ห้องแต่งหน้า วายุแต่งหน้าจนเสร็จแล้วแต่ยังไม่เห็นหลินเลย ถามใครก็บอกว่าไม่เห็น แม้แต่แนนที่มัวแต่วุ่นอยู่กับงานข้างนอก ตอนนี้ก็เริ่มก่นด่าหลินแล้วที่ปล่อยให้เธอดูงานข้างนอกคนเดียว“เห็นลูกพี่เธอไหม หายหัวไปไหนเนี่ย”“แนน หาหลินเจอหรือยัง”“อ้อ คุณมาพอดี ยังเลยค่ะโทรไปก็ไม่รับไม่รู้ไปที่ไหน”“เดี๋ยวผมลองโทรดู”“เร็วเลยค่ะ อีกสองชั่วโมงงานจะเริ่มแล้ว”วายุกำลังกดโทร แต่เขาก็กดดูข้อความก่อนและระหว่างนั้นแยมก็วิ่งเข้ามาที่ห้อง“มีใครเห็นหลินไหมคะ”“แยม มีอะไรเหรอ”“คือว่า แยมให้หลินไปเอาสร้อยที่ห้องจนป่านนี้ยังไม่มาเลยค่ะ วายุ ไปดูกับแยมหน่อยสิคะ”“ไปไหนนะ ทำไมคุณไม่รีบบอกผม นำทางไป”“ค่ะๆ ได้ค่ะ”แยมรีบพาวายุและแนนไปที่ลิฟต์พร้อมกับกดขึ้นไปที่ชั้นยี่สิบหก “แยมไม่น่าให้หลินไปคนเดียวเลย ไม่รู้ว่าจะมีอะไรหรือเปล่า เห็นนานแล้วไม่มาเลยรีบมาบอกพวกคุณ”“ทำไมมาที่ชั้นยี่สิบหก นี่ไม่ใช่ชั้นที่เราจองเอาไว้นี่คะพี่แยม”“พี่จองเอาไว้เองน่ะค่ะ ห้องที่บริษัทจองให้พี่ให้ผู้จัดการกับแฟนเขาพักแทน เลยแยกมาอยู่เองค่ะ”วายุร้อนใจที่หลินหายไป แนนเองกลับมองแยมอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก จู่ๆทำไมแยมถึงได้ใช้หลินมาเ
หลินเดินเข้ามาที่ห้องจัดเลี้ยงกลางคืนและช่วย แนนเตรียมงานจนเกือบเสร็จ เธอกลับเข้ามาในห้องพักเวลาเกือบหกโมงเย็นและอาบน้ำพร้อมกับเปลี่ยนชุดซึ่งแทบจะไม่ต่างกับชุดในตอนเช้าเพราะเธอเป็นทีมงาน คือเสื้อโปโลของงานและกางเกงยีนต์เข้ารูปพร้อมกับรองเท้าผ้าใบ“พี่วายุคะ ตื่นได้แล้วค่ะ”“อือ ขออีกสิบนาที”“ไม่ได้ค่ะ ต้องตื่นไปอาบน้ำได้แล้วนะคะ เดี๋ยวจะลงไปแต่งหน้าทำผมอีก เร็วค่ะ”“ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูทำเอาทั้งคู่ตกใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เมื่อไม่ได้ยินเขาตอบ เสียงเคาะก็ดังอีกรอบพร้อมกับเสียงเรียกของผู้ที่มาเคาะเรียก“บี๋คะ แยมเข้าไปได้ไหมคะ”เสียงแยมที่ร้องเรียกหน้าประตูทำเอาวายุนั้นตื่นมาทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าแฟนสาวที่ยืนกอดอกทำหน้าเอาเรื่องอยู่ที่ปลายเตียง“บี๋คะ…คู่จิ้นคุณมาเรียกแล้วค่ะ จะตื่นได้หรือยังคะ หรือว่าจะต้องให้เธอเข้ามาปลุกถึงเตียง”“ไม่นะ ที่รักเดี๋ยวสิ ไม่ใช่นะพี่บอกไปแล้วว่าอย่าเรียกแบบนั้นแต่ว่า…”“เอาไงดีคะ ตอนนี้หลินจะไปหลบที่ไหน”“หลบ…หลบทำไม มานี่ ออกไปด้วยกัน”“ไม่ได้ เดี๋ยวเป็นข่าว”“ไม่กลัว!!”“หยุดเลยคนบ้า ออกไปถามเธอว่ามาทำอะไร หลินรออยู่ในนี้”“
