แชร์

พิมพ์ครั้งที่ ๖

ผู้เขียน: 1037
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-22 02:31:44

หลังจากที่ได้ลงมือทำอาหารใหม่อยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนแม่จำปาก่นด่าตามหลัง เพราะใช้ของในครัวหมดไปเกินกว่าครึ่ง วาดจันทร์ก็ตัดใจขาดแล้วว่าเธอนั้นไม่สามารถละทิ้งความเป็นบัวได้จริง ๆ ทั้งที่ก็ปรุงทุกอย่างตามที่เคยทำ แต่สิ่งที่ได้กลับไม่อร่อยอยู่ดี

นี่ก็เข้าสัปดาห์ที่ ๒ แล้วที่เธอหลงเข้ามาอยู่ในร่างของบัว การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มันไม่ง่ายมากนัก นอกจากจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ว่ารันทดแล้ว ยังต้องย้อนเวลากลับมาเป็นทาสอีก แถมเป็นทาสที่มีชนักติดหลังด้วยน่ะสิ

“ถึงคุณหญิงแสจะขอให้ขุนเอกยกโทษให้ แต่บัวก็จะอยู่ได้แค่ท้ายครัวเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ขนาดเดินไปตลาดยังต้องอ้อมโลกเพื่อไม่ให้ผ่านหน้าเรือนเนี่ยนะ ชีวิตของเธอนี่มัน...”

พึมพำบ่นอยู่คนเดียวระหว่างเดินทางกลับจากตลาดที่ลากขาเดินมาไกลถึงหนึ่งกิโลเมตรเห็นจะได้ เย็นนี้คุณหญิงแสตั้งใจจะลงครัวด้วยตัวท่านเอง แต่ของที่ต้องทำวันนี้ดันหมดพอดี แม่จำปาเลยวานให้บัวเป็นคนมาซื้อจ่ายให้ ด้วยบ่าวทาสคนอื่น ๆ ตอนนี้ก็ยังวุ่นวายจัดการงานของใครของมันอยู่

ผลัวะ!

เสียงฟาดหวายยังคงดังลั่นตลอดสามคืนที่ผ่านมา ร่างกายบอบช้ำ มีแผลเหวอะอยู่ทั่วเต็มแผ่นหลังบางที่ก่อนหน้านั้นเคยขาวนวลตา หากแต่ตอนนี้กลับไร้พื้นที่ว่าง มีเพียงรอยหวายจากคนเป็นผัวทิ้งไว้ให้เท่านั้น

“ถ้าการที่บัวตายจะทำให้ท่านขุนคลายความขุ่นเคืองต่อบัวได้ ก็ได้โปรดฆ่าบัวด้วยมือของท่านขุนเถิดเจ้าค่ะ ฮึก”

“มึงท้ากูงั้นรึ?!”

แม้แต่ชีวิตของบัวก็สามารถมอบให้เขาได้อย่างที่ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมากลับไม่มีแม้แต่ความเชื่อใจจากเขา ทั้งกายและใจของบัวกำลังตรอมตรมสุดจะต้านสังขารไหว แม้แต่นัยน์ตาที่ลอดมองคนตรงหน้ายังมากเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกถ่ายทอดออกมา

“ขอความเกลียดชังหายไปแต่ชาตินี้ เกิดชาติหน้าฉันใดบัวจะขอเวียนว่ายมารักท่านขุนอีกนะเจ้าคะ”

“ชาติหน้างั้นรึ!? ไม่ว่าชาติหน้าหรือชาติไหน มึงก็จะไม่มีวันสมหวัง กูจะขอสาปแช่งให้มึงผิดหวังอยู่ทุกชาติไป อย่าได้มีความสุขเลยเถิดมึง! ฮึก เพียงเท่านี้มันยังไม่สาสมกับการที่กูเสียลูก ก็เพราะมึงอีบัว!”

