หน้าหลัก / โรแมนติก / ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก / ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนที่ 3

แชร์

ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนที่ 3

ผู้เขียน: ACHICHI
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-12 17:33:14

ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก

ตอนที่ 3

         หนึ่งชั่วโมงต่อมา

         สัญญาสองฉบับอยู่ตรงหน้าเราทั้งคู่ที่นั่งกันคนละฝั่งของโต๊ะกินข้าว ฉันเป็นคนพิมพ์มันเองกับมือ และเป็นคนระบุรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อการทำกิจกรรมในอนาคตลงในสัญญาด้วย

แน่นอนคนตรงหน้าไม่รู้หรอกว่าเรื่องพวกนั้นล้วนมีนัยยะแอบแฝง

            เก๋าเงียบอยู่นานเลื่อนสายตาลากอ่านผ่านสัญญาอย่างละเอียดรอบคอบ ยังเรียนมหา’ลัยอยู่แท้ ๆ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กับผู้ใหญ่ยังไงยังงั้น

            “ขาดไปข้อนึง”

            “อะไร?”

            “ค่าน้ำมัน”

            “ฉันไม่ได้จะให้เธอมาอยู่ด้วยกันสักหน่อย”

            “แต่ผมก็ยังต้องเดินทาง ที่บอกว่าถ้าให้มาอยู่ด้วยจะบวกเพิ่มนั่นก็หมายความว่ามันนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายปกติ แต่ค่าใช้จ่ายปกติก็ยังคงเดิมซึ่งแน่นอนว่ามีค่าน้ำมัน”

            “จะเก็บทุกเม็ดเลยรึไงถามจริง​?”

            “ขอเดือนละพันห้าก็พอ หยวนให้”

            หยวนกับผีน่ะสิ!

            นัยน์ตาสีดำสนิทเลื่อนขึ้นสบ พร้อมทั้งดันสัญญามาตรงหน้าฉันที่สุดท้ายแล้วก็ต้องถอนหายใจเสียงดัง คว้าเอาปากกามาเติมรายละเอียดข้อสุดท้ายลงไป

            พอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องกันด้วยสีหน้าราวกับจะข้องใจในอะไรบางอย่าง

            “พี่ไม่ทำงานหรือไง? ถึงได้มีแพลนเยอะขนาดนี้?”

            “ปีนี้พักผ่อน” ฉันเลี่ยงที่จะสบตาตอนตอบคำถาม แสร้งก้มหน้าลงชื่อตรงส่วนท้ายของหน้าสัญญา ก่อนจะเลื่อนมันกลับไปให้อีกฝ่าย

“ไม่มีสามี?”

“ไม่”

“…”

คู่สัญญาเงียบต่ออีกหลายวินาที แต่ท้ายที่สุดก็คว้าเอาปากกาไปเซ็นที่ส่วนท้ายของเอกสารโดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

ปากกาถูกวางลงบนโต๊ะ เราประสานสายตากันเงียบเชียบไร้ซึ่งคำพูด ตัวเขาเองก็คงกำลังมีอะไรให้คิด แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่ต่างกัน

ต่อจากนี้ ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่อยู่กับฉันก่อนที่ฉันจะจากโลกนี้ไป เขาจะเป็นเพื่อนคอยทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำ อย่างน้อยก่อนจากไปกานดาคนนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรพวกนั้นคนเดียว ยังไงก็ไม่มีอะไรจะให้เสียอยู่แล้ว เสียอย่างเดียวก็คือเสียเงิน

เงินที่หามากับมือเรื่องอะไรจะไม่ใช้ให้หมดก่อนตาย…

ถึงเก๋าจะเป็นคนประหลาดอยู่สักหน่อย แต่ท่าทางก็ดูร้อนเงินจริงอย่างปากว่า แม้จะขัดใจในความหน้านิ่งพูดตรง หากมันก็ให้ความรู้สึกสบายใจอยู่ลึก ๆ เอาง่าย ๆ ก็คือดูไม่เสแสร้ง

คงด้วยฉันมีความกังวลใจเป็นทุนเดิมถ้าหากคนตรงหน้าเป็นอีกแบบ แบบที่เรียกได้ว่าเอาอกเอาใจขั้นเทพ อย่างนั้นจะยิ่งมองไม่ออกว่าใจจริงกำลังคิดอะไร แบบเก๋าดูง่ายกว่าเป็นไหน ๆ

ซ้ำหลักแล้วจุดประสงค์ของสัญญาที่เขียนขึ้น ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครมาเอาใจ แค่ไม่อยากจะโดดเดี่ยวก่อนตายก็เท่านั้น แบบเด็กนี่ก็ดีเหมือนกัน เราก็แค่ทำงานด้วยกันโดยไม่มีเรื่องของความรู้สึกเข้ามาข้องเกี่ยว ปากหมาแบบนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่จะได้ไม่รู้สึกผูกพัน

“เอายัง?”

“…”

เสียงของอีกฝ่ายทำให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์ ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งพยักหน้าเรียกเพื่อส่งสัญญาณบางอย่าง  พอเห็นฉันนิ่งเจ้าตัวก็ขยายความ

“ทำความรู้จักไง”

“ตอนนี้เลยเหรอ?”

ก็น่าขัน ฉันที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาเตรียมจะเสียเงินก้อนโตตอนนี้กลับอึกอักตะกุกตะกักไม่กล้าสบตา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อถึงอะไร พอเห็นว่าฉันไม่ลุกเจ้าตัวก็เดินอ้อมโต๊ะมาหยุดลงตรงหน้า

“จะตีสามแล้ว พรุ่งนี้ผมมีเรียน”

“…”

เขาพูดมันก็ไม่ผิดหรอกตอนนี้จะตีสามแล้วจริง ๆ

ไม่กี่นาทีต่อมาฉันก็นอนตัวสั่นอยู่บนเตียง มีร่างใหญ่โตโน้มตัวเข้าหา ดวงหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยร่องรอยของบาดแผลเคลื่อนเข้าใกล้จนลมหายใจเราต่อกัน สายตาไร้ความรู้สึกจ้องนิ่ง ก่อนริมฝีปากเราทั้งคู่จะประกบกันแผ่วเบา

ลมหายกรุ่นร้อนของฉันติดขัดเอาดื้อ ๆ ทั้งยังเผลอหลุดทำเสียงประหลาด หัวใจเต้นตูมตามด้วยอารามตื่นเต้นตอนที่สัมผัสอุ่นร้อนสอดแทรกผ่านกลีบปากเข้ามา มือสองข้างขยุ้มอยู่ที่ผ้าปูเตียง เลือดลมสูบฉีดรุนแรงจนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นของร่างกาย

คนด้านบนไม่ได้มีความเก้อกระดากขัดเขิน ยังคงทาบทับริมฝีปากบดจูบสนิทแนบแน่น ช่างเป็นการจูบที่หนักแน่นมั่นคง…

เก๋ายังคงหายใจได้เหมือนปกติ ในขณะที่ลมหายใจของฉันยามนี้ขาดห้วงผ่อนหนักผ่อนเบาไม่ต่างอะไรจากปลาขาดน้ำ

และตอนที่สัมผัสหยาบโลนบีบนวดเข้าหาทรวงอกข้างหนึ่ง ฉันกลับเป็นฝ่ายผลักแผ่นอกของเก๋าออกห่างอย่างแรง พร้อมกันก็รีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าที่คงจะฉายชัดว่ากำลังอยู่ในภาวะสติแตก

คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นอาการของฉัน หากแต่ไม่มีทีท่าจะเข้ามาคุกคาม

มันก็น่าอายตรงที่ตอนนี้ฉันไม่สามารถระงับสีหน้าตื่นตระหนกของตัวเองไว้ได้ ความชื้นของเหงื่อ อัตราการเต้นของหัวใจทำให้รู้แน่ว่าการหลับนอนกับผู้ชายแปลกหน้าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใจคิด

แม้ตอนแรกจะคิดมาแล้วว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ แต่เอาเข้าจริงก็เกิดจะกลัวขึ้นมาดื้อ ๆ เหตุผลคงเป็นเพราะเราเพิ่งจะรู้จักกันได้แค่สามชั่วโมงเท่านั้น

“เอาไง?”

