“แม่คะ ลัลไปนอนก่อนนะ” ลัลลาวีร์เอ่ยขึ้นขณะลอบมองมารดาของตนเองกำลังง่วนอยู่กับหน้าจอคอม
“ไปสิจ้ะ ลูก” พราวนภาเอ่ยแล้วเงยหน้าขึ้นบอกลูกสาวเสียงหวาน
พราวนภามองจนลัลลาวีร์เดินขึ้นบันไดบ้านหายลับตาไปแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงก้มหน้ามามองงานตนเองต่อ
งานของพราวนภาเป็นงานเขียนนวนิยายขนาดยาว แม้จะได้เงินไม่มากนักแต่ก็มากพอที่จะประคองชีวิตเธอกับลูกสาววัยเยาว์ได้
พราวนภาอาศัยอยู่กับลูกสาวสองคน เธอหย่าขาดกับสามีไปตั้งแต่ลัลลาวีร์ยังเป็นวัยรุ่นจวบจนปัจจุบันนี้เธอยังไม่มีใครใหม่แม้ว่าเธอจะเริ่มเหงาบ้างก็ตาม...
นักเขียนสาวใหญ่สะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดไม่เข้าท่าออกไป แล้วเบือนหน้ามาก้มหน้าก้มตาเขียนนวนิยายต่อ
งานเขียนของพราวนภาเป็นงานเขียนนิยายรักโรมานซ์ทั่วไป หากแต่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักอ่าน
ขึ้นติดอันดับหนึ่งในห้าเว็บไซต์ดังหลายเว็บไซต์
พราวนภามักจะใช้ชื่อนามปากกาว่า 'พลอยเพทาย'
สำหรับเขียนนิยายโรมานซ์สิบแปดบวกโดยเฉพาะ
“ตึ๋ง” เสียงข้อความดังขึ้นในกล่องข้อความ gamailที่แม่ม่ายสาวเปิดอยู่
มือเรียวสวยเอื้อมคลิกเมาส์อย่างรวดเร็วในกล่องข้อความเมื่อเห็นเป็นอีเมล์ใหม่
“ใครกันนะ ส่งเมล์มาในเวลานี้” พราวนภาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อย
ภาพในหน้าจอคอมปรากฎภาพโปสเตอร์เขียนว่า
ขอแสดงความยินดีด้วย เรื่องสั้นที่คุณพราวนภา สุเวชวัฒนา ผ่านเข้ารอบคัดเลือกเข้าโครงการอบรม
“สานฝัน สืบงานเขียน”
ดวงตาคู่งดงามของแม่ม่ายสาวเบิกกว้างขึ้นยามเมื่อได้อ่านอีเมล์ฉบับนั้น
“เยี่ยม พราวนภามันต้องอย่างนี้” เสียงหวานแหลมเอ่ยขึ้นเเล้วกำหมัดอย่างแรง
ความใฝ่ฝันของพราวนภาคือการได้เฉิดฉายบนวงการน้ำหมึกสักรอบ
พราวนภาลอบมองตนเองในกระจก ภาพที่สะท้อนเบื้องหน้าของแม่ม่ายสาวคือ ใบหน้าผ่องนวลสวย คิ้วโก่งโค้งได้รูปสวย ดวงตาคู่กลมโต หากแต่เปล่งประกายระยับและริมฝีปากอันบางเฉียบ
สาวใหญ่เอื้อมจับริมฝีปากตนเองอย่างเเผ่วเบา
ภาพในอดีตผุดพรายขึ้นมาราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานคืน
“อื้ม” เสียงหวานใสครางลอดออกมาจากใน
ห้องน้ำผับแอนด์บาร์แห่งหนึ่ง
พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ
ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์
นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย
พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ
แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง
หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
