Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-04-01 16:03:20

แต่…ทว่าความใกล้ชิด ในจังหวะที่ทันตแพทย์สาวโน้มตัวลงไปตรวจภายในช่องปากนั้น กลิ่นหอมๆ ที่ลอยออกมาจากตัวเธอก็ทำให้หัวใจของเฟร์เรเต้นไม่เป็นส่ำ ขณะที่ปากก็อ้ากว้างออกเพื่อให้เธอได้ตรวจอย่างถนัด เขาก็เพ่งมองใบหน้าเนียนที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ แม้เธอจะมีหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกไว้ แต่ดวงตาและคิ้วสวยๆ ของเธอกลับเด่นจนน่ามอง

“ถ้าเจ็บแล้วบอกนะคะ” เสียงทันตแพทย์สาวดังขึ้น นั่นเพราะเธอเห็นก้างปลาที่ติดอยู่ตรงร่องระหว่างฟันกรามของชายหนุ่มแล้ว 

เธอขออุปกรณ์จากผู้ช่วย ก่อนจะคีบเจ้าก้างปลาที่เห็นออกมา ก่อนจะเอ่ยบอก

“เสร็จแล้วค่ะ” 

“เสร็จแล้ว” เฟร์เรเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยิน เพราะเขาแค่นอนนิ่งๆ แทบจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำไป จู่ๆ ทันตแพทย์สาวก็บอกว่าเสร็จแล้ว

“อื้อ…นี่ไง หลักฐาน” เพลงพิณคีบก้างปลามาให้เฟร์เรเห็น นั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาดังเฮือกที่เห็นว่าก้างปลามันหลุดออกไปจากฟันเขาแล้ว เพราะเขาไม่สนุกที่มีก้างปลาติดฟันแบบนี้

“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น และเพราะเขาไม่มีก้างปลาชิ้นที่สองให้เพลงพิณเอาออก นั่นทำให้เฟร์เรต้องกลับออกไปจากห้องทำงานของเธอ

ยืนมาอ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่หน้าห้อง 

“ทันตแพทย์หญิง เพลงพิณ ฉัตรเกษม” 

เขาพึมพำชื่อเธอออกมา จากนั้นก็ตรงไปยังเคาเตอร์ เพื่อชำระค่าบริการ แล้วจึงกลับออกไป ทำเหมือนลูกค้าคนอื่นๆ ที่มาใช้บริการที่นี่ 

เพลงพิณแอบมองลูกค้าคนล่าสุดผ่านกระจก รู้สึกว่าใจมันสั่นแปลกๆ หรือเธอจะแพ้ผู้ชายมีเครา มัดจุกเข้าให้แล้ว 

“ไม่มั้ง” ทันตแพทย์สาวส่ายหน้าแรงๆ ไล่ความคิดบ้าๆ บอๆ ของตัวเองให้ออกไปจากสมอง เท่าที่ดูเขาคงอายุพอๆ กับเธอหรือไม่ก็คงแก่กว่าไม่กี่ปีมั้ง 

เพลงพิณทิ้งท้ายคำว่ามั้งอีกครั้งในความคิด นั่นเพราะยังไม่มั่นใจอะไรทั้งนั้น ว่าเขาจะอายุเท่าเธอ มากกว่าหรือน้อยกว่า ถ้ามากกว่าจะคบกันรุ่งไหม แล้วถ้าอายุเท่ากันจะไปกันได้หรือเปล่า เผลอๆ เขาเกิดอายุน้อยกว่าเธอขึ้นมา...ทำไงล่ะ 

“เพ้อเจ้อ” ทันตแพทย์สาวส่ายหน้ากับความคิดฟุ้งๆ ของตัวเอง ก่อนดึงสติเข้าร่าง เพราะงานต้องทำอีกตั้งเยอะ แต่ขณะนั้นคนที่เธอกำลังคิดถึงกลับนั่งมองเพลงพิณในรถตาเขม็ง 

ก่อนจะหยิบกล้องมาถ่ายรูปของเธอไว้ จากนั้นก็ก้มมองรูป มีบางสิ่งบางอย่างทำให้เฟร์เรไม่อาจละสายตาไปจากรูปที่เขาพึ่งกดชัตเตอร์ถ่ายมาเมื่อครู่นี้ได้