กระอักกระอ่วนอยู่แค่อึดใจ คนตรงหน้าก็ทำลายความเงียบขึ้น  เก๋าเขย่าข้อมือเตือนเรื่องเวลาอีกครั้งเพื่อเป็นการเร่งไปในตัว

“เธอมีถุงยางเหรอ?”

โอเค ตอนนี้ก็พูดมั่วซั่วดักทางยื้อเวลาไปก่อนแล้วกัน

“ผมทำตามแคมเปญยืดอกพกถุงตลอด” คู่สนทนาตั้งท่าจะล้วงกระเป๋ากางเกง จนฉันต้องรีบยกมือขึ้นเบรก

“ดะ… เดี๋ยว ๆ”

“…”

“แล้วเธอตรวจ ATK หรือยัง?”

“ไรนะ?” คนฟังขมวดคิ้วงง ถึงฉันก็งงตัวเองพอกัน แต่ต้องแสร้งทำหน้าจริงจังเข้าไว้

“ต้องตรวจก่อนสิป้องกันไว้ก่อน ขืนเธอติดโควิดขึ้นมาจะทำยังไง?”

“แลกลิ้นกันขนาดนั้น ไม่ต้องตรวจแล้วมั้ง”

คนหน้าไม่อายไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ฉันกลับเป็นฝ่ายอึกอักพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังลีลาการตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา แต่ก็เหมือนเดิมที่คนพูดดูจะไม่ได้คิดอะไร เอาแต่อ้าปากหาวราวกับง่วงงุนเต็มที

“ต่อได้ยัง?”

“ฉันว่าเธอตรวจ ATK ก่อนดีกว่า”

“ถามจริง?”

“ตอบจริง”

“ป่านนี้ร้านยาปิดหมดแล้วจะให้ไปหาที่ไหน?”

และนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าหงุดหงิดใจของอีกฝ่าย ซึ่งเข้าทางอย่างที่หวังอยากจะให้เป็นพอดี

“ถ้างั้นเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้แทนแล้วกัน”

“มันเสียเวลา”

“ไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอก อีกอย่างเธอจะมีอารมณ์กับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ยังไง?”

“จะรู้จักมานานหรือเพิ่งรู้จักก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาตรงไหน”

“…”

“ลองจับดูไหม? จะได้รู้ว่าใช้งานได้จริง”

“จะบ้าเหรอ?” ฉันแหวใส่เสียงดังเมื่อไอ้คนชอบโชว์เอาแต่เสนอจะให้ดูนั่น ให้จับนี่อยู่ได้

“ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่แข็ง ผมแข็งได้ และแตกได้ด้วย”

“…” มันชักจะตรงไปตรงมาเกินไปแล้ว!

“สัญญาว่าจะไม่ปล่อยพี่ทิ้งไว้กลางทาง”

“ฉันไม่ได้…”

“จะไม่มีเหตุการณ์ที่ว่าผมขึ้นสวรรค์ทุกรอบ แต่พี่ยังไม่ทันได้ขึ้นบันไดแน่”

“พอก่อน ๆ”

ฉันพยายามจะยกมือขึ้นห้าม เพราะยิ่งพูดมันยิ่งเข้าป่าเข้าดงไปกันใหญ่ แต่คนตรงหน้าก็เหมือนจะไม่เห็นอาการกัน ยังคงพูดต่อได้ราวกับกำลังคุยเรื่องประเภทที่ว่า ‘เย็นนี้กินอะไรดี?’แต่มันไม่ใช่ไง!

“หรือถ้ากลัวเจ็บ… ไซซ์เราคงพอดีกันไม่น่ามีปัญหา…”

            นัยน์ตาคมชำเลืองมองต่ำลงที่กึ่งกลางกายของฉัน พร้อมทั้งขยายความต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ของพี่ก็น่าจะใหญ่อยู่เหมือนกัน”

โอเค! พอกันที!

