"กลับบ้านถูกด้วยเหรอคะคุณก้อย"
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เสียงจิกกัดก็ดังมาเข้าหู พสิกาถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
"คุณพ่อรออยู่ค่ะ"
นอกจากลูกสาวแล้ว แม่ก็ยังวุ่นวายกับเธอไม่เลิก เกศิณีบอกให้เธอรับรู้ว่า เรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ เพราะประมุขของบ้านรอคุยกับเธออยู่ เกศิณีกับเกศิราสองแม่ลูกที่ทำตัวไม่ต่างอะไรกับกาฝาก นอกจากจะมาเกาะพ่อเธอแล้ว สองแม่ลูกนี้ยัง หาเรื่องเธอทุกวัน และพ่อของเธอก็เป็นไปกับแม่ลูกคู่นี้ด้วย ไม่ว่าสองคนนี้จะพูดอะไร พ่อเธอก็เห็นดีเห็นงามไปหมด ทุกอย่าง สาเหตุที่เธอไม่อยากกลับบ้าน ส่วนหนึ่งก็มาจาก คนพวกนี้
"กลับมาแล้วเหรอคะ ทำไมหน้าซีดจังเลย ไม่สบาย หรือเปล่า" คำถามจากแม่นมที่เดินมารับหน้า ทำให้พสิกายิ้มออกมาได้ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดในบ้านหลังนี้
"ก้อยไม่เป็นอะไรค่ะนม คิดถึงจังเลย" ร่างบางสวมกอดหญิงสูงวัยอย่างแสนรัก
"นอนที่ร้านเหรอคะ นมโทร. หาก็ไม่รับสาย นมเป็นห่วงมากเลยรู้ไหมคะ" นมชื่นยังคงตัดพ้อ เพราะตั้งแต่เมื่อวาน หญิงสาวก็ไม่รับโทรศัพท์เลย โทร. ไปที่ร้านก็ไม่มีคนรับสาย คำถามของหญิงสูงวัยทำให้พสิกาหนักใจ เธอไม่อยากโกหก
"อย่ามัวอ้อนกันอยู่เลย คุณพ่อรออยู่ค่ะ"
เกศิราเอ่ยย้ำ เมื่อรู้สึกหมั่นไส้กับการกระทำของพสิกา ที่อ้อนนมชื่นเพราะอยากให้แม่นมไปรับหน้าแทน
"กลับมาเหนื่อย ๆ อยากกินอะไรไหมคะ นมจะทำให้"
นมชื่นไม่สนใจคำพูดของเกศิรา ยังคงชวนคุณหนูของนางคุยด้วยความห่วงใย
"ขอข้าวต้มกุ้งค่ะนม ก้อยไปพบคุณพ่อก่อนนะคะ"
พูดพร้อมกับเดินจากไป แต่ต้องหยุดชะงักเท้าที่ก้าวเดิน เมื่อแม่นมเรียกเอาไว้
"มือไปโดนอะไรมาคะนั่น"
พูดพร้อมกับเดินเข้ามาจับมือบางเอาไว้ แล้วยกขึ้นดูด้วยความห่วงใย พสิกาใจหาย เธอประมาทเองที่ไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้ แม่นมเป็นคนช่างสังเกต อะไรที่เกี่ยวกับเธอ นางมักจะใส่ใจเสมอ
"ก้อยไม่เป็นอะไรค่ะ" ตอบพร้อมกับดึงมือออก แต่ถูกมือ ที่เหี่ยวย่นจับยึดข้อมือเอาไว้
"ไม่สบายเหรอคะ แล้วทำไมไม่บอก โธ่... คุณหนูของนม"
มือของหญิงชราลูบลงบนหลังมือบาง ที่มีรอยเข็มน้ำเกลืออย่างอ่อนโยน คนแก่แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณหนูของนางไม่ได้นอนค้างที่ร้านอย่างที่นางเข้าใจ กี่วันแล้วที่คุณหนูไม่สบาย ถ้ามีร่องรอยกลับมาขนาดนี้ ก็คงต้องนอนโรงพยาบาลแน่นอน
"ทำไมไม่โทร. บอกนมคะ แล้วใครอยู่เป็นเพื่อน ไม่ทำ แบบนี้แล้วนะคะ ต่อไปถ้าไม่สบายหรือเจ็บตรงไหน ต้องรีบบอกนมนะคะคนดี"
คำพูดของแม่นมที่เปรียบเสมือนแม่ตัวเอง ทำให้หญิงสาวกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอจะอ่อนแอให้คนอื่นเห็นไม่ได้ โดยเฉพาะนมชื่น ถ้าแม่นมรู้ว่าเธอเหนื่อย นางก็จะยิ่งเป็นห่วง
