แชร์

พักกลางวัน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-09 14:13:11

ครูวารียิ้มให้เด็กทั้งสามแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องเขินไปหรอกจ้ะ พวกเธอทั้งสามทำได้ดีมาก แล้วครูก็ต้องการให้พวกเธอเป็นตัวอย่างที่ดี ครูมั่นใจว่าทุกคนในห้องนี้มีความสามารถ พวกเธอต้องตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของตัวเอง”

ฟ้าใส ครีม และม่านเมฆพยักหน้าให้กับคำพูดของครู  แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง หลังจากนั้นครูวารีจึงเริ่มพูดถึงตารางเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

“ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าเราจะมีการเรียนที่เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมที่จะทำร่วมกัน เช่น งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์         งานกีฬา และกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนที่รอเราอยู่ ดังนั้นเรามาพยายามด้วยกันนะ และครูก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการเรียนรวมถึงให้ความร่วมมือในเรื่องของกิจกรรม” ครูวารีพูดต่อ ก่อนที่จะหันมามองนักเรียนที่นั่งอยู่แถวหน้าซึ่งก็คือฟ้าใส ม่านเมฆ และก็ครีมนั่นเอง

“ว่าแต่พวกเธอเลือกเรียนสายศิลป์-ภาษาเพราะอะไรกัน ครูอยากฟังเหตุผลจากพวกเธอสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ”

ฟ้าใสยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นพูด “หนูชอบการเขียนค่ะครู การใช้คำพูดและภาษาเป็นสิ่งที่ทำให้หนูรู้สึกมีความสุขรวมถึงหนูชอบการวาดรูปด้วยจึงได้เลือกเรียนสายนี้ค่ะ”

ครีมยิ้มตามเพื่อนแล้วพูดขึ้นบ้าง “หนูชอบงานศิลปะค่ะ แต่ก็ชอบเรียนภาษาเหมือนกัน มันทำให้หนูรู้สึกว่าได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์”

ม่านเมฆที่นั่งเงียบอยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นยืนหลังจากครีมพูดจบ “ผมไม่เก่งวิทย์หรือคณิตศาสตร์เท่าไหร่ครับ เลยคิดว่าการเรียนภาษาและศิลปะน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า”

ครูวารียิ้มให้พวกเขา “ทุกคนมีเหตุผลที่ดีมากจ้ะและครูมั่นใจว่าในปีนี้พวกเธอจะทำได้ดีแน่นอน เอาละเรารู้จักเพื่อนทั้งสามของเราไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงการแนะนำตัวของทุกคนกันบ้างนะจ๊ะ เริ่มจากนักเรียนแถวแรกโต๊ะริมหน้าต่างก่อน” เด็กนักเรียนภายในห้องม.4/1 ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

และหลังจากทุกคนแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อยพวกเขาแต่ละคนก็ได้รับมอบหมายให้ช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียนเนื่องจากตั้งแต่ปิดเทอมฝุ่นค่อนข้างเยอะแม้ว่าจะมีนักการภารโรงก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้ทำอย่างทั่วถึง

ซึ่งการเรียนวันแรกของการเปิดภาคการศึกษานั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบนี้เนื่องจากช่วงแรกยังเป็นการแนะนำตัวและทำความคุ้นเคยก่อนที่จะเข้าสู่การเรียนอย่างจริงจัง ซึ่งหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยก็ถึงเวลาเลือกหัวหน้าห้องซึ่งครูวารีก็ต้องการให้สามเพื่อนซี้เป็น

ทว่าฟ้าใสกับน้องและครีมต่างก็เห็นว่าเพื่อนในห้องก็มีความสามารถดังนั้นเธอจึงได้ปฏิเสธ

และสุดท้ายตำแหน่งหัวหน้าห้องจึงเป็นเด็กนักเรียนชายที่เคยเรียนอยู่ที่นี่มาก่อนตอนม.ต้นชื่อน้ำหนึ่งซึ่งได้นั่งคู่กับม่านเมฆ

เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เสียงกริ่งจะดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน เด็กนักเรียนจำนวนไม่น้อยทยอยกันเดินออกจากห้องอย่างเร่งรีบบ้าง ช้าบ้าง

ส่วนฟ้าใส ครีม ม่านเมฆ และน้ำหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันก็เดินออกมาพร้อมกัน ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปโรงอาหาร     น้ำหนึ่งก็ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ออกมา

“หลังห้าโมงเย็นพวกเธอห้ามเข้าไปในห้องดนตรีสากลบนชั้นสามนะ” เด็กชายพูดขึ้นด้วยท่าทางลึกลับ

“ทำไมล่ะ นายอย่าบอกนะว่าในนั้นมีอะไร” ครีมทำท่าทางหลอกผีใส่เขาจนน้ำหนึ่งยิ้มแหย

“อืม เป็นอย่างที่เธอคิดนั่นแหละ” เขาตอบตามตรง

“เฮ้ย! จริงอ่ะ นายไม่ใช่จะทำให้พวกเรากลัวหรอกใช่ไหมโดยเฉพาะฉันที่กำลังสนใจดนตรีสากล” ม่านเมฆร้องเสียงหลงเนื่องจากเจ้าตัวค่อนข้างแหยงกับเรื่องแบบนี้

“ฉันพูดจริงนะ มีคนเห็นกันหลายคนแล้ว บางคนก็บอกว่ามักจะมีคนได้ยินเสียงเปียโนดังเองบ้างละ ส่วนบางคนก็บอกว่าเห็นมีเงาคนเดินหายเข้าไปในห้องต่อหน้าต่อตา” น้ำหนึ่งยังคงพูดต่อจนพวกเขาเดินมาถึงโรงอาหาร