ด้วยความสงสัยพราวนภาเดินไปดูหน้าบ้าน แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์กวาดสายตา ไปบริเวณหน้าบ้านภาพที่ปรากฏ ตรงหน้าอดทำให้พราวนภาตะลึงไม่ได้“เป็นเขานั่นเอง” ธนพ ทายาทเพียงคนเดียว ของ ตระกูลดิเรกสิงหะ กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านคฤหาสน์ที่แยกตัวจากถนนเหตุการณ์เมื่อวานยังคงติดตรึงในใจของพราวนภาดวงหน้าหวานแต้มสีเรื่อจางๆคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แม่ม่ายสาวอย่างพราวนภารู้สึกถึงความปั่นป่วนในห้วงใจ ของหล่อนเองเวลานี้เธอจะให้ลัลลาวีร์รู้เรื่องนี้ไม่ได้นะ คิดสิ พราวนภาคิดในใจ หากแต่เวลานี้พราวนภาสาวเท้าออกไปเพื่อเปิดประตูมาเพื่อให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของพราวนภาไม่สงสัย ว่ามารดาของเธอหายไปไหนมาทั้งคืนพราวนภาแม่ม่ายสาว เดินออกไป ม่ายสาวสวมรองเท้าแตะคีบสีดำตัดกับปลายเท้าสะอาดขาวผ่องของเธอ พราวนภาสืบเท้าออกไป ใกล้ประตูรั้วบ้าน สายลมเย็นเวลานี้พัดกรีดผิวของหญิงสาว “มาทำไมรึ” พราวนภาเอ่ยถามอย่างตระหนกเล็กน้อย “อ้าวพี่พราว” ธนพเอ่ยขึ้น พลางชูกระเป๋าสะพาย ของพราวนภาขึ้นมา“พอดีผมเอากระเป๋ามาคืนครับ” ธนพเอ่ยอย่างเป็นต่อ“ขอบคุณค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้น แล้วกุลีกุจอ เปิดประตูรั้วบ้านให้กับเขา
“พราวผมส่งแค่นี้นะ” ธนูเอ่ยขึ้นขณะจอดรถใกล้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พราวนภาอาศัยอยู่“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างเลื่อนลอยมือเรียวสวยเอื้อมเปิดประตูรถสปอร์ตแล้วก้าวลงมาจากรถอย่างรวดเร็วพราวนภาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอดินหลังฝนตกหมาดๆเธอค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยพราวนภาเดินออกไปจากบริเวณเดิมนานแล้ว หากแต่ธนูยังคงจับจ้องมองยังเรียวขาขาวนวลอย่างเผลอไผลเรือนกายขาวผ่องที่เขาแตะต้องเธอเพียงไม่กี่ครั้งยังคงติดตราตรึงเข้าไปในโสตประสาทของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนูยกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่หนุ่มใหญ่คิดออก เขาถอยรถออกจากบริเวณบ้านของพราวนภาออกไปในทันที“แม่คะ หายไปไหนมา” ลัลลาวีร์ในวัยมัธยมต้นวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหามารดา“พอดีแม่เจอเพื่อนเก่านิดหน่อย เลยแวะทักทายเขานานไปหน่อย” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรค่ะ ลัลหิวข้าวแล้ว” เด็กสาวยกมือขึ้นลูบท้องอย่างเคยชินพราวนภาอดน้ำตาซึมไม่ได้ในฐานะคนเป็นแม่ ม่ายสาวจูงมือลูกสาวเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีสายตาของธนพแอบมองตามลัลลาวีร์ไม่วางตาธนพที่ซ่อนตัวแอบดูพฤติกรรมของพี่สะใภ้สาว
