Home / โรแมนติก / รอยรักพญามาร / บทที่ 5 ชะตาลงทัณฑ์

Share

บทที่ 5 ชะตาลงทัณฑ์

last update Last Updated: 2024-12-21 18:22:37

ร่างอวบอัดเยื้องกรายมาเยื้อนคฤหาสน์ของคู่หมั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอวางแผนมาอย่างดี และแผนนี้ต้องสำเร็จ ทุกคนหันมามองผู้มาเยือนด้วยความสงสัย เมื่อเธอหอบหิ้วทั้งขนมและน้ำมาแจกบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ทุกคน ทุกคนยอมรับน้ำใจเธอ แม้จะรู้สึกงุนงงกับการกระทำในครั้งนี้ก็ตาม เธอรีบเดินไปที่ชั้นสองของคฤหาสน์ แล้วสาวเท้าเดินไปหาบอดี้การ์ดสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าห้องต้องสงสัย เธอต้องการรู้ว่าใครซ่อนตัวอยู่ในนั้น เอมม่ายื่นน้ำให้อย่างมีไมตรี

 “ฉันซื้อมาให้ กินซะสิ” เอมม่าบอก

บอดี้การ์ดทั้งสองมองหน้ากันแล้วส่ายหน้าปฏิเสธน้ำใจเธอ หญิงสาวเม้มริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ หากเป็นแบบนี้เห็นที ต้องจัดการแผนสอง เธอจัดการใช้ผ้าปิดปากไว้แล้วหยิบกระป๋องสเปรย์ขึ้นมาแอบซ่อนไว้ด้านหลัง บอดี้การ์ดทั้งสองหันมามองเธออีกครั้งด้วยความงุนงง เมื่อเห็นว่าคู่หมั้นของเจ้านายยังไม่ยอมไปไหน

“มีอะไรอีกหรือเปล่าครับคุณเอมม่า?”

“ไม่มีอะไรหรอกแค่หันมานี้หน่อย!”

บอดี้การ์ดหันมามองเธอ สเปรย์ในมือถูกฉีดออกใส่ใบหน้า ทั้งสองสั่นศีรษะไล่ความมึนงงและรู้สึกมึนออกไป แต่ไม่นานพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานฤทธิ์ยาสลบได้จนหลับไปในที่สุด

เอมม่ามองดูบอดี้การ์ดหน้าห้องหลับเพราะฤทธิ์ยา จากนั้นเธอจัดการค้นหากุญแจสำหรับเปิดห้อง เธอมองดูลูกกุญแจในมือ ใครที่อยู่ในห้องนี้ หากเป็นผู้หญิงที่มาอยู่กับคู่หมั้นเธอแล้วจริงๆ จะไม่มีวันยอมเด็ดขาด

กริ๊ก

เธอไขลูกบิดเข้าไปด้านใน ค่อยๆ สาวเท้าเดินไป ดวงตาเบิกกว้างเมื่อสายตากำลังเห็นร่างของหญิงคนหนึ่งกำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียง โดยมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางอยู่ เดินเข้าไปใกล้แล้วยืนนิ่งมองดู ไม่อยากจะเชื่อ มันเกิดอะไรขึ้นหรือที่ผู้หญิงคนนี้เป็นแบบนี้เพราะเขา

ปรางค์ปรียาเริ่มรู้สึกตัวดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างยากเย็น ร่างอวบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้าของร่างบางเริ่มขยับตัว เอมม่าตั้งท่าจะปลีกตัวออกไป เพราะเธอคงไม่ใจร้ายพอจะลากผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงมาตบตีเพื่อให้ออกไปจากบ้าน จากที่เห็น เธอคนนี้คงไม่มีแม้แต่แรงจะเดินด้วยซ้ำ ยิ่งร่องรอยนอกเสื้อผ้ายิ่งทำให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อยเลย

 “ชะ...ช่วยฉันด้วย ชะ...ช่วยฉันที”เสียงแผ่วเบาครางออกมาจากริมฝีปากแห้งผากเป็นภาษาสากลที่คิดว่าคนฟังคงจะเข้าใจเธอ