"ก้อยแค่รู้สึกเพลีย ๆ น่ะค่ะ ถ้าได้ข้าวต้มกุ้งถ้วยโต ๆ คงมีพลัง" มือบางปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะฝืนยิ้มแล้ว กอดคนแก่ไว้แน่นอย่างประจบประแจง เพราะไม่อยากให้แม่นมไม่สบายใจ
"ดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานหนัก ไปพบคุณพ่อเถอะค่ะ เดี๋ยวนมทำข้าวต้มถ้วยโต ๆ ให้"
พสิกาหอมแก้มแม่นม ก่อนจะเดินแยกเข้าไปในบ้าน
เกศิรายิ้มอย่างสะใจเมื่อเดินตามหญิงสาวเข้ามา งานนี้พสิกาน่าจะโดนหนัก เพราะคุณมาโนชย์โมโหตั้งแต่เมื่อวาน"สมน้ำหน้า" พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยพร้อมกับเดินตามเข้ามาดูเหตุการณ์ พสิกาคงโดนดุไม่น้อย
"คุณพ่อเรียกก้อยมีอะไรหรือเปล่าคะ"
ถามบิดาเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ที่คุณ มาโนชย์นั่งอยู่ ตาของผู้สูงวัยอ่อนแสงลงเมื่อเห็นใบหน้าที่ ซีดเซียวของลูก อารมณ์กรุ่นโกรธที่ถูกสองแม่ลูกยุแยงเบาลง เมื่อเพ่งมองลูกสาวเต็มสองตา พสิกาซูบลงไปเยอะโดยเฉพาะใบหน้าที่ตอนนี้แก้มตอบลงอย่างเห็นได้ชัด คุณมาโนชย์ ถอนหายใจออกมา เรื่องที่ลูกสาวทำงานหนักเพื่อหาเงินมา ใช้หนี้แทน ทำไมท่านจะไม่รู้... ถ้าพสิกาทำตามที่ท่านแนะนำ ก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้ เพื่อนฝูงของเขาหลายคนต้องการ ดูแลเธอ แต่พสิกากลับดื้อรั้นหาเรื่องให้ตัวเองลำบาก ถ้าตกลงแต่งงานกับคนที่ท่านหาให้ ป่านนี้ก็คงสบายกันทั้งบ้าน ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกรียวแบบนี้หรอก
"นั่งก่อนสิ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย"
ตากลมโตไหววูบเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของคนเป็นพ่อ เรื่องที่พ่อจะคุยก็คงไม่พ้นเรื่องเดิม ๆ และสุดท้ายก็ไม่พ้นทะเลาะกัน และเธอก็ถูกสองแม่ลูกนั่นเยาะเย้ยที่ถูกพ่อลงโทษ เพราะทำให้ท่านโมโห
"พูดธุระของคุณพ่อมาเลยค่ะก้อยฟังอยู่" บอกทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
"อีก 3 วันจะมีงานเลี้ยงที่บริษัทหุ้นส่วนพ่อ พ่ออยากให้ก้อย... " คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปากเมื่อพสิกาแทรกขึ้น
"กี่โมงคะ งานเริ่มกี่โมง" หญิงสาวถามกลับ เมื่อเข้าใจแล้วว่าธุระของพ่อคืออะไร คุณมาโนชย์มองหน้าลูกสาวอย่างไม่เชื่อสายตาในตอนแรก ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างอย่างพอใจ เมื่อครั้งนี้ ลูกไม่ขัดขืนหรือถามอะไรให้มากความ พสิกาคงรู้แล้วว่าต่อให้ทำงานหนักแค่ไหนก็หาเงินมาไม่พอใช้หนี้ พ่ออย่างเขาก็ต้อง ดีใจ เมื่อลูกมีสมองมากขึ้น มีอีกตั้งหลายวิธีที่ได้เงินครั้งละ มาก ๆ โดยที่ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย ถ้าพสิกาฉลาดแบบนี้ตั้งแต่แรก ป่านนี้ก็กลายเป็นคุณนายไปแล้ว
"กลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนเถอะ รายละเอียดของงานเดี๋ยวพ่อจะบอกอีกที คุณเกษดูแลลูกด้วยนะ"
สิ้นเสียงประมุขของบ้าน สองแม่ลูกหันมามองหน้ากัน โดยเฉพาะเกศิราที่งงกับคำสนทนาของพ่อลูก จนคิ้วแทบจะ ชนกัน วันนี้พสิกายอมคุณมาโนชย์อย่างง่ายดาย แถมคุณ มาโนชย์ยังทำท่าทางเอ็นดูหญิงสาวจนออกนอกหน้าอีกด้วย
