Share

วันเกิด!!

ช่วงบ่ายเริ่มต้นด้วยวิชาศิลปะที่ฟ้าใสค่อนข้างชื่นชอบเป็นพิเศษและในระหว่างนี้ครูผู้สอนได้ให้พวกเธอออกมาวาดภาพภายนอกห้องเรียน

เด็กทุกคนภายในห้องค่อนข้างตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ออกมาและในระหว่างที่ทุกคนเดินออกมาทางสนามกีฬาแต่ละคนก็เห็นว่ากลางสนามกำลังมีนักเรียนเตะฟุตบอลกันอยู่

“ครีม คนนั้นใช่เฮียครามไหม” ฟ้าใสชี้นิ้วของตนไปทางนักเรียนชายในชุดพละศึกษาคนหนึ่งที่กำลังไล่เตะลูกฟุตบอลอยู่กลางสนามอย่างตั้งใจ

“แกนี่ตาดีจัง นั่นเฮียของฉันกำลังจะชู๊ตแล้ว” น้ำเสียงของครีมค่อนข้างตื่นเต้นโดยมีเพื่อนนักเรียนในห้องไม่วายมองไปทางสนามพร้อมกันก่อนจะมีเสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้น

“นอกจากรุ่นพวกเรากับนักเรียนหญิง ม.1ของปีนี้แล้ว      ก็ยังไม่มีนักเรียนหญิงของปีอื่นเลยใช่ไหม” เสียงของเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในห้องถามออกมาอย่างสงสัย

“เธอเข้าใจถูกแล้วแต่ก่อนโรงเรียนนี้มีแต่นักเรียนชายซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดรับผู้หญิงทั้งม.ต้นและม.ปลาย” เสียงของน้ำหนึ่งดังขึ้นหลังได้ยินคำถามของเพื่อนในห้อง

“นี่แหละเหตุผลที่ฉันพยายามสอบเข้าที่นี่” น้ำเสียงของเด็กสาวอีกคนพูด

“ทำไม” ใครคนหนึ่งในห้องถามอย่างสงสัย

“ก็ไม่ทำไม เธอไม่คิดหรอกหรือว่าการเป็นอะไรรุ่นแรกมันมีข้อดีอยู่เยอะนะเหมือนอย่างในการ์ตูนไงฮิฮิ” คำตอบของเด็กหญิงคนนั้นทำให้ฟ้าใสส่งเสียงหัวเราะออกมาพลางเอาข้อศอกกระแทกเข้ากับต้นแขนของครีมเบา ๆ

“น้ำตาลติดการ์ตูนเหมือนแกเลย” ครีมมองค้อนเพื่อนก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่ยินยอม

“แกก็ติดเหมือนกันนั่นแหละอย่างเรื่องคำสาปฟาโรห์ไง” คำพูดของครีมทำให้ฟ้าใสได้แต่ยอมรับและในขณะที่พวกเธอกำลังพูดคุยกันเสียงเฮจากในสนามก็ดังขึ้น

“เจ้ฟ้าใส เจ้ครีม เห็นลูกเตะของเฮียครามเมื่อกี้ไหมโคตรเท่อ่ะ” เสียงของม่านเมฆแสดงความตื่นเต้น

“เห็นสิ เฮียฉันเจ๋งสุด ๆ” ครีมไม่วายอวยพี่ชายเสียงดัง

น้ำหนึ่งที่อยู่ด้วยกันสงสัยว่าทำไมม่านเมฆถึงเรียกครีมกับฟ้าใสว่าเจ้ทั้งที่พวกเขาน่าจะอายุเท่ากัน ไวเท่าความคิดเด็กชายไม่รอช้าจึงได้ถามออกมาทันที

“ม่านเมฆทำไมนายเรียกฟ้าใสกับครีมว่าเจ้ล่ะ”

ม่านเมฆยกมือเกาหัวก่อนตอบตามตรง “มันชินอ่ะ อีกอย่างฟ้าใสเป็นพี่สาวฝาแฝดของฉัน ส่วนเจ้ครีมก็เป็นเพื่อนของเจ้มาตั้งแต่ประถมฉันก็เลยเรียกแบบนี้มาตลอด”

