ดารัณผลักร่างใหญ่เหม็นหืนของคำแปงออกไปจากร่างกาย หล่อนผุดลุกขึ้นยืน เดินนวยนาดไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวเก่าๆ โดยไม่คิดอายสายตาวาวๆ ของคนงานร่างใหญ่ เมื่อร่างกายเปล่าเปลือยเย้ยฟ้าท้าลม
“ไปได้แล้ว...ดูดีๆ ล่ะ อย่าให้ใครเห็น”
หญิงสาวโบกมือไล่ เมื่อเสร็จสม คนงานผู้นี้ก็ไร้ประโยชน์
“คุณนาย...นานๆ จะมีโอกาส ครั้งเดียวพอเหรอครับ”
คำแปงท้วง เขาคว้ากางเกงผ้าฝ้ายมาสวมลวกๆ จ้องมองนายสาวด้วยสายตาวาววับ!!
ปากสีสดเหยียดยิ้ม หล่อนปรายตามองหนุ่มคนงานด้วยสายตาดูถูก หากไม่เพราะผัวแก่ทำให้ตนเองอดอยาก ดารัณไม่มีวันลดตัวมาเกลือกกลั้วกับคนงานชั้นต่ำแน่ๆ ในเมืองกรุงเธอสามารถหลบสายตาสามีออกไปเริงร่านอกบ้านได้ แต่บ้านนอกไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ ได้คนงานหุ่นกำยำแก้ขัด ก็ดีอารมณ์ค้าง...เพราะเทียมไม่เคยส่งเธอถึง สวรรค์ชั้นฟ้าสักที
“ไปเถอะน่า!!”
หล่อนตวาดซ้ำ คำแปงจึงยอมตัดใจ เขาเดินออกไปนอกห้อง ปิดประตูที่แทรกผ่านออกไปเร็วๆ เดินย่องผ่านเงามืด เร้นกายหายไปกับสายลม โดยไม่มีใครรู้เรื่องชั่วช้าที่เขาเพิ่งกระทำลงไป
เด็กหนุ่มทรุดนั่ง เขาคู้เข่าขึ้นสอดมือกอดเข่าไว้แน่นๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลซึม เพราะรู้สึกรังเกียจตัวเอง ความกำหนัดพลุ่งพล่านอยู่ในตัว อวัยวะความเป็นชายของเขาแข็งตึง ทั้งที่เขาควรจะรังเกียจผู้หญิงร่านราคะคนนั้น
ภาพการเสพสมของหล่อน กระตุ้นความปรารถนาในร่างกาย เขาเผลอมโน คิดจะเข้าไปแทนที่ผู้ชายอัปรีดิ์คนนั้น พร้อมทั้งสาดใส่ความรุ่มร้อนของตนเองกับผู้หญิงแพทยาที่กำลังครางคร่ำ ด้วยเรี่ยวแรงที่มี เขาช่างเป็นคนน่ารังเกียจ จนสุดที่จะทน
“อยากลองล่ะสิ ลองไหมล่ะคุณธรร?”
ดารัณยืนอิงกรอบประตู หล่อนไม่ได้นึกอาย เมื่อเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางความเวิ้งว้างของอากาศ โนมเนื้ออวบใหญ่แกว่งไป ส่ายมา ปลายจะงอยอกสีคล้ำชี้ชู แต่กลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความแห้งผากในลำคอ เขาไล่สายตาลงต่ำเหมือนคนละเมอ จนถึงเนินนางอวบอูมกลางร่าง มีเส้นขนสีดำแผ่กระจายปลกคลุม กับเรียวขาอวบอัดแนบชิด จนเกิดเป็นรูปรอยสามเหลี่ยม แอ่งสวาทที่ผู้ชายยอมสยบ หากหล่อนจะอ้าขาให้ในเวลานี้ธรรวาเองก็คงไม่ต่างกัน
“คุณ-ไม่ควรทำแบบนี้ ถะ... ถ้าพ่อรู้!! คุณจะถูกเฉดหัวออกไปจากบ้านนี้”
เด็กหนุ่มกัดฟันพูดตะกุก ตะกัก เขาเสหลบตา เมื่อดารัณปรายตามองกลับมาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มไร้แววเกรงกลัว
“คุณพี่จะไม่มีวันรู้ค่ะ เพราะคุณธรรจะไม่พูด”
สาวกร้านโลกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ เมื่อมีวิธีปิดปากลูกเลี้ยงได้แบบสนิทที่สุด
หล่อนเดินลิ่วๆ เข้าใส่เด็กหนุ่ม จนธรรวาผงะ เขาถอยหลังกรูด แต่เพราะไม่คิดว่าดารัณจะใช้ไม้นี้ เขาจึงไม่ทันได้ตั้งหลัก ก็โดนหญิงสาวเจนจัดโถมเข้าใส่เสียแล้ว หล่อนเสียดสีร่างกายเปล่าเปลือยอวบอัด กับร่างแกร่งกำยำของเด็กชายอายุ18 ปี ความอ่อนเดียงสา ประกอบกับความกระหายที่ผุดขึ้นมากลางใจ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นความน่าละอาย...แต่มนุษย์โลกก็เป็นเช่นนี้แหละ หากพ่ายแพ้แก่ดำกฤษนา