“ฉันว่าเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ เพราะตอนนี้เรามีปัญหาใหญ่กว่ารออยู่” ครีมพูดพลางมองไปยังโต๊ะกินข้าวที่แทบจะเต็มทุกโต๊ะ

“เอาอย่างนี้ไหม แยกกันไปซื้อข้าวก่อนจากนั้นค่อยมาหาที่นั่ง ฉันว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีคนลุกออกไปบ้างแหละ” ฟ้าใสพูดพลางมองร้านข้าวที่ดูเหมือนว่าจะมีคนไม่น้อยต่อแถวรอ

“ก็ดีเหมือนกัน น้ำหนึ่งในฐานะที่นายเคยเรียนที่นี่มาก่อนนายว่าร้านข้าวร้านไหนอร่อย” ม่านเมฆถามเพื่อนใหม่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“ร้านป้าใหม่ตรงนั้น” เขาตอบออกมาอย่างมั่นใจ

“ทำไมนายมั่นใจมากขนาดนั้นล่ะ” ฟ้าใสอดสงสัยไม่ได้ถามขึ้นด้วยรอยยิ้มขำ

“ก็เพราะเป็นร้านของแม่ฉันเอง ในเมื่อพวกเราเป็นเพื่อนกันก็ต้องอุดหนุนเพื่อนสิ ฉันพูดถูกไหมแต่กับข้าวที่แม่ฉันทำอร่อยจริง ๆ นะ” สิ่งที่น้ำหนึ่งพูดออกมาทำให้ฟ้าใส ม่านเมฆ และครีมค่อนข้างตกใจไม่น้อย

“โอเค ถ้าอย่างนั้นไปซื้อร้านของแม่นายกัน” ม่านเมฆเอามือโอบบ่าเพื่อนก่อนที่ฟ้าใสกับครีมจะเดินตามมาไม่ห่าง

หลังน้ำหนึ่งแนะนำแม่ของตนให้เพื่อนใหม่รู้จักเด็กทั้งสามก็สั่งกับข้าวที่ตัวเองอยากกินกันทันทีด้วยความหิว

“แม่เลี้ยงเองจ้า” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นอย่างใจดี

“ไม่ดีหรอกค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เดี๋ยวพวกเราไม่กล้ามาอุดหนุนร้านของแม่อีกนะคะ” ฟ้าใสปฏิเสธโดยมีม่านเมฆ ครีมพยักหน้าเห็นพ้องซึ่งแต่ละคนก็นำเงินออกมายัดใส่มือให้กับน้ำหนึ่งตามค่ารายการอาหารที่ระบุไว้อย่างชัดเจน

“ขอบใจนะจ๊ะลูก” ป้าใหม่แม่ของน้ำหนึ่งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไรค่ะ/ครับ” ในระหว่างนี้ครีมก็หันไปมองโต๊ะกินข้าวก่อนที่ดวงตาจะทอประกายดีใจ

“ไปนั่งโต๊ะเดียวกับเฮียครามกัน” เด็กหญิงกล่าวชวนก่อนจะเดินนำหน้าเพื่อนไปทันที ส่วนน้ำหนึ่งยังคงอยู่หน้าร้านของตนซึ่งเขารู้สึกดีใจที่เพื่อนใหม่เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว

“เพื่อนของลูกดีมากเลยนะ คบกันให้ดี ๆ ล่ะ ถ้าเป็นอย่างเมื่อก่อน” แม่ของน้ำหนึ่งเว้นไว้แค่นั้นโดยไม่พูดต่อ

“ผมเองก็ดีใจที่ได้รู้จักกับพวกเขาครับแม่” น้ำหนึ่งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ในอดีตเขาเองก็เคยมีเพื่อนสนิทแต่ว่าหลังจากที่ทุกคนรู้ว่าแม่เขาขายอาหารในโรงเรียนก็มักจะหาข้ออ้างกินฟรี        ซึ่งหลัง ๆ พอเขาปฏิเสธก็ไร้คนคบไปโดยปริยาย

ในขณะที่เจ้าตัวกำลังจะเดินไปทางเพื่อนใหม่ที่กวักมือเรียก อดีตเพื่อนของเขาก็เดินเข้ามาขวางหน้า

“ไง เลี้ยงข้าวเพื่อนใหม่ได้ก็เลยลืมเพื่อนเก่าอย่างนั้นเหรอ” ผู้พูดแสดงท่าทีหาเรื่อง

“ฉันไม่ได้เลี้ยงพวกเขาจ่ายเงินซื้อ นายหลีกไปฉันจะรีบไปกินข้าว” น้ำเสียงของน้ำหนึ่งเต็มไปด้วยความห้วนมะนาวไม่มีน้ำ

“เหอะ! คิดว่าฉันจะเชื่อแต่ก็นะคนอย่างแกจะมีใครคบได้สักเท่าไหร่”

ใบหน้าของน้ำหนึ่งเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ “น้ำหนึ่ง ไปนั่งสิ พวกเรารอนายอยู่นานแล้ว” เสียงของม่านเมฆดังขึ้นโดยมีครีมกับฟ้าใสเดินตามมาด้วย

“อืม กำลังไป” เมื่อเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยอดีตเพื่อนของน้ำหนึ่งจึงได้แต่หลีกทางอย่างจำยอม

