Beranda / โรแมนติก / รอยรักพญามาร / บทที่ 7 ความรู้สึกที่ไม่อาจพูด

Share

บทที่ 7 ความรู้สึกที่ไม่อาจพูด

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-21 18:24:17

บอดี้การ์ดหนุ่มตัดสินใจติดต่อเจ้านายทันที เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นฉุดให้เขาหลุดออกจากภวังค์ คว้ามันแล้วหลุบตามองเบอร์หน้าจอ เขากดรับและกรอกเสียงตามสาย มาติชเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ได้รับรู้ ตัดสายแล้วทรุดกายนั่งลงที่โซฟาราคาแพง

ลูกน้องตามหาไมเคิลเจอแล้วและคนทรยศที่เขาตั้งใจจะกำจัดกลับเรียกร้องมาหาเขาเอง... ความจริงความคิดที่อยากกำจัดไมเคิลมันหมดไปตั้งแต่วันที่ผู้หญิงในห้องนั้นล้มลงต่อหน้า เขาไม่เคยอยากรู้เรื่องของคนทรยศอีกเลยเพราะถือว่ามันได้เอาหลานสาวมาชดใช้กับความผิดที่มันก่อแล้ว ทว่าเวลานี้ทุกอย่างมันกลับกลายเป็นอีกอย่าง

เขาไม่เคยคิดว่าไมเคิลจะยอมมาหา เพราะเขารู้ดีว่ามันต้องกลัวด้วยนิสัยของเขา ปกติไม่เคยปล่อยคนทรยศให้ลอยนวลไปได้ ลุคส์ลุกขึ้นยืน สองเท้าก้าวเดินไปยังห้องที่ใช้เป็นที่กักขังนกน้อยแสนสวยไว้และทุกคืนนกน้อยนั้นจะถูกเขากอดรัดด้วยแรงปรารถนา

เสียงลูกบิดประตูห้องส่งผลให้คนในห้องหันมามองด้วยความกลัว ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าใครคือผู้มาเยือน ร่างบางรีบลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังชิดกำแพงเพื่อเอาตัวรอดทันที เขายืนนิ่งจ้องมองไปยังร่างงามตรงหน้า  อยาก กระโจนไปโอบรัดไว้ แต่วันนี้เขากลับชะงักราวกับว่าต้องการมองเธอเพื่อซึมซับความรู้สึกต่างๆ  ไว้ให้นานที่สุด

แม้พยายามก้าวให้ถึงเธอ เธอก็จะขยับหนีไปอีกหนึ่งก้าว และเมื่อเขาหยุดนิ่งเธอก็จะชะงัก หยุดหนีแล้วมองเขา ชายหนุ่ม หัวเราะเยาะตัวเองในใจ เมื่อไหร่ที่เขาหยุดไล่ตาม เธอถึงจะหยุด เว้นระยะห่างจากเขาไว้เสมอ เ ไม่ได้หวังให้ผู้หญิงคนใดมารัก แต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจนักที่ถูกผู้หญิงปฏิเสธเช่นนี้

ปรางค์ปรียา งุนงงกับท่าทางแปลกๆ   แต่หญิงสาวก็ยังระแวงอยู่เสมอ เพราะสิ่งที่เขาเคยกระทำกับเธอมันช่างเลวร้าย เธอเจ็บปวด  ทรมาน และรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกนรกทั้งเป็น เธอจะจำสิ่งที่เขาได้กระทำกับเธอไว้จนวันตายไม่มีวันลืมเด็ดขาด!

เขายืนนิ่งจ้องมองเธออีกครั้งหาก ไม่คว้าไว้ คงไม่มีวันสมปรารถนาเพราะเธอไม่มีวันนอนทอดกายให้กอดก่าย ดวงตาคมหรี่ลงแล้วใช้ความไวคว้าท่อนแขนไว้ ร่างบางดิ้นรนสุดชีวิตด้วยความตกใจปนกลัว เธอคิดว่าเขาจะหยุดการกระทำอันโหดร้ายกับเธอแล้วแต่มันคงเป็นไปไม่ได้สินะ

