"สายแล้ว” พราวนภาเอ่ยอย่างกระหืดกระหอบ ยามเมื่อก้มลงมองดูนาฬิกา
รองเท้าส้นเตี้ยก้าวเดินฉับ ๆ เพื่อให้ทันนัดหมายในเก้าโมง
ร่างระหงส์สวมชุดเดรสยาวเลยเข่าสีโอรส ดวงตาคู่นั้นสอดส่ายหาไปยังบุคคลที่จะช่วยเหลือเธอได้
วันนี้เป็นวันที่สาวใหญ่อย่างพราวนภาเดินทางมายังงานอบรม “สานฝัน สืบงานเขียน” หากแต่เวลานี้เธอกลับกำลังหลงทางไปห้องอบรมไม่ถูก
ขณะที่กำลังหลงทางอยู่นั้นรองเท้าส้นเตี้ยของม่ายสาวก็พลันเหยียบเศษเปลือกกล้วย
“กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว
“คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว
พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย
ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า
“ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา
“ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง
“ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ
หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม
เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่
ธนพยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด หากแต่ขณะกำลังใช้ความคิดเสียงหนึ่งก็ถูกขัดขึ้น
“คุณธนพครับ รถที่เตรียมไว้ได้แล้วครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดที่กำลังเตลิดของธนพ
“ครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะสาวเท้าออกจากโรงแรมของพี่ชาย ธนู ดิเรกสิงหะ
ลิฟต์ไต่ระดับขึ้นสูง พราวนภาที่ลอบมองจากด้านบนอดใจสะท้านขึ้นมาไม่ได้ ดวงหน้าคมคายหากแต่อ่อนเยาว์กว่าคล้ายกับธนู ดิเรกสิงหะ สามีเก่าที่หย่าขาดของเธอ
พราวนภาห่อไหล่ด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย
แม่ม่ายสาวกลัวการเผชิญหน้ากับสามีเก่าของเธอเป็นที่สุด
ว่ากันว่าสิ่งที่สามารถทำให้พราวนภารู้สึกหวาดหวั่นในใจที่สุดเห็นจะเป็นธนู ดิเรกสิงหะ คนนี้นี่แหละ
ธนู ดิเรกสิงหะ สามีเก่าของเธอ เบื้องหน้ามีอาชีพสวยหรูเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่
กระนั้นพราวนภากลับไม่เคยเห็นสิ่งนั้นเลยสักครั้ง
ธนูเป็นหนุ่มหล่อ เขามีดวงหน้าคมสัน จมูกโด่ง ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูระเรื่อ รับกับผิวขาวผ่องละเอียดของเขา
ธนูเป็นผู้ชายคนแรกของพราวนภาหากแต่พราวนภากลับทำให้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น!!