“หรือจะใช่เธอคนนี้” เสียงทุ้มเอ่ยถามตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คำตอบว่าใช่หรือไม่ใช่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขามีเหตุผลที่ต้องมาอยู่ที่นี่ แต่ภายใต้เหตุผลเขาก็ให้เวลาเช่นกัน 

หนึ่งปี คือเวลาในการตามหาผู้หญิงในภาพคนนั้น

หนึ่งปี คือเวลาที่เขาจะไม่มองใคร

และนี่ก็ผ่านมาสิบเอ็ดเดือน เป็นสิบเอ็ดเดือนที่ยังคงว่างเปล่า 

“อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้ หากเรายังไม่ได้พบกัน ผมคงต้องปล่อยคุณไป” เฟร์เรเอ่ยบอกกับหญิงสาวคนที่เขาตามหา เพราะแม้จะอยากพบเธอมากแค่ไหน แต่เขาก็ต้องหยุดไขว่คว้าในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ 

เขาคิดเรื่องนี้ พร้อมๆ กับมองรูปถ่ายของทันตแพทย์สาวไปด้วย กระทั่งชายหนุ่มหยุดคิดแล้วขับรถออกไปจากคลินิกทำฟัน 

 

แต่หลังเลิกงาน เพลงพิณก็ได้พบกับเฟร์เรอีกครั้ง จะไม่ให้เจอกันได้ยังไง ก็รั้วบ้านติดกันซะขนาดนี้ จังหวะที่เธอกำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งก็ดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน

“เดี๋ยวคุณ หยุดรถก่อน” ได้ยินแบบนี้ เพลงพิณก็รีบหยุดรถทันที พอชะเง้อหน้าออกไปมองจึงเห็นว่าคนที่มายืนตะโกนให้เธอหยุดรถนั่นคือคนที่ไปใช้บริการที่คลินิก เพื่อให้เธอเอาก้างปลาออกจากฟันให้เมื่อตอนบ่าย 

“อะไรคุณ”

“แมว…ผมคิดว่าคุณขับรถเหยียบมัน”

“อะไรนะ ฉะ…ฉันเหยียบแมวเหรอ” สีหน้าของเพลงพิณนั้นดูตื่นตกใจมาก ส่วนเฟร์เรเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เมื่อครู่เขาเอาขยะมาทิ้งแล้วจังหวะที่กำลังกลับเข้าบ้าน สายตาก็เหลือบมาเห็นแมวนอนนิ่งอยู่บนพื้น 

“แล้วแมวมันเป็นอะไรหรือเปล่าคุณ”

“มันยังหายใจอยู่” เสียงที่ตอบดังอยู่แถวๆ หน้ารถ นั่นทำให้เพลงพิณรีบเปิดประตูรถแล้วก้าวลงมาทันที เดินมาเพียงสองก้าวก็เห็นว่าผู้ชายมัดจุก หนวดเครารกรุงรังกำลังอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขน ช่างดูอ่อนโยนขัดกับบุคลิกเขานัก 

“พามันไปหาหมอมั้ย”

“ก็คุณเป็นหมอไม่ใช่เหรอ” สีหน้าคนถามดูจริงใจใสซื่อเสียเหลือเกิน นี่ถ้าเป็นคนอื่นถาม เธอคงคิดว่ากำลังกวนโอ๊ยอยู่แน่ๆ 

“ฉันเป็นหมอฟัน ไม่ใช่หมอแมว จะรักษาได้ไงเล่า” เพลงพิณแหวใส่ 

“แต่ผมไม่รู้ว่าแถวนี้มีหมอแมวที่ไหน”

“ฉันรู้ ไปๆ คุณ ขึ้นรถ” เอ่ยชวนเสร็จ เพลงพิณก็รีบไปทำหน้าที่คนขับ ก่อนจะพาเฟร์เรและเจ้าแมวน้อยในอ้อมแขนเขาตรงไปยังคลินิกรักษาสัตว์ ซึ่งก็ไม่ใช่คลินิกใครอื่น เป็นคลินิกเพื่อนนักเรียนแพทย์ร่วมรุ่นเธอที่ชื่อว่าโปรด

