“ไบร์ท มันไม่โป้ไปเหรอ?”
หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำตัวจิ๋วเผยให้เห็นไหล่เล็กและเนินอกขาวเนียน หน้าอกหน้าใจที่มีน้อยนิดจนเธออยากจะไปทำเรื่องขอรับเงินคนพิการ เพราะคิดว่าตัวเองอวัยวะไม่ครบสามสิบสอง แม่ก็ให้มาน้อยซะจริง อิยิ้มจะร้อง...
มือเรียวก็ยุ่งอยู่กับการดึงกระโปรงสั้นแบบนักเรียนญี่ปุ่นลงอยู่ไม่ขาด เธอรู้สึกว่ามันสั้นไป ปกติไม่เคยแต่งแบบนี้เลยสักครั้ง เธอไม่ค่อยมั่นใจในการเเต่งตัวของตัวเองสักเท่าไร ยิ่งแฟนเก่าเธอคนนั้นเอาแต่ว่าเธออย่างโน้นอย่างนี้ บ้างก็ไม่น่ามอง บ้างก็น่าเกลียด จนเธอหมดความมั่นใจในตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว
“ไม่สั้นหรอก สวยออก”
เจ้าของเรือนผมสั้นสีน้ำตาลเซ็ททรงผมอย่างดี เขาเเต่งตัวง่าย ๆ เพียงแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กับกางเกงขายาวสีเดียวกัน ดูเรียบง่าย แต่ดูดีเวอร์ เท่ระเบิดไปเลย…
“เราใส่เองก็ได้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราทำให้”
เธอร้องห้ามชายหนุ่มที่กำลังก้มลงคุกเข่าสวมรองเท้าหนังข้อสูงให้เธออย่างตั้งใจ เขาทำให้เธอทุกอย่าง ทั้งเตรียมชุด เตรียมเครื่องประดับสีเงินที่อยู่บนข้อมือเธอ และสร้อยสีเดียวกันที่อยู่บนคอระหง
แถมมีอีกอย่างที่ถ้าใครได้รู้ได้ฟังคงต้องควักหูขยี้ตาหลายรอบ เพราะไม่น่าเชื่อว่าคนแบบเขาจะทำได้ นั่นคือการ ‘แต่งหน้า’ เขาเเต่งหน้าให้เธอเองกับมือ นึกสภาพเขาสวมบทบิวตี้บล็อกเกอร์ลูกครึ่งหน้าเหี้ยมรอยสักเต็มตัว นั่งบรรจงเเต่งหน้าให้เธอจนสวยสะบัดได้อย่างตอนนี้
น่าทึ่งใช่ไหมล่ะ? แต่เขาคนนี้ทำได้จริง ๆ
“เสร็จเเล้ว”
“จริง ๆ ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะ เรา เอ่อ...”
เหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรกับเขาสักอย่าง แต่ก็ติดอยู่ตรงลำคอไม่กล้าเอ่ยมันออกมาอย่างชัดเจน
“คิดซะว่าทำเพื่อเพื่อนก็ได้ ช่วงนี้เราเป็นเพื่อนกันไปก่อน” เขาเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม ตอนนี้เป็นเพื่อนให้เธอสบายใจก่อน ตอนหน้า หึ ๆ
“ได้เหรอ?”
“อื้อ”
“ก็ได้ ไบร์ทเพื่อนเลิฟ” เจ้าของใบหน้าสวยในตอนนี้ กำลังยิ้มจนตาหยีให้กับเขา
ยิ้มวันนี้ หลังจากแต่งหน้าแล้วเธอกลายเป็นคนสวยขึ้นมาทันที เพราะลุคที่เขาแต่งให้คือลุคสาว ๆ สายฝอ สวยเฉี่ยว สวยสะกด ยิ้มเป็นคนที่หน้าตาป็นเอกลักษณ์ น่ารักในเวลาปกติ แต่ถ้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหลากหลายก็จะดูสวยไปอีกแบบ เธอมีครบทุกอย่าง ขาดแค่ความมั่นใจเท่านั้น
“แต่มันจะไม่โป้จริง ๆ ใช่ไหม” เธอถามย้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
“มีอะไรให้โป้ด้วยเหรอ?”
“ไบร์ท!”