และเมื่อเขามองไปและเห็นว่าน้ำหนึ่งไปนั่งรวมกับพี่ม.6เจ้าตัวก็รีบหันหน้าหนีทั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มของครามนับว่ามีชื่อเสียงในโรงเรียนไม่น้อยทั้งจากการเรียนและกิจกรรม

“เฮียครามนี่เพื่อนใหม่ของครีม ชื่อน้ำหนึ่งแม่เปิดร้ายขายข้าวแกงชื่อร้านป้าใหม่เฮียกับเพื่อนอย่าลืมไปอุดหนุนนะ” ครีมแนะนำเพื่อนใหม่ออกมาหลังจากนั่งลงเรียบร้อย

“อืม” ครามพยักหน้ารับอย่างขอไปทีแต่ไม่ใช่กับเพื่อนของเขาที่เพิ่งจะเห็นหน้าม่านเมฆกับฟ้าใส

“น้องครีมแล้วเพื่อนน้องสองคนนี่ชื่ออะไร” ธรถามขึ้นตามประสาคนช่างพูด

“คนนี้ฟ้าใส คนนี้ม่านเมฆค่ะ” ครีมตอบตามตรงก่อนจะตักข้าวใส่ปาก

“สวัสดีค่ะ/ครับ” สองพี่น้องยกมือไหว้

“เอ่อ มารยาทดีชะมัด พี่ชื่อพัฒน์นะ ส่วนคนที่ถามถึงเราเมื่อกี้ชื่อธร คนนี้ภูมิถ้ามีปัญหาก็มาหาพวกเรานะ” หลังจบคำพูดของเขาเฮียครามที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจึงได้พูดออกมา “ไปกันเถอะ”

ครีมได้แต่มองตามแผ่นหลังของพี่ชายตาปริบ ๆ ก่อนจะกินข้าวในจานของตัวเองต่อ

“ครีมพี่ชายแกดุไหม” น้ำหนึ่งถามเพื่อนหลังจากเห็นท่าทางของเฮียคราม

“ไม่เท่าไหร่ แต่เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอนั่นแหละแกไม่ต้องใส่ใจหรอก หากไม่เชื่อแกก็ถามม่านเมฆกับฟ้าใสสิสองคนนี้ก็ชินกับนิสัยของเฮียเขาแล้วละ” ครีมยักไหล่ก่อนจะดูดน้ำอัดลมในแก้วของตน

“ไม่ดุหรอกเฮียเขายังจะสอนกีตาร์ให้ม่านเมฆเลย” เมื่อเห็นสีหน้าของน้ำหนึ่งฟ้าใสจึงได้พูดออกมาเป็นการยืนยัน

“ไม่น่าเชื่อ แต่พี่คีรินทรเล่นกีตาร์เก่งมากนะ” คำพูดของน้ำหนึ่งได้ทำให้หูของคนทั้งสามผึ่งพร้อมกัน

“นายรู้จักเฮียของฉันนี่แล้วจะถามเพื่อ...” ครีมหรี่ตามองเพื่อนเอ่ยอย่างสงสัย

“ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ฉันเรียนที่นี่มาก่อนและเคยเห็นพี่เขาเล่นกีตาร์ที่สนามฟุตบอลเวลาพัก พวกเธอไม่รู้อะไรกลุ่มของพี่ชายเธอนะฮอตมากนะ”

“เรื่องจริง!” ครีมส่งเสียงหลงเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ

“ฉันจะโกหกทำไม” น้ำหนึ่งตอบพลางกินข้าวในจานของตนอย่างรวดเร็วเนื่องจากตอนนี้ใกล้หมดเวลาพัก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   จุดเริ่มต้นของสองเรา

    17 มีนาคม 2551(ความรักก็เหมือนช็อกโกแลต... บางครั้งขม บางครั้งหวาน แต่สุดท้ายก็ละลายในใจเรา)ฉันไม่เคยคิดจะจดบันทึกเรื่องของตัวเองมาก่อน แต่วันนี้ อยู่ดี ๆ ก็อยากกลับไปนึกถึงวันแรกที่เจอกับเขา ตอนนั้นฉันอายุ 15 ส่วนเฮียครามอายุ 17 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งคู่ไม่ได้รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของเราจะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทว่าฉันก็ยังจำเรื่องของเราได้ดี...15 กุมภาพันธ์ 2538 หลังวันวาเลน์ไทน์มาหนึ่งวันท่ามกลางความเงียบสงบภายในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ศรีปฐม เสียงพลิกหน้ากระดาษดังเป็นจังหวะฉันก้มหน้าก้มตาอ่านโจทย์เลขตรงหน้าอย่างตั้งใจ หรืออย่างน้อยฉันก็บอกตัวเองแบบนั้น แม้ว่าตัวเลขพวกนี้จะเริ่มเบลอไปหมดแล้วก็ตาม“แก ฉันบอกให้เฮียมารับแหละ”เสียงของครีมดังขึ้นขัดจังหวะ ฉันละสายตาจากสมุดคณิตศาสตร์แล้วเงยหน้ามอง“เฮีย?”“เฮียครามพี่ชายของฉันไง”“หา?” ฉันกะพริบตาก่อนเสียงของม่านเมฆ น้องชายฝาแฝดของฉันจะดังขึ้นจากอีกฝั่งของโต๊ะ“ทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะ เจ้ฟ้าก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง” สีหน้าของม่านเมฆไม่ได้ต่างไปจากฉันหลังได้ยินคำพูดของครีม“ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเหมือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-07
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   แรกเจอ