“ปล่อยฉันนะ!”เธอพยายามร้องขอ

ลุคส์ฉวยโอกาสช้อนร่างบางไปที่เตียงกว้าง คนถูกอุ้มตกใจดิ้นรนเพียงแผ่นหลังแตะถึงฟูก แม้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นและไม่มีทางเอาตัวรอดจากชายผู้นี้ได้ แต่ยังไงเสียเธอก็ไม่มีวันนอนทอดกายให้เขาเชยชมง่าย ร่างบางตั้งท่าเตรียมกระโจนหนีแต่กลับถูกเขาตรึงร่างไว้บนเตียง ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เหมือนครั้งอื่นๆ เธอจะไม่เจ็บ และจะชอบมัน... ”เขาบอกเสียงพร่า

หูของปรางค์ปรียาอื้อไปหมด เขาปรนเปรอจนหญิงสาวร้องครางออกมาเบาๆ ลมหายใจเริ่มติดขัดใบหน้าเรียวสวยเริ่มแดงและร้อนผ่าว มือกำลังลูบไล้ร่างงาม ไม่ว่าส่วนไหนก็สร้างความวาบหวาม ยิ่งเห็นเขาจ้องมองมายิ่งทำให้กัดริมฝีปากแน่น เรือนร่างสมชายชาตรีที่ปรากฏต่อหน้าสร้างความหวั่นไหว หัวสมองกำลังสับสน ทันทีที่เรือนกายแกร่งแทรกเขามาพร้อมกับขยับกายเร่งเร้าเพื่อเรียกร้องการตอบสนองของคนใต้ร่าง หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ ไม่นานเธอส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมกับการหยุดลงของเขา

ร่างสูงใหญ่พลิกกายนอนลงข้างหญิงสาว ปรางค์ปรียารีบหันหลังให้ เธอรู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเต็มใจตอบสนองเขา ไม่เคยรู้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะให้ความสุข ลุคส์จ้องมองแผ่นหลังขาวเนียนก่อนใช้ริมฝีปากพรมจูบไปทั่ว ปรางค์ปรียาชะงักขยับกายหนีแต่เขากลับรั้งเอวบางไว้

“อย่าหนี!”เขาสั่ง

ใบหน้าเรียวสวยแดงซ่านขึ้นมาทันที มือหนารั้งหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาคมสีน้ำทะเลจ้องลึกลงเพื่อรอคำตอบ เขาติดกับดักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอย่างไร มันยากจะถอนตัว

“เธออยากอยู่กับฉันไหม?”

คิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ คำถามของเขาหมายความว่ายังไงกันแน่

“หมายความว่ายังไง ฉะ...ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด”

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงประตูหน้าห้องดังขึ้น เขารีบผุดลุกขึ้น ไม่กล้าพอจะพูดอะไรออกไปอีก คนอย่างเขาไม่เคยทำเช่นนี้ ไม่เคยอ้อนวอนให้หญิงคนไหนมาอยู่ด้วย คงไม่จำเป็นต้องทำ

ปรางค์ปรียามองตามแผ่นหลังสีหน้าสับสน ครุ่นคิดเรื่องที่เขาถามเมื่อครู่ ต้องการอะไรกันแน่ถึงได้พูดแบบนั้น เขาเกลียดเธอไม่ใช่หรือ? เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เพราะเขาชิงชังไม่ใช่หรือไง

เขาเดินออกมาจากห้องแม้กายยังครุกรุ่นกับบทรักที่เพิ่งผ่านมา และถ้อยคำที่เขาพูดออกไป แต่เขาก็จำต้องทำหน้าที่ของประธานบริษัทด้วยเช่นกัน ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่นั่งก้มหน้า อยู่ในส่วนห้องรับรองแขก ส่วนผู้หญิงอีกคนก็คือเพื่อนของปรางค์ปรียานั้นเอง

พินอาภากัดฟันแน่นเดินวนไปวนมา ใจห่วงเพื่อนมากเหลือเกิน ภาวนาขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรร้ายแรง เสียงฝีเท้าที่เริ่มดังขึ้นทำให้เธอหันมอง ดวงตาเรียวเบิกกว้างหญิงสาวรีบนั่งลงข้างลุงด้วยความรู้สึกหวาดกลัว

