共有

พันคีรี

last update 最終更新日: 2025-11-10 00:58:18

2

พันคีรี

ลุงเฉินใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็หาพรานไพลจนเจอ แต่พรานไพลนั่นตายไปเมื่อหกปีก่อนเหลือแต่ลูกชายที่พอจะรู้ทางอยู่บ้าง ตกลงกันอยู่นานพรานพงลูกชายพรานไพลก็ยอมตกลงนำทางให้พวกเรา นอกจากตกลงนำทางพรานพงยังมีข้อเสนอให้อีกอย่างว่าถ้าอยากเข้าป่าอย่างปลอดภัยให้ไปเชิญคนที่ชื่อพันคีรีร่วมทางด้วย

ในวงการหาของโบราณจากเทวาลัย วัง ปราสาทเก่า เมืองเก่า ชื่อพันคีรีนี้โด่งดังมาก ขึ้นชื่อเรื่องมากฝีมือ หน้าที่อย่างเดียวของเขาในการร่วมทางคือเฝ้าระวังคณะเดินทางเท่านั้น ผู้คนเรียกหน้าที่นี้ว่า ‘อารักษ์ขา’ ค่าตัวแพงหูฉี่ แต่เปอร์เซ็นต์การไปและกลับสูงกว่าการไปกันเอง พันคีรีคนนี้เลยมีคนไปเชิญวันละสามเวลา

นอกจากจะไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมาของเขาแล้ว ตัวตนก็เป็นความลับเหมือนกัน ไม่ว่าจะสืบหากันเท่าไรก็ไม่พบเจออะไร อายุ วันเดือนปีเกิด ไม่มีใครรู้เลย มีแค่ฝีมือเขาเท่านั้นที่เป็นที่ประจักษ์

คนเล่าลือกันขนาดนี้ผมก็ต้องมีหวั่นไหวเพราะฉะนั้นเลยส่งคนไปทาบทามเขามาร่วมคณะแล้วถึงสองรอบ แต่เขาไม่แม้จะออกมาพูดคุยด้วยตนเอง ส่งลูกกระจ๊อกออกมาไล่คนของผมทั้งสองครั้ง ผมมันคนไม่ย่อท้อยิ่งไล่ผมยิ่งต้องการ ฮ่า ๆ

วันนี้ผมเลยมาเอง ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้ผมต้องได้เจอไอ้คุณพันคีรีนี่ให้ได้

ผมมองบ้านกระจกทรงสูงสีมืดทะมึน รอบบ้านมีแต่ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ถ้าไม่มีต้นไม้คงร้อนเหมือนอยู่ในเตาอบแหง แล้วไอ้บ้านหลังนี้ก็ดันอยู่ลึกมากหาแทบไม่เจอแต่บรรยากาศดีมาก เหมือนอยู่ในบ้านแวมไพร์เลย ผมว่าถ้าฝนตกต้องนอนดูฝนได้เพลิน ๆ

“ผมมาพบคุณพันคีรี” ผมบอกกับผู้ชายที่ยืนมองอยู่ตรงบรรไดทางขึ้น เข้าชะเง้อมองแต่ไม่เดินเข้ามาถามแค่โบกมือไล่ผมกับพี่มีนตรงหน้ารั้วไม้สีเทาเข้มขนาดใหญ่

“ให้พี่ปีนเข้าไปไหม”

“จะบ้าหรอพี่มีน เรามาหานะไม่ได้มาปล้น”

“ก็ไอ้บ้านั่นมันไม่ออกมา แถมยังไล่เราอีก”

“คนดังมักเล่นตัวแบบนี้แหละ ไม่ต้องห่วงผมมีลางสังหรณ์ว่าวันนี้เราจะต้องได้พบเขาแน่นอน” ผมบอกพี่มีนตราอย่างมั่นใจ ไม่รู้เอาความความมั่นใจจากไหนมาพูด ผมเดินไปยืดชิดริมรั้วไม้ที่สูงพอดีกับคางตนเอง

“กลับไปเถอะ วันนี้นายท่านไม่ว่าง”

“แล้วเขาจะว่างเมื่อไหร่”