เอมม่ายืนนิ่งไม่รู้จะทำเช่นไรดี แรกเริ่มอยากจะมาชำระความที่อาจหาญมายุ่งกับคู่หมั้นตน แต่เวลานี้เธอไม่แม้แต่จะมีความคิดเช่นนั้นเลย จากสภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้อดสงสารผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลย

“ฉะ...ฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกนะ!”เอมม่าตอบ

“ฮือๆๆๆ ช่วยฉันด้วย... ได้โปรดเถอะช่วยฉันที... ”หญิงสาวพยายามอ้อนวอนทั้งน้ำตา เธออยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เธอคงต้องถูกเขาทรมานจนตายแน่ๆ หากเขาฆ่าเธอเสียยังจะดีกว่า

“จะให้ฉันช่วยอะไร?”

“ช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีได้โปรด...” คนป่วยพยายามร้องขอ

เอมม่าไม่รู้จะทำเช่นไรดี ตัดสินใจเข้าประคองหญิงสาว ดึงสายน้ำเกลือออก ตัดสินใจช่วยเพราะสงสารหรอกนะ คงต้องรีบจัดการเพราะต้องแข่งกับเวลา เอมม่าพยุงร่างบางออกมาจากห้อง เธอพยายามกวาดสายตามองรอบๆ ใจก็ภาวนาขออย่าให้เจอคนที่เธอไม่อยากเจอในเวลานี้เลย

 “ฉันคงจะบ้าไปแล้ว!”เอมม่าบ่น

ปรางค์ปรียามองหน้าหญิงชาวฝรั่งเศสคนนี้ด้วยความรู้สึกขอบคุณ เอมม่าได้แต่ทำหน้าบูดบึ้งแล้วรีบพยุงร่างบอบช้ำของปรางค์ปรียาออกมาถึงด้านหลังของคฤหาสน์ เธอรีบวางร่างสาวเอเชียพิงกำแพงไว้ก่อนจะเดินออกไปดูต้นทางแล้วรีบกลับมาประคองร่างเธอออกมาด้านนอก ไม่นานนักเธอก็พาสาวเอเชียมาถึงหน้าประตูเล็กด้านหลังคฤหาสน์แล้วรีบสั่งให้ลูกน้องขับรถมารับเธอ

“จะไปไหนหรือเอมม่า?”เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ทำให้คนฟังถึงกับขนลุกเกรียว

ร่างอวบยืนนิ่งกายเธอกำลังสั่นเทาปรางค์ปรียารู้สึกได้ถึงอาการสั่นสะท้านนั้นดี

“ผมถามว่าจะไปไหนไม่ได้ยินหรือไง!”เสียงตวาดกร้าวดังขึ้นมาอีกครั้ง

เอมม่าสะดุ้งปล่อยมือจากร่างบางทันที ส่งผลให้หญิงสาวทรุดลงนั่งกับพื้นเพราะร่างกายยังไม่ฟื้นจากอาการป่วย เจ้าของร่างอวบยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเหมือนตนเองกำลังจะถูกตัดสินโทษ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น เธอตัดสินใจหันไปเผชิญหน้า แล้วแสร้งยิ้มออกมาแม้ใจจะกลัวจนหัวใจเต้นโครมคราม แทบทะลุออกมานอกอก

“คุณกลับมาเมื่อไหร่คะลุคส์?”เอมม่าถามเขาเสียงสั่น

“ผมกลับมาได้สักพัก แล้วก็ทันที่ได้เห็นว่าใครบางคนกำลังวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของผม”

“คือ... เอมม่าไม่ได้ตั้งใจนะคะ ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่ขอร้องเอมม่า”เธอปัดความรับผิดชอบทันที