ดารัณจับมือสั่นๆ ของธรรวา วางแหมะที่เนินอกอิ่ม หล่อนส่ายลำตัว เสืยดสีกับหนุ่มน้อยแบบกระหยิ่มใจ จากนี้ไป เธอคงไม่ต้องอดอยากปากแห้ง...เมื่อสามีแก่คราวพ่อให้ความสุขถึงที่สุดไม่ได้ เธอก็ยังมีลูกชายหนุ่มแน่นของเขาเป็นตัวสำรอง
ริมฝีปากสีสดห่อเป็นวงกลม ครางเสียงกระเส่า เมื่อคนใต้ร่างเริ่มขยำขยี้เนินทรวงแม้จะเงอะๆ งะๆ แต่มันก็ทำให้ ความกระสันของหล่อนวิ่งพล่าน และยิ่งเป็นคนที่ตนเองพึงใจด้วยแล้วมันสุขซ่านจนอยากจะแหกปากร้องครางดังๆ ดารัณแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ก่อนจะฉกปากบดจูบปากสีเข้มของธรรวาบดขยี้แรงๆ แบบคนเจนจัด เรียวลิ้นสีชมพูแทรกผ่านปากของเด็กหนุ่ม หล่อนไล่ต้อนคนอ่อนเดียงสาอย่างสนุก
“อ่า...”
เรือนกายอวบอัดเบียดส่าย เสียดสีจนไฟในกายธรรวาลุกพรึ่บ!! เขาหน้ามืดไป เมื่อความรัญจวนโอบล้อมรอบกาย เสื้อยืดสีขาว กับกางเกงบ็อกเซอร์ ถูกคนมือไวปลดเปลื้องออกไปจนหมด มีเพียงกางเกงชั้นในสีดำ ติดกายแค่ชิ้นเดียว แต่ความอลังการของชายหนุ่ม ก็ทำให้ดารัณนึกกระหยิ่ม สัดส่วนแข็งขันใต้กางเกงชั้นในนั่น มันโป่งบวมแทบจะทะลุเนื้อผ้าออกมา แม้จะยังไม่ได้เห็นด้วยสองตา แต่คนเจนจัดอย่างผู้หญิงกร้านโลก ที่ผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยอย่างดารัณ เดาได้ไม่อยาก
“ชอบมั้ยคุณธรร ชอบที่รัณทำให้มั้ยคะ?” หล่อนกระถดตัวลงต่ำๆ ไม่ได้สนใจสักนิดว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องหับมิดชิด เพราะความกำหนัดปิดบังความคิด แถมหากไม่รีบเผด็จศึก ลูกเลี้ยงของหล่อนรู้ตัวเข้า คงได้ซัดแห้วชามโต!! ดารัณจึงไม่รอช้า กลเม็ดเด็ดทรวงมีแค่ไหน หล่อนรีบงัดเอาออกมาใช้เพื่อจูงใจธรรวา หลังจากผ่านครั้งแรกไป...ครั้งต่อไปๆ เธอคงสุขถึงทรวง
ธรรวาพยายามฝืนความต้องการฝ่ายต่ำ แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เมื่อคนเจนโลกดักทางไว้ถูก หล่อนกระชากปราการด่านสุดท้ายของชายหนุ่ม “โอว้!!” พร้อมกับเสียงครางยาวเหยียด เมื่อความแข็งขึงของธรรวาดีดผึ่ง!! มันตั้งชูชัน พร้อมที่จะออกศึก หญิงสาวยิ้มกริ่ม เธอฝันหวานถึงอนาคตในภายภาคหน้า นอนเสวยสุขบนสมบัติของผัวแก่!! มีนายบำเรอเป็นลูกเลี้ยงที่ทั้งหนุ่มแน่นและหล่อเหลา ดารัณคิดแบบคนเห็นแก่ตัว เธอจะจูงจมูกธรรวาไว้ ด้วยเล่ห์เสน่หา เป็นความลับที่กำลังร่วมกันสร้าง เขาไม่มีทางกล้าหือกับตนเองแน่...เมื่อหล่อนรู้ ธรรวารักและเคารพบิดายิ่งกว่าใครๆ
ปากจิ้มลิ้มสวมครอบความแข็งขัน หล่อนตวัดปลายลิ้นกับปลายยอดสีสดรัวๆ จนคนไม่คุ้นชินถึงกับครางอู้ ธรรวาโก่งตัว ความกระสันตีตื่นจนตาพร่า เขาไม่สนใจสิ่งใดเลย นอกจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ระลอกความเสียวสยิวแผ่กระจายจากกึ่งกลางร่างกาย ลามเลียไปทุกพื้นที่ จนเรือนกายสั่นกระตุก มือแข็งแรงยกกดศีรษะทุยได้รูปที่ผลุบๆ โผล่ๆ ตรงหว่างขา เขาครางเสียงหลงเมื่อดารัณอ้าอมความแกร่งร้อนของเขาจนสุดโคน...