“ผมไม่รู้นายท่านไม่ได้บอก พวกคุณกลับไปเถอะ” ผู้ชายหน้าตาร้าย ๆ คนนั้นตะโกนบอกจากทางขึ้นบันได ผมโบกมือให้แล้วตะโกนกลับไป “ถ้าผมไม่ได้พบคุณพันคีรีวันนี้ ผมจะนอนรออยู่หน้าบ้านนี่แหละ” ผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนบ้านทรงสูงนั่น

เกือบสิบนาทีเขากลับมายืนที่เดิม ประตูไม้เปิดออกช้า ๆ ผมกันมองหน้าพี่มีน พากันเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นด้วยใบหน้าเป็นมิตร ต่างกับพี่มีนที่เขม่นเขาตั้งแต่ถูกโบกมือไล่ ถ้ามีโอกาสหมอนี่โดนพี่มีนทุบแน่

“ตามมา” เขาเดินนำขึ้นไปตามบันไดเวียนก็ถึงห้องปิดทึบทุกด้าน แปลกจังทั้งที่บ้านเป็นกระจกแทบทั้งหลังแต่ในห้องนี้ดันปิดทึบ เหมือนไม่ต้องการให้คนในห้องมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านได้

“นายท่าน ผมพาพวกเขามาแล้ว”

“นายออกไปก่อน”

“ครับ” ผู้ชายคนนั้นตอบอย่างสุภาพ ผมแปลกใจตั้งแต่เขาเรียกผู้ชายที่นั่งหันหลังอยู่หน้าเตาผิงว่านายท่านแล้ว ผมว่ามันดูแปลก ๆ ลึกลับ แฟนตาซีพิกล แต่ผมจะไปสาระแนอะไรกับชื่อเรียกของชาวบ้าน ผมแค่ต้องเกลี่ยกล่อมให้เขาไปอารักษ์ขาคณะเดินทางให้ได้ นอกเหนือจากนั้นไม่ควรยุ่ง

“สวัสดีครับคุณพันคีรี ผมณจันทร์ นี่พี่สาวของผมชื่อมีนตรา พวกเรากำลังจะเข้าป่าเลยต้องการให้คุณพันคีรีไป...”

“อารักษ์ขา” เขาพูดสวนมาโดยไม่หันกลับมามอง น้ำเสียงลุ่มลึก ทุ้มต่ำ ฟังไม่ออกเลยว่าคนพูดอายุเท่าไร จินตนาการตามไม่ได้เลยว่าเสียงนั้นน่าเกรงขามขนาดไหน ผมเงียบทันทีที่เขาเริ่มพูดเสียงสูงขึ้น

“ถ้าผมไม่อยากทำคุณจะทำยังไง” มันเป็นคำถามที่ทำผมคิดหนักจริง ๆ ก็ถ้าเขาไม่ทำ ผมจะทำอย่างไรล่ะ ตื้อเหรอแต่ก็ไม่มีอะไรทำให้เรามั่นใจได้ว่าตื้อแล้วเขาจะไป

“ถ้าคุณไม่ไปเราก็ไม่บังคับ ผมแค่อยากลองเจรจากับคุณให้ถึงที่สุดเท่านั้น ที่ ๆ พวกเราจะไปอันตรายมาก อยากให้มีคนมีฝีมือไปด้วย”

“แต่ผมไม่อยากไ...” ผู้ชายที่ชื่อพันคีรีพูดเสียงต่ำ ลุกยืนแล้วหันหน้ากลับมามองพวกเรา จากนั้นจึงหยุดคำพูดนั้นไว้ถึงเขาจะพูดไม่จบประโยค แต่พวกเรารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดหมายความว่าอะไร

นี่เป็นความพยายามครั้งที่สาม เพราะฉะนั้นเมื่อเขาปฏิเสธผมก็ยอมรับ

“ถ้ายังงั้นผมกับพี่ไม่รบกวนคุณพันคีรีแล้ว” ผมหมุนตัวกลับ ไม่เอ่ยลาเจ้าของบ้านสักนิดแต่แค่หมุนตัวกลับก็ถูกพี่มีนรั้งแขนไว้ พรานพงย้ำมาว่าครั้งนี้จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องให้พันคีรีไปด้วย เธอจึงลังเลตอนผมจะกลับ

