หลังหัวหน้าคอมมูนส่งสัญญาแยกบ้านให้ เถียนเมิ่งขอพ่อแม่สามีในการสร้างบ้านหลังใหม่ในที่ดินของบ้านฉิน มันมีพื้นที่เหลือด้านหลัง และเธอรู้ดีว่ามันเป็นการเอาเปรียบอีกสองบ้านที่เหลือ แต่เถียนเมิ่งได้ยื่นข้อเสนอ
"ฉันจะให้เงินบ้านใหญ่ บ้านรองบ้านละหนึ่งรอยหยวน แลกกับที่ดินที่เหลืออยู่ หรือจะให้ฉันไปซื้อที่ดินคนอื่น แบบนั้นถ้าพวกเขาต้องการที่ดินคืนฉันคงต้องขาดทุนแน่ ๆ" เพราะยังไม่มีการค้าเสรี เถียนเมิ่งจึงเลือกที่ดินของบ้านฉินในการสร้างบ้านใหม่ อีกทั้งคนบ้านฉินจะได้ไม่ต้องไปแอบดูบ้านของเธอหากย้ายออกไปเพียงเพราะห่วงหลานชาย "จริง ๆ แล้วที่ดินข้างบ้านน้องชายสามเป็นคนซื้อ ถ้าน้องสะใภ้ต้องการสร้างบ้านพวกเราก็ไม่ได้ว่าอะไร" พี่ชายใหญ่ฉินออกความเห็น "แต่ว่าการสร้างบ้านมันไม่ได้ใช้เงินน้อยเธอมีเงินหรือ" "มีค่ะ" "เจ้ารองว่าอย่างไร" พ่อฉินถามลูกชายอีกคน ถ้าน้องชายได้ที่ดินไปแล้วพี่ชายที่เหลือต้องตัดสินใจ ลูกชายคนโตไม่เท่าไหร่เพราะจะต้องดูแลพ่อแม่ ลูกชายคนรองนี่สิ "เหมือนที่พี่ใหญ่บอก ที่ดินเป็นน้องชายสามที่ซื้อเดิมทีเขาตั้งใจจะสร้างบ้านใหม่อยู่แล้ว" "สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง" "ฉันไม่ได้ว่าอะไรคะ อยากสร้างก็สร้างไปสิ" "ใช่ค่ะ แต่ว่าห้องนอนของบ้านสามหากย้ายออกไปแล้วฉันขอให้เจียหนิง เจียหนานได้ไหมคะ พวกหล่อนควรมีห้องส่วนตัวได้แล้ว" สะใภ้รองออกความเห็นพร้อมขอห้องนอน สมาชิกบ้านใหญ่มีห้าคนแต่แออัดในหนึ่งห้อง และมีลูกสาวที่โตเป็นสาวแล้ว ลูกชายยังเล็กไม่เป็นอะไร สมาชิกบ้านรองมีสี่คนและลูกสาวสองคนโตแล้วการนอนร่วมห้องกับพ่อแม่จึงควรแยกห้อง เพียงแต่บ้านไม่มีห้องนอนและไม่ได้ต่อเติมหลังสะใภ้สามแต่งเข้ามา น้องชายสามไม่ได้ขี้เหนียวกับคนในบ้าน แต่ว่าภรรยาของเขาไม่ใช่ ปกติครอบครัวไหนที่ยังไม่แยกบ้านเงินที่หามาได้จะเข้ากองกลางทั้งหมด ก่อนมีลูกเถียนเมิ่งยินยอมพอมีลูกชายหญิงสาวสามารถกำทุกอย่างไว้ในมือได้ ไม่อย่างนั้นบ้านฉินคงมีห้องนอนเพิ่มแล้ว “ได้" เถียนเมิ่งพยักหน้าและนำเงินสองร้อยหยวนนั้นให้กับบ้านใหญ่บ้านรอง ถึงสามีของเธอจะเป็นคนซื้อแต่นั่นถือว่าเป็นเงินกองกลาง อีกทั้งคนอื่นจะหาว่าพ่อฉินแม่ฉินลำเอียง บ้านใหม่ที่สร้างขึ้นเถียนเมิ่งให้พี่ใหญ่ฉินติดต่อช่างรับเหมาให้ เธอต้องการสร้างบ้านสี่ห้องนอน