“นายเป็นฝาแฝดกันหรือ ทำไมหน้าตาไม่เหมือนกันเลยล่ะ” น้ำหนึ่งนึกว่าสองคนเป็นญาติกันเพราะนามสกุลเหมือนกันแค่นั้นไม่นึกว่าเป็นแฝด

“หากเหมือนกันก็ประหลาดสิ ฉันเป็นผู้ชายนะแต่ฉันว่าตัวเองก็ไม่แย่นะนายไม่คิดว่าฉันเองก็หล่อหรอกเหรอ”

น้ำหนึ่งมองใบหน้าของม่านเมฆสลับกับฟ้าใส “พี่สาวนายนะหน้าตาดีกว่านายเยอะเลย นายนี่หลงตัวเองชะมัดถ้าพูดถึงความหล่อฉันว่าฉันหน้าตาดีกว่านายอีก”

เสียงโห่ดังขึ้นจากนักเรียนชายในห้องทันที “หัวหน้าห้อง นายนี่ไม่หลงตัวเองเลยนะ” นักเรียนในห้องมีความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วหัวเราะให้กับคำพูดของเขา

และก่อนที่ทุกคนจะส่งเสียงดังไปมากกว่านี้ครูผู้สอนก็สั่งงานให้ทุกคนไปวาดรูปดอกไม้ใบหญ้ารอบ ๆ สนามกีฬาดังนั้นทุกคนจึงได้แยกย้ายกันไปตามจุดต่าง ๆ

ฟ้าใสเดินมากับครีม ซึ่งเด็กทั้งสองเลือกนั่งใต้ต้นไม้ที่หันหน้าเข้าหาสนามฟุตบอลที่มีเด็กนักเรียนม.6กำลังเรียนวิชาพละกันอยู่

“ครีมแกจะวาดอะไร” ฟ้าใสถามเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกัน

“เรื่องนี้... ฟ้าใสฉันอยากให้แกวาดรูปเฮียครามเตะฟุตบอลได้ไหม ฉันอยากให้เป็นของขวัญวันเกิดเฮีย” คำว่าวันเกิดทำให้ฟ้าใสมองหน้าเพื่อนด้วยความฉงน

“วันเกิดใครนะ”

ครีมมองเพื่อนพลางยิ้มแหยออกมา “วันนี้วันเกิดเฮียครามแต่ว่าฉันลืมเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับวันเปิดเรียน”

“แกนี่มัน...  แล้วแกต้องการจะเซอร์ไพรส์เขาไหม”

“อืมความคิดแกไม่เลวตอนเย็นพวกเราแวะซื้อเค้กกันไหม” ครีมถามความคิดเห็นของเพื่อนที่กำลังเริ่มลงมือสเก็ตซ์ภาพอย่างตั้งใจ

“ก็ดีนะ” ฟ้าใสตอบแค่นั้นก่อนที่เธอจะตั้งใจทำงานในมือซึ่งเป็นงานที่ครูผู้สอนสั่งก่อน หลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็ได้วาดภาพเชิงการ์ตูนซึ่งต้นแบบก็คือเฮียคราม

“เหี้ย! คราม” ธรส่งเสียงเรียกชื่อเขาออกมา

“กูชื่อคราม ไม่มีเหี้..นำหน้า เรียกทำไม” ครามถามพลางเดาะฟุตบอลไปด้วย

“มีคนแอบมองมึง” รอยยิ้มเชิงหยอกเย้าของธรเกลื่อนใบหน้า

“ใคร?” เจ้าของชื่อหาได้สนใจสิ่งอื่นนอกจากลูกกลม ๆ ที่อยู่ในเท้าของตน

เพื่อนของน้องสาวมึงคนนั้นอ่ะ” ธรพยักปลายคางมาทางฟ้าใสที่กำลังจดจ่ออยู่กับการวาดภาพให้เพื่อนโดยไม่ทันได้สังเกตอะไร

สายตาของครามมองมาตามสายตาของเพื่อนและก็เห็นว่าฟ้าใสกำลังก้มหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นมองมาทางเขาและดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มแบบ           เก้อ ๆ ออกมา