“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำข้างหลังเรียกรั้งไว้ ผมได้ยินเสียงรองเท้าสลิปเปอร์สัมผัสพื้นเดินเข้ามาใกล้ ในที่สุดเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าผม ดวงตาเรียวคมมองผมนิ่ง ๆ แค่ผมเพียงคนเดียว เหมือนเขากำลังคิดอะไรอยู่ ผมรู้สึกร้อนหนาวอธิบายไม่ถูกเลย เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามมอง ไม่ใช่อาการหวั่นไหว ใจสั่น หรืออะไรประเภทนั้นนะ มันดูน่ากลัวน่าขนลุกเหมือนถูกสูบพลังชีวิตไป เหมือนผมจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงกลับออกจากป่าโดยไร้รอยขีดข่วนได้ตลอดทุกครั้ง

สำหรับผมเขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก แม้หน้าตาเขาจะหล่อเหลาพอกับพระเอกซีรีส์แต่รังสีรอบตัวกลับน่าเกรงกลัว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อตนเองคนเดียว คนทั้งคณะจำเป็นต้องพึ่งเขาในการเข้าป่าครั้งนี้ ผมพยายามสูดลมหายใจเข้า ทำใจกล้าถามเข้าเสียงสั่นเล็กน้อย “ม...มีอะไรหรือเปล่าครับคุณพันคีรี”

“ผมตกลง” ทั้งงุนงงอารมณ์สับสนปนเปกันไปหมด ก่อนหน้านี้ปฏิเสธเสียงแข็ง อยู่ ๆ ก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย ความจริงอยากจะถามว่าทำไมถึงกลับคำแต่กลัวว่าเขาจะปฏิเสธอีกเลยไม่พูดเสียดีกว่า

“ถ้ายังงั้น อีกสองวันผมจะมาตกลงเรื่องค่าจ้างกับคุณใหม่อีกครั้ง”

“จดรายการสิ่งของสัมภาระของพวกคุณมาด้วย ผมต้องรู้ว่าพวกคุณแบกอะไรกันไปบ้าง”

“คุณพันคีรียังมีอย่างอื่นที่อยากได้อีกหรือเปล่าครับ”

“ไม่ ผมสามารถจัดการตัวเองได้ แล้วก็ต่อไปเรียกผมว่าคีรี”

“ครับคุณคีรี”

“ไม่ต้องเรียกคุณ”

“ครับ”

เมื่อได้คำตอบที่พอใจผมกับพี่มีนรีบพากันจรลีออกมาทันที ตอนอยู่ข้างในผมหายใจไม่ทั่วท้องเลย รู้สึกกดดัน อึดอัดบอกไม่ถูก เหมือนโดนพลังงานอะไรสักอย่างกดไว้ให้ยอมจำนน ถ้าเข้าป่าไปแม้แต่ผีก็คงกลัว เขาให้ความรู้สึกไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปจริง ๆ

