Share

บทที่ 11 ผีหลอกโจร

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-26 19:43:48

บทที่ 11 ผีหลอกโจร

       เมื่อส่งครอบครัวจินเหมยกลับแล้ว นางก็พาเปาเปาน้อยไปเข้านอน แม้เด็กชายจะร่ำร้องขอตามนางไปดูวิธีการทำเสี่ยวหลงเปาเท่าใด นางก็ปฏิเสธท่าเดียว

“ไม่ได้ๆ ถ้าเจ้าไม่นอนจะไม่โต เมื่อไม่โตก็จะไม่เก่ง ไปหาท่านพ่อไม่ได้นะ” สิ้นคำขู่ว่าจะไม่ได้ไปหาท่านพ่อเด็กน้อยจึงได้ยอมนอนแต่โดยดี

       นางเดินกลับไปที่ครัวหลังบ้าน และเปิดมิติดูน้ำแกงที่ต้มกับหนังหมูในหม้อตุ๋นจนได้ที่แล้ว เสิ่นลี่อิงนำมาเทใส่ถาดและนำเข้าตู้เย็นเพื่อให้ประหยัดเวลาการรอให้น้ำแกงกลายเป็นวุ้น

ขั้นตอนต่อไปต้องทำแป้งห่อกับไส้หมูสับ…

       เสิ่นลี่อิงนำแป้งสาลีผสมน้ำธรรมดา น้ำกลิ่นจันทร์และเกลืออีกเล็กน้อย ใส่ลงในถ้วยผสม ใช้มือคนจนเข้ากันประมาณหนึ่งแล้ว จึงใช้ฝ่ามือในการบีบนวดผสมแป้งต่อ นางนวดต่อไปเกือบหนึ่งเค่อจนเนื้อแป้งเนียนได้ที่ นำพลาสติกใสที่มีอยู่ในมิติมาห่อพักแป้งไว้

       ระหว่างรอแป้งได้ที่ ลี่อิงนำหมูออกมาสับให้ละเอียดเพื่อทำไส้ ใส่กระเทียมสับที่ยังเหลือ และสับขิงกับเห็ดหอมจากในมิติตามลงไป เติมแป้งเล็กน้อยและน้ำกลิ่นจันทร์ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และเกลือ ตักน้ำมันงาใส่ลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมๆ ก่อนสุดท้ายจะตัดสินใจว่านางควรเพิ่มซอสเห็ดหอมเพื่อความกลมกล่อมด้วย คนผสมจนเข้ากันดีก็เริ่มจดไว้ในใจว่าเครื่องปรุงที่ควรทำมาขายคือซอสเห็ดหอม และน้ำปลา ส่วนซอสหอยนางรมคงต้องรอนางรู้ที่ซื้อหอยนางรมเสียก่อน

       เมื่อทำไส้เสร็จแป้งที่พักไว้ก็พร้อมใช้แล้ว เสิ่นลี่อิงยกแป้งและไส้หมูเข้ามาในบ้าน นางโรยแป้งลงบนโต๊ะตัดแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ จากน้ำแกงที่มีอยู่ครานี้นางคงทำเสี่ยวหลงเปาได้ประมาณสามสิบลูก นางรีดแป้งออกเป็นแผ่นกลมๆ จนครบ จากนั้นลี่อิงก็นำน้ำแกงที่จับตัวเป็นวุ้นแล้วมาตัดแบ่ง นางใส่ไส้หมูและก้อนวุ้นน้ำแกง แล้วห่อจับหมุนเป็นเกลียวเพื่อความรวดเร็ว

       โชคดีที่นางเคยทำร้านอาหารมาก่อนจึงสามารถทำอาหารได้ในเวลาไม่มาก มิเช่นนั้นจนค่อนคืนก็อาจยังไม่เสร็จสิ้น เมื่อตอนทำร้านหากทำช้าย่อมโดนลูกค้าติติง ในเวลาไม่ถึงสองเค่อการห่อเสี่ยวหลงเปาสามสิบลูกจึงเสร็จสิ้น

รอนึ่งพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน ถ้าทำบ่อยๆ คงเร็วกว่านี้อีก 

       อาหารชนิดนี้ต้องกินทันทีหากนึ่งทิ้งไว้เนื้อจะกระด้างกินไม่อร่อย เสี่ยวหลงเปาทั้งหมดจึงต้องไปนอนเล่นในมิติรอนางจนถึงวันพรุ่งนี้

       เสิ่นลี่อิงล้างมือแล้วมานอนบนเตียงเดียวกับเปาหลงตัวน้อยที่หลับสนิทไปแล้ว และเพราะนี่เป็นวันที่ยาวนานมากเหลือเกิน นางจึงหลับไปในทันทีที่เอนตัวลง 

       เมื่อนางหลับไปได้สักพักก็ต้องรู้สึกตัวตื่น เพราะข้างนอกเกิดเสียงดังกุกกักขึ้นสลับกับเสียง ‘ครืด คราด’ คล้ายคนกำลังลากของหนัก เสิ่นลี่อิงจึงลุกขึ้นนั่งรู้สึกตื่นตัวในทันที

ขโมย?! 

       นางคิดว่าคงเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นที่มีคนเห็นสิ่งของในครัวของนาง และรู้ว่านางอยู่อาศัยเพียงลำพังกับเด็กน้อยหนึ่งคนจึงคิดจะมาเอาของนางไป เสิ่นลี่อิงตั้งใจฟังเสียงลากว่ากำลังไปในทิศทางใดของบ้าน แล้วอ้อมไปดักไว้ทันทีพร้อมกับมีดที่ยังอยู่บนโต๊ะบ้านนาง 

       นางหวังจะจัดการกับโจรท่าทางอุกอาจ แต่เมื่อเดินออกมากลับพบชายสองคนในสภาพหวาดกลัวตัวสั่น หันหน้าเข้าหากัน และกำลังร้องไห้คุกเข่าลงกับพื้นพึมพำบางอย่าง

“กลัวแล้วๆ อย่ามาหลอกข้าเลย ข้ากลัวแล้ว”

กลัวอะไร?!…ยังไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย ท่าจะบ้า

“พวกเจ้า!! เป็นบ้าอะไรกัน”

       ชายสองคนนั้นสะดุ้งโหยง กลอกตามามองนางแต่มิได้หันหัวตามมา คล้ายว่ามีคนจับหัวพวกเขาตรึงไว้ไม่ให้หันหนีไปทางอื่นได้

“แม่นางลี่อิง บอกผีในบ้านท่านให้หยุดเถิด พวกข้ากลัวจนจะฉี่ราดแล้ว” หนึ่งพวกเขาที่ดูมีสติอยู่เป็นคนกล่าวขึ้น

“เจ้าเข้ามาในบ้านข้าทำไม พวกโจรหน้าไม่อาย”

“เจ้าซื้อของมามากมายนัก ข้าแค่จะขอไปบางส่วน ฮือๆ”

“บางส่วนอะไรกันลากมาขนาดนี้ ข้ามีเด็กเล็กต้องดูแล ทั้งยังพึ่งประสบเคราะห์ร้าย พวกเจ้านี่มันเลวจริงๆ สมควรแล้วที่วิญญาณจะพิโรธ”

“ไม่ทำอีกแล้ว ไม่ทำแล้ว” ชายอีกคนก็กล่าวขึ้นบ้าง หวังให้ตนได้รับการให้อภัย

“ข้าขอโทษ ข้าเห็นครอบครัวลู่จานมากินข้าวถึงในบ้านเจ้า จึงคิดว่าผีที่เคยดุคงไม่มีอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะยังดุเช่นนี้”

“สมน้ำหน้า เลวทรามต่ำช้า ลากข้าวสารของคนอื่นไปหมดเช่นนี้ นอกจากข้าจะปล่อยให้โดนหลอกแล้วยังจะแจ้งทางการด้วย”

“อย่าๆๆ ให้พวกข้าทำสิ่งใดก็ยอมทั้งนั้น” 

“ยอมหมดแน่หรือ”

