ความโหดร้ายของลุคส์ได้สร้างบาดแผลพร้อมกับสิ่งล้ำค่าให้กับปรางค์ปรียา การพบกันอีกครั้งทำให้เขาได้พบลูกชายที่ไม่เคยรู้มาก่อนหญิงสาวจะทำเช่นไรเมื่อเขาเรียกร้องความเป็นพ่อเด็กกับเธอ
View More“ปรางค์ไปเที่ยวฝรั่งเศสกับเราไหม?”
คำถามของเพื่อนสาวทำให้หญิงสาวถึงกับหันไปให้ความสนใจไม่น้อย
“ไปจริงเหรอ?”
“จริงซิ เราจะไปเยี่ยมลุงของเรา”
ปราค์ปรียาใช้ความคิดแล้วลอบยิ้มออกมา เธอเองก็อยากไปเที่ยวฝรั่งเศสนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสเสียที เพราะเธอไม่มีเงินมากพอที่จะไปที่นั้น
“แต่ว่าเราไม่มีเงินหรอกนะพิน”หญิงสาวบอกเพื่อนเสียงเศร้า
“เราออกให้ ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะปรางค์ เพราะเราเองก็อยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันอยู่พอดีเลย”
“ถ้าอย่างนั้น เราก็พร้อมจะไปเป็นเพื่อนอยู่แล้วละพิน”
ลุคส์พลิกหน้ากระดาษไปมาด้วยความงุนงง เพราะเวลานี้เขาจำต้องเรียนภาษาไทย บริษัทรถยนต์กำลังไปเปิดตลาดที่นั้น เขาพอเข้าใจภาษาพูด แต่เขียนแล้วก็อ่านนี่สิที่ยาก
ชายหนุ่มปิดหนังสือลงเมื่อจบบทเรียนแล้วรีบสาวเท้าไปที่รถด้วยความหงุดหงิด บอดี้การ์ดคนสนิทส่งแฟ้มเอกสารให้ ข้างในมีข้อมูลของผู้ที่ทรยศกับบริษัท
“ไอ้สาวเลว กล้าหักหลังฉันเหรอ!”ลุคส์สบถแล้วเหวี่ยงแฟ้มลงพื้นด้วยความเดือดดาล
“จะเอายังไงดีครับนาย?”มาติชถามเจ้านาย
“ฆ่ามันซะ!”
“จะดีเหรอครับนาย?”
“ฉันบอกให้ทำอะไรแกก็ทำเถอะมาติช หากมันอยู่กันยากนักก็ฆ่ามันซะก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่มาแว้งกัดเราลับหลังอีก!”เขาบอกเสียงกร้าว
ไมเคิลรีบเก็บข้าวของเพื่อจะหนีออกจากประเทศ เพราะเวลานี้เขามั่นใจว่าลุคส์คงรู้ความจริงเรื่องที่เขาเอาความลับของบริษัทไปขาย และไมเคิลเชื่อว่ายังไงเสียคนอย่างลุคส์ฉายาปีศาจน้ำแข็งคงไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด
ปรางค์ปรียายืนนิ่งอยู่ด้านหน้าหอไอเฟล เธอยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวถ่ายรูปด้วย พิมอาภาหัวเราะร่าเมื่อพบว่าหน้าเพื่อนตนเองบูดเบี้ยวเพราะฝีมือการถ่ายรูปของหล่อนเอง
“เราไม่ไปที่บ้านลุงก่อนเหรอพิน?”ปรางค์ปรียาถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจ
“โอ้ย! ไม่เป็นไรหรอก เราโทรมาบอกลุงนานแล้ว”
“แล้วเดี๋ยวเราจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ”
“ไปหาอะไรกินกันเถอะหิวแล้ว”พินอาภาบอกก่อนจะลากเพื่อนสาวไป
หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในร้าน สาวเอเชียสองคนเรียกความสนใจจากผู้คนไม่น้อย พินอาภาเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าของเธอคมน่ามอง ส่วนปรางค์ปรียวผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้าของหญิงสาวดูหวานละมุนชวนหลงใหล
สองสาวเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่างพวกเธอสั่งอาหารมาทานสองสามอย่าง ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในร้านอาหาร ซึ่งชอบมาทานประจำ และจัดการนั่งลงประจำมุมที่ตัวเองชอบ ชายหนุ่มทอดสายตามองวิวรอบๆ กวาดตามองดูผู้คนภายในร้าน แต่เขากลับสะดุดตากับสาวเอเชียสองคนที่กำลังทานอาหารอยู่ไม่ไกล นัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเลจ้องมองสาวผิวคล้ำหน้าตาคมคาย และจับจ้องสาวเอเชียผิวขาวหน้าตาชวนหลงใหล ชายหนุ่มนิ่งงันอยู่นานจนกระทั่งอาหารถูกนำมาเสริฟ์ให้
สองสาวทานอาหารจนอิ่ม พินอาภารีบจูงมือเพื่อนสาวออกนอกร้านแล้วพากันไปเดินในแหล่งช็อปปิ้งถนนคนเดินในเมือง ลุคส์มองแผ่นหลังของสาวเอเชียผิวขาวเนียนละเอียดจนลับสายตาไป แล้วหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าเขาแทน แม้จะรู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนั้นไม่น้อยเลยแต่น่าเสียดายที่เขาคงไม่มีเวลามากพอจะไปทำความรู้จักหรือขอซื้อเธอมานอนด้วยเพราะเวลานี้เขาคงต้องจัดการเรื่องวุ่นวายในบริษัทให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
พินอาภาพาเพื่อนสาวท่องเที่ยวจนเกือบพลบค่ำถึงพากันมาหาลุงที่บ้าน แต่ทันทีที่เห็นบ้านของลุงสองสาวอ้าปากค้าง กระจกทุกบานแตกละเอียดเมื่อเดินสำรวจเข้าไปด้านในพบว่าข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นพิน?”ปราค์ปรียาถามเพื่อนสาวเสียงสั่น
“เราก็ไม่รู้เหมือนกันปรางค์...”
มาติชเดินออกมาจากบ้านของไมเคิล บอดี้การ์ดหนุ่มรีบมารายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายตนเองทราบ ลุคส์ชะงักมือจากเอกสารกรามถูกขบสันนูน เขาแทบอยากจะฆ่าไอ้คนทรยศเสียจริงมันกล้าดียังไง เอาแบบรถรุ่นใหม่ไปขายให้กับคู่แข่ง
“ไอ้บัดซบไมเคิล แกกล้าดียังไงหักหลังฉัน!”ชายหนุ่มสบถ
มาติชไมองดูโทรศัพท์ที่วางสายจากเจ้านาย เขาถอนหายใจหนักออกมา ไมเคิลได้ตายสมใจแน่ เพราะเจ้านายคงไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ
สองสาวรีบเดินเข้าไปสำรวจด้านในแต่ละห้องด้วยความงุนงง เกิดอะไรขึ้นกับลุงไมเคิลทำไมบ้านถึงถูกรื้อค้นจนเละไปหมดแบบนี้ แล้วตอนนี้ลุงอยู่ที่ไหนกัน พินอาภาเริ่มเป็นห่วง
ลูกน้องของมาติชกลับเข้ามาตรวจค้นบ้านอีกรอบเพื่อหาหลักฐานอีกครั้ง แต่พวกเขากลับชะงักเมื่อพบสองสาวเดินอยู่ในบ้าน
“พวกคุณเป็นใคร?”
สองสาวหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นชายใส่ชุดสูทสีดำ เดินอยู่ในบ้านแถมยังถามเธอเสียอีกว่าเป็นใคร
“พวกคุณละเป็นใครมาเดินอยู่ในบ้านลุงฉันได้ยังไง!”พินอาภาเริ่มกังวล
“คุณเป็นหลานสาวไมเคิลใช่ไหม!”
“ใช่!”
สองสาวถูกพวกเขาจับตัวไว้ทันที ปรางปรียารีบมองไปที่เพื่อนสาวของตนเองด้วยความตกใจ
“พวกคุณเป็นใครจะทำอะไร!”