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ป่าดิบ

    5ป่าดิบออกจากหมู่บ้านพรานพงมาแค่ห้านาทีท้องฟ้าพากันครึ้มโดยไม่ได้นัดหมาย ฟ้าแบบนี้ไม่มีทางที่ฝนจะไม่ตกอย่างแน่นอน ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน จากนั้นจึงหันไปมองคีรีที่อยู่ในรถคันหลังสุด ระยะทางสี่สิบกิโลเมตรแต่ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเพราะทางขรุขระเกินจะบรรยายได้ ผมนึกว่าไส้จะออกมากองกันข้างนอกซะแล้วจากที่ผมตามอยู่รองสุดท้าย พอออกจากหมู่บ้านต้องขึ้นมาเป็นคันแรก เพราะคนรู้ทางมีแค่พรานพง ในที่สุดพรานพงก็พูดคำพูดที่ผมรอคอยมานาน “ถึงแล้ว”“โอ้โห พื้นผิวพระจันทร์หรือไงเนี่ย” ปริมร้องออกมา เมื่อรถหยุดลงตรงสุดเขตถนนที่รถจะสามารถแล่นไปได้“พี่มีนไหวมั้ย” ผมถามพี่มีนที่ลงมายืนบิดตัวเบา ๆ อยู่ตรงประตูรถ ส่วนตัวผมบิดตัวครั้งใหญ่เมื่อยจนไม่รู้จะเมื่อยอย่างไร ปกติไปไหนมาไหนใช้เครื่องบินพอต้องนั่งรถไกลแบบนี้ ผมรู้สึกเพลียล้า เหมือนจะไข้ขึ้น“สบายมาก พรานพง เราจะเอายังไงต่อ”“เดี๋ยวให้ทุกคนยืดเส้นยืดสายสักสิบนาที ช่วยกันขนสัมภาระแบ่งหน้าที่แล้วค่อยเดินเท้าต่อ” เธอพยักหน้าให้พรานพง จากนั้นเดินไปสั่งงานหัวหน้าทีมทั้งสองทีมต่อ แม้จะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในคณะ แต่ด้วยความสามารถของเธอจึงไม่มีใครกังขาพี่เก็

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ออกเดินทาง

    4ออกเดินทางฝนตกตามที่คีรีบอกสองวันติด สงสัยเขาจะดูพยากรณ์อากาศมา อีกสี่วันถัดมาจึงเป็นวันออกเดินทาง พวกเราเริ่มออกเดินทางจากเมืองหลวงช่วงเย็นของวัน กะไว้ว่าคงถึงจุดหมายช่วงเช้ามืดวันพรุ่งนี้ขณะยกกระเป๋าขึ้นรถ ก็มีรถสองคันขับเข้ามาในบริเวณบ้าน คันหนึ่งผมจำได้แม่นเลย ปริมมาจริง ๆ ผมอุตส่าห์ไม่บอกวันเดินทางหมอนี่รู้ได้ไงว่าเราเดินทางกันตอนเย็น ส่วนรถเล็กขับเคลื่อนสี่ล้อหรือที่คนชอบเรียกว่าออฟโรดคันนั้น ไม่แน่ใจเลยว่าเป็นรถของใคร แต่ถ้าให้เดาก็ไม่ยากเท่าไร น่าจะเป็นคนที่เรียกตนเองว่าอารักษ์ขาคนนั้น“ปริม มาทำไม”“ก็บอกแล้วไงว่าปริมจะไปด้วย” ปริมยักคิ้วแล้วยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ลงจากรถสปอร์ตคันโปรด แบกเป้เดินไปหาพี่มีนตรงออฟโรดคันสีขาวเงา พี่มีนหันมามองผมเหมือนกำลังจะถามว่าจะให้จัดการอย่างไรถึงไล่ปริมก็ไม่ไปผมยักไหล่สองข้างอย่างจนใจ เธอเลยเปิดประตูรถให้เขาเก็บเป้เดินทางไว้ในรถ ครู่เดียวคีรีเดินลงจากรถฝั่งข้างคนขับ สองเท้าก้าวออกไปอัตโนมัติ เดินมาครึ่งทางก็เจอคีรียืนอยู่ตรงหน้า“พร้อมหรือยัง”“ครับ คนของผมก็เตรียมพร้อมแล้ว รอคีรีคนเดียว”“งั้นก็ไปเถอะ ผมจะตามอยู่หลังสุด” คุยกับนายท่านอารักษ

