ตาข่ายที่มัดไว้เมื่อคืนถูกนำออกมาใช้งาน นำไปมัดรวมกับกิ่งไม้เป็นด้ามจับสองอัน นำเหยื่อปลาหรือที่เธอรู้จักว่าเป็นไส้เดือนโยนลงไปในน้ำที่ไม่ตื้นแต่ก็ไม่ได้ลึก รอจังหวะปลาโผล่มาเถียนเมิ่งรีบช้อนตักปลาด้วยตาข่ายทันที!
"ปลา!" ฉินหลันปรบมือด้วยความตื่นเต้น เพราะปลาตัวใหญ่กว่าที่เคยเห็น "อาสะใภ้สามเก่งจังเลยค่ะ! ให้ฉันช่วยนะคะ" ปลาตัวที่โชคร้ายถูกจับใส่ตะกร้าที่วางแช่น้ำเอาไว้ เถียนเมิ่งกลัวว่าถ้ากลับช้าปลาจะเน่าถึงได้ให้แช่น้ำเอาไว้ก่อน ระหว่างช้อนปลาไปก็มองฉินหลันไปด้วย เอาลูกเขาเข้าป่ามาด้วยต่อให้โตแล้วอันตรายก็เกิดขึ้นได้ เพราะหากหล่อนเป็นอะไรไปเธอจะไปพี่สะใภ้ใหญ่ได้อย่างไร "อาสะใภ้ค่ะฉันได้ปลาอีกแล้ว!" "อืม" เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมงสองอาสะใภ้หลานสาวจับปลาได้เป็นสิบตัว เถียนเมิ่งจึงชวนหลานสาวขึ้นไปพักก่อนจะกลับมาช้อนปลาอีก ขืนไม่พักมีหวังได้หน้ามืด ฉินเจียหนิงที่ดูน้องชายบนฝั่งเธอพาน้องชายทั้งสามเก็บของป่า มีทั้งผลไม้ป่าที่ติดมาด้วยแต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะมีเพียงเธอที่เก็บคนเดียว ส่วนน้องชายนั้นเล่นกันอยู่ "ได้ปลาเยอะถึงเพียงนี้" ฉินเจียหลันอุทานเมื่อเห็นจำนวนปลาในตะกร้า “ปลา! ผมชอบกินปลา!” แฝดทั้งสามเห็นปลาต่างปรบมือด้วยความดีใจก่อนจะบอกความชอบของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ เถียนเมิ่งมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มหัวใจรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก ชาตินี้เธอหมายมั่นว่าจะให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตที่ดี “ใช่" เธอตอบเด็ก ๆ ที่กำลังตื่นเต้น นั่งพักได้ครู่หนึ่งเถียนเมิ่งเดินหาของป่าและนำใบตองกลับมาด้วย พาหลานสาวช้อนปลาอีกไม่นานก็นำใบตองรองตะกร้าหลาย ๆ ชั้น นำปลาและน้ำใส่ไม่ให้ปลาตายก่อนจะถึงบ้านก็พาทุกคนกลับบ้าน เป็นเวลาเลิกงานของพวกผู้หญิงที่จะกลับมาทำงานบ้านและอาหารก่อนผู้ชาย เถียนเมิ่งไล่ลูกชายไปอาบน้ำส่วนเธอจัดการของป่าที่ได้มาในวันนี้ "ฉินหลัน ฉินเจียหนิงเอาถังมาใส่ปลา" เถียนเมิ่งเรียกหลานสาวมาแบ่งปลาที่ได้รับมา พวกเธอแยกบ้านกันแล้วและของพวกนี้ไปด้วยกันต้องแบ่ง ปลาถูกแบ่งไปบ้านละสิบตัวคละตัวเล็กตัวใหญ่บ้าง จริง ๆ ได้มาหลายตัวแต่เถียนเมิ่งจะนำที่เหลือไปทำปลาตากแห้งเก็บเอาไว้ค่อยแบ่งที่เหลือ "ขอบคุณค่ะ" "ไปไหนกันมา" เป็นสะใภ้รองที่เดินมายังหลังบ้านเมื่อนั่งพักหายเหนื่อยแล้ว "แม่คะ อาสะใภ้สามพาฉันกับพี่สาวใหญ่และน้องชายไปหาปลาในป่าค่ะ ได้มาเยอะเลย" ฉินเจียหนิงยกตะกร้าไปให้ผู้เป็นแม่ดู ปลาตัวเป็น ๆ กำลังหายใจอยู่ "โอ้ ทำไมถึงได้มาเยอะขนาดนี้!" เถียนเมิ่งไม่ได้ตอบเธอนำปลาขึ้นมาจัดการ วันนี้จะทำปลานึ่งขิงและซุปเนื้อปลาตุ๋น เครื่องปรุงมีเพียงเกลือกับซีอิ๊วแต่เธอสามารถทำให้มันอร่อยได้ ระหว่างรออาหารเสร็จรีบไปอาบน้ำล้างตัวก่อนจะมืด วันนี้เถียนเมิ่งไปอาบน้ำคนเดียวกลับมาอาหารพร้อมรับประทานแล้ว ตักใส่จานเอาไว้สองจาน ก่อนจะแบ่งไปให้พ่อแม่ของสามี "ฉันแบ่งให้ค่ะ" "ขะ...