"เป็นแบบนี้ได้ยังไงคะแม่ นางก้อยมันบ้าไปแล้วเหรอ"
ถามมารดาด้วยความร้อนรน
"นั่นน่ะสิ แม่นึกว่าวันนี้มันคงโดนตบสักฉาด"
"ศิว่ามันคงเหนื่อยที่ทำงานหนัก แม่ดูมันสิคะเหมือนผีดิบเข้าไปทุกวัน"
"ก็ดีแล้วไง ให้มันได้ผัวรวย ๆ เราจะได้สบาย ว่าแต่แกเถอะยายศิ ผู้ชายที่แกชอบพอนะ ตกลงรวยใช่ไหม"
"รวยสิคะแม่ คุณดิวเขาเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์นะคะ แม่สบายใจเถอะค่ะ ศิหาได้ดีกว่านางก้อยแน่นอน"
เกศิราประกาศพร้อมกับทำตาเคลิ้มฝัน เมื่อนึกถึง ใบหน้าหล่อเหลาของใครบางคน ที่บังเอิญเจอกันในผับ เมื่อหลายคืนก่อน
‘ปภังกร อารยางกูล' ชื่อนี้ทำให้เธอฝันถึงทุกคืน
“น้องฟังผมก่อน ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหงส์ คุณกำลังเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้ทำร้ายเธอ ภาพพวกนั้นไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด ผมรักคุณและไม่ยอมให้มีงานแต่งเกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่คิดเล่นสกปรกกับผู้หญิง ผมสารภาพเรื่องของเรากับนายใหญ่ ให้นายใหญ่ยกเลิกงานแต่งงานให้ ผมไม่ต้องแต่งงานเพราะนายใหญ่ช่วยเหลือ ภาพพวกนั้นไม่เกี่ยวกับผมจริง ๆ นะครับ ผมไม่เลวขนาดนั้นคุณก็รู้” กิรณาคิดตามคำพูดของเขา ราเชนทร์ไม่ใช่คนเลวร้าย ถ้าเขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ อิงวราคงไม่ได้เป็นพี่สะใภ้ของเธอ เขาเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมก็จริง แต่ไม่ใช่คนเลว “ทุกอย่างมันเกิดขึ้นพร้อมกัน จนฉันไม่รู้แล้วว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง นายพาฉันไปหาพี่ภูเถอะ ฉันอยากเจอพี่ภู” พี่ชายคือที่พึ่งทางใจของเธอ ทุกครั้งที่มีปัญหา เธอจะคิดถึงภูดิศก่อนเสมอ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตชีวิตเธอก็มีแค่พี่ชายคนเดียวเท่านั้น “ฟังผมก่อนนะครับ” “ฉันไม่อยากคุยกับนายอีก เราจบกันแค่นี้เถอะนะ” อีกไม่นานเธอก็จะเรียนจบ และเมื่อวันนั้นมาถึงเธอคงไปใช้ชีวิตอย่างสงบที่ไหนสักที่ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป “ไม่ผมไม่จบ ผมรักคุณ”
ตอนที่15.ผมรักคุณมือถือเครื่องหรูถูกยัดลงในกระเป๋ากางเกงตามเดิม เมื่อเจ้าของจบบทสนทนากับปลายสาย ตาคมเข้มปรายตามองคนที่นั่งข้าง ๆ เพียงนิด หัวใจดวงโตฟูคับอก เมื่อนึกถึงบทสนทนาที่เพิ่งจบลง “มีอะไร ทำไมไม่รีบไป” กิรณาถามเมื่ออยู่ ๆ ราเชนทร์ก็หันหัวรถเข้าข้างทาง ไม่มีคำตอบมีเพียงตาคมเข้มเท่านั้น ที่มองหน้าเธอด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออก “เกิดอะไรขึ้น!” เมื่อเขายังเฉยกิรณาก็โมโห มีคำสั่งจากพี่ชายให้เธอกับเขาไปหาให้เร็วที่สุด น่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น แต่ราเชนทร์ยังมานั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี ยิ่งยั่วโมโหเธอไปใหญ่ “นี่นายจะ...