ร่างสูงใหญ่เดินมาถึงห้องรับรอง เขาทอดกายนั่งลงบนโซฟาแล้วจ้องมายังทั้งคู่ด้วยสายตากร้าว แม้ใจอยากจะตรงเข้าไปกระชากไอ้ลูกน้องทรยศมาจัดการสักเท่าไหร่ แต่พอนึกถึงใบหน้าของคนตัวเล็กที่เขากกกอดทุกคืนเลยจำต้องอดทน อย่างน้อยเขาก็ถือว่าหลานได้เสียสละเพื่อลุง

“แกมีอะไรจะบอกกับฉันไหมไมเคิล”เขาถามเสียงเย็น

หนุ่มใหญ่สั่นเทิ้มก่อนคุกเข่าลงกับพื้น ยื่นซองเอกสารที่ขโมยจากบริษัทมาให้ เขารับมาเปิดดูเอกสารในซองดวงตาคมกริบพลิกกลับไปจ้องมองไมเคิลอีกครั้ง

แควก!

เอกสารในมือถูกเขาฉีกทิ้งอย่างไม่ไยดี ไมเคิลก้มหน้านิ่งตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนไปไหน

“นะ...นายผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมกลัว... พวกมันจับตัวลูกเมียผมไปแล้วให้ผมมาคอยเป็นสายในบริษัท พวกมันบอกให้ผมเอาแบบรถที่กำลังออกใหม่ไปให้พวกมัน หากผมไม่ทำพวกมันจะฆ่าลูกเมียของผม!”ไมเคิลสารภาพเสียงสั่น

คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ไม่นานจึงถอนหายใจ อยากจัดการไอ้ไมเคิลนัก แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุจำเป็น ลุคส์ลุกยืนแล้วแล้วเดินไปหาบอดี้การ์ดคนสนิท

“มาติช”

“ครับนาย”

“ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม?”

“ครับ”

“ไปจัดการพวกมันซะ ทำให้มันไม่กล้าเผยอหน้ามาทำแบบนี้อีก!”เขาบอกเสียงกร้าวดวงตาวาวโรจน์

“ได้ครับ”

บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำสั่งแล้วออกจากคฤหาสน์ เขาหันหลังกลับมานั่งประจำที่เดิมอีกครั้ง สายตากำลังจ้องมองไปยังผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งกระสับกระส่าย กวาดสายตามองหาเพื่อนไม่ลดละ

ลุคส์ลอบยิ้มแล้วหันกลับมาสนใจคู่สนทนาตนเองต่อ เป็นลูกน้องทำงานกับเขามาก็นาน แต่ทำไมมันดันไม่กล้าพูดความจริงกับเขาแบบนี้

“ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะไมเคิล ต่อไปนี้มีเรื่องอะไรให้บอกฉัน แกไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร หรือแกคิดว่าฉันคงช่วยอะไรแกไม่ได้!”

“ปะ...เปล่าครับนาย ผมแค่กลัวว่าลูกเมียผมจะเป็นอะไรไปก็เท่านั้น”

“แกไม่เชื่อใจฉันหรือไง!”

“ผมขอโทษครับ”

ชายหนุ่มจบบทสนทนากับลูกน้องแล้วหันมามองพินอาภาอีกครั้ง น่าแปลก... เป็นแค่เพื่อนกันไม่น่าจะเป็นห่วงเป็นใยกับมากขนาดนี้ ลุคส์เหลือมองสาวใช้ประจำคฤหาสน์แล้วเอ่ยปากทันที

“ไปพาผู้หญิงที่อยู่ในห้องฉันมาที่นี่หน่อย”

“ค่ะคุณชาย”สาวใช้รับคำแล้วเดินไป

พินอาภายิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินคำสั่งของเขา ใจเธอจดจ่อรอเพื่อนที่กำลังจะลงมาจากชั้นบน หวังว่าเพื่อนคงไม่เป็นอะไร ไม่นานนักเธอเห็นเพื่อนกำลังลมาพร้อมกับสาวใช้ พอมาถึงชั้นล่าง พินอาภารีบลุกจากโซฟาโผเข้ากอดด้วยความห่วงใย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 90 ความสุข