“ทั้งหมดแม่นาง บอกผีให้หยุดหลอกเถิด” สิ้นคำพูดชายผู้หนึ่งก็ฉี่ราดออกมาจริงๆ ยังดีที่ข้าวถูกวางทิ้งไว้ห่างจากชายผู้นั้นไปไกล มิเช่นนั้นข้าวนี้ทั้งเจ้าของทั้งโจรคงไม่มีใครกล้ากิน

ทุเรศจริงๆ มาฉี่ราดใส่บ้านคนอื่น

“ก็ได้ๆ” นางตั้งสมาธิก่อนจะเอ่ยวาจากับผีประจำบ้านหลังนี้ “หยุดหลอกพวกเขาเถิด ข้าขอเป็นผู้จัดการต่อเอง ส่วนพวกเจ้ารออยู่นี่” ลี่อิงลากข้าวสารของนางกลับไปไว้ในครัวดังเดิม 

       เสิ่นลี่อิงเก็บของส่วนใหญ่เข้าไปในมิติเหลือไว้ด้านนอกแค่นิดหน่อยเท่านั้น หากมีใครคิดจะมาขโมยของบ้านนางอีกครั้ง ต่อให้เอาไปทั้งหมด ก็คงได้ไม่คุ้มเสีย 

       เมื่อจัดการเสร็จแม้ว่านางจะไม่เห็นวิญญาณตนที่มาช่วยเหลือ แต่จากอาการของหัวขโมยก็คิดว่าพวกเขาคงเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้าจริงๆ จึงพึมพำคำขอบคุณให้ลอยไปตามลม “ขอบคุณมาก ไว้จะทำของเซ่นไหว้ไปให้” ก่อนจะเดินกลับไปจัดการหัวขโมย

“แม่นาง ผีไปแล้วจริงๆ ขอบคุณๆ” 

       เมื่อไฉ่ตู้และไฉ่หม่าได้สติกลับมากันแล้ว นางจึงเริ่มแจกแจงว่าต้องการให้พวกเขาทำสิ่งใดบ้าง ข้อแรกคือต้องออกไปโพนทะนาให้ทั่วทั้งที่หมู่บ้านหยางและหมูบ้านใกล้เคียงว่าบ้านนางผีดุ ต้องเล่าให้ครบว่าเจออย่างไร น่ากลัวจนไฉ่หม่าฉี่ราดออกมาก็ต้องบอกให้ครบ นางต้องการใช้สิ่งที่สองโจรนี้เจอเพื่อกีดกันไม่ให้คนมายุ่งกับเรื่องราวในบ้านของนาง และอย่างที่สองคือการต้องมาทำงานชดใช้ตามแต่นางจะสั่งสามครั้ง ซึ่งคำสั่งแรกคือการถอนหญ้า และวัชพืชในที่ดินของนางทั้งหมด หากไม่ทำตามแม้เพียงประการเดียวนางขู่จะส่งผีไปเยี่ยมเยียนไฉ่ตู้และไฉ่หม่าถึงบ้าน

วันนี้จะมีอะไรอีกไหมเนี่ย จัดมาเลยทีเดียวให้มันจบสิ!!

       รออยู่นานก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสิ่นลี่อิงจึงกลับไปนอนเอาแรง มีหลายสิ่งที่นางต้องทำนัก นึ่งเสี่ยวหลงเปา หมักเครื่องปรุง ไหนจะต้องวางแผนการปลูกพืชผักไปขายนั่นอีก 

       

        ยังดีที่เสิ่นลี่อิงและเปาเปาน้อยไม่ต้องหนีตายอีกแล้ว คนที่ตามฆ่าเปาหลงคงไม่คิดว่าเด็กวัยยังไม่ถึงสามหนาวจะเอาตัวรอดในป่าได้ ไม่เช่นนั้นคงมีนักฆ่ามาตามหาเปาเปาน้อยให้ทั่วผืนป่าไปแล้ว ส่วนตัวนางคงต้องอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้จนทุกคนแน่ใจว่านางสิ้นใจแล้ว รอนางสร้างอำนาจบารมีของตนเองให้มั่นคง จึงจะกลับไปเป็นคุณหนูเสิ่นลี่อิงผู้ร่ำรวยแห่งเมืองหลวงได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหาร

    บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงมืดมิดนั้น มีแสงตะเกียงส่องสว่างอยู่หน้าโรงเรือนเห็ดของเสิ่นลี่อิง นางลุกขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อเพาะเห็ดหลินจินดำและเห็ดหลินจือแดงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เห็ดที่พรมน้ำกลิ่นจันทร์ไว้เริ่มเกิดเชื้อเห็ดปกคลุมแล้ว จึงต้องรีบนำมาเพาะเสียก่อน เห็ดอื่นที่นางเพาะไว้ก็เริ่มเติบโตแล้วเช่นกัน เห็นทีพรุ่งนี้นางคงได้นำเห็ดไปขายแลกเงินแล้วเมื่อจัดการกับหลินจือทั้งสามถังเรียบร้อยแล้ว นางก็นำขวดสเปรย์ในมิติมาฉีดพ่นน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็ไปเตรียมตัวออกไปขายของในเมืองเสิ่นลี่อิงปลุกเปาเปาในยามเหม่าจับเด็กน้อยอาบน้ำแต่งตัวให้หอมฉุย เพื่อใช้ความน่ารักของเด็กน้อยมาเรียกลูกค้า “วันนี้ใครผ่านมาหน้าแผ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้

    บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้เมื่อกลับมาถึงบ้านไฉ่ตู้ก็นำรถเข็นมาส่งกับนางพอดีพร้อมๆ กันนั้นลุงไฉ่เองก็นำน้ำแกงบะหมี่ของวันมาส่งไว้ให้ด้วยเช่นกัน “แม่นางมาพอดี รถเข็นนี้บ้านป้าสู่ไม่ใช้แล้วขายให้เจ้าหนึ่งร้อยอีแปะ รถยังดีอยู่ ข้าว่าเหมาะสม”“ขอบใจมาก นำเข้าบ้านได้เลย ขอบคุณลุงไฉ่เช่นกันเจ้าค่ะน้ำแกงเดี๋ยวข้ายกเอง”เสิ่นลี่อิงตรวจสอบรถเข็นที่ได้มาก็พบว่ายังดีอยู่จริงๆ หากจะซื้อของใหม่จากในเมืองมีราคาสูงถึงห้าร้อยอีแปะ แม้จะมีเงินมากแต่ผู้ใดจะล่วงรู้อนาคต หากวันใดที่นางต้องพาเปาหลงหนีก็คงออกมาหาเงินไม่ได้อีก“เปาเปาเจ้าเข้าบ้านก่อน ถึงเวลาดื่มนมแล้ว” นางเรียกเปาหลงที่กำลังวิ่งเล่นบนผืนดิน

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไป

    บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไปเช้านี้เสิ่นลี่อิงลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากเย็น แม้หนิงอ๋องจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาง แต่จากการที่เปาหลงยังนึกถึงและกล่าวถึงพ่อของตนเสมอ ก็ทำให้นางเป็นห่วงเขาไม่น้อยเช่นกัน และที่สำคัญคือความรู้สึกของเปาหลง หากรู้ว่าพ่อของตนมิรู้ว่าเป็นเช่นไรจะกังวลหรือไม่ ลี่อิงก็คิดห่วงไปมากมายนางลืมตามองเพดานอยู่นานจนเปาหลงต้องตื่นมาเขย่าให้นางลุกขึ้น เพราะหน้าบ้านไฉ่ตู้กำลังส่งเสียงเรียกนางอยู่ “พี่สาวมีคนมา”“แม่นางลี่อิง! ท่านอยู่หรือไม่ ข้ามาถอนหญ้าต่อ แม่นาง!”“พี่สาว ไฉ่ตู้มา ท่านลุกขึ้น”“ขอเวล

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

    บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ” เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 15  อันตรายในป่า