    ครีมรีบก้าวเท้าออกจากอาคารห้องสมุดอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งกุมสายสะพายกระเป๋า ส่วนอีกข้างยกขึ้นแตะหน้าผากตัวเองพลางบ่นอุบ“ฉันลืมไปเลย ถ้าเฮียรอนานเดี๋ยวโดนบ่นอีกแน่!”ฉันกับม่านเมฆมองหน้ากันก่อนจะรีบเดินตามเธอออกไป พอพวกเราออกมาถึงลานกว้างหน้าห้องสมุด แสงแดดอ่อนของช่วงเย็นทอดเงาบนพื้นถนนคอนกรีตเสียงรถรารวมถึงจักรยานจำนวนมากเริ่มขวักไขว่เพราะเป็นเวลาเลิกเรียนของมหาวิทยาลัย นักศึกษาหลายคนเดินกันอย่างเร่งรีบบ้าง เอื่อยเฉื่อยบ้าง และมีบางกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องงานที่ต้องส่ง บางคนก็หาที่นั่งเล่นรอเพื่อนที่ยังไม่ออกมา“เจอเฮียไหม?” ฉันถามครีมพลางช่วยมองไปรอบ ๆ“น่าจะรอตรงที่จอดรถมอไซค์ ครีมพึมพำก่อนจะเร่งฝีเท้าพวกเราเดินผ่านผู้คนท่ามกลางบรรยากาศของมหาวิทยาลัยศรีปฐมที่กำลังคึกคักไปด้วยนักศึกษาหนุ่มสาวที่ยังสวมชุดนักศึกษาเรียบร้อยบ้าง ไม่เรียบร้อยบ้าง บางคนสะพายกระเป๋าเดินคุยกันอย่างออกรสทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเพลงดังแว่วมาจากลำโพงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอาหารของมหาวิทยาลัยถ้าหากครั้งนี้ ไม่มีเธอลวงหลอกไว้ฉันนี้คงงมงาย เห็นรักดีเกิน ไม่มีวันจะรู้ฉันเจ็บครั้งนี้ ฉันมีเธอเป็นดั่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-07
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   วันเกิด 4 ปีมีครั้ง

    ตั้งแต่วันที่เราสามคนไปอ่านหนังสือด้วยกัน วันเวลาก็ผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่รู้ตัว พริบตาเดียวก็จะหมดเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้เป็นปีอธิกสุรทิน วันที่ 29 กุมภาพันธ์มีเพียงสี่ปีครั้ง ฉันตื่นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกแปลกไปพร้อมกันสาเหตุที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะวันนี้คือวันเกิดของฉันและทุกครั้งที่ฉันนึกถึงวันเกิด คนอื่นจะอวยพรฉันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือเลื่อนไปฉลองวันที่ 1 มีนาคมพร้อมกับม่านเมฆแทนแม้ว่าเราสองคนจะเป็นแฝดกันแต่พวกเราเกิดกันคนละวัน แต่ปีนี้...เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ฉันได้ฉลองวันเกิดตรงวันจริงเมื่อเดินลงมาจากห้องนอน ฉันพบแม่กำลังยืนจัดจานขนมปังปิ้งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กลิ่นหอมของเนยละลายลอยมาแตะจมูก “สุขสันต์วันเกิดนะลูก” แม่ยิ้มหวานก่อนจะยื่นแก้วโกโก้ร้อนให้ฉันฉันยิ้มกว้าง “ขอบคุณค่ะแม่”ป๊าวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมกับกล่าวอวยพร“มีความสุขมาก ๆ นะลูก โตขึ้นอีกปีแล้ว”“ขอบคุณค่ะป๊า”ม่านเมฆเดินเข้ามาพร้อมกล่องยาวในมือขนาดเล็ก เขายื่นให้ฉันแบบขอไปที“สุขสันต์วันเกิด”“อะไรเนี่ย?” ฉันรับกล่องมาเปิดดู แล้วพบกับดินสอกด Rotring สีดำด้าน“ว้าว! นี่ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-07
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ปัจฉิมนิเทศ

    ก่อนถึงวันสอบปลายภาคไม่กี่วัน นักเรียนชั้นสุดท้ายมักจะมีการแลกสมุดเฟรนด์ชิพกัน ซึ่งฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับสมุดเฟรนด์ชิพจากเพื่อนหลายคนพวกเราต่างเขียนข้อความให้กันด้วยลายมือของตัวเอง พร้อมกับวาดการ์ตูนตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างแล้วแต่ใครจะสามารถทำได้ มีการแปะสติ๊กเกอร์รวมถึงการเขียนคำคมที่ได้รับความนิยมในยุคนั้นฉันเปิดสมุดเฟรนด์ชิพของครีมที่เธอยื่นมาให้ มันเป็นสมุดปกแข็งสีชมพูมีลายหมีน่ารักอยู่หน้าปก ฉันใช้ดินสอกด Rotring ที่ม่านเมฆให้มาเป็นของขวัญวันเกิดค่อย ๆ บรรจงเขียนข้อความลงไป"ถึงครีม เพื่อนสุดที่รักของฉัน"พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม จำได้ไหมว่าเราช่วยกันติวข้อสอบวิชาสังคมตอนป.6 จนเกือบหลับคาหนังสือ?ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีเสมอมา ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ฉันรู้ว่าเราจะยังอยู่ข้างกันเสมอ ขอให้เธอมีความสุขมาก ๆ นะ แล้วพวกเราจะไปลุยโรงเรียนใหม่ด้วยกัน!ฉันตบท้ายด้วยการวาดรูปกระต่ายตัวเล็กลงในมุมสมุด พร้อมแปะสติกเกอร์รูปหัวใจลงไปหนึ่งดวง“แกใช้เวลากับสมุดของฉันนานมากเลยนะ เขียนอะไรยาวขนาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-08
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   น่าอายชะมัด!!