อื้อ!” คำพูดที่เหลือถูกกลืนลงคอ เมื่อริมฝีปากสวยถูกปิดด้วยปากหนา ราเชนทร์โน้มคอคนตัวเล็กลงมาด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วจัดการปิดปากช่างเจรจาด้วยปากของเขา หัวใจยังเต้นระส่ำ เมื่อนึกถึงคำพูดของภูดิศ ก่อนหน้านี้ เขาไม่ต้องแต่งงานกับรินลดา เพราะคุณป๋าจัดการยกเลิกให้แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับภาพหลุดของเธอ คุณป๋าทราบเรื่องเขากับกิรณาแล้ว ความลับที่ไม่ใช่ความลับของเขา ถึงหูคุณป๋าเพราะนายใหญ่ แสดงว่าภูดิศไม่ได้รังเกียจเขาเลยสักนิด เขาคิ
ร่างเปล่าเปลือยบนเตียงกว้างขยับไปมา เมื่อแสงแดดจากหน้าต่างบานสูงส่องเข้าตา ห่อตัวหนีความหนาวเหน็บจากไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ ที่เป่าลงมา กระทบผิวเนื้อ “อื้อ...” ทันทีที่ขยับตัวความเจ็บปวดก็เข้าเล่นงาน ปวดหัวคือความรู้สึกแรกที่รับรู้ ก่อนจะต้องงอตัวเมื่อปวดหน่วงบริเวณหน้าท้องอย่างแรง “เกิดอะไรขึ้น” ตากลมโตกะพริบถี่ ๆ เมื่อปรับม่านตาให้เข้ากับแสงสว่างที่สาดเข้าในห้อง สมองไล่เลียงเรื่องราว เมื่อคืนเธอมางานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสนิท เธอดื่มจนเมามาย หลังจากนั้นพริสาก็พาเธอมานอนพักในห้องนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ภาพในหัวมืดสนิทมีเพียงสัมผัสที่หยาบคาย และความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึก เธอถูกข่มขืน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็พากันไหลลงมาเป็นสาย ใครกันที่ทำร้ายเธอ ลูกน้องของพ่อกระจายอยู่ทั่วผับเพื่อเฝ้าระวัง แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง “พริสา...” เสียงที่เปล่งออกมาแทบไม่พ้นริมฝีปาก เมื่อความเจ็บปวดตีตื้นขึ้นมา คนที่เข้าถึงตัวเธอได้คือกลุ่มเพื่อนสนิท และคนคนนั้นก็คือพริสา หลังจากร้องไห้จนพอใจ รินลดาก็หอบร่างกายที่บอบช้ำออกมาจากห้องนั้น ไม่ว
ทันทีที่แผ่นหลังแตะลงบนพื้นที่นอนเย็นเฉียบ ตากลมโตที่เต็มไปด้วยน้ำตาก็ปิดลง กลืนก้อนสะอื้นลงคอ คำว่ารักที่เป็นเหมือนลมผัดผ่าน แต่เธอกลับได้ยินมันชัดเจน เขาบอกว่ารักเธออย่างนั้นหรือ รักทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแต่งงานกับคนอื่น มีอีกร้อยเหตุผลที่เขาจะปฏิเสธพ่อของเธอ แต่เขาไม่ทำ ขึ้นชื่อว่าเขยมังกรมีใครบ้างที่ไม่อยากเป็น ราเชนทร์อยู่ใต้อำนาจของภูดิศมาตลอด ถ้าเขาได้เป็นลูกเขยมังกร ก็เท่ากับว่าอำนาจและบารมีที่ครอบครัวของรินลดาสร้างไว้ จะอยู่ในมือของเขาทั้งหมด ราเชนทร์จะยิ่งใหญ่เสมอภูดิศ และเมื่อวันนั้นมาถึงเธอก็ไม่มั่นใจว่า ความภักดีที่เขาเคยมีกับครอบครัวและพี่ชายของเธอ มันจะยังมีอีกไหม เมื่อถึงตอนนั้นราเชนทร์ก็ไม่ต่างจากเสือติดปีก พี่ชายใช้วิธีสกปรกแย่ง อิงวราไปจากเขา เมื่อมีโอกาศเขาจะไม่แย่งคืนเหรอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หัวใจก็ปวดร้าว เขารักอิงวราจนถึงขั้นยอมตายแทนได้ ถ้าเขามีอำนาจพี่ชายเธอคงเดือดร้อน “ยังกินยาคุมอยู่หรือเปล่า” คำถามที่ได้ยิน ทำให้แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว “ยังกินอยู่” ตอบพร้อมกับขยับให้เข้าที่เข้าทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เขา เสือร้ายอย่างราเชนทร์ ต้อ