“น้องเขาแอบมองมึง” ธรยังคงกระเซ้าไม่เลิก

“มึงอ่ะเลอะเทอะ เขาเป็นเพื่อนน้องสาวกู ก็แค่ทักทายก็เท่านั้นเอง นั่นไงเห็นไหมกูบอกมึงแล้วว่าไม่มีอะไร” แม้ว่าปากจะพูดออกไปแบบนั้นทว่าคงมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดีว่าภายในใจของตนได้มีความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างกำลังถักทอ

“มึงไม่เชื่อก็ตามใจ” ธรยักไหล่ก่อนจะใช้เท้าแย่งลูกบอลของครามมาครอง

           

            ช่วงเย็นภายในวันเดียวกันหลังจากกริ่งบอกสัญญาณเรียนของวิชาสุดท้ายสิ้นสุดลง เด็กชายหญิงทั้งสี่ที่ตอนนี้นับได้ว่าอยู่กลุ่มเดียวกันก็เดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกัน

“พรุ่งนี้เป็นเวรของฉันกับม่านเมฆ ครีมแกจะกลับกับเฮียครามก่อนก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องรอเราสองคนนาน” ฟ้าใสพูดกับเพื่อนในระหว่างเดินออกประตูหน้ามาทางสะพานลอย

“ไม่เอาหรอก หากเป็นเวรของฉันแกกับม่านเมฆจะทิ้งฉันกลับบ้านก่อนไหมล่ะ” ครีมพูดพลางส่ายหน้า

“ไม่มีทาง” สองพี่น้องตอบออกมาราวนัดกัน

“พวกแกสามคนบ้านไปทางเดียวกันเหรอ” น้ำหนึ่งฟังบทสนทนาอย่างสงสัย

“ใช่ บ้านพวกเราอยู่ตรงข้ามกันเลย ว่าแต่บ้านของนายอยู่ไหน” ม่านเมฆตอบก่อนจะถามออกมาบ้าง

“อยู่ซอย 5 แยกกลางเมือง ฉันจะเดินกลับหรือจะนั่งรถเมล์ก็ได้” น้ำหนึ่งตอบก่อนจะเดินข้ามสะพานลอยมากับพวกเขาทั้งสามคน

“ถ้าอย่างนั้นนายก็ต้องไปต่อรถที่ตลาดก่อนใช่ไหม”   ม่านเมฆถามขึ้นเนื่องจากซอย 5 แยกกลางเมืองไปคนละทางกับบ้านของพวกเขา

“อืม รถเมล์มาแล้วฉันไปก่อนนะเอาไว้เจอกันพรุ่งนี้”          น้ำหนึ่งพยักหน้ารับ ก็พอดีรถโดยสารเข้าตลาดก็กำลังชะลอตัวลงตรงป้าย

“บ๊ายบาย พรุ่งนี้เจอกัน” หลังจากบอกลาน้ำหนึ่งแล้วทั้งสามคนก็เดินไปยังร้านเบเกอรี่ที่อยู่ห่างออกมาไม่ไกลซึ่งในระหว่างนั้นทั้งสามคนก็เห็นเฮียครามขี่มอเตอร์ไซค์โดยมีธรซ้อนท้ายผ่านหน้าไป

“นั่นเฮียแกกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ” ฟ้าใสชี้นิ้วไปทางมอเตอร์ไซค์สองคันที่กำลังขี่ไปตามถนน

“อืม หรือว่าเฮียจะไปฉลองกับเพื่อนกัน” ครีมทำสีหน้าครุ่นคิด

“ถ้าอย่างนั้นเรื่องเค้กเอาไงจะยังซื้ออยู่ไหม” ม่านเมฆถามขึ้นอย่างสงสัย

“ซื้อสิ ไม่ใช่ว่าเฮียเขานัดกับนายว่าจะซ้อมกีตาร์ให้เหรอไม่แน่ว่าเพื่อนของเขาอาจจะไปกินข้าวที่บ้านก็ได้ ดีเสียอีกพวกเราซื้อเค้กไปจะได้เซอร์ไพรส์เขาด้วยไง” ครีมพูดพลางยกมือคล้องแขนของฟ้าใส

