Beranda / โรแมนติก / รอยแค้นแห่งรัก / ตอนที่ 3 มัดใจฮ่องเต้

Share

ตอนที่ 3 มัดใจฮ่องเต้

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-09 12:35:44

ฮ่องเต้ปรายตามองเจียงหนิงอย่างสงสัย และทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของนาง พระองค์ก็จดจำได้ทันทีว่านางคือสตรีที่พระองค์ตามหามาตลอด “นางผู้นี้ทำอันใดผิดหรือ?” ฮ่องเต้ตรัสถามเซี่ยวหลานด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความคาดคั้น

เซี่ยวหลานชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ยังคงตอบอย่างหนักแน่น “นางทำผิดกฎระเบียบ ผู้ต่ำกว่าระเมิดผู้สูงกว่าเพคะ”

ฮ่องเต้ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตรัสเสียงเย็นชา “ข้าได้ยินมาว่าตำหนักของเจ้ามักมีสาวใช้ถูกทุบตีหรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตำหนักของเจ้าคงจะเข้มงวดถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

เซี่ยวหลานเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันจากคำพูดของพระองค์ นางรีบก้มหน้าลงและกล่าวอย่างรวดเร็ว “พระองค์โปรดระงับโทสะเพคะ ข้าเป็นเจ้าของตำหนักแห่งนี้ ข้าดูแลคนของข้า และนางผู้นี้เป็นเพียงสาวใช้”

ทันใดนั้น ฮ่องเต้ตรัสตอบด้วยน้ำเสียงแฝงอำนาจและหนักแน่น “ผู้ใดบอกเจ้าว่านางเป็นเพียงสาวใช้? นางผู้นี้เป็นผู้หญิงของข้า”

เมื่อเซี่ยวหลานได้ยินเช่นนั้น นางถึงกับตื่นตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าสาวใช้ที่นางพยายามจะลงโทษคือคนที่ฮ่องเต้ตามหามาตลอดและเป็นผู้หญิงของพระองค์ นางรีบย่อกายลงคำนับ แต่ในใจของเซี่ยวหลานเริ่มเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความอิจฉาที่ล้นเอ่อ

ฮ่องเต้ยืนตรงอย่างสง่างาม สายพระเนตรแน่วแน่พลางหันไปสั่งขันทีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยเสียงที่ทรงอำนาจ “ขันที! เจ้าเขียนราชองค์การบัดเดี๋ยวนี้ แต่งตั้งให้หญิงผู้นี้เป็นสนมของข้า”

เมื่อคำสั่งถูกเปล่งออกไป ขันทีก็รีบคำนับและเริ่มเตรียมตัวปฏิบัติตาม ฮ่องเต้หันกลับมามองเจียงหนิงซึ่งนั่งก้มศีรษะอยู่ใกล้ ๆ พระองค์กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง “เจ้าชื่ออันใด?”

เจียงหนิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างนอบน้อม “ข้าชื่อเจียงหนิงเพคะ”

ฮ่องเต้พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะตรัสอย่างหนักแน่น “แต่งตั้งให้เจียงหนิงเป็นพระสนมของข้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้นางพำนักอยู่ในวังหลง”

ทันทีที่คำสั่งดังกล่าวออกมา เจียงหนิงรู้สึกถึงความสำเร็จของแผนที่นางวางไว้ นางยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น ขณะเดียวกัน เซี่ยวหลานกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างที่สุด นางรู้สึกเหมือนถูกหักหน้าและถูกแทนที่อย่างไม่ยุติธรรม

“สาวใช้ผู้ต่ำต้อยจะคู่ควรกับตำแหน่งพระสนมได้อย่างไรกัน?” เซี่ยวหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงคัดค้าน นางไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป

ฮ่องเต้หันมามองเซี่ยวหลานด้วยสายพระเนตรที่เย็นชาและทรงพลัง “เจ้ากล้าขัดตามความประสงค์ของข้าหรือ?”

เซี่ยวหลานรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความยำเกรง “มิบังอาจเพคะ”

ความเงียบครอบคลุมบริเวณนั้นขณะที่ฮ่องเต้หันกลับมาหาเจียงหนิงอีกครั้ง พระองค์ก้าวไปประคองร่างของเจียงหนิงอย่างอ่อนโยน ให้นางลุกขึ้นจากตำแหน่งที่นั่งอยู่ เจียงหนิงแอบยิ้มอย่างพอใจ รู้ว่านางได้บรรลุสิ่งที่ต้องการแล้ว ขณะที่เซี่ยวหลานยังคงยืนอยู่ข้างหลัง รู้สึกถึงความพ่ายแพ้และความอิจฉาที่ไม่อาจระงับได้

ฮ่องเต้ยืนสง่างามอยู่เบื้องหน้าสนมทั้งสอง พระสุรเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและทรงอำนาจ “นับตั้งแต่บัดนี้ เจ้าทั้งสองเป็นสนมเหมือนกัน จงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขและเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความทะเลาะเบาะแว้งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า”

คำสั่งนั้นเหมือนเป็นการเตือนล่วงหน้า ไม่ใช่เพียงแค่ให้ปฏิบัติตามกฎของวังเท่านั้น แต่ยังเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยเจตนาที่จะป้องกันความบาดหมางในภายภาคหน้า สายพระเนตรของฮ่องเต้จับจ้องทั้งเจียงหนิงและเซี่ยวหลานอย่างแน่วแน่

เซี่ยวหลานก้มศีรษะลงแม้ในใจจะเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง นางไม่อาจปฏิเสธคำสั่งได้ เจียงหนิงเองก็ย่อกายลงแสดงความเคารพ แต่ภายในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความพอใจ นางรู้ดีว่าตอนนี้ตนได้รับพระกรุณาจากฮ่องเต้มากเพียงใด

ไม่นานนัก ฮ่องเต้ก็หันไปประคองเจียงหนิงด้วยพระหัตถ์อันอบอุ่น นำพานางก้าวเดินออกจากตำหนักอย่างเงียบ ๆ ทิ้งเซี่ยวหลานยืนอยู่เพียงลำพัง ความโกรธและความอิจฉาที่เก็บงำไว้ภายในกลับยิ่งเพิ่มพูน นางมองตามร่างของฮ่องเต้และเจียงหนิงที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจระงับได้ ในขณะที่บรรยากาศรอบข้างค่อย ๆ เงียบสงบลง

หลังจากนั้น ฮ่องเต้ได้นำพาเจียงหนิง เด็กสาวผู้ใสซื่อ มายังห้องของพระองค์ ขณะที่เข้ามาในห้อง เจียงหนิงแสร้งทำเป็นหวาดกลัวต่อผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าขึ้นมาในทันที “ท่านคือฮ่องเต้หรือ?” นางถามด้วยเสียงสั่นเครือ

ฮ่องเต้ยิ้มเยาะ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงท้าทาย “ตอนนี้เจ้ากลัวข้าแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้เจ้ายังดูหยิ่งยโสอยู่มิใช่หรือ?” พระองค์กล่าวขณะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าสวยของเจียงหนิง สายตาของเขาจับจ้องนางอย่างไม่ละสายตา

เมื่อเจียงหนิงได้ยินเช่นนั้น นางรีบคุกเข่าลงต่อหน้าฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว “ก่อนหน้านี้ ข้าหยิ่งยโส และพูดจาล่วงเกินท่าน ขอให้ท่านโปรดอภัย” นางกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อมและถ่อมตน

ฮ่องเต้หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตรัส “ข้าเพียงล้อเล่นกับเจ้า” พระองค์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เจียงหนิงจะกล่าวต่อด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าเป็นเพียงสาวใช้ ที่คอยทำความสะอาด จะคู่ควรเป็นสนมของท่านได้หรือ?”

ฮ่องเต้ยืนนิ่งก่อนจะตอบกลับอย่างแน่วแน่ “ข้าบอกว่าเป็นได้ก็เป็นได้ วันก่อนเจ้าวิ่งหนีข้าเร็วมาก ทำให้ข้าต้องเสียเวลาหาอยู่นาน”

เจียงหนิงจึงยิ้มบาง ๆ พร้อมกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่ประจบประแจง “ทว่าท่านก็สามารถหาข้าจนพบ เปรียบเสมือนทหารเทพจากสวรรค์ที่ลงมาช่วยชีวิตข้าเอาไว้”

ฮ่องเต้หัวเราะเบา ๆ และกล่าวอย่างหยอกเย้า “แสดงว่าสวรรค์ลิขิตให้เจ้ากับข้ามาคู่กัน” ทันใดนั้น พระองค์ก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ริมฝีปากของพระองค์จะสัมผัสริมฝีปากของเจียงหนิง

ขณะนั้น เจียงหนิงรู้สึกถึงความอบอุ่นและสัมผัสอันอ่อนนุ่มจากการบดจูบของฮ่องเต้ ใจของนางเต้นแรง แต่ในใจกลับคิดไปไกล “นี่แผนการของข้าสำเร็จไปอีกหนึ่งแล้วหรือ?” นางคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่ยังคงยืนด้วยท่าทีอ่อนโยนและใสซื่อ

หลังจากนั้น ฮ่องเต้ใช้วงแขนแกร่งของพระองค์ช้อนร่างบอบบางของเจียงหนิงขึ้นอย่างเบามือ ราวกับผ้าผืนบางในอ้อมกอดของพระองค์ จากนั้นฮ่องเต้ค่อย ๆ วางนางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล ผืนผ้าไหมของเตียงรองรับร่างกายของนางอย่างอ่อนโยน ขณะที่เจียงหนิงยังคงตกอยู่ในภวังค์แห่งความรู้สึกอันซับซ้อน

ขณะเดียวกันฮ่องเต้ก้มหน้าลงอีกครั้ง สายพระเนตรที่จับจ้องไปยังนางเต็มไปด้วยเสน่ห์และความปรารถนา ริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าของนาง ก่อนจะจูบนางอีกครั้ง ในความเร้าร้อนกำลังจะเริ่มขึ้นนั้น จู่ ๆ เจียงหนิงใช้มือเรียวบางผลักแผ่นหน้าอกอันกว้างใหญ่ของบุรุษตรงหน้าเบา ๆ

“ช้าก่อนเพคะ” เจียงหลิงกล่าวห้าม

“มีอันใดหรือ?” ฮ่องเต้ชะงักก่อนจะกล่าวถาม

“คือแผ่นหลังข้า มีรอยบาดแผล ซึ่งไม่น่ามอง หม่อยฉันเกรงว่าพระองค์เห็นแล้วจะไม่พอพระทัยเพคะ”

“อืม! ไม่เป็นอันใด เจ้าอย่าได้กังวนใจ เจ้าสามารถอยู่บนตัวข้างได้ ข้าอนุญาติ”

หลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้าจูบนางอีกครั้ง ทว่าคราวนี้เสื้อผ้าอาภรณ์ของทั้งสองถูกล่วงกองอยู่พื้น ฮ่องเต้ผู้มีพระพักหล่อเหล่า เชยชมเรือนร่างของเจียงหนิงอย่างเมามัน ก่อนแท่งหยกจะทิ่มแทงยังรูสวาทของนาง ร่างบิดเกร็งของเจียงหนิงทำให้ฮ่องเต้พอพระทัยยิ่งนัก ไม่นานจึงทำให้ฮ่องเต้เสียน้ำขาวขุ่นไปถึงสามน้ำตลอดทั้งคืน ทั้งสองแทบไม่เป็นอันพักผ่อน ด้วยความหลงไหลเพราะความเจ้าเสน่ห์ของเจียงหนิงจึงทำให้ฮ่องเต้เริ่มหลงรักนาง

ในตำหนักที่เต็มไปด้วยความหรูหรา เสียงของสิ่งของที่ถูกขว้างกระทบผนังดังก้องไปทั่ว เซี่ยวหลาน ผู้มีใบหน้างดงามแต่แฝงไปด้วยโทสะ กำลังยืนหอบหายใจด้วยความไม่พอใจ ร่างกายของนางสั่นสะท้านจากความโกรธ “เจียงหนิง! เจ้าบังอาจหลอกข้ามาตั้งนาน ข้าควรจะฆ่าเจ้าเสียให้สิ้นเรื่อง!” นางเสียงดังลั่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

สาวใช้คนหนึ่งที่ยืนก้มศีรษะอยู่ใกล้ ๆ รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น “พระสนมเซี่ยวเพคะ โปรดระงับโทสะก่อนเถิดเพคะ ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเจียงหนิงมาก หากท่านคิดขัดพระประสงค์ จะยิ่งทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัยนะเพคะ”

คำพูดนั้นดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟให้กับความโทสะในใจของเซี่ยวหลาน “เจ้าจะให้ข้าทนอยู่เช่นนี้หรือ! เจียงหนิงเหมือนจงใจมาดูถูกข้า! ข้าคือพระสนมเอกผู้ยิ่งใหญ่ กลับต้องมาทนเห็นนางได้ดีไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้หรือ?”

สาวใช้ยังคงก้มศีรษะต่ำ พลางพูดต่ออย่างระมัดระวัง “หากพระสนมหลี่ทราบเรื่องนี้ พระนางคงไม่ยอมเป็นแน่เพคะ พระสนมหลี่นั้นหัวโบราณ และพระนางมักจะกล่าวร้ายให้เจียงหนิงเสมอ หากท่านสนับสนุนพระสนมหลี่ นี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะกำจัดเจียงหนิงได้เพคะ”

คำพูดนั้นทำให้เซี่ยวหลานนิ่งคิด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโทสะเริ่มเปลี่ยนเป็นความคิดคำนวณ “พระสนมหลี่… ใช่แล้ว นางมักใช้สถานะทางครอบครัวของนางมากดข้าตลอดเวลา หากเรื่องนี้ไปถึงนาง ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่านางจะทำเช่นไร”

เซี่ยวหลานหยุดเคลื่อนไหว ความโกรธที่เคยแสดงออกอย่างชัดเจนเปลี่ยนเป็นความเงียบสงบ แต่ในดวงตาของนางยังคงเปล่งประกายแห่งความเคียดแค้น นางหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอย่างเงียบ ๆ ทว่าในใจยังคงเก็บความโกรธเกรี้ยว

เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในห้องโถงที่สว่างสดใสของตำหนักหลง แสงอาทิตย์ลอดผ่านหน้าต่างสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ฮ่องเต้ประทับนั่งอยู่ข้างเจียงหนิง พระพักตร์ของทั้งสองเต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะและการสนทนาแสนหวานดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

“ท่านจะชมข้า ว่าข้าสวยใช่หรือไม่?” เจียงหนิงกล่าวถามด้วยสายตาที่อ่อนหวานและแฝงด้วยความขี้เล่น

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรนางด้วยสายตาที่อ่อนโยน “เจ้านี่ฉลาดนัก จึงสามารถสอนได้ ข้าเพียงสอนเจ้าเพียงเล็กน้อย เจ้าก็เข้าใจเร็วเสียจริง”

เจียงหนิงยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะเอียงหน้าเข้าใกล้ฮ่องเต้ “งั้นสิ่งที่ท่านสอนข้าเมื่อคืนนี้ ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจนัก เหตุใดท่านไม่สอนข้าอีกสักครั้งได้หรือไม่เพคะ?”

