Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-04-17 10:30:32

ห้องประชุมที่ว่าคือ อยู่บ้าน คฤหาสน์ที่เป็นดั่งศูนย์กลางการทำงานเกือบทั้งหมด มีห้องกระชุมขนาดใหญ่ ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายและห้องมืด จอมทัพพร้อมด้วยผู้ติดตามนั่งรถกลับมาที่บ้าน ตึกที่มีไว้สำหรับประชุมอยู่ด้านหน้าพอดี เป็นทรงโดม บริเวณบ้านถูกจัดเอาไว้แบบโค้งครึ่งวงกลม 

พอมาถึงจอมทัพก็เดินนำเข้ามาด้านใน ผ่านห้องประชุม ห้องโถง ยาวไปจนถึงด้านหลังของห้องประชุมคือห้องออกกำลังกาย และห้องมืดที่ประตูเป็นเหล็ก เมื่อเดินถึงห้องออกกำลังกาย จอมทัพเดินไปพลางถอดเสื้อสูทไปพลาง พร้อมกับส่งให้ลูกน้องถือ ตอนนี้เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นตรงแขนศอก เผยให้เห็นรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ถอดเข็มขัด ถอดนาฬิกา 

ขณะเดียวกันเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ในใจเอาไว้ จนกระทั่งลูกน้องเปิดประตูห้องมืด เสียงดัง เอี๊ยด! ปัง! ทำเอาร่างหนึ่งซึ่งถูกคลุมศีรษะเอาไว้ด้วยผ้าสีดำถึงกับสะดุ้งตกใจ ร่างนั้นถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว 

จอมทัพเดินเข้าไปช้าๆ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อไปด้วย ในจังหวะเดียวกันนั้นลูกน้องคนหนึ่ง ก็กระชากผ้าคลุมศีรษะออก เพื่อให้เห็นหน้ากันชัดๆ ชายหนุ่มภายใต้ผ้าคลุมนั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองมายังเบื้องหน้าของตนเอง ท่าทางของเขาตื่นกลัวมากเมื่อเห็นหน้าจอมทัพ ดวงตาลนลานตื่นตระหนก เหมือนจะรู้ชะตากรรม ขณะที่จอมทัพจ้องเขม็งก่อนจะขมวดคิ้ว และเอียงคอมาทางลูกน้องนิดหน่อย 

“บอกว่าไม่ให้แตะต้องอะไรมันใช่ไหม” จอมทัพหันมาถามลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบ

“มันแค่เบลอยาสลบครับ ไม่มีรอยขีดข่วน ออ จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ ผมต่อยมันไปหมัดนึง” โจว์ลูกน้องสนิทตอบ ขณะที่เจ้าหนุ่มเอียงคอฟัง แต่สายตาจ้องมองที่ชายหนุ่มเบื้องหน้า ก่อนจะหันมามองหน้าลูกน้องอีกที 

“ขอโทษครับ” ลูกน้องกล่าวน้ำเสียงกวนๆ

“ถอยไป” จอมทัพบอกทุกคนเสียงเรียบแต่กดต่ำน่ากลัว ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้า

“ตะ... ตะ... ต้าเฉิน” ชายหนุ่มเรียกอีกชื่อของจอมทัพแบบสั่นๆ

“รู้จักชื่อเล่นด้วย เมื่อก่อนไม่รู้ แต่วันนี้น่าจะรู้แล้ว ทว่าคงจะไม่รู้จักดีพอ ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” จอมทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน แววตาดุกร้าว พลางกัดฟันแน่นและยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ใช้อำนาจ ใช้อิทธิพล อยากอุ้มใครก็ได้โดยไม่กลัวความผิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มต่อว่าด้วยน้ำเสียงสั่นๆ 

“พอๆ กัน ฉันให้คนอุ้มแกมาโดยตรง แต่มันต่างกับแกหน่อย คือแกยืมมือคนอื่นฆ่าคน” จอมทัพโน้มตัวเข้าไปหาพร้อมกับพูดเสียงเบาแต่ยังคงกัดฟันแน่น 

“มะ มะ ไม่เกี่ยวกับฉัน” พอชายหนุ่มแก้ตัวปุ๊บ จอมทัพก็เหวี่ยงหมัดกระแทกไปที่ใบหน้าทันทีเต็มแรง 

พัวะ! จอมทัพแรงเยอะและตัวใหญ่ ต่อยทีเดียวถึงกับหน้าสะบัดแทบจะตกจากเก้าอี้ กระทั่งหันกลับมาแทบไม่ไหว ปากแตกเลือดซิบเลยทีเดียวปวดไปทั้งสันกราม ฟันหลุดหรือเปล่าไม่แน่ใจ 

“ต่อยคนที่ถูกมัดแบบนี้ ทำยังไงก็ชนะ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างยากเย็น เพราะเจ็บอยู่ จอมทัพจึงหันไปสั่งลูกน้องด้วยสายตาเพื่อให้แก้มัดเสียเลย 

“สมศักดิ์ศรีหรือยัง ลุกขึ้นมา ถ้าไม่ตายภายในห้านาที ฉันจะปล่อยแกไป” จอมทัพกล่าวเสียงเหี้ยมอีกครั้งพร้อมกับตวัดมือเรียก และในจังหวะที่ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่นเอง จึงได้รู้ว่าตนเสียเปรียบจอมทัพแค่ไหน แค่รูปร่างก็ต่างกันมากแล้ว คนหนึ่งตัวโตไซส์ฝรั่ง อีกคนไซส์มาตรฐานชายไทย ไหนจะความล่ำบึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง 

“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่หมาหมู่หรอก ฉันเป็นมังกร” 

“แต่ใช้กำลังหมาหมู่จับตัวฉันมา” สิ้นคำปุ๊บ จอมทัพก็ง้างหมัดต่อยไปที่ใบหน้าอีกทีแรงๆ 

พัวะ! พัวะ! พัวะ! เขารัวไปสามหมัดกระทั่งชายหนุ่มล้มลงไปกับพื้น จอมทัพตามไปกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นแล้วกระหน่ำหมัดเข้าไปอีก จนปากแตกคิ้ว แตกฟัน แทบจะร่วงจากปาก 

“จับเวลาหรือยังโจว์!” จอมทัพตะคอกถามลูกน้องเสียงดัง แต่ไม่ได้หันไปมองเพราะยังจ้องคนอยู่ตรงหน้า 

“ครับ!” โจว์รับคำ และยืนมองเจ้านายเพียงอย่างเดียว แต่ชายหนุ่มที่ถูกซ้อม อาศัยจังหวะที่เผลอจะยกหมัดขึ้นมาต่อยจอมทัพ ทว่าเขาเบี่ยงตัวพร้อมกับจับข้อมือและบิดแรงๆ ก่อนจะเอามืออีกข้างดันหัวไหล่จนต้องโน้มศีรษะลง จากนั้นจอมทัพกระทุ้งหัวเข่ากับท้องแรงๆ หลายที จนเจ้าตัวล้มฟุบกับพื้นอีกครั้ง จอมทัพก็ตามไปเตะอีกหลายทีจนร่างแน่นิ่งไป ลุกไม่ไหว ตามด้วยเสียงหายใจหอบแต่ไม่ได้สลบ ร่างกายจุกไปหมด จอมทัพจึงนั่งย่องๆ พร้อมกับเอามือจิกผมชายหนุ่มขึ้นมา

“อยู่ให้ถึงห้านาทีนะ อย่าตายซะก่อน แกจะได้มีเรื่องไปเล่าให้ญาติๆ แกฟังว่าเจอกับอะไร และฉันเป็นใคร” 

“มึงอยากฆ่ากูเหรอ ฆ่าเลย” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วเบา หายใจรวยรินเพราะเจ็บระบมไปทั้งตัว ทำเอาจอมทัพถึงกับยิ้มเยาะ

“ยังก่อน ความตายมันง่ายเกินไป อยู่ทนเห็นฉันเอาคนใกล้ตัวของแก แต่ละคนมาทรมานก่อนตายดีกว่า” จอมทัพกล่าวเสียงเหี้ยม

“ทำไมแบบนี้ทำไม ต้าเฉิน ทำแบบนี้ทำไม เราไม่มีอะไรผิดใจกัน” ชายหนุ่มถามเสียงสั่นไร้เรี่ยวแรงและนั่นคือเป็นคำแก้ตัว เท่านั้นแหละจอมทัพก็กระชากคอเสื้ออีกรอบเพื่อให้ลุกขึ้น คราวนี้เขาเหวี่ยงไปให้ลูกน้องช่วยพยุงเอาไว้ แล้วตามไปจิกผม พร้อมกับกัดฟันแน่นเพื่อข่มความโกรธจนเส้นเลือดนูนเป็นสันอยู่แล้ว  

“รู้จักฉันต้าเฉิน ก็ควรรู้ว่าต้าเอสเป็นอะไรกับฉัน หรือเสือกไม่หมด เสือกเก่งแค่หลังคีย์บอร์ด กะทำร้ายคนอื่นเอามันเหรอ”

“ตะ ตะ ต้าเอส... ต้าเอส...” 

“จำได้หรือยัง เรามีเรื่องผิดใจกันได้หรือยัง มึงโชคดีที่ได้เปิดประเดิมรายแรก หลังจากที่กูเพิ่งกลับมาจากไต้หวัน” 

“ยะ ยะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่รู้เรื่องต้าเอส” ชายหนุ่มเอ่ยขอร้องเสียงสั่น จอมทัพถึงถอยออกมาอีกครั้ง สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง พัวะ! พัวะ! พัวะ! คราวนี้เลือดกระจายเต็มปาดเต็มหน้า กระเด็นมาโดนเสื้อของเขาอีกต่างหาก จากนั้นก็กระชากผมแล้วดึงให้เงยหน้าขึ้น ก่อนจะตบหน้าแรงๆ เพื่อให้มีสติ 

เพียะ! “เกินห้านาทีหรือยังโจว” 

“เกินแล้วครับคุณท่าน” โจว์ตอบพลางยักคิ้วเล็กน้อย ราวกับไม่ทุกข์ร้อนกับอาการของชายตรงหน้า 

“หึๆ ฉันจะกระชากแกลงนรกตอนนี้ก็ยังได้ แค่อยากให้แกลากสังขารนี้กลับไปบอกเจ้านายทั้งหลาย ญาติๆ คนไหน ก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องคลิปนั้น ไปบอกนะ... ว่าฉันกำลังมาทวงชีวิตของน้องสาวฉันคืน ใครที่มันมีส่วนเกี่ยวข้องอีก” จอมทัพถามแต่ชายหนุ่มแทบจะไม่มีแรงส่ายหน้าหรือพูดแล้ว 

“ไม่เป็นไร ฉันหาเองได้ แต่รับปากหน่อยได้ไหมว่าจะไม่ขี้ฟ้องวิ่งแจ้นไปหาตำรวจ แค่น้องสาวฉันตายก็เป็นข่าวจะแย่” จอมทัพพูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน

“มะ มะ ไม่ ฉันจะไม่... บอก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงขาดหาย

“แต่ฉันก็ไม่ได้กลัวพวกนั้นหรอกนะ ต่อให้แกไปบอกไอ้แก่นั้นก็ตาม”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 3

    “ไม่... ไม่บอก ฉันจะไม่บอก” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงขาดหายเช่นเดิม “เอาอะไรมารับประกันดีวะโจว์” จอมทัพหันไปถามลูกน้อง ซึ่งก็รู้ใจดีเหลือเกิน ลูกน้องคนสนิทถือมีดไปปักกลางโต๊ะ เท่านั้นแหละชายหนุ่มที่โดนซ้อมถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะถูกนำตัวไปแล้วจับศีรษะฟุบหน้ากับโต๊ะ ลูกน้องคนหนึ่งก็จับมือเอาไว้พร้อมกับกางนิ้วออกจากกันให้หมดทุกนิ้ว “ห๊า! ไม่... ไม่นะ... พวกแกจะทำอะไร อย่า! อย่า! ได้โปรด อย่าทำอะไรฉันเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขอร้องเสียงสั่น พร้อมกับเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้“เกี่ยวก้อยสัญญากัน แต่นิ้วก้อยน่ะขอนะ” จอมทัพก้มหน้ากระซิบเสียงเหี้ยมก่อนจะจับมีดคมๆ เอาไว้ปักไว้กึ่งกลางระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนาง“มะ มะ ไม่ อย่าคุณเฉิน อย่า อ๊า!!!! อื้อ!!!” เสียงร้องดังลั่นห้อง เมื่อจอมทัพกดมีดลงไปบนนิ้วก้อยแรงๆ แรงสุดเท่าที่กำลังจะมี กระทั่งนิ้วก้อยขนาดสะบั้นไปหนึ่งข้อ จอมทัพทำลงไปด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่สะทกสะท้าน ส่วนลูกน้องก็ปิดผ้ายัดปากชายหนุ่มเอาไว้เพื่อไม่ให้ร้องไปมากกว่านี้ “อื้อ!!!” ชายหนุ่มได้แต่ร้องในลำคอ ดีดดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับดวงตาเหลือกล

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 4

    “เอสเป็นซึมเศร้า” จอมทัพตอบสั้นๆ พร้อมกับปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แววตากลับมาเป็นปกติเช่นกัน เพื่อตำรวจจะได้ไม่ต้องมีประเด็น หรือสงสัยไปมากกว่านี้ เพราะเขาจะจัดการด้วยตัวเอง“อาจจะมีความเครียดจากข่าวที่เกิดขึ้นด้วย” ตำรวจให้ความเห็น“ข่าวเหรอ” จอมทัพถามย้ำก่อนจะเหลือบมองตำรวจแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ“คุณเอสเล่าอะไรให้คุณฟังบ้างไหมครับ” ตำรวจถามจอมทัพเพิ่มเติม ซึ่งเขาได้แต่เหลือบมองเท่านั้น ภายในใจมีคำตอบมากมาย แต่ไม่ตอบ“เราเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างเติบโตกันคนละที่ แต่เมื่อไม่มีพ่อแม่ผมก็พยายามดูแลเขา แต่เขาแทบจะไม่เล่าอะไรให้ฟัง ที่ผ่านบอกแค่ว่าเครียดน่ะ ไม่อยากออกไปเจอใคร ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ผมบอกแค่ว่าเดี๋ยวผมก็กลับมา แต่ไม่ทันซะแล้ว” จอมทัพตอบแบบเลี่ยงๆ ไป “กระแสโซเชียลช่างรุนแรง สามารถฆ่าคนตายได้เลย” “ถ้าผมมีเวทมนต์ ผมจะเป่าทุกคนที่เกี่ยวข้องให้เป็นผุยผง” จอมทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ น่ากลัว จนตำรวจถึงกับมองหน้และเหลือบมองบอดี้รอบๆ ตัว ซึ่งทุกคนก็จ้องเขม่งเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ซึ่งตำรวจก็รู้แหละว่าจอมทัพเป็นใคร มีอิทธิพลครอบคลุมระดับใ

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 5

    “คุณ! คุณ! ได้ยินผมไหม” คนรับใช้ถาม ชายที่ปริศนาก็พยักหน้าแต่ไม่ได้ลืมตา คนรับใช้จึงเพ่งมองอีกครั้งให้แน่ใจ พร้อมกับจับตัวพลิก “คุณกรณ์! คุณกรณ์! โอ๊ยตายแล้ว” คนรับใช้เรียกด้วยความตกใจก่อนจะเข้าไปพยุง พร้อมกับสาวใช้อีกคน “นิ่ม ไปเรียกคุณๆ เดี๋ยวนี้ เร็ว” เขาสั่งอีกครั้ง จากนั้นสาวใช้คนเดิมก็วิ่งเข้าบ้านทันที ซึ่งเจ้านายทั้งหลายก็ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว“มีอะไรเหรอนิ่ม” นราพี่สาวคนโตของบ้านเอ่ยถามด้วยความตกใจ “คุณกรณ์ คุณกรณ์อยู่หน้าบ้าน เหมือนถูกปองร้ายมาเลยค่ะ สภาพดูไม่ได้เลย” สิ้นคำของสาวใช้ ทุกคนก็วิ่งไปที่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนบอกคนขับรถให้เอารถออกโดยด่วน “กรี๊ด! กรณ์ เกิดอะไรขึ้น กรณ์” นรากรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเลือดโทรมกายของชายหนุ่ม“พาคุณกรณ์ไปหาหมอเถอะครับ” คนรับใช้บอก “รถกำลังมา รถกำลังมา” นราละล่ำละลักเอ่ยเสียงสั่น แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว เพราะสภาพของกรณ์นั้นไม่รู้จะอยู่หรือตาย และในจังหวะเดียวกันนั้นรถก็แล่นมาจอดด้านหน้าพอดี ทุกคนจึงได้พยุงกรณ์ขึ้นรถ คุณหนูใหญ่ก็ขึ้นไปนั่งประคองเอาไว้ เพราะเป็นคนสนิท “ให้เราตามไปไหม พี่นรา” น้องอีกคนเอ่ยถาม“ไปๆๆ ขับรถตามไป” นราตอบเสีย

