ANMELDEN@บ้านวารินทร์
“โอ้ย...วันนี้ฉันไม่มีเงินหรอกเจ๊เกล้า ค่อยมาวันอื่นเถอะ เงินเดือนพี่วัณลพก็น้อยนิดแทบจะไม่พอยาไส้อยู่แล้ว” “ไม่มีก็ต้องจ่าย ถ้าไม่จ่ายก็ขนของออกจากบ้านเช่าของฉันไปจ๊ะ” “...โถ่เจ๊ ขอเวลาให้ผมอีกสักหน่อยเหอะผมจะรีบหาเงินมาจ่ายแน่ๆ” เสียงเอะอะโวยวายภายในบ้านของ วารินทร์ ขณะที่เด็กสาวกำลังเดินเข้ามาก็ต้องชะงักหยุดฟังว่าเกิดอะขึ้น เจ๊เกล้า เจ้าของห้องเช่ามาทวงเงิน อีกแล้วสินะ วารินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปภายในบ้าน “สวัสดีจ๊ะเจ๊” วารินทร์ยกมือไหว้ เจ๊เกล้า หญิงวัยกลางคนอายุ 48ปี ที่กำลังยืนเท้าสะเอว ทวงเงินค่าเช่าจากโสมระดาและวัณลพอยู่ “เอ็งมาก็ดีแล้วนังวา รีบมาดูความลำบากของพ่อแกสิ ถ้าไม่หาเงินส่งแกเรียนป่านนี้พ่อของแกก็คงไม่ติดหนี้ค่าเช่าบ้านขนาดนี้หรอก” โสมระดาเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “เงียบเดี๋ยวนี้นะ โสม” น้ำเสียงหนาของวัณลพหันไปตะคอกใส่เธอก่อนจะหันไปสั่งให้วารินทร์เดินขึ้นไปบนห้อง... แต่หญิงสาวรู้สึกชาไปทั้งตัวจนก้าวขาไม่ออก เธอรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้พ่อทำงานหนักจนต้องค้างค่าเช่าล้านเพราะเอาเงินไปส่งเสียเธอเรียนตามคำบอกกล่าวของโสมระดาแม่เลี้ยง เจ๊เกล้ายืนกอดอก ฟังก่อนจะกวาดสายตามองสำรวจ วารินทร์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า... ในหัวครุ่นคิดถึงเจ้าเกริกลูกชายของตนที่แอบชอบวารินทร์จนแทบคลั่ง “ฉันให้เวลาอีก3อาทิตย์ หากยังนำเงินมาจ่ายไม่ได้ก็ขนของออกไปจากบ้านเช่าของฉันไป....แต่ฉันมีข้อเสนอดีๆ หากพวกแก ยอมตกลงฉันอาจจะให้อยู่ฟรีตลอดชีวิตก็ได้” เจ๊เกล้าพูดขึ้นทั้งรอยยิ้ม “จริงหรอเจ๊” โสดระดาได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาว รีบเอ่ยถามถึงข้อเสนอ จนตัวรัวตัวสั่น...ทว่าครั้นเห็นเจ๊เกล้ายิ้มมอง วารินทร์ เธอและวัณลพก็พอจะเดาทางได้ทันที “ไม่ได้ ไม่ได้ เด็ดขาด” วัณลพยินยันเสียงแข็งก่อนจะ ตะคอกไล่เจ๊เกล้าออกไปจากบ้าน และเอ่ยเสียงแข็งว่าจะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าในอีก3อาทิตย์ “ออกไป..อย่าคิดจะมาใช้วิธีสกปรกบีบบังคับกันแบบนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายกับคนแก่” วัณลพขมขู่เจ๊เกล้าด้วยน้ำเสียงดุดันจนเธอหวาดกลัวรีบเดินสะบัดก้นออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่แต่ยังไม่วายหันมาเอ่ยทิ้งท้าย “ได้งั้นอีกสามอาทิตย์ฉันจะรอดู” เจ๊เหล้ากลับไปแล้ววัณลพและวารินทร์จึงได้เวลาเข้าบ้านพร้อมโสมระดาที่เกินตามมาไม่ห่าง “พ่อค่ะ ...” มือเรียวจับแขนพ่อเบา ๆ ก่อนจะถูกโสมระดาดึงออก “เพราะแกนังวา!! ยังไม่รู้ตัวอีก!!!” ดวงตาคู่สวยร้อนผาวมอง พ่อที่มีสีหน้าทุกข์ใจก่อนที่วารินทร์จะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนเองเป็นสาเหตุให้ครอบครัวลำบากแบบนี้ เสียงสะอื้นแผ่วเบาดังอยู่ภายในห้องหยาดน้ำสีใสไหลรินออกจากดวงตาจนใบหน้าขาวนวลเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา“เสียวใช่ไหม” ลำคอหนาเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงกระเส่า “อย่า....” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยห้ามจนแทบไม่ได้ยินครั้นถูกกลบโดยเสียงหายใจ ของชายหนุ่มเรือนร่างกำยำเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อสีใสไหลซึมตามผิวกาย ครั้นกำลังใช้ปลายนิ้วถูไถกลีบกุหลาบอวบอิ่มก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไปสำรวจความอบอุ่นภายใน“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ “ดวงตาคู่สวยเบิกโพลง ขณะบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บและคับแน่นตรง ร่องกุหลาบสองกลีบ‘นี่เราต้องเสียตัวให้ผู้ชายคนนี้จริงๆ หรอเนี่ย’ วารินทร์ครุ่นคิดในหัวระหว่างถูกนิ้วสากชักเข้าออกตรงช่องสวาทจนน้ำฉ่ำแฉะไหลเยิ้ม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มอย่างชอบใจครั้นรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะมีอะไรด้วยยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ มือหนาหยุดขยับการ สอดใส่ ในระหว่างที่ร่างเล็กกำลังหายใจอย่างโรยริน อีกทั้งขาเรียวยังอ่อนแรง ที่จะต่อต้านทำได้เพียงปล่อยให้ร่างหนาจัดแจงตามชอบ ทำไมต้องหลอกกันด้วยนะเจ๊แป๋ว ฉันครุ่นคิดอย่างแค้นใจ ไม่คิดเลยว่างานที่เจ๊แกบอกจะเป็นงานอย่างว่าเธอจึงต้องมารองรับความต้องการของผู้ชายคนนี้ .. “อ๊ะ”ในระหว่างครุ่นคิด วารินทร์ถึงกับกรี๊ดลั่นพลางบิดตัวไปมาครั้นถูกริมฝีปากหนาโลมเลียที่กลีบสี
“ทำไมป่านนี้ยัยวายังไม่กลับบ้านอีกละเนี่ย” วัณลพเอ่ยขึ้นระหว่างนั่งรับทานอาหารกับโสมระดา สายตามองไปที่ประตูรั้วบ้านอยู่บ่อยครั้งจนโสมระดาเริ่มจะหงุดหงิด “โอ้ยยยย....จะห่วงอะไรมันนักหนาละพี่ นังวามันโตแล้วนะ อีกอย่างมันคงจะหายไปไหนไม่ได้หรอกนอกจากจะไปกับผู้ชาย เพราะมีนิสัยแบบเมียเก่าพี่ไง” โสมระดาพูดขึ้นด้วยสีหน้าประชดประชันทำให้วัณลพรู้สึกโกรธอย่างมากมือหนาทุบโต๊ะเสียงดังจนโสมระดาที่นั่งอยู่ตกใจสะดุ้งก่อนจะเดินขึ้นห้องไป“พอพูดถึงเมียเก่าทำมาเป็นหงุดหงิดเหอะ” @ โรงแรมห้าดาว“ถึงแล้วจ๊ะวา” เจ๊แป๋วบอกแท็กซี่ให้จอดก่อนจะพาวารินทร์เดินลงจากรถเข้าไปด้านใน “เจ๊คะ งานทำความสะอาดต้องแต่งตัวสวยขนาดนี้เลยหรอคะเจ๊” เด็กสาวเอ่ยถามด้วยแววตาใสซื่อ“แน่สิใครจะอยากเห็นแม่บ้านแต่งตัวมอมแมมกันละ” เจ๊แป๋วยิ้มร่า มองเด็กสาวกระชับเสื้อคลุมตัวนอกแน่น เพราะภายในสวมใส่ชุดแม่บ้านวาบหวิว จนวารินทร์รู้สึกละอาย “มาเถอะอย่าถามเยอะเดี๋ยวลูกค้าจะวีนเอาได้หากให้เขารอนาน”“...คะเจ๊”ทั้งคู่เดินขึ้นลิฟท์ไปชั้น5ของตึกสูง ก่อนที่เจ๊แป๋วจะหยุดลง พลางล้วงหยิบคีการ์ดยื่นให้วารินทร์ “เจ๊ส่งแค่นี้นะ เสร็จงานแล้