“ยังไม่ขึ้นค่ะ อีกชั่วโมงหนึ่งโน่น มาขอเร็วไปไหมคะ”"คิดถึงนี่ครับ นะ""พี่วายุ คนอยู่เยอะแยะ"วายุดึงม่านปิดพร้อมกับขโมยจูบเธอไปทันที หลินที่ไม่ทันตั้งตัวแต่ก็ยอมให้เขาจูบ วายุดึงม่านปิดบังเอาไว้ จนเขาผละปากออกมาแล้วส่งเข็มกลัดให้“ติดให้หน่อยครับ”“ร้ายนักนะคะ”“เขาเรียกว่ารู้จังหวะ”หลินยิ้มและติดเข็มกลัดให้เขาพร้อมกับเงยหน้ามองคนที่เอาแต่มองเธอ“วันหลังไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้นแบบนี้แล้วนะ”“ทำไมคะ มันทำงานสะดวกกว่านะคะ”“เห็นแล้วอยากถอด”“คนลามก ออกไปเลยนะ”“หอมแก้มหน่อยสิครับ”“ได้คืบเอาศอก”“ก็อัดอั้นมานาน เป็นธรรมดาต้องแจกโบนัสหน่อยสิครับที่รัก นะ”หลินยืดขาขึ้นหอมแก้มเขาพร้อมกับยิ้มให้คนงอแงที่ไม่ยอมให้หอมข้างเดียว จนเธอต้องหอมเขาทั้งสองข้าง“ไปได้แล้วค่ะ”“ไปรอที่ห้องนะครับ เสร็จงานแล้วพี่จะตามไป”เขาหมายถึงห้องที่โรงแรมจัดเอาไว้ให้พวกเขาพักกันในคืนนี้เพราะช่วงกลางคืนคือรอบสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าวและขอบคุณผู้สนับสนุนในงานครั้งนี้ และพวกเขาต้องขึ้นไปเปิดตัวอีกรอบ“เห็นพี่หลินไหม”หลินได้ยินเสียงไก่ที่เรียกหาเธอข้างนอกเธอจึงรีบออกไป วายุเดินออกอีกทางหนึ่งจึงไม่มีใครสงสัย “ไก่ มีอะไ
เขาดึงเธอขึ้นมาพร้อมกับบีบเคล้นยอดอกสีชมพูทั้งสองข้างเพื่อกระตุ้น หลินร้องครางจนฟังไม่ได้ศัพท์พร้อมกับจังหวะที่ถูกเร่งและยังลิ้นที่เลียที่ใบหูเธออีก เขาจะเผ็ดร้อนมากเกินไปแล้ว หลินรู้สึกราวกับร่างเธอกำลังจะแหลกสลายในไม่ช้านี้เพราะนำมือของวายุที่จัดการเธอไม่หยุด“พี่วายุ หยุดนะ อย่ากระตุ้น อ๊าา หลินเสียว พี่วายุ อ๊าาา แตกอีกแล้ว อ๊าาา…”“แตกอีกสิหลิน พี่จะได้รู้ว่าหลินต้องการพี่ คนดี คิดถึงไหม ตอบมาก่อนสิ แล้วพี่จะไม่รังแกหลินอีก”แต่เธอต้องการให้เขารังแกนี่นา เธอไม่อยากให้เขาหยุด ทั้งมือที่ครอบครองยอดอกนั้นและแท่งแกร่งที่อยู่ในกายเธอ รวมไปถึงมือที่บี้เม็ดทับทิมสีสวยด้านล่างนั่น เพราะเขาเป็นนักร้องงั้นหรือ ประสามสัมผัสทั้งมือและลิ้นถึงได้เด็ดขนาดนี้ เธอเสียวซ่านไปทั้งตัวจนหยุดไม่ได้ เธอกำลังเสพติดเซ็กซ์ที่เขามอบให้อย่างโงหัวไม่ขึ้น“อ๊าา เอาอีกค่ะ อย่าหยุดนะ อ๊าา เสียวจัง อ๊าาา”“อ้าขาหน่อยคนดี ขอเลียหน่อย”“อ๊าา ลึกอีกค่ะที่รัก อ๊าา อย่างนั้นแหละค่ะ หลินเสียว โอ๊ยย ไม่ไหวแล้ว จะออกแล้ว”น้ำใสๆนั้นพุ่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่วายุเองก็รออยู่แล้ว เขารู้ว่าหลินมีจุดอ่อนตรงไหน เขาไม่มีทางใ
หลินดึงมือนั้นออก แต่เธอไม่รุนแรงเหมือนเดิมแล้ว แค่แกะออกเฉยๆและเดินกลับเข้ามาในห้องและนั่งที่โซฟา เขายังไม่เปลี่ยนชุดเหมือนกันและเดินตามเธอเข้ามาเงียบๆที่โซฟา เขานั่งเบียดเธอข้างๆ จนเธอขยับจนสุด“จะพูดได้หรือยังคะ จะได้รีบกลับ”“หลินโกรธพี่ขนาดนี้เลยเหรอครับ ไม่อยากคุยกับพี่อีกแล้วใช่ไหม”“….”มาแบบนี้เธอจะตอบยังไง ใครจะทนไหว ใจของ นิลินทร์นั้นเริ่มอ่อนตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เธอปากแข็งเอาไว้เท่านั้น แต่เธอไม่อยากยอมรับง่ายๆ เธอไม่อยากให้เขามองว่าเธอง่ายสำหรับเขา นึกจะไปก็ไปนึกจะมาก็มา“หลินครับ เรื่องที่เกิดขึ้น พี่จะเล่าให้หลินฟัง แต่หลินต้องสัญญาว่าจะไม่โกรธพี่ ที่ไม่บอกเรื่องนี้กับหลิน”“ต้องการพูดอะไรแน่คะ อย่ามัวอ้อมไปอ้อมมา จะพูดก็พูดค่ะอย่าเสียเวลา”“พี่กำลังตามสืบเรื่องคนที่ทำร้ายหลินครั้งก่อน ตอนนี้หลักฐานค่อนข้างแน่นอนแล้ว พี่เลยอยากให้หลินออกห่างจากพี่ ปล่อยข่าวว่าเราห่างกันเพื่อความปลอดภัยของหลิน”“อะไรนะ!! เรื่องแบบนี้ทำไมต้องปิดบังคะ นี่มันเรื่องของหลิน”“ไม่..มันไม่ใช่แค่เรื่องของหลิน มันเกี่ยวข้องกับคนหลายคนมากเกินไป เกี่ยวไปถึง…คนที่ไม่ควรเกี่ยวข้องและคนที่หลิ
วายุเร่งเครื่องยนต์รถหรูของเขาออกจากที่นั่นทันที แสงไฟรถอีกคันที่ขับตามมาจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกลงมาแรงมากกว่าเดิม“พรุ่งนี้กูจะไม่ให้มึงรอดไปได้ ถ้าจะมีความสุขก็มีไปวันนี้ให้หมดพรุ่งนี้มึงจะได้พินาศคามือกูอีหลิน”รถสปอร์ตคันนั้นพุ่งออกจากสถานที่แสดงคอนเสิร์ตตามรถของวายุออกไปหลังจากนั้นด้วยความเร็วสูงด้วยความโกรธ เธอตามมาตั้งแต่เห็นว่าวายุเร่งขับรถออกมา แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาตามง้อหัวหน้าดีไซเนอร์อย่างนิลินทร์อีกครั้ง“หนาวไหม”“…”“พี่เบาแอร์ให้นะครับ”เธอไม่ตอบอะไรเขาสักคำตั้งแต่ขึ้นรถมา