    แม้ปากเธออยากจะร้องห้ามอีก แต่ดันถูกเขาหยุดเสียงด้วยริมฝีปากหนาเสียก่อน จากขัดขืนในคราแรกไม่นานนักจึงเปลี่ยนเป็นหวานละมุนสมกับความคิดถึงที่ทั้งเธอและเขามีให้ต่อกัน เธอไม่รู้ว่าตอนไหนที่อาภรณ์หลุดหายออกจากเรือนร่างแต่เวลานี้ทั้งเธอและเขาต่างมอบความรู้สึกที่มีให้แก่กันเสียงนกร้องในรุ่งเช้าปลุกให้หญิงสาวลืมตาตื่น เหลือบมองสามีทีกำลังหลับอยู่ เธอลุกจากเตียงแต่งตัว รีบเดินตรงไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ทาน“ขอโทษนะคะ พอดีคุณท่านเชิญคุณไปพบค่ะ” สาวใช้มาบอกขณะเธอกำลังเข้าครัว“ฉันเหรอคะ?”“ใช่ค่ะ เชิญทางนี้นะคะ”ปรางค์ปรียารีบเดินตามสาวใช้ไปที่ห้องทำงานของเมแกนทันทีด้วยความแปลกใจ มาถึงหน้าห้อง ประตูเปิดออก เธอเห็นโดยชายชรากำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ร่างบางหยุดยืนแล้วนั่งลงตรงหน้าเขา“มีอะไรหรือเปล่าคะเรียกดิฉันมาพบ?”“มีสิ”มือเหี่ยวย่น เลื่อนกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน ส่งให้หญิงสาว ปรางค์ปรียามองด้วยความแปลกใจ“เปิดดูสิ”ยอมเปิดดูตามคำบอก ภายในบรรจุด้วยสร้อยสีเงินดูธรรมดา แต่ที่น่าแปลกคือจี้ที่เหมือนกับที่ลุคส์ให้เธอในวันที่เธอจากมา และตอนนี้สร้อยนั้นเธอใส่ให้กับไทม์ไว้“หมายความว่ายังไงค

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 89 ความสุข

    หญิงสาวแสร้งนิ่งไม่ตอบคำถาม เธอรู้สึกหมั่นไส้เขาเสียเต็มประดา ก่อนหน้านั้นยังตวาดอยู่หยกๆ พอรู้ว่ามีเจ้าตัวน้อยเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างปัจจุบันทันด่วนแบบนี้“ผมดีใจมากแค่ไหนคุณรู้ไหมปรางค์...”เขาพร่ำบอกมือหนาโอบรัดเอวบางไว้แล้วแนบแก้มไปกับหน้าท้องที่ยังไม่ได้ยื่นออกมามากนัก โดยมีเพียงเสื้อผ้าเป็นปราการกั้นไว้เท่านั้น“ปล่อยนะคะ”หญิงสาวแสร้งบ่นแล้วยันเขาออกเบาๆชายหนุ่มยังคงยืนหยัดโอบเธอไว้เช่นนั้น เธอเลยจำต้องปล่อยเลยตามเลยจนกระทั่งเขายอมคลายอ้อมกอด ดวงตาของมีแววประกายสดใสผิดกับเมื่อกี้ลิบลับ“กี่เดือนแล้วปรางค์ ไปหาหมอหรือยังแล้วมียาทานหรือเปล่า?”หลากหลายคำถามพรั่งพรูออกมาทันที“จะสนใจทำไมคะ”“ทำไมพูดแบบนี้ละปรางค์ ในท้องคุณนั้นลูกผมนะ แล้วอีกอย่าง... ตอนที่คุณมีไทม์ผมไม่เคยแม้กระทั่งดูแลหรือรับรู้เลยด้วยซ้ำ”เสียงเขาเศร้าลงจริงอย่างที่เขาพูด...ช่วงเวลาที่มีไทม์อยู่ในท้องเธอเองทั้งเจ็บปวดทั้งสุขใจ มันเป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมดแต่สุดท้ายแล้วเมื่อเธอได้เห็นหน้าลูก ความรู้สึกที่เกลียดพ่อของเขามันก็ถูกฝังลงในส่วนลึกของจิตใจแทน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องทั้งหมดฉันอภัยให้คุณหมดแล้ว ถึงแม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 88 ความสุข

