รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 5
นิชาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดร้าวไปทุกส่วนของร่างกาย พอสติมาและจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ทั้งอับอายและเจ็บใจ เขาไม่ถนอมเธอเลยสักนิด! ทำราวกับเป็นตุ๊กตายางชิ้นหนึ่งที่จะทำอะไรรุนแรงแค่ไหนก็ได้
ก็อย่างว่าแหละ คนไม่ได้รักนี่เนอะ...
แต่ที่น่าเจ็บใจมากที่สุดก็คือตัวเธอเองนี่แหละเพราะถึงอัคคีจะใจร้ายขนาดไหนหรือตอนแรกๆ เธอจะขัดขืนยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังๆ นั้นเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ ย้อนแย้งสิ้นดี!
ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิด เมื่อนึกได้ว่าต้องกลับบ้าน ไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไรแต่แสงแดดจ้าที่เล็ดลอดม่านเข้ามาคงไม่ใช่ตอนเช้าตรู่อย่างแน่นอน
ยังดีที่วันนี้เป็นวันหยุดหรือต่อให้ไม่ใช่วันหยุดเธอก็คงไม่ไปทำงานแล้ว จะถูกหักเงินก็หักไปในเมื่อคนจ่ายเงินเดือนเป็นคนทำให้เธอตื่นสายเอง
ร่างบางลุกเดินโซเซไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำในตู้มาใส่ ก่อนเดินไปตามหาเสื้อผ้าของตัวเองที่โซฟา เจอทุกอย่างแต่เสื้อที่ถูกร่างสูงดึงขาดใช้ไม่ได้แล้ว เธอเลยถือวิสาสะหยิบเสื้อเชิ้ตในตู้ของเขามาใส่แทน
เมื่อแต่งตัวเสร็จนิชาก็ออกมาเจอเจ้าของห้องที่นั่งทำงานอยู่หน้าทีวีในห้องนั่งเล่น เขาเงยหน้าขึ้นมองและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่รอฟัง ไม่ทักทาย ไม่ร่ำลา เดินออกจากห้องเปิดปิดประตูเสียงดังแสดงออกถึงความไม่พอใจ
ทว่าการกระทำเล็กน้อยเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้อัคคีโกรธ กลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
นิชากลับบ้านมาเจอแม่และพูดคุยกันเล็กน้อย เธอบอกเพียงว่าขับรถไม่ไหวเลยค้างที่โรงแรม ซึ่งแม่ก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้กินข้าวก่อนค่อยไปพักผ่อน แม้จะไม่หิวแต่เธอก็ยอมนั่งกินข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้เพื่อให้ท่านสบายใจ จากนั้นก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำกินยา ก่อนจะหลับเหมือนซ้อมตายเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไป
.
.
นิชาตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเย็นด้วยเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ เป็นสายของ 'เพียว' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิต เธอจึงกดรับสาย พูดคุยถามไถ่กันพักใหญ่ตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนานเพราะต่างฝ่ายก็ต่างยุ่งอยู่กับงานและเรื่องส่วนตัว
เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ทว่าเรื่องของเจ้านายตัวดีนิชาก็ยังคงชั่งใจอยู่ว่าจะเล่าให้เพื่อนฟังดีไหม สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจว่าจะเล่าเพราะเก็บไว้คนเดียวก็อึดอัด จึงนัดเพื่อนให้มาหาที่บ้านเพื่อระบายเรื่องราวที่พบเจอมาทั้งหมดให้ฟัง...
"ถามจริง!?"
เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เพียวแทบอยากจะกระชากคอเสื้อเพื่อนมาเขย่าถามเอาความจริง ถ้าไม่ติดว่านิชาเป็นคนประเภทไม่เคยพูดเล่นและตอนนี้ก็เอาแต่นอนกอดหมอนทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียงเธอก็คงไม่อยากจะเชื่อ เพราะนี่มันพล็อตละครน้ำเน่าชัดๆ เคยเห็นแต่ในทีวี ไม่คิดเลยว่าจะมาเกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของตัวเอง
"แล้วตอนนี้น้าพิมไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม" เพียวถามต่อด้วยความเป็นห่วง ถ้าไม่บอกว่าเคยป่วยหนักเธอก็ดูไม่ออกเพราะตอนที่แม่เพื่อนไปเปิดประตูรั้วให้ก็ดูสดใสปกติดีทุกอย่าง
"อืม หลังผ่าตัดอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ" โชคดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน พอทำให้หายห่วงไปได้บ้าง อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น
"แล้วมึงจะต้องอยู่แบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร กี่เดือน กี่ปี"
"เออว่ะ ยังไม่ได้คุยเรื่องนั้นเลย" นิชามีปฏิกิริยาขึ้นมาเล็กน้อยเพราะโมโหตัวเองที่ไม่ยอมคุยเรื่องนี้กับอัคคีตั้งแต่ทีแรก ยังไงสถานะนี้ก็ต้องมีวันสิ้นสุด ขึ้นอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็ว ที่สำคัญคือต้องตกลงกันให้ชัดเจน
"ดีจริงๆ" เพียวคันปากอยากจะด่าเพื่อนสักหลายๆ คำ แต่พอเห็นท่าท่างของนิชาแล้วก็ด่าไม่ลง อีกอย่างเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว ด่าไปก็ไม่ช่วยอะไร
"เดี๋ยวคุย" นิชารับปากอย่างหนักแน่นเพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะหลุดพ้นจากอัคคีเมื่อไร เขาจะใจร้ายกับเธอได้มากแค่ไหน
"คุยเรื่องคู่หมั้นด้วยล่ะ มึงอย่าลืมว่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว ถึงจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น" เพียวเตือนสติเรื่องสำคัญขึ้นมา นั่นทำให้คนฟังหน้าชาไปชั่วขณะ เพราะเธอลืมไปว่าอัคคีมี 'คู่หมั้น' อยู่แล้ว!