“ฉันว่าแกหาเรื่องอยากกินเองมากกว่า” ฟ้าใสกระเซ้า

ครีมหัวเราะร่วนให้กับคำพูดของเพื่อนก่อนตอบออกมาอย่างเขิน ๆ “แกนี่รู้ทันฉันตลอดเลย”

ทั้งสามคนพากันหัวเราะขึ้นมา และในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปทางร้านเบเกอรี่เด็กทั้งสามต้องเดินผ่านร้านหนังสือ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่หนังสือเพราะมีสิ่งของเครื่องประดับชิ้นเล็ก            ชิ้นใหญ่จัดวางอยู่เต็มร้าน

“แกแวะก่อนนะ ฉันอยากได้การ์ตูนคำสาปฟาโรห์เล่มใหม่อ่ะ ไม่รู้ว่ามาหรือยัง” ครีมดึงมือของเพื่อนพูดอ้อนวอน

“เจ้ครีมนี่พอกันกับเจ้ฟ้าเลยนะ ผมเห็นการ์ตูนเรื่องนี้พวกพี่ซื้อกันมาตั้งแต่ม.3ไม่ใช่เหรอป่านนี้ยังไม่จบอีก นานแล้วนะ” ม่านเมฆแซว

“ยุ่งน่า” ครีมแยกเขี้ยวใส่เขาก่อนหันไปทางฟ้าใส

“อยากซื้อก็แวะเข้าไปดูเถอะ” เมื่อฟ้าใสพูดออกมาแบบนี้ดังนั้นพวกเขาสามคนจึงได้เดินเข้าไปภายในร้าน ก่อนที่ฟ้าใสจะสะดุดตาเข้ากับพวงกุญแจที่เป็นรูปกีตาร์สีดำกับสีน้ำตาล  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ตอนพิเศษ พยานรักตัวน้อย ๆ

    หลายปีผ่านไป... หลังจากครามเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์และเริ่มต้นชีวิตการทำงานในฐานะวิศวกรหนุ่มอนาคตไกล เขาทุ่มเทให้กับงานในบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งแต่หัวใจของเขาก็ไม่เคยห่างจากจังหวัดบ้านเกิด และที่สำคัญที่สุดคือผู้หญิงที่เขามอบเกียร์และหัวใจให้ไปนานแล้วทางด้านฟ้าใสเธอก็ก้าวเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนในคณะศิลปกรรมฯ ชีวิตที่เคยพลิกผันเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บัดนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ป๊าของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้สำเร็จแม้การเดินจะยังไม่กลับมาเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมแต่ด้วยกำลังใจที่ดีและการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอท่านก็สามารถกลับมาเดินเหินได้คล่องแคล่วขึ้นมาก อีกทั้งยังเข้ามาช่วยดูแลร้านสุกี้ในส่วนที่ไม่ต้องออกแรงมากได้ด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยจางหายไปนานกลับมาสู่ครอบครัวของเธออีกครั้งกิจการร้านขนมและร้านสุกี้ก็ดำเนินต่อไปได้ด้วยดีโดยมีฟ้าใสและคุณแม่เป็นหัวเรือใหญ่ และแน่นอนว่ามีครามคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเสมอในยามที่เธอต้องการ ระยะทางและตารางเวลาที่แตกต่างไม่ได้ทำให้ความรักของครามและฟ้าใสลดน

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   รักของเราคือรสช็อกโกแลต

    หลายเดือนผ่านไป... วันเวลาหมุนเวียนจากเทอมแรกเข้าสู่เทอมที่สองของปีการศึกษา กลิ่นอายของวันวาเลนไทน์เริ่มอบอวลไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย สติ๊กเกอร์รูปหัวใจและดอกกุหลาบมีให้เห็นตามมุมต่าง ๆชีวิตของฟ้าใสเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แม้จะยังคงวุ่นวายและเหน็ดเหนื่อยเป็นสองเท่าของนักศึกษาทั่วไป เธอกลับไปเรียนตามปกติพยายามตามงานที่ขาดไปในช่วงแรกอย่างสุดกำลังพ่อของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้วแต่อาการบาดเจ็บที่ขายังคงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาระการดูแลร้านทั้งสองแห่งยังคงตกอยู่ที่เธอกับแม่เป็นหลัก แต่เธอก็เริ่มปรับตัวและจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้คล่องแคล่วขึ้นรวมถึงความสัมพันธ์กับครามก็ยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม... เขาคือพี่ชายตรงข้ามบ้านที่แสนดี สารถีคนสำคัญ และผู้ช่วยจำเป็นในทุกสถานการณ์ ความช่วยเหลือของเขาทำให้เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้บ่ายของวันวาเลนไทน์หลังเลิกคลาส ฟ้าใสตั้งใจจะเอาขนมเค้กช็อกโกแลตที่เธอหัดทำเมื่อคืนไปให้ครามลองชิม และถือโอกาสขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เขาช่วยม

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (2)

    "ลูกอยู่นี่เอง แม่ก็รอว่าจะมาพร้อมลูกแต่ก็ดีแล้วละที่ลูกอยู่ตรงนี้" กิมลั้งพูดกับลูกชายหลังเห็นว่าเขาคอยอยู่เป็นเพื่อนฟ้าใสกับแม่พลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ลลิตาที่ยังคงมีดวงตาแดงก่ำ"ลิตา เฮียหลงเป็นยังไงบ้าง" เธอหันไปถามเพื่อนบ้านด้วยความเป็นห่วงโดยจับมือลลิตาไว้แน่นลลิตาสูดหายใจลึก พยายามกลั้นน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง "เพิ่งจะย้ายเข้าไอซียูเมื่อกี๊นี้เองลั้ง... หมอบอกว่ากระดูกหักหลายที่ เสียเลือดมาก... ยังต้องรอดูอาการใกล้ชิด..." เสียงเธอสั่นเครือในตอนท้าย"โถ... ไม่เป็นไรนะลิตา ไม่เป็นไร" กิมลั้งบีบมือเพื่อนแน่นขึ้น "ปลอดภัยแล้ว ถือว่าพ้นขีดอันตรายระดับนึงแล้วนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ต้องเชื่อมั่นในตัวหมอ แล้วก็บุญกุศลที่อาหลงเขาทำมาเยอะแยะนะเพื่อนนะ" เธอกล่าวปลอบใจอย่างจริงใจ"มีอะไรให้ฉันสองคนช่วยบอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน""ขอบใจมากนะลั้ง..." ลลิตาพยักหน้ารับทั้งน้ำตาครามมองภาพผู้ใหญ่ให้กำลังใจกัน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องที่จำเป็น "ป๊า ม๊า เดี๋ยวผมว่าจะพาฟ้าใสไปดูร้านที่ตลาดโต้รุ่งก่อน แล้วก็อาจจะแวะไปดูร้านสุกี้ด้ว

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (1)

    ทุกวินาทีที่ผ่านไปหน้าห้องผ่าตัดคล้ายเป็นการทรมานสำหรับคนรอคอย ฟ้าใสยังคงกอดแม่ไว้แน่นมีเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาเป็นระยะขณะที่ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่ลูบหลังปลอบลูกสาว ดวงตาจับจ้องบานประตูห้องผ่าตัดด้วยใจที่ร้อนรน ครามยังคงยืนอยู่ไม่ห่าง คอยเป็นหลักให้สองแม่ลูกอย่างเงียบงันตามเดิมบรรยากาศระหว่างพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและคำภาวนาในใจทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าเฉพาะตัวของเครื่องพีซีทีในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของครามก็ดังขึ้นทำลายความเงียบงันแสนหนักอึ้งนั้นลง ครามขมวดคิ้วและเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาเจ้าตัวก็รู้แล้วว่าทางนั้นคงจะร้อนใจไม่ต่างกัน"เฮีย! ป๊าของฟ้าใสเป็นยังไงบ้าง" เสียงครีมน้องสาวของเขาดังลอดออกมาทันทีที่เขากดรับสาย น้ำเสียงสั่นเครือและเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด"แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าคุณอาโดนรถชน! ท่านเป็นอะไรมากไหมเฮีย? ครีมเป็นห่วงมากเลย!" ความสนิทสนมระหว่างครอบครัวทำให้ครีมรู้สึกผูกพันและตกใจกับข่าวร้ายไม่น้อย"ใจเย็น ๆ ก่อนครีม" ครามตอบกลับพยายามใช้เสียงที่สงบและมั่นคงที่สุดเพื่อไม่ให้น้องสาวที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงต้องตื่นตระหนกไปมากกว่า