สีหน้าของเพลงพิณกับเฟร์เรนั้นดูกังวลกับอาการป่วยของเจ้าแมวน้อยไม่แพ้กัน แต่เพลงพิณเป็นมากหน่อย เพราะเดี๋ยวก็ลุก เดี๋ยวก็นั่ง เดี๋ยวก็ไปยืนชะเง้อมองเข้าไปในห้องตรวจคอยาว กระทั่งผ่านไปเกือบชั่วโมง ประตูห้องตรวจก็ถูกเปิดออก 

“แก…แมวเป็นไงบ้าง” ทันทีที่เห็นหน้าสัตวแพทย์โปรด เพลงพิณก็รีบถามไถ่อาการเจ้าแมว 

“ขาหัก ปอดฉีก ช้ำใน”

“เฮ้ย! อาการมันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” สีหน้าของเพลงพิณไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อได้ยินเพื่อนบอกอาการป่วยของเจ้าแมวน้อย

“จากบาดแผล มันโดนชนมาก่อนหน้านี้แล้วแหละ ไม่ใช่เพราะแกขับรถเหยียบอะไรมันหรอกพิณ” คำพูดของโปรด ทำให้เพลงพิณโล่งอกไปได้บ้าง แต่ใจก็ห่วงเจ้าแมวอยู่ดี 

“แล้วมันจะรอดมั้ยแก”

“ห้าสิบห้าสิบว่ะ ถ้าพรุ่งนี้มันฟื้นก็แสดงว่ารอด แต่ถ้ามันทนเจ็บไม่ไหว ก็…”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 63 (จบ)

    “เซอร์ไพรส์” ทุกคนในห้องต่างตะโกนคำว่าเซอร์ไพรส์อย่างพร้อมเพรียง นอกจากพ่องานอย่างเฟร์เร ลลินดา ภาคิน บุหลันแล้ว ยังมีโปรดที่ยืนฉีกยิ้มหวานอีกคน ซึ่งโปรดไม่ได้มาคนเดียว ยังพาโชคดีมาด้วยแต่ยังไม่ทันที่เพลงพิณจะได้พูดอะไร เธอก็ต้องตกใจยกกำลังสอง เมื่อเห็นรูปของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันปรากฏอยู่บนโทรทัศน์ขนาดสี่สิบสองนิ้วที่ติดไว้กับกำแพงห้องโดยเฉพาะรูปปัจจุบันที่อิริยาบถต่างๆ นั้นแทบไม่ซ้ำกัน มีรูปตอนเธอไปซื้อต้นไม้กับเฟร์เร ที่หน้าเยินๆ ตอนไปกินข้าว ดูหนัง อันนี้สวยหน่อย รูปทีเผลอ ตอนเธอนอนน้ำลายยืด หรือแม้แต่ตอนไม่ได้แต่งหน้า และสิ่งที่สะดุดสายตาของเพลงพิณนั่นคือป้ายข้อความที่มักจะถูกใส่ไว้หรือแทรกอยู่มุมใดมุมหนึ่งบนรูปอ่านปะติดปะต่อได้เป็นคำว่า ‘Will you marry me’ นั่นยิ่งทำให้อกซ้ายของเพลงพิณเต้นรัว หายใจก็ชักจะไม่ค่อยทั่วท้องและทันทีที่ฉายมาถึงรูปสุดท้าย คำว่า Will you marry me ก็ชัดขึ้นด้วยป้ายตัวอักษรที่ถูกปล่อยลงมาตรงหน้าเพลงพิณได้อย่างพอดิบพอดี“โรแมนติกสุดๆ” บุหลันเพ้อออกมา เพราะจะมีอะไรโรแมนติกไปมากกว่านี้ไม่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 62