ขอบใจ" แม่ฉินมีสีหน้ามึนงง ไม่คิดว่าสะใภ้สามจะแบ่งอาหารมาให้ ไม่ต่างจากสองสะใภ้ที่เหลือ ปกติสะใภ้สามถ้าไม่อิ่มของพวกนี้จะไม่เคยตกมาถึงมือคนอื่น เมื่อเข้านอนแต่ละบ้านต่างนำเรื่องนี้มาพูด "สะใภ้สามเป็นคนนำอาหารมาให้ หล่อนจะมีแผนการในใจหรือเปล่า" พ่อฉินถามอย่างไม่สบายใจ แต่กลับถูกแม่ฉินโมโหแทน "หล่อนจะมีแผนการอะไร? ถ้าพูดแบบนี้จะกินเข้าไปให้ได้อะไร" สำหรับแม่ฉินเถียนเมิ่งเป็นสะใภ้ที่ดีเพราะมีหลานชายให้หล่อนทีเดียวถึงสามคน แตกต่างจากอีกสองบ้านที่เหลือแต่ก่อนพวกเธอจะถูกค่อนแขวะ แต่เมื่อสะใภ้สามถูกแต่งเข้ามาแม่ฉินกลับสงสารสะใภ้อีกสองคนแยกบ้านกันแล้วเพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต เถียนเมิ่งจึงคิดปลูกผัก แยกเล้าไก่ออกมาจากของบ้านฉิน แน่นอนว่าการปลูกผักเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองแรง เธอเลือกจะจ้างหลานสาวให้ทำ ส่วนเล้าไก่มีพี่ชายของสามีเข้ามาช่วยไม่ได้เสียอะไรแลกกับเป็นการขอบคุณเรื่องปลา เพราะทุกคนในบ้านได้กินเนื้อปลาติดต่อกันมาเป็นเวลาห้าวันแล้ว
ทำให้วันนี้เธอต้องเข้าป่าคนเดียวและจ้างแม่สามีให้ดูแลลูกชายทั้งสามให้ ก่อนหน้านี้เข้าป่าไปกันหลายคนและมีคนดูแลลูกให้เถียนเมิ่งจึงพาไป แต่หลานสาวทำแปลงผักให้วันนี้ต้องฉายเดี่ยวแต่ก่อนมีอะไรเธอไม่เคยให้บ้านเถียนอย่างนั้นหรือ แต่งงานออกมาหลายปีมีอะไรบ้างที่ไม่เคยให้ พอไม่ให้สักครั้งกลับต่อว่าเธอเหมือนหมูเหมือนหมาสะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง มองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย สะใภ้สามแค้นฝังหุ่นจริง ๆ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องและช่วยทำอาหารเย็นวันนี้ หลานสาวในบ้านตามพ่อไปไหว้ผู้อาวุโส ที่บ้านจึงไม่มีผู้ช่วย ตกเย็นแต่ละบ้านนั่งรวมตัวกันในห้องโถง มีตะเกียงไฟจุดให้ความสว่าง อากาศไม่ค่อยเย็นจะเย็นอีกทีคือช่วงดึก อาหารวันนี้มีหลายอย่างและมีเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่ม "หมันโถววันนี้มีรสชาติเปลี่ยนไป สะใภ้สามเป็นคนทำหรือ" แม่ฉินหันมาถามลูกสะใภ้ "ค่ะ ฉันทำเอง" "รสชาติดีมาก"แม่ฉินเอ่ยชมอย่างใจกว้าง ไม่คิดว่าสะใภ้ขี้เกียจเปลี่ยนไปคนนี้จะทำอาหารอร่อยได้ขนาดนี้ อาหารวันนี้มีสิบสองอย่
เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวและบ้านจางออกมาบอกเพียงป่วยตายคนอื่นก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง และปล่อยมาตลอดยกเว้นเถียนเมิ่งที่รับรู้บางอย่างมา ทุกวันบ้านจางจะมีเสียงทะเลาะและเสียงตบตี อยู่ ๆ ก็เงียบก่อนวันต่อมาจะพบเป็นศพไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเป็นอะไร "ฉันจะไปปฏิเสธ!" สะใภ้ใหญ่รีบพยักหน้า ฉินหลันเป็นลูกสาวคนโตของหล่อนคงต้องคุยกันอีกที “ว่าแต่เธอรู้เรื่องในบ้านจางได้อย่างไร" "เมื่อวานสามีของฉันเล่าให้ฟังค่ะ" "แต่ว่าช่วงหลัง ๆ มานี้คนบ้านจางเสียชีวิตเยอะจริง ๆ ปีนี้สามคนแล้ว" แม่ฉินพยักหน้าและเอ่ยออกมาอย่างสงสัย "ช่างเถอะค่ะเรื่องบ้านอื่น อันที่จริงการแต่งงานควรเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่ ขอเพียงเด็ก ๆ รักกันคงไม่กล้าลงไม้ลงมือ สะใภ้ใหญ่เก็บไปคิดอีกที" เถียนเมิ่งมองหลานสาวที่เช็ดน้ำตาอ
"เข้าไปดูลูกที่ห้องหน่อยนะคะ ถ้าพวกเขาหิวให้กินผลไม้รองท้องไปก่อน ฉันแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบไปอุ่นอาหารไม่ต้องให้พวกเขาออกมาข้างนอก" "ครับ"ฉินซ่งหลงตอบรับก่อนจะสวมชุดหนาขึ้นแล้วก้าวออกจากห้องไปดูเจ้าแฝดตามคำสั่งภรรยาที่ตอนนี้ยังเหนื่อยอีกสักพักคงออกตามมา เข้าสู่กลางเดือนหิมะเริ่มตกและเถียนเมิ่งตื่นสายกว่าปกติในรอบปี หญิงสาวให้สามีออกจากห้องไปก่อนหลังจากนั้นถึงลุกมาเปลี่ยนชุดที่เปื้อนและนำออกไปซักท่ามกลางอากาศเย็น "สะใภ้สามวันนี้เธอตื่นสาย" สะใภ้รองทัก เถียนเมิ่งแค่ยิ้มบางๆ ไม่ได้พูดตอบอะไร "น้องชายสามออกไปวิ่งตั้งแต่เช้าทั้งที่อากาศเย็นแบบนี้ ทำไมไม่ให้เขาหยุดพักร่างกาย" "เขาไม่ฟังฉันค่ะ ตอนนี้เขาวิ่งได้ให้วิ่งไปแต่ว่าถ้าหิมะตกหนักกว่านี้คงต้องหยุดแล้ว" การเป็นทหารต้องฝึกความอดทน แ
ลำธารคือสถานที่แรกสำหรับการหาของป่า เถียนเมิ่งมีวิธีการจับปลาใหม่โดยการขุดหลุมและทิ้งเหยื่อเอาไว้ เช้าต่อมาที่มาดูมันมีปลาในหลุมหลายตัว "โอ้! มันเยอะถึงเพียงนี้" สะใภ้ใหญ่อุทาน "แน่นอนว่ามันเยอะมาก ปลาพวกนี้เอาไว้ก่อนพวกเราจะไปหาผักป่าและของป่าอื่น ๆ กลับไปด้วย" เถียนเมิ่งบอก เธอเห็นปลาในหลุมทั้งสามหลุม "ได้" ทั้งสามแยกย้ายกันไป เถียนเมิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่นแต่เวลาจะไปเอาอะไรเธอจะบอกพี่สะใภ้ก่อน "เดินตรงไปไม่ไกลจะมีป่าไผ่อยู่ ฉันจะไปขุดหน่อไม้เผื่อพวกเธอสนใจ" ถึงแม้ว่าเถียนเมิ่งจะได้ของป่าออกจากที่นี่บ่อย ๆ แต่คนในหมู่บ้านยังไม่มีใครกล้ามาแถวนี้ ทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์มากเมื่อเธอไม่ได้นำของออกไปหมด ปล่อยให้มันเจริญเติบโต ขุดหน่อไม้ไปด้วยเถียนเมิ่งยังได้ผลไม้ที่อยู่ในป่าอีกหลายอย่าง ขนุน ขิง ขมิ้น ข่า และของป่าอีกมากมาย สะใภ้ทั้งสองที่ตามมาได้เยอะไม่ต่างกันแต่มีของน้อยกว่า เมื่อถึงเวลามื้อกลางวันเธอหาที่นั่งกินก่อนหาของป่าต่อจนถึงเวลาที่ควรกลับ เถียนเมิ่งจัดตะกร้าเพื่อนำปลาเข้าตะกร้า ถ้าเอาถังมาด้วยมันจะดีกว่านี้มากเพียงแต่ถังมัน