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ต้องเชื่อเท่านั้น

    3ต้องเชื่อเท่านั้น“พี่มีน ช่วยลิสต์รายการสัมภาระให้จันทร์หน่อยได้มั้ย จันทร์จะไปร่างสัญญาจ้างงานของคีรี”“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปปรึกษาลุงเฉิน อย่างไงซะคนเตรียมของก็คือพี่ ไม่รู้ลุงเฉินหาคนไว้กี่คนจะได้เตรียมของให้พอกับจำนวนคน” คนสวยของผมใจดีเสมอจริง ๆ ไหว้วานอะไรไม่เคยขัด จัดให้ตลอด ผมคิดว่าหลังจัดการหนังสือจ้างงานชั่วคราวนี่เสร็จจะไปคุยกับพรานพงสักหน่อย ไม่รู้ว่าการเดินทางนี้ใช้เวลากี่วันเราจะได้จัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มยารักษาโรคไปให้พอดีนอกจากคุยกับพรานพงแล้วผมยังต้องไปรายงานนายท่านคีรีที่บ้านของเขาอีก ช่างเป็นช่วงฉุกละหุกจริง ๆ เหมือนทุกอย่างอยู่ในช่วงเวลารีบเร่ง“นายท่านรอคุณอยู่ข้างใน เชิญ” ผู้ชายคนเมื่อคราวก่อนเปิดประตูรั้วรอตั้งแต่ผมยังไม่ทันได้จอดดีเสียด้วยซ้ำ เหมือนเขารู้ว่าผมจะมา พอปิดประตูรถเสร็จก็เดินตามเขาเข้าไปในบ้านพันคีรีนั่งรอผมอยู่กลางห้องนั่งเล่น ไม่ใช่ห้องคราวก่อนที่ผมเข้าไป ห้องนั่งเล่นเป็นกระจกทุกด้าน ถึงจะมีแดดส่องแต่ก็ถูกต้นไม้บดบังไม่มีแสงแดดพาดผ่านตัวบ้านเลย ทั้งยังเย็นสบายจนน่าแปลกอีกต่างหากต้องเป็นเพราะในบ้านทาสีกันความร้อนแน่“ไหน รายการสัมภาระ” เขาว่าด้ว

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   พันคีรี

    2พันคีรีลุงเฉินใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็หาพรานไพลจนเจอ แต่พรานไพลนั่นตายไปเมื่อหกปีก่อนเหลือแต่ลูกชายที่พอจะรู้ทางอยู่บ้าง ตกลงกันอยู่นานพรานพงลูกชายพรานไพลก็ยอมตกลงนำทางให้พวกเรา นอกจากตกลงนำทางพรานพงยังมีข้อเสนอให้อีกอย่างว่าถ้าอยากเข้าป่าอย่างปลอดภัยให้ไปเชิญคนที่ชื่อพันคีรีร่วมทางด้วยในวงการหาของโบราณจากเทวาลัย วัง ปราสาทเก่า เมืองเก่า ชื่อพันคีรีนี้โด่งดังมาก ขึ้นชื่อเรื่องมากฝีมือ หน้าที่อย่างเดียวของเขาในการร่วมทางคือเฝ้าระวังคณะเดินทางเท่านั้น ผู้คนเรียกหน้าที่นี้ว่า ‘อารักษ์ขา’ ค่าตัวแพงหูฉี่ แต่เปอร์เซ็นต์การไปและกลับสูงกว่าการไปกันเอง พันคีรีคนนี้เลยมีคนไปเชิญวันละสามเวลานอกจากจะไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมาของเขาแล้ว ตัวตนก็เป็นความลับเหมือนกัน ไม่ว่าจะสืบหากันเท่าไรก็ไม่พบเจออะไร อายุ วันเดือนปีเกิด ไม่มีใครรู้เลย มีแค่ฝีมือเขาเท่านั้นที่เป็นที่ประจักษ์คนเล่าลือกันขนาดนี้ผมก็ต้องมีหวั่นไหวเพราะฉะนั้นเลยส่งคนไปทาบทามเขามาร่วมคณะแล้วถึงสองรอบ แต่เขาไม่แม้จะออกมาพูดคุยด้วยตนเอง ส่งลูกกระจ๊อกออกมาไล่คนของผมทั้งสองครั้ง ผมมันคนไม่ย่อท้อยิ่งไล่ผมยิ่งต้องการ ฮ่า ๆวันนี้ผมเลยมาเอ