แม่แก้วที่ทนฟังคำพร่ำเพ้อไม่ไหวเลยพูดพรวดออกไปอย่างไม่คิด หากแต่ทุกคนต่างก็เข้าใจว่าคุณแก้วตอนนี้คงจะกำลังเสียใจที่เสียลูกน้อยไป ใครบ้างจะไม่โศกเศร้า นั่นเป็นลูกคนแรก ทั้งยังเป็นลูกกับท่านขุนเอกอีก

แม้ท่าทางกิริยาของคุณแม่แก้วจะไม่สมเป็นลูกขุนนางนามใหญ่ แต่ยามนี้กลับไม่มีใครคิดให้ร้ายเธอเลยสักคน ทั้งบ่าวทาส และไพร่ที่ล่องเรือไปตามคุ้งน้ำหน้าท่า ต่างลงเสียงเป็นทิศทางเดียว ว่าอีทาสคนนี้มันสมควรแล้วที่จะถูกสาปแช่งเยื่องนั้น

พรึบ!...อยู่ ๆ ร่างกายก็อ่อนฮวบ ก่อนตะกร้าที่ถือมาพร้อมกับข้าวของที่ซื้อจากตลาดจะตกล่วงไปกองอยู่กับพื้น เมื่อความทรงจำของบัวแล่นเข้ามาในหัวระหว่างทางเดินกลับ รู้สึกว่าช่วงนี้บัวจะตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นถี่มากขึ้น ช่วงแรกก็มาเพียงฝัน แต่ช่วงหลังความทรงจำพวกนี้กลับแล่นเข้ามาตลอด ไม่ว่าจะยามตื่นหรือยามหลับ

“เจ็บ ฮึก เธอเจ็บมากเลยใช่ไหมบัว”

เจ้าของร่างรักท่านขุนมากขั้นว่าขอให้ชาติหน้าได้เกิดมาครองรักกันอีก ทั้งที่เขาคนนั้นก็หาได้รักเธอเสียนิด วาดจันทร์ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรให้บัวหลงรักนักหลงรักหนา

แม้กระทั่งวาดจันทร์ที่อยู่ในร่างนี้ก็ยังรู้สึกถึงความเศร้า มันเหมือนว่าหัวใจของเธอกำลังหยุดเต้น ร่างกายด้านชาจนขยับไปไหนได้ยาก เทียบกับที่เธอรู้ว่าคนรักทั้งสองคนหักหลังก่อนมาที่นี่ เหตุการณ์ตรงนั้นกลับเทียบเทียมความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้เลยเสียนิด

“ฮึก แค่หวังว่าท่านขุนจะรักข้า ฮือ” จิตเริ่มถูกกลืนกินให้ร่างกายและวิญญาณประสานกันเป็นหนึ่ง ความรู้สึกนึกคิดของบัวตอนนี้ กำลังถูกถ่ายทอดให้วาดจันทร์ด้วยอีกคน

เธอทำอะไรต่อไม่ได้จำต้องนั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้เป็นนานให้ได้สติ โชคดีที่เส้นทางนี้คนเดินผ่านไปมาน้อยนัก ด้วยสองข้างทางเป็นป่ารกร้าง ยิ่งตกค่ำคนก็ยังน้อยตามตะวันที่กำลังลาลับ

หลังจากที่เวลาผ่านไปราวน้ำท่วมกะลา มือเล็กถึงได้ยกขึ้นปาดปายเอาน้ำตาสองข้างแก้มออก ต้องรีบกลับเรือนก่อนที่จะตกเย็นไปมากกว่านี้ แม่จำปาก็รอท่าเอาของที่วานให้ไปซื้อ เวลานี้คุณหญิงแสคงใกล้ลงเรือนมาที่ครัวไฟของนายแล้ว

“ก่อนเอาไปให้แม่ก็คงจะต้องแอบเอาไปล้างก่อน ไม่งั้นโดนด่าไปสามวันเจ็ดวันแน่ แค่คิดก็ขนลุกแล้วนะเนี่ย”

มือเล็กเก็บข้าวของที่ตกพื้นกลับเข้าตะกร้าจนหมด กลับถึงเรือนคงได้โดนบ่นหูชาด้วยของที่ถูกใช้ไปซื้อเปื้อนดินให้คละคลุ้ง

“ชะ ช่วยด้วย!! ปล่อยข้านะ”

“เสียงใคร เย็นขนาดนี้แล้วยังมีคนเดินไปเดินมาผ่านทางนี้นอกจากเราอีกเหรอเนี่ย?” จะเมินเฉยก็คงจะทำไม่ได้ทั้งต้นเสียงยังเอาแต่ขอให้ช่วยเหลือ แม้ว่ามันจะอันตรายต่อตัวของเธอเหมือนกัน จะไม่ตามหาเสียงนั้นเลยก็ไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? อยู่ตรงไหน”