ชายหนุ่มยิ้มเย็นออกมา ดวงตาคมกริบหรี่มองไปยังคู่หมั้นตนเอง เขารู้สึกไม่ชอบใจเลยสักนิด ที่เธอบังอาจมายุ่งเรื่องของเขา อุตส่าห์เตือนไว้แล้วเชียว มือหนากระชากท่อนแขนอวบ แล้วจ้องหน้าด้วยสายตาที่ทำให้คนสบตารู้สึกขนลุกขึ้นมาในทันใด ปรางค์ปรียารีบพยุงกายลุกขึ้น เธอหวังจะช่วยผู้หญิงที่ยอมลงทุนช่วยพาเธอออกมา มือบางทุบตีเขาไม่หยุดเพื่อให้เขาปล่อยตัวหญิงฝรั่งเศสที่เธอเคยเห็นหน้าเพียงครั้งแรกเท่านั้น

ลุคส์ขบกรามแน่นด้วยความเดือดดาล เขาสะบัดร่างบางจนล้มลงไปกับพื้นแล้วหันมาสนใจกับคู่หมั้นตนเองต่อ มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบปลายคางไว้แน่นพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้

 “อย่าได้บังอาจมายุ่งกับเรื่องของผมอีก ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ไว้หน้าคุณหรือพ่อคุณ!”เขาสั่งเสียงกร้าว

เอมม่าหน้าซีดเผือดลงในบัดดล เขายอมปล่อยมือจากท่อนแขนอวบแล้วหันไปหาร่างบางที่ทรุดกายอยู่กับพื้นแทน ปรางค์ปรียาชะงักเมื่อเห็นสายตาของเขา ร่างบางพยายามพยุงกายลุกขึ้น แม้จะเป็นเพียงความหวังอันน้อยนิด แต่เธออยากจะหนีไปจากเขาให้ไกลจริงๆ แต่เธอทำไม่ได้อย่างใจคิด เมื่อเขาช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

“ปล่อยให้ฉันตายไปซะ!”เธอบอกในขณะที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

“เธอยังตายไม่ได้เพราะฉันยังไม่ต้องการให้เธอตาย ชีวิตของเธอจะอยู่หรือตายมันขึ้นอยู่กับฉันเท่านั้น!”เขาบอก

ชายหนุ่มวางร่างบางไว้บนเตียงแล้วจัดการให้หมอมาใส่สายน้ำเกลือให้เธอเช่นเดิม ปรางค์ปรียาพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่กลับถูกเขาจับท่อนแขนกดไว้แล้วส่งสายตาแข็งกร้าวมา เลยทำให้เธอต้องจำยอมทำตามเขา แม้จะรู้สึกเจ็บใจอย่างที่สุดก็ตาม

ในที่สุดไมเคิลก็ตัดสินใจมาหาหลานสาวตนเอง พินอาภานั่งมองลุง เอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตา แต่ท้ายที่สุดแล้วเขายอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับพินอาภาฟังโดยไม่ปิดบังอะไร เธอนิ่งงันพูดไม่ออก หากเรื่องเป็นแบบนี้ ลุงไปหาผู้ชายคนนั้นครอบครัวของลุงก็จะมีอันตราย แต่ถ้าหากไม่ไปเพื่อนสาวของเธอต้องแย่แน่ๆ

สองร่างที่กำลังนั่งสนทนากันไม่พ้นสายตาของบอดี้การ์ดคนสนิทของลุคส์เลยแม้แต่น้อย แต่เวลานี้เขาไม่อยากจะไปจัดการไมเคิล อยากรู้ว่ามันมีแผนอะไร และมันกำลังทำอะไรกันแน่ถึงได้อาจหาญทรยศหักหลังเจ้านาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 90 ความสุข