การสร้างรั้วบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องซื้อไม้สำหรับการล้อม แต่ว่าด้วยค่าแรงและอาหารที่ทำเลี้ยงหมดไปสิบหยวนพอดี ถึงอย่างนั้นเถียนเมิ่งไม่ได้บ่นอะไร "สามีคะ ตอนนี้ลูกของเราห้าปีแล้วอีกสองปีถึงจะเข้าโรงเรียนได้ ฉันว่าจะให้เขาเข้าเรียนโรงเรียนประถมในตำบลนะคะ" เถียนเมิ่งกำลังทำอาหารและเอ่ยบอกสามีไปด้วย ในทุก ๆ เช้าเถียนเมิ่งจะตื่นก่อนคนอื่นเสมอและเป็นหลานสาวที่ตื่นหลังเธอทำอาหารเสร็จแล้ว ฉินซ่งหลงผู้เป็นสามีกำลังทำความสะอาดปลาที่หามาได้เมื่อวานนี้ เขาหันหน้ามามองหน้าภรรยา "การเรียนเด็กคนหนึ่งใช้เงินจำนวนมาก ตอนนี้พวกเราแยกบ้านแล้วและจะเรียนต้องเรียนทั้งสามคน" "ฉันรู้ค่ะ ก่อนเด็กทั้งสามเข้าโรงเรียนฉันจะคิดวิธีทางหาเงิน" หลังปีใหม่ไปจะมีการประกาศการค้าเสรีเถียนเมิ่งไม่คิดว่ามันจะยากอะไร "คุณจะทำอะไร สิ่งผิดกฎหมายหยุดความคิดไปได้เลย" ฉินซ่งหลงเป็นทหารหากครอบครัวทำสิ่งผิดกฎหมายและทางกองทัพรู้เขาจะถูกไล่ออกได้ เมื่อได้ยินคำพูดสามีเถียนเมิ่งสายหน้า เพราะเธอไม่มีความคิดอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่รู้อะไรขนาดนั้นถึงแม้ที่ผ่านมาจะทำตัวไม่ด
อาหารมื้อเช้าทุกคนได้รองท้องมาไม่มาก เพราะเถียนเมิ่งกลัวว่าจะไม่ทัน ก่อนจะไปซื้อของกลับบ้านจึงแวะเข้าร้านอาหารของรัฐที่ส่วนมากจะเป็นพนักงานในร้านต่าง ๆ มาซื้อ เนื่องจากต้องใช้คูปองและแน่นอนว่าเถียนเมิ่งเพิ่งได้รับมาจากสามี "อาสะใภ้สามคะจะดีหรือ" ฉินหลันลังเลเมื่อได้รับคูปองและเงินสองเฟินในการซื้ออาหารรับประทาน คิดว่าซาลาเปาข้างนอกลูกเดียวคงอิ่มแล้ว "ดีสิ ฉินหลันกว่าพวกเราจะกลับไปถึงหมู่บ้าน ถ้าโชคร้ายไม่ทันรถแทรกเตอร์ต้องเดินเท้า" ถึงคนขับจะบอกเวลากลับอีกสองชั่วโมงข้างหน้า แต่เถียนเมิ่งไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ "ค่ะ" ฉินหลัน และฉินเจียหนิงแทบร้องไห้เมื่อได้รับประทานข้าวขาวที่นาน ๆ ถึงจะได้กิน ข้าวขาวเป็นข้าวที่มีราคาและที่หมู่บ้านไม่นิยม ส่วนมากจะขายให้สหกรณ์หรือไม่เก็บไว้กินช่วงเทศกาลต่าง ๆ อย่างเช่นเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง นั่งรับประทานอาหารยี่สิบนาที สามคนอาสะใภ้หลานสามีเดินออกมาจากร้าน ดิ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่ขายอาหารต่าง ๆ รวมถึงของใช้สำคัญ "เดี๋ยวอาจะซื้อของแถวนี้ พวกเราไปซื้อของที่แม่ให้ซื้อเถอะ" เถียนเมิ่งบอกหลานสาว “ค