ครืด~ครืด~ครืด
มือถือที่สั่นขึ้นกลางดึก ไม่ได้มีผลกับคนที่นั่งกอดเข่า บนเตียงเลยสักนิด ตากลมโตปรายตามองหน้าจอ เมื่อเห็นว่าคนที่โทร. มาเป็นใคร หมอนใบใหญ่ก็ถูกโยนมาทับหน้าจอเอาไว้ ตากลมโตมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย พ่อต้องการให้เธอแต่งงานกับหุ้นส่วนที่กลายมาเป็นเจ้าหนี้อีกราย และหนี้ก้อนนี้ก็ใหญ่เกินกว่าที่เธอจะรับไหว ถ้าเธอตอบตกลง นอกจากพ่อจะปลดหนี้ได้แล้ว ครอบครัวเธอยังได้สินสอดเป็นเงิน ก้อนใหญ่ เพื่อเอามาปลดหนี้เจ้าหนี้ทุกราย โดยเฉพาะหนี้ 28 ล้านที่เจ้าหนี้กำลังจะเรียกเก็บดอกเบี้ยกับเธออีกแล้ว
ครืด~ครืด
เมื่อเธอไม่รับสาย ข้อความทางไลน์จึงถูกส่งเข้ามาเพื่อเตือนเธออีกครั้ง มือบางหยิบมือถือขึ้นมากดดู เพราะอยากรู้ว่าเขาส่งอะไรมา
'ลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้ ผมอยู่หน้าบ้านคุณ'
มือถือเครื่องบางหลุดจากมือ เมื่ออ่านข้อความจบ ปภังกรอยู่หน้าบ้านเธออย่างนั้นหรือ ร่างบางพุ่งไปที่หน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นบริเวณหน้าบ้าน ก่อนจะต้องเข่าทรุดเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูสีดำสนิทซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ปภังกรเอาจริง เขาไม่ได้ขู่ ให้เธอกลัว
มือถือถูกหยิบขึ้นมาต่อสายอย่างร้อนรน แต่ปลายสาย ไม่แม้จะกดรับมัน ตากลมโตมองข้อความหน้าจอ สลับกับมองรถยนต์คันใหญ่ที่จอดอยู่นอกรั้ว ก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง มือบางกำเข้าหากันแน่น ปภังกรกำลังทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น ถ้าเขาเรียกเก็บดอกเบี้ยไม่รู้จักเวลาแบบนี้ เธอก็มีคำตอบให้บิดาเร็วขึ้น แต่งงานกับหุ้นส่วนพ่อ เธอจะได้หลุดพ้นไปจากเรื่องบ้าบอนี้เสียที เพราะตอนนี้ก็ไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว
ปภังกรมองหน้าต่างห้องที่ปิดไฟจนมืดสนิท สองวันมานี้เธอไม่รับสายเขา รู้ว่าเธอไม่สบาย แต่เธอก็น่าจะรับสายเขาสักนิด เธอทำแบบนี้เท่ากับท้าทายเขา บ้านของเธอเขาก็เข้าออกจนคุ้นชิน เพราะเป็นหุ้นส่วนกับพ่อเธอ แต่ที่เขามาเวลานี้ก็เพราะต้องการให้เธอรู้ว่า อย่ามาล้อเล่นกับเขา สองวันแล้วไอ้ที่ป่วยก็น่าจะหายดี สงสัยเขาต้องจัดการขั้นเด็ดขาด เธอจะได้ไม่กล้าขัดคำสั่งเขาอีก
ตาคู่คมมองร่างแบบบางในชุดเสื้อยืดกับกางเกงผ้าขาสั้นที่เดินมายังรถเขา แสดงว่าเธอยังกลัวเขาอยู่
"ขึ้นมา!" ทันทีที่หญิงสาวมายืนที่ประตูฝั่งคนขับ ชายหนุ่มก็ออกคำสั่ง
"คือ... ฉันไม่สะ... "
ปึก!