มันเหมือนกับว่าลำตัวเขาเบาหวิว ล่องลอยอยู่กลางอากาศ...เนื้อตัวสั่นกระตุก เมื่อความเสียวสยิวแผ่ซ่านจนหน้ามืด...ความปรารถนาคุโชน...มันเสียวซ่านจนลืมแม้แต่สำนึกฝ่ายดี เมื่อผู้หญิงที่กำลังเสพสมกันนี้ หล่อนมีฐานะเป็นแม่เลี้ยงของตนเอง
แต่เหมือนสวรรค์มีตา เทวดาดลใจให้ใครบางคนก้าวเข้ามาขวางไว้... ก่อนที่หนุ่มน้อยจะตกนรกขุมสุดท้าย
“ทำอะไรกันน่ะ!!” เสียงแหบห้าว ตวาดขัดจังหวะ
ดารัณชะงัก หล่อนใจหายแวบ!! เมื่อเสียงแหบห้าวเช่นนี้ มีแค่เพียงเสียงของชายผู้เป็นสามีเท่านั้นเอง
หล่อนถอนปากออกมาจากความแข็งตึง ครางเสียงพร่า “คุณพี่!!” กระถดตัวลุกขึ้นนั่งไขว่แขนกอดตนเองไว้ เพื่อปิดบังความเปลือยเปล่า พร้อมกับรีบบีบน้ำตา แสดงละครหลอกตาสามี “ไม่ใช่อย่างที่คุณพี่คิดนะคะ...รัณ รัณ”
“หุบปาก!! รีบไปใส่เสื้อผ้าซะเถอะ ฉันทุเรศหล่อนเต็มที”
ประมุขของบ้านบดินทร์เดชตวาดซ้ำ เขาทอดสายตาสมเพชมองคนทั้งคู่ หัวใจปวดแปลบ เมื่อสองคนตรงหน้า คือบุตรชาย กับภรรยาที่เขารักยิ่ง
“คุณพ่อ...” ธรรวาครางเสียงหลง เขาควานหาเสื้อผ้าที่ถูกถอดมาสวมลวกๆ บนร่างกาย
“แกขึ้นไปรอพ่อบนห้อง... พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก” เทียมกลั้นความเสียใจ เขาข่มความโกรธไว้ พร้อมกับชี้นิ้วสั่นระริกไล่บุตรชาย เพราะหากธรรวายังอยู่ตรงนี้ เขาไม่มั่นใจว่าตนเองจะลงมือทำร้ายบุตรชายหรือไม่
แววตาสำนึกผิด...เปล่งแสงออกมาจากดวงตาของธรรวา เขาอยากจะแก้ตัว แต่คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเมื่อบิดาเห็นด้วยสองตาตยเอง ธรรวาคอตก...เด็กหนุ่มจึงสลดใจ เขารีบเดินจากไปเร็วๆ สายตาแข็งกร้าวเหลือบมองหญิงแพทยาที่แสร้งทำเป็นฟูมฟายด้วยความโกรธสุดจิต เป็นเพราะผู้หญิงร่านอย่างดารัณคนเดียวที่ทำให้เขาผิดใจกับบิดา
ดารัณสะอื้นไห้จนตัวโยน เธอไม่ได้กลัวความผิดที่ก่อ เมื่อแน่ใจ ชายแก่ผู้นี้หลงใหลตนเองยิ่งนัก แต่จะทำยังไงให้เขาไม่อับเปหิตนเองออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ ไม่อย่างนั้นละก็...ความสะดวกสบายที่เคยได้รับ...คงได้จบสิ้นลง เธอจึงแสร้งทำเป็นฟูมฟาย ร่ำไห้อย่างหนักเพื่อให้สามีแก่คราวพ่อเวทนา
“รัณ...รัณ มันไม่ใช่อย่างที่คุณพี่คิดนะคะ รัณแค่กำลังเอ่อ...” มันกระดากปากที่จะพูดปด เพราะเทียมเห็นด้วยตาตนเอง เธอจะแถอะไรได้
“พอเถอะดารัณ ฉันไม่ได้โง่!! หรือเป็นคนตาบอดนะ...ฉันรู้ ฉันเห็น!!” แม้จะรู้สึกโกรธจัด เมื่อภรรยาสุดรักกำลังสวมเขาให้ แต่เมื่อมันยังไม่เกินเลยไปถึงไหน...เขาก็ควรหาวิธีแก้ไข ยังไงเสีย เขาก็ตัดใจเฉดหัวหล่อนไม่ลง เมื่อพิศวาสหวามที่ดารัณปรนเปรอให้ยามค่ำคืน เทียมไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนทำได้เท่าที่ดารัณทำ “เรื่องนี้จะเป็นความลับ ฉันจะส่งตาธรรไปเมืองนอก ขออย่างเดียว อย่ายุ่งกับลูกชายฉันอีก” เทียมตวาดเสียงกร้าว...วิธีแก้คือการกันธรรวาออกไปไกลๆ ตา เวลาจะช่วยให้บุตรชายท่าน ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้เอง แม้จะรู้สึกผิดกับบุตรชาย