“พวกเขาจะทำอะไรพวกเราพิน!”ปรางค์ปรียาถามเพื่อนสาว
“ปล่อยนะ ปล่อยพวกฉันเดี๋ยวนี้!”พินอาภาร้องพยายามดิ้นรน
ทั้งสองถูกลากไปพบกับมาติช บอดี้การ์ดหนุ่มมองด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“สองคนนี้บอกว่าเป็นหลานของไอ้ไมเคิลครับ”ลูกน้องรายงาน
มาติชมองสองสาวเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปรายงานเจ้านายตนเอง ลุคส์ขบกรามแน่นสั่งให้มาติชพาสองสาวไปที่บ้านของเขา
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้าน เขาทอดกายนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับจ้องมองไปยังทั้งคู่ เขาชะงักเมื่อพบว่าหนึ่งในสองคนนั้นคือสาวที่เขาเคยให้ความสนใจ แต่เขาไม่มีความปราณีให้ใคร เมื่อไมเคิลบังอาจเล่นตลกกับเขา ก็จะไม่ปราณีต่อหลานสาวของมันเช่นกัน
“พวกคุณเป็นใครจับเรามาทำไม?” พินอาภาถามเขาเสียงสั่น
ปรางค์ปรียานั่งมองหนุ่มหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล หากเธอเห็นตามท้องถนน คงคิดว่าเขาเป็นนายแบบแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอกลับไม่คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเพราะสายตาที่เขาส่งมามันทำให้เธอรู้สึกกลัว
“พิน...พวกเขาต้องการอะไรถึงพาตัวเรามา” หญิงสาวกระซิบถามเพื่อน
ลุคส์หรี่ตามองเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของหญิงสาว พวกเธอเป็นคนไทย... เขามีเรื่องมากมายอยากจะถาม แต่ไม่คิดว่าตัวเองใจดีพอที่จะไม่ทำอะไร หากต้องเค้นถามกันก็จะทำ เพราะเขาไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากทำให้เขาไม่พอใจก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเหมือนกัน
“พวกเธอเข้าไปทำอะไรกันที่บ้านหลังนั้น” เขาถามเสียงเย็น
พินอาภาหน้าซีดปากสั่น แววตาของเขา ทำให้เธอรู้สึกกลัวจับใจ แข้งขาสั่นและอ่อนแรง มือไม้แทบยกไม่ขึ้น
“อย่าให้ฉันถามซ้ำครั้งที่สอง เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่มีปากไว้ตอบฉันอีกก็ได้!” เสียงกร้าวตามมา
“ฉันไปหาลุง บ้านหลังนั้นเป็นของลุงฉัน!” เธอรีบตอบ
“เธอสินะที่เป็นหลานไอ้ไมเคิล!”ลุคส์เปรยแล้วสบตากับพินอาภา คนถูกสบตาหวาดกลัวร่างกายสั่นเทา
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าพินอาภา คว้าท่อนแขนกระชากร่างเข้ามาหาตนเอง ปรางค์ปรียาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รีบถลาเข้าขวาง
“อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน!” เธอตวาดเขาลั่น
ชายหนุ่มมองสายตากร้าว ผลักร่างหญิงสาวจนล้มลงกระแทกพื้นอย่างไม่แยแส ออกแรงบีบท่อนแขนพินอาภาไว้แน่น แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา สั่งเสียงกร้าว
“ติดต่อลุงเธอซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความกลัวจนถึงขั้วหัวใจเลยล่ะ!”
พินอาภารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลุง ใบหน้าเธอซีดเซียวมือสั่น แต่มันไม่ได้ผล เครื่องถูกปิด
“ติดต่อลุงเธอได้ไหม?”เขาถามแล้วยิ้มเหี้ยมออกมา
“ฉะ...ฉันติดต่อไม่ได้ค่ะ”หญิงสาวตอบเขาน้ำตาคลอ
เขาถอนหายใจแล้วยิ้มออกมาราวกับปีศาจ คนกลัวมองหน้าน้ำตาไหลริน ลุคส์จับท่อนแขนเธอไว้แน่น แล้วลากให้ร่างของพินอาภา หญิงสาวรีบขืนตัวเอาไว้ แต่เรี่ยวแรงกลับสู้เขาไม่ได้เลย ลูกน้องลุคส์ยืนดูเงียบ
ปรางค์ปรียารีบวิ่งตามเพื่อนไป โถมกายกระแทกจนชายหนุ่มเซ
“ปล่อยเพื่อนฉันนะไอ้สารเลว!”ปรางค์ปรียาตวาดเขา สายตาจ้องไปอย่างไม่เกรงกลัว
ชายหนุ่มขบกรามแน่น มองหญิงที่เคยประทับใจ มันหมดแล้วความรู้สึกนั้น จับปลายคางแล้วบีบแน่น จนหญิงสาวเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ปากดีนักนะ อยากช่วยเพื่อน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้วแส่หาเรื่องดีนัก!”เขาบอกแล้วสะบัดมือออกจากปลายคางมน ก่อนหันไปสนใจพินอาภาอีกครั้ง
พินอาภาตัวสั่น ลุคส์ก้าวเข้าหา หญิงสาวรีบถอยหนี ทว่าไม่ทันได้ดั่งใจลุคส์กระชากร่างบางเข้าหา เธอกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความหวาดกลัว ปรางค์ปรียามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสารริมฝีปากบางเม้มแน่น
หญิงสาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อย เธอหันไปสบตาบอดี้การ์ดคู่ใจสามี กลับเห็นแต่แววตาจริงจังหญิงสาวจึงยอมทำตาม แต่ก่อนที่จะไป ร่างบางหันกลับไปหามาติชอีกครั้ง“แล้วพินละ!”“รอสักครู่นะครับเดี๋ยวผมไปตามเธอมา”ประตูห้องเปิดออก พินอาภาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ยิ่งเห็นเขาเดินดุ่มๆ มาคว้าแขนเธอแล้วลากไปชั้นล่างยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดเข้าไปใหญ่“นี่คุณจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ!”เสียงตวาดแว๊ดดังตลอดระยะทางที่เขาลากเธอมาข้อมือบางถูกปล่อยในขณะที่พินอาภามองหน้าเพื่อนด้วยความแปลกใจ“เกิดอะไรขึ้นปรางค์?”“ไม่มีเวลาแล้วพิน ไปกันเถอะ”ปรางค์ปรียาบอกแล้วรีบใช้มือข้างที่ว่างอยู่ดึงมือเพื่อนให้ตามไป“ปรางค์เกิดอะไรขึ้น!”“ไว้เราค่อยบอกนะ ไปกันก่อน”ปรางค์ปรียารีบสาวเท้าเดินโดยอุ้มบุตรชายไว้แนบอกโดยที่มีเพื่อนสาวเดินตามมาติดๆ เอมม่ารีบเปิดประตูรถให้ทุกคนเข้าไปด้านในแล้วรีบสตาร์ทรถออกไป ชายฉกรรจ์หลายคนเดินเข้าสวนในจังหวะที่รถขับออกไป ลูกัสขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เดินตรงไปยังสถานที่ที่เป็นเป้าหมายมาติชเร้นกายอยู่ในมุมหนึ่งของบ้านโดยที่สั่งให้ลูกน้อง พยายามแอบซ่อนตามจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ เพราะจำนวนคนน้อยกว่า ในขณะท