คำว่าไม่สบายพูดออกไปไม่จบประโยค ร่างบางก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อคนที่อยู่ในรถฟาดกำปั้นลงบนพวงมาลัยรถเต็มแรง ด้วยท่าทางที่โกรธจัด
"ขึ้นรถ!"
หญิงสาวกัดปากให้กับคำสั่งเขา ก่อนจะเดินอ้อมมาขึ้นรถตามคำสั่ง
"ว้ายยยย!"
ทันทีที่ปิดประตู รถคันหรูก็กระชากตัวออกตัวอย่างแรง ตามอารมณ์ของเจ้าของ มือบางคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้ รู้สึกตกใจกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น เธอไม่เคยเห็นเขาอยู่ในอารมณ์นี้มาก่อน
เอี๊ยดดดด!!!
"ว้ายยยย!"
หัวใจยังเต้นคร่อมจังหวะ กับการตกใจในตอนแรก ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเมื่ออยู่ ๆ ปภังกรก็จอดรถอย่างกะทันหัน
"คุณดิว!" เพราะความตกใจ จึงเผลอเรียกชื่อเล่นเขาออกมา ไม่ทันได้พูดอะไร เมื่อคนที่นั่งฝั่งคนขับหันมามองหน้าเธอ ดวงตาคู่คมแดงก่ำ กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วรถ
"คุณเมานี่" พูดพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยออก ถ้าเห็น ท่าไม่ดีเธอจะได้หนีทัน
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์!" เสียงแหบห้าวตะโกนถาม เมื่อหันมามองหน้าเธอเต็มสองตา
"ฉัน..." พสิกาหาเสียงตัวเองไม่เจอ จะบอกว่าไม่สบาย มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่รับสายเขาไม่ได้ ใบหน้าสวยเชิดขึ้น เมื่อ หันมาสบตากับเขา ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะอีกไม่นานเธอ จะเป็นอิสระ เธอมีช่องทางหาเงินมาคืนเขาแล้ว
"ฉันไม่อยากรับ!"
เขาแรงมา เธอก็แรงกลับ คำตอบและน้ำเสียงของเธอ ทำให้หัวคิ้วเข้มกระตุก ตาคู่คมมองหน้าหญิงสาว มองตา กลมโตที่มีแววถือดีอยู่ในนั้น
"กล้ามากนะที่พูดแบบนี้กับผม ลืมแล้วเหรอว่าฐานะคุณคืออะไร แล้วมีหน้าที่ทำอะไร!"
"ฉันไม่เคยลืมหรอกค่ะว่าฉันเป็นลูกหนี้ของคุณ คุณ นั่นแหละที่ลืมสถานะของตัวเอง คุณเป็นเจ้าหนี้ไม่ใช่เจ้าชีวิตฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้"
"ไม่มีสิทธิ์เหรอ แล้วใครกันที่มีสิทธิ์ คุณเป็นลูกหนี้ผม ผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้" มือแกร่งเอื้อมไปบีบปากบางเอาไว้ เมื่อพสิกาเถียงกลับมาแบบนั้น
"ปล่อย!" ใบหน้าสวยสะบัดออก มือบางยกขึ้นมาปัดป้องตัวเอง เมื่อถูกบีบจนเจ็บร้าวไปทั้งแก้ม
"หาเงินมาคืนก่อนสิ แล้วจะปล่อย!" พูดพร้อมกับโน้มหน้าลงไปหา แต่หญิงสาวยกมือมาดันช่วงคางเขาเอาไว้ เธอเกลียดเขา เกลียดทุกอย่างที่เขาทำกับเธอ