“รัณสัญญา...” สาวร่านรีบคลานเข่าเข้าไปใกล้ หล่อนรีบสัญยิงสัญญา แต่ในใจกลับค้าน...ไม่มีวันที่หล่อนจะหยุดพฤติกรรมต่ำทราม เมื่อมันคือการระบายออกทางเดียวของเธอ ก่อนที่จะอัดอั้นตาย เมื่อสามีสูงวัย...ทำให้ตนเองถึงสวรรค์ไม่ได้
“กลับขึ้นบ้านเถอะ...ดารัณ” เทียมกล่าวเสียงพร่า มันเจ็บจี๊ดๆ ในอก แต่จะทำไงได้ เวลานี้ ดารัณทำให้เขาหลงใหลจนหัวปักหัวปำ
ห้องนอนของธรรวา...
หนุ่มวัยรุ่นนั่งก้มหน้านิ่ง ดวงตาแดงก่ำเส้นเลือดสีแดงๆ กระจายเต็มหน่วยตา ในเวลานี้เขามีแต่ความเสียใจกับความอดสู กลับกลายเป็นคนชั่ว คนเลวในสายตาบิดาจนไม่น่าให้อภัย ประพฤติผิดแบบตั้งใจ!! แม้จะไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่ความผิดครั้งนี้ของเขา ตัวเองก็มีส่วนกึ่งหนึ่ง เมื่อไม่รู้จักหักห้ามดำฤษณาในร่างกาย ปล่อยใจตนเอง หลงไปตามกระแสเชี่ยวกรากของพายุอารมณ์ มือของเขากำแน่นจนเส้นเลือดที่ข้อมือโปนเป็นรอยนูนๆ กรามแกร่งขบไปมา เมื่อความรู้สึกข้างในพลุ่งพล่าน ธรรวากลัวบิดาเข้าใจผิด...เขากลัวว่าผู้หญิงแพทยาคนนั้นจะเป่าหูท่าน จนความรักที่เคยมีหดหาย
แกร๊ก!! ... เสียงประตูห้องนอนถูกดันให้เปิด เทียมเดินผ่านประตูเข้ามา ดวงตาของบิดาเฉยชา จนธรรวาใจหายวูบ!!
“เตรียมเก็บของเถอะธรร พรุ่งนี้พ่อจะให้คนไปส่งที่สนามบิน” บิดากล่าวเสียงเรียบ ท่านเสเบือนหน้าหนี เพราะทันทีที่พูดจบ ธรรวาตัดพ้อท่านทางสายตา
“พ่อ...เลือกผู้หญิงแพทยาคนนั้น...แทนผมเหรอครับ” เสียงของเขาสั่นพร่า ตอนที่เปิดปากพูด
“...” ไม่มีคำตอบ มีแต่ความเงียบที่บิดามอบให้
“เมียพ่อ...ยิ่งกว่าอีตัว!! หล่อนแบให้ผู้ชายเอาไปทั่ว วันหนึ่งพ่อจะเสียใจที่ยังเก็บหล่อนไว้ข้างตัวแบบนี้” เด็กหนุ่มตะโกนลั่น ดวงตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความคั่งแค้น
“แกไม่เข้าใจหรอกธรร แกยังเด็ก” เทียมอธิบาย มันเป็นความโง่ของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่ยังมีอารมณ์และความต้องการ ดารัณคือคนคนเดียวที่ทำให้เทียมมีความภาคภูมิใจ แม้อายุเขาจะมากโข แต่ก็ยังทำให้ผู้หญิงสาวๆ คนหนึ่งครวญครางประหนึ่งจะขาดใจตายได้ แต่ที่เขาไม่รู้...นั่นมันแค่ละคร ความจริงแล้ว เทียมไร้น้ำยาที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งถึงจุดสุดยอด เรี่ยวแรงเขามีไม่พอ ไม่แปลกหรอกที่ดารัณจะหาผู้ชายคนอื่นมาสวมเขาให้กับเขา
“ผมยังเด็ก ใช่!! ผมยังเด็ก ผมเลยเป็นคนที่ควรไป...จำไว้นะพ่อ...ถ้ายังมีผู้หญิงคนนั้นอยู่ในบ้านของเรา!! ผมจะไม่กลับมาเหยียบที่บดินทร์เดชนี่อีก”
ธรรวาตะโกนก้อง เขาวิ่งผ่านบิดาไปแบบฉุนเฉียว นับจากนี้ไป...หากมีดารัณ...จะไม่มีเขาที่นี่
จนกว่าบิดาจะตาสว่าง...หากท่านเลือกที่จะเอาอสรพิษไว้ข้างตัว เขาจะไปเอง...