คราวก่อนที่ธนูไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนที่บริษัทของเขาก็เช่นกัน เวลานั้นพราวนภากลับต้องทำกับข้าวอยู่บ้าน รีดผ้า ซักผ้าให้เขาอย่างเอาใจใส่ ของกินของใช้ไม่ขาดตกบกพร่อง
กระนั้นหรือเขาก็ยังนอกใจเธอได้..ธนู
แอบคบกับเด็กเชียร์เบียร์ หล่อนชื่อ ทีน่า เด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ
พราวนภายังจำหน้าดวงหน้าของทีน่าได้ดี มันเด่นชัดในความทรงจำของเธอ
ทีน่ามีดวงตากลมโต ใบหน้าขาวผ่อง คิ้วเข้มจมูกนูนเป็นสัน เด็กสาวคนนั้นมีใบหน้าออกฝรั่งจนทำให้สามีของพราวนภาติดใจอย่างที่ธนูชอบบอกกับพราวนภาให้แต่งหน้าแต่งตาหน่อย
ด้วยความสงสัยพราวนภาเดินไปดูหน้าบ้าน แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์กวาดสายตา ไปบริเวณหน้าบ้านภาพที่ปรากฏ ตรงหน้าอดทำให้พราวนภาตะลึงไม่ได้“เป็นเขานั่นเอง” ธนพ ทายาทเพียงคนเดียว ของ ตระกูลดิเรกสิงหะ กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านคฤหาสน์ที่แยกตัวจากถนนเหตุการณ์เมื่อวานยังคงติดตรึงในใจของพราวนภาดวงหน้าหวานแต้มสีเรื่อจางๆคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แม่ม่ายสาวอย่างพราวนภารู้สึกถึงความปั่นป่วนในห้วงใจ ของหล่อนเองเวลานี้เธอจะให้ลัลลาวีร์รู้เรื่องนี้ไม่ได้นะ คิดสิ พราวนภาคิดในใจ หากแต่เวลานี้พราวนภาสาวเท้าออกไปเพื่อเปิดประตูมาเพื่อให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของพราวนภาไม่สงสัย ว่ามารดาของเธอหายไปไหนมาทั้งคืนพราวนภาแม่ม่ายสาว เดินออกไป ม่ายสาวสวมรองเท้าแตะคีบสีดำตัดกับปลายเท้าสะอาดขาวผ่องของเธอ พราวนภาสืบเท้าออกไป ใกล้ประตูรั้วบ้าน สายลมเย็นเวลานี้พัดกรีดผิวของหญิงสาว “มาทำไมรึ” พราวนภาเอ่ยถามอย่างตระหนกเล็กน้อย “อ้าวพี่พราว” ธนพเอ่ยขึ้น พลางชูกระเป๋าสะพาย ของพราวนภาขึ้นมา“พอดีผมเอากระเป๋ามาคืนครับ” ธนพเอ่ยอย่างเป็นต่อ“ขอบคุณค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้น แล้วกุลีกุจอ เปิดประตูรั้วบ้านให้กับเขา
“พราวผมส่งแค่นี้นะ” ธนูเอ่ยขึ้นขณะจอดรถใกล้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พราวนภาอาศัยอยู่“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างเลื่อนลอยมือเรียวสวยเอื้อมเปิดประตูรถสปอร์ตแล้วก้าวลงมาจากรถอย่างรวดเร็วพราวนภาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอดินหลังฝนตกหมาดๆเธอค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยพราวนภาเดินออกไปจากบริเวณเดิมนานแล้ว หากแต่ธนูยังคงจับจ้องมองยังเรียวขาขาวนวลอย่างเผลอไผลเรือนกายขาวผ่องที่เขาแตะต้องเธอเพียงไม่กี่ครั้งยังคงติดตราตรึงเข้าไปในโสตประสาทของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนูยกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่หนุ่มใหญ่คิดออก เขาถอยรถออกจากบริเวณบ้านของพราวนภาออกไปในทันที“แม่คะ หายไปไหนมา” ลัลลาวีร์ในวัยมัธยมต้นวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหามารดา“พอดีแม่เจอเพื่อนเก่านิดหน่อย