สมองครุ่นคิดหาหนทางที่จะหาเงินมาช่วยพ่อจ่ายค่าเช่าบ้านได้ทันในสามอาทิตย์ อีกทั้งยังต้องหาเงินมาส่งตัวเองเรียนจะได้ไม่ต้องให้พ่อมาลำบากเพราะเธออีกหญิงสาวครุ่นคิดอยู่นานจนผล็อยไปทั้งแบบนั้นเช้าตรู่ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูห้อง ดังขึ้น ทว่าไร้เสียงคนด้านในอีกทั้งยังไม่มีคนมาเปิด “วา พ่อเข้าไปนะ” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไปพลางกวาดสายตาสาดส่องไปที่เตียงนอนของลูกสาว “ยัยวาไปไหนนะ” วัณลพพึมพำก่อนจะเดินออกมา “ฉันเห็นออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วคะ เด็กแบบนี้ ไม่สนใจใครหรอกนอกจากตัวเอง” โสมระดาด่าทอเลียงดังลั่น ครั้นเห็นวัณลพเดินลงมาจากห้องของวารินทร์ ชายหนุ่มส่ายหัวเบาๆ พลางเดินออกไปรดน้ำต้นไม้นอกรั้วแก้เบื่อเพราะไม่อยากจะเสวนากับโสมระดาให้ขุ่นเคืองไปมากกว่านี้@ริมฟุตบาต ร่างเล็กเดินไปตามริมถนนพลางกวาดสายตามองหาร้าน ที่ติดป้ายรับสมัครพนักงาน ทว่าเดินมาก็เนิ่นนานแล้วกลับยังไร้วี่แววว่าจะมีร้านไหนเปิดรับคนงานเพิ่ม มือเรียวถือแฟ้มเอกสารในมือแน่น พลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ดวงตาเศร้าหมอง“หากวันนี้ยังหาที่ทำงานไม่ได้ ...เราคงต้องหมดอนาคตจริงๆ แน่แล้วสินะ”วารินท
@บ้านวารินทร์ “โอ้ย...วันนี้ฉันไม่มีเงินหรอกเจ๊เกล้า ค่อยมาวันอื่นเถอะ เงินเดือนพี่วัณลพก็น้อยนิดแทบจะไม่พอยาไส้อยู่แล้ว”“ไม่มีก็ต้องจ่าย ถ้าไม่จ่ายก็ขนของออกจากบ้านเช่าของฉันไปจ๊ะ”“...โถ่เจ๊ ขอเวลาให้ผมอีกสักหน่อยเหอะผมจะรีบหาเงินมาจ่ายแน่ๆ”เสียงเอะอะโวยวายภายในบ้านของ วารินทร์ ขณะที่เด็กสาวกำลังเดินเข้ามาก็ต้องชะงักหยุดฟังว่าเกิดอะขึ้น เจ๊เกล้า เจ้าของห้องเช่ามาทวงเงิน อีกแล้วสินะ วารินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปภายในบ้าน “สวัสดีจ๊ะเจ๊” วารินทร์ยกมือไหว้ เจ๊เกล้า หญิงวัยกลางคนอายุ 48ปี ที่กำลังยืนเท้าสะเอว ทวงเงินค่าเช่าจากโสมระดาและวัณลพอยู่“เอ็งมาก็ดีแล้วนังวา รีบมาดูความลำบากของพ่อแกสิ ถ้าไม่หาเงินส่งแกเรียนป่านนี้พ่อของแกก็คงไม่ติดหนี้ค่าเช่าบ้านขนาดนี้หรอก” โสมระดาเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง“เงียบเดี๋ยวนี้นะ โสม”น้ำเสียงหนาของวัณลพหันไปตะคอกใส่เธอก่อนจะหันไปสั่งให้วารินทร์เดินขึ้นไปบนห้อง...แต่หญิงสาวรู้สึกชาไปทั้งตัวจนก้าวขาไม่ออก เธอรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้พ่อทำงานหนักจนต้องค้างค่าเช่าล้านเพราะเอาเงินไปส่งเสียเธอเรียนตามคำบอกกล่าวของโสมระดาแม่เลี้