“ธรร!!”
เทียมถอนใจเฮือกใหญ่ๆ เขามองตามแผ่นหลังของบุตรชายไป...ความบาดหมางครั้งนี้ใหญ่หลวงจนท่านคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าธรรวาจะตัดเป็นตัดตายกับท่านเช่นนี้
เรี่ยวแรงที่มีธรรวาระบายออกมาด้วยการวิ่ง เขาวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่สนใจทิศทาง...เพียงแค่ไปให้พ้นความน่าอดสู...เขาเป็นลูก...แต่ดูเหมือนว่าไม่มีความสำคัญกับบิดาเลย ท่านเลือกผู้หญิงแพทยานั่นไว้ แต่กลับเสือกไสเขาไปไกลตา...
“ว้าย...” เพราะความโกรธ ธรรวาหลับหูหลับตาวิ่ง เด็กหนุ่มไม่คิดว่า...กลางดึกเช่นนี้ ภายในตัวบ้านจะยังมีคนมาเดินเพ่นพ่าน
“เดินประสาอะไรหะ!!” เขาสบถ แรงปะทะทำให้เขาล้มลง และคนที่เขาวิ่งชนก็มีอาการไม่ต่างกัน
ดลยากะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอเบะปาก เมื่อมองเห็นรอยแผลถลอกที่หัวเข่าตนเอง
“หุบปากนะ ถ้าเธอร้อง ฉันจะบีบคอเธอให้ตายคามือเลย!!” เมื่อปรับสายตาคุ้นกับความมืด เด็กหญิงตรงหน้าคือญาติโกโหติกาของผู้หญิงคนนั้น เด็กน้อยอายุ12 ปี เด็กน้อยที่ดารัณอุปการะ หล่อนบอกใครๆ ว่าเป็นหลาน แต่ธรรวาไม่เชื่อ เมื่อเด็กคนนี้ถอดเค้าหน้ามาจากดารัณทั้งกระบิ
“หนูกลัวแล้วค่ะ” ดลยายกมือขึ้นประนมไหว้ เกล็ดน้ำตารินไหลอาบใบหน้า ด้วยความตื่นกลัว
“อย่ามาสำออยบีบน้ำตา เธอกับแม่นั่นไม่ต่างกันเลย” ใบหน้าดารัณซ้อนทับใบหน้าเล็กๆ ของดลยา ธรรวาจึงประเคนความรังเกียจนั่นใส่เด็กน้อยจนหมด
“หนู...หนู...” เด็กหญิงกระอึกกระอัก เหลือบสายตาหวาดๆ มองหาทางหนี แต่ดูเหมือนจะไม่มี เมื่อบริเวณนี้อับจากสายตาผู้คน และกลางดึกเช่นนี้ จะมีใครช่วยเธอได้...
“ผู้หญิงร่าน!! น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับพวกเธอ เลือดสีเดียวกันก็คงไม่ต่างกันสินะ”
หนุ่มน้อยยังไม่หยุดทุ่มความเกลียดนั่น...มาที่คนไม่รู้เรื่อง เพียงเพราะดลยาเป็นญาติคนเดียวของดารัณ ผู้หญิงที่เขาเกลียดสุดใจตอนนี้
“ร่าน อัปรีดิ์ ไม่ต่างกับอีตัวเหมือนกันเลย!!” หนุ่มน้อยตวาด ยกมือผลักดลยาจนเด็กหญิงผงะหงายหลังซ้ำอีกครั้ง ชุดนอนผ้าฝ้ายร่นขึ้นสูงจนถึงโคนขา มุมปากสีสดกระตุกยิ้ม นึกสนุกๆ ขึ้นมาในใจ เขาโน้มตัวลงกระชากชุดนอนเนื้อบางเบานั้นแรงๆ
แคว๊ก!! ผ้าขาดแล่งติดมือธรรวาไป เขาเงยหน้าขึ้น หัวเราะเสียงก้อง “ฮ่าๆ”
ธรรวากระโจนพรวดเดียว คร่อมร่างผอมบางของดลยาไว้ เด็กหญิงหวาดกลัวสุดขีด เธอเบิกตาโพลง เตรียมจะอ้าปากร้อง
“อย่าได้แหกปากเชียวนะ!! ไม่อย่างนั้นเธอได้ตายคามือฉันแน่...” มือผอมบางยกขึ้นกุมลำคอเล็กๆ ของดลยาไว้ พร้อมกับคำขู่
“ยะ อย่าทำหนูเลย...กลัวแล้ว” น้ำตาไหลเป็นทาง หวาดกลัวจนแทบหมดสติ
“อีนั่นทำให้ฉันกระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้... เธอเป็นหลานมัน ฝากไปบอกมันด้วยล่ะ!! ฉันไม่มีวันลืมวันนี้ ฉันจะกลับมาเอาคืน” ธรรวาเปรยเสียงเคร่ง เขากระแทกปากกด ‘จูบ’ ดลยาเต็มแรง ไม่ใช่เพราะอารมณ์ปรารถนา แต่นี่คือการลงโทษ น้ำลายเปียกๆ ทำให้ดลยารู้สึกอยากอาเจียน เธอเบี่ยงใบหน้าหนี พยายามดิ้นรน เพื่อให้ตนเองพ้นไปจากสภาพน่าทุเรศนี่สักที
เด็กหญิงน้ำตาไหลพราก...เธอมองหาทางรอด มือเล็กๆ ควานหาอะไรสักอย่างที่จะช่วยตนเองได้
ท่อนไม้เล็กๆ ที่ดลยาสามารถคว้ามาได้ เธอหลับหูหลับตาฟาดใส่แผ่นหลังของธรรวาเต็มแรง!!