แม่ม่ายทรงเครื่องสัมผัสได้ว่า ธนูแทรกตัวผ่านช่องทางสวรรค์ของเธออย่างไม่ปรานี กระนั้นในโพรงปากกับมีแท่งไอติมเขื่องธนพคาอยู่ธนพจับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างแผ่วเบาที่สุด หากแต่พราวนภากลับรู้สึกพึงใจต่อเหตุการณ์เช่นนี้อย่างถึงที่สุดตั้งแต่เกิดมา พราวนภาไม่เคยรู้สึกราวกับผกผินได้เช่นนี้มาก่อน ม่ายสาวรู้สึกนี่คือสวรรค์รำไรของเธอขณะที่พราวนภาตกอยู่ในภวังค์ห้วงวสุข ธนูเองก็ขยับเข้าออกช่องทางสวาทของเธออย่างเป็นจังหวะบทบรรเลงเกมกามารมณ์เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดธนพเองก็จับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อนดวงหน้าคมคายคล้ายธนูแหงนขึ้นอย่างกระสันต์ถึงที่สุดเฉกเช่นเดียวกับพราวนภา ธนพอดร้องครางออกมาราวกับสิงห์คำรามไม่ได้เช่นเดียวกันกับธนูหนุ่มใหญ่อดรู้สึกไม่ได้เลยว่าเขาชอบบทเพลงรักที่แสนจะดุเดือดแบบนี้มากเพียงใด ยิ่งยามเห็นแววตาของพราวนภาที่แสดงออกถึงความสุขที่เธอไม่เคยได้รับทำให้เขายิ่งกระแทกเธอแรงกระชั้นขึ้นกว่าเดิมธนูอดรู้สึกดีไม่ได้ เขามักจะแข็งตัวทุกครั้งที่เห็นฝ่ายหญิงเป็นหมากเบี้ยล่างอย่างนี้ ยิ่งยามนี้ได้เห็นภรรยาเก่าของเขาสุขสันต์ยิ่งสร้างความกระหายให้เขาอย่างหาที่สุดไม่ได้ลม
พราวนภาอดตอบรับสัมผัสนั้นไม่ได้ ม่ายสาวแอ่นเรือนกายขาวผ่องตอบสนองต่อแรงปรารถนานั้นทันที “อ๊า” พราวนภาครวญเสียงหวานอย่างเผลอไผลธนูลอบสังเกตอย่างเงียบกริบ หนุ่มใหญ่อดรู้สึกหวามใจไม่ได้ ดวงตาคู่คมเปล่งประกายระยับกว่าเดิมหนุ่มใหญ่ไม่รอช้าถลันเข้าหาหุบเขาแห่งมวลหมู่ดอกไม้ที่เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมทันที“อ๊าย” พราวนภาร้องครางเสียงหลง ยามเมื่อทายาทอันดับแรกดอมดมกลีบดอกไม้ของเธอ ขณะเดียวกันกับที่ธนพยังคงเล้าโลมเธอด้วยริมฝีปากอย่างยั่วเย้าหนุ่มใหญ่สะบัดลิ้นไปมาอย่างกระสันต์เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธนพบดจูบขยี้ริมฝีปากของพราวนภาพราวนภารู้สึกราวกับนี่คือภาพฝัน ม่ายสาวทรงเครื่องอย่างเธอกลับถูกพี่น้องสองคนรุมเร้าด้วยแรงปรารถนาอย่างสุขสันต์...นี่ซิความสุขอย่างแท้จริงสาวใหญ่เริ่มปลดปล่อยอารมณ์ให้เตลิดราวกับดอกบัวพลิ้วเอนไหวไปตามแรงลม “พี่พราวชอบไหมครับ” ธนพเอ่ยดวงดวงหน้าแดงระเรื่อ ขณะมือยังคงเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มได้รูปสวยอย่างมันส์มือ“อื้ม” พราวนภาตอบรับเพียงสั้นๆ“พราวเราสองคนพี่น้องชอบคุณมานานแล้ว แต่ธนพไม่กล้าที่จะบอกออกไป” ธนูเอ่ยขึ้นดวงหน้าคมคายของเขาแต้มรอยยิ้มจริงใจที่สุดเท่าที่พราวนภาเคย