ร่างสูงใหญ่ก้าวออกจากรถ เดินเข้าในคฤหาสน์ที่เคยอาศัยอยู่กับแม่มาก่อน เขาไม่เคยคิดจะกลับมาที่นี่อีก แต่ครั้งนี้จำต้องยอมทำเพื่อลูกและผู้หญิงที่เขารัก ลูกัสเดินยิ้มออกมานอกบ้าน ในขณะที่ลุคส์เหลือบไปมองหนุ่มนักฆ่าด้วยสายตานิ่งสนิท“เชิญครับ ท่านเมแกนสั่งให้ท่านเดินเข้าไปด้านใน...”ลูกัสบอกพลางผายมือ“ขอบใจ”ลุคส์เดินเข้าไปด้านในห้องหนังสือ เห็นชายสูงวัยยืนถือไม้เท้าหันหน้าออกไปด้านนอกหน้าต่าง ชายหนุ่มรีบนั่งลงบนเก้าอี้สีครีมอ่อนที่วางไว้สำหรับรับแขก ชายชราหันมาสบตาเขาทันทีใบหน้าของชายที่เรียกได้ว่าเป็นพ่อที่เขาไม่ได้พบเห็นมานาน เขาไม่ได้เห็นพ่อตั้งแต่อายุยี่สิบปีจนเวลานี้อายุเข้าปาไปสามสิบสามปีแล้ว เขาไม่เคยอยากพบผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย เขายังใจดีเห็นว่าเป็นพ่อ ถึงได้เหลือบ้านไว้ให้กับหุ้นบางส่วนในบริษัทเพื่อให้มีกินมีใช้ไม่ลำบาก แต่ดูเหมือนพ่อเจ้าบงการยังไม่สิ้นฤทธิ์เดชเมแกนทอดกายนั่งลงแล้ววางไม้เท้าลงข้างๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นเชิดขึ้นเหมือนนิสัยส่วนตัว หยิ่งทะนงไม่ยอมใครและทำราวกับว่าตนเองมีอำนาจเหนือใคร“แกต้องการพบฉันเรื่องอะไร!”เมแกนเอ่ยปาก“ผมต้องการพูดกับคุณเรื่องที่คุณสั่งให้ลูกัสไป
ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลง เห็นมาติชทะยานรถออกจากรั้วบ้านพัก ละสายตาไปยังพินอาภา ซึ่งเดินปาดน้ำตามายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ลุคส์ถอนหายใจแล้วหย่อนกายลงบนโซฟา“พ่อครับ”เสียงเรียกเล็กๆ ปลุกจากภวังค์ทันทีที่เห็นพ่อ ร่างเล็กรีบกระโจนกอดแล้วพลิกกายนั่งลงบนตัก เด็กชายเงยหน้ามองบิดาแล้วยิ้มออกมาด้วยความสุข ยิ่งเห็นลูกมีความสุขแบบนี้เขายิ่งต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกไว้ให้ได้เสียงหยอกล้อส่งผลให้คนที่กำลังเดินมาหยุดชะงัก มองภาพเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นบุตรชายมีความสุขในอ้อกอดของพ่อเขา ลุคส์เหลือบมองหญิงสาว จังหวะนั้นบุตรชายเลยรีบเดินมาหาแม่แล้วจูงมาร่วมวงด้วยกันไทม์แทรกตัวอยู่ระหว่างพ่อกับแม่ ดวงตาสองคู่สบกัน หัวใจของเขาสั่นไหวขึ้นมา เมื่อพรุ่งนี้เขาจะต้องไปจัดการปัญหาทุกอย่างให้จบเสียที เขาไม่อยากไป... เพราะไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรรออยู่ข้างหน้า ทว่าจำต้องทำเพื่อเมียและลูกบอดี้การ์ดหนุ่มยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ค่อยๆ ก้าวอย่างเชื่องช้า ในมือถือดอกกุหลาบสีขาวที่อดีตภรรยาชอบ ความรู้สึกทั้งมวลตีตื้นขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ยิ่งเห็นป้ายหลุมศพ ยิ่งพาให้ใจร้าวร้าน ย่อกายลงวางดอกไม้ไว้ด้านหน้าเอื้อมมือปัดฝุ่น