ห้องของเธอกับสามี ห้องที่เหลือจะเป็นห้องส่วนตัวของลูกชาย ปล่อยให้พี่ใหญ่ฉินติดต่อช่างรับเหมาให้ เถียนเมิ่งกำลังเตรียมต่อ เธอจะเข้าป่าไปหาปลาในน้ำที่เหมือนจะเคยได้ยินว่ามีปลาเยอะ และพาลูกชายกับหลานสาวอีกสองคนไปด้วย "ฉินหลัน ฉินเจียหนิงเสร็จหรือยัง" "เสร็จแล้วค่ะอาสะใภ้สาม" เป็นฉินเจียหนิงที่เดินออกมาจากทางหลังบ้านพร้อมตะกร้าด้านหลัง "อืม" เถียนเมิ่งมองลูกชายทั้งสามในชุดที่รัดกุมเพราะกลัวยุงกัด ทั้งสามจะตามเธอเข้าป่าด้วย วันนี้แม่สามีไม่อยู่บ้านไปเก็บข้าวโพดจะทิ้งลูกชายไว้บ้านเธอก็ไม่กล้า ชาวบ้านในชนบทไม่ได้มีเงิน และด้วยจำนวนสมาชิกที่เยอะจนเกินไปหากไม่หาของป่าเห็นทีว่าจะอดตาย แต่ว่าการเข้าป่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเพราะเป็นเขตหวงห้าม แต่ว่าถ้าไม่เข้าก็ตายเข้าก็ตายจึงเลือกที่จะเข้าไปดีกว่า และชาวบ้านส่วนมากไม่กล้าเข้าไปด้านใน จะเข้าไปรอบนอกกันมากกว่า วันนี้เถียนเมิ่งพาหลานสาวและลูกชายเข้าไปยังป่าด้านใน เธอเดินตามสายน้ำที่ไหลไปจนได้ระยะหนึ่งถึงหยุดเดิน และวางของลงบริเวณหนึ่งที่ไม่ค่อยรก "ฉินเจียหนิงรออาสะใภ้กับน้องชายที่นี่ อย่าเข้าใกล้น้ำหาผักป่าได้แต่อย่าไปไกล และดูแลน้องชายด้วย" ในคนที่มาด้วยกันมีเธอและหลานสาวใหญ่ที่สูงกว่าคนอื่นน่าจะลงน้ำได้ “ค่ะ" เด็กสาวรับคำอย่างจริงจัง เฝ้ามองน้องสาวทั้งสามอย่างไม่คลาดสายตา "ไปกันเถอะฉินหลัน" เถียนเมิ่งเอ่ยบอกหลานสาวคนโต ก่อนจะใช้เสียมขุดบริเวณพื้นดินที่ชื้นใกล้ลำธารเพื่อหาเหยื่อล่อปลา แต่ก่อนเธอไม่มีความรู้เรื่องนี้แต่พอได้ทำงานการเกษตรเธอจำเป็นต้องลงมือเองหลาย ๆ อย่าง ถึงขั้นชำนาญก็ว่าได้ "อาสะใภ้สามคะ พวกเราจะจับปลาได้จริง ๆ หรือ พ่อของฉันเคยมาจับปลาได้กลับไปแค่ครั้งละตัวเท่านั้น เขาบอกว่าปลาที่นี่ว่ายเร็วมาก" ฉินหลันถามด้วยความแปลกใจและอดที่จะคิดไม่ได้ว่ามันเสียเวลา สู้เอาเวลานี้ไปหาของป่าดีกว่า "รอดู"ฉินชุนชุนเป็นหลานสาวคนเล็กของบ้านเธอมีใบหน้าที่ไม่ได้สวยมากแต่คนอื่นมองว่าเธอเป็นเด็กสาวที่น่ารัก ทำให้พี่ ๆ และผู้ชายในบ้านฉินต่างหวง ผู้ชายแทบไม่เคยได้เดินเฉียดใกล้ และยังเป็นเด็กสาวที่ติดพ่อกับพี่ชายมากนี่จึงทำให้ทั้งสี่คนต่างชอบ ฉินซ่งหลงยิ้มให้ลูกสาว "แน่นอนว่าเสร็จแล้ว พ่อขอเก็บของพวกนี้อีกหน่อยพวกเราจะออกไปแล้ว" เพราะเอกสารพวกนี้ตรงส่งตอนเช้าและคาดว่าพรุ่งนี้คงตื่นสาย หากไม่ทำวันนี้คงทำเสร็จไม่ทัน "คนงานกินเลี้ยงกันหรือยัง บอกพวกเขาว่ากินให้อิ่มไม่อิ่มสั่งอาหารเพิ่มได้ ค่าใช้จ่ายแม่ออกเองทั้งหมด" เถียนเมิ่งบอกลูกสาว ด้วยจำนวนคนงานและพนักงานที่เกินสามร้อยคน ทำให้เธอจ้างร้านอาหารอื่นมาทำอาหารให้ "บอกแล้วค่ะ" "ปะ พวกเราไปกันเถอะ" หน้าบ้านฉินมีสมาชิกของบ้านฉินนั่งเล่นกันอยู่ ถึงแม้ว่าทุกบ้านจะแยกบ้านกันแล้วแต่ว่ายังเป็นครอบครัวเดียวกัน มีบ่อยครั้งที่จะมาร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน หรือไม่ก็จะไปรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ เพราะพ่อฉินนั้นอายุเข้าเลขเจ็ดแล้วไม่อยากให้เดินไปไหนบ่อย แต่วันนี้มันต่างออกไปตรงที่มีการเลี้ยงคนงานด้วย เ
"ใช่ครับ เนื่องจากในตอนนี้ราคาของดอกไม้สูงเพราะมีการเพาะปลูกที่ยาก หากปล่อยสินค้ามากเกินไปจะทำให้ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง" ฉินซ่งหลงพูดเสริม เขาอธิบายเฒ่าแก่หวังไปแล้วแต่ก็ยังเรียกภรรยาเข้ามาช่วย "นั่นมันก็จริง ทำสัญญากันเถอะ!" ในเวลานี้เฒ่าแก่หวังนึกขอบคุณตนเองที่นำเมล็ดพันธุ์ดอกไม้มาให้ไร่เมิ่งชุน เพราะเวลาผ่านไปเพียงสองปีผลผลิตที่ได้ออกมานับว่าเกินคาดมาก เนื่องจากดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่นักวิทยาศาสตร์ต่างใช้ทดลองยา แต่หลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครปลูกได้ ถึงรับมาในราคาที่สูงเขาก็ขายออกในราคราที่สูงได้เช่นเดียวกัน ในเมื่อทั้งสองฝ่ายรู้สัญญาแล้วจึงเซ็นสัญญาและจ่ายเงินสินค้าทั้งหมดหนึ่งปี นั่นทำให้เถียนเมิ่งยิ้มแก้มปริเนื่องจากดอกไม้ชุดแรกขายออกไปได้มหาศาล มากแค่ไหนก็คงสามารถจ่ายเงินเดือนให้คนในไร่ได้เป็นปีฉินซ่งหลงเป็นคนจัดการเรื่องสัญญาเพราะเขาเป็นผู้บริหารถึงแม้ว่าภรรยาจะเป็นคนที่ควรมีสิทธิ์มากกว่าก็ตาม แต่เถียนเมิ่งต้องการดูแลเบื้องหลังและดูแลลูก ๆ หลังทำการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว เถียนเมิ่งประกาศขึ้นเงินเดือนให้กับทุกคนภายใต้ธุรกิจของไร่เมิ่งชุนคน
