Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-04-17 10:30:32

ห้องประชุมที่ว่าคือ อยู่บ้าน คฤหาสน์ที่เป็นดั่งศูนย์กลางการทำงานเกือบทั้งหมด มีห้องกระชุมขนาดใหญ่ ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายและห้องมืด จอมทัพพร้อมด้วยผู้ติดตามนั่งรถกลับมาที่บ้าน ตึกที่มีไว้สำหรับประชุมอยู่ด้านหน้าพอดี เป็นทรงโดม บริเวณบ้านถูกจัดเอาไว้แบบโค้งครึ่งวงกลม 

พอมาถึงจอมทัพก็เดินนำเข้ามาด้านใน ผ่านห้องประชุม ห้องโถง ยาวไปจนถึงด้านหลังของห้องประชุมคือห้องออกกำลังกาย และห้องมืดที่ประตูเป็นเหล็ก เมื่อเดินถึงห้องออกกำลังกาย จอมทัพเดินไปพลางถอดเสื้อสูทไปพลาง พร้อมกับส่งให้ลูกน้องถือ ตอนนี้เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นตรงแขนศอก เผยให้เห็นรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ถอดเข็มขัด ถอดนาฬิกา 

ขณะเดียวกันเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ในใจเอาไว้ จนกระทั่งลูกน้องเปิดประตูห้องมืด เสียงดัง เอี๊ยด! ปัง! ทำเอาร่างหนึ่งซึ่งถูกคลุมศีรษะเอาไว้ด้วยผ้าสีดำถึงกับสะดุ้งตกใจ ร่างนั้นถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว 

จอมทัพเดินเข้าไปช้าๆ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อไปด้วย ในจังหวะเดียวกันนั้นลูกน้องคนหนึ่ง ก็กระชากผ้าคลุมศีรษะออก เพื่อให้เห็นหน้ากันชัดๆ ชายหนุ่มภายใต้ผ้าคลุมนั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองมายังเบื้องหน้าของตนเอง ท่าทางของเขาตื่นกลัวมากเมื่อเห็นหน้าจอมทัพ ดวงตาลนลานตื่นตระหนก เหมือนจะรู้ชะตากรรม ขณะที่จอมทัพจ้องเขม็งก่อนจะขมวดคิ้ว และเอียงคอมาทางลูกน้องนิดหน่อย 

“บอกว่าไม่ให้แตะต้องอะไรมันใช่ไหม” จอมทัพหันมาถามลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบ

“มันแค่เบลอยาสลบครับ ไม่มีรอยขีดข่วน ออ จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ ผมต่อยมันไปหมัดนึง” โจว์ลูกน้องสนิทตอบ ขณะที่เจ้าหนุ่มเอียงคอฟัง แต่สายตาจ้องมองที่ชายหนุ่มเบื้องหน้า ก่อนจะหันมามองหน้าลูกน้องอีกที 

“ขอโทษครับ” ลูกน้องกล่าวน้ำเสียงกวนๆ

“ถอยไป” จอมทัพบอกทุกคนเสียงเรียบแต่กดต่ำน่ากลัว ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้า

“ตะ... ตะ... ต้าเฉิน” ชายหนุ่มเรียกอีกชื่อของจอมทัพแบบสั่นๆ

“รู้จักชื่อเล่นด้วย เมื่อก่อนไม่รู้ แต่วันนี้น่าจะรู้แล้ว ทว่าคงจะไม่รู้จักดีพอ ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” จอมทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน แววตาดุกร้าว พลางกัดฟันแน่นและยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ใช้อำนาจ ใช้อิทธิพล อยากอุ้มใครก็ได้โดยไม่กลัวความผิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มต่อว่าด้วยน้ำเสียงสั่นๆ 

“พอๆ กัน ฉันให้คนอุ้มแกมาโดยตรง แต่มันต่างกับแกหน่อย คือแกยืมมือคนอื่นฆ่าคน” จอมทัพโน้มตัวเข้าไปหาพร้อมกับพูดเสียงเบาแต่ยังคงกัดฟันแน่น 

“มะ มะ ไม่เกี่ยวกับฉัน” พอชายหนุ่มแก้ตัวปุ๊บ จอมทัพก็เหวี่ยงหมัดกระแทกไปที่ใบหน้าทันทีเต็มแรง 