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   เคียงข้าง

    ครามวิ่งมาถึงบริเวณที่จัดกิจกรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างรวดเร็ว เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนขมับและข้างแก้ม ดวงตาคมกวาดมองหากลุ่มเพื่อนของฟ้าใสที่พอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างท่ามกลางความวุ่นวายจนกระทั่งไปสะดุดตากับกลุ่มนักศึกษาปีสองในชุดคณะที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ฟ้าใสเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของเธอเขารีบก้าวเท้าเข้าไปหาทันที ลมหายใจหอบเล็กน้อย "น้องครับ....พี่มาหาฟ้าใส" เขาถามออกไปน้ำเสียงเคร่งเครียดและแฝงความกังวลอย่างปิดไม่มิด"เห็นฟ้าใสไหมครับ?"เพื่อน ๆ ของฟ้าใสกลุ่มนั้นหันมามองรุ่นพี่ต่างคณะอย่างแปลกใจระคนสงสัย ปกติไม่ค่อยเห็นเฮียครามคนดังของวิศวะฯ มาทำหน้าตาตื่นแถวนี้เท่าไหร่นัก ก่อนที่เพื่อนคนที่สนิทกับฟ้าใสที่สุดจะรีบตอบ"พี่คราม..." เธอทำหน้างง ๆ เล็กน้อยเรียกชื่อของเขาออกมา "เมื่อกี้ฟ้าใสมันบอกว่าเพจเจอร์เข้า ขอตัวไปโทรศัพท์ค่ะ เห็นวิ่งหน้าตาตื่นไปทางตู้โทรศัพท์ตรงโถงทางเดินนู้นแน่ะค่ะ" หญิงสาวชี้นิ้วไปยังทางเดินด้านในตัวอาคารที่ค่อนข้างเงียบกว่าบริเวณลานกิจกรรม"ไปได้สักพักแล้ว..ยังไม่เห็

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ห่วง

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากปีหนึ่งเทอมแรกกิจกรรมรับน้อง การเรียน การสอบ วนเวียนจนกระทั่งทุกอย่างผ่านพ้นไปหนึ่งปีการศึกษาเต็ม ๆความสัมพันธ์ระหว่างครามและฟ้าใสยังคงดำเนินไปในรูปแบบของเพื่อนบ้านและพี่ชายที่แสนดีอย่างที่หลายคนเห็นครามยังคงวนเวียนเข้ามาช่วยเหลือฟ้าใสอยู่เสมอ ทั้งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการช่วยถือของ ซื้อขนมมาฝากหรือแม้แต่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยตอนเธอกลับบ้านดึก ๆและบางครั้งก็รวมถึงเรื่องที่มหาวิทยาลัย ทำให้เธอกับเขายิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยปริยายตามประสาคนที่บ้านอยู่ตรงข้ามกันส่วนขุนเขา...เขาก็ยังคงเป็นขุนเขาคนเดิม ไม่เคยถอดใจจากเป้าหมาย แม้จะไม่ได้ทุ่มเทเข้าหาฟ้าใสอย่างหนักหน่วงเหมือนช่วงแรกที่เจอกัน แต่ก็ยังคงหาโอกาสเข้ามาทักทาย ชวนคุยหรือทำตัวเป็นเพื่อนจอมกวนให้เธอได้เห็นหน้าอยู่เสมอส่งผลให้ฟ้าใสถูกเพื่อนสนิทในกลุ่มศิลปกรรมฯ แซวจนหูชาทั้งเรื่องพี่ชายข้างบ้านสุดอบอุ่นและเด็กวิศวะฯ จอมตื๊อหน้ามึนลึก ๆ แล้วฟ้าใสเองก็อดรู้สึกแปลก ๆ ก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status