"คุณย่า คุณแม่ ป้าสะใภ้รอง ออกไปเก็บเกี่ยวข้าวโพดค่ะ เด็ก ๆ ทุกคนออกไปข้างนอก มีเพียงฉันที่คุณย่าให้ดูแลน้องชาย" ฉินหลันไม่ได้กลัวผู้เป็นอาสะใภ้สามเท่าไหร่ อาจเพราะความคุ้นชินและรู้ว่าควรทำตัวแบบไหน
"อืม" เถียนเมิ่งลุกออกจากโต๊ะกินข้าว ปล่อยให้หลานสาวเก็บกวาด ส่วนเด็กทั้งสามวิ่งเล่นหน้าบ้าน เธอมองไปรอบ ๆ พื้นที่ของบ้านฉินสามารถสร้างบ้านได้อีกหลัง และมีพื้นที่เหลือใช้แต่เพราะไม่ได้มีเงินจึงไม่ได้สร้าง บ้านสามของพวกเธอยังไม่ได้แยกบ้าน แต่เถียนเมิ่งใช้สิทธิ์สะใภ้ที่ไม่มีใครกล้าต่อว่าในการรับเงินเดือนของสามี อีกสองครอบครัวที่ไม่มีลูกชายไม่ค่อยมีปากเสียง แต่สองปีมานี้สะใภ้ใหญ่ให้กำเนิดลูกชายจึงมีปากเสียงบ้าง อาจจะเป็นความโชคดีที่เถียนเมิ่งโมโหร้าย เรื่องสะใภ้ในบ้านจึงไม่เป็นเหมือนบ้านอื่นที่มีแม่สามีจุกจิก แต่เป็นแม่สามี สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รองที่ต้องเหนื่อยกับสะใภ้เล็กของบ้านแทน "แยกบ้าน!" ทุกคนประสานเสียงด้วยความตกใจ ที่เถียนเมิ่งบอกว่าต้องการแยกบ้านหลังเลิกงานในแปลงนา แม่ฉินกลัวว่าหลานชายจะอดตายจึงรีบพูด "สะใภ้สามคิดดีแล้วหรือ" เพราะยังไม่แยกบ้านพี่สะใภ้ทั้งสองคนมองข้ามกันไปได้ แต่ว่าถ้าแยกบ้านกันแล้วยังช่วยดูแลหลานชายทั้งสาม ภายในบ้านจะมีปัญหากันเอาได้ "ใช่ ในอนาคตลูกชายทั้งสามจะโตขึ้น พวกเขาต้องแต่งเมีย จะให้มาทนอยู่รวมกันแบบนี้ฉันทำไม่ได้หรอกนะ" เถียนเมิ่งบอก สามีของเธอไม่ใช่ลูกชายคนโตที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่จึงคิดว่าควรแยกบ้านตั้งแต่ตอนนี้ พ่อฉินไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องภายในบ้าน แต่เด็กแฝดทั้งสามคือหลานชายของเขา "ลูกสะใภ้เด็กตั้งสามคนเธอจะดูแลคนเดียวไม่ไหว รอสามีของเธอกลับมาก่อนดีหรือไม่" หลายคนต่างเห็นด้วยกับคำพูดนี้ ทุกคนรู้ดีว่าเด็กทั้งสามเป็นอนาคตของบ้านฉิน หากมีพ่อสอนคงไม่น่าเป็นห่วงแต่นี่พ่อของเขาไม่ได้อยู่ด้วย ผู้เป็นแม่ก็ทำอะไรไม่เป็น "ฉันคิดดีแล้วค่ะ" การกลับมาของเธอในครั้งนี้เถียนเมิ่งต้องการแก้ไขทุกอย่าง และเธอต้องมีเงินที่จะเลี้ยงดูเด็กทั้งสามคนให้ได้ ถ้ายังอยู่รวมกันหากจะให้ลูกของเธอเรียนบางทีก็สงสารหลานสาว เพราะหลานชายได้ดีกว่าทุกอย่าง และเถียนเมิ่งรู้ดีว่าเพียงเธอเอ่ยปากทุกคนจะให้ลูกของเธอเรียนแน่นอน "เฮ้อ ได้ พรุ่งนี้พ่อฉินหลันไปตามหัวหน้าคอมมูนมาด้วยก็แล้วกัน" พ่อฉินบอกลูกชายคนโต การแยกบ้านในยุคสมัยนี้ส่วนมากจะต้องมีสัญญา "ครับ" เถียนเมิ่งพาลูกชายไปอาบน้ำหลังกินข้าวมื้อเย็นเสร็จแล้ว เด็กทั้งสามมีชุดใส่หลายชุดต่างจากหลานสาว คงเป็นเพราะพ่อของพวกเขามีเงินเดือนและเถียนเมิ่งฟุ่มเฟือย "แม่" ฉินชุนหยางกระตุกแขนเสื้อผู้เป็นแม่ "ทำไมพวกเราต้องแยกบ้านกันครับ ผมไม่อยากเป็นเหมือนเซี่ยลู่ที่พ่อกับแม่ของเธอแยกบ้านกัน" "ชุนหยางจ๊ะ นั่นไม่ใช่การแยกบ้าน ที่พวกเราแยกบ้านกันเมื่อโตขึ้นลูกจะรู้เอง" เถียนเมิ่งยิ้มเล็กน้อย "และอย่าได้ไปล้อสหายเพราะสหายจะเสียใจ" "ครับ" โชคดีที่เด็กพวกนี้ส่วนมากจะไม่ค่อยได้อยู่กับเธอจึงมีนิสัยที่ต่างกัน ฉินชุนหลงอาบน้ำเสร็จเป็นคนแรกเขาเช็ดตัวเสร็จยื่นให้น้องชายคนเล็กที่รอเช็ดตัวต่อก่อนใส่เสื้อผ้า ที่บ้านไม่ได้มีเงินมากมายเงินเดือนของสามีต้องใช้จ่ายค่าอาหารที่แบ่งให้หลานสาวทำ และเถียนเมิ่งยังเก็บไว้ อะไรใช้ด้วยกันได้ก็ใช้ไปก่อน ส่งลูกชายเข้าห้องนอนเสร็จเถียนเมิ่งได้เวลาอาบน้ำ ในตอนที่อาบมีน้ำในโอ่งอยู่แล้ว แต่พอเด็ก ๆ อาบน้ำหมดเธอต้องไปอาบน้ำที่แม่น้ำพร้อมคนอื่น ๆ "โอ้! ฉันต้องตาฝาดแน่ ๆ สะใภ้สามฉินมาอาบน้ำที่แม่น้ำ!" "นั่นสิ" "หล่อนผีเข้าอย่างนั้นหรือ! ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมาอาบน้ำที่นี่ เป็นคุณนายที่ต้องให้คนอื่นแบกน้ำไปให้" คนในหมู่บ้านเกินครึ่งที่ไม่ชอบเถียนเมิ่งแต่ว่าเธอไม่ได้สนใจ ผู้หญิงบ้านฉินอาบน้ำที่ไหนเธอก็ไปอาบด้วย แม้ว่าจะแปลกใจแต่ไม่มีใครไล่เธอออกจากลุ่ม "คงจะผีเข้าจริง ๆ หล่อนขอแยกบ้าน" "ห๊าา!" เท่านั้นคำพูดขอแยกบ้านของเถียนเมิ่งถูกพูดถึงไปทั่วหมู่บ้าน บางคำพูดถูกบิดเบือนความเป็นจริง เช่น สะใภ้สามฉินอาละวาดบังคับแยกบ้าน สะใภ้สามขี้เกียจพ่อสามีแยกบ้านให้ และมีเรื่องอื่นอีกมากมาย และความจริงมีเพียงไม่กี่ส่วนเท่านั้นแต่ก่อนมีอะไรเธอไม่เคยให้บ้านเถียนอย่างนั้นหรือ แต่งงานออกมาหลายปีมีอะไรบ้างที่ไม่เคยให้ พอไม่ให้สักครั้งกลับต่อว่าเธอเหมือนหมูเหมือนหมาสะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง มองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย สะใภ้สามแค้นฝังหุ่นจริง ๆ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องและช่วยทำอาหารเย็นวันนี้ หลานสาวในบ้านตามพ่อไปไหว้ผู้อาวุโส ที่บ้านจึงไม่มีผู้ช่วย ตกเย็นแต่ละบ้านนั่งรวมตัวกันในห้องโถง มีตะเกียงไฟจุดให้ความสว่าง อากาศไม่ค่อยเย็นจะเย็นอีกทีคือช่วงดึก อาหารวันนี้มีหลายอย่างและมีเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่ม "หมันโถววันนี้มีรสชาติเปลี่ยนไป สะใภ้สามเป็นคนทำหรือ" แม่ฉินหันมาถามลูกสะใภ้ "ค่ะ ฉันทำเอง" "รสชาติดีมาก"แม่ฉินเอ่ยชมอย่างใจกว้าง ไม่คิดว่าสะใภ้ขี้เกียจเปลี่ยนไปคนนี้จะทำอาหารอร่อยได้ขนาดนี้ อาหารวันนี้มีสิบสองอย่
เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวและบ้านจางออกมาบอกเพียงป่วยตายคนอื่นก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง และปล่อยมาตลอดยกเว้นเถียนเมิ่งที่รับรู้บางอย่างมา ทุกวันบ้านจางจะมีเสียงทะเลาะและเสียงตบตี อยู่ ๆ ก็เงียบก่อนวันต่อมาจะพบเป็นศพไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเป็นอะไร "ฉันจะไปปฏิเสธ!" สะใภ้ใหญ่รีบพยักหน้า ฉินหลันเป็นลูกสาวคนโตของหล่อนคงต้องคุยกันอีกที “ว่าแต่เธอรู้เรื่องในบ้านจางได้อย่างไร" "เมื่อวานสามีของฉันเล่าให้ฟังค่ะ" "แต่ว่าช่วงหลัง ๆ มานี้คนบ้านจางเสียชีวิตเยอะจริง ๆ ปีนี้สามคนแล้ว" แม่ฉินพยักหน้าและเอ่ยออกมาอย่างสงสัย "ช่างเถอะค่ะเรื่องบ้านอื่น อันที่จริงการแต่งงานควรเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่ ขอเพียงเด็ก ๆ รักกันคงไม่กล้าลงไม้ลงมือ สะใภ้ใหญ่เก็บไปคิดอีกที" เถียนเมิ่งมองหลานสาวที่เช็ดน้ำตาอ
"เข้าไปดูลูกที่ห้องหน่อยนะคะ ถ้าพวกเขาหิวให้กินผลไม้รองท้องไปก่อน ฉันแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบไปอุ่นอาหารไม่ต้องให้พวกเขาออกมาข้างนอก" "ครับ"ฉินซ่งหลงตอบรับก่อนจะสวมชุดหนาขึ้นแล้วก้าวออกจากห้องไปดูเจ้าแฝดตามคำสั่งภรรยาที่ตอนนี้ยังเหนื่อยอีกสักพักคงออกตามมา เข้าสู่กลางเดือนหิมะเริ่มตกและเถียนเมิ่งตื่นสายกว่าปกติในรอบปี หญิงสาวให้สามีออกจากห้องไปก่อนหลังจากนั้นถึงลุกมาเปลี่ยนชุดที่เปื้อนและนำออกไปซักท่ามกลางอากาศเย็น "สะใภ้สามวันนี้เธอตื่นสาย" สะใภ้รองทัก เถียนเมิ่งแค่ยิ้มบางๆ ไม่ได้พูดตอบอะไร "น้องชายสามออกไปวิ่งตั้งแต่เช้าทั้งที่อากาศเย็นแบบนี้ ทำไมไม่ให้เขาหยุดพักร่างกาย" "เขาไม่ฟังฉันค่ะ ตอนนี้เขาวิ่งได้ให้วิ่งไปแต่ว่าถ้าหิมะตกหนักกว่านี้คงต้องหยุดแล้ว" การเป็นทหารต้องฝึกความอดทน แ
ลำธารคือสถานที่แรกสำหรับการหาของป่า เถียนเมิ่งมีวิธีการจับปลาใหม่โดยการขุดหลุมและทิ้งเหยื่อเอาไว้ เช้าต่อมาที่มาดูมันมีปลาในหลุมหลายตัว "โอ้! มันเยอะถึงเพียงนี้" สะใภ้ใหญ่อุทาน "แน่นอนว่ามันเยอะมาก ปลาพวกนี้เอาไว้ก่อนพวกเราจะไปหาผักป่าและของป่าอื่น ๆ กลับไปด้วย" เถียนเมิ่งบอก เธอเห็นปลาในหลุมทั้งสามหลุม "ได้" ทั้งสามแยกย้ายกันไป เถียนเมิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่นแต่เวลาจะไปเอาอะไรเธอจะบอกพี่สะใภ้ก่อน "เดินตรงไปไม่ไกลจะมีป่าไผ่อยู่ ฉันจะไปขุดหน่อไม้เผื่อพวกเธอสนใจ" ถึงแม้ว่าเถียนเมิ่งจะได้ของป่าออกจากที่นี่บ่อย ๆ แต่คนในหมู่บ้านยังไม่มีใครกล้ามาแถวนี้ ทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์มากเมื่อเธอไม่ได้นำของออกไปหมด ปล่อยให้มันเจริญเติบโต ขุดหน่อไม้ไปด้วยเถียนเมิ่งยังได้ผลไม้ที่อยู่ในป่าอีกหลายอย่าง ขนุน ขิง ขมิ้น ข่า และของป่าอีกมากมาย สะใภ้ทั้งสองที่ตามมาได้เยอะไม่ต่างกันแต่มีของน้อยกว่า เมื่อถึงเวลามื้อกลางวันเธอหาที่นั่งกินก่อนหาของป่าต่อจนถึงเวลาที่ควรกลับ เถียนเมิ่งจัดตะกร้าเพื่อนำปลาเข้าตะกร้า ถ้าเอาถังมาด้วยมันจะดีกว่านี้มากเพียงแต่ถังมัน