เสียงขอความช่วยเหลือยังดังแว่วอยู่ตลอดทางเดินไป คาดว่าอีกนิดก็คงจะเจอตัวแล้ว ด้วยเสียงของหล่อนที่ชัดขึ้นเรื่อย ๆ บัวไม่สามารถประเมินเหตุการณ์เบื้องหน้าได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ โดนฉุดหรือทะเลาะกันฉันสามีภรรยา เอาเถอะ...ไปถึงก็คงจะรู้เอง

เดินเข้าไปใกล้ถึงได้เห็นตามตั้งใจ แม่หญิงคนนั้นแต่งตัวดูดีใช่ย่อยคงจะเป็นนายอยู่เรือนใดสักเรือน ทั้งยังมีบ่าวหญิงเคียงกายที่กำลังช่วยกันยื้อยึดฉุดกระชากกับชายฉกรรจ์ที่มีผ้าคุ้มหน้าคุ้มตา แบบนี้โดนฉุดปล้นชัด ๆ เลย

‘เอาไงดี? ถ้าไปตามคนมาช่วยตอนนี้ก็คงจะไม่ทัน’ คิดเงียบ ๆ อยู่เพียงคนเดียว แม้แต่มองดูอยู่ตรงนี้ก็ยังรอช้าไม่ได้ ด้วยแม่หญิงคนนั้นมีหน้าตาสะสวยต้องตานัก ดูทีพวกมันคงจะไม่ปล้นเพียงเงินเท่านั้น

หลังจากที่ใช้เวลาอยู่สักพักก็นึกถึงหนังที่เคยดูมา เวลาที่พระเอกจะไล่คนร้ายออกห่างจากนางเอก ทั้งที่รอบตัวก็ไม่มีคนอยู่ด้วยเลยสักคนเดียว มันตรงกับสถานการณ์นี้แบบสุด ๆ สงสัยเธอจะต้องยืมทริกมาลองทำบ้างแล้ว!

“ตำรวจ! ตำรวจมา!!!” บัวตะโกนไปจนสุดเสียง และเหมือนว่าแผนนี้ของเธอมันจะได้ผล ทว่าหาใช่เพราะจะตกใจกับคำว่าตำรวจของเธอ หากแต่พวกมันตกใจกับคนที่กำลังเข้ามาขัดขวางตอนนี้มากกว่า

“มึงไปดูทีว่ามันเป็นผู้ใด!”

“ขอรับ”

“ซวยแล้ว!” ไอ้พวกนี้มันเป็นอันธพาลแบบไหนกันแน่เนี่ยถึงไม่เกรงกลัวตำรวจเลยสักนิด บัวพยายามเลี่ยงหาทางหนี ด้วยป่าที่เดินเข้ามานั้นรกร้าง เธอเลยมั่นใจว่าจะหนีพ้น ทว่าสิ่งที่คิดกลับไม่ใช่สิ่งที่เป็น

“อีบ่าวคนนี้งั้นรึ มึงตามมาช่วยนายมึงใช่หรือไม่?” คนตัวโตปานยักษ์เข้ามาดักอยู่ด้านหลัง ก่อนที่บัวจะถูกจับไปกองอยู่ตรงนั้นด้วยอีกคน ต่างคนต่างแปลกใจ บัวหาใช่บ่าวของแม่หญิงที่ถูกฉุดมาก่อนหน้า แต่ก็นับถือใจนัก เพราะหากเป็นหญิงอื่นคงไม่สนใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือเหมือนบ่าวผู้นี้

“เอ็งเป็นบ่าวเรือนใดรือ?”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้นดีกว่าค่ะ ตอนนี้เรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าจะเอาตัวรอดจากโจรพวกนี้ยังไง”

“....” ทั้งแม่หญิงผู้ดี และบ่าวที่คอยติดตามต่างพากันงงในถ้อยคำของบัว เพราะความลนลานทำให้เธอลืมไปเสียสนิทว่าที่อยู่ตอนนี้เป็นยุคไหน และอีกอย่างก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องยุคสมัยเสียหน่อย

