Share

บทที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-21 10:32:51

‘กูเข้าใจมึง ไปเถอะ แล้วยังไงก็ติดต่อกลับมาหากูด้วย ถ้ามึงมีปัญหา อยากให้กูไปหาที่นั่นก็ย่อมได้เสมอ แค่บอกมา ถึงกูไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบิน กูก็จะไปไถเงินเสี่ยยศเพื่อมึง’

แม้เป็นการพูดติดตลก แต่อาณัติรู้ดีว่าถ้าถึงคราวจำเป็น เกริกวิทย์สามารถทำให้มันเป็นเรื่องจริงได้

ในที่สุดเขาก็ผ่านช่วงเวลาย่ำแย่นั้นมาได้ เขาสมัครเข้าทำงานด้วยวุฒิที่เรียนจบในอเมริกา ผ่านช่วงเรียนรู้งานในเวลาสั้นๆ จากนั้นชีวิตคนทำงานในต่างแดนของเขาก็อยู่ตัว 

ในหลายขณะ อาณัติคิดจะปักหลักอยู่ที่อเมริกา แต่เป็นเพราะเขายังติดค้างสัญญากับแม่ว่าจะกลับมาช่วยทำงาน ชายหนุ่มจึงตัดใจ เวลาสี่ปีมันนานเพียงพอสำหรับเขาแล้ว...นานพอที่จะสร้างเขาคนใหม่ และนานพอที่ทำให้เขาไม่เจ็บปวดหัวใจเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้น 

‘พี่ของแกจะแต่งงาน’

ตอนที่เปิดโทรศัพท์มือถือมาเห็นข้อความของแม่ อาณัติก็ยิ้มอย่างดีใจและเกิดความโล่งใจขึ้นอย่างประหลาด...รู้ทันทีว่าถึงเวลาที่เขาควรกลับบ้านแล้ว 

เวลาสี่ปีไม่ทำให้สภาพแวดล้อมของหมู่บ้านนี้เปลี่ยนไป อาณัติเดินเตร็ดเตร่เข้าไปในซอย หลังจากบอกแท็กซี่ให้จอดส่งเขาที่ริมถนนใหญ่ตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน

บ้านเดี่ยวชั้นเดียวสร้างเรียงรายไปตามซอยภายในหมู่บ้าน บ้านแต่ละหลังมีพื้นที่จำกัด และเมื่อมองจากข้างนอก บ้านเกือบทุกหลังก็ดูคล้ายกันหมด หากคงเป็นสัญชาตญาณและความเคยชินที่พาเขามาหยุดหน้าบ้านเป้าหมายได้ถูก

กริ่งสัญญาณตรงประตูรั้วอัลลอยด์ที่มีสนิมจับเกรอะก็ยังเป็นอันเดิม ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากดกริ่งเรียกพลางมองเข้าไปข้างในรั้วบ้าน รอคอยคนที่จะออกมา

อาณัติยืนรอหน้าประตูรั้วท่ามกลางแสงแดดร้อนอยู่หลายนาที เมื่อข้างในบ้านยังเงียบกริบ ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครออกมา เขาจึงกดกริ่งสัญญาณซ้ำๆ โดยไม่เกรงใจกันละคราวนี้

“เจ้าของบ้านไม่อยู่มั้งคุณ บ้านหลังแค่นี้ ถ้ามีคนอยู่ก็ได้ยินแล้ว รถก็ไม่จอดไว้ คุณไม่เห็นเหรอ”

เสียงตะโกนดังมาจากบ้านหลังติดกันที่มีรั้วโปร่งซึ่งทำด้วยซี่เหล็กกั้นพอเป็นสัดส่วน

“ปกติมีคนอยู่บ้านหลังนี้ใช่ไหมครับ”

“มี...ว่าแต่คุณเป็นใคร” 

เพื่อนบ้านเริ่มระแวง แม้เห็นว่าคนที่มากดกริ่งบ้านหลังข้างๆ มีหน้าตาและท่าทางดี แต่จะว่าได้หรือ คนสมัยนี้ดูแต่ภายนอกไม่ได้

“ผมเป็นเพื่อนปกป้อง”

“อ๋อ! เพื่อนเจ้าป้องนี่เอง เขาไม่อยู่แล้ว คุณเป็นเพื่อนเขา ไม่รู้หรือว่าเขาย้ายไปนานแล้ว”

คำตอบจากชายสูงวัยรูปร่างผอมเกร็งที่อยู่ในรั้วบ้านหลังติดกันทำให้ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านหลังเป้าหมายต้องกระตุกปากยิ้มหยัน เพราะนึกถึงคำพูดของเพื่อนหนุ่ม 

‘แน่ใจหรือว่าพี่ป้องยังอยู่บ้านเดิม ไม่ใช่ว่าหนีหนี้หายไปแล้วนะ’