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาแยงดวงตาของธนู หนุ่มใหญ่ขยี้ตาอย่างแรงเหตุการณ์เมื่อคืนราวกับจะตอกย้ำให้ธนูรู้ชัดว่าน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างพราวนภารสเลิศเพียงใด กระนั้นหนุ่มใหญ่ยังอดชำเลืองมองภรรยาเก่าของเขาไม่ได้หากแต่เวลานี้พราวนภากลับอันตธานหายไปเสียแล้วกระนั้นร่องรอยน้ำสวาทยังคงมีอยู่ให้เห็นจนหนุ่มใหญ่อดใจหายไม่ได้“ตื่นแล้วเหรอคะ...” พราวนภาเอ่ยถามขณะหนุ่มใหญ่ตรงหน้ากำลังจมลึกในห้วงภวังค์ธนูสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าพราวนภาสวมชุด...เมื่อวานที่เขาบรรจงถอดมันออกมากับมือเดรสสีแดงสั้นเผยให้เห็นว่าสตรีตรงหน้างดงามเพียงใดดวงหน้าอ่อนหวานล้อมกรอบด้วยเรือนไหมสีน้ำตาลแดงปล่อยยาวสยายถึงกลางหลังธนูสังเกตว่าพราวนภามีริมฝีปากที่สะดุดสายตามากกว่าสิ่งอื่นใดบนดวงหน้างดงามหนุ่มใหญ่ไล่ระดับสายตามายังเอวคอดที่โค้งเว้าอย่างสมดุลพราวนภาคนใหม่มีท่าทางแตกต่างจากภรรยาคนเก่าของเขามาก แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงกลับเจนจัดมากกว่าเดิมแม่ม่ายสาวประเมินสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชั่งใจ...พราวนภาไม่มีทางเลือกมานักหากว่าเธอไม่ตัดสินใจทำไรสักอย่าง“คุณลืมเรื่องเมื่อวานเถอะ พราวผมขอโทษ” ธนูพูดแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้เร็วกว่าเดิม
“อ๊า” พราวนภาคร้องเสียงหลงยามเมื่อธนูโลมเลียไปทุกกลีบของดอกไม้ราวกับภมรรุมทึ้งเกสรอย่างกระหายธนูเร่งระดับความต้องการของเขาขึ้น หนุ่มใหญ่เล้าโลมพราวนภาอย่างใคร่กระสันต์พราวนภาครวญกระชั้นขึ้น เธอรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อแท่งไอติมขนาดมโหราฬสอดเข้ามาในช่องทางสวรรค์ที่หญิงสาวของขาดมานานเรื่องบนเตียงเวลานี้ทำให้พราวนภา ม่ายสาวพราวเสน่ห์ ลืมเสียสนิทว่าเธอมาทำอะไรที่นี่พราวนภากระแทกสวนยามเมื่อธนูกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะมากกว่าเดิม“พราวผมรักคุณ” ธนุเอ่ยคำนี้ขณะคร่อมร่างของแม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ พราวนภาไว้เวลานี้ในสายตาธนู พราวนภาเปรียบดั่งกระดังงาเพียงแค่ลนไฟกลับลุกโหมอย่างไม่น่าเชื่อสายตาตนเองพราวนภาครางลั่นยิ่งยามเมื่อธนูบิดยอดปทุมของหล่อนแล้วหยอกเย้าอย่างซุกซนสำหรับพราวนภาเวลานี้เธอกำลังคุมเกม เพียงแค่พราวนภาเริ่มหยอกเย้าคนอย่างธนู ดิเรกสิงหะกลับตอบสนองเธอได้ดีถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่...เป็นไปได้ยาก“พราวผมจะจดทะเบียนสมรสกับคุณใหม่นะ” หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะเล้าโลมเรือนกายขาวนวลอย่างรุนแรง“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยแล้วสบสายตาจริงจังแม่ม่ายสาวแสนฉลาดตรงหน้ารู้ได้ทันที่ว่าในห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พราว