“โอ้ย!! ยัยเด็กบ้า” ชายหนุ่มสบถ เขาผงะถอยหลังมา รู้สึกเจ็บจนแสบไปทั่วแผ่นหลัง
ดลยากัดฟันรวบรวมแรงที่เหลือ เธอดันตัวกระโจนพรวด!! วิ่งทะยานไปข้างหน้า ไม่ได้สนใจทิศทาง...ขอเพียงแค่...ไปให้พ้นๆ จากตรงนี้
สายตาอาฆาตมองตามเด็กหญิงไป มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มเย้ยหยัน...เย้ยหยันตัวเองนี่แหละที่ไม่สามารถคัดง้างคำสั่งของบิดาครั้งนี้ได้ ธรรวานั่งจมอยู่กับความขุ่นใจ เขาใช้เวลาไม่น้อยกับการทอดถอนใจ เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ ร่างผอมบางของเด็กชายลุกขึ้นยืนช้าๆ เขาแหงนมองบนฟ้า พร้อมกับคำสัญญาของตนเอง
“ในเมื่อพ่อไม่อยากให้ผมอยู่ เพราะผมมันคงขัดนัยน์ตาพ่อ...ผมก็จะไป แต่จำไว้...ผมจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก”
เป็นรอยจารึกในหัวใจดวงน้อย เขาไม่มีความสำคัญเท่าผู้หญิงแพทยาคนนั้น...
ธรรวาแอบเบ้ปาก ยังไม่เจอกับตัวใครก็พูดได้...เขาเองก็อยากเห็นเหมือนกันไอ้เพื่อนเวรจะทำได้อย่างปากพูดจริงไหม? คงต้องรอดูตอนที่มันเจอคนที่เป็นเสี้ยวหนึ่งของตัว ธรรวาหรี่ตาลง เขาคิดเงียบๆ จนกระทั่งแยกย้ายกันกลับไปทำงาน“คุณดลล่ะ?”ทันทีที่เท้าแตะพื้นดินบ้านบดินทร์เดช คำถามแรกหลังสาวใช้รับกระเป๋าเอกสารจากมือไป คือการถามหาดลยา และบรรดาคนรับใช้ได้ฟังมานานหลายเดือน“อยู่ในครัวค่ะ ใครไม่รู้ค่ะ ส่งกุหลาบมาให้คุณดลช่อเบ้อเร่อ คุณดลเลยเอาไปทำแยม” สาวใช้คนเดิมป้องปากตอบคำถาม เธออมยิ้มเมื่อเจ้านายหนุ่มมีสีหน้าแปลกไป“ดอกไม้ช่อนั้น ยัยนั่นเอาไปทำแยมเหรอ?”ดอกไม้ช่อแรกที่ธรรวาส่งให้ผู้หญิงที่เป็นภรรยา เขาหวังให้หล่อนดีใจและเก็บไว้ใกล้ตัว แต่ดลยากลับเอาของแทนความในใจที่เขาส่งให้ไปทำอาหาร“คุณธรรรู้เรื่องดอกไม้ด้วยเหรอคะ?” สาวใช้หัวไวร้องถาม เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บดินทร์เดช ช่วงที่เจ้านายหนุ่มไปทำงาน เขารู้ได้ยังไงว่ามีใครบางคนส่งดอกไม้ช่อยักษ์มาให้นายสาว
บทที่20.ความแค้น ความหลัง ความรักหญิงสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอทะลึ่งลุกขึ้นนั่ง ผิวแก้มแดงซ่านเมื่อความทรงจำในค่ำคืนย้อนกลับเข้ามาในความคิด ดลยาชำเลืองมองด้านข้างของตนเองด้วยสายตาหวาดๆ รอยบุ๋มกลางหมอน กับรอยยับย่นของผิวผ้า เธอวาดมือลงไปตรงบริเวณนั้น ผิวผ้ายังอุ่นซ่าน เขาคนนั้นคงเพิ่งจะจากไป...มือเรียวบางยกขึ้นตบซีกแก้มตัวเอง ปลุกสติฝันหวานที่ลอยล่องเหมือนสาววัยแรกแย้มที่เพิ่งจะผ่านคืนแรกของวันวิวาห์ แต่สำหรับเธอมันหาใช่เช่นนั้นไม่คนฉลาดแกมโกงอย่างธรรวา คงไม่อยากเสียผลประโยชน์ เมื่อเขาหมดอิสรภาพในการครองตัวเป็นคนโสด ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องใช้เธอให้คุ้มค่ากับสิ่งที่เขาเสียไป...