“เล็กน้อยหนะ รีบไปเรียนกันเหอะเดี๋ยวสายน่ะ”หญิงสาว รีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจับมือเพื่อนสนิท เดินขึ้นไปบนห้องเรียน บรรยากาศภายในห้องเรียนเงียบสนิท ครั้นครูสาวเดินถือหนังสือเข้ามาวางลงบนโต๊ะ สายตากวาดมองนักเรียนแต่ละคน พลันหยุดชะงักที่วารินทร์“วารินทร์ทิพย์ หมดคาบรอเจอครูหน่อยนะ”“ค่ะ ครู”“...ครูให้รอเจอเรื่องไรอะวา”ต้นหอมกระซิบถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสนิท ทว่าวารินทร์กลับส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมครูถึงเรียกพบเธอ หญิงสาวก้มหน้าก้มตาเรียนอย่างตั้งใจ วารินทร์เป็นเด็กเรียนดีคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นดาวโรงเรียนที่เด่นทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมจนหาตัวจับได้ยาก ตอนนี้เธอเรียนอยู่ม.6กำลังจะจบเต็มทีเหลืออีกเพียงแค่1เทอมเท่านั้น เธอก็จะได้ย่างเข้าสู่ช่วงชีวิตมหาลัยด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนหน้าตาผิวพรรณสะสวยทำให้มีหนุ่มๆมาตามจีบเธอแจ แต่วารินทร์กลับไม่สนใจเพราะเธอสนใจแค่การเรียนเท่านั้น แม้ทามหนุ่มหล่อนักบาสประจำโรงเรียนมาตามจีบตามเปย์อยู่ตลอดแต่เธอก็ไม่ได้คิดจะสนใจเขาเหมือนคนอื่นๆกริ่ง!!!เสียงกระดิ่งดังเตือนเวลาหมด คาบเรียน “เดี๋ยวพวกแกไปกันก่อนเลยก็ได้นะ
ก็อก ก็อก ก็อก ดวงตาคู่สวยเหลียวไปมองที่ประตู ห้อง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิด “พ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ” วารินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะยังคงน้อยใจที่โดนวัณลพตบหน้าไม่หาย...“เอาไปทาสิ” มือหนายื่นยาทารอยแดงให้วารินทร์ “อะไรคะพ่อ...”ดวงตาคู่สวยมองยาตลับเล็กสีขาวในมือพลางหยิบขึ้นมาดู เธอพินิจตลับยาในมือก่อนจะนึกขบขันในใจพ่อคิดว่าเอายามาง้อเเล้วหนูจะหายงอนหรอ? ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองบิดาด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะปิดประตูห้องใส่วัณลพอย่างไม่ใยดี “เห้อ...ยัยเด็กคนนี้นิ”วัณลพส่ายหัวเบา ๆ กับพฤติกรรมของลูกสาวก่อนเดินกลับไปที่ห้อง โดยมีโสมระดาแอบมองพวกเขาด้วยความไม่พอใจ ‘นังวาเพราะแกตารามลูกฉันถึงบาดเจ็บ คิดว่าฉันจะให้แกมีความสุขหรอคอยดูต่อไปเถอะฉันคนนี้แหละจะหาผัวให้แกเอง’ภายในห้องนอนดวงตาคู่สวยมองตลับยาในมือด้วยรอยยิ้มจางๆ ตบหนูแล้วคิดจะเอายามาง้อหรอพ่อ เชอะ ไม่มีทางซะหรอกแม้ในใจจะแอบขุ่นเคืองพ่อทว่า วารินทร์ไม่เคยเกลียดพ่อเลยสักนิดเพราะตั้งแต่ที่แม่ของเธอหนีไปกับพี่วอร์ พี่สาวของเธอตั้งแต่เธออายุ 4ขวบ พ่อก็คือคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่มานับตั้งแต่นั้น