“อีบ่าวนี่มันงามนัก ข้าขอได้ไหมพี่”

“เออ แต่หลังจากที่กูได้นายของมันเสียก่อนนะ ฮ่า ๆ” แน่นอนว่าพอได้ยินแบบนั้นแล้ว ทุกคนต่างขวัญเสียดีฝ่อไปตาม ๆ กัน เว้นไว้เพียงบัวที่พยายามหาหนทางที่จะหลุดพ้น

‘พวกมันไม่ได้มัดเราแน่นขนาดนั้น’ มือที่ไขว้กันอยู่ด้านหลังขยุกขยิกไปมาให้เชือกหลวมขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นก็ยังต้องสังเกตท่าทางของโจรเถื่อน กลัวว่ามันจะรู้ตัวเข้า พอมันหลวมได้ตามที่ต้องการจึงได้หยุดทำต่อ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตมากเกินไป!

“อยากได้เงินก็เอาไป แล้วก็ปล่อยพวกเราไปสิ”

“เงินหรือ? ข้าเอามาหมดแล้วล่ะ แต่ดันอยากได้อย่างอื่นด้วย ฮ่า ๆ”

ไอ้พวกมากตัณหาเอ้ย! รอให้ได้จังหวะมากกว่านี้อีกหน่อยเถอะ แม่ไม้มวยไทยที่เคยเรียนมา เห็นทีจะได้ใช้เอาตอนนี้แหละ

“นี่ฟังให้ดีนะ...ถ้าข้าส่งสัญญาณเมื่อใด ให้เอาหัวกระแทกหน้าพวกมันแรง ๆ แล้วก็พยายามวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุดเข้าใจไหม ที่เหลือข้าจัดการเอง”

เป็นเพียงการกระซิบบอกเท่านั้น ทั้งสามคนที่ถูกมัดรวมกันต่างได้ยินอย่างชัดเจน แต่กลับมีสีหน้าไม่สู้ดีออกมาให้เห็น คล้ายว่าลำบากใจที่จะทำตามคำแนะนำของเธอ ด้วยความที่ทั้งหมดตรงนี้ก็ล้วนเป็นหญิง

“ไม่มีเวลาให้มาคิดแล้ว ถ้าไม่อยากตกเป็นของมัน ก็ทำตามที่ข้าบอก”

“เอ็งเป็นเพียงบ่าวจะมาพูดกับนายของข้าเยื่องนี้หาได้ไม่”

“ไม่เป็นไร ข้าจะทำตามที่มันว่า เพียงเท่านี้ข้าก็จะหนีพ้นใช่หรือไม่”

“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ”

บัวไม่กล้ารับปาก แต่ถ้าทุกคนพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดก็คงจะหนีพ้น ส่วนทางนี้บัวก็จะพยายามซื้อเวลาให้ได้มากที่สุด พวกมันมีกันสองคนถึงจะไม่แน่ใจว่าลำพังเธอคนเดียวจะสู้ไหวไหมก็ตามที

!!!

“พวกมึงพร่ำอันใดกัน? เสียเวลากูนัก ไปกับกูกงนู้นหากไม่อยากทำต่อหน้าอีบ่าวพวกนี้ วันนี้กูจะจับผู้ดีทำเมียให้สมใจ!” แม่หญิงรูปงามถูกฉุดแขนให้เซเข้าหา บัวเล็งเห็นว่าคงไม่มียามใดจะเหมาะเท่าตอนนี้อีกแล้วเธอเลยเริ่มแผนการที่วางไว้โดยพลัน