"อย่านะ!" มือบางออกแรงผลักเมื่อรู้ว่าเขาจะทำอะไร เธอไม่ชอบเวลาที่เขาจูบปาก ข้อนี้ปภังกรรู้ดี แต่เขาก็ไม่เคยตามใจเธอสักครั้ง ยิ่งเธอแสดงท่าทางรังเกียจ เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะเธอ
พสิกาหลบตา เมื่อเพื่อนมองมาอย่างตกตะลึง พิมพ์มาดาช็อกกับเรื่องที่ได้ฟัง เมื่อพสิกาสารภาพ และเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด "หมายความว่า ก้อยกับพี่ดิว...”พิมพ์มาดาพูดไม่ออก เพราะไม่รู้จะใช้สถานะไหนเรียก คนทั้งสอง มีความสัมพันธ์แบบลูกหนี้กับเจ้าหนี้ ใช้ร่างกาย จ่ายดอกเบี้ย มันมีแต่ในละคร ไม่คิดว่าในชีวิตจริงจะมีเรื่อง แบบนี้เกิดขึ้น และมาเกิดกับคนใกล้ตัวของเธอ พสิกาเป็น เพื่อนสนิทเธอ ปภังกรเป็นเพื่อนสนิทของสามี แบบนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ "นานแค่ไหนแล้วก้อย พี่ดิวข่มเหงก้อยมานานแค่ไหนแล้ว" มือบางที่กำมือเพื่อนสั่นระริก พร้อมกับน้ำตาที่ ไหลริน พิมพ์มาดาเป็นคนอ่อนไหว พอได้รู้ว่ามีเรื่องเลวร้าย เกิดขึ้นกับเพื่อน เธอก็สงสารจับใจ"แอ้อย่าคิดมากนะ ก้อยไม่เป็นอะไร" บอกกับเพื่อนรัก เพราะตอนนี้พิมพ์มาดากำลังตั้งครรภ์ ไม่อยากให้เรื่องของเธอมากระทบใจเพื่อน"บอกแอ้มาให้หมด พี่ดิวทำอะไรกับก้อยบ้าง""เขาแค่... แค่นอนกับก้อย""คุณลุงเป็นหนี้พี่ดิวเท่าไร" พิมพ์มาดาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับท่าทางที่เข้มแข็ง พสิกาไม่เคยเห็นเพื่อน เป็นแบบนี้มาก่อน จึงค่อน
ปภังกรหัวเสียเมื่อจนป่านนี้ยังติดต่อพสิกาไม่ได้ เธอปิดเครื่องหรือเป็นอะไรกันแน่ ความห่วงที่มีปริมาณมากกว่าสิ่งอื่นใด ทำให้เขาพาตัวเองมาบ้านเธอในช่วงสายของวันถัดมา แต่คนที่ออกมาต้อนรับเขาคือเกศิรา หญิงสาวดีใจจนออก นอกหน้าที่เห็นหน้าเขา และได้ทีใส่ร้ายพสิกาให้เขาฟัง ตั้งแต่เมื่อคืนพสิกายังไม่กลับมาที่นี่ แล้วเธอไปอยู่ที่ไหน"คุณพ่อกับแม่เป็นห่วงมากเลยนะคะ แต่คนที่น่าสงสารที่สุดน่าจะเป็นนมชื่นค่ะ ยายก้อยหายไปแบบนี้คนแก่ก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา" เกศิราตีหน้าเศร้าทำทีเป็นห่วงพสิกาเสียมากมาย"ติดต่อไม่ได้เลยเหรอครับ""ตกลงที่คุณดิวมาก็คงมาหายายก้อยสินะ ศิก็คิดเข้าข้างตัวเองเสียมากมาย" เกศิราตัดพ้อทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้การมาของเขาดี"คุณก็รู้ว่าผมมาหาก้อย" ปภังกรตอบชัดเจน ก่อนจะเดินกลับไปที่รถ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ "แค่ปลายนิ้วศิจิ้มลงไปที่หน้าจอ คลิปยายก้อยก็จะโชว์หราอยู่ในเฟซ แล้วหลังจากนั้นก็คงถูกแชร์ต่อ ๆ กันไป ศิควรเบลอหน้าใครดีคะ คุณหรือว่ายายก้อย!"คำพูดของเกศิราทำให้ปภังกรหน้าตึง ผู้หญิงคนนี้รู้จักเขาน้อยไปจริง ๆ"ผมต้องทำยังไงครับ" หันมาถาม เพื่อต้องการให้เธอหาทางออกให้ก