"เออว่ะ ลืมไปเลย..."
ที่ผ่านมาอัคคีทำตัวเจ้าชู้เหมือนโสดสนิทมาตลอด เพราะคู่หมั้นที่ว่าเกิดจากความต้องการของผู้ใหญ่ เขาไม่ได้เต็มใจ อีกอย่างคู่หมั้นของเขาก็ไม่ได้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของ นิชาจึงลืมไปสนิทว่าเขามีคู่หมั้น พอนึกได้ก็ยิ่งรู้สึกย่ำแย่ที่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ แต่จะเธอทำยังไง แม่เองก็เป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอเช่นเดียวกัน
"ให้มันได้อย่างนี้" เพียวนั่งกุมขมับ ไม่มีทางออก มีแต่ปัญหายุ่งเหยิงที่รออยู่
"เอาเถอะ ระหว่างนี้ก็ปิดให้อยู่แล้วกัน อย่าให้ใครรู้ ผู้ชายขี้เบื่อแบบนั้น คงไม่นานหรอก ทนๆ เอาหน่อย คงเห่อแค่ช่วงแรกๆ " เพียวให้กำลังใจ ต่อให้รู้ว่าทำผิดแต่ชีวิตคนเราบางทีมันก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนักหรอก ต้องเจอเองถึงจะเข้าใจ
"..."
"สำคัญคืออย่าเอาใจลงไปเล่น"
"ทำง่ายมากมั้ง" ร่างบางกรอกตา แค่คิดก็แพ้แล้ว เพราะใจเธอมันอยู่ที่เขาตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องเสียอีก
"งั้นก็ทำให้เขาชอบมึงไปเลยดีไหม" เพียวเสนอทางเลือกอื่น
"ทำยากกว่าตัดใจอีก คนแบบนั้นรักใครเป็นที่ไหน เขาก็แค่อยากเอาชนะกูเท่านั้นแหละ ยิ่งกูหนีเขาก็ยิ่งพอใจ" ทางเลือกที่เป็นไปได้ยากยิ่งทำนิชารู้สึกห่อเหี่ยว ถึงแม้อัคคีจะเคยบอกว่าเธอตรงสเปกของเขา แต่เธอไม่เชื่อเพราะคู่ควงของเขาแต่ละคนต่างจากเธอลิบลับ ผู้ชายเวลาอยากได้ก็พูดไปเรื่อย เขาก็แค่อยากเอาชนะเธอเท่านั้น
.
.
ปรับทุกข์กันจนดึกเพียวก็ขอตัวกลับ พอเหลือตัวคนเดียวนิชาก็เริ่มฟุ้งซ่านอีกครั้ง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาค้นหาชื่อของผู้หญิงที่จำได้ขึ้นใจว่าเป็นคู่หมั้นของร่างสูง...
'ไอริณ ณีรญา กิตติวริศสกุล'
ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของเจ้าสัวเจนภพและคุณหญิงดารัน นักธุรกิจชื่อดังเบอร์ต้นๆ ของประเทศ ทั้งฐานะ รูปร่างหน้าตาและการศึกษาเรียกได้ว่าเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ต้องลงสนามแข่งก็ชนะขาด ต่อให้ไม่เต็มใจหมั้นแต่สวยขนาดนี้ก็คงทำให้อัคคีพอใจได้ไม่ยาก
เพราะฉะนั้นเลิกฝันไปได้เลย เรื่องที่จะทำให้เขาหลงรักอะไรนั่น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หรือต่อให้เป็นไปได้ ชีวิตจริงมันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนละครในตอนใกล้จบ ที่พอพระเอกนางเอกแต่งงานกันแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปอย่างมีความสุข
แต่ในชีวิตจริงน่ะเหรอ? การที่คุณเกิดมามีฐานะด้อยกว่าอีกฝ่ายไม่รู้กี่เท่า แต่งงานไปคุณคิดว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างล่ะ อย่าเพิ่งพูดถึงตอนแต่งเลย แค่วินาทีแรกที่คนอื่นรู้ว่าคบกัน ก็คงจะถูกเพ่งเล็งตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ
ทั้งฐานะทางบ้าน ฐานะทางสังคม ครอบครัว ญาติพี่น้อง ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็จบเห่ ความรักมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนอย่างคำพูดสวยหรูที่คนเขาพูดกันหรอก เลิกฝัน...
..
..
..
..
ยุ่งเหยิงกว่าเดิมอีก
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง