Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-04-10 11:11:55

“คนแปลกหน้าคงไม่รู้จักชื่อกัน แต่ผมรู้จักชื่อคุณแล้วนะไอซ์” เมื่อ นิโคไลพูดจบ เธอจึงเอี้ยวตัวหันกลับไปหาและไม่ทันได้ระวังว่าเขายืนประชิดด้านหลัง ทำให้เธอชนเข้ากับแผงอกกว้างๆ จนต้องเซถลาเล็กน้อย เป็นจังหวะให้นิโคไลสอดวงแขนขวา คว้าเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนจะรั้งเข้ามากอดโดยอัตโนมัติ

“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” เธอรีบตั้งสติแล้วก็ดันตัวออกจากวงแขนของเขาทันที ในความยั่วและอ่อยของเธอ เขามองว่ามีความระมัดระวังตัวอยู่พอสมควร เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายซะทีเดียว เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าชู้

“นะครับเต้นรำกัน” นิโคไลเอ่ยปากขอร้องอีกครั้ง ดูซิว่าเธอจะยอมหรือเปล่า แน่นอนว่าเธอจะยั่วให้ถึงขีดสุด

“แต่ในมือคุณยังถือแก้วเหล้าอยู่เลย เอาเป็นว่าเราไปนั่งดื่มต่อดีกว่านะคะ” ไอลดายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอ่ย ก่อนจะจับมือเขา แล้วพาเดินกลับออกไปนั่งที่เดิม จากนั้นเธอจึงปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ 

“ดูเหมือนคุณไม่อยากจะสนุกกับเพื่อนสักเท่าไหร่” นิไคไลถามพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้และหันหน้าออกไปฟลอ 

“ฉันมีเรื่องที่น่าสนใจต้องทำค่ะ” พูดจบปุ๊บไอลดาก็ปรายตามองเขาด้วยแววตาแพรวพราว

“อย่างเช่น...” เขาถามเพื่อว่าคำตอบจะเป็นการเล่นสนุกกับเขาอย่างไรล่ะ

“อย่างเช่นตอนนี้” เธอตอบ และเขาคิดว่าเธอจงใจยั่วแน่ๆ เพราะเล่นหูเล่นตาขนาดนี้

“เสร็จจากปาร์ตี้คืนนี้แล้วไปไหนต่อครับ” เอาแล้วไงล่ะ เข้าเรื่องทันที

“คงกลับอพาร์ตเม้นต์ค่ะ ไม่ได้ไปไหนต่อหรอก เกรงว่าจะดึกเกินไป”

“งั้นจะรังเกียจไหมถ้าผมไปส่ง” เธอกำลังคิดอยู่พอดีว่าเขาต้องพูดแบบนี้

“ไปส่งแล้ว...” เธอหยังเชิงว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆ หรือไม่ แต่สไตล์หนุ่มนักรักแบบนี้คงไม่อ้อมค้อมแน่

“แล้วแต่คุณ ถ้าจะกรุณาเลี้ยงน้ำชาหรือกาแฟผมสักแก้ว ที่ อพาร์ตเมนต์คุณ” ประโยคสุดท้ายนิโคไล ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูของเธออีกครั้งเบาๆ ทำเอาขนลุกเกรียว ใบหน้าร้อนผ่าวอย่างประหลาด แต่อย่าคิดว่าเธอจะใจอ่อน เพราะรู้ดีว่าเขาหลอกจีบ เพื่อหวังฟันแล้วเอาไปแบลคเมลทีหลัง

“อะไรทำให้คุณคิดว่าฉันจะเลี้ยงกาแฟหรือน้ำชาคุณล่ะคะ” ไอลดาถามยิ้มๆ แต่เขานี่สิที่ต้องหุบยิ้ม พร้อมกับหรี่ตาลงด้วยความแปลกใจ ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่

“หรือว่าคุณอยากทำอย่างอื่นล่ะ” ฝรั่งนี่เห็นผู้หญิงที่ทำตัวง่ายเป็นไม่ได้ อยากได้ก็รุกอย่างเดียว เธอคิดพลางยิ้มให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะขยับลงจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปประชิดตัว และยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนริมฝีปากชิดใบหู

“ฉันไม่ง่ายขนาดนั้น” คำพูดนี้เหมือนจะตอกให้เขาหน้าหงาย รอยยิ้มบาดใจของเธอ มันทำให้หงุดหงิดได้ไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้แค่ต้องการยั่วเขาอย่างนั้นสินะ

“งั้นเรามาทำให้มันง่ายขึ้นดีกว่าไหม ผมรู้นะว่าคุณก็... คิดเหมือนกับผม” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เธอเช่นกัน

“อย่าสำคัญตัวเองถึงขนาดนั้นค่ะ คุณไม่ได้มีเสน่ห์มากมายจนฉัน...” เธอหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ ก่อนจะยื่นมือไปจับที่คอเสื้อเชิ้ตของเขาเบาๆ เหมือนจะเป็นการยั่วอีกรอบ

“ถ้าร้อนนัก ก็กลับไปหากลุ่มของคุณ แล้วให้พวกเธอดับร้อนให้ซะก็สิ้นเรื่อง” เธอตอกกลับเขาด้วยน้ำเสียงหวาน ยั่วยวน แต่นั่นล่ะมันทำให้เขางุนงงและไม่พอใจ เพราะสงสัยว่าเธอหมายถึงใครหรือ

“คุณหมายถึงใคร ผมไม่เข้าใจ” เขาถามกลับทันทีพร้อมกับปรับน้ำเสียงให้เข้มขึ้นพลางขมวดคิ้ว

“งั้นก็ไม่ต้องเข้าใจ และที่แน่ๆ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่หิ้วง่ายขนาดนั้น” พูดจบเธอก็ถอยออกมาให้ห่างจากเขาแล้วเอี้ยวตัวเพื่อที่จะเดินจากไปแต่เขาเอื้อมมือไปคว้าแขนเธอเอาไว้เสียก่อน

“คุณก็ทำเหมือนตัวเองหิ้วง่ายอยู่แล้วนี่ อย่าปฏิเสธเลยว่าคุณไม่ชอบ” ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องสุภาพอีก ต่อไปจึงตวัดเอวคอดกิ่วเข้ามากอดเอาไว้หลวมๆ 

“นี่คุณ! สุภาพด้วย” เธอตำหนิด้วยน้ำเสียงดุเข้ม

“แล้วคำพูดของคุณมันน่าฟังเสียเมื่อไหร่กัน” 

“อย่ามาทำรุ่มร่าม อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผนคุณ” 

“ผมมีแผนอะไรอย่างนั้นเหรอ” เขายื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ และชิดเสียจนได้กลิ่นเหล้าเลยทีเดียว และแทนที่เขาจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แต่กลับกระชับวงแขนพร้อมกับฝ่ามือหนาที่ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามสะโพกแทบจะต่ำลงมาจนถึงบั้นท้าย เพื่อกระตุ้นให้รู้ว่าเขาจะเอาเธอแน่ๆ 

“เอามือสกปรกของคุณออกไป” 

“อืม ไม่เอาน่า อย่าเสแสร้ง อันที่จริงคุณก็อยากได้ น่านะ คืนนี้สักครั้งรับรองคุณจะไม่ลืม” เขาไม่สุภาพกับเธอ ฉะนั้นเธอก็จะไม่ไว้หน้าอีก ว่าแล้วจึงดันตัวออกจากวงแขนของเขาแรงๆ กระทั่งหลุด 

จากนั้นจึงหันไปคว้าเอาแก้วเหล้าของเขาที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์แล้วสาดใส่หน้าเขาเสียเลย 

“อื้อ!” นิโคไลอุทานเล็กน้อยพร้อมกับหลับตา เมื่อเหล้าที่ตัวเองดื่มปะทะเข้าที่หน้าเต็มๆ บาร์เทนเดอร์ซึ่งลอบมองอยู่ก็ถึงกับอ้าปากค้างเพราะไม่เคยเห็นนิโคไลต้องโดนผู้หญิงสาดเหล้าใส่หน้ามาก่อน

“ดื่มให้สนุกนะคะคุณแอนตัน” พูดจบไอลดาจึงรีบผละออกมา แต่ไม่ทันอีกแล้ว เมื่อเขาคว้าข้อมือเธอเอาไว้แล้วกระชากแรงๆ กระทั่งร่างของเธอปะทะเข้ากับอกกว้าง

“คุณสาดเหล้าใส่ผม กล้าดียังไง” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรอดไรฟัน ความเกรี้ยวกราดเริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเช่นกัน เธอกล้าเกินไปแล้ว

“ฉันกล้ามากกว่านี้อีก” เธอกล่าวยิ้มๆ และไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง

“อยากจะวัดความกล้ากับคุณสักครั้ง” 

เขากัดกรามแน่นและเพียงชั่ววินาทีเขาก็โน้มใบหน้าลง ขณะที่ไอลดากำลังจะเอ่ยแต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะอยู่ ๆ ก็ทำเอาตกตะลึงอึ้งไปเมื่อเขาฉุกจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว

“อื้อ!” เสียงร้องอื้ออึงดังอยู่ในลำคอพร้อมกับฝ่ามือเรียวนุ่มดันแผงออกของเขาอย่างแรง และจูบนั้นก็หลุดอย่างน่าเสียดายแต่ไม่ทันที่เธอจะได้ออกปากด่า มือขวาเรียวนุ่มก็ฟาดลงไปบนใบหน้าหล่อเหล่าของนิโคไลอย่างแรง

เพียะ! เป็นอีกครั้งที่นิโคไลต้องตกใจ 

ขณะที่ใบหน้าสะบัดตามแรงปะทะ คนเห็นเหตุการณ์คือบาร์เทนเดอร์ และแขกในร้านอีกหลายคนเลยทีเดียว หากแต่ไม่ค่อยมีใครสนใจนักเพราะทุกคนกำลังสนุก

“นี่คุณ!” นิโคไลหันกลับมาพร้อมกับกัดกรามแน่นอีกครั้ง แต่กลับเห็นสีหน้าเยาะเย้ยของเธอเสียอย่างนั้น จูบเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้เธอตกใจเลยสินะ ว่าแล้วเขาก็หมายจะกระชากเธอเข้ามาขยี้จูบอีกสักที แต่เธอกลับสะบัดข้อมือไม่ให้เขาจับ จากนั้นจึงอาศัยความรวดเร็วเข้าประชิดตัวเขา พร้อมกับยกหัวเข่าขึ้นกระทุ้งที่กลางลำตัวของเขาอย่างแรง

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 72 (จบ)

    “อยู่กันแค่นี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้คุยกันแบบผู้ใหญ่ เพราะผมเองก็อยากจะรู้จักคุณ” ถึงเวลาที่ลูกผู้ชายจะต้องคุยกันเสียทีสินะ ซึ่งไม่มีอะไรมากเพียงแต่ภูชิตอยากรู้จักคนที่จะมาเป็นพ่อของน้องเมย์ และเป็นสามีของบุตรสาวเท่านั้นเองเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป หัวนอนปลายเท้า เพราะรู้คร่าวๆ ว่า มาด้วยเรื่องธุรกิจกับกันตพงษ์แต่เมื่อนิโคไลเล่าให้ฟังจึงได้รู้ ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบเครื่องบินในอเมริกา ส่วนเรื่องที่รู้จักกับไอลดาอย่างไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นได้ชิมลูกปืนของพ่อตาแน่ ๆการทำความรู้จักและคุยกันก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นการสู่ขอไปในตัว อีกทั้งนิโคไลสัญญาว่าจะดูแลไอลดากับน้องเมย์ให้ดีที่สุด แต่ก็น่าอายเหลือเกินที่นิโคไลต้องรับรู้ว่าไอลดาหมั้นกับกันตพงษ์ทำไม เมื่อถอนหมั้นกันแล้วก็ต้องใช้หนี้คืนกลับไป ซึ่งนิโคไลยินที่จะจัดการส่วนนี้ให้ในฐานะลูกเขย ส่วนเรื่องการเจรจาขอให้ไอลดากับน้องเมย์ไปอยู่อเมริกานั้นรอไว้ก่อน เพราะมันเร็วเกินไปกลัว ตากับยายจะรับไม่ทันต้องให้เวลากับท่านด้ว

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 71

    “งั้นเข้าไปในนั่งในห้องรับแขกก่อนนะคะ รอไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่อีกสักพักโน่นแหละค่ะ” ลัลลดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเชิญทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก ทว่าไม่ได้สังเกตสีหน้าบุตรสาวเลย ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแค่ไหน มีความรู้สึกว่ามันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียเหลือเกิน และดูเหมือนว่า นิโคไลจะไม่เกรงกลัวกับความจริงเลย“เชิญนั่งนะคะ ยัยไอซ์” ลัลลดาเป็นคนบอกอีกครั้ง พร้อมกับเรียกบุตรสาวเพื่อเรียกสติของเธอ เนื่องจากสังเกตดูว่ามีอาการเหม่อลอย พอได้สติไอลดาก็ปรับอารมณ์ให้เรียบเฉย“คุณพ่อกับคุณแม่ลงมาก็ดีค่ะ ไอซ์มีเรื่องจะคุยด้วย”“เกี่ยวกับเราทุกคนเลยเหรอลูก คุณนิโคไลด้วยหรือเปล่า” บิดาถามพลางมองสองหนุ่มสลับกัน“เอ่อ” ไอลดากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ส่วนมารดาก็ช่างสังเกต กระทั่งสายตาเหลือบเห็นสองมือที่ประสานกันไว้แน่น เหมือนมีความประหม่าและหวาดหวั่น แต่ที่สะดุดตาเลยนั่นคือ นิ้วนางข้างซ้ายไม่มีแหวนอีกแล้ว“เอ่อ ไอซ์กับคุณกัน” มารดาแค่เกริ่นเ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 70

    “พี่ก็พยายามแล้ว แต่ก็เปลี่ยนให้มารักไอซ์เหมือนน้องสาวไม่ได้เหมือนกัน พี่รักไอซ์นะ” ให้ตายสิ เธออยากจะแยกร่างได้เป็นสองร่างเสียเหลือเกินจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“ไอซ์... ไอซ์รู้ค่ะ เราหยุดซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะ ไอซ์ไม่อยากทำให้พี่กันเสียใจไปมากกว่านี้ เป็นพี่ชายของไอซ์เถอะนะคะ” อย่างไรเสียเธอก็ยังยืนยันคำเดิมสินะ“ถามจริงๆ พ่อของน้องเมย์เป็นใคร แล้วตอนนี้เขามาขอคืนดีกับไอซ์เหรอ”“คือ ค่ะ ไอซ์ไม่อยากให้พ่อลูกต้อง... ไม่อยากขัดขวาง”“พี่เข้าใจ” เข้าใจ ทว่าหัวใจนี่สิที่กำลังเจ็บอยู่ ความจริงเขาอกหักตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ทำให้เธอเป็นคู่หมั้นแล้วแสร้งว่ามีความสุข ทั้งที่เป็นทุกข์มาโดยตลาดเพราะบังคับ รักเองเจ็บเองมานานแล้ว“ไอซ์ขอโทษค่ะพี่กัน” เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะที่เขาเอื้อมมือลงไปจับที่มือเรียวพลางมองไปที่แหวนหมั้น“ละครของเราสองคนคงจบแล้วสินะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหม่นเล็กน้อย“ฝืนไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นนะคะ ไอซ์อยากให้พี่กันได้เจอใครสักคนที่รักพ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 69