'บริการฝากหมายเลขโทร. กลับ'ประโยคเดิมซ้ำ ๆ วนเข้ามาในหู เมื่อปภังกรกดโทร. ออกหาเบอร์ปลายสาย พสิกาปิดเครื่องหนีเขาอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอจะปิดแค่ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยง แต่นี่รถคันสุดท้ายออกไปจากงานแล้ว เขาก็ยังติดต่อเธอไม่ได้ เขาบอกว่าคืนนี้ต้องการเธอ นั่นหมายความว่าเธอจะต้องกลับไปกับเขา แต่เขากลับติดต่อเธอไม่ได้ เขาเห็นคุณมาโนชย์เดินออกมาจากงาน พร้อมคุณเกศิณี ในขณะที่เกศิรากลับกับผู้ชายที่มารับเธอที่ หน้างาน ไร้เงาของพสิกา แสดงว่าเธอกลับไปก่อนหน้าแล้ว หลังจากกลับเข้ามาในงาน เขาก็คุยกับเพื่อน ๆ เรื่องที่พุฒิพัฒน์ทำตัวผิดไปจากเดิม ที่คอยแต่จะมองนาฬิกาข้อมือ แล้วขอตัวกลับตั้งแต่งานยังไม่เลิก ทุกคนจึงลงความเห็นว่า พุฒิพัฒน์ เข้าชมรมคนกลัวเมียไปแล้ว หลังจากนั้นเขาก็คุยกับเพื่อนยาว จนกระทั่งงานเลิกจึงแยกย้ายกันกลับ เขาลงมารอพสิกาที่รถแล้วโทร. หาเธอ เพื่อจะบอกจุดที่เขารออยู่ แต่เธอกลับปิดมือถือเสียนี่ คงไม่ได้กลับไปกับผู้ชายหรอกนะ เพราะเขาเห็น คุณธำรงค์อยู่จนถึงเวลางานเลี้ยงเลิกมือถือเครื่องหรูถูกยกขึ้นมาต่อสาย เมื่อเขาต้องการสั่งงานลูกน้องคนสนิท"ณรงค์ วันอังคารคุณไปพบผมท
ปภังกรเอ่ยคำว่าขอโทษออกมา เพราะรู้ว่าตัวเองผิดที่คุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากอะไร เขาไม่ชอบเวลาที่มีผู้ชายมาทักทายเธอ ไม่ชอบที่คนอื่นมา ถูกตัวเธอ และที่โมโหที่สุดก็คือเธอยิ้มให้ใครต่อใครไปทั่ว แต่เวลาอยู่กับเขา กว่าจะพูดออกมาได้แต่ละคำ แทบต้อง ง้างปากพสิกาสะอื้นไห้อยู่ในอ้อมอกของเขา ยอมให้เขากอดเพราะรู้ว่าหนีเขาไม่พ้น ครั้งนี้ปภังกรดูถูกเธอมากจริง ๆ และที่ทำให้เธอเกลียดเขาที่สุดก็คือคำว่าคลิป เธอไม่รู้ว่าเขาถ่ายเอาไว้จริงไหม แต่คนอย่างเขาจัดอยู่ในประเภทคนที่ทำได้ทุกอย่าง ถึงแม้เขาจะยอมขอโทษ แต่มันไม่ได้มีผลกับความรู้สึกเธอเลยสักนิด เพราะเธอเสียใจไปแล้ว หญิงสาวยืนนิ่งเหมือนหุ่น เขาจะกอดจะจูบก็ช่างเขา เธอจะไม่ใจอ่อนกับเขาอีกแล้ว ปภังกรและพสิกาไม่มีทางรู้เลยว่า ภาพความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นนี้ ถูกมือดีถ่ายเก็บเอาไว้หมดแล้ว ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเคลื่อนไหว มือถือในมือถูกกำจนสั่น เมื่อเจ้าของโมโหจนยากจะควบคุมอารมณ์ ตาคู่เฉี่ยวมองพสิกาอย่างเกลียดชัง นี่คงเป็นเหตุผลที่ปภังกรเข้าใกล้เธอ เพราะเขาอยากประชดพสิกา ที่แท้สองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้