เลยแวะทักทายเขานานไปหน่อย” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรค่ะ ลัลหิวข้าวแล้ว” เด็กสาวยกมือขึ้นลูบท้องอย่างเคยชินพราวนภาอดน้ำตาซึมไม่ได้ในฐานะคนเป็นแม่ ม่ายสาวจูงมือลูกสาวเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีสายตาของธนพแอบมองตามลัลลาวีร์ไม่วางตาธนพที่ซ่อนตัวแอบดูพฤติกรรมของพี่สะใภ้สาว
แม่ม่ายทรงเครื่องสัมผัสได้ว่า ธนูแทรกตัวผ่านช่องทางสวรรค์ของเธออย่างไม่ปรานี กระนั้นในโพรงปากกับมีแท่งไอติมเขื่องธนพคาอยู่ธนพจับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างแผ่วเบาที่สุด หากแต่พราวนภากลับรู้สึกพึงใจต่อเหตุการณ์เช่นนี้อย่างถึงที่สุดตั้งแต่เกิดมา พราวนภาไม่เคยรู้สึกราวกับผกผินได้เช่นนี้มาก่อน ม่ายสาวรู้สึกนี่คือสวรรค์รำไรของเธอขณะที่พราวนภาตกอยู่ในภวังค์ห้วงวสุข ธนูเองก็ขยับเข้าออกช่องทางสวาทของเธออย่างเป็นจังหวะบทบรรเลงเกมกามารมณ์เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดธนพเองก็จับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อนดวงหน้าคมคายคล้ายธนูแหงนขึ้นอย่างกระสันต์ถึงที่สุดเฉกเช่นเดียวกับพราวนภา ธนพอดร้องครางออกมาราวกับสิงห์คำรามไม่ได้เช่นเดียวกันกับธนูหนุ่มใหญ่อดรู้สึกไม่ได้เลยว่าเขาชอบบทเพลงรักที่แสนจะดุเดือดแบบนี้มากเพียงใด ยิ่งยามเห็นแววตาของพราวนภาที่แสดงออกถึงความสุขที่เธอไม่เคยได้รับทำให้เขายิ่งกระแทกเธอแรงกระชั้นขึ้นกว่าเดิมธนูอดรู้สึกดีไม่ได้ เขามักจะแข็งตัวทุกครั้งที่เห็นฝ่ายหญิงเป็นหมากเบี้ยล่างอย่างนี้ ยิ่งยามนี้ได้เห็นภรรยาเก่าของเขาสุขสันต์ยิ่งสร้างความกระหายให้เขาอย่างหาที่สุดไม่ได้ลม
พราวนภาอดตอบรับสัมผัสนั้นไม่ได้ ม่ายสาวแอ่นเรือนกายขาวผ่องตอบสนองต่อแรงปรารถนานั้นทันที “อ๊า” พราวนภาครวญเสียงหวานอย่างเผลอไผลธนูลอบสังเกตอย่างเงียบกริบ หนุ่มใหญ่อดรู้สึกหวามใจไม่ได้ ดวงตาคู่คมเปล่งประกายระยับกว่าเดิมหนุ่มใหญ่ไม่รอช้าถลันเข้าหาหุบเขาแห่งมวลหมู่ดอกไม้ที่เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมทันที“อ๊าย” พราวนภาร้องครางเสียงหลง ยามเมื่อทายาทอันดับแรกดอมดมกลีบดอกไม้ของเธอ ขณะเดียวกันกับที่ธนพยังคงเล้าโลมเธอด้วยริมฝีปากอย่างยั่วเย้าหนุ่มใหญ่สะบัดลิ้นไปมาอย่างกระสันต์เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธนพบดจูบขยี้ริมฝีปากของพราวนภาพราวนภารู้สึกราวกับนี่คือภาพฝัน ม่ายสาวทรงเครื่องอย่างเธอกลับถูกพี่น้องสองคนรุมเร้าด้วยแรงปรารถนาอย่างสุขสันต์...นี่ซิความสุขอย่างแท้จริงสาวใหญ่เริ่มปลดปล่อยอารมณ์ให้เตลิดราวกับดอกบัวพลิ้วเอนไหวไปตามแรงลม “พี่พราวชอบไหมครับ” ธนพเอ่ยดวงดวงหน้าแดงระเรื่อ ขณะมือยังคงเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มได้รูปสวยอย่างมันส์มือ“อื้ม” พราวนภาตอบรับเพียงสั้นๆ“พราวเราสองคนพี่น้องชอบคุณมานานแล้ว แต่ธนพไม่กล้าที่จะบอกออกไป” ธนูเอ่ยขึ้นดวงหน้าคมคายของเขาแต้มรอยยิ้มจริงใจที่สุดเท่าที่พราวนภาเคย