พัวะ! จอมทัพแรงเยอะและตัวใหญ่ ต่อยทีเดียวถึงกับหน้าสะบัดแทบจะตกจากเก้าอี้ กระทั่งหันกลับมาแทบไม่ไหว ปากแตกเลือดซิบเลยทีเดียวปวดไปทั้งสันกราม ฟันหลุดหรือเปล่าไม่แน่ใจ 

“ต่อยคนที่ถูกมัดแบบนี้ ทำยังไงก็ชนะ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างยากเย็น เพราะเจ็บอยู่ จอมทัพจึงหันไปสั่งลูกน้องด้วยสายตาเพื่อให้แก้มัดเสียเลย 

“สมศักดิ์ศรีหรือยัง ลุกขึ้นมา ถ้าไม่ตายภายในห้านาที ฉันจะปล่อยแกไป” จอมทัพกล่าวเสียงเหี้ยมอีกครั้งพร้อมกับตวัดมือเรียก และในจังหวะที่ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่นเอง จึงได้รู้ว่าตนเสียเปรียบจอมทัพแค่ไหน แค่รูปร่างก็ต่างกันมากแล้ว คนหนึ่งตัวโตไซส์ฝรั่ง อีกคนไซส์มาตรฐานชายไทย ไหนจะความล่ำบึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง 

“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่หมาหมู่หรอก ฉันเป็นมังกร” 

“แต่ใช้กำลังหมาหมู่จับตัวฉันมา” สิ้นคำปุ๊บ จอมทัพก็ง้างหมัดต่อยไปที่ใบหน้าอีกทีแรงๆ 

พัวะ! พัวะ! พัวะ! เขารัวไปสามหมัดกระทั่งชายหนุ่มล้มลงไปกับพื้น จอมทัพตามไปกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นแล้วกระหน่ำหมัดเข้าไปอีก จนปากแตกคิ้ว แตกฟัน แทบจะร่วงจากปาก 

“จับเวลาหรือยังโจว์!” จอมทัพตะคอกถามลูกน้องเสียงดัง แต่ไม่ได้หันไปมองเพราะยังจ้องคนอยู่ตรงหน้า 

“ครับ!” โจว์รับคำ และยืนมองเจ้านายเพียงอย่างเดียว แต่ชายหนุ่มที่ถูกซ้อม อาศัยจังหวะที่เผลอจะยกหมัดขึ้นมาต่อยจอมทัพ ทว่าเขาเบี่ยงตัวพร้อมกับจับข้อมือและบิดแรงๆ ก่อนจะเอามืออีกข้างดันหัวไหล่จนต้องโน้มศีรษะลง จากนั้นจอมทัพกระทุ้งหัวเข่ากับท้องแรงๆ หลายที จนเจ้าตัวล้มฟุบกับพื้นอีกครั้ง จอมทัพก็ตามไปเตะอีกหลายทีจนร่างแน่นิ่งไป ลุกไม่ไหว ตามด้วยเสียงหายใจหอบแต่ไม่ได้สลบ ร่างกายจุกไปหมด จอมทัพจึงนั่งย่องๆ พร้อมกับเอามือจิกผมชายหนุ่มขึ้นมา

“อยู่ให้ถึงห้านาทีนะ อย่าตายซะก่อน แกจะได้มีเรื่องไปเล่าให้ญาติๆ แกฟังว่าเจอกับอะไร และฉันเป็นใคร” 

“มึงอยากฆ่ากูเหรอ ฆ่าเลย” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วเบา หายใจรวยรินเพราะเจ็บระบมไปทั้งตัว ทำเอาจอมทัพถึงกับยิ้มเยาะ

“ยังก่อน ความตายมันง่ายเกินไป อยู่ทนเห็นฉันเอาคนใกล้ตัวของแก แต่ละคนมาทรมานก่อนตายดีกว่า” จอมทัพกล่าวเสียงเหี้ยม

“ทำไมแบบนี้ทำไม ต้าเฉิน ทำแบบนี้ทำไม เราไม่มีอะไรผิดใจกัน” ชายหนุ่มถามเสียงสั่นไร้เรี่ยวแรงและนั่นคือเป็นคำแก้ตัว เท่านั้นแหละจอมทัพก็กระชากคอเสื้ออีกรอบเพื่อให้ลุกขึ้น คราวนี้เขาเหวี่ยงไปให้ลูกน้องช่วยพยุงเอาไว้ แล้วตามไปจิกผม พร้อมกับกัดฟันแน่นเพื่อข่มความโกรธจนเส้นเลือดนูนเป็นสันอยู่แล้ว  

“รู้จักฉันต้าเฉิน ก็ควรรู้ว่าต้าเอสเป็นอะไรกับฉัน หรือเสือกไม่หมด เสือกเก่งแค่หลังคีย์บอร์ด กะทำร้ายคนอื่นเอามันเหรอ”

“ตะ ตะ ต้าเอส... ต้าเอส...” 