“อ๊ะ หยอก ๆ ฮ่ะ ๆ สวยจะตาย สวยมาก”
เมื่อได้ยินเขาย้อนเธอกลับด้วยประโยคแสนเจ็บจี๊ด ยิ้มถึงกับตะโกนเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่น หนำซ้ำยังเอียงคอมองชายหนุ่มตาเเข็ง จนอีกคนที่เห็นท่าทางของเธอแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เก๋ออก ไม่ต้องมีมาก ธรรมชาติดี”
“ธรรมชาติลงโทษน่ะสิ”
คล้ายกับหญิงสาวตัดพ้อตัวเอง เธอไม่ค่อยชอบใจในสรีระตัวเองสักเท่าไร แต่จะให้ไปทำศัลยกรรมก็กลัวเจ็บ เธอคิดว่าเธอไม่โดดเด่น ไม่น่าสนใจเพราะรูปร่างหน้าตาตัวเอง
“ลงโทษยังไงให้น่ารักขนาดนี้”
เสียงทุ้มเอ่ยพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม ใครบอกว่าเธอไม่สวยกันนะ เขาอยากจะควักลูกตา และเลาะฟันมันออกมาจริง ๆ
“ไบร์ทเป็นคนที่สอง ที่บอกว่ายิ้มน่ารัก”
เจ้าของดวงตากลมช้อนมองเขาที่ตัวสูงกว่าเธอมาก ใบหน้าของเธอสูงเพียงใต้อกเขาเท่านั้น ทำให้ทุกครั้งที่พูดคุยกัน เธอต้องแหงนหน้ายืดคออยู่เสมอ
“คนเเรกล่ะ?” ชายหนุ่มลองถาม
“ยาย ยายบอกว่ายิ้มน่ารัก ยายบอกว่ายิ้มตัวเล็ก ยิ้มจะเหมือนเด็กอยู่ตลอด ไม่แก่ “
“ท่านพูดถูกนะ เราไปกันเถอะ “
“อื้อ “
ณ ผับ F
เพียงไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงผับที่เขานั้นเป็นหุ้นส่วนอยู่ ไบร์ทไม่ได้พาเธอเดินเข้าประตูด้านหน้า เขาพาเธอเข้ามาทางประตูโซนด้านหลังที่มีไว้สำหรับ ผู้บริหารและวีไอพีโดยเฉพาะ
ตอนแรกเธอก็เกร็ง ๆ เเต่เพราะคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้ายื่นแขนแกร่งมาให้เธอใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวอาการประหม่า เธอเลือกที่จะดึงแขนเสื้อเขาไว้เท่านั้น ไม่กล้าจับมือถือเเขนโดยตรง เพราะเธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันได้เพียงสองวัน แต่จะไม่จับเลยก็กลัวจะเสียน้ำใจ?
“เรามีคุยงานกับเพื่อน ยิ้มอยากเข้าไปด้วยไหม?”
พอมาถึงหน้าห้องซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของผับ ทางเดินจะเป็นช่องเเคบ ซ้ายขวาจะเป็นห้องที่เปิดให้ใช้บริการสำหรับคู่รักคู่ซ้อมคนไหนที่ต้องการจะศึกษาดูใจกันต่อ ส่วนสุดทางห่างออกไปน่าจะเป็นห้องสำหรับผู้บริหารอย่างพวกเขาสินะ
“ถ้าไบร์ทมีงาน ยิ้มรอข้างนอกได้นะ”
ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีความคิด เอาแต่ตัวติดเขาตลอด เธอแยกแยะได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องที่ไม่ค่อยจำเป็น ให้เธอนั่งรอเฉย ๆ ก็ได้ หรือไม่ก็ทำความสะอาดเช็ดฝุ่นไร ระหว่างรอยังได้เลย เธอชอบจะตาย
“มีงานให้เราทำรอได้นะ ทำความสะอาดอะไรพวกนี้”
พรืด! ไบร์ทหลุดขำออกมาจนตัวโยก เขาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงจริง ๆ เธอคิดได้ยังไงว่าเขาพาเธอมาผับเพื่อมาทำความสะอาด แต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้ คิดสภาพตอนเธอถือไม้กวาดแบกไม่ถูเขายิ่งขำหนัก
“ฮ่า ๆ ๆ แต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้คิดจะมาขัดส้วมหรือไง”
“อ้าว ก็ไม่รู้ว่าจะให้ทำอะไรนี่นา”
เธอไม่เคยกินเหล้า ไม่เคยเที่ยวผับมาก่อน ประสบการณ์ท่องราตรีเท่ากับศูนย์ ปกติเรียนเสร็จก็กลับหอพักทำงานบ้านทำกับข้าวอ่านหนังสือรอกันต์ทุกวัน ชีวิตเธอมีแค่นั้นจริง ๆ
“ก็บอกแล้วไงว่าจะพามาสนุก งั้นเดี๋ยวลงไปกับผู้ช่วยเราก่อนก็ได้ อยู่ข้างล่างรอ อยากกินอะไรก็สั่งได้เลยนะ”
ชายหนุ่มยิ้มหวานให้กับหญิงสาว เขายิ้มให้เธอบ่อยมากขึ้นจริง ๆ ยิ้มแล้วหล่อ ยิ้มแล้วคือดีมาก...