เธอกลัวว่าหากพูดอะไรไปแม้แต่คำเดียว หัวใจเธอจะยอมแพ้ให้กับเขา เธอไม่อยากใจอ่อนให้กับคนข้างๆ เธอไม่อยากรู้สึกแบบเดิมอีกครั้ง วายุหันไปเอาแจ็คเก็ตด้านหลังมาห่มให้เธอ“คลุมเอาไว้ กลับถึงห้องรีบอาบน้ำจะได้ไม่เป็นหวัด”“ไม่ต้องค่ะ”หลินดึงแจ็คเก็ตตัวนั้นออกอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับโยนคืนไปข้างหลังตามเดิม วายุไม่นึกมาก่อนเลยว่าหลินจะโกรธเขาได้ถึงขนาดนี้ เธอเหมือนกับตัดเยื่อใยกับเขาไม่เหลือเลยสักอย่างงั้นเหรอ ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดนี่….แต่เขาเองก็ผิดเองที่ไม่เคยบอกอะไรเธอเลยจนกระทั่งให้เรื่องมันดำเนินม
ภัทรมองที่หน้าจอสักพักจึงได้พิมพ์บางอย่างตอบกลับไป ซึ่งเขาคิดอยู่สักพักจึงได้พิมพ์“ตกลง แผนการเป็นยังไง”เขาต้องปิดเสียงทันทีเพราะเสียงเตือนที่เข้ามาไม่ยั้งนั่นทำให้เขารำคาญ เมื่ออ่านข้อความสุดท้ายจบเขาจึงปิดเครื่องไปทันทีและเดินกลับเข้าไปในห้องประชุมต่อฮอล์แสดงคอนเสิร์ต“ฮอล์กว้างมากเลย แต่เขายังไม่เปิดแอร์ ถ้าจะซ้อมคงต้องทำเรื่องเปิดแอร์สักหน่อยเกรงว่าอลิซจะไม่ไหวนะแนน”“อืม รู้แล้วล่ะ มด ไปจัดการทีนะ”“ค่ะเจ้แนน”“ตกลงแกตัดสินใจหรือยัง”“ยัง แต่คิดว่าคงใกล้แล้วละ”“ฉันหวังว่าจะเป็นข่าวดี”“ข่าวดีสำหรับแกคือ…”“ไปให้พ้นๆหน้าฉันไง จะได้ไม่ต้องมีใครมาแข่งสวยกับฉัน”“ปากดี”“ฮ่าๆ ไปเหอะ เตรียมพร้อมแล้ว”หลินยืนแอบมองตอนวายุซ้อมเพลงอยู่ข้างๆเวที เขายังเป็นซุปตาร์ตัวพ่อในความทรงจำของเธอเสมอเมื่อขึ้นเวที วันนี้มีสาธิตมาที่นี่ด้วยพร้อมกับให้คนเก็บภาพและคลิปของเขาเพื่อนำไปลงโปรโมทในโซเชียลมีเดียอีกสองวันจะเป็นงานเปิดตัวคอนเสิร์ตที่โรงแรมใหญ่กลางกรุง ก่อนหน้านั้นช่วงบ่ายจะเป็นงานเปิดตัวที่ศูนย์การค้าชื่อดังในโรงแรมเดียวกันนี้“ชุดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”“พี่หลินคะ ชุดวันเปิดตัวให้ส่งไปที่โรง