    แม้ปากเธออยากจะร้องห้ามอีก แต่ดันถูกเขาหยุดเสียงด้วยริมฝีปากหนาเสียก่อน จากขัดขืนในคราแรกไม่นานนักจึงเปลี่ยนเป็นหวานละมุนสมกับความคิดถึงที่ทั้งเธอและเขามีให้ต่อกัน เธอไม่รู้ว่าตอนไหนที่อาภรณ์หลุดหายออกจากเรือนร่างแต่เวลานี้ทั้งเธอและเขาต่างมอบความรู้สึกที่มีให้แก่กันเสียงนกร้องในรุ่งเช้าปลุกให้หญิงสาวลืมตาตื่น เหลือบมองสามีทีกำลังหลับอยู่ เธอลุกจากเตียงแต่งตัว รีบเดินตรงไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ทาน“ขอโทษนะคะ พอดีคุณท่านเชิญคุณไปพบค่ะ” สาวใช้มาบอกขณะเธอกำลังเข้าครัว“ฉันเหรอคะ?”“ใช่ค่ะ เชิญทางนี้นะคะ”ปรางค์ปรียารีบเดินตามสาวใช้ไปที่ห้องทำงานของเมแกนทันทีด้วยความแปลกใจ มาถึงหน้าห้อง ประตูเปิดออก เธอเห็นโดยชายชรากำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ร่างบางหยุดยืนแล้วนั่งลงตรงหน้าเขา“มีอะไรหรือเปล่าคะเรียกดิฉันมาพบ?”“มีสิ”มือเหี่ยวย่น เลื่อนกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน ส่งให้หญิงสาว ปรางค์ปรียามองด้วยความแปลกใจ“เปิดดูสิ”ยอมเปิดดูตามคำบอก ภายในบรรจุด้วยสร้อยสีเงินดูธรรมดา แต่ที่น่าแปลกคือจี้ที่เหมือนกับที่ลุคส์ให้เธอในวันที่เธอจากมา และตอนนี้สร้อยนั้นเธอใส่ให้กับไทม์ไว้“หมายความว่ายังไงค

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 89 ความสุข

    หญิงสาวแสร้งนิ่งไม่ตอบคำถาม เธอรู้สึกหมั่นไส้เขาเสียเต็มประดา ก่อนหน้านั้นยังตวาดอยู่หยกๆ พอรู้ว่ามีเจ้าตัวน้อยเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างปัจจุบันทันด่วนแบบนี้“ผมดีใจมากแค่ไหนคุณรู้ไหมปรางค์...”เขาพร่ำบอกมือหนาโอบรัดเอวบางไว้แล้วแนบแก้มไปกับหน้าท้องที่ยังไม่ได้ยื่นออกมามากนัก โดยมีเพียงเสื้อผ้าเป็นปราการกั้นไว้เท่านั้น“ปล่อยนะคะ”หญิงสาวแสร้งบ่นแล้วยันเขาออกเบาๆชายหนุ่มยังคงยืนหยัดโอบเธอไว้เช่นนั้น เธอเลยจำต้องปล่อยเลยตามเลยจนกระทั่งเขายอมคลายอ้อมกอด ดวงตาของมีแววประกายสดใสผิดกับเมื่อกี้ลิบลับ“กี่เดือนแล้วปรางค์ ไปหาหมอหรือยังแล้วมียาทานหรือเปล่า?”หลากหลายคำถามพรั่งพรูออกมาทันที“จะสนใจทำไมคะ”“ทำไมพูดแบบนี้ละปรางค์ ในท้องคุณนั้นลูกผมนะ แล้วอีกอย่าง... ตอนที่คุณมีไทม์ผมไม่เคยแม้กระทั่งดูแลหรือรับรู้เลยด้วยซ้ำ”เสียงเขาเศร้าลงจริงอย่างที่เขาพูด...ช่วงเวลาที่มีไทม์อยู่ในท้องเธอเองทั้งเจ็บปวดทั้งสุขใจ มันเป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมดแต่สุดท้ายแล้วเมื่อเธอได้เห็นหน้าลูก ความรู้สึกที่เกลียดพ่อของเขามันก็ถูกฝังลงในส่วนลึกของจิตใจแทน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องทั้งหมดฉันอภัยให้คุณหมดแล้ว ถึงแม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 88 ความสุข