“นานไหมกว่าจะเสร็จ” ไม่รู้จะถามเขาแบบนั้นทำไม ไม่มีสิทธิ์นั้นซะหน่อย แต่เธอก็ถามไปแล้ว
“ไม่นานครับ”
ก่อนที่เขาจะหันไปชำเลืองสายตามองผู้ช่วยสองคนที่เอาแต่ยืนเงียบ เเละเหมือนผู้ช่วยเขาจะรู้หน้าที่เป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นผายมือให้ยิ้มและเดินนำทางเธอไป ส่วนอีกคนยังยืนอยู่รอฟังคำสั่งบางอย่างจากชายหนุ่ม ที่พอร่างเล็กโบกมือหยอย ๆ ลับตาเขาไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หุบลงทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงเเข็ง ตามแบบฉบับ...
“ดูให้ดี หมาตัวไหนเข้ามาวุ่นวายกับเธอ ลากไปกระทืบ”
จะว่าสองมาตรฐานก็นับว่าไม่ผิด เขาก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เวลาอยู่กับเธอมักจะเป็นอีกคนที่พูดตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย แต่เวลาอื่นเขาก็คือไอ้นิ่งหน้าโหด อย่างสมบูรณ์...
"ยิ้มต้องมั่นใจในตัวเองนะ ยิ้มอย่าเอาแต่มองว่าตัวเองแย่ ไม่ดี ต่ำต้อย ไม่ควรค่าที่จะได้รับสิ่งดี ๆ"เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวย เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแฝงไปด้วยพลังบวกที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน จู่ ๆ ไบร์ทก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์มาสองกระป๋องก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม"ยิ้มออกจะน่ารัก ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านเก่ง เรียนก็เก่ง นิสัยดีอีกต่างหาก" เขาเอ่ยร่ายยาวพร้อมกับเปิดกระป๋องเบียร์ และยื่นมันมาให้เธอ"ให้ทำไม?" เธอทำหน้าสงสัยเล็กน้อย"มันช่วยให้หลับสบาย ลองดู""เราไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์" เธอไม่เคยดื่มจริง ๆ และไม่รู้เลยว่าถ้าเธอเกิดกระดกมันเข้าไปแล้วสภาพหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร"ลองดูสักครั้งเถอะ ไม่เสียหายหรอก เราอยากให้ยิ้มหัดลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง""งั้นก็ได้" ทำไมเธอถึงตกลงง่ายขนาดนั้นน่ะเหรอ สั้น ๆ เลยคือ...อยากลอง"อึก อึก อึก" เธอกระดกเครื่องดื่มในกระป๋องลงคออย่างฝืดเคือง และนั่งกระพริบตารอดูสิ่งที่จะตามมา พอผ่านไปได้เพียงสามนาที...ฟุบ! เอาเป็นว่าสาวเจ้าของกายของไบร์ท หลับคอพับในท่านั่งท่าเดิมจนเขาขำปอดโยก เบียร์แค่สามอึกทำเอาเธอน็อคกลางอากาศได้ขนาดนี้เลยเหรอ? น่าทึ่งเกินไปแล
"โถ่เว้ย!""เป็นห่าอะไรอีกล่ะเนี่ย"นิกที่ถูกบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนที่กำลังโวยวาย และตะโกนเสียงดัง บ้างก็โยนข้าวของเกลื่อนห้องราวกับคนบ้าหลุดออกจากโรงพยาบาล จนอีกคนต้องกุมขมับ"หงุดหงิดเว้ย!"กันต์ตะโกนก้องอย่างคนหัวเสียขั้นสุด ยิ่งนึกถึงตอนที่เห็นสองคนนั่นไปไหนมาไหนด้วยกันเขายิ่งโกรธจนต้องหาที่ระบายแบบนี้"มึงนี่เนอะ ยิ้มทนอยู่กับคนแบบมึงได้ยังไงวะ""มึงพูดอะไรไอ้นิก คนแบบกูมันทำไม"คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าอารมณ์ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น และจิตใจโลเลอย่างไรเล่า... นิกอยากจะบอกถึงข้อเสียทั้งหมดของผู้เป็นเพื่อนแต่ก็รู้ดีว่าไร้ประโยชน์ คนแบบนี้ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรู้หูก็ไม่สำนึก หากไม่เจอกับความผิดหวังและคิดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น"ช่างเหอะ ๆ กูขี้เกียจพูดแล้ว กูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ""คืนนี้กูจะไปกินเหล้า มึงต้องไปกับกู""โอเค ๆ เดี๋ยวเจอกัน" นิกตอบปัด ๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าลองไม่ไปดูสิคนแบบมันจะยอมรามือง่าย ๆเมื่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มองไปรอบกายก็ล้วนแต่เจอสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้นึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา ยิ
เมื่อร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อ โดยทุกการก้าวเดินของเขามักจะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนอยู่เสมอ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใครต่อใครที่มองมา ปกติก็ไม่สนโลกอยู่แล้ว ไม่แม้จะออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้เลยสักครั้ง เขาเป็นประเภทโลกส่วนตัวสูง ยิ่งการมาต่อแถวซื้อของยิ่งแล้วใหญ่แต่เพียงเพราะว่า ครั้งนี้เขามากับใครบางคนที่พิเศษจนเขาอยากเอาใจเธอมากกว่าผู้ใด จึงเลือกทำสิ่งที่ตัวเองไม่คิดจะทำเลยสักครั้งในชีวิตแปลกที่ไม่รู้สึกฝืนใจ กลับเต็มใจมากต่างหาก...แต่ว่า...พรึ่บ / พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ"..."ผู้คนที่ก่อนหน้ายืนต่อคิวกันอยู่ ทว่าเพียงแค่หันมาพบกับชายหนุ่มยืนทำหน้าทมึนเป็นกิจวัตร พอเจอเข้าก็รีบถอยกรูกันทั้งแถว หนำซ้ำลูกน้องสองคนที่เอาของไปเก็บเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ดันมายืนขึงขังอยู่ด้านหลังเขาอีก เอาเป็นว่าใครเห็นถ้าไม่วิ่งกระเจิงก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว"อะ เอ่อ... ระ รับ รับกี่แก้วดีคะ"พนักงานถึงกับเอ่ยติด ๆ ขัด ๆ คงนึกว่าพวกเขาเป็นโจร หรือไม่ก็อัธพาลสินะ... เฮ้อ~หล่อขนาดนี้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา..."20 แก้ว" เจ้าของใบหน้านิ่งตอบกลับเสียงเรียบ ถึงแม้เขาจะบอกให้คนที่ถอยกรูกันออกไปนั้นเป็นฝ่
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ไบร์ทก็พาเธอมายังห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ กับคอนโด โดยวันนี้ทั้งเขาและเธอตกลงกันว่าจะมาซื้อพวกของกิน ของใช้ และอาหารสดไว้สำหรับเวลาที่เธออยากทำอาหารอีกทั้งพวกของใช้เสื้อผ้าต่าง ๆ เธอก็ไม่อยากกลับไปเอาที่ห้อง เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อมเจอเขาคนนั้น ขอให้จิตใจแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้โดยที่ไบร์ทไม่ต้องยืนประกบหลัง หรือยืนพยุงอยู่ข้าง ๆ ก็เพียงพอที่จะเจอกัน"เอาอันนี้ด้วยไหม""มันคืออะไรเหรอ?" เธอดูไม่ค่อยออกเท่าไรนัก ว่ากล่องที่ไบร์ทถือมาให้เธอนั้น คืออะไร?"ซิลิโคนแปะจุก เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยว หรือชุดโชว์หลังอะไรแบบนี้มันจะได้สวย""..."ไม่เพียงแค่เธอที่เงียบ ลูกค้าและพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็เงียบกริบ และหันมามองทั้งสองคนเป็นตาเดียว"ทำไมเหรอ?"