    “นี่อะไรเหรอ?” ฉันถามเสียงเบาพยายามไม่ให้น้ำเสียงของตัวเองสั่น ต้นเม้มปากแน่นเหมือนกำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะพูดออกมารัวเร็ว“เอ่อ… จดหมาย… ฉันเขียนให้เธอ… อยากให้เธออ่านตอนถึงบ้าน”ฉันกะพริบตามองเขาอย่างเหลือเชื่อ ม่านเมฆที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองเหตุการณ์ด้วยสายตาสนอกสนใจ ส่วนครีมที่เดินออกจากโรงเรียนทีหลังถึงกับอ้าปากค้าง ดวงตาลุกวาวราวกับเห็นอะไรน่าสนุก“โอ้โห… โรแมนติกสุด ๆ” ครีมกระซิบข้างหูฉันฉันหันไปถลึงตาใส่เธอ “อ่านการ์ตูนตาหวานมากไปหรือไงแก เงียบก่อน” ฉันกระซิบก่อนจะรับจดหมายจากมือของต้นมาถือไว้“ขอบคุณนะ ฉันจะอ่านตอนถึงบ้าน”ต้นพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตาแล้วรีบหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็วราวกับว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกำลังวิ่งตามครีมหันมาหัวเราะและก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดออกมา “กรี๊ดดด! แกได้จดหมายรัก! ฉันนึกว่าจะมีแต่ในการ์ตูนซะอีก”“เงียบไปเลย!” ฉันรีบเก็บจดหมายลงในกระเป๋า &

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-08
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   บ้านใหม่

    การสอบใช้เวลาหลายชั่วโมง ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด แม้ว่าบางข้อจะยากจนต้องใช้เวลาไตร่ตรองนาน แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปจนได้เมื่อเสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าสอบเสร็จ ฉันปล่อยลมหายใจออกมายาว ๆ พลางเก็บอุปกรณ์การเขียนลงกระเป๋า ก่อนจะเดินออกมาพบกับม่านเมฆและครีมที่รออยู่“เป็นยังไงบ้าง?” ครีมถามอย่างตื่นเต้น“ก็โอเคนะ มีบางข้อที่ไม่แน่ใจ แต่ก็ทำสุดความสามารถแล้ว” ฉันตอบตามตรงม่านเมฆพยักหน้า “ผมก็เหมือนกัน”พวกเราสามคนยืนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่ครีมจะแยกตัวออกไปรอเฮียคราม ส่วนฉันเดินออกจากโรงเรียนพร้อมกับม่านเมฆด้วยความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก“อีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลแล้ว” ฉันพึมพำ“ก็ต้องรอลุ้นกันไป” ม่านเมฆตอบฉันเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นอย่างประหลาด ฉันไม่รู้หรอกว่าผลสอบจะออกมาเป็นยังไงแต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนอย่างน้อยฉันก็ทำเต็มที่แล้วเมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับม่านเมฆเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกโล่งอกจากการสอบที่เพิ่งผ่านพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-09
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   จุดเริ่มต้นเส้นทางใหม่

    ครามที่เดิมทีตั้งใจจะนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง พอได้ยินเสียงสนทนาเจื้อยแจ้วของแม่ตัวเองกับเพื่อนบ้านคนใหม่ที่ดูจะเข้ากันได้ดีเหลือเกินก็ตัดสินใจถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาดูหน้าบ้านเขาปรากฏตัวพร้อมกับเสื้อกล้ามสีขาวแบบเรียบ กางเกงขาสั้นธรรมดา ท่าทางไม่ได้ตั้งใจให้เป็นทางการนักแต่ก็ไม่ได้ดูมอมแมมอะไรแต่ทันทีที่สายตาของเขาปะทะเข้ากับหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างแม่ของตน ร่างสูงก็ผงะไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว“อะ...” เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนจะปรับสีหน้าตัวเองให้เป็นปกติ ทว่าเจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองอีกฝ่ายซ้ำเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกใจอะไรได้ง่ายแต่การที่หญิงตรงหน้ามีเค้าโครงใบหน้าละม้ายคล้ายกับฟ้าใสเสียเหลือเกิน ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกแม่ของเขาที่เห็นอาการนิ่งอึ้งของลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างขบขันก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงใส“อ้าวคราม ออกมาพอดีเลย มา ๆ เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จัก นี่น้าลิตาแม่ของฟ้าใสกับม่านเมฆ บ้านที่ย้ายมาอยู่ตรงข้ามเรานี่เอง”ลลิตาส่งยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-09
  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   เพื่อนใหม่ ห้องเรียนใหม่

    เด็กทั้งสามคนขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยความตื่นเต้น พวกเขายังคุยกันถึงเรื่องผลสอบมาตลอดทางจนรถเมล์หยุดลงหน้าบ้านฝั่งของครีมครีมเป็นคนแรกที่กระโดดลงจากรถ ก่อนจะหันกลับไปมองฟ้าใสกับม่านเมฆที่เดินตามลงมา“แกว่าป๊าฉันจะดีใจจนให้รางวัลเพิ่มไหม”ฟ้าใสหัวเราะ “ป๊าแกก็ฉลองให้แล้วไง ยังจะหวังของขวัญเพิ่มอีกเหรอ?”ครีมยักไหล่ “เผื่อฟลุ๊กไง เฮ้อ! เฮียครามกลับบ้านรึยังนะ?” เธอพูดพลางชะเง้อมองเข้าไปด้านในบ้านม่านเมฆเองก็มีสีหน้าคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะถามขึ้นมาอีกเพื่อยืนยัน “เฮียครามเล่นดนตรีเก่งมากจริง ๆ เหรอ?”“แน่นอน!” ครีมตอบทันที “แกไม่เชื่อเหรอ? เดี๋ยวเย็นนี้พอเขากลับมาฉันจะให้เฮียโชว์ให้ดูเลย”“เอาจริงเหรอ?” ฟ้าใสหัวเราะ “งั้นฉันก็อยากฟังเหมือนกัน”“แน่นอน! แกต้องได้ฟังอยู่แล้ว” ครีมพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เฮียฉันไม่ใช่เล่น ๆ นะ เขาเคยไปประกวดด้วย แต่เขาแค่ไม่เคยพูดให้ใครฟังหากว่าฉันไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-09

บทล่าสุด

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   พักกลางวัน

    ครูวารียิ้มให้เด็กทั้งสามแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องเขินไปหรอกจ้ะ พวกเธอทั้งสามทำได้ดีมาก แล้วครูก็ต้องการให้พวกเธอเป็นตัวอย่างที่ดี ครูมั่นใจว่าทุกคนในห้องนี้มีความสามารถ พวกเธอต้องตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของตัวเอง”ฟ้าใส ครีม และม่านเมฆพยักหน้าให้กับคำพูดของครู แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง หลังจากนั้นครูวารีจึงเริ่มพูดถึงตารางเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้“ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าเราจะมีการเรียนที่เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมที่จะทำร่วมกัน เช่น งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ งานกีฬา และกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนที่รอเราอยู่ ดังนั้นเรามาพยายามด้วยกันนะ และครูก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการเรียนรวมถึงให้ความร่วมมือในเรื่องของกิจกรรม” ครูวารีพูดต่อ ก่อนที่จะหันมามองนักเรียนที่นั่งอยู่แถวหน้าซึ่งก็คือฟ้าใส ม่านเมฆ และก็ครีมนั่นเอง“ว่าแต่พวกเธอเลือกเรียนสายศิลป์-ภาษาเพราะอะไรกัน ครูอยากฟังเหตุผลจากพวกเธอสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ”ฟ้าใสยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นพูด “หนูชอบการเขียนค่ะคร

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   เพื่อนใหม่ ห้องเรียนใหม่

    เด็กทั้งสามคนขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยความตื่นเต้น พวกเขายังคุยกันถึงเรื่องผลสอบมาตลอดทางจนรถเมล์หยุดลงหน้าบ้านฝั่งของครีมครีมเป็นคนแรกที่กระโดดลงจากรถ ก่อนจะหันกลับไปมองฟ้าใสกับม่านเมฆที่เดินตามลงมา“แกว่าป๊าฉันจะดีใจจนให้รางวัลเพิ่มไหม”ฟ้าใสหัวเราะ “ป๊าแกก็ฉลองให้แล้วไง ยังจะหวังของขวัญเพิ่มอีกเหรอ?”ครีมยักไหล่ “เผื่อฟลุ๊กไง เฮ้อ! เฮียครามกลับบ้านรึยังนะ?” เธอพูดพลางชะเง้อมองเข้าไปด้านในบ้านม่านเมฆเองก็มีสีหน้าคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะถามขึ้นมาอีกเพื่อยืนยัน “เฮียครามเล่นดนตรีเก่งมากจริง ๆ เหรอ?”“แน่นอน!” ครีมตอบทันที “แกไม่เชื่อเหรอ? เดี๋ยวเย็นนี้พอเขากลับมาฉันจะให้เฮียโชว์ให้ดูเลย”“เอาจริงเหรอ?” ฟ้าใสหัวเราะ “งั้นฉันก็อยากฟังเหมือนกัน”“แน่นอน! แกต้องได้ฟังอยู่แล้ว” ครีมพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เฮียฉันไม่ใช่เล่น ๆ นะ เขาเคยไปประกวดด้วย แต่เขาแค่ไม่เคยพูดให้ใครฟังหากว่าฉันไ

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   จุดเริ่มต้นเส้นทางใหม่

    ครามที่เดิมทีตั้งใจจะนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง พอได้ยินเสียงสนทนาเจื้อยแจ้วของแม่ตัวเองกับเพื่อนบ้านคนใหม่ที่ดูจะเข้ากันได้ดีเหลือเกินก็ตัดสินใจถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาดูหน้าบ้านเขาปรากฏตัวพร้อมกับเสื้อกล้ามสีขาวแบบเรียบ กางเกงขาสั้นธรรมดา ท่าทางไม่ได้ตั้งใจให้เป็นทางการนักแต่ก็ไม่ได้ดูมอมแมมอะไรแต่ทันทีที่สายตาของเขาปะทะเข้ากับหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างแม่ของตน ร่างสูงก็ผงะไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว“อะ...” เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนจะปรับสีหน้าตัวเองให้เป็นปกติ ทว่าเจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองอีกฝ่ายซ้ำเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกใจอะไรได้ง่ายแต่การที่หญิงตรงหน้ามีเค้าโครงใบหน้าละม้ายคล้ายกับฟ้าใสเสียเหลือเกิน ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกแม่ของเขาที่เห็นอาการนิ่งอึ้งของลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างขบขันก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงใส“อ้าวคราม ออกมาพอดีเลย มา ๆ เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จัก นี่น้าลิตาแม่ของฟ้าใสกับม่านเมฆ บ้านที่ย้ายมาอยู่ตรงข้ามเรานี่เอง”ลลิตาส่งยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   บ้านใหม่

    การสอบใช้เวลาหลายชั่วโมง ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด แม้ว่าบางข้อจะยากจนต้องใช้เวลาไตร่ตรองนาน แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปจนได้เมื่อเสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าสอบเสร็จ ฉันปล่อยลมหายใจออกมายาว ๆ พลางเก็บอุปกรณ์การเขียนลงกระเป๋า ก่อนจะเดินออกมาพบกับม่านเมฆและครีมที่รออยู่“เป็นยังไงบ้าง?” ครีมถามอย่างตื่นเต้น“ก็โอเคนะ มีบางข้อที่ไม่แน่ใจ แต่ก็ทำสุดความสามารถแล้ว” ฉันตอบตามตรงม่านเมฆพยักหน้า “ผมก็เหมือนกัน”พวกเราสามคนยืนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่ครีมจะแยกตัวออกไปรอเฮียคราม ส่วนฉันเดินออกจากโรงเรียนพร้อมกับม่านเมฆด้วยความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก“อีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลแล้ว” ฉันพึมพำ“ก็ต้องรอลุ้นกันไป” ม่านเมฆตอบฉันเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นอย่างประหลาด ฉันไม่รู้หรอกว่าผลสอบจะออกมาเป็นยังไงแต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนอย่างน้อยฉันก็ทำเต็มที่แล้วเมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับม่านเมฆเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกโล่งอกจากการสอบที่เพิ่งผ่านพ

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   น่าอายชะมัด!!

    “นี่อะไรเหรอ?” ฉันถามเสียงเบาพยายามไม่ให้น้ำเสียงของตัวเองสั่น ต้นเม้มปากแน่นเหมือนกำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะพูดออกมารัวเร็ว“เอ่อ… จดหมาย… ฉันเขียนให้เธอ… อยากให้เธออ่านตอนถึงบ้าน”ฉันกะพริบตามองเขาอย่างเหลือเชื่อ ม่านเมฆที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองเหตุการณ์ด้วยสายตาสนอกสนใจ ส่วนครีมที่เดินออกจากโรงเรียนทีหลังถึงกับอ้าปากค้าง ดวงตาลุกวาวราวกับเห็นอะไรน่าสนุก“โอ้โห… โรแมนติกสุด ๆ” ครีมกระซิบข้างหูฉันฉันหันไปถลึงตาใส่เธอ “อ่านการ์ตูนตาหวานมากไปหรือไงแก เงียบก่อน” ฉันกระซิบก่อนจะรับจดหมายจากมือของต้นมาถือไว้“ขอบคุณนะ ฉันจะอ่านตอนถึงบ้าน”ต้นพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตาแล้วรีบหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็วราวกับว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกำลังวิ่งตามครีมหันมาหัวเราะและก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดออกมา “กรี๊ดดด! แกได้จดหมายรัก! ฉันนึกว่าจะมีแต่ในการ์ตูนซะอีก”“เงียบไปเลย!” ฉันรีบเก็บจดหมายลงในกระเป๋า &

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ปัจฉิมนิเทศ

    ก่อนถึงวันสอบปลายภาคไม่กี่วัน นักเรียนชั้นสุดท้ายมักจะมีการแลกสมุดเฟรนด์ชิพกัน ซึ่งฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับสมุดเฟรนด์ชิพจากเพื่อนหลายคนพวกเราต่างเขียนข้อความให้กันด้วยลายมือของตัวเอง พร้อมกับวาดการ์ตูนตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างแล้วแต่ใครจะสามารถทำได้ มีการแปะสติ๊กเกอร์รวมถึงการเขียนคำคมที่ได้รับความนิยมในยุคนั้นฉันเปิดสมุดเฟรนด์ชิพของครีมที่เธอยื่นมาให้ มันเป็นสมุดปกแข็งสีชมพูมีลายหมีน่ารักอยู่หน้าปก ฉันใช้ดินสอกด Rotring ที่ม่านเมฆให้มาเป็นของขวัญวันเกิดค่อย ๆ บรรจงเขียนข้อความลงไป"ถึงครีม เพื่อนสุดที่รักของฉัน"พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม จำได้ไหมว่าเราช่วยกันติวข้อสอบวิชาสังคมตอนป.6 จนเกือบหลับคาหนังสือ?ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีเสมอมา ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ฉันรู้ว่าเราจะยังอยู่ข้างกันเสมอ ขอให้เธอมีความสุขมาก ๆ นะ แล้วพวกเราจะไปลุยโรงเรียนใหม่ด้วยกัน!ฉันตบท้ายด้วยการวาดรูปกระต่ายตัวเล็กลงในมุมสมุด พร้อมแปะสติกเกอร์รูปหัวใจลงไปหนึ่งดวง“แกใช้เวลากับสมุดของฉันนานมากเลยนะ เขียนอะไรยาวขนาด