    หลังจบงานแต่งงานของลลินดาและภาคิน บรรดาเพื่อนสนิทก็ยังคงอยู่กันครบ ไม่มีใครหนีหายกลับกรุงเทพฯ ก่อน เพราะยังไม่จบภารกิจเสียทีเดียวทุกคนดูมีลับลมคมในแปลกๆ แปลกจนเพลงพิณอดที่จะสงสัยไม่ได้ พอถามใครก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างพร้อมเพรียง“เจ้…เย็นนี้เค้าอยากกินปูไข่ เราออกไปซื้อที่ท่าเรือกันนะ”“ไปสิ” เพลงพิณเอ่ยรับปากส้มไปโดยไม่ได้เอะใจอะไรสักนิด ว่าเธอกำลังถูกหลอกให้ออกไปจากโรงแรมก่อนชั่วคราวเมื่อบุหลันพาเพลงพิณไปแล้ว ที่เหลือเริ่มจัดสถานที่ ซึ่งก็คือห้องจัดเลี้ยงเล็กริมสระว่ายน้ำของทางโรงแรมนั่นเอง โดยมีเจ้าสาวหมาดๆ อย่างลลินดาคอยช่วยจัดส่วนหนุ่มๆ อย่างภาคินและเฟร์เรก็ถนัดใช้งานออกแรง ปีนป่ายติดรูปของเพลงพิณจนทั่วห้อง จากนั้นขบวนลูกโป่งก็ถูกนำเข้ามา“เป็นอะไรส้ม ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ” เพราะเห็นว่าบุหลันเอาแต่มองโทรศัพท์ เพลงพิณจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น ส่วนคนถูกถามก็แอบสะดุ้งมีพิรุธเบาๆ“เป็นอะไร ถามแค่นี้ต้องสะดุ้งด้วย”“เปล่าเจ้พิณ ไม่มีอะไร พอดีเค้าแค่นั่งคิดอะไร

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 61

    “อะไรคะ”“ผมต้องกลับเยอรมัน” ประโยคที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมมันถึงได้ปุบปับแบบนี้ เธอยังไม่อยากห่างกับเฟร์เร“กลับเยอรมัน เมื่อไหร่คะ”“อีกสองอาทิตย์ครับ ผมทิ้งภาระให้ลูกน้องรับผิดชอบงานของผมมานานมากพอแล้ว ผมต้องกลับไปคุมต่อ” เหตุผลของเฟร์เร ทำให้เพลงพิณไม่อาจแย้งเขาได้ และเธอก็โตพอที่จะเข้าใจคนรัก แม้จะหวิวๆ ในใจที่ต้องอยู่ห่างเขาก็เถอะ“ฉันเข้าใจ”“ผมอยากให้คุณไปด้วย”“สองอาทิตย์ฉันคงลางานไม่ได้แน่ เอางี้…คุณกลับไปก่อน ขอฉันเคลียร์งานแล้วจะบินตามไปนะ” ประโยคที่ได้ยิน ทำให้ใจของเฟร์เรชื้นขึ้นมาได้มาก เพลงพิณเข้าใจเขา“คุณโกรธผมหรือเปล่าที่อยู่ที่เมืองไทยต่อกับคุณไม่ได้”“ไม่โกรธค่ะ แต่ก็รู้สึกหวิวๆ ในอกอยู่เหมือนกัน เสียดายที่เราเจอกันช้าไป เพราะถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ ฉันก็คงได้อยู่กับคุณนานกว่านี้”“โธ่…ที่รัก” เฟร์เรคว้าเธอมากอด ฝ่ามืออุ่นๆ ลูบศีรษะของเธอไปมาอย่างปลอบโยน ยิ่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 60