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 6

    “มะ มะ มัน... ชื่อต้าเฉิน ผมรู้จักว่าเขาเป็นนักธุรกิจ แต่ไม่ใช่”“มันให้ลูกน้องซ้อมคุณเหรอเนี่ย” “เปล่า ตัวเขาเอง เขาซ้อมผมด้วยมือของเขาเอง ไม่ให้ลูกน้องยุ่ง เขาเป็นมังกร” “เราจะทำยังไงดี ระ ระ เราต้องหนีหรือเปล่า” คีตะภัทรถามขึ้น “เราจะหนีทำไม ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด นังนั่นมันฆ่าตัวตายเองต่างหาก” นราตอบ“แต่มันก็เพราะ... เพราะเรานะพี่นรา เราทำให้สังคมประนามมันและเราทำให้มันเครียด”“ก็สมควรแล้วนี่ มันชั่ว เลว ต่ำ แล้วที่มันทำกับครอบครัวเราละ แทบจะบ้านแตก”“เรา ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว คุณนราต้องจ้างบอดี้การ์ด เขาเอาจริงแน่ และไม่รู้ว่าจะโชคดีเหมือนผมที่รอดมาหรือเปล่า” กรณ์ยังคงบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย“คนตัวตั้งตัวตี และออกความเห็นเรื่องนี้ คือคุณกรณ์นะครับ แล้วพวกเราจะกลัวทำไม” คีตะภัทรพูดขึ้นทันที “ก็เพราะพวกคุณต้องการให้เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ” “เอาล่ะๆ ไม่ต้องเถียงกัน แต่ว่าเราควรบอกคุณพ่อไหม” “บอกพ่อ พ่อก็จะยิ่งเอาเรื่องเราน่ะสิถ้ารู้ความจริงน่ะ อย่าโง่สิพี่นรา เท่านี้คุณพ่อก็... ก็เหมือนคนไม่มีวิญญาณแล้วเพราะเอาแต่คิดถึงนังนั่น งั้นขอคุณพ่อจ้างบอดี้การ์ดสักสองสามคน เพื่อความ

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 7

    “นี่มันโรงพยาบาลนะ มันไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งหรอกน่า” “ก็ได้ครับ งั้นผมกลับก่อน เจอกันพรุ่งนี้” เมื่อพูดจบคีตะภัทรก็ออกไปจากห้องพัก ขับรถกลับบ้านคนเดียว เพราะคนขับรถต้องอยู่เป็นเพื่อนนราก่อน แต่ให้ตายสิ จิตตกและระแวงไปหมด“คุณกรณ์ เขาทำอะไรคุณนอกเหนือจากนี้หรือเปล่า” นราอดถามไม่ได้เมื่ออยู่กันสองคน“มันซ้อมผม ด้วยตัวเอง ไม่ให้ลูกน้องยุ่ง มัน... เก่งมากคุณนรา โหด เหี้ยม น่ากลัว ถ้าไม่เป็นเพราะอยากให้ผมมาส่งข่าวล่ะก็ ป่านนี้ผมอาจจะตายแล้วก็ได้” “อยากเห็นหน้าจริงๆ เลย” “อย่าอยากเห็นเลยครับ มันน่ากลัวจริงๆ คุณคิดไม่ถึงหรอกเวลามีปืนจ่ออยู่ตรงหน้ามันเป็นยังไง ในห้องมืดที่มีแสงนิดเดียว เขาสามารถฆ่าผมได้เพียงแค่หมัดกับเท้า ผมแทบคลาน ตอนที่มันตัดนิ้วผม ผมเคยเห็นแต่ในหนัง” “ทำไมมันถึงโหดเหี้ยมแบบนี้” นราบอกเสียงสั่น นึกหวาดกลัว แต่เจอกับตัวเองจะเป็นอย่างไร เหมือนในหนังไหม คงน่ากลัวเกินจะคาดเดา “เราเลิกพูดเรื่องนี้นะครับ ผมว่าคุณพักเถอะ ผมก็จะพัก” เขาพูดมาเยอะแล้ว และอ่อนเพลียเหลือเกิน แต่ที่มีแรงพูดอยู่ก็เพราะว่าใจร้อนอย่างบอกเท่านั้นเอง ทุกคนจะได้ตื่นกลัว จะเหลือก็แต่น้องคนเล็กนั่นแหละที่ยั

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 8

    “ฤทธิ์เยอะ! ถ้าไม่ติดว่าคุณท่านบอกนะ เจอดีแน่” สิ้นคำอีกที หญิงสาวก็ตบผัวะเข้าให้ทั้งใบหน้าภายใต้โม่งดำนั่นแหละ “โอ๊ย! มึงเอายาสลบปิดจมูกได้แล้ว” “อื้อ! อื้อ!” หญิงสาวก็ดิ้นสิทีนี้ แม้จะพยายามกลั้นใจ แต่เพราะหายใจไม่ออก สุดท้ายก็ต้องสูดกลิ่นยาสลบเข้าไปเต็มปวด จนกระทั่งหมดฤทธิ์ทันที จากนั้นสองหนุ่มจึงได้นำถุงคลุมศีรษะอีกรอบ จากนั้นก็จับมือมัดเอาไว้ทางด้านหลัง แล้วเอนให้เธอลองไปนอนบนเบาะ พร้อมกับเอาเสื้อคลุมตัวให้เพื่อปิดขา เพราะเธอใส่เดรสและนอนแบบนั้นไม่น่าดูนัก “สวยฉิบหาย” คนที่โดนตบ เอ่ยปากชมแบบหงุดหงิด พลางส่ายหน้า“ชมไปด้วยหงุดหงิดไปด้วยแปลว่า”“แปลว่าเจ็บ มือหนักแต่สวยดุ เด็กท่าน ว่าแต่ถ้าท่านเห็นหน้าแล้วจะทำอะไรเด็กนี่ลงเหรอ” “ทำไมวะ”“ก็สวยขนาดนี้ ลงไม้ลงมือคงไม่ไหว” “สวยแต่เลว ชั่ว คุณท่านก็ไม่เอาไว้หรอกนะ และเพราะยัยนี่ทำคุณต้าเอสตายจะมาสงสารทำไมเนี่ย”“ไม่ได้สงสาร เสียดายความสวย ไม่คิดว่าคนสวยๆ จะใจดำ อำมหิตแบบนี้” “นั่นสินะ สงสารคุณท่าน เหลือญาติแค่คนเดียวก็ทิ้งไปซะล่ะ” “เลิกๆ หยุดพูดดีกว่า เรามันตัวเล็กๆ ปลายแถว เงียบปาก ให้ข้างบนเขาจัดการกันไป หมดที่เราใกล้จะหมดแล้ว

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 9

    “มะ มะ ไม่ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำอะไรเลย” เธอละล่ำละลักตอบเสียงสั่น “อย่ามาแก้ตัว ไอ้กรผู้ช่วยพี่สาวเธอ มันก็แก้ตัวแบบนี้ ฉันไม่ฆ่ามันก็บุญหัวแล้ว” “พะ พะ พี่กร นายทำอะไรพี่กร” หญิงสาวถามด้วยความตกใจ“ต้องถามก่อนว่า พวกเธอทำอะไรต้าเอสต่างหาก ส่วนไอ้กรน่ะ เธอก็จะโดนเหมือนกันมันนั่นแหละ” “ฉัน ฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่ได้ทำอะไรต้าเอส ต้าเอสฆ่าตัวตาย” สิ้นคำของเธอ เขาก็ยิ่งโกรธแล้วหันไปคว้าแจกันขว้างใส่พื้นเสียเลยเพื่อระบายอารมณ์ เพล้ง!!! ทำเอาเธอตกใจและยกขาขึ้นทันทีเพราะกลัวเศษแก้วกระเด็นใส่“อย่ามาแก้ตัว!!! คิดสิว่าทำอะไรลงไป และเพราะอะไรทำไมน้องฉันต้องมาตาย เพราะปีศาจอย่างพวกเธอไง”“ฉัน... ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำ” หญิงสาวแก้ตัวอีกครั้ง ทว่าคราวนี้น้ำเสียงเบาลง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เอาเถอะถ้าจะปากแข็งกว่าไอ้กรล่ะก็ คงต้องจัดการให้หนักกว่าซะล่ะมั้ง” “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวด้วย ที่ต้าเอสฆ่าตัวตายไม่เกี่ยวกับฉันเลย” เธอพยายามบอกเสียงสั่น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินอาบแก้มด้วยความหวาดกลัว และรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเล่ามานั่นแหละ เธอรู้ แม้จะไม่เกี่ยวแต่ต้าเอสก็ต้องมาตายเพราะ

    Last Updated : 2025-04-17
  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 10

    “แล้วผมล่ะครับ ผมคงปล่อยให้คุณท่านอยู่ตามลำพังไม่ได้” “ใครก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ไปเช่าบ้านอยู่ห่างๆ ถ้าไม่เรียกไม่ต้องมายุ่ง” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม แต่ภายในใจของโจว์มันหวาดหวั่นจริงๆ นะ ให้ตายสิ ไม่มีลูกน้องคนไหนที่รู้ความสัมพันธ์นี้ยกเว้นโจว์คนเดียว “งั้น มีอะไรก็โทรเรียกครับ ผมจะให้บอร์ดี้การ์ดอยู่ห่างๆ” โจว์บอกด้วยความเป็นห่วงและเสียงสั่นอยู่ เพราะช็อกไม่หายเหมือนกัน “อย่ามาป้วนเปี้ยนเป็นพอ” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม “ครับ” โจว์ตอบกลับพลางมองหน้าจอมทัพด้วยความหวั่นใจอีกครั้ง สายตาของจอมทัพมันบ่งบอกว่า ไม่ได้พร้อมที่จะแก้แค้นให้สาสมเหมือนก่อนหน้านี้เลย โจว์คิด ก่อนจะปลีกตัวออกไปจากบ้านหลังใหญ่หลังนี้ที่ตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ต หรือบ้านพักตากอากาศหลังอื่น เป็นบ้านชั้นเดียวกันแบบสไตล์อังกฤษ แต่มีปล่องไฟสำหรับหน้าหนาวเช่นกัน รอบๆ บ้านรายล้อมไปด้วยสวนหย่อมและลำธาร ด้านหลังติดภูเขา และใช่นี่คือบ้านพักตากอากาศของจอมทัพเอง แต่ภายในบ้านแทบจะไม่มีอะไรนอกจากเครื่องนอน เพราะเขาไม่ได้มาพักนานแล้ว แต่สร้างเอาไว้พักผ่อนเวลาอยากมาเที่ยวเท่านั้นเอง จอมทัพสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางมองไปรอบตัว มือของเขาพร้อมกับห

    Last Updated : 2025-04-17

Latest chapter

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 43

    จอมทัพ หมดสิ้นความอดทนต่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง และทิ้งความโกรธ เคียดแค้นที่มีต่ออลิน แค่อลินเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเธอก็คือผู้หญิงที่เขารักและรอคอยมานานหลายเดือนที่จะได้พบเจอ ที่จะได้บอกคำว่ารัก วันนี้จึงเป็นวันที่เขาทนต่อความต้องการของหัวใจไม่ได้อีกแล้วเขารักเธอเกินกว่าที่จะทำร้ายเธอได้แต่อย่าลืมว่าเขามีความแค้นต่อคนอื่น ที่เป็นคนทำร้ายได้เอสจนกระทั่งตาย ฉะนั้นความรักที่เขามีต่ออารมณ์ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเรื่องของพี่ชายอลิน ถูกส่งตัวไปยังบ้านในเวลากลางดึก คนของโจว์ทำงานอย่างนี้เชื่อ ไม่ให้ใครรู้เลยว่าพวกเขาขับรถมาจอดหน้าบ้าน และนำร่างมาทิ้งไว้ ด้วยเพื่อจะได้ด้วยทุกคนในบ้านออกมาดูติ้งหน่อง! ติ้งหน่อง! เสียงดังขึ้น 2 ครั้ง พร้อมกับได้ยินเสียงเปิดประตูเลขข้างรั้วราวกับมีโจรยอง ทำให้คนในบ้านพักกันตื่น อันดับแรกคือคนรับใช้ผู้ชายเดินออกมาดูลาดเลา ก็เห็นเรื่องของคนๆนึงนอนอยู่ที่ งานหน้าบ้าน เขาจึงวิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว แล้วจำได้ว่านี่คือ“คุณคีย์” คนรับใช้ถึงกับบูชาด้วยความตกใ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 42

    “อยาก... อ่า พี่เฉิน เลียสิคะ เลียตรงนั้น” ในที่สุดก็เอ่ยขอร้องออกมาอย่างไม่อาย เพราะความต้องที่ใกล้จะแตก และไม่พูดเปล่าเธอกลับเอียงเนินเนื้อเข้าหากปากร้อน และเมื่อได้ยินเธอเอ่ยเช่นนี้ก็ทำให้เขาพอใจอย่างมาก ไม่รอช้าตวัดลิ้นเลียลงไปบนร่องเสียว ลากจากล่างขึ้นบน ปลายลิ้นทำเอาเธอสะดุ้งและดีดดิ้น พลางเม้มปากและกดกลั้นลมหายใจได้แต่ห่อปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะไม่ให้มีเสียงครางเล็ดลอดออกมา“เลียแล้ว ดูดด้วยหรือเปล่า” เขาถาม พลางฝังลิ้นเลียให้หนักหน่วงขึ้นกระทั่งปลายลิ้นสัมผัสกับเม็ดสวาทที่ตอดตุบ เขาก็กระดกลิ้นเลียระรัวเร็ว“อ๊ะ อ๊ะ พี่เฉิน เลียเม็ดเสียวและดูดแรงๆ สิคะ เล็ก เล็กจะไม่ไหวแล้ว” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับน้ำหวานเหนียวๆ ทะลึกไหลออกมาให้เขาได้ดูดเลียคำโต“อูยยยย พี่เฉินขา ซี๊ดดดด อ่า”“ทูนหัวของพี่ น้ำเยอะ น้ำหวานมาก”“เล็กจะ... จะตายอยู่แล้ว จะไม่ไหวแล้วค่ะ” ยิ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 41

    “เรื่องเธอนั้น คือไหน” เธอแกล้งทำเป็นใครสือและจำไม่ได้“ถ้าจำไม่ได้ เราก็มาทบทวนกัน” เขาบอกด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ หญิงสาวก็เบื่อหน้าหลบ เขาอาศัยจังหวะรวดเร็ว กุ้มลงฝังจุบตรงซอกคอ“อื้อ! หยุดนะ” เธอถึงกับทางอู้อี้ไม่ชอบ พยายามผลักไสเข้าออกไปให้พ้น ทว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งกระตุ้นให้เขาใช้ใบหน้าหนักขึ้น ปากร้อนก็ดูดเม้มหน้าหนัก ร่างกายแทบชิดจนสัมผัสได้ถึงส่วนนั้นของเขามันขึงแข็ง“อย่าทำแบบนี้ คุณเมามากแล้ว” เธอพยายามดันเขาออกแต่ดูจะไร้ผล“เมาสิดี จะได้ทำอะไรได้เต็มที่”“นี่ อย่า คุณกำลังเริ่มต้นแก้แค้นใช่ไหม ได้โปรด อย่า” พอได้ยินคำว่าได้โปรดปุ๊บ เขาก็หยุดแล้วเงยหน้าขึ้น ทว่าเรียวปากยังคงอยู่ใกล้กับปากนุ่ม“ใช่ ผมจะเริ่มแก้แค้น แล้วตอนนี้เป็นตาคุณ” สิ้นคำเขาก็ฉุกจูบที่ปากกระจับที่เผยออ้าเตรียมจะเอ่ย ทว่าเสียงหวานถูกกลืนหาย เหลือเพียงเสียงหายใจหอบพร่า หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความตกใจ มือน้อยก็ผลักใสไม่หยุด กระทั่งเขาคลายอ้อมกอดและยกขึ้นมาประคองใบห

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 40

    จึงได้แต่กินไปเงียบๆ ไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก ทว่าว่าสายตาก็อดเหลือบมองชายหนุ่มนิดหน่อย แล้วพลันเห็นที่หลังมือขวาของเขามันเป็นแผลถลอก เธอจึงพยายามจ้องว่ามันเป็นแผลสดหรือว่าแผลเก่า กระทั่งไล่ไปตามเสื้อ ลำคอก็มีรอยเลือด เธอได้แต่อ้าปากอึ้งจะไม่กล้าพูดอะไรต่อกระทั่งมื้อค่ำผ่านไป เธอก็เก็บโต๊ะอาหาร ทำหน้าที่ล้างจานโดยที่ไม่ให้เขาต้องสั่ง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จอมทัพก็ไปค้นหากล่องยาที่ล็อกเกอร์หลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม จากนั้นเขาก็ยืนเช็ดแผลแล้วก็ทำแผลอยู่ตรงนั้นอลินออกมาเห็น หลังจากที่ล้างจานเสร็จ ทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นจอมทัพผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก แต่อีกร่างนึงเขาก็คือพี่ต้าเฉินของเธอ หากจะให้มองข้ามก็ดูจะเป็นไปได้ยาก จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เธอถามเสียงเบา“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง และถอนหายใจหนักๆ“มือคุณไปโดนอะไรมาคะทำไมมันถลอกขนาดนั้น” เธอถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะจับสำลีมาเช็ดแผลให้เขาด้วยตัวเอง เขาก็ได้แต่มองและถอนหายใจ ยอม

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 39

    “ให้คนไปส่งคีตะภัทรหรือยัง” จอมทัพเปลี่ยนเรื่องคุยทันที“เฮ้อ ครับ แต่ก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง คุณท่านครับ”“พรุ่งนี้เจอกันโจว์ ตอนนี้ฉันอยากอยู่ตามลำพัง...” เขาบอกพร้อมกับมองเข้าไปด้านใน ขณะที่อลินเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าวอีกครั้ง“ทั้งชีวิตผมไม่เคยห้ามคุณท่านเลยในทุกๆ การตัดสินใจ เพราะคุณท่านตัดสินใจเด็ดขาดเสมอและไม่เคยพลาด แต่วันนี้ผมอาจจะขอไว้สักเรื่อง คือคุณเล็ก นั่นหัวใจคุณท่านนะ” โจว์บอกด้วยความเป็นห่วง ทำเอาจอมทัพกัดฟันแน่นพร้อมกับดวงตาเริ่มแดงก่ำ ทว่าสีหน้ายังคงดุดันเช่นเดิม ไม่รู้เจ้านายจะฟังหรือไม่ แต่โจว์อยากจะพูด“หัวใจของฉันมันแตกสลายไปแล้ว” เขาด้วยน้ำเสียงกดต่ำก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน โจว์ก็ได้แต่ถอนหายใจและหลับตาด้วยความเครียด จากนั้นจึงหันไปมองเจ้านายเล็กน้อย แล้วปลีกตัวกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง“นั่นหัวใจของคุณนะ” คำพูดของโจว์ผุดขึ้นมาในความคิด เมื่อจอมทัพกำลังมองอลินที่กำลังตักข้าวรอ เขามองแต่เพียงเบื้องหลังของเธอ เธอก็รู้สึกได้แหละว่าเขายืนอยู่ หวังจะหั

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 38

    “อ้า ฮือๆๆ ผมกลัวแล้ว ผมกลัว... อย่าฆ่าผมเลย” คีตะภัทรได้แต่กรีดอ้อนวอนและมือข้างซ้ายสั่นเทา จังหวะเดียวกันนั้นจอมทัพก็เอาปลายมีดแตะที่คางของคีตะภัทรให้เงยขึ้นช้าๆ“ผมขอโทษ” คีตะภัทรได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะที่สายตาจอมทัพแข็งกระด้าง“มันสายเกินไปแล้ว” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม ก่อนจะจิกผมคีตะภัทรอีกครั้งจากนั้นจึงเหวี่ยงไปให้โจว์จัดการต่อ“ส่งมันกลับบ้าน ให้พ่อแม่มันดูสภาพ และบอกไปเลยว่าฝีมือฉัน เตรียมรับแรงกระแทกที่จะแรงกว่านี้”“อย่า อย่าทำอะไรครอบครัวผมเลยนะ ไว้ชีวิตเราเถอะ” คีตะภัทรได้แต่ยกมือไหว้ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่จอมทัพมีสีหน้าเย็นชาขึ้นมาก“ขอร้องแล้วเหรอ ไม่เก่งเหมือนก่อนหน้านี้เลย”“ฮือๆๆ”“ฉันจะทำให้พวกแกตายอย่างช้าๆ ตายไปเอง เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับต้าเอส ยังเหลือใครอีกนะ แม่และพี่สาวแกใช่ไหม ส่วนน้องสาวน่ะ สวยขนาดนั้น... น่าจะเอามาเล่นเกมกันซะก่อน”“อย่า... อย่าทำอะไรยัยเล็กนะ”&nbs