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   เทวาลัยกุสุมาลย์

    1เทวาลัยกุสุมาลย์“เป็นไงบ้างครับลุงเฉิน” ผ่านไปคืนเดียวลุงเฉินก็กลับมาพร้อมกับคำตอบที่ผมต้องการ ในมือถือรูปวาด บนรูปวาดมีดอกไม้นานาชนิดหลากสีสัน ตรงกลางมีทางเดินไปยังบัลลังก์แก้ว หลังบัลลังก์มีกำแพงแก้วสวย และลึกลับไปพร้อมกัน ผมเดาว่ากำแพงน่าจะเปิดได้“คิดว่ามันน่าจะเป็นเทวาลัยกุสุมาลย์ แต่ลุงคิดว่าไม่น่าจะมีใครเคยไป พรานคนหนึ่งบอกว่ามันคือตำนาน เป็นเทวาลัยในป่าลึกทางเหนือของประเทศ ไม่รู้ตอนนี้จะยังมีคนรู้ทางไปอยู่หรือเปล่า” ลุงเฉินเล่าข่าวที่ได้มาให้ฟัง ผมพยักหน้าให้ระหว่างฟังไม่คิดเลยว่ามันจะดูลึกลับแบบนี้ ชื่อนี้เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่รู้สึกจำไม่ได้อยู่ดีว่ามันคือที่ไหน ช่างมีประโยชน์จริง ๆ ความจำของผม“หนูจันทร์ยังจะไปอยู่เหรอ ไม่มีใครเคยไปเลยนะ” พี่มีนถามแล้วลุกเดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกับผม หยิบรูปที่ลุงเฉินวางไว้บนโต๊ะมาดู จะว่าไปจี้นี่ก็ได้มาจากพ่อแม่ ท่านสองคนน่าจะเคยไปมาก่อน ผมควรลองไปแอบอ่านไดอารี่ของแม่หน่อยจะดีกว่าเผื่อจะมีข้อมูลอะไร“จันทร์ต้องไปครับพี่มีน จำเป็นต้องไป”“งั้นพี่ไปด้วย พี่จะไม่ปล่อยให้หนูจันทร์ไปคนเดียวแน่ ๆ พี่เองก็จะลองช่วยหาดูว่ามีใครพอจะรู้เร

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   โลกของคุณหนูณจันทร์

    บทนำโลกของคุณหนูณจันทร์“ฮืออ…ร้อน จันทร์เจ็บ ๆ” วันนี้ของทุกเดือนผมมักจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนทั่วตัวเหมือนตัวเองถูกต้มอยู่ในหม้อน้ำเดือด ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนพอจำได้ก็เป็นแบบนี้มาตลอด น่าจะอายุสักสิบสี่หรือเปล่านะ กลางฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกาที่เป็นหน้าหนาวแต่ผมกลับรู้สึกร้อนรุ่มปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะขาดใจตายผมเลยต้องนั่งแช่น้ำเย็นจัดอยู่ในอ่างจากุซซีแบบนี้มาตลอด ถึงจะไม่หายแต่ยังพอบรรเทาได้บ้าง ผมหาหมอทุกคนที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกประเทศ สำคัญคือมันไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ผมก็เช่นกัน…“หนูจันทร์เป็นยังไงบ้าง” พี่มีนตราเป็นเด็กที่พ่อแม่ผมอุปการะไว้ตั้งแต่ตอนผมอายุสิบขวบ เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กทำให้เธอรู้ใจ รู้ทุกอย่างในชีวิตของผมรวมถึงอาการนี้ด้วยพี่มีนมักจะมานั่งเฝ้าผมอยู่ตรงนี้ทุกเดือนไม่เคยขาด มันไม่ช่วยอะไรแต่เธอทำให้ผมรู้ว่าผมจะมีเธออยู่ข้าง ๆ ตลอด“พี่มีน จันทร์เจ็บจัง ฮึก…” ผมตอบพี่มีนไปพร้อมกับใช้น้ำแข็งที่พี่มีนหอบมาถูไปตามแขนแรง ๆ มันน่าแปลกผมปวดแสบปวดร้อนจนเหมือนถูกต้มในน้ำเดือดแต่ร่างกายภายนอกของผมไม่มีร่องรอยอะไรเลยนอกจากจะปวดแสบปวดร้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status