ฮ่องเต้ฟังแล้วคลี่ยิ้ม พลางเอื้อมพระหัตถ์เชยคางนางขึ้น และก้มลงจูบเบา ๆ บนริมฝีปากของนาง เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและหลงใหล ก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน

ในขณะนั้น ขันทีก็เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบและน้อมคำนับต่ำ “พระสนมหลี่ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่17 ทวงความยุติธรรม

    เมื่อทหารยามได้ยินเช่นนั้น ก็เริ่มลังเล กลัวว่าตนจะมีความผิดหากขัดขวาง จึงยอมให้เจียงหนิงและไป๋เหม่ยเข้าไปภายในตำหนักของเซี่ยวหลานแผนการของเจียงหนิงเป็นไปตามที่วางไว้ ปิงปิงสามารถสร้างความวุ่นวายและแทรกซึมเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกขังไว้ในตำหนักเซี่ยวหลานได้ แต่เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ปิงปิงก็กลับมายังตำหนักของเจียงหนิงด้วยใบหน้าเศร้าหมองและท่าทางอิดโรยเจียงหนิงรีบก้าวเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าช่วยทุกคนได้หรือไม่? และสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”ปิงปิงก้มหน้าด้วยความโศกเศร้า “สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนักเพคะ ข้าเข้าไปช่วยมาได้เพียงสองคนเท่านั้น นอกนั้นถูกฆ่าตายหมดแล้วเพคะ”ไม่นานนัก อาซีและน้องสาวของนางก็เดินเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางอ่อนแรงและซีดเซียว เจียงหนิงรีบสั่งให้สาวใช้ไปนำยามาให้อาซีดื่มเพื่อฟื้นฟูร่างกาย แต่ก็ไม่ทันการณ์ ร่างของอาซีที่อ่อนแอมากอยู่แล้ว ทรุดลงและสิ้นใจต่อหน้าเจียงหนิง น้องสาวของอาซีร้องไห้เสียงดังด้วยความเสียใจที่พี่สาวของตนต้องจากไปเจียงหนิงมองภาพนี้ด้วยความสลดใจ นางรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยอาซีได้ แม้ว่านางจะพยายามเต็มที่แล้ว ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นทำ

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่16 ชิงไหวชิงพริบ

    เซี่ยวหลานแสร้งทำเป็นยิ้มเยาะ “ท่านคงพูดล้อเล่นกับข้าใช่หรือไม่เพคะ” นางหันไปมองเจียงหนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล แล้วถามอย่างท้าทาย “เจ้าเห็นว่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”เจียงหนิงตอบด้วยท่าทางสุภาพ “ในด้านของรูปลักษณ์ ในความงามไม่มีผู้ใดในวังเทียบพระสนมเซี่ยวได้”แม้คำตอบจะฟังดูเป็นการยกย่อง แต่เซี่ยวหลานยังไม่หยุดเยาะเย้ย นางมองเจียงหนิงด้วยสายตาจับผิด “ข้าไม่ได้เจอเจ้าเพียงแค่สิงกว่า เหตุใดเจ้าถึงดูซีดเซียวเช่นนี้เล่า เจ้าเองก็อายุน้อยกว่าข้าตั้งหลายปี ไยหน้าตาถึงดูแก่กว่าข้ามากเช่นนี้เล่า หรือช่วงนี้เจ้ารับใช้ฮ่องเต้มากเกินไปใช่หรือไม่?”คำพูดที่เสียดแทงของเซี่ยวหลานทำให้บรรยากาศอึมขรึม แต่เจียงหนิงกลับยิ้มบาง ๆ นางไม่ตอบคำใด ๆเซี่ยวหลานหันกลับมาหาฮ่องเต้ด้วยรอยยิ้มแฝงนัยยะ “ท่านไปที่ตำหนักข้าจะดีกว่าเพคะ ให้สนมเจียงได้พักผ่อนบ้าง จะได้ไม่ทำงานหนักจนเกินไปเพคะ”ฮ่องเต้พยักหน้าเห็นด้วย “อืม” ก่อนจะก้าวเดินตามเซี่ยวหลานไปอย่างเงียบ ๆ ทิ้งเจียงหนิงไว้เพียงลำพังหลังจากที่ทั้งสองเดินจากไปแล้ว ไป๋เหม่ยก้าวเข้ามาใกล้เจียงหนิงด้วยสีหน้าครุ่นคิด นางกระซิบเบา ๆ “ข้าได้กลิ่นยาจากตัวพระสนมเซี่ยวมาแต่ไกล