เถียนเมิ่งยังสร้างสำนักงานเพื่อการติดต่อที่สะดวกมากขึ้น คนที่เข้ามาทำงานในนี้ล้วนเคยเรียนในโรงเรียนมาก่อนยกเว้นสะใภ้บ้านฉินที่มีตำแหน่งสูงกว่าคนอื่น มีเจ้าหน้าที่ถึงสิบสามคนที่จัดการให้ ทั้งเรื่องบัญชี ภาษี ความขัดข้องต่าง ๆ และทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงปีกว่า ๆ เท่านั้น พอขยายไร่มากขึ้นรายได้ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ฉินซ่งหลงปรึกษาที่จะซื้อรถหกล้อเข้ามาช่วยขนผักและอื่น ๆ เพื่อความสะดวก เถียนเมิ่งเห็นด้วย เงินสำรองของไร่ที่เก็บเอาไว้จึงใช้จ่ายไปครึ่งหนึ่งเพื่อให้ได้รถหกล้อหนึ่งคันกับรถยนต์อีกหนึ่งคัน ทั้งสองเป็นสินค้ามือสองที่สภาพยังดีอยู่เพราะทำงานหนักมาหลายปีจึงมีเส้นสายในการซื้อรถได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่หาซื้อยากมากจึงได้ใช้แค่จักรยานมาหลายปี ต่อให้ไร่และร้านอาหารเมิ่งชุนขยายใหญ่จนมีคนงานจำนวนมากแต่คุณภาพไม่น้อยลงเลย เถียนเมิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มากถ้าเกิดผิดพลาดเพียงจุดเดียวทุกอย่างต้องหยุดชะงักเพื่อหาสาเหตุ นี่จึงทำให้ลูกค้าเก่าเชื่อใจสินค้าของไร่เมิ่งชุนเป็นจำนวนมาก มีการสั่งซื้อสินค้าวันละไม่ต่ำกว่าห้ารถหกล้อ ที่ยังไม่รวมกับลูกค้าที่เข้ามารับเองอีก
"มีครับ คุณครูบอกว่าวันนี้เป็นการบ้านวันสุดท้ายแล้ว เพราะอีกสองวันเป็นวันปิดภาคเรียนแล้วครับ" เถียนเมิ่งยิ้มเธอวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะก่อนจะขอดูการบ้านของลูกชาย "อืม เป็นการบ้านที่ลูกทำเมื่อวานนี้เอง ยังจำกันได้ไหมหรือจะให้พ่อสอน" "พ่อสอน!" ฉินชุนหลง ฉินชุนหยางรีบบอก “ได้" ฉินซ่งหลงมีความรู้เรื่องหนังสือมากเนื่องจากเขาเป็นทหารจึงได้เรียน เถียนเมิ่งก็มีสอนลูกชายบ้างแต่ส่วนมากจะเป็นสามีที่ได้สอน เพราะชุนชุนน้อยติดแม่มากเวลานี้ "พ่อเก่งมาก!" ใช้เวลาเพียงไม่นานการบ้านของเด็ก ๆ ก็เสร็จแล้ว อีกไม่กี่วันจะปิดภาคเรียนไม่แปลกที่มันจะน้อย "ไหน ๆ แล้ว ทำขนมกันหรือไม่ พรุ่งนี้ลูกเอาไปแจกเพื่อนที่โรงเรียน" "ทำขนม!" ฉินชุนชุนพยักหน้า "ฮ่า ๆ ไปกันเถอะ" ขนมที่เถียนเมิ่งพาลาลูกชายทำคือเค้กกล้วยที่ดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุดิบที่มี และที่บ้านมีเตาอบดินเล็ก ๆ เอาไว้ทำขนมด้วย แต่ว่าวันนี้เค้กกล้วยที่ทำไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก ฉินชุนหลง ฉินชุนหยาง ฉินชุนซาง แต่ละคนเคยเข้าครัวมาช่วยแม่ทำขนมกันหลายครั้งและทำครัวเละทุกครั้งอย่างเช่นในวันนี้