“ลุกได้แล้วยัยบ้า มัวฝันหวานอยู่ได้ มันมีแค่ในนิยายหรอกจ้า ในโลกความจริง คนเกลียดกันไม่มีทางหันมารักกันหรอก”เสียงบ่นพึมพำ เธอสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัวตนเอง“คุณค่ะ เดือนพาคุณหนูลงไปข้างล่างนะคะ”เสียงพี่เลี้ยงบุตรสาว ส่งเสียงบอกอยู่หน้าประตู ดลยาสาวเท้าเร็วๆ เธอเปิดประตูห้อง ส่งยิ้มให้เ
“เธอรู้ใจฉันได้ไง อย่ามารู้ดีน่า!!” ธรรวาก้มหน้าลง เขาพูดเสียงขุ่น“แล้วแกจะเอายังไงตาธรร ยอมปล่อยหนูดลไป หรือจะยื้อไว้”เทียมถามเสียงดัง ท่านเองก็อยากรู้ว่าธรรวาจะเอายังไงต่อชายหนุ่มถอนใจแรงๆ เขามองหน้าบิดา สลับกับการมองดารัณแบบพิจารณาครั้งแรกผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ใครจะรู้ล่ะเบื้องหลังหล่อนโสมมเกินกว่าจะยอมรับ หล่อนสำส่อนไม่เลือกหน้าทั้งที่สถานะเป็นภรรยาของบิดาเขา แล้วที่นั่งหัวโด่กลางเตียงนั่นก็คือสายเลือดของหล่อนที่ปิดบังไว้ แบบนี้จะให้เขาทำใจยอมรับสองแม่ลูกนี่ได้ยังไง เมื่อปูมหลังของทั้งสองคน น่าละอายมากกว่าชื่นชมชานนท์มองสบนัยน์ตาดลยา เขากล่าวเสียงแผ่วๆ “ถ้าคุณไม่รับคุณดลในฐานะ ‘เมีย’ ผมจะรับเธอไว้เอง ผมสัญญานะธรร ผมจะดูแลลูกของคุณให้ดีที่สุด!!”ข้อเสนอของชานนท์ฟังดูดี เพราะต่อให้ธรรวารับเลี้ยงดู ‘ธีรตา’ ไว้ มันก็ไม่เป็นครอบครัว เมื่อขาดแม่ และในมุมกลับกัน หากเขาปล่อยดลยาไป ยอมให้หล่อนดูแลลูกในฐานะแม่...ลูกของเขาก็จะขาดบิดาอยู่ดี ดังนั้นการที่ชานนท์ยอมย
สายตาของธรรวาจึงปรอย เมื่อชะเง้อมองเห็นผิวเนียนๆ ที่เนินทรวงของแม่ลูกอ่อน เขาแกล้งทำเป็นตีเนียน ขยับเข้าไปใกล้ แต่แม่ลูกอ่อนบนเตียงก็หาได้เป็นใจ เธอเอียงตัวหนี พยายามให้เขาเห็นเนินทรวงของตนเองน้อยที่สุดปากสีชมพูอ้างับปลายถัน เสียงดูดจุ๊บๆ พาให้ใจสั่นไหว เขามองเต้าถันอวบอิ่มที่เห็นแวบๆ ด้วยความอิจฉา ตำแหน่งนั้นของดลยา เขาโปรดปรานไม่น้อย มันห่างเหินจนแทบจะจำไม่ได้ เมื่อเทียบกับระยะเวลา แต่ในความเป็นจริง ธรรวายอมรับแบบอายๆ ไม่ว่าจะเป็นเต่งเต้าแน่นตึง หรือส่วนอื่นๆ ในร่างกายของหญิงสาวตรงหน้า เขาจำได้ไม่มีวันลืม ตำหนิของหล่อน ไม่ว่าอยู่ซอกไหน มุมไหน เขาจดจำได้หมด มันเป็นความใส่ใจที่ตนเองยังไม่อยากเชื่อ เมื่อในบรรดาสาวๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตนั้น ธรรวาไม่เคยจดจำได้สักคน ทันทีที่หันหลังให้...เขาแทบจะลืมหน้าหล่อนด้วยซ้ำ แล้วทำไมล่ะ? ทำไมกับดลยา ที่เขาวางหล่อนไว้ในตำแหน่งลูกศัตรู ทำไมเขาถึงจำหล่อนได้ทุกกระเบียดนิ้วทำไม!!คำถามที่ไม่มีคำตอบ...เมื่อเจ้าตัวไม่กล้าที่จะค้นหาคำตอบ เขากลัวคำตอบที่ได้รับ จะทำให้ตนเองเสียความเชื่อมั่น ไม่มีวัน เขาไม่มีทางมีใจให้กับคนที่ตัวเอง