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่15 ท้าทาย

    “เป็นอย่างไรบ้างเพคะ หม่อมฉันใส่ชุดนี้สวยหรือไม่? นี่คือชุดที่ท่านมอบให้ข้าเมื่อวันก่อน” เซี่ยวหลานกล่าวพร้อมปรายตามองเจียงหนิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฮ่องเต้ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นจากจานอาหารและหันมามองเซี่ยวหลานก่อนจะเอ่ยปากชื่นชม “เจ้าใส่ชุดนี้ช่างดูดียิ่งนัก”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยวหลานรู้สึกปลื้มใจจนฉีกยิ้มอย่างไม่กระดากอาย นางเต็มไปด้วยความสุขที่ได้รับคำชมจากฮ่องเต้ “ข้ามีชุดนอนที่ใช้เนื้อผ้าน้อยที่สุด จะให้ท่านดูด้วยเพคะ” เซี่ยวหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงยั่วยวนฮ่องเต้หัวเราะเบา ๆ และตอบกลับ “เดี๋ยวคืนนี้ข้าจะไปดู”เซี่ยวหลานไม่ยอมหยุดแค่นั้น นางหันมามองฮ่องเต้พร้อมส่งสายตาเย้ายวน “เหตุใดต้องรอให้ถึงค่ำคืนนี้เล่าเพคะ?”ฮ่องเต้หันไปมองเจียงหนิงเพียงชั่วครู่ เมื่อเจียงหนิงเห็นท่าทีเช่นนั้น นางจึงลุกขึ้นทันที “ข้านึกได้ว่ามีธุระที่จะต้องไปทำ ข้าขอตัวก่อนเพคะ” เจียงหนิงลุกขึ้นย่อคำนับต่อหน้าฮ่องเต้ด้วยความสงบขณะที่เจียงหนิงกำลังจะเดินออกจากห้อง เซี่ยวหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ข้ามาทำให้เจ้าไม่พอใจหรือไม่? เป็นอย่างไรบ้างที่โดนไล่ออกจากห้องเช่นนี้?”เจียงหนิงหันหลังเดินออกไป นางหยุดชั่

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่14 เอาคืน

    หลินมู่อย่างแรงด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้านี้บังอาจยิ่งนัก ฆ่าลูกข้าถึงสองคน แล้วกล้าใส่ร้ายสนมเจียงอีก! ข้าคิดว่าเจ้าจะดีกว่าทุกคน เห็นหน้าใสซื่อ แต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ ทหาร นำตัวนางผู้นี้ไปขังไว้ในห้องเย็น ห้ามมิให้นางออกมาจนกว่านางจะสิ้นชีพ!”หลินมู่ที่ยังตกใจจากการถูกตบ รีบคลานไปเกาะชายเสื้อของฮ่องเต้พลางอ้อนวอน “หากข้าต้องไปอยู่ในห้องเย็น ข้าคงตายแน่ ๆ โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด!”ฮ่องเต้กลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าเคยบอกว่าเจ้าแข็งแกร่ง ออกรบมานักต่อนัก ไยคราวนี้กลับมาร้องขอความเมตตาเช่นนี้? เจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก และข้าจะปลดพ่อเจ้าออกจากตำแหน่งในไม่ช้านี้ นำตัวนางออกไป!”หลังจากนั้น ฮ่องเต้หันกลับมาหาเจียงหนิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เดี๋ยวข้าจะกลับมา ข้าจัดการธุระให้เสร็จสิ้นก่อน ถิงถิง เจ้าดูแลสนมเจียงต่อเถิด”เมื่อฮ่องเต้ก้าวพ้นประตูห้องไป เจียงหนิงพลันลุกขึ้นนั่งด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ นางรู้ดีว่าแผนการของตนเองได้ผลอย่างสมบูรณ์เจียงหนิงนั่งเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มขณะมองถิงถิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยความสงสัยในใจ นางจึงเอ่ยถามเบา ๆ “เหตุใดเจ้าจึงช่วยข้าหรือ?”ถิงถิงยิ้ม

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่13 กลอุบาย

    ในเช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหนิงยืนอยู่บริเวณทางเดินในวังหลวง สายตาของนางจับจ้องไปที่หลินมู่ซึ่งกำลังเดินตรงมาทางนางพร้อมกับท่าทางมุ่งมั่น สาวใช้ของเจียงหนิงที่ยืนอยู่ข้างกายนางเหลือบมองหลินมู่และกล่าวขึ้นด้วยเสียงเบาแฝงความเย้ยหยัน “เมื่อฮ่องเต้กลับจากการล่าสัตว์ในป่าคราวก่อน ก็ไม่เคยเสด็จไปหาสนมหลินอีกเลยเพคะ”เมื่อหลินมู่เดินเข้ามาใกล้ เจียงหนิงและสาวใช้ต่างพูดคุยและจ้องมองหลินมู่ ทำให้หลินมู่รู้สึกถึงความดูถูกที่ซ่อนอยู่ในแววตาของทั้งสอง นางหยุดเดินและเอ่ยถามทันทีด้วยความโกรธเกรี้ยว “พวกเจ้ากำลังนินทาข้าอยู่หรือไม่? หากใช่ก็ระวังปากพวกเจ้าไว้ให้ดี มิฉะนั้น ข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้น ๆ”สาวใช้เจียงหนิงได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตกใจ แต่ยังไม่ทันได้ตอบ เจียงหนิงกลับยิ้มเยาะและกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เมื่อคืนเจ้าโกรธเกรี้ยวฮ่องเต้มากมิใช่หรือ จึงหยิบดาบฟาดฟันสิ่งของไปทั่ว? หากเจ้ารู้สึกเบื่อไยไม่รายรำเพลงดาบให้สบายใจเล่า เจ้ามีฝีมือเรื่องเพลงดาบมิใช่หรือ? ข้าอยากชมเป็นขวัญตายิ่งนัก”คำพูดนั้นทำให้หลินมู่โกรธจัด นางกัดฟันแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม “เจ้าบังอาจมากไปแล้ว! เห็นข้าเป็นตัวตลกม

  • รอยแค้นแห่งรัก   ตอนที่12 เข้าวัง

    หลินมู่ได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม “พระสนมเซี่ยว โปรดระงับโทสะก่อนเพคะ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมือเช่นไร พระสนมเจียงมีเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายมากมาย ข้าตามเกมนางไม่ทันเพคะ”เซี่ยวหลานขมวดคิ้ว ขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม พลางถามเสียงเข้ม “เรื่องอันใดเจ้าสู้นางมิได้หรือ?”เมื่อหลินมู่ได้ยินคำถามนี้ นางก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำเสียงของนางสั่นเทาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบ “พระสนมเจียง... ตั้งครรภ์เพคะ”คำตอบนั้นทำให้เซี่ยวหลานตะลึงทันที นางยืนนิ่ง ความคิดวิ่งวุ่นในหัว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเมื่อครู่พลันแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ ความรู้สึกสับสนและหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจของนาง นี่เป็นเหตุการณ์ที่นางไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น การที่พระสนมเจียงตั้งครรภ์จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่นางเคยวางแผนเอาไว้ในตำหนักอันเงียบสงบ ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์อย่างสง่างาม โดยมีเจียงหนิงนั่งอยู่ข้างกาย ท่าทางของฮ่องเต้ดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อพระองค์เหลือบมองสนมที่กำลังตั้งครรภ์ ด้วยสายตาแห่งความห่วงใย“ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ต้องดูแลตนเองให้ดี ยิ่งอาหารการกินก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ” ฮ่องเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แต่ยัง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status