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาแยงดวงตาของธนู หนุ่มใหญ่ขยี้ตาอย่างแรงเหตุการณ์เมื่อคืนราวกับจะตอกย้ำให้ธนูรู้ชัดว่าน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างพราวนภารสเลิศเพียงใด กระนั้นหนุ่มใหญ่ยังอดชำเลืองมองภรรยาเก่าของเขาไม่ได้หากแต่เวลานี้พราวนภากลับอันตธานหายไปเสียแล้วกระนั้นร่องรอยน้ำสวาทยังคงมีอยู่ให้เห็นจนหนุ่มใหญ่อดใจหายไม่ได้“ตื่นแล้วเหรอคะ...” พราวนภาเอ่ยถามขณะหนุ่มใหญ่ตรงหน้ากำลังจมลึกในห้วงภวังค์ธนูสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าพราวนภาสวมชุด...เมื่อวานที่เขาบรรจงถอดมันออกมากับมือเดรสสีแดงสั้นเผยให้เห็นว่าสตรีตรงหน้างดงามเพียงใดดวงหน้าอ่อนหวานล้อมกรอบด้วยเรือนไหมสีน้ำตาลแดงปล่อยยาวสยายถึงกลางหลังธนูสังเกตว่าพราวนภามีริมฝีปากที่สะดุดสายตามากกว่าสิ่งอื่นใดบนดวงหน้างดงามหนุ่มใหญ่ไล่ระดับสายตามายังเอวคอดที่โค้งเว้าอย่างสมดุลพราวนภาคนใหม่มีท่าทางแตกต่างจากภรรยาคนเก่าของเขามาก แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงกลับเจนจัดมากกว่าเดิมแม่ม่ายสาวประเมินสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชั่งใจ...พราวนภาไม่มีทางเลือกมานักหากว่าเธอไม่ตัดสินใจทำไรสักอย่าง“คุณลืมเรื่องเมื่อวานเถอะ พราวผมขอโทษ” ธนูพูดแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้เร็วกว่าเดิม
“อ๊า” พราวนภาคร้องเสียงหลงยามเมื่อธนูโลมเลียไปทุกกลีบของดอกไม้ราวกับภมรรุมทึ้งเกสรอย่างกระหายธนูเร่งระดับความต้องการของเขาขึ้น หนุ่มใหญ่เล้าโลมพราวนภาอย่างใคร่กระสันต์พราวนภาครวญกระชั้นขึ้น เธอรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อแท่งไอติมขนาดมโหราฬสอดเข้ามาในช่องทางสวรรค์ที่หญิงสาวของขาดมานานเรื่องบนเตียงเวลานี้ทำให้พราวนภา ม่ายสาวพราวเสน่ห์ ลืมเสียสนิทว่าเธอมาทำอะไรที่นี่พราวนภากระแทกสวนยามเมื่อธนูกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะมากกว่าเดิม“พราวผมรักคุณ” ธนุเอ่ยคำนี้ขณะคร่อมร่างของแม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ พราวนภาไว้เวลานี้ในสายตาธนู พราวนภาเปรียบดั่งกระดังงาเพียงแค่ลนไฟกลับลุกโหมอย่างไม่น่าเชื่อสายตาตนเองพราวนภาครางลั่นยิ่งยามเมื่อธนูบิดยอดปทุมของหล่อนแล้วหยอกเย้าอย่างซุกซนสำหรับพราวนภาเวลานี้เธอกำลังคุมเกม เพียงแค่พราวนภาเริ่มหยอกเย้าคนอย่างธนู ดิเรกสิงหะกลับตอบสนองเธอได้ดีถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่...เป็นไปได้ยาก“พราวผมจะจดทะเบียนสมรสกับคุณใหม่นะ” หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะเล้าโลมเรือนกายขาวนวลอย่างรุนแรง“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยแล้วสบสายตาจริงจังแม่ม่ายสาวแสนฉลาดตรงหน้ารู้ได้ทันที่ว่าในห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พราว