    ชายชราถือไม้เท้ายืนนิ่ง อยู่ด้านหน้าหลุมศพที่สลักชื่อลูกัส ดาโคริด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลา เริ่มมีน้ำตาเอ่อนองออกมา ด้วยความรู้สึกผิดจับใจ เขารู้ซึ้งถึงความเหงาและเจ็บปวดแล้ว เวลานี้ไม่มีใครมาสนใจ หรือเหลียวแลชายชราเช่นเขาอีก ลูกชายคนเดียวที่อยู่ด้วยกันมานาน เขาใช้งานราวกับลูกน้องก็จากไป มันยิ่งทำให้รู้สึกว้าเหว่มากขึ้นเวลานี้บรรยากาศทุกอย่างเงียบงัน มีเพียงลูกน้องและสาวใช้ไม่กี่คนที่ทำหน้าที่ในบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าพอพูดคุยกับเขาเช่นลูกัสเลย มือเหี่ยวย่นถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกไป ไม่ได้ถืออะไรมาฝากลูก ที่ไม่เคยเอ่ยปากยอมรับ ไม่เคยได้รับรู้ว่าลูกัสชอบทานอะไร หรือชอบทำอะไรเลยสักอย่างเวลานี้มันคงสายไปแล้ว...หากว่าเขาอยากจะบอกขอโทษออกไปชายชราถือไม้เท้าเดินไปยังรถของตนเอง มือเหี่ยวย่นลูบใบหน้าเพื่อปาดน้ำตาที่ยังตกค้างให้หมดไป ชีวิตคนแก่เช่นเขาคงเหลือเวลาอีกไม่มากไม่นานนักหรอกมาเรีย...เขาจะไปพบเธอแน่นอน จะไปสารภาพความผิดที่เขาได้ทำไว้“เจ้านายต้องการอะไรอีกไหมครับ?”ลูกน้องถามเขา ชายชราโบกมือ แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน หลังจากรถมาจอดสนิททหน้าคฤหาสน์แล้วเสียงที่ดังก้องกังวานมีเพียงเสียง

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 87 กลับมาทวงคืน

    พินอาภาเดินมาใกล้เพื่อนสาว แล้วหยิบมือถือมาให้ดู ดวงตาคู่สวยเรื่อไปด้วยน้ำตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นสภาพเขานอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล เธอไม่อยากเชื่อว่าเขาจะอยู่ในสภาพแบบนี้“ตอนนี้เขาป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล วันๆ กินแต่เหล้า อะไรก็ไม่ยอมแตะ เราคงทำได้แค่นี้ ที่เหลือปรางค์ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน”ร่างบางทรุดกายลงกับพื้น ยกมือปิดหน้าปล่อยโฮ พินอาภารีบเข้าไปประคองเพื่อน แล้วรั้งมากอดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“เรายอมแล้วพิน...พาเรากับลูกไปหาเค้าที”ร่างเล็กปาดน้ำตาที่กำลังไหลมาไม่ขาด รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าไม่ยอมจางมันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจไม่ใช่น้ำตาแห่งความทุกข์ดั่งเช่นเมื่อก่อน เขาหวังและสุดท้ายมันก็เป็นจริงเขาจะได้พบพ่อแล้วเขาดีใจมากเหลือเกินเช้าวันรุ่งไทม์ช่วยแม่เก็บกระเป๋าเดินทางด้วยความสุข พินอาภายิ้มกับท่าทางของหลานที่วิ่งไปรอบบ้านไม่ให้แม่ต้องขยับทำอะไรเลย เขาพยายามหาข้าวของที่จำเป็นมาใส่กระเป๋าเพราะตอนเย็นจะต้องเดินทางแล้ว“ปรางค์...ดูหน้าไทม์สิดีใจใหญ่เลย”พินอาภาบอกเพื่อนคนเป็นแม่หันไปมองลูกแล้วยิ้มออกมา เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นลูกมีความสุขหลังจากกลับมาจากฝรั่งเศสในวันนั้น“ขอบใจม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 86 กลับมาทวงคืน

    ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งสงสาร มีเพียงแค่เธอกับเขาเท่านั้น ที่ตอนนี้กำลังมีความสุขในรัก แต่ระหว่างเพื่อนสาวและผู้ชายคนนี้กลับทุกข์แสนสาหัส ทำเพื่ออะไรกันเธอไม่เห็นจะเข้าใจ“ไปที่ห้องก่อนเถอะค่ะ”“ครับ” นั่งจัดเสื้อผ้าตนเองในห้อง ใจก็นึกว่าจะทำยังไงถึงช่วยเพื่อนและลุคส์ได้ เธอรู้ว่าสองคนรักกันมาก แต่กลับมีเส้นบางๆ ที่ไม่อาจข้ามมาได้ นี่ยิ่งทำให้ทรมานใจหนักเข้าไปเสียอีก ไม่ใช่ว่าใครไม่ดี แต่เพราะมีเหตุผลจำเป็นต้องแยกจากกันเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นหลังจากหญิงสาวอาบน้ำแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว พินอาภารีบเดินไปเปิดประตูก่อน พบกับเทเรซ่าน้าสาวของลุคส์ที่มายืนซึมอยู่“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”“หนูพิน...เอ่อ...หนูปรางค์ไม่มาด้วยเหรอจ๊ะ”พินอาภาชะงักจ้องมองใบหน้าเศร้าสร้อยของหญิงตรงหน้า“ไม่ได้มาค่ะ”เธอตอบเสียงเบา“เหรอจ๊ะ งั้นไม่เป็นไรจ้ะน้าไปก่อนนะ”เสียงโวยวายบวกกับเสียงข้าวของมากมายในห้องแตกกระจาย ทำให้หญิงสาวรีบเปิดประตูออกไปดู เห็นแฟนหนุ่มกำลังห้ามทัพเจ้านายตนเองโดยมีเทเรซ่าคอยห้ามปราบอีกคน“ผมจะบ้าแล้วรู้ไหม! เธอกลับมาหาฉันได้ไหมปรางค์...ฮือๆๆ” เขาสะอื้นหนักแล้วทรุดกายลงกับพื้นมือคว้าขวดเหล้าม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 88 กลับมาทวงคืน

    บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจออกมา เขาคงทำได้แค่ปลอบใจและยืนมองแค่นั้นทุกอย่างคงต้องอยู่ที่คนสองคนแล้วเขาไม่รู้เหมือนกันว่าปรางค์ปรียาจะใจแข็งมากแค่ไหน“ฉันคิดถึงเธอปรางค์ปรียา...ฉันรักเธอได้ยินไหม!”เขาตะโกนลั่นออกมาร่างสูงใหญ่พยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแต่กลับเซจนมาติชต้องรีบไปรับไว้ มาติชส่ายหัวไปมาด้วยความหนักใจ“ฉันอยากกินเหล้ามาติช พาฉันไปหน่อย...”แสงสีมากมายท่ามกลางคลับหรูใจกลางเมือง ร่างสูงใหญ่ยกน้ำสีอำพันเข้าปากไม่ขาดสายไม่รู้กี่ขวดที่หายเข้าไปในลำคอแต่เขากลับยังไม่หยุด มาติชทำได้แค่เพียงยืนดูอยู่เช่นนั้นอาจจะดีหากเจ้านายของเขาดื่มจนหลับไป ดีกว่าเห็นผู้ชายที่เคยมีอำนาจเหนือใครต้องมาทุรนทุรายเพราะพิษรัก“มาติช...สั่งเหล้ามาอีกเซ่!”บอดี้การ์ดหนุ่มกวักมือเรียกบริกรทันที และเหล้ายี่ห้อหรูราคาแพงก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าเขา และผลของมันคือการที่ชายคนหนึ่งกำลังนอนฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างหมดสภาพ มาติชรีบเดินเข้าไปหาแล้วสั่งลูกน้องที่ติดตามมาด้วยช่วยกันลากเจ้านายตนเองกลับบ้าน ร่างสูงใหญ่ถูกวางลงบนฟูกหนาเขาพลิกกายเล็กน้อย“ปรางค์...กลับมาหาผมเถอะได้โปรด...”เสียงละเมอของเขายิ่งทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มรู้สึกสะท้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status