การสร้างรั้วบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องซื้อไม้สำหรับการล้อม แต่ว่าด้วยค่าแรงและอาหารที่ทำเลี้ยงหมดไปสิบหยวนพอดี ถึงอย่างนั้นเถียนเมิ่งไม่ได้บ่นอะไร "สามีคะ ตอนนี้ลูกของเราห้าปีแล้วอีกสองปีถึงจะเข้าโรงเรียนได้ ฉันว่าจะให้เขาเข้าเรียนโรงเรียนประถมในตำบลนะคะ" เถียนเมิ่งกำลังทำอาหารและเอ่ยบอกสามีไปด้วย ในทุก ๆ เช้าเถียนเมิ่งจะตื่นก่อนคนอื่นเสมอและเป็นหลานสาวที่ตื่นหลังเธอทำอาหารเสร็จแล้ว ฉินซ่งหลงผู้เป็นสามีกำลังทำความสะอาดปลาที่หามาได้เมื่อวานนี้ เขาหันหน้ามามองหน้าภรรยา "การเรียนเด็กคนหนึ่งใช้เงินจำนวนมาก ตอนนี้พวกเราแยกบ้านแล้วและจะเรียนต้องเรียนทั้งสามคน" "ฉันรู้ค่ะ ก่อนเด็กทั้งสามเข้าโรงเรียนฉันจะคิดวิธีทางหาเงิน" หลังปีใหม่ไปจะมีการประกาศการค้าเสรีเถียนเมิ่งไม่คิดว่ามันจะยากอะไร "คุณจะทำอะไร สิ่งผิดกฎหมายหยุดความคิดไปได้เลย" ฉินซ่งหลงเป็นทหารหากครอบครัวทำสิ่งผิดกฎหมายและทางกองทัพรู้เขาจะถูกไล่ออกได้ เมื่อได้ยินคำพูดสามีเถียนเมิ่งสายหน้า เพราะเธอไม่มีความคิดอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่รู้อะไรขนาดนั้นถึงแม้ที่ผ่านมาจะทำตัวไม่ด
อาหารมื้อเช้าทุกคนได้รองท้องมาไม่มาก เพราะเถียนเมิ่งกลัวว่าจะไม่ทัน ก่อนจะไปซื้อของกลับบ้านจึงแวะเข้าร้านอาหารของรัฐที่ส่วนมากจะเป็นพนักงานในร้านต่าง ๆ มาซื้อ เนื่องจากต้องใช้คูปองและแน่นอนว่าเถียนเมิ่งเพิ่งได้รับมาจากสามี "อาสะใภ้สามคะจะดีหรือ" ฉินหลันลังเลเมื่อได้รับคูปองและเงินสองเฟินในการซื้ออาหารรับประทาน คิดว่าซาลาเปาข้างนอกลูกเดียวคงอิ่มแล้ว "ดีสิ ฉินหลันกว่าพวกเราจะกลับไปถึงหมู่บ้าน ถ้าโชคร้ายไม่ทันรถแทรกเตอร์ต้องเดินเท้า" ถึงคนขับจะบอกเวลากลับอีกสองชั่วโมงข้างหน้า แต่เถียนเมิ่งไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ "ค่ะ" ฉินหลัน และฉินเจียหนิงแทบร้องไห้เมื่อได้รับประทานข้าวขาวที่นาน ๆ ถึงจะได้กิน ข้าวขาวเป็นข้าวที่มีราคาและที่หมู่บ้านไม่นิยม ส่วนมากจะขายให้สหกรณ์หรือไม่เก็บไว้กินช่วงเทศกาลต่าง ๆ อย่างเช่นเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง นั่งรับประทานอาหารยี่สิบนาที สามคนอาสะใภ้หลานสามีเดินออกมาจากร้าน ดิ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่ขายอาหารต่าง ๆ รวมถึงของใช้สำคัญ "เดี๋ยวอาจะซื้อของแถวนี้ พวกเราไปซื้อของที่แม่ให้ซื้อเถอะ" เถียนเมิ่งบอกหลานสาว “ค