    ช่วงเวลาต่อมา ประมาณหกโมงเย็น ไอลดาพาน้องเมย์ออกมาวิ่งเล่นที่หน้าบ้าน พร้อมกับเจ้าโกโก้อย่างสนุกสนาน ความน่ารักสดใสของน้องเมย์ ทำให้เธอยิ้มแย้มมีความสุขลืมปัญหา และความทุกข์ไปได้ตลอดระยะสองปีที่น้องเมย์ถือกำเนิด อีกทั้งน้องเมย์คือกำลังใจสำคัญของชีวิต และเป็นคนที่ทำให้เธอยอมใจอ่อนกับนิโคไล เพียงเพราะอยากให้ลูกมีพ่อ อีกอย่างพ่อต้องการลูก ก็ได้แต่หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีแม้จิตใจของใครบางคนอาจจะชอกช้ำ แต่เชื่อว่ามันจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็ทุกข์เพราะความคิดถึง และเพิ่งจะสุขก็ตอนที่ละทิ้งทิฐินี่เอง“น้องเมย์ ชอบโกโก้ไหมลูก” ไอลดาเอ่ยถามน้องเมย์ขณะที่กำลังหยอกล้อกับเจ้าโกโก้“ชอบค่ะ” น้องเมย์ตอบสั้นๆ และยิ้มสดใส“แล้วชอบลุงฝรั่งไหม” ไอลดาแสร้งถามไปอย่างนั้นเอง เพราะเด็กยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นยังไง“ลุงพะหลั่งใจดี” เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้ว ทำให้คนที่กำลังเดินมาจากหน้าบ้านได้ยินเข้าพอดี”“กำลังคุยอะไรกันอยู่จ๊ะสองแม่ลูก” กันตพงษ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงส

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 68

    “พูดอย่างนี้หมายความว่า เขามาตามหาไอซ์เหรอ ไหน มันอยู่ไหน มันทำลูกพ่อท้องแล้วไม่รับผิดชอบเนี่ย”“คุณพ่อคะ เขาไม่รู้ว่าไอซ์ท้องนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รับผิดชอบ”“เขามาตามง้อไอซ์เหรอลูก” มารดาถามด้วยความอยากรู้“พ่อกับแม่จะโกรธเขาไหมคะ แต่ว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย” ไอลดายังไม่กล้าบอกว่าเขาอยู่ที่ไหน แค่หยั่งเชิงหากนิโคไลอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น“เขาอยู่ที่ไหน มาเมืองไทยแล้วหรือยัง” มารดาถามราวกับจะหาเรื่องเขาเสียอย่างนั้น แบบนี้ใครจะกล้าบอกล่ะ“คงต้องคุยกันหน่อยนะลูก ตามประสาลูกผู้ชาย จะโกรธเหรอก็คงไม่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นพ่อของน้องเมย์ ลูกเสียอีกที่ผิดเพราะไม่ยอมบอกเขา ทำให้น้องเมย์เป็นกำพร้าพ่อมาจนลูก 2 ขวบ” บิดาให้ความเห็น“ก็ตอนนั้นไอซ์คิดว่าเขาจะไม่สนใจไอซ์นี่คะ”“ไอซ์ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือยัง หรืออยู่อเมริกา” บิดาถามย้ำคำของมารดาอีกครั้

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 67

    “ก็ ฝึกความอดทนหน่อยสิคะ” พูดจบเธอก็เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบตรงแก้มที่สากไปด้วยเคราหนักๆ หนึ่งที ก่อนจะดันตัวออกแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ จูบนี้มันทดแทนคำว่ารักได้ แต่สำหรับเขายังไม่เพียงพอว่าแล้วจึงรีบวิ่งตามไปทันที กระทั่งวิ่งทันจึงโอบกอดเธอเอาไว้และพรมจูบตรงเรือนผม จากนั้นจึงเดินทอดน่องไปตามริมหาดเรื่อยๆ งดคุยเรื่องเครียดเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญกับปัญหา ไม่ใช่แค่กับกันตพงษ์เท่านั้น แต่กับครอบครัวของไอลดาด้วยสามวันสองคืนกับการใช้ชีวิตบนเกาะ โดยที่ฝ่ายกรุงเทพฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง ทุกคนเข้าใจว่าไอลดาไปกับแขกก็เท่านั้น แต่มาบัดนี้ วันนี้ทั้งสองเดินทางกลับ ทุกคนจะได้รู้ว่านิโคไลไม่ใช่แขกอีกต่อไปต่อมาเมื่อถึงกรุงเทพฯ ไอลดาขอให้นิโคไลอยู่ที่โรงแรมเสียก่อน เพราะเธอต้องไปบอกความจริงกับบิดาและมารดา เพื่อเปิดทางเสียก่อน หากไปตอนนี้มีหวังปัญหาอาจตามมาได้ แต่นิโคไลหรือจะเชื่อฟัง“แม่จ๋า...” เสียงเด็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status