    “ผมมาที่นี่ก็เพราะมาตามหาคุณ” ยิ่งฟัง เพลงพิณก็ยิ่งงง“ตามหาฉันเหรอ ตามหาทำไม” นั่นน่ะสิ เขามาตามหาเธอทำไม ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ หรือโปรดทำอะไรมิดีมิร้ายแฟนเธอ“เพราะผมรักคุณ ผมรักผู้หญิงคนที่คุณเห็นจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่นี้ ผมรักเธอ จนยอมทิ้งทุกอย่างแล้วมาตามหาเธอ” เฟร์เรเอ่ยคำว่ารักให้เพลงพิณฟังครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนโปรดนั้นเมื่อรู้และเห็นอะไรมากพอ จึงหมุนตัวกลับออกไป เพราะดูท่าเพลงพิณกับเฟร์เรจะมีเรื่องให้คุยกันอีกนานและก็จริงอย่างที่โปรดคิด เพราะตอนนี้เฟร์เรตั้งคำถามกับ เพลงพิณถึงเรื่องเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวเบอร์ลิน และเพลงพิณก็ถาม เฟร์เรย้ำอีกครั้ง ว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะหรือ พอได้คำตอบก็ยิ้มแก้มแตก ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มแน่น“คุณมาตามหาฉันเหรอ” พอคลายอ้อมกอดออกก็เอ่ยถาม“ครับ ข้ามฟ้า ข้ามทะเลมาตามหาความรักถึงที่นี่” คำพูดหวานๆ ที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณแทบจะลอยได้ รู้สึกว่าความรักครั้งนี้ของเธอมันอยู่เหนือคำว่าพรห

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 59

    ความรักของเพลงพิณและเฟร์เรก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม แม้เธอจะเอ่ยบอกขอชายหนุ่มแต่งงานไปตอนเมามาย แต่เฟร์เรกลับคิดจริงจัง และเตรียมเซอร์ไพรส์เพลงพิณไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลาเหมาะๆ เท่านั้น และช่วงนี้เขาก็นิ่ง ไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับคืนนั้นอีกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทั้งคู่มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ อย่างเมื่อครู่เธอก็อยู่กับเฟร์เร แต่เขาขอตัวไปเอาของที่บ้าน ส่วนเพลงพิณก็นั่งเล่นใต้ซุ้มชิงช้าไม้รอ อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น พอหันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นโปรด ที่ยืนยิ้มหล่อละลายใจเกย์อยู่“เข้ามาสิแก ประตูไม่ได้ล็อค”“ฉันไม่ได้มาหาแกย่ะ” โปรดตอบกลับมาได้อย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด จริตจะก้านนี่มาเต็ม“เอ้า! แล้วมาหาใครยะ อย่าบอกนะว่าแกมาหาแฟนฉัน”“ใช่…แต่แหม ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นี่หล่อนแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้แรงเหมือนกันนะยะ” คำพูดของโปรด เพลงพิณทำเพียงแค่ไหวไหล่รับเบาๆ เท่านั้น“ก็แน่ล่ะ ว่าแต่แกจะไปหาเบคเขาทำไม”

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 58

    “อะไรนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง กลัวว่าเขาหูฝาดที่ได้ยินว่าเพลงพิณชวนเขาแต่งงาน“เราแต่งงานกันตอนนี้เลยได้มั้ย ฉันแก่แล้ว มดลูกก็ใกล้จะเสื่อมเต็มที ถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ ฉันกลัวมีลูกยาก” เหตุผลของเพลงพิณดูเหมือนจะฟังขึ้น“นี่คุณพูดจริงหรือแค่พูดขำๆ ตอนเมากันที่รัก”“ฉันพูดจริงๆ ให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้อ่ะ ไว้…พรุ่งนี้ ฉันจะมาฟัง คำ…ตอบ” พูดจบเพลงพิณก็น็อคกลางอากาศ ร่างบางโอนเอน จนเฟร์เรต้องรีบเข้าไปพยุง“คุณพิณ พิณครับ” คนตัวโตเขย่าร่างกึ่งเปลือยในอ้อมกอด แต่เพลงพิณก็ไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว“เมาจนหลับไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มส่ายหน้าให้เธอ ก่อนจะอุ้มกลับมานอนที่เตียง จากนั้นก็หาผ้าไปชุบน้ำหมาดๆ ก่อนจะมาเช็ดตัวให้เธอ เสร็จก็หาเสื้อยืดของเขาในตู้ออกมาให้เธอสวม จากนั้นก็นั่งมองคนที่กำลังหลับพริ้ม“คำว่า...เราแต่งงานกันมั้ย ผมควรจะพูดไม่ใช่เหรอครับ” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะลุก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status