ตากลมโตช้อนขึ้นมองหน้าชายหนุ่ม มือสั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปแกะหัวเข็มขัดของเขา คนที่นอนแผ่หลาบนเตียงขยับขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียง ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน ตาคมเข้มมองอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเจ้าของ ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปขยำเมื่อห้ามใจไม่ไหว “อุ้ย!” คนตัวเล็กอุทานด้วยความตกใจ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพราะน้ำหนักมือที่บีบลงมา ผิวเนื้อบริเวณนั้นน่าจะเขียวช้ำจากแรงบีบของเขา คนตัวสูงยกสะโพกขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้เธอ ทันทีที่กางเกงยีนหลุดออกจากช่วงขา ใบหน้าสวยก็เห่อร้อนจนลามไปถึงใบหู ราเชนทร์ไม่ปล่อยให้หญิงสาวอายนาน มือแกร่งรูดกางเกงชั้นในของตัวเองลงไปคาไว้ที่หน้าขาความเป็นชายที่ซ่อนตัวอยู่ภายในดีดตัวออกมาอวดสายตา ทำให้กิรณาตกใจไปกันใหญ่ “จัดการเลยครับ มันเป็นของน้อง” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบ ตาคู่คมมองหน้าหญิงสาวอย่างรอคอย ชอบใจกับเลือดฝาดที่กระจายไปทั่วใบหน้าของเธอ คนที่ถูกบังคับทางอ้อมสูดลมหายใจเข้าปอด ยิ่งช้าก็ยิ่งเสียเวลาวันนี้เธอหมดทางสู้แล้วจริง ๆ ที่ผ่านมาราเชนทร์ไม่เคยสนใจเธอเลยสักนิด แล้วมันเกิดอะไรขึ้น เขาทำแบบนี้ทำไม คำถามมากมายลอยเข
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน!” พูดจบกิรณาก็ขยับลงจากกายแกร่ง แต่ถูกมือหนายึดช่วงเอวเอาไว้ ราเชนทร์มองหน้าหญิงสาว เมื่อเห็นตากลมโตที่บวมช้ำก็นึกสงสาร จากที่ตั้งใจว่าจะทำโทษให้หลาบจำ หัวใจก็อ่อนยวบเมื่อเห็นน้ำตาของเธอ “ไม่ให้กลับ” “นายจะเอายังไงกับฉันก็ว่ามา ฉันไม่อยากเสียเวลากับนายอีกแล้ว” ตวาดด้วยความโมโหและข่มความอับอาย เมื่อเห็นสายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่หน้าอกอวบของเธอ เขาจะเอาอะไรกับเธออีก เธอไม่ใช่ของเล่นหรือที่คั่นเวลาที่เขาจะหยิบขึ้นมาเวลาที่เหงา “มีให้เลือกสองอย่างนะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พร้อมกับขยำมือลงบนสะโพกงามงอนที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะลงน้ำหนักไม่มาก แต่ก็ทำให้คนถูกบีบสะดุ้งด้วยความเจ็บ สายตาเจ้าเล่ห์มองสบกับตาคู่หวาน “อะไร” คนถามขนลุกเกลียวหน้าร้อนจนลามไปถึงใบหู เมื่อมือสากที่กุมอยู่บริเวณสะโพกเริ่มวุ่นวายกับขอบกางเกงชั้นในของเธอ “ถ้าไม่อยากให้ผมทำ น้องก็ทำให้ผม” ไม่พูดเปล่าคนที่นอนอยู่ใต้ร่างยังยกสะโพกขึ้น จนกายแกร่งแข็งชันที่ซ่อนตัวอยู่ในกางเกงยีนผ้