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   วันเกิด 4 ปีมีครั้ง

    ตั้งแต่วันที่เราสามคนไปอ่านหนังสือด้วยกัน วันเวลาก็ผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่รู้ตัว พริบตาเดียวก็จะหมดเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้เป็นปีอธิกสุรทิน วันที่ 29 กุมภาพันธ์มีเพียงสี่ปีครั้ง ฉันตื่นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกแปลกไปพร้อมกันสาเหตุที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะวันนี้คือวันเกิดของฉันและทุกครั้งที่ฉันนึกถึงวันเกิด คนอื่นจะอวยพรฉันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือเลื่อนไปฉลองวันที่ 1 มีนาคมพร้อมกับม่านเมฆแทนแม้ว่าเราสองคนจะเป็นแฝดกันแต่พวกเราเกิดกันคนละวัน แต่ปีนี้...เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ฉันได้ฉลองวันเกิดตรงวันจริงเมื่อเดินลงมาจากห้องนอน ฉันพบแม่กำลังยืนจัดจานขนมปังปิ้งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กลิ่นหอมของเนยละลายลอยมาแตะจมูก “สุขสันต์วันเกิดนะลูก” แม่ยิ้มหวานก่อนจะยื่นแก้วโกโก้ร้อนให้ฉันฉันยิ้มกว้าง “ขอบคุณค่ะแม่”ป๊าวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมกับกล่าวอวยพร“มีความสุขมาก ๆ นะลูก โตขึ้นอีกปีแล้ว”“ขอบคุณค่ะป๊า”ม่านเมฆเดินเข้ามาพร้อมกล่องยาวในมือขนาดเล็ก เขายื่นให้ฉันแบบขอไปที“สุขสันต์วันเกิด”“อะไรเนี่ย?” ฉันรับกล่องมาเปิดดู แล้วพบกับดินสอกด Rotring สีดำด้าน“ว้าว! นี่ข

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   แรกเจอ

    ครีมรีบก้าวเท้าออกจากอาคารห้องสมุดอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งกุมสายสะพายกระเป๋า ส่วนอีกข้างยกขึ้นแตะหน้าผากตัวเองพลางบ่นอุบ“ฉันลืมไปเลย ถ้าเฮียรอนานเดี๋ยวโดนบ่นอีกแน่!”ฉันกับม่านเมฆมองหน้ากันก่อนจะรีบเดินตามเธอออกไป พอพวกเราออกมาถึงลานกว้างหน้าห้องสมุด แสงแดดอ่อนของช่วงเย็นทอดเงาบนพื้นถนนคอนกรีตเสียงรถรารวมถึงจักรยานจำนวนมากเริ่มขวักไขว่เพราะเป็นเวลาเลิกเรียนของมหาวิทยาลัย นักศึกษาหลายคนเดินกันอย่างเร่งรีบบ้าง เอื่อยเฉื่อยบ้าง และมีบางกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องงานที่ต้องส่ง บางคนก็หาที่นั่งเล่นรอเพื่อนที่ยังไม่ออกมา“เจอเฮียไหม?” ฉันถามครีมพลางช่วยมองไปรอบ ๆ“น่าจะรอตรงที่จอดรถมอไซค์ ครีมพึมพำก่อนจะเร่งฝีเท้าพวกเราเดินผ่านผู้คนท่ามกลางบรรยากาศของมหาวิทยาลัยศรีปฐมที่กำลังคึกคักไปด้วยนักศึกษาหนุ่มสาวที่ยังสวมชุดนักศึกษาเรียบร้อยบ้าง ไม่เรียบร้อยบ้าง บางคนสะพายกระเป๋าเดินคุยกันอย่างออกรสทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเพลงดังแว่วมาจากลำโพงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอาหารของมหาวิทยาลัยถ้าหากครั้งนี้ ไม่มีเธอลวงหลอกไว้ฉันนี้คงงมงาย เห็นรักดีเกิน ไม่มีวันจะรู้ฉันเจ็บครั้งนี้ ฉันมีเธอเป็นดั่ง

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   จุดเริ่มต้นของสองเรา

    17 มีนาคม 2551(ความรักก็เหมือนช็อกโกแลต... บางครั้งขม บางครั้งหวาน แต่สุดท้ายก็ละลายในใจเรา)ฉันไม่เคยคิดจะจดบันทึกเรื่องของตัวเองมาก่อน แต่วันนี้ อยู่ดี ๆ ก็อยากกลับไปนึกถึงวันแรกที่เจอกับเขา ตอนนั้นฉันอายุ 15 ส่วนเฮียครามอายุ 17 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งคู่ไม่ได้รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของเราจะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทว่าฉันก็ยังจำเรื่องของเราได้ดี...15 กุมภาพันธ์ 2538 หลังวันวาเลน์ไทน์มาหนึ่งวันท่ามกลางความเงียบสงบภายในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ศรีปฐม เสียงพลิกหน้ากระดาษดังเป็นจังหวะฉันก้มหน้าก้มตาอ่านโจทย์เลขตรงหน้าอย่างตั้งใจ หรืออย่างน้อยฉันก็บอกตัวเองแบบนั้น แม้ว่าตัวเลขพวกนี้จะเริ่มเบลอไปหมดแล้วก็ตาม“แก ฉันบอกให้เฮียมารับแหละ”เสียงของครีมดังขึ้นขัดจังหวะ ฉันละสายตาจากสมุดคณิตศาสตร์แล้วเงยหน้ามอง“เฮีย?”“เฮียครามพี่ชายของฉันไง”“หา?” ฉันกะพริบตาก่อนเสียงของม่านเมฆ น้องชายฝาแฝดของฉันจะดังขึ้นจากอีกฝั่งของโต๊ะ“ทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะ เจ้ฟ้าก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง” สีหน้าของม่านเมฆไม่ได้ต่างไปจากฉันหลังได้ยินคำพูดของครีม“ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเหมือน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status