“ตอนนี้แหละ!!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๕

    ตกค่ำของวันเดียวกัน แม่แก้วถูกคุณพระเกี่ยวพากลับเมืองนนฯ ภายในวันนั้นเลยทันที แม้แต่ผ้าผ่อนของเธอก็ยังไม่มีเวลาเก็บกลับไปด้วย คุณหญิงแสยังไม่อยากจะเชื่อว่าแม่แก้วหล่อนจะมีจิตใจต่ำเพียงนี้ แต่อีกใจก็นึกสงสาร เพราะคุณหญิงรู้อยู่แก่ใจว่าการหลงผัวจนหน้ามืดมันเป็นเยื่องใด“ลูกรู้เรื่องนี้นานแล้ว เหตุใดจึงไม่เล่าสู่แม่ฟัง?”“ขออภัยขอรับคุณแม่ ลูกเพียงกลัวว่าคุณแม่จะเป็นกังวลขอรับ”“แล้วที่ทำถึงเพียงนี้ก็เพราะนังบัวงั้นหรือ?”“.....” พอถูกตั้งคำถามนี้ขุนเอกกลับไม่แม้แต่จะพูดตอบผู้เป็นแม่ เพราะจะมีหน้าอันใดไปพูดยืนยัน ในเมื่อคนที่ออกปากสั่งโบยบัวก็คือตัวเขาเอง ความเจ็บปวดที่แม่บัวได้รับไปก่อนหน้านี้คงยากคลายหาย“พ่อเอกรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพียงเมียทาส เก็บไว้ได้เพียงในเรือน หากแต่หาได้เอาไปอวดผู้ใดได้หนาลูก”“.....” คล้ายว่าขุนเอกจะเป็นใบ้เบี้ยเสียลิ้นไปเสียแล้ว คุณหญิงรู้ใจลูกชายเป็นไหน ๆ ลูกรักผู้ใดทำไมคนเป็นแม่จะไม่รู้ได้ แต่ก็อย่างที่เธอบอก นายเรือนไหนเล่าจะยกเมียทาสขึ้นบนเรือน ไม่มีผู้ใดทำหรอกหนาอีกฝั่งของเรือนเมียทาส เรื่องของคุณแก้วถูกพูดต่อกันเป็นวงกว้างในบ่าวทาส ไม่คิดว่าหล่อนจะคิด

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๔

    ผ่านเวลาล่วงมาถึงวันนัดระหว่างคุณแก้ว และหมอตำแยผู้นั้น ก่อนรุ่งสางของวันเดียวกัน คุณแก้วส่งคนที่เธอใช้เงินปิดปากไปบอกข่าวต่อหมอตำแย ว่าวันนี้ให้เดินทางมาที่เรือนขุนเอกตามที่ได้บอกไว้ พร้อมกับพูดความเท็จเพื่อใส่ร้ายเมียทาสที่เป็นหนามเสี้ยนตำใจหล่อนตลอดหลายปีที่ผ่านมา“แม่แก้วกำลังรอผู้ใดอยู่งั้นรือ?”“หาไม่เจ้าค่ะคุณแม่” ถูกคุณหญิงแสทักขึ้น เมื่อเอาแต่เดินวนอยู่หน้าหัวกระไดตลอดหลายนาทีติด นี่ก็ใกล้ได้เวลาที่นัดไว้แล้ว ดูทีเธอจะตื่นเต้นไป หากไม่ระงับใจเสียหน่อยคงถูกจับได้เป็นแน่แม่หญิงเดินกลับเข้าไปหาคุณหญิงแสที่นั่งอยู่กลางเรือน วันนี้ท่านขุนไม่ได้เดินทางไปทำงานที่อื่น นี่เลยเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะใช้เขี่ยอีบัวให้พ้นทางเสียที ท่านขุนก็กระไรแม้จะรู้ว่ามันทำให้ลูกของท่านตาย แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมากับเข้าหามันอยู่ตลอด ส่วนคนที่พร้อมเสนอตัวให้กลับไม่เคยสนใจ‘ทาสเยื่องมันมีดีกระไรนัก!?’“แม่แก้วเหตุใดจึงออกแรงหนักเพียงนั้นเล่า เห็นหรือไม่ว่าดอกไม้เฉาหมดแล้ว”!!!“ขออภัยเจ้าค่ะ”เป็นอีกครั้งที่โดนคุณหญิงแสเอ็ด ถึงจะพยายามทำตัวให้ดีมากเพียงใด แต่ก็คงจะไม่เป็นที่พึงใจเท่าอีเมียทาสผู้นั้นกระมั