ถ้าหนีไปแล้วก็ถือว่าจบกัน หนีไปให้สุดขอบโลกได้ก็ยิ่งดี เพราะเขาแค่จะมาดูให้เห็นกับตา ไม่อยากให้คนพวกนี้ลำพองใจคิดว่าเขาพ่ายแพ้แล้วเป็นฝ่ายถอยหนีไปเอง

หากเมื่อทบทวนคำพูดของชายสูงวัยเมื่อครู่ ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วมุ่น 

ถ้าปกป้องไม่อยู่ แล้วใครยังอยู่ที่นี่

ไม่ทันที่อาณัติจะได้ถามออกไป พลันเขาก็ต้องหันไปมองด้านหลัง เพราะเสียงแปลกประหลาดดังรัวๆ ขึ้น และเสียงนั้นก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที

แกร็กๆ แกร็กๆๆ แกร็กๆๆๆ 

รถจักรยานคันสีแดงที่มีล้อพ่วงข้างแล่นตรงมาอย่างไว ก่อนจะจอดตรงหน้าเขา

เด็กชายตัวเล็กที่นั่งอยู่บนจักรยานแหงนมองเขาหน้านิ่ง ดวงตากลมคู่นั้นไม่มีความกลัว ไม่มีคำถาม ไร้ความสงสัยตามประสาเด็ก หนูน้อยเพียงทอดมองเขานิ่งเฉย อาณัติจึงมองตอบนิ่งๆ ด้วยท่าทีไม่ต่างกัน...กระทั่งได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้นมา

“คุณลุงถอยหน่อยครับ อชิจะเข้าบ้าน”

ถึงตอนนี้อาณัติก็เข้าใจความรู้สึกบนใบหน้าของหนูน้อยว่าเป็นเพราะเขามายืนขวางทางเข้าบ้านของเจ้าตัวนั่นเอง...แม้แสงแดดร้อนจ้าทำให้ดวงหน้าเล็กสุกปลั่งด้วยไอแดด แต่เขาก็ยื้อเด็กชายไว้ เพราะไม่อยากให้ความสงสัยค้างคาใจ

“หนูอยู่บ้านนี้ใช่ไหม”

“ใช่ครับ นี่บ้านของอชิ” 

“แล้วพ่อเราไปไหน”

“อชิไม่รู้ครับ แต่อชิมีคุณตาตัวใหญ่ๆ ใหญ่กว่าคุณลุงด้วย อชิไม่กลัวคุณลุงหรอก”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รอยรักร้าย   ตอนพิเศษ ครอบครัวใหญ่ของอชิระ (จบ)

    “หลายวันมานี้กุ๊บกิ๊บนอนเยอะกว่าปกติ ไม่สบายหรือเปล่าครับ”คำถามมาจากเจ้าของรอยจูบที่แตะเบาๆ บนขมับของภรรยาที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอน...หลังจากที่เขานอนกอดหล่อนอยู่พักใหญ่ แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมตื่นนอนสักที เขาจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัว หากเมื่อกลับมาดูอีกรอบก็พบว่าหล่อนยังนอนอยู่ในท่าเดิม“อื้อ...พี่อู๋อย่ากวน”“ยังจะมางอแงอีก เกือบเก้าโมงเช้าแล้วนะ จะตื่นไหม”“ลูกอยู่ที่ไหนคะ”“อชิอยู่กับคุณย่า ไม่ต้องห่วงลูกหรอก รายนั้นมีโปรแกรมให้ทำอะไรสนุกทั้งวัน”“งั้นกุ๊บกิ๊บขอนอนอีกหน่อยนะ”พอได้ยินคำต่อรอง คนเป็นสามีก็ยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากและดวงหน้าของหล่อน เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิปกติดีก็มองพิศดวงหน้าหวานอย่างสังเกตมากขึ้น“กุ๊บกิ๊บหน้าซีดไปนะ ไปตรวจร่างกายสักหน่อยไหม”ชายหนุ่มเริ่มไม่สบายใจ นอกจากจะมีอาการหลับง่าย หล่อนยังกินอาหารน้อยกว่าปกติด้วย แถมของที่เคยชอบก็กลับไม่ชอบทางด้านไปรยา เมื่อสัมผัสได้ว่าสามีกังวลกับการเปลี่ยนไปของตัวเอง หล่