“คุณไม่ได้พึ่งมารู้จักผมวันนี้ คุณก็รู้ว่าผมมีโลกส่วนตัวสูงขนาดไหน หวังว่าคุณจะเข้าใจที่ผมพูด อย่าพูดเรื่องนี้อีก”วายุเดินออกมาจากดาดฟ้าพร้อมกับปิดประตู เขาเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับคิดถึงใบหน้าเย็นชาที่พึ่งจะเดินสวนเขาออกไปจากดาดฟ้าเมื่อครู่นี้ สายตาของเธอที่ไม่มีเขาอีกแล้ว หรือว่าเธอตัดขาดจากเขาได้แล้วงั้นหรือ“หลิน….ผมคิดถึงคุณ”เขาไม่สามารถกลับไปที่คอนโดนั้นได้อีก เขาให้สาธิตย้ายของกลับมาที่ห้องพักของบริษัทเพื่อที่จะได้อยู่ตึกเดียว ชั้นเดียวกันกับหลิน ทุกคืนเขาก็ยังคงนอนกอดกล่องเหลี่ยมสีเงินใบนั้นที่เธอลืมทิ้งไว้ หรือบางทีเธออาจจะต้องการทิ้งมันไปพร้อมๆกับเขาแล้วก็ได้ บางครั้งเขาก็เปิดออกมาดูและนึกถึงวันที่เธอเปิดให้เขาดูและพูดคุยเรื่องวันเก่าๆที่เธอพบเขาในฐานะศิลปินที่เธอชื่นชอบ มาวันนี้ในสายตาของเธอ เขาคงเป็นแค่นักร้องที่หลอกนอนกับเธอแล้วทิ้งเท่านั้น….ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ“ฮัลโหล มีอะไร”“เร่งมือได้แล้ว”“มีอะไร ผมพึ่งลงเครื่องมาเองนะ”“หากช้ากว่านี้ เธอจะหลุดมือไปแล้วนะ”ภัทรยืนนิ่งเมื่อปลายสายพูดบางอย่างมา “เข้าใจแล้ว ขอบใจที่บอก”สายถูกตัดไปพร้อมกับภัทรที่ลังเลบางอย่างและหันไป
หลินกลับมาทำงานต่อในช่วงบ่าย หลังจากวันนั้นภัทรก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเธออีก คงเพราะเขาคงบินไปเมืองนอกแล้ว หลินเองก็โทรคุยกับแม่แล้วเรื่องภัทร แม้ว่าจะบ่นอุบเพราะเสียดายคนดีๆอย่างเขา แต่แม่ก็เข้าใจว่าชีวิตเป็นของนิลินทร์ การจะไปบังคับเธอก็คงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ“เอาล่ะ สแตนบาย เริ่มได้”วายุและแยมเข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งคู่ตัวแทบจะติดกัน ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็จะเจอแต่พวกเขาอยู่ด้วยกันทุกที่จนเป็นความชินตาของทุกคนจนคิดว่าทั้งคู่คงไม่พ้นจะมีข่าวคบกันเร็วๆนี้“หลิน หลิน!!”“หืม อะไร แหกปากตะโกนอยู่ได้”“ก็ขนาดแหกปากตะโกนขนาดนี้ยังไม่ได้ยินเลย เอ้า งานแก้”“อะไร แก้เยอะขนาดนี้เลย”“ก็ใช่น่ะสิ เอาสมองมาทำงานบ้าง อย่าเอามาแต่วิญญาณ ดูสิ สีเพี้ยนไปไหนหมด นี่เหรอยอดดีไซเนอร์”“จริงด้วย พลาดไปสองเฉด ขอบใจนะ”“ทำไม ตอนนี้กำลังเสียใจเหรอ แกทิ้งเขาเองไม่ใช่เหรอ”“ใช่ที่ไหนละ หึ อย่าไปพูดถึงมันเลย เปลืองสมอง”“โห จ๊ะแม่คนเก่ง ไม่ร้องแล้วนี่เก่งแล้ว เอาล่ะชุดตัวอย่างมาวันมะรืน ฉากก็เสร็จแล้ว อีกสามอาทิตย์จะเปิดตัวเตรียมตัวกันด้วยละ”“อืม รู้แล้ว”แนนเดินไปพร้อมกับโบกมือให้เธอ ก็ยังเป็นแนนที่เรียกสติเธอก