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๓

    เวลาล่วงเลยผ่านไปเกินกว่าสองวัน คุณแก้วยังคงวุ่นใจไม่หายกับท่าทีของผัวที่นับวันก็ยิ่งหมางเมินเธอขึ้นเรื่อย ๆ อดคิดไม่ได้ว่าพอไม่มีเรื่องลูกแล้ว เขาคงจะปฏิบัติต่อเธอไม่ต่างจากเมียทาสคนอื่น ๆ เฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาวันนี้เห็นว่าดอกไม้หอมเริ่มผลิบานส่งกลิ่น เธอจึงหวังมาเก็บมันไปเพาะผ้าตามที่เคยได้ลั่นวาจาไว้เสียหน่อย แม้ว่าคราวนั้นเจ้าของผ้าแพรที่หมายเพาะให้จะไม่สนใจในถ้อยคำของหล่อนเลยก็ตามที“วันนี้เก็บดอกประยงค์ก่อนแล้วกัน คุณพี่ท่านชื่นชอบเป็นพิเศษ”“เจ้าค่ะคุณแก้ว”บ่าวสาวที่ติดตามหล่อนมาสักระยะพูดตอบรับคำสั่งผู้เป็นนายใหม่ ก่อนเร่งลงแรงเก็บดอกไม้หอมด้วยกันด้วยความบรรจง คล้ายเกรงว่าหากจับแรงมากเกินไปจะทำเอาดอกไม้ในมือนั้นเฉาได้“เก็บให้ดีล่ะ ข้าจะเอาไปเพาะผ้าแพรให้คุณพี่ หากดอกไม้ช้ำเพียงนิดเอ็งจะต้องโดนหวายทวนหลังจนกว่าข้าจะพึงใจ”“จะ เจ้าค่ะ”ความรัก ความซื่อสัตย์ของหล่อนที่มีต่อขุนเอกนั้นท่วมล้น ในวันที่ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากบอกว่าคุณหญิงแสมาสู่ขอแม่แก้วให้ขุนเอกผู้เป็นลูกชาย วันนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเธอแรกแย้มเต้นระส่ำแตกเนื้อสาวแม้จะรู้ว่ายังเป็นได้เพียงเมียเล็ก ๆ แต่วันใด

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๒

    เป็นไปตามที่คิดไม่ผิด คนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างก็คือคุณแก้ว หลังจากที่ลงทุนเอาเงินซื้อความลับไปเกือบหมดหมอยาคนนั้นก็ยอมเปิดปากพูดความจริง คงจะคิดเพียงว่าอย่างไรเสียบัวก็เป็นเพียงบ่าวทาสจะทำกระไรต่อได้ แน่นอนว่าอีบัวผู้นี้แหละจะเปิดโปรงความจริงทั้งหมดเอง!“โชคดีที่วันนี้คุณหญิงเลือกรับกับข้าวที่ทำง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นนะเอ็ง!”“ฉันขอโทษจ้ะ ครั้งหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”เพราะเอาเวลาไปหาความจริงเสียเยอะ กลับบ้านมาอีกทีแม่จำปาที่รอท่าของจากตลาดก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับไปแล้ว ระหว่างช่วยกันลงครัวให้นายอยู่ก็ยังไม่วายโดนบ่นต่อจวนหูชาไปข้าง“ข้าปวดกระบาลกับเอ็งเสียจริง ไป...ไปให้พ้นหน้าข้า”“ใช้แรงงานเสร็จแล้วก็ไล่กันเลยรึจ๊ะ”“เอ๊ะ! นังนี่” บัวรีบวิ่งหนีออกมาก่อนที่จะโดนสากปาใส่หัวเข้าจริง ๆ กว่าจะเสร็จจากครัว ยามนี้ดวงตะวันก็เริ่มเลือนลับเต็มที จะว่าไปวาดจันทร์ก็แอบติดใจกับความเชื่องช้าของยุคสมัยแล้วเหมือนกัน ไม่รีบร้อนที่จะออกไปทำงานแต่เช้า ค่ำมาก็ต้องร้อนรนกลับบ้านเพื่อพักผ่อน ชีวิตในยุคนั้นต่างอะไรจากคำว่าวนลูปกันเรียวขาสวยก้าวเดินพาตัวเองไปอย่างไร้จุดหมาย กลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ยา

