายตาเลย จนยูโรรู้สึกรำคาญ เพราะเขาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่อ้อนแอ้นและบอบบางซักเท่าไร “มองคนหล่อทำไม” “ยอมรับว่านายหล่อ แต่นายใจไม่หล่อ” “ไม่หล่อตรงไหน” “ก็คิดไม่ดีกับมิคกี้” “นายก็คิดไม่ดีกับเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายก็เป็นคนไม่ดีด้วย” “ถึงเราจะคิดไม่ดีกับนาย แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนายนี่ เพราะเรารู้ว่านายยังไม่ได้รักเรา” “รู้ก็ดีแล้ว
ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา มิคกี้และเกรทได้ปรับความเข้าใจกันพอสมควร จึงทำให้มิคกี้ไม่ค่อยได้มีเวลาไปหาสุกี้เท่าไรหนัก ในระหว่างที่มิคกี้และเกรทกำลังกินข้าวกันพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ขัดจังหวะทั้งสอง “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อย่างสนุกและออกรสชาติ “ใครกัน”มิคกี้อารมณ์เสียทันที “เดี๋ยวเราไปเปิดดูก่อนนะ”เกรทเดินไปเปิดประตูทันที “มิคกี้ อ้าวเกรท”สุชาดามองเข้าไปข้างในเพื่อดูมิคกี้ “มีอะไรสุชาดา”มิคกี้ลุกขึ้นยืน “หน่อยเป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนซึมเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี”สุชาดามีสีหน้าที่วิ ตกกังวลอย่างหนัก “เดี๋ยวเราขึ้นไปดู”มิคกี้รีบเดินไปที่ประตูหาสุชาดา แต่เขาก็ผ่านหน้าเกรท “เดี๋ยวเรามานะ ไปดูสุกี้ก่อน”มิคกี้หันมาพูดกับเกรท “ฮือ”เกรทพยักหน้า เกรทมีสองความรู้สึกทั้งสงสารและแอบหึงสุกี้ ที่ได้ความรักจากมิคกี้ ส่วนตัวเกรทเขานั้นไม่แน่ใจว่ามิคกี้คิดเช่นไร เมื่อมิคกี้กับสุชาดามาถึงที่ห้องของสุกี้ ก็ต้องพบสภาพสุกี้นอนซมไม่ได้สติ มิคกี้เขย่าร่างก็ไม่ขยับเขยื่อน ร่างกายของสุกี้นั้นซี
ต่อนั้นไม่สามารถที่จะเรียนและเข้าใจเนื้อหาในตำราเรียนได้ เพราะมิคกี้อยู่ถึงปีสามคณะบริหารธุรกิจ เขาจึงต้องให้บิวเพื่อนรักมาติวสอนที่บ้านอยู่เป็นประจำ และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องมีการทำรายงานส่ง บิวจึงต้องมาช่วยเพื่อนรักไม่งั้นต่อในร่างของมิคกี้อาจเรียนไม่จบ บิวช่วยต่อทำรายงานจนเกือบสี่ทุ่มถึงเสร็จ ซึ่งทำให้ต่อนั้นซึ้งในน้ำใจบิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหน้าตาออกแนวน่ารักสดใจ ต่อจึงมีใจให้บิวจนสุดหัวใจ “เสร็จซะทีเนาะ”บิวบิดขึ้เกียจ “ใช่ เสร็จซะที ถ้าไม่ได้นายเราคงแย่แน่เลย” “เราก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน ทำกับเด็กพึ่งอยู่ปีหนึ่ง นี่จะจบการศึกษาแล้วนะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย” “เรามันโง่ไง ฉลาดสู้บิวก็ไม่ได้” “ไม่ต้องมาชมให้เปลืองน้ำลายเลย” “ชมก็ไม่ได้ ถ้างั้นไปหาอะไรกินข้างล่างไหม” “ไม่ไปหรอก อยู่บนห้องนี้แหละกลัวนางยักษ์” “นายนี่ร้ายว่าแม่เลี้ยงเราอีก” “หรือว่าไม่จริง” “ก็จริงน่ะซิ อย่าพูดเรื่องอื่นเลย บิวไปอาบก่อนเถอะ เราจะได้นอนกันซะที เราง่วงนอนมากเลยรู้ไหม” “จร้า” บิวรับคำแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อจนเผยเห็นผิวกายที่ขาวใสออร่ากระจาย ต่อจ้องมองอย่างหื่นกระหา
ต่อในร่างของมิคกี้จำเป็นต้องไปเล่นฟุตบอลการกุศลที่ต่างจังหวะ เพราะบิวปฏิเสธท่าเดียว ถึงจะชอบยูโรแค่ไหนบิวก็ไม่สามารถที่จะไปเล่นฟุตบอลได้ ต่อจึงจำเป็นต้องไปเล่นแทนมิคกี้ ซึ่งความสามรถของต่อนั้นก็ยังพอไหวเล่นได้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นเทพอย่างมิคกี้ที่ฝึกซ้อมมาตั้งเด็ก และการแข่งขันในครั้งนี้มิคกี้ลงได้แค่ครึ่งแรก เพราะครี่งหลังเปลื่ยนตัวพักยาว ผลการแข่งขันทีมของมิคกี้แพ้ราบคาบ ถึงจะไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัด แต่ละคนนั้นล้วนเป็นลูกหลานไอโซคนร่ำรวย ที่พักต้องอยู่ในโรงแรมสุดหรู และต่อก็ได้พักห้องเดียวกับยูโร ซึ่งก็ได้สร้างความพึ่งพอใจให้ยูโรอย่างมาก ส่วนตัวต่อก็เฉยๆเขาไม่กลัวยูโร หรือคิดว่ายูโรจะทำอะไรเขาแบบเกรท “วันนี้นายเป็นอะไรฝีมือตกไปเยอะ” “เราก็เล่นประมาณนี้อยู่แล้วนะ”ต่อนั่งกดมือถือดู เพราะช่วงนี้ต่อติดโทรศัพท์มือถือมาก “มิคกี้นายนี่ระดับนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัยเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่ฝีเท้านายจะมีอยู่แค่นี้”ยูโรสงสัยและจ้องมองต่ออย่างใคร่พิจารณา “มองอะไร”ต่อมองกลับ “ก็มองนายนั่นแหละ” “มองทำไม มีอะไรให้น่ามอง” “ไม่มองก็ได้อาบน้ำดีกว่า”ยูโรถอดเสื้อฟุตบอลออก หลังจากนั้นถอดกางเกงออ