“จำได้หรือยัง เรามีเรื่องผิดใจกันได้หรือยัง มึงโชคดีที่ได้เปิดประเดิมรายแรก หลังจากที่กูเพิ่งกลับมาจากไต้หวัน” 

“ยะ ยะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่รู้เรื่องต้าเอส” ชายหนุ่มเอ่ยขอร้องเสียงสั่น จอมทัพถึงถอยออกมาอีกครั้ง สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง พัวะ! พัวะ! พัวะ! คราวนี้เลือดกระจายเต็มปาดเต็มหน้า กระเด็นมาโดนเสื้อของเขาอีกต่างหาก จากนั้นก็กระชากผมแล้วดึงให้เงยหน้าขึ้น ก่อนจะตบหน้าแรงๆ เพื่อให้มีสติ 

เพียะ! “เกินห้านาทีหรือยังโจว” 

“เกินแล้วครับคุณท่าน” โจว์ตอบพลางยักคิ้วเล็กน้อย ราวกับไม่ทุกข์ร้อนกับอาการของชายตรงหน้า 

“หึๆ ฉันจะกระชากแกลงนรกตอนนี้ก็ยังได้ แค่อยากให้แกลากสังขารนี้กลับไปบอกเจ้านายทั้งหลาย ญาติๆ คนไหน ก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องคลิปนั้น ไปบอกนะ... ว่าฉันกำลังมาทวงชีวิตของน้องสาวฉันคืน ใครที่มันมีส่วนเกี่ยวข้องอีก” จอมทัพถามแต่ชายหนุ่มแทบจะไม่มีแรงส่ายหน้าหรือพูดแล้ว 

“ไม่เป็นไร ฉันหาเองได้ แต่รับปากหน่อยได้ไหมว่าจะไม่ขี้ฟ้องวิ่งแจ้นไปหาตำรวจ แค่น้องสาวฉันตายก็เป็นข่าวจะแย่” จอมทัพพูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน

“มะ มะ ไม่ ฉันจะไม่... บอก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงขาดหาย

“แต่ฉันก็ไม่ได้กลัวพวกนั้นหรอกนะ ต่อให้แกไปบอกไอ้แก่นั้นก็ตาม”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 75 (จบ)

    “หลานยายใช่ไหม ที่ทำให้คุณเฉินเปลี่ยนไป”“น้องเล็กต่างหากล่ะครับ น้องเล็กเข้ามาเปลี่ยนผมตั้งแต่แรก ไม่งั้นผมคงไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ คงต้องมีความสูญเสียตกตามกันไป เพราะเล็กรักผม และใช้ความรักดูแลผม จนหัวใจของผมต้องยอมแพ้ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ จนกระทั่งเรามีพยานตัวน้อยๆ ที่กำเนิดมาทำให้โลกของผมกลับมาสดใสขึ้น”“แค่อภัยให้กันทุกอย่างก็ปลดล็อกอย่างน่าอัศจรรย์” คุณหญิงนวลอนงค์กล่าวทั้งน้ำตา“ขอบใจหนูนะยัยเล็ก” คุณหญิงนวลอนงค์หันมาบอกกับลูกสาวคนเล็ก เพราะถ้าไม่ใช่อลินที่คอยใช้หัวใจรักษาความแค้นของจอมทัพ ใช้ความรักโอบกอด ให้ความโกรธนั้นลดลง ก็คงจะน่ากลัวอยู่ว่า จอมทัพคงจะล้างบางทั้งตระกูล กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง!“ว่าไงจ้ะ”“พี่เฉินคะ ใกล้จะถึงบ้านหรือยัง”“ใกล้แล้วจ้ะ กำลังเลี้ยวเข้าซอย ทำไมเหรอ”“ยัยหนูแอบไปซ่อนตัวที่ไหนไม่รู้ เล็กตามหาให้ทั่วเลย” น้ำเสียงของอลินค่อนข้างจะร้อนใจ“ซ่อ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 74