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๑

    หลังจากคืนนั้นบัวก็พยายามเลี่ยงหน้าขุนเอกอยู่ตลอด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน บ้านก็ยังอาศัยเขาอยู่ ข้าวปลาอาหารก็ไม่มีอะไรเป็นของตนเลยสักอย่าง เห็นทีอีกไม่นานก็คงปะหน้ากันจัง ๆ บ้างแหละ“นี่พี่สาว ลดให้ฉันหน่อยไม่ได้หรือจ๊ะ”“ลดกระไรของเอ็งอี๊กนังบัว! เอ็งต่อราคาข้าคล้ายจะเอาของข้าฟรีอยู่แล้วนะโว๊ย!”วาดจันทร์นับว่าเป็นคนที่ปรับตัวได้เร็ว และเพราะมาจ่ายตลาดบ่อย ทำให้เธอได้วิชาการต่อรองราคาจากแม่จำปามาเต็ม ๆ นอกจากเราจะเป็นทาสของนายแล้ว เรายังต้องช่วยนายประหยัดเงินทองให้ได้มากที่สุดอีกด้วย“โธ่พี่สาวคนสวย ฉันมาซื้อของพี่บ่อยขนาดนี้ไม่เห็นใจกันเลยรึ?”“วะ!!! พี่สาวคนสวยกระนั้นหรือ”เอาแล้วอีบัว! สงสัยจะกวนใจแม่ค้ามากเกินไป คงจะไม่โดนผักฟาดหน้ากลับมาหรอกใช่ไหม คิดแล้วก็แอบหวั่นเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ ทว่าสิ่งที่บัวคิดมักไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป“งั้นก็จ่ายข้ามาเท่าที่เอ็งอยากจ่ายก็แล้วกัน ผักสองกำจะไปพอกระไร เอาไปสักสามกำสิแม่บัว” บัวยิ้มจางออกมากราย ๆ คนไทยนี่ชอบบ้ายอกันมาตั้งแต่สมัยนี้เลยเหรอเนี่ย เหลือจะเชื่อเสียจริง...หลังจากที่ได้ต่อรองการค้ากันแล้ว ผักจำนวนสามกำ

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๐

    “เอ็งขัดคำท่านได้กระไรนังบัว เหตุใดท่านขุนเรียกหาจึงไม่ไป!?”“วันพรุ่งต้องตื่นเช้า บัวกลัวจะตื่นสายน่ะจ้ะแม่”“นั่นหาใช่เรื่องที่เอ็งควรเกรง หากท่านขุนโกรธขึ้นมาสั่งโบยเอ็งอีกเล่า นี่ไม่ใช่คืนแรกที่ท่านเรียกหานะ กี่ค่ำกี่คืนเอ็งก็ไม่ยอมไปปะหน้าท่าน”บัวโดนบ่นเสียยาวเหยียด ทั้งยังถูกตั้งคำถามในตัวลูกสาวเพียงคนเดียวที่มี เป็นที่รู้กันดีว่าหากอันใดเป็นคำสั่งของนาย คนเป็นบ่าวเป็นทาสจะต้องเร่งทำตามด้วยความจงรักภักดี และยิ่งบัวที่ยังอยู่ในฐานะเมียทาสของท่านอยู่ ก็ยิ่งไม่ควรขัดคำ“แม่ไม่เป็นห่วงบัวหรือจ๊ะ ใครเขาจะเรียกผู้อื่นไปหายามนี้กัน”“เอ็งเป็นเมียของท่านขุน คนเป็นเมียก็ต้องดูแลปรนนิบัติผัวสิวะ”แม่จำปารู้ถึงเจตนาของท่านขุนที่เรียกหาลูกสาวของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเสียหน่อย หนำซ้ำไม่มีเมียทาสคนไหนกระทำเหมือนลูกตัวดีด้วย หากเป็นผู้อื่นคงจะเร่งไปเสนอตัวให้ถึงหอนอน“แม่จ๊ะ ฉันไม่อยากเป็นเมียของท่านขุนแล้ว ฉันจะต้องทำยังไงบ้างจ๊ะ”“เอ็งยังไม่หายบ้าอีกหรือ?! ไม่มีผู้ใดฝืนได้หรอกนะ คนที่จะตัดสินใจคือท่านขุนโน้น หาใช่เอ็งเสียหน่อย เฮ้อ...แปลกคนเสียจริง ไม่มีผู้ใดไม่อยากเป็นเมียของท่านหรอก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status