พสิกาพาตัวเองออกมาสูดอากาศในสวนหลังโรงแรมไหล่บางห่อลงเพราะอากาศยามค่ำคืนหนาวเย็น หญิงสาวเลือกนั่งบนชิงช้าที่จัดไว้กลางสวน ดวงตาเหม่อลอยมองออกไปแสนไกล แต่หัวใจยังจดจ่ออยู่ที่เรื่องเดิม ปภังกร คบกับเกศิราอย่างนั้นหรือ ทำไมเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย เขาคบกันมานานหรือยัง ยิ้มให้ตัวเองเมื่อนึกถึงความจริงข้อนี้ เธอจะรู้ได้ยังไงกัน เพราะพักหลัง ๆ ก็เอาแต่ทำงานหนัก กว่าร้านจะปิดก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน ไหนจะต้องไปเป็นนางบำเรอให้เขาอีก แล้วเธอจะไปรับรู้เรื่องอะไรกับใครเขา กระบอกตาร้อนผ่าวเมื่อความเสียใจตีตื้นขึ้นมากลางอกปภังกรก็รู้ว่าเธออยู่บ้านเดียวกันกับเกศิรา เขายังกล้าทำแบบนี้อีก คบสองคนในเวลาเดียวกัน ยกอีกคนให้อยู่บนที่สูง ในขณะที่เธอถูกกดให้จมดิน เธอมีสิทธิ์คิดมีสิทธิ์เสียใจด้วยหรือ เมื่อจุดเริ่มต้นของเธอกับเขามันมีข้อตกลงที่ชัดเจน เธอก็แค่ดอกเบี้ยคั่นเวลา เขาจะเรียกเก็บกับเธอตอนไหนก็ได้ ไม่มีสิทธิ์บ่ายเบี่ยงหรือขัดขืน นั่นคือข้อตกลงก่อนที่เธอจะขึ้นเตียงกับเขา แล้วใครใช้ให้หัวใจไม่รักดี เธอไม่เคยคิดถึงข้อนี้เลยสักครั้ง ปภังกรหล่อรวยและดูดี เขาต้องมีคนของเขาอยู่แล้ว
พสิการู้แล้วว่าคนที่พ่อต้องการให้เธอทำความ รู้จักอย่างลึกซึ้งคือคุณธำรงค์ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ระดับต้น ๆ ของประเทศ ถึงแม้ในงานจะมีใครหลาย ๆ คนที่สนใจเธอ แต่เป้าหมายของพ่อคือผู้ชายคนนี้ เธอก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะคุณธำรงค์เองก็ดูจะสนใจเธอไม่น้อยเช่นกัน"ร้านอาหารของหนูก้อยอยู่แถวไหนครับ ผมจะได้แวะไปอุดหนุน" หนุ่มใหญ่ชวนคุยเมื่อรู้สึกถูกตาต้องใจสาวน้อยตรงหน้า คุณมาโนชย์มีของดีอยู่กับตัวนี่เอง ถึงได้เทหมด หน้าตัก และสาวน้อยคนนี้ก็สวยหวานถูกใจเขาที่สุด"อยู่แถว...” ชื่อสถานที่ตั้งร้านค้างไว้ในลำคอ เมื่อดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นใครบางคน กำลังเดินมาที่เธอ ใบหน้าสวยเปลี่ยนสีเมื่อเห็นหน้าเขา ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วหันไปคุยกับคุณธำรงค์ตามเดิม"คุณปภังกรมางานนี้ด้วยเหรอครับ"คุณธำรงค์ที่หันมาเห็นปภังกรรีบเอ่ยทักทาย เมื่อหนุ่ม รุ่นลูกเดินมาทางนี้ พสิกายิ่งตกใจไปกันใหญ่ เมื่อเห็นความ สนิทสนมของคนทั้งสอง คุณมาโนชย์หันมาตามเสียงทักทายของคุณธำรงค์ ก่อนจะมองหน้าปภังกรสลับกับเกศิราอย่างนึกสงสัย"สวัสดีครับคุณมาโนชย์ สวัสดีครับคุณธำรงค์"เอ่ยทักทายตามมารยาท ก่อนจะมองหน