“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากันก็แล้วกัน เธอไปหาซื้อชุดตรวจ ATK มาก่อน ยังไงวันนี้ก็คงทำกันไม่ได้”

ฉันละล่ำละลักวกกลับเข้าประเด็นเดิมด้วยเสียงตะกุกตะกัก สองข้างแก้มเห่อร้อนไปหมด เห็นสายตาของอีกฝ่ายหรี่มองอย่างไม่แน่ใจ ก็ยิ่งต้องรีบเอ่ยต่อ

“ตรวจก่อนดีกว่าจะได้ปลอดภัย”

“เอาไงก็เอา นึกว่าอยากจะทดลองงานสักยก” สุดท้ายเก๋าก็พยักหน้ารับจนได้

“ไม่เป็นไร ฉันก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”

“งั้นผมกลับก่อน ตอนเช้ามีเรียน”

“…”

ฉันแสร้งพยักหน้ารับอย่างเข้าอกเข้าใจ รู้สึกโล่งอกขึ้นมาได้ เพราะเก๋าดูจะไม่ใช่พวกเข้าใจอะไรยาก เผลอ ๆ อาจรู้ด้วยซ้ำว่าฉันคิดอะไรอยู่ในใจ แม้จะยกข้ออ้างมั่วซั่วขึ้นมาพูด แต่ใครมันจะบ้ามาตรวจ ATK ก่อนทำเรื่องอย่างว่ากัน

โอเค… อย่าเพิ่งด่าว่าฉันเล่นตัวหรืออะไรแบบนั้นเลย

ตอนแรกก็ใจเต็มร้อยอยู่หรอก แต่เพราะไม่เคยมีอะไรกับคนแปลกหน้าอย่างปัจจุบันทันด่วน หรืออะไรแบบที่เขาเรียกกันว่าวันไนต์สแตนด์ แม้นี่จะไม่ใช่วันไนต์ และข้อสัญญาระหว่างเราก็ผูกมัดกันหลายเดือน

กระนั้นคนมันเพิ่งจะรู้จักกันจะให้มาโรมรันพันตูกันเลยก็ออกจะเกินไปหน่อยในความรู้สึกส่วนลึกของฉัน จะว่าหัวโบราณก็เอาเถอะ เพราะงั้นรอก่อนก็ได้ ไม่เห็นจะต้องรีบร้อน…

ต่อให้ข้างในจะแห้งสนิทชนิดที่ว่าโฆษณาเจลหล่อลื่นต้องเข้าแล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นแบบนี้มานาน แห้งต่ออีกนิดอีกหน่อยคงไม่ตาย สรุปก็คือฉันจะไม่ทิ้งเงินแสนฟรีแน่ แค่ขอเวลาทำใจอีกนิดนึง…

คนตรงหน้าขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คว้าเอาเสื้อมาสวม คว้ากระเป๋าสตางค์ คว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์ และอย่างสุดท้ายที่เก็บไปด้วยคือหนังสือคู่สัญญา

“พรุ่งนี้จะให้ผมมาหาพี่กี่โมง?”

“ค่ำ ๆ ก็ได้”

“เจอกัน”

เก๋าพยักหน้ารับ สายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ชั้นวางของซึ่งมีอะไรบางอย่างวางกองอยู่ตรงนั้น

อะไรบางอย่าง… ซึ่งฉันยังไม่ได้เก็บให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน นอกจากแผงยานอนหลับแล้ว กระดาษแผ่นนั้นก็ยังไม่ได้เก็บซ่อนให้มิดชิดเหมือนกัน

เก๋ายังคงทิ้งสายตามองต่ออีกอึดใจ แต่สุดท้ายก็หมุนตัวเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองอีก

เสียงประตูปิดลงแล้ว แต่ก้อนเนื้อที่กึ่งกลางอกยังเต้นโครมครามไม่หยุด ไม่รู้เป็นเพราะเด็กนั่นหน้าตาดี หรือเป็นเพราะอารามตื่นตกใจของตัวฉันเองกันแน่ ไม่ก็อาจจะสองอย่างประกอบเข้าด้วยกัน

ฝ่ามือชื้นเหงื่อสัมผัสเข้าที่ผิวแก้มระอุร้อนสองข้าง จนตอนนี้มันก็ยังไม่ลดอุณหภูมิลง สายตาเบนมองไปยังโต๊ะตัวเดิม ตรงนั้นเหลือหนังสือสัญญาอีกหนึ่งฉบับ

แม้จะอยากปรึกษาใครสักคนสำหรับสิ่งที่กำลังจะทำ แต่ชีวิตนี้ก็ไม่เหลือใครให้ปรึกษาได้อีกแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ใช้ชีวิตแบบที่เรียกได้ว่าไร้สีสัน การดำเนินไปในแต่ละวันล้วนจืดชืด น่าเบื่อซ้ำซากจำเจ ทุกอย่างอยู่ในกรอบมาเสมอ ผู้หญิงแบบกานดาคนนี้จะกล้าทำอะไรหลุดโลกแบบที่คนปกติคงไม่มีใครคิดจะทำ

ฉันเพิ่งทำสัญญาตกลงเลี้ยงดูผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่สามชั่วโมง แถมผู้ชายคนนั้นยังขี้งกหน้าเงินแบบที่ไร้ความเหนียมอาย ที่เห็นดีก็มีแค่รูปร่างหน้าตาที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แบบที่คงจะไปหาใครเลี้ยงก็ได้ แต่หมอนั่นกลับเอ่ยปากกับฉันคนนี้

และบังเอิญเหลือเกินที่ประจวบเหมาะเจาะกับสิ่งที่ฉันกำลังต้องการพอดิบพอดี

ในสถานการณ์ประหลาดแบบนี้ ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่คนอื่นคงจะคิดไปว่าทำอะไรแปลก ๆ แต่อีกฝ่ายก็นิสัยพอกัน ถึงจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคิดอะไร แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าชีวิตฉันในยามนี้มันไม่มีอะไรจะเสีย

            ฉันจะทำสิ่งที่อยากจะทำทุกอย่างกับเด็กนั่น…

ผู้ชายที่บังเอิญเจอที่ข้างทาง…

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนพิเศษ 3 THE END

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 3 หลายปีต่อมา เพราะมีบ้านแล้วและเพราะฉันว่างมากจากอาชีพเดิมคือการเป็นเทรดเดอร์ นอกจากวัน ๆ จะต้องนั่งเฝ้าจอดูราคาหุ้น ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา ฉันก็ว่างแหละ ไม่ก็พยายามจะว่าง…ช่วงนี้ฉันตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน จัดการทำข้าวกล่องส่งขายตามตลาดเช้าเพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้เดิมที่มันก็ไม่ได้แย่อะไร และกว่าข้าวกล่องพวกนี้จะเสร็จก็กินเวลาเกือบเจ็ดโมงหากเป็นวันธรรมดาในเวลาเดียวกันนี้ จะได้เห็นร่างสูงของเก๋าในเชิ้ตกับสแล็กส์เรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงาน แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ได้เห็นคนที่ว่าอยู่ในสภาพดังกล่าวฉันอาจจะลืมเล่าไปถึงเรื่องที่ว่า คนเป็นสามีเรียนจบวิศวะเครื่องกลมา และตอนนี้กำลังทำงานควบคุมออกแบบ ติดตั้งเครื่องจักรกลที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถึงหน้าตาเก๋าเหมือนไม่ได้เรื่องสักเท่าไร แต่อย่างที่เห็นว่าพอจะได้เรื่องอยู่บ้าง วันนี้เป็นวันหยุดของเก๋า แต่กลับได้ยินเสียงคนที่ว่าดังมาจากทางห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้านตั้งแต่เวลาย่ำรุ่ง และไม่ใช่เสียงเก๋าคนเดียว… แต่ม

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนพิเศษ 2

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 2 “คุณเป็นยังไงบ้าง?” น้ำเสียงติดขัดเอ่ยถามขึ้นก่อน สายตาจะเลื่อนขึ้นสบในวินาทีต่อมา “ชีวิตฉันตอนนี้ดีมาก ดียิ่งกว่าปีไหน ๆ”ฉันเอ่ยตอบในทันทีด้วยรอยยิ้ม แม้จะแฝงไปด้วยอารมณ์เกลียดขี้หน้าเหลือประมาณก็ตามที “ผมคิดถึงคุณนะ” คงเพราะสายตาสื่อความนัยแบบที่แค่มองก็รู้ว่าคิดอะไร ส่งผลให้รอยยิ้มของฉันคลายลงโดยอัตโนมัติ พึมพำตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะเค้นขู่ลอดไรฟัน “เกิดจะคิดถึงขึ้นมาได้เชียว” “เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไว้ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันไหม? ผมเป็นเจ้ามือเอง ยังไงก็คนคุ้นเคย…” คำว่า ‘คนคุ้นเคย’ กับการแสดงออกผ่านสายตาน่ารังเกียจ ทำเอาฉันรู้สึกอยากจะขย้อนอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ธนาก้าวเข้ามาอีกก้าวแล้วควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชันสำหรับใช้ติดต่อ “พลอยคงจะเสียใจถ้ารู้ว่าคุณทำตัวแบบนี้” คนฟังระบายรอยยิ้มน่ารังเกียจอีกครั้ง แล้วกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งฟังยิ่งทุเรศหู “พลอยไม่รู้หรอก” แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มา

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนพิเศษ 1

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 1 เขาว่ากันว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรมักจะได้อย่างนั้น ผลของการกระทำมักจะเข้าเล่นงานแบบไม่ทันให้ตั้งตัว… ห้างสรรพสินค้า S ฉันกับเก๋าเราออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมตัวย้ายเข้าสู่เรือนหอของเราทั้งคู่ หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ร่วมสองเดือน และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ชายที่เมื่อแรกเจอเราทั้งคู่กัดกันยิ่งกว่าอะไร… “ที่รัก” “…” “ที่รัก” “…” “กานดา” “ฮะ?” เพราะฉันกำลังให้ความสนใจกับของตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่งที่ดูแล้วเหมาะน่าจะเอาไปตั้งในห้องนอนของเรา เลยไม่ทันได้ยินเสียงของคนด้านหลัง หันไปมองก็พบว่าคนเรียกกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกง สีหน้าเบื่อหน่ายฉายชัด “ทำไมจะต้องสรรหาสรรพนามอื่นมาเรียกกันด้วย? ผมเรียก พี่ก็ไม่หันอยู่ดี” “เมื่อกี้ไม่ได้ยิน เรียกอีกที ๆ” “…” ฉันที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำผิดข้อตกลงเรื่องล่าสุดระหว่างเราจำต้องรีบหมุนตัวกลับอีกครั้ง แสร้งทำเป็นดูของตกแต่งชิ้

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนที่ 52

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 52 สามปีต่อมา ฉันหมดแรงทิ้งเข่าทรุดกายลงตรงจุดซึ่งมีธงปักอยู่บ่งบอกว่าเราได้มาถึงจุดสูงสุดของยอดเขาซึ่งอยู่ทางแถบภาคตะวันตกของประเทศเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนนี้ลมพัดแรงจนผมเผ้าที่รวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังสะบัดปลิวพลิ้วไหว ขายาวของคนที่มาด้วยกัน หยุดยืนลงที่ด้านข้าง เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเก๋านั้นไม่ได้ดูหมดสิ้นเรี่ยวแรง กระทั่งแสดงออกว่าเหนื่อยสักนิดก็ยังไม่มี คนเป็นแฟนยืนทิ้งเข่า ยกขวดน้ำขึ้นจิบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ สายตาทอดมองไปยังเบื้องหน้าซึ่งเป็นภาพของเหล่าภูเขาสลับซับซ้อนเรียงรายมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนนัยน์ตาซึ่งหรี่เล็กน้อยเพราะแรงลมจะเลื่อนต่ำลงมองสภาพของฉันด้วยสายตาที่บ่งชัดว่ากำลังสมน้ำหน้ากัน โอเค…ฉันมันบ้าเองที่อยากจะเดินป่าขึ้นเขาขึ้นดอยให้ได้ และตอนแรกเก๋าก็ไม่เห็นด้วยกับการทำอะไรประเภทนี้ถึงแม้ฉันจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำก็จริง แต่เพราะยังไม่เคยทำกิจกรรมอย่างนี้มาก่อนเลยทำให้คนเป็นแฟนมีทีท่าไม่เห็นด้วยอย่างที่บอกเก๋าค้านว่า อย่างน้อยเราก็ต้องมีประสบการณ์เดินทางไกล หรือไม่ก็ต้อ