    ชายชราถือไม้เท้ายืนนิ่ง อยู่ด้านหน้าหลุมศพที่สลักชื่อลูกัส ดาโคริด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลา เริ่มมีน้ำตาเอ่อนองออกมา ด้วยความรู้สึกผิดจับใจ เขารู้ซึ้งถึงความเหงาและเจ็บปวดแล้ว เวลานี้ไม่มีใครมาสนใจ หรือเหลียวแลชายชราเช่นเขาอีก ลูกชายคนเดียวที่อยู่ด้วยกันมานาน เขาใช้งานราวกับลูกน้องก็จากไป มันยิ่งทำให้รู้สึกว้าเหว่มากขึ้นเวลานี้บรรยากาศทุกอย่างเงียบงัน มีเพียงลูกน้องและสาวใช้ไม่กี่คนที่ทำหน้าที่ในบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าพอพูดคุยกับเขาเช่นลูกัสเลย มือเหี่ยวย่นถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกไป ไม่ได้ถืออะไรมาฝากลูก ที่ไม่เคยเอ่ยปากยอมรับ ไม่เคยได้รับรู้ว่าลูกัสชอบทานอะไร หรือชอบทำอะไรเลยสักอย่างเวลานี้มันคงสายไปแล้ว...หากว่าเขาอยากจะบอกขอโทษออกไปชายชราถือไม้เท้าเดินไปยังรถของตนเอง มือเหี่ยวย่นลูบใบหน้าเพื่อปาดน้ำตาที่ยังตกค้างให้หมดไป ชีวิตคนแก่เช่นเขาคงเหลือเวลาอีกไม่มากไม่นานนักหรอกมาเรีย...เขาจะไปพบเธอแน่นอน จะไปสารภาพความผิดที่เขาได้ทำไว้“เจ้านายต้องการอะไรอีกไหมครับ?”ลูกน้องถามเขา ชายชราโบกมือ แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน หลังจากรถมาจอดสนิททหน้าคฤหาสน์แล้วเสียงที่ดังก้องกังวานมีเพียงเสียง

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 87 กลับมาทวงคืน

    พินอาภาเดินมาใกล้เพื่อนสาว แล้วหยิบมือถือมาให้ดู ดวงตาคู่สวยเรื่อไปด้วยน้ำตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นสภาพเขานอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล เธอไม่อยากเชื่อว่าเขาจะอยู่ในสภาพแบบนี้“ตอนนี้เขาป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล วันๆ กินแต่เหล้า อะไรก็ไม่ยอมแตะ เราคงทำได้แค่นี้ ที่เหลือปรางค์ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน”ร่างบางทรุดกายลงกับพื้น ยกมือปิดหน้าปล่อยโฮ พินอาภารีบเข้าไปประคองเพื่อน แล้วรั้งมากอดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“เรายอมแล้วพิน...พาเรากับลูกไปหาเค้าที”ร่างเล็กปาดน้ำตาที่กำลังไหลมาไม่ขาด รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าไม่ยอมจางมันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจไม่ใช่น้ำตาแห่งความทุกข์ดั่งเช่นเมื่อก่อน เขาหวังและสุดท้ายมันก็เป็นจริงเขาจะได้พบพ่อแล้วเขาดีใจมากเหลือเกินเช้าวันรุ่งไทม์ช่วยแม่เก็บกระเป๋าเดินทางด้วยความสุข พินอาภายิ้มกับท่าทางของหลานที่วิ่งไปรอบบ้านไม่ให้แม่ต้องขยับทำอะไรเลย เขาพยายามหาข้าวของที่จำเป็นมาใส่กระเป๋าเพราะตอนเย็นจะต้องเดินทางแล้ว“ปรางค์...ดูหน้าไทม์สิดีใจใหญ่เลย”พินอาภาบอกเพื่อนคนเป็นแม่หันไปมองลูกแล้วยิ้มออกมา เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นลูกมีความสุขหลังจากกลับมาจากฝรั่งเศสในวันนั้น“ขอบใจม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 86 กลับมาทวงคืน

    ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งสงสาร มีเพียงแค่เธอกับเขาเท่านั้น ที่ตอนนี้กำลังมีความสุขในรัก แต่ระหว่างเพื่อนสาวและผู้ชายคนนี้กลับทุกข์แสนสาหัส ทำเพื่ออะไรกันเธอไม่เห็นจะเข้าใจ“ไปที่ห้องก่อนเถอะค่ะ”“ครับ” นั่งจัดเสื้อผ้าตนเองในห้อง ใจก็นึกว่าจะทำยังไงถึงช่วยเพื่อนและลุคส์ได้ เธอรู้ว่าสองคนรักกันมาก แต่กลับมีเส้นบางๆ ที่ไม่อาจข้ามมาได้ นี่ยิ่งทำให้ทรมานใจหนักเข้าไปเสียอีก ไม่ใช่ว่าใครไม่ดี แต่เพราะมีเหตุผลจำเป็นต้องแยกจากกันเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นหลังจากหญิงสาวอาบน้ำแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว พินอาภารีบเดินไปเปิดประตูก่อน พบกับเทเรซ่าน้าสาวของลุคส์ที่มายืนซึมอยู่“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”“หนูพิน...เอ่อ...หนูปรางค์ไม่มาด้วยเหรอจ๊ะ”พินอาภาชะงักจ้องมองใบหน้าเศร้าสร้อยของหญิงตรงหน้า“ไม่ได้มาค่ะ”เธอตอบเสียงเบา“เหรอจ๊ะ งั้นไม่เป็นไรจ้ะน้าไปก่อนนะ”เสียงโวยวายบวกกับเสียงข้าวของมากมายในห้องแตกกระจาย ทำให้หญิงสาวรีบเปิดประตูออกไปดู เห็นแฟนหนุ่มกำลังห้ามทัพเจ้านายตนเองโดยมีเทเรซ่าคอยห้ามปราบอีกคน“ผมจะบ้าแล้วรู้ไหม! เธอกลับมาหาฉันได้ไหมปรางค์...ฮือๆๆ” เขาสะอื้นหนักแล้วทรุดกายลงกับพื้นมือคว้าขวดเหล้าม

  • รอยรักพญามาร   บทที่ 88 กลับมาทวงคืน

    บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจออกมา เขาคงทำได้แค่ปลอบใจและยืนมองแค่นั้นทุกอย่างคงต้องอยู่ที่คนสองคนแล้วเขาไม่รู้เหมือนกันว่าปรางค์ปรียาจะใจแข็งมากแค่ไหน“ฉันคิดถึงเธอปรางค์ปรียา...ฉันรักเธอได้ยินไหม!”เขาตะโกนลั่นออกมาร่างสูงใหญ่พยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแต่กลับเซจนมาติชต้องรีบไปรับไว้ มาติชส่ายหัวไปมาด้วยความหนักใจ“ฉันอยากกินเหล้ามาติช พาฉันไปหน่อย...”แสงสีมากมายท่ามกลางคลับหรูใจกลางเมือง ร่างสูงใหญ่ยกน้ำสีอำพันเข้าปากไม่ขาดสายไม่รู้กี่ขวดที่หายเข้าไปในลำคอแต่เขากลับยังไม่หยุด มาติชทำได้แค่เพียงยืนดูอยู่เช่นนั้นอาจจะดีหากเจ้านายของเขาดื่มจนหลับไป ดีกว่าเห็นผู้ชายที่เคยมีอำนาจเหนือใครต้องมาทุรนทุรายเพราะพิษรัก“มาติช...สั่งเหล้ามาอีกเซ่!”บอดี้การ์ดหนุ่มกวักมือเรียกบริกรทันที และเหล้ายี่ห้อหรูราคาแพงก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าเขา และผลของมันคือการที่ชายคนหนึ่งกำลังนอนฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างหมดสภาพ มาติชรีบเดินเข้าไปหาแล้วสั่งลูกน้องที่ติดตามมาด้วยช่วยกันลากเจ้านายตนเองกลับบ้าน ร่างสูงใหญ่ถูกวางลงบนฟูกหนาเขาพลิกกายเล็กน้อย“ปรางค์...กลับมาหาผมเถอะได้โปรด...”เสียงละเมอของเขายิ่งทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มรู้สึกสะท้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status