    อลินไปบอกข่าวดีกับแม่ พี่สาวและพี่ชายที่บ้าน ว่าทุกคนกำลังจะมีหลาน แต่จอมทัพก็ถือโอกาสเดินทางมาด้วย แน่นอนคนอย่างเขา เจ้าพ่อมาเฟีย มาธรรมดาโลกไม่จำ มีผู้ติดตามมาด้วยประมาณ 4 คัน ทุกคันจอดอยู่ที่นอกรั้วทั้งหมด มีคันของจอมทัพเพียงคันเดียวที่เข้ามาถึงในบ้านและด้วยรัศมีของลูกเขยคนนี้ ทำให้คนในบ้านของอลินต้องยอมสยบ ยิ่งเจียมเนื้อเจียมตัว แม้คุณหญิงนวลอนงค์จะเป็นแม่ยายของจอมทัพก็ตาม เธอก็ยังมีอาการหวั่นเกรง“สบายดีใช่ไหมลูก” คุณหญิงนวลอนงค์ถามบุตรสาว“สบายดีค่ะแม่” อลินตอบพลางมองหน้าทุกคน ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก แต่ให้ลูกเขยนั่งโซฟาตัวใหญ่ราวกับเจ้าบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านนั่งข้างๆ กัน“คุณอา สบายดีใช่ไหมครับ” จอมทัพเป็นคนเอ่ยถามขึ้น แต่คำถามแสนอ่อนโยนนั้นทำให้คุณหญิงนวลอนงค์แทบสะอึก ก้อนสะอื้นดันจุกอยู่ที่คอ จนต้องก้มหน้าลง เพราะเธอเข้าใจดีว่า คำว่าสบายดีนั้นมันรวมๆ ไปจนถึงทุกเรื่องที่ผ่านมาในชีวิต“ตอนนี้ฉัน อา… สบายดีขึ้นมากค่ะ ตั้งแต่วันนั้นที่เริ่มปลงตก” คุณหญิงนวลอนงค์บ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 73

    “คุณพระคุณเจ้า พ่อคุณของป้า ทำเอาใจหายใจคว่ำ” ป้านาบอกด้วยความเป็นห่วง ระคนด้วยเสียงสั่นเครือ จอมทัพก็ไม่มีแม้คำจะเอ่ย เพราะเมื่อได้เห็นหน้าทุกคนที่พากันดีใจ ก็ทำให้เขารู้สึกผิดที่คิดจะทิ้งทุกคนไป โดยปล่อยภาระให้อลินดูแลแทน ในขณะที่ทุกคนรอการกลับมาของเขา“ฉันขอโทษทุกคนนะ ขอโทษนะครับ” พูดจบเขาก็ยิ่งกอดป้านาเอาไว้แน่น“คนแก่จะหัวใจวายนะคะ”“ฉันจะไม่ทำให้เป็นห่วงอีก” พูดจบเขาก็ดันป้านาออก“ทุกคนรักคุณท่านนะคะ”“ฉันรู้แล้ว” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ทว่านัยน์ตายังมีน้ำใสๆ คลอเคล้าอยู่ ตั้งแต่มีความรักรู้สึกจิตใจของเขาจะอ่อนไหวเหลือเกิน จากผู้ชายที่แข็งแกร่งดุจภูผา แทบจะฟันแทงไม่เข้า เจ็บปวดไม่แสดงอาการ แต่ดูตอนนี้เธอ“เข้าบ้านกันนะทุกคน” จอมทัพบอก“ป้า ทำอาหารไว้รอ อยากให้กลับมากินอาหารแบบพร้อมหน้าพร้อมตา จะได้ไหมคะ” ไม่บ่อยนักที่ป้านาจะขอร้องเขาเพราะเมื่อก่อนป้านารู้ว่าจอมทัพเป็นคนที่ดุมากแค่ไหน จะพูดหรือขอร้องสิ่งใ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 72

    “คุณท่าน อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ บ้านเราต้องมีทั้งคุณท่านและนายหญิง ถึงจะสมบูรณ์แบบ” โจว์เอ่ยแทรกขึ้นน้ำเสียงเครือ ก้าวเท้าเข้าไปหาช้าๆ“อย่าเข้ามาโจว์” จอมทัพขู่ด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นทำให้โจว์ต้องชะงักเช่นกัน“อย่าเข้ามา” คราวนี้จอมทัพปรับน้ำเสียงให้หม่นลง ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวกลับไปทางเนินเขา ซึ่งมีเส้นทางลาดลงไปสูงพอสมควร อลินหันกลับมาหาโจว์เล็กน้อยแล้วตวัดมือให้ออกไปห่างๆ“เล็กจะจัดการเองค่ะ” เธอกระซิบแผ่วเบา โจว์ก็ได้แต่พยักหน้าและถอยออกไป ในจังหวะเดียวกันนั้น อลินจึงเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นระทึก กลัวเหลือเกินถ้าเขาตัดสินใจเร็ว เพราะเธอไม่มีสกิลในการหว่านล้อมในเหตุการณ์แบบนี้“พี่เฉิน กลับบ้านเรานะคะ ถ้ายังรักกัน เรามาเริ่มต้นกันใหม่ เริ่มสิ่งดีๆ กันใหม่ สิ่งที่ผ่านมาแล้วให้คิดซะว่ามันเป็นฝันร้าย” เขาได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับหลับตา น้ำตาเจ้ากรรมก็ร่วงหล่นลงข้างแก้ม ในจังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ยกปืนขึ้นจอที่ขมับของตัวเอง เท่านั้น

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 71

    “ไม่ลำบากไม่ได้สิคะ ป้ารู้นะว่านายหญิงไม่ใช่คนตัวคนเดียวแล้ว ป้าเชื่อว่าในท้องนี้มีอีกหนึ่งชีวิต ที่กำลังจะเกิดมา ฉะนั้นอย่าให้ความเป็นห่วง ความเป็นกังวล มาทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยนะคะ มันจะไม่ดีต่อเจ้าตัวเล็กเปล่าๆ นายหญิงต้องดูแลตัวเองดีๆ”“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง เล็กไปหาหมอมาแล้วเมื่อวานนี้ กำลังจะบอกข่าวดีเรื่องนี้กับพี่เฉิน แล้วก็ค่อยบอกกับทุกคน แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมันทำให้เล็กไม่มีเวลาได้คิดอะไรเลย”“คุณท่าน ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้มาก่อน ป้าล่ะเป็นห่วง เขาแบกรับอะไรไว้หลายอย่างมากมายในชีวิต เมื่อถึงคราวที่แบกรับเอาไว้ไม่อยู่ อาจจะแสดงออกมาในรูปแบบของจิตใจที่ดำดิ่ง หมกมุ่น เครียด แล้วก็อยากอยู่คนเดียวแบบนี้ เรื่องของคุณเอสทำให้คุณท่านรู้สึกแย่มากๆ ป้าขอให้เจอคุณท่านนะคะ”“ค่ะป้านา เล็กจะพาเขากลับมาให้ได้” อลินจับมือป้านาเอาไว้แน่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าคนรับใช้คนอื่นๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกว่าไม่มั่นใจก็ตามจากนั้นโจว์จึงได้

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 70

    ขณะที่ลูกน้องสองคนก็มาถึงโรงแรม พวกเขาพยายามเดินตามหาเจ้านายทุกจุดเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร ร้านคาเฟ่ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารที่อยู่บนดาดฟ้า ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้านายจะอยู่ กระทั่งไร้หนทางเขาจึงถามกับพนักงานรีเซฟชั่น“ไม่ทราบว่าเห็นคุณท่าน มาที่โรงแรมหรือเปล่าครับ” นายทิว เป็นคนเอ่ยถามกับพนักงาน“ตั้งแต่คุณท่านออกไปกับคุณผู้ช่วย ในช่วงบ่ายจากนั้นก็ไม่เห็นคุณท่านกลับมาอีกเลยนะคะ”“แน่ใจนะครับ ไม่ใช่ว่าคุณท่านผ่านตาแล้วมองไม่เห็นกันหรือเปล่า”“เรามองมองเห็นแขกทุกคนค่ะ ไม่ให้คลาดสายตา คุณท่านยิ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าคุณท่านมาเราก็ต้องเห็นนะคะ แต่นี่คุณท่านไม่ได้กลับมาเลย”“โอเคเอ่อ ขอบคุณมากครับ”“ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรให้รับใช้หรือว่าดูแลหรือเปล่าคะ” ใจจริงพนักงานอยากจะถามว่าทำไมถึงถามหาจอมทัพ ทั้งที่ลูกน้องแต่ละคนคอยรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายอยู่แล้ว“ไม่ครับขอบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status