เขาถามแบบนั้นเพราะเห็นเธอนิ่งอึ้งไป แก้มขาวตอนนี้เริ่มเเดงระเรื่อ จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน นอกจากเขาจะเดินเลือกเสื้อผ้าให้เธออยู่เนือง ๆ ตัวนั้นก็สวยตัวนี้ก็เหมาะแล้วพวกของใช้บางอย่างที่เธอไม่เคยนึกถึงเขายังหามาจนได้ซะขนาดนี้"เปล่า ๆ เอาไปก็ได้ "เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบเออออไปกับเขา พอ
เช้าวันถัดมา...ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องที่อยู่ข้างกัน ยิ้มตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาทำความสะอาดห้อง แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดไม่มีเรียนก็ตาม แต่เพราะเธอคุ้นชินกับการตื่นขึ้นมาทำงานบ้านแต่เช้า ตั้งแต่เด็กตอนอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดยายก็จะพาตื่นตั้งแต่เช้ามืด เธอจึงติดเป็นนิสัยที่แก้ไม่เคยหายสักทีหลังจากที่เธอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว แต่ห้องนอนข้าง ๆ ยังไม่เปิดประตูออกมาสักที เธอจึงเกิดความสงสัย และเคาะประตูเรียกเขาอยู่นานกว่าเจ้าของห้องจะเปิด"ไบร์ท ตื่นหรือยัง?""ไบร์ท ฮัลโหล"แกร๊ก ประตูห้องถูกเปิดออกตามด้วยร่างของคนตัวโตซึ่งสวมเพียงกางเกงนอนตัวจิ๋วเพียงแค่ตัวเดียว ด้านบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นหุ่นล่ำสันที่เต็มไปด้วยรอยสักสุดเท่ ซึ่งตอนเเรกเธอมองว่ามันน่ากลัว แต่ไป ๆ มา ๆ กลับมองว่ามันคือศิลปะบนร่างกาย ดูมีสไตล์ไปอีกแบบและอีกอย่างที่เธอได้เรียนรู้นั่นก็คือ ‘รอยสัก’ ไม่ได้วัดคุณค่าและนิสัยของคน..."มีอะไรเหรอ?"ท่าทางงัวเงียบวกกับผมเผ้ากระเซอะกระเซิงนั่น ไม่ได้ทำให้เขาดูหล่อน้อยลงเลยสักนิด ขนาดหน้าสดตอนตื่นนอนยังกร้าวใจขนาดนี้ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!"เปล่า เราแค่เห็นไบร์ทไม่ออกมาสัก
"ไปอยู่กับมันไม่กี่วัน โดนมันล้างสมองขนาดนี้เลยเหรอวะ?"กันต์เอ่ยด้วยท่าทีแปลกใจระคนตัดพ้อ เขาแอบดูตั้งแต่ที่เห็นยิ้มเดินเข้ามา เขานั่งดื่มอยู่นานเเล้ว กะว่าวันนี้จะดื่มให้หายเครียดสักหน่อย เมื่อตอนกลางวันเชอรี่ได้เข้ามาเล่าเรื่องราว บอกว่ายิ้มตกลงคบกับไอ้ลูกครึ่งหน้าโหดนั่น แถมมันยังเป็นคนเอ่ยปากพูดว่าเป็นผัวคนใหม่ของยิ้มตอนนั้นเขาโมโหมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรยิ่งนึกถึงตอนที่สองนั้นคงจะ...คงจะทำเรื่องอย่างว่ากัน จนกล้าเรียกว่าผัวเมียเขายิ่งไม่พอใจ"ไปกับมันกี่ชั่วโมงล่ะ ถึงเอากัน" คำพูดสิ้นคิดหลุดออกมาจากปากเขาอีกแล้วยิ้มกัดฟันกรอด มือเล็กกำเข้าหากันแน่นอย่างข่มกลั้น เธอทนอยู่กับคนแบบนี้มาได้ยังไงตั้งสี่ปีนะ คนที่เอาแต่พูดจาดูถูกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ยอมออกไปจากชีวิตเธอสักที!"จะกี่ชั่วโมงมันก็ไม่เกี่ยวกับคนนอก"เธอตั้งใจเน้นเสียงในประโยคนั้น ให้เขาได้ยินชัด ๆ ก่อนที่จะยื่นมือไปคว้าแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอมากอดไว้เพื่อก่อกวนคนตรงหน้า เอาสิ! เธอก็เหนื่อยที่จะเป็นยิ้มที่เเสนดีคนนั้นแล้วเหมือนกัน ลองเป็นยิ้มในเวอร์ชั่นร้าย ๆ แบบที่ไบร์ทสอนหน่อยเป็นไง?"