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนที่ 51

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 51 หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายร้อนผ่าวของฉันนอนทาบทับคร่อมเรียวขาอยู่เหนือเรือนร่างเปลือยเปล่าของเก๋า ก้นสองข้างกำลังถูกฝ่ามือหนาจับสับโยกเข้าหาความแข็งขืนของตัวตนที่ผงาดกร้าวตั้งเป็นลำตอนนี้เป็นเวลาตีห้าเกือบจะหกโมงเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น แต่แค่เรานอนกอดนอนเกยกันนิดเดียวก็เกิดจะปลุกเปลวเพลิงให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาได้ เสียงร่องเนื้อรูดขึ้นลงตามจังหวะการทิ้งสะโพกเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในขณะนี้ คนที่นอนอยู่ด้านล่างคลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอ หอมเข้าที่ข้างแก้มไม่หยุดมาตั้งแต่เราเริ่มบรรเลงบทรักเมื่อชั่วโมงก่อน “เสียวไหม?”เสียงห้าวแหบเอ่ยถาม ทั้งมือยังคงควบคุมจังหวะความเร็วอยู่อย่างนั้น ฉันเลื่อนริมฝีปากกระซิบเข้าที่ข้างหูของคนเป็นแฟนก่อนจะเอ่ยบอกเสียงพร่า“เสียวจนจะแตกอีกแล้ว”“ชอบของผมไหม?”เก๋าหยักยิ้มเอ่ยขอคำชมที่ก็มักจะขอเสมอ และฉันก็ให้คำตอบด้วยการออกแรงขย่มสับรัวเร็วอย่างเอาใจ พลางกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงที่พร่าสั่นหนักกว่าเดิม“ขึ้นให้ทุกเช้าแบบนี้ เธอคิดว่าชอบไหม?”“ชอบตรงไหน?”“ชอบทุกตรง”“ผมก็ชอ

  • ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก   ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรัก ตอนที่ 50

    ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 50 หลายวันต่อมา หลายวันที่ผ่านไปคนที่บอกว่าจะจีบก็มาจีบทุกวัน เช้ารอบ เย็นอีกรอบ แต่ถ้าวันไหนติดงานแล้วมาไม่ได้ก็จะส่งกลอนหวานเลี่ยนมาทางแชตแทน แม้เป็นการจีบที่ไม่ได้เรื่อง แต่เก๋าก็ทำให้ฉันยิ้มได้ไม่หยุดและตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาค่ำแล้ว การได้เห็นเจ้าตัวปรากฏตัวจึงไม่ได้น่าแปลกใจเพราะก็มาอยู่ทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปจากวันอื่นตรงที่เก๋าแบกเอากีตาร์มาด้วยร่างสูงอยู่ในชุดนิสิตเหมือนหลายวันที่ผ่านมาเพราะมหา’ลัยเปิดเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ว่าก็ยังมีความพยายามที่จะขับมอเตอร์ไซค์มาหา“มาจีบ”ไม่ต้องรอให้ถามเจ้าตัวก็รีบชิงพูดขึ้นทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็เหมือนจะแกล้งกันเล่น เก๋าปลดกระเป๋ากีตาร์ออกจากหลัง ก่อนจะเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด สายตาร้อนแรงจับจ้องมองกันแบบไม่วางตา“ถอดเสื้อถอดผ้าทำไม?”“ร้อน”“โกหก”“ใช่”“ถอดกางเกงทำไม?”“ร้อน”“เก๋า”“ใช่ ผมโกหก”ฉันหลุบตาลงมองนิยายในมือที่กำลังอ่านอยู่ขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียงด้วย กระทั่งพื้นที่ว่างบนเตียงยุบลงก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกทีเก๋าในสภาพกึ่งเปลือยมีกีตาร์วางพาดอยู่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status