    บทที่ 15 อันตรายในป่า เสิ่นลี่อิงร้องบอกให้ไฉ่หม่ากลับไปทำงาน ไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับฉินเปาแม้เพียงครึ่งคำ “แม่นางมาพอดี น้ำเดือดมาได้สักพักแล้ว” ไฉ่ตู้ที่กำลังเปิดฝาดูไม่ให้น้ำแห้งเอ่ยออกมา“ข้าจัดการต่อเอง ขอบคุณมาก” เสิ่นลี่อิงเติมน้ำเล็กน้อยและใส่ขี้เลื่อยที่ได้มาลงไปด้วย นางต้องปล่อยให้น้ำต้มนี้เดือดไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วยาม เวลาระหว่างนั้นนางจึงทำถู่โต้วทอด กินคู่กับเนื้อหมูสันคอย่างชิ้นโต ราดซอสงาขาว เคียงด้วยยำแตงกว่ารสเผ็ดเล็กน้อย แต่สำหรับเปาเปาเขาได้ทานแครอทหั่นแท่งแทน เจ้าของบ้านอย่างลี่อิงแบ่งอาหารให้กับสองพี่น้องไฉ่ด้วย ไฉ่ตู้ชื่นชมนางไม่ขาดปาก หลังกินเสร็จก็เร่งงานยิ่งกว่าเดิม ส่วนอีกคนก็กินแรงตามเคย ทั้งยังบ่นมาตามลมว่านางมีข้าวสารมากมาย แต่ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน“ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องกิน!” ลี่อิงเองก็เหลืออดเหลือเกิน จึงพูดกระทบกระเทียบกลับไปบ้าง การกินข้าวของนางจึงได้เงียบสงบลงมาเสียที กินเสร็จเสิ่นลี่อิงก็ดับไฟและปิดฝาไว้ “รอให้เย็นก่อนนะ” ระหว่างนั้นก็ให้เปาเปาเอากิ่งไม้มาฝึกเขียนอักษรบนพื้นดิน พร้อมนางที่นั่งทำเสี่ยวหลงเปาอยู่ข้างกัน ลุงไฉ่

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 14  งานการมากมาย

    บทที่ 14 งานการมากมาย เสิ่นลี่อิงนำดินที่นางขุดออกมาจากมิติ และให้เปาเปานำขี้ทาเกลือคล้ายทรายมาผสมกับดินที่นางขุดมา เมื่อผสมเสร็จแล้วลี่อิงจึงนำถังไม้ขนาดกำลังดีออกมาสองถัง ถังหนึ่งนางใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเล็กๆ เพียงสองรู และนำผ้าขาวบางรองไว้ที่ก้นถัง ก่อนจะสั่งให้เด็กน้อยนำดินที่คลุกผสมทั้งสองส่วนเรียบร้อยแล้วมาตักลงใส่ถังที่มีผ้าขาวบางรองไว้อยู่ “ครานี้เจ้าใช้มือกดลงไปให้แน่นๆด้วยแล้วค่อยเติมลงไปเพิ่ม หากไม่แน่นน้ำจะไหลผ่านเร็วและได้เกลือน้อย”“ขอรับ” เด็กน้อยรับคำสั่งและใช้มือของตนตบดินลงไปจนแน่น เสิ่นลี่อิงเห็นว่าเด็กน้อยทำสุดแรงของตนแล้ว นางจึงใช้มือของตนในการกดลงบ้าง เมื่อนางเห็นว่าแน่นดีแล้วก็พยักหน้าให้เปาเปาตักดินใส่ชั้นต่อไปได้ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเต็มถังไม้ เสิ่นลี่อิงวางถังไม้ที่มีดินอยู่ไว้ด้านบนและถังไม้ที่ไม่มีสิ่งใดไว้ด้านล่างนางตักน้ำใส่ถังที่มีดินลงไป ก่อนจะยกขึ้นดูเล็กน้อยว่ามีน้ำหยดออกมาหรือไม่ เมื่อเห็นว่ามีน้ำหยดแล้ว นางจึงรอให้น้ำด้านบนซึมลงไปก่อนจากนั้นค่อยตักน้ำใส่เพิ่มทีละน้อยทีละน้อย “เหลือเพียงแต่รอแล้ว หากน้ำไหลออกมาเต็มถังนี้ และเค็มเพียงพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status