"เจ้าใหญ่ เจ้ารอง เจ้าสาม" "แม่!" เจ้าแฝดประสานเสียงแต่ละคนล้วนทำตัวไม่ถูก "มีอะไรโวยวายกันทำไม แม่กับคนอื่นทำอาหารอยู่ได้ยินเสียงนานแล้ว" เถียนเมิ่งหรี่ตามองลูกชายทั้งสามอย่างจับผิดฉินชุนหลงถูกน้องชายดันหลังก็โมโหแต่ต่อหน้าแม่ถ้าเขาว่าน้องต้องถูกลงโทษแน่ ๆ "คะ...คือว่า ผม ผมอยากนอนกับคุณย่าครับ ให้พวกผม นอนที่นี่ได้ไหม" "ผมด้วย" "ผมด้วย" "ถามคุณย่าหรือยัง" "ถามแล้วครับ คุณย่าบอกให้ถามแม่" "เอาสิ" "เย้!" เถียนเมิ่งส่ายหน้าเมื่อเห็นท่าทีของลูกชายที่กระโดดอย่างดีใจ ตั้งแต่ย้ายบ้านไปอยู่บ้านใหม่เด็ก ๆ ไม่ค่อยได้มานอนที่บ้านฉินมากนัก เพราะเธอเกรงใจพี่ชายพี่สะใภ้ของสามี แต่เมื่อเห็นเด็ก ๆ รักปู่กับย่ากำให้เธออมยิ้มบางเบา ผู้ใหญ่บางคนก็สมควรได้รับความกตัญญู...ร้านอาหารเมิ่งชุนถูกขยายใหญ่เพื่อให้รองรับลูกค้า เพราะเถียนเมิ่งยังไม่คิดที่จะเปิดร้านสาขาใหม่เร็ว ๆ นี้ ในเมื่องานยังล้นมืออยู่นั่นหมายความว่าหากเธอขยายสาขาก็แทบไม่ได้พัก ในตอนนี้รอเพียงสองสาวโตขึ้นมากกว่านี้ และรับพนักงานเพิ่มอีกหลายคน
"ฉันได้ใช้ชีวิตใหม่และเมื่อโตขึ้นจึงคิดได้ว่าสิ่งที่ฉันทำในอดีตนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ใช้ชีวิตด้วยความโดดเดี่ยว" น้ำตาที่้กลั้นเอาไว้ไหลออกมา "และได้รับโอกาสให้ย้อนกลับมาก่อนจะแยกบ้านเพื่อเริ่มต้นใหม่" เสียงสะอื้นของภรรยาทำให้ฉินซ่งหลงที่กำลังอึ้งต้องดึงภรรยาเข้ามากอด "ช่างมันเถอะครับในเมื่อคุณกลับมาแล้วเรื่องอื่นผมไม่ได้สนใจ ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนผมก็รักเพียงคุณเท่านั้น" "ค่ะ" เถียนเมิ่งพยักหน้าแต่ว่า "ดูเหมือนคุณจะไม่ได้ตกใจเท่าไร" "ตั้งแต่ที่บ้านติดต่อเรื่องแยกบ้านผมก็สงสัยแล้ว ยิ่งกลับมาที่บ้านคุณเปลี่ยนไปรวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ที่ไม่พูดเพราะคิดว่าเมื่อไหร่คุณอยากพูดคุณจะพูดเอง" "ขอบคุณค่ะ" ที่เถียนเมิ่งไม่พูดเพราะเธอไม่ต้องการให้สามีมองเธอไม่เหมือนเดิม หากในวันนี้เขาไม่บังเอิญเดินเข้ามาเธอก็คงจะปิดบังเขาเอาไว้ตลอด แต่วันนี้เขารับได้เถียนเมิ่งจึงโล่งอกไม่น้อย "เข้าไปดูร้านอาหารกันไหมครับ เมื่อวานหลานสาวบอกลูกค้าเยอะเผื่อต้องการพนักงานเพิ่ม" "ไปค่ะ" เถียนเมิ่งอยากเข้าไปดูร้านพอดีจึงตกลงที่จะไป ให้สามีไปบอกแม่