  • รอยรักร้าย   ตอนพิเศษ ครอบครัวใหญ่ของอชิระ

    ตอนพิเศษครอบครัวใหญ่ของอชิระหลังจากผ่านพ้นพิธีสู่ขอ อาณัติและไปรยาก็จัดงานแต่งงานเล็กๆ ขึ้นที่อัมพวา หากคุณนายอรอรก็ได้จัดงานฉลองมงคลสมรสให้ทั้งสองคนอีกรอบที่จังหวัดพิษณุโลกคุณนายมีความสุขอย่างมิอาจหาสิ่งใดมาเทียบได้ เพราะในปีนี้เธอได้จัดงานมงคลให้ลูกชายถึงสองคน แถมยังได้หลานชายพ่วงมาด้วยอชิระกับแม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว ส่วนบ้านหลังสีฟ้าหลังเดิม พ่อของเขารีโนเวตให้ใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม กลายเป็นบ้านหลังกะทัดรัดรูปแบบสมัยใหม่ที่น่าอยู่ขึ้นมาก และแม่ก็ตั้งใจจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้ เพื่อให้คุณตากับป้าติ๋วได้มาพักยามเดินทางเข้ากรุงเทพฯช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวสี่วัน พ่อกับแม่พาอชิระมาเยี่ยมคุณย่า อชิระชอบมาเที่ยวที่บ้านคุณย่าไม่น้อยไปกว่าการไปบ้านสวนของคุณตา เพราะนอกจากคุณย่าจะใจดีแล้ว คุณย่ายังมักพาไปที่ร้านขายของขนาดใหญ่ แล้วยังพาไปที่บ้านไร่ของลุงอั๋นด้วยที่บ้านของลุงอั๋นมีเด็กตัวเล็กที่เพิ่งคลอดหนึ่งคน คุณย่าบอกว่าเด็กคนนี้เป็นน้องชายของเขา เมื่อน้องโตขึ้น น้องจะเรียกเขาว่าพี่อชิ...แค่ได้ยินคุณย่าบอก อชิระก็รู้สึกดีใจจนหุบ

  • รอยรักร้าย   บทที่ 64

    “อากาศเย็นกำลังดีนะ”อาณัตินอนหนุนตักหญิงสาวอยู่บนพื้นไม้ตรงระเบียงของโฮมสเตย์ ตอนนี้เป็นเวลาค่ำคืน ดวงดาวกำลังทอประกายพริบพราวด้วยเป็นคืนเดือนแรม“ช่วงนี้หน้าหนาวนี่คะ อากาศก็ต้องเย็นเป็นธรรมดา แต่หน้าร้อนที่นี่ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าว ลมยังพัดดีค่ะ”“แล้วทำไมลูกเราถึงไม่ยอมนอน กุ๊บกิ๊บให้ลูกกินอะไรหรือเปล่า”อาณัติเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย จนไปรยาต้องแกล้งบีบปลายจมูกโด่งเป็นสันนั้นอย่างหมั่นไส้“อชิเป็นอย่างนี้แหละค่ะ เวลามาที่บ้านคุณตา อชิไม่ชอบเข้านอนเร็ว เขาจะนอนเล่นอยู่ข้างนอก พอง่วงจนทนไม่ไหวถึงจะยอมให้พาไปนอน”“ตอนนี้สองทุ่มแล้ว อชิคงใกล้จะน็อกแล้วละ”“พี่อู๋นี่ยังไงกันนะ”ไปรยาอดที่จะขำเขาไม่ได้ ส่วนเด็กชายที่นอนไขว่ห้างอยู่บนพื้นไม้ใกล้ๆ นั้นกำลังร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์ เจ้าตัวเล็กพลิกกายมามองพ่อกับแม่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขา ต่อเมื่อเห็นว่าคนทั้งคู่ไม่ได้สนใจตน เด็กชายจึงหันกลับไปเล่นกับตุ๊กตาไดโนเสาร์ในอ้อมกอดต่อ“พี่อู๋อยาก

  • รอยรักร้าย   บทที่ 63

    “ลูกเขยของลุงเป็นยังไงบ้างคะ ให้คะแนนผ่านหรือเปล่า”ติ๋วที่เดินตามนายอุดมเข้าไปในสวนถามขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายกำลังใช้มีดพร้าตัดหญ้าสาบเสือที่งอกเป็นกออยู่ใต้ต้นมะพร้าวน้ำหอม“คนไม่เคยเจอหน้า ยังไม่ได้คุยกัน จะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนแบบไหน”“ติ๋วเห็นลุงยืนดูเขาตั้งแต่จอดรถแล้ว ลุงมองเขาตาไม่กะพริบเชียว”“ช่างสังเกตนะเรา”“ติ๋วเห็นลุงทุกที่นั่นแหละ ไม่ว่าลุงจะอยู่ตรงไหน”“พูดซะน่ากลัว” นายอุดมหัวเราะขัน ก่อนเขาจะนิ่งคิดไปถึงผู้ชายคนนั้น แล้วบอกตามความรู้สึกจริง “เขาคงไม่เลว ไม่งั้นอชิคงไม่ร้องหาพ่อตั้งแต่มาถึงบ้านตา”“ท่าทางเขาใช้ได้ทีเดียวค่ะ หล่อด้วยนะลุง ติ๋วไม่สงสัยเลยว่าเจ้าอชิได้ความหล่อมาจากใคร”“เธอก็ชอบแต่คนหล่อ”“เพราะชอบคนหล่อ ติ๋วถึงได้ชอบลุงดมไง”พยาบาลสาวใหญ่ที่ครองตัวเป็นโสดมาตั้งแต่วัยสาวหยอดชายวัยกลางคน ถ้าไม่บอกว่าตอนนี้เขากลายเป็นคุณตาและคุณปู่ไปแล้วก็คงยากที่ใครจะเชื่อถึงแ