ลูกัสหายไปตั้งแต่นั้น และเขามารู้อีกครั้งก็ตอนที่มันกลายเป็นนักฆ่าฝีมือดีไปแล้ว และมันก็คอยตามจองล้างจองผลาญเขาไม่เลิกราไม่ว่าจะทำอะไร“แกคงโดนเป่าหูมามากสินะลูกัส แกถึงได้บ้าไม่เลิก แกต้องการอะไรพูดมาตรงๆ ดีกว่า!”มาติชถามเสียงกร้าว“วันพรุ่งนี้ วันเดียวกับที่นายของฉันกับแกนัดไปเจอกัน เรามาสะสางเรื่องของเราที่หลุมศพของเรนิต้า”ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขาจะปล่อยทุกคนที่ต้องคุ้มครองอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน“ไม่ได้ ฉันมีธุระต้องจัดการ!”“ทำไม แกกลัวว่าฉันจะบุกไปจัดการผู้หญิงของเจ้านายแกหรือไงมาติช!”“ใช่! คนอย่างแกมันเล่นไม่ซื่ออยู่แล้วนี่ไอ้ลูกัส”นักฆ่าหนุ่มขบกรามแน่น เขาต้องลากมาติชออกมาจากบ้านหลังนี้ให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะไม่เป็นไปตามแผน“ถ้าแกไม่ไป รับรองว่าฉันจะถล่มที่นี่ให้ยับโดยไม่สนว่าใครจะตายหรือไม่ตาย!”แววตากร้าวกับคำพูดสุดอำมหิต ส่งผลให้ร่างกำยำเกร็งแน่น แทบขยับเข้าไปจัดการคู่อริให้ย่อยยับคามือ“ถ้าแกทำอย่างที่แกพูด รับรู้ไว้ได้เลยไอ้ลูกัส หากฉันฆ่าแกไม่ได้จะไม่เลิกรา!”“คนอย่างฉันไม่กลัวตายหรอกมาติช เพราะฉันตายไปนานแล้ว!”“ไสหัวไปซะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก!”เสียงกร้าว
มือบางคว้าท่อนแขนเขาไว้ เธอไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่หัวใจกลับเรียกร้องให้ทำ เธอกลัว ทำไมแววตาของเขาถึงได้บอกกับเธอว่าเขากำลังจะจากไป ชายหนุ่มนิ่งงันก่อนหันมาเผชิญหน้า“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”เธอถามเสียงเบาแววตาเต็มไปด้วยความกังวลคำถามเบาๆ ออกมาจากริมฝีปากบาง สร้างความรู้สึกหวั่นไหวให้เขาได้มากมายนัก ทั้งๆ ที่พยายามทำใจที่จะออกห่างจากเธอ เพราะบางทีการไปพบพ่อของเขาคราวนี้ อาจไม่ได้กลับมาพบเธออีก เพียงแค่ได้เห็นสีหน้าแววตาแสดงความห่วงใย หัวใจเขากลับเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับมือหนาคว้าร่างบางมากอดไว้แน่นราวกับไม่ต้องการจะให้เธอหนีหายไปไหน น้ำใสๆ ที่เริ่มเอ่อล้นออกมา มันกำลังไหรริน กลั้นมันไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอและลูกคือของขวัญสุดแสนวิเศษที่พระเจ้ามอบให้ แต่เขาคงไม่ดีพอที่จะได้รับมันใช่ไหม กายแกร่งที่กำลังสั่นไหวส่งผลให้ใจเธอสะท้าน มือบางลูบไล้แผ่นหลังเขาเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม“ไม่เป็นอะไรนะคะ...”เสียงแผ่วเบาออกมาจากริมฝีปากบางอีกครั้ง“ปรางค์ผมขอโทษ...”เสียงสั่นเครือเบาๆ ออกมาจากริมฝีปากหนาชายชรานั่งยิ้มอยู่บนโต๊ะทำงาน ก่อนยกหูโทรศัพท์ต่อสายถึงลูกน้องคนสนิททันที ได้โอกาสที่จะจัดการทุกอย่
ร่างสูงกำยำเร่งฝีเท้าเมื่อถึงสนามบิน ด้านหน้ามีรถตู้สีขาวดจอดรอรับ ลูกัสก้าวขึ้นรถขบกราบแน่นนึกแค้นใจที่ตนถูกตลบหลัง มองวิวด้านนอกกระจกรถแววตาแข็งกร้าว ราวหนึ่งชั่วโมงถัดมารถเลี้ยวเข้าสู่เขตคฤหาสน์หลังงาม ลูกัสสูดหายใจเข้าปอดเพราะรู้ว่าจุดหมายจะต้องเจอสิ่งใดเพียะ!ฝ่ามือหนักกระทบลงบนใบหน้าคมเข้ม นักฆ่าหนุ่มกัดฟันแน่นเลียริมฝีปากซึ่งมีเลือดไหลซึมออกมา“แกมัวไปทำบ้าอะไรอยู่! ถึงได้ให้มันพาผู้หญิงคนนั้นมาถึงฝรั่งเศส มันยากนักหรือไงแค่จัดการผู้หญิงตัวเล็กๆ!”เมแกนตวาดกร้าวลมหายใจหนักหน่วงบอกอารมณ์ของผู้พูดได้ดี“ถ้าหากไม่มีมาติชทุกอย่างมันต้องสำเร็จไปตามแผนแน่นอนครับนาย”เมแกนขบกรามแน่นสายตากร้าวจ้องมองไปยังลูกน้องคนสนิท มาติช! เขาได้ยินแต่ชื่อนี้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว หากไม่มีผู้ชายคนนี้ การควบคุมลุคส์คงเป็นไปได้ไม่ลำบาก แต่เพราะหมอนี่ดันเป็นมือดีที่เขาปลุกปั้นมา พอได้ดีกลับทรยศไปอยู่กับลูกชายเขาเสียได้ หากได้มือดีอย่างมาติชมาอยู่ข้างกายคงดีไม่น้อย“ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้งลูกัส จัดการเก็บผู้หญิงคนนั้นให้ได้ แล้วจับตัวหลานฉันมา... ฉันจะเอาไว้ต่อรองกับไอ้ลูกชายจองหอง ดูสิว่ามันจะยังหยิ่งจองหอง
มาติชพอข้าใจ เจ้านายเคยเป็นชายที่ได้ชื่อว่าโหดร้ายและป่าเถื่อนในการทำธุรกิจ หากสิ่งใดขวางทางเป็นกำจัดเรียบไม่เคยไว้หน้าใคร แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเจ้านายได้พบกับหญิงไทยคนนั้น เมแกนคงจะรู้สึกขุ่นเคืองมากเมื่อลูกอ่อนแอลงเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว“แล้วนายจะให้ผมทำยังไงครับ หากลูกัสกลับมาที่นี่”กรามขบเป็นสันนูน เขาไม่รู้ว่าพ่อมีอำนาจมากแค่ไหนในเวลานี้ แต่ที่สำคัญปรางค์ปรียาและไทม์จะต้องปลอดภัย“หามือดีมามาติช หามาให้ได้มากที่สุด ก่อนที่พ่อฉันจะเริ่มไล่ล่าปรางค์”“ได้ครับ”“แล้วอีกอย่างแกจัดการลูกัสให้ได้ ส่วนที่เหลือฉันจะจัดการเอง”“ครับนาย!”มาติชรับคำแล้วหันกายเพื่อเดินออกจากห้อง“มาติช...” ชายหนุ่มเรียกลูกน้องเสียงแผ่วเบา“ครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มหันมาเผชิญหน้ากับเจ้านายอีกครั้ง“มะรืนนี้เป็นวันตายของเรนิต้าไม่ใช่เหรอ เธอถูกฝั่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่แกควรจะไปเยี่ยมเธอนะ”แววตาคนฟังหม่นลงไปชั่วครู่ ร่างกำยำรีบหันหลังกลับออกมาโดยไร้คำพูดใดๆ เมื่อความรู้สึกเจ็บปวดตีตื้นขึ้นมา ลุคส์มองตามแผ่นหลังของลูกน้องคนสนิท ใครจะรู้... หน้าตาท่าทางอันเรียบเฉยจะแฝงไว้ด้วยอดีตอันแสนปวดรวดร้าวไม่ต่างจากเขาบ