บทที่19.รอยรัก รอยอาลัย...ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ เมื่อได้มองเห็นลูกน้อยครั้งแรก เด็กหญิงผิวขาวอมชมพู เนื้อตัวยับย่นเหมือนลูกสุนัขพันหนึ่งที่ผิวหนังย่นๆ ไม่เรียบเหมือนคนทั่วไป ปรอยผมสีดำละกรอบหน้า และในอนาคตคงดกดำเหมือนตนเอง จมูกเล็กๆ รับกับริมฝีปากจิ้มลิ้มสีระเรื่อ“ลูกจ๋า” เสียงหวานสั่นพร่า น้ำตาหยดรินอาบแก้มปลายนิ้วสั่นๆ ยื่นไปแตะผิวแก้มนุ่มนิ่ม เด็กน้อยที่ยังคงหลับใหลจึงเอียงใบหน้าหนี“แข็งแรงน่าดูเลยค่ะ ร้องเสียงดังจนหนูสะดุ้ง” นางพยาบาลที่อุ้มบุตรสาวมาให้ดลยาดู กล่าวพร้อมกับอมยิ้ม“เหรอคะ?” แม่ลูกอ่อนยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตา ถามกลับเสียงใส“ใช่ค่ะ แบบนี้อนาคตนักร้องดังแน่ๆ ค่ะ” สาวพยาบาลยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก ชีวิตใหม่ในวันนี้ที่มาพร้อมกับเสียงทรงพลัง“ดีค่ะดี...” ดลยาพึมพำ เธอจ้องมองบุตรสาวไม่วางตา“เข้าใจตั้งชื่อนะคะ ‘ธีรตา’ เพราะจัง ความหมายก็เยี่ยม นักปราชญ์” พยาบาลสาวเอ่ยชม หล่อนฉีกยิ้มแป้นแล้นดลย
บทที่18.สำนึกผิด“กูคนล่ะไม่มีวันเชื่อ หมามันกินอาจม ยังไงมันก็ต้องกิน”ธรรวาที่กำลังเมามาย เขาโวยเสียงลั่น มือถือแก้วบรั่นดีที่รินไว้เกือบเต็ม ชายหนุ่มพูดตามความคิดตัวเอง เขาไม่มีวันเชื่อว่าคนอย่างดารัณจะกลับตัวได้ ไม่มีวันเชื่อว่าผู้หญิงอย่างนั้นจะยอมอดอยากปากแห้ง เมื่อหล่อนเป็นหญิงร่านราคะ!!ชานนท์ส่ายใบหน้า วันนี้เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนคนเมาอย่างธรรวา ถ้อยคำที่เพื่อนพร่ำพูด ยิ่งฟังยิ่งสะท้อนใจ จริงอยู่ดลยาเพียบพร้อม หล่อนเป็นกุลสตรี เป็นแม่ที่ดี เป็นเมียที่ยอดเยี่ยม แต่ปูมหลังของหล่อนกับมารดาที่เพิ่งได้รู้ เขาอาจยอมรับหล่อนได้ แต่คนในครอบครัวของเขาหากรู้เรื่องนี้เขา คงพากันแอนตี้ เมื่อชานนท์เป็นบุตรชายคนเดียว เขาต้องเป็นคนสืบทอดเชื้อสาย ดังนั้น ภรรยาของเขาก็ไม่ควรมีข้อด่างพร้อยที่พลอยทำให้วงสกุลทดถอย“นักโทษที่ทำผิด เขายังมีวันอภัยโทษให้เลย คนกันเองแท้ๆ คุณไม่คิดจะลองให้โอกาสหล่อนบ้างเหรอ?”ชานนท์ลองแย๊บๆ“ไม่มีทาง แม่นั่นสำส่อนแบบนั้น ไม่ว่าเมื่อไรก็ยังทำตัวฉาวโฉ่ แบบนี้ยังจะให้โอกาสอีกเหรอ?&rdq