  • รอยรักร้าย   บทที่ 62

    ภรรยาของปกป้องพาลูกสาววัยหกเดือนกลับไปที่โรงแรมซึ่งจองไว้เป็นที่พักสำหรับคืนนี้แล้ว ส่วนตัวเขายังพูดคุยอยู่กับพ่อ“พ่อไม่เคยสอนให้ลูกหนีปัญหา ปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องแก้ไข ไม่มีปัญหาอะไรที่เราแก้ไม่ได้ แต่ขั้นแรกเราต้องยอมรับมันก่อน แล้วค่อยหาทางแก้กันไป”นายอุดมเพิ่งได้พูดถึงเรื่องหนี้สินที่ลูกชายก่อขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งที่เขาอยากคุยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้เปิดใจคุย เพราะปกป้องเองก็พยายามหลบเลี่ยงเขา ซึ่งคราวนี้ชายวัยกลางคนก็รอจนลูกสะใภ้พาหลานสาวกลับไปก่อนถึงได้หยิบมาพูด ด้วยรู้ถึงสถานการณ์ของลูกชายดี เขาไม่ต้องการตำหนิลูกชายให้ลูกสะใภ้ได้ยิน อีกทั้งเห็นว่าปัญหานี้มีมาก่อนที่ปกป้องจะได้พบกับลูกสะใภ้ ดังนั้นลูกชายจึงควรแก้ปัญหาด้วยตัวเอง“ผมพยายามทำงานหลายอย่าง แต่มันก็พลาดทุกที”คนเป็นพ่อรู้ว่าหากไม่จนทาง ลูกชายคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้...แต่หากรั้นไป ทั้งที่มองไม่เห็นทางออก มันก็พบแต่ความผิดพลาดอย่างที่เป็นมา“ถ้าเราทำเต็มที่ทุกงาน แต่ผลยังออกมาไม่ดี เราก็ต้องคิดใหม่นะว่าเราอาจทำผิดทาง ถึงจะเชื่อมั่นความคิดตัวเอ

  • รอยรักร้าย   บทที่ 61

    ไปรยานั่งบนเปลยวนใต้ถุนบ้านหลังเก่า ทุกครั้งเมื่อมาที่บ้านสวน หล่อนชอบมานั่งเล่นอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะความทรงจำในวัยเด็กของหล่อนอยู่ที่นี่...บ้านหลังนี้เคยมีพ่อ แม่ พี่ชาย และหล่อนอาศัยอยู่ร่วมกันเมื่อแม่จากไป พ่อทำใจไม่ได้ พ่อจึงสร้างบ้านอีกหลังในบริเวณพื้นที่เดียวกัน แล้วย้ายไปอยู่ที่นั่นแทน และไม่นานจากนั้นหล่อนกับพี่ชายก็ย้ายไปเรียนในกรุงเทพฯ พ่อจึงซื้อบ้านแถบชานเมืองให้อยู่ ซึ่งเป็นบ้านหลังที่หล่อนกับอชิระใช้พักอาศัยในปัจจุบัน โดยพ่อที่ยังปักหลักอยู่ที่บ้านสวนจะแวะเวียนไปเยี่ยมอยู่เสมอ เพิ่งเว้นช่วงไปเมื่อสองเดือนนี้แหละไปรยาปล่อยความคิดไปเพลินๆ กระทั่งได้ยินเสียงใสๆ ของลูกดังขึ้น“แม่กุ๊บกิ๊บคร้าบ อชิอยากไปบ้านป้าติ๋วแล้ว แม่กุ๊บกิ๊บพาอชิไปส่งหน่อยครับ”ลูกชายที่ขออยู่กับคุณตาตั้งแต่เดินทางมาถึงกำลังเรียกหาหล่อน หญิงสาวรีบลุกจากเปลยวน แล้วออกไปหาแก้วตาดวงใจที่ยืนรออยู่ตรงลานด้านหน้า“อชิไม่อยู่กับคุณตาแล้วหรือคะ”“ไม่อยู่ครับ อชิไปอยู่บ้านป้าติ๋วดีกว่า”พอเห็นสีหน้าของลูกชาย หญิงสาวก็ดึงร่างเล็กมา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status