บ่ายสามโมง ร่างบางเดินทอดน่องออกมาจากบ้าน หยุดยืนอยู่ด้านหลังซึ่งมีลำธารเส้นน้อยตัดผ่าน น้ำใสไหลผ่านสายตา มันใสเสียจนมองเห็นพื้นด้านล่าง และฝูงปลามากมาย คนแถวนี้คงไม่นิยมจับพวกมันมาขาย คงนำพวกมันมาแค่พอรับประทานเท่านั้น ที่นี่อากาศดี แถมยังมีอาหารอุดมสมบูรณ์ เธอชอบมัน แต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสได้อยู่อีกนานไหมเสียงฝีเท้าเบื้องหลังทำให้หญิงสาวชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้หันกลับไป จนกระทั่งมีเสียงทุ่มต่ำดังขึ้น“ผมมีข่าวดีจะบอก...”ร่างบางหันมาเผชิญหน้า แล้วสบตากับอีกฝ่าย“ข่าวอะไรคะ”“เพื่อนของคุณกำลังจะมาที่นี่”“พินนะเหรอคะ!”หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ“ใช่แล้ว”หญิงสาวระบายยิ้มออกมาทันที หลังจากได้รับข่าวดี กระโจนกอดคนบอกข่าวด้วยความสุขใจ นี่เป็นข่าวดีที่เธอได้รับเลยทีเดียว ลุคส์จึงถือโอกาสโอบกอดตอบ ลูบไล้แผ่นหลังไว้เบาๆ ปรางค์ปรียาชะงักเมื่อรู้สึกว่าเขากำลังจะเขยิบไปทำอย่างอื่นแทน เธอรีบคลายอ้อมกอด หากนานกว่านี้คงได้เสียเปรียบอีกแน่“เสียดายจังครับ” ลุคส์ยิ้มเจ้าเล่ห์“ฉะ...ฉันจะไปดูลูกแล้ว”เธอแค่รู้สึกแปลกๆ ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนหัวใจเริ่มหวั่นไหวอย่างไม่คาดคิด ทำไมเธอถึงมีความรู้
สายถูกตัดไปแล้ว... แต่ใจเขากลับเต้นตุบๆ ไปด้วยความกังวล และรู้สึกไม่ไว้ใจอะไรเลย อยากอยู่แบบนี้ให้นานเท่าที่จะทำได้ ร่างสูงใหญ่หันไปมองภายในบ้าน มันไม่ใหญ่โตแต่แสนอบอุ่น ภาพลูกหัวเราะ และภาพเธอกำลังป้อนอาหารให้ลูก ยิ่งทำให้เขาสะเทือนใจเทราซ่าเหลือบมองหลานชาย เมื่อเห็นแววตาหม่นเศร้ายิ่งทำให้เธอกังวล เมื่อไหร่หนอหลานของเธอจะมีความสุขจริงๆ เสียที ลุคส์ฝืนยิ้มเดินเข้ามาในตัวบ้าน นั่งลงข้างหญิงสาว เธอหันมาทางเขา อ้ำอึ้งอยู่นานถึงได้เอ่ยปากออกมา“จะทานอะไรหรือเปล่าคะ เดี๋ยวปรางค์จะไปเตรียมให้”“อยากทานข้าวต้มฝีมือเมียมีไหมครับ?” ชายหนุ่มแสร้งเย้าแล้วยิ้มกว้างใบหน้าเรียวสวยแดงซ่านขึ้นมา ไทม์ยิ้มระรื่นแล้วกระโจนขึ้นนั่งตักบิดา ลุคส์เลยก้มลงจุมพิตแก้มอิ่มของลูกแทนด้วยความหมั่นเขี้ยวเทเรซ่ามองภาพนั้นแล้วยิ้มอ่อนโยน ปลีกตัวออกมาให้พ่อลูกได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เดินมาถึงครัวเพื่อช่วยหลานสะใภ้ทำอาหารแทน เห็นแม่ครัวจำเป็นกำลังงกๆ เงินๆ หาของในตู้เย็นเลยรีบเข้าช่วย“หาอะไรจ๊ะ?”“หากุ้งค่ะน้าเทเรซ่า”หญิงสาวตอบพลางหลบสายตาเทเรซ่าค้นตู้เย็นหยิบกุ้งออกมาให้ แล้วยืนมองใบหน้าเรียวสวย พินิจพิจารณาอยู่นาน
Comments