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 37

    “น้องสาวหน้าตาสวยดีนะ” จอมทัพแสร้งพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“ไม่ใช่แค่น้องสาวสวยครับ พี่สาวคนโตก็สวย แถมแซ่บร้าย หึๆ” โจว์แทรกขึ้นและหัวเราะราวกับมีแผน“พวกมึง ต้องการอะไรวะ” คีตะภัทรถามด้วยความหวาดกลัว ทั้งที่รู้แหละว่าต้องการชีวิต เหมือนที่ทำกับกรณ์ แต่เป็นห่วงพี่สาวและน้องเพราะเป็นผู้หญิง“ต้องการอะไรเหรอ เห็นสภาพไอ้กรณ์หรือยัง มึงก็คงมีสภาพไม่ต่างกับมัน หรืออาจจะมากกว่า”“กูจะฟ้องพ่อ จะบอกตำรวจ” คีตะภัทรบอกเสียงสั่น“ฟ้องพ่ออย่างนั้นเหรอ มึงไม่ใช่ลูกรักเขา และตอนนี้เขาก็ทิ้งพวกมึงไปแล้ว ไปอยู่บ้านเล็กหลังไหนก็ไม่รู้” จอมทัพบอกราวกับรู้ดี ใช่เขาสืบรู้หมดแหละ“ก็เพราะน้องมึงทำกูบ้านแตก” สิ้นคำของคีตะภัทร จอมทัพก็ลุกพรวดแล้วเดินตรงเข้าไปหา“ใช่ เอสทำบ้านแตก แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำกับเอสแบบนี้”“มันโง่ มันอ่อนแอเองต่างหาก เพราะมันอ่อนแอไง มันถึงตาย” สิ้นคำของคีตะภัทรจอมทัพก็เหวี่ยงหมัดต่อยไปที่ปากคีตะภัทรทันที

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 36

    “ถอยไป” เธอบอกเสียงห้วน“ผมถามว่าหิวเหรอ คุณยังไม่ตอบ”“สีหน้าฉันเหมือนคนหิวเหรอคะ”“โดนสักนิดเดี๋ยวก็รู้เรื่อง” เขาหาเรื่องหื่นกับเธอไม่เลือกเวลาเลยหรือเนี่ย นี่เธอกำลังโกรธอยู่นะ เธอคิด“หยาบคาย” เธอว่า พลางกัดฟันแน่นก่อนจะเบี่ยงตัวแล้วเอาไหล่ชนเขาเพื่อให้หลบ กิริยาไม่น่ารักเอาเสียเลย แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกหากจะทำ เขาคิด“ซักผ้าแล้ว ทำกับข้าวด้วย วันนี้อยากกินอะไรอร่อยๆ” เขาเอ่ยขึ้นพลางทำลอยหน้าลอยตา จังหวะเดียวกันเธอก็หันกลับมามอง จ้องกันเขม่ง แล้วเธอจะสู้อะไรเขาได้นอกเสียจากทำตาม ว่าแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องซักรีด เพื่อจะได้ซักเสื้อผ้าให้กับเขาจอมทัพเดินตามไปด้วยความที่ไม่ไว้ใจในความเป็นแม่บ้านแม่เรือนของอลินเพราะเธอเป็นลูกคุณหนู คงทำอะไรไม่เป็นพอๆ กับเขานี่แหละ ซึ่งผิดคาดอลินซักผ้าได้ เพราะเป็นเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ อยู่คอนโดก็จ้าง บ้างก็ซักเองโดยที่คอนโดมีบริการให้ซักเองด้วย ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอต้องชะงักคือ ต้องแยกเสื้อผ้าของเขา“กางเกงใน” เธอ

  • รอยรักเชลยอสูร   บทที่ 35

    “พวกมึงเป็น” ใครคีตะภัทรถาม ด้วยน้ำเสียงสั่น แต่ชายหนุ่มไม่ตอบกลับเอาปืนจ่อขมับคีตะภัทรเอาไว้แล้วกระชากให้ขึ้นไปบนรถ ส่วนรถก็ของคีตะภัทรก็จอดทิ้งเอาไว้อย่างนั้นแหละเพราะชายชุดดำไม่ต้องการทำให้มันเงียบอยากให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น จึงทิ้งรถเอาไว้ให้เป็นเบาะแส เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วชายแปลกหน้าพร้อมคนขับรถก็แล่นออกไปจากซอยทันทีมาถึงตอนนี้คิดพยายามมองหน้าทุกคนว่าใช่คนที่รู้จักหรือไม่ แต่คิดว่าคงไม่ใช่แน่เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เอาปืนมาจ่อสมองกัน“พวกมึงเป็นใครบอกมาเดี๋ยวนี้นะ คีตะภัทรถาม“เป็นเวรกรรม ชายแปลกหน้าตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ทำให้คีตะภัทรถลึงตามองด้วยความตกใจ และตัวสั่นเทามากกว่าเดิม นั่น ทำให้รู้แล้วว่าชายแปลกหน้าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นคนของต้าเฉินยังไม่ผิดแน่นอน“พวกมึงเป็นคนของต้าเฉินใช่ไหม” คีตะภัทรถามเสียงสั่น“ฉลาดแล้วนี่” ชายแปลกหน้าตอบ แล้วหัวเราะชอบใจ“พวกมึงต้องการอะไร” คีตะภัทร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status