Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-04-01 16:03:32

“เออๆ ไม่ต้องพูด ฉันเดาได้” เพลงพิณรีบยกมือขึ้นห้าม 

“งั้นพรุ่งนี้ผมจะมาถามอาการมันแต่เช้า” เฟร์เรเอ่ยขึ้นบ้าง แม้ลุคเขาจะออกเถื่อนๆ แต่ใครจะรู้ว่าเขาอ่อนโยนกับสัตว์มากเหมือนกัน 

“ได้ครับ” เสียงทุ้มของสัตวแพทย์โปรดตอบกลับไป ก่อนจะพินิจมองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า แล้วหันมากระซิบกระซาบถามเพื่อนสาวที่ยืนตัวเตี้ยอยู่ข้างๆ 

“พิณ…ใครวะ แฟนแกเหรอ” น้ำเสียงของโปรดนั้นฟังดูตื่นเต้น จนเพลงพิณค้อนให้อย่างหมั่นไส้ 

“แฟนที่ไหน เพื่อนบ้าน รั้วติดกันเลย เขาชื่อ…” พอจะตอบคำถามโปรด เพลงพิณก็ชะงัก 

นั่นสิ…ผู้ชายข้างๆ เธอนี่ชื่อว่าอะไร ถ้าจำไม่ผิด เขาน่าจะชื่อว่าเฟร์เรใช่ไหม แต่เพราะฟอร์ม เพลงพิณจึงแสร้งทำเป็นจำชื่อหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ เธอหันกลับมามองหน้าเฟร์เร แล้วเอ่ยถามชื่อเขาออกไป 

“ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ”

“เฟร์เร ผมชื่อเฟร์เรหรือจะเรียกผมว่าเบคก็ได้” เมื่อได้ยินแบบนี้ เพลงพิณก็หันมาคุยกับโปรด

“แกได้ยินแล้วใช่ไหม เขาชื่อเบค” 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมโปรด เป็นเจ้าของคลินิก” เอ่ยทักทายเสร็จก็ยื่นมือไปรอสัมผัส เฟร์เรไม่ลังเลที่จะสัมผัสมือของโปรดกลับมา

“ส่วนคนข้างๆ นี่พิณ” โปรดแนะนำเพลงพิณเสร็จสรรพ 

“ยินดีที่ได้รู้จักคุณสองคนเช่นกันครับ…เอ่อ…ผมขอเข้าไปดูแมวหน่อยได้ไหม”

“ได้สิครับ เชิญ” โปรดผายมือให้ชายหนุ่มมาดเซอร์สุดหล่อเข้าไปดูอาการเจ้าแมว นั่นทำให้เขามีโอกาสอยู่คุยกับเพื่อนสนิทตามลำพัง และเมื่ออยู่กันตามลำพัง โปรดจึงไม่จำเป็นต้องเก๊กแมนอีกต่อไป 

“น่ากินว่ะแก” 

“เก็บอาการหน่อยยัยโปรด...เก็บ!” เพลงพิณหันมาแยกเขี้ยวให้เพื่อนสาวในร่างชาย ที่ออกอาการกระดี๊กระด๊าเสียเหลือเกิน 

“แหม…แกก็ สเปคฉันเลยนะยะ มาดเซอร์หน่อยๆ ดูดิบเถื่อนนิดๆ ผมยาว มัดจุก โอ๊ย! ใจละลาย” สีหน้าของโปรดดูฟุ้งๆ แววตาก็หวานหยาดเยิ้มขณะมองไปที่เฟร์เร พลอยทำเอาเพลงพิณขนลุกไปด้วย 

“หล่อนอย่ามาสาวแตกตอนนี้ เก๊กหน้าหล่อไว้”

“หมู่บ้านแก เขาขายบ้านไปหมดหรือยัง พอรู้มะ”

“ทำไมยะ แกจะลงทุนไปซื้อบ้านเพื่อไว้แอ๊วหนุ่มมาดเซอร์ มัดจุกผู้รักแมวคนนี้หรือไง” เพลงพิณเอ่ยภาษาเหนืออย่างขำๆ เพราะคำว่าแอ๊วของเธอ หมายถึงการไปจีบหนุ่มนั่นเอง 

“อื้อ” โปรดหันมาเอ่ยรับอย่างไม่ลังเล 

“พอๆ เพ้อเจ้อ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวพี่เสือแกรู้เข้าจะหนาวยัยโปรด” เมื่อโปรดชักจะเลยเถิด เพลงพิณจึงหยิบยันต์กันเจ้าชู้ที่ชื่อว่าเสือออกมาใช้ เพราะนี่คือชื่อสุดที่รักของโปรดนั่นเอง

“พูดถึงพี่เสือแล้วคิดถึง ไปญี่ปุ่นตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว กลับมาคืนนี้คงต้องจัดสักหน่อย” แววตาของโปรดนั้นวิบวับเป็นประกาย พลอยทำให้คนโสดขนลุกไปด้วย 

“แกก็พูดสองแง่สามง่าม” 

“ย่ะ…งั้นคนนี้ฉันยกให้แกไปยัยมะพร้าวทึนทึก เกาะคานเป็นลิงเกาะต้นไม้เชียว ปล่อยมือได้แล้ว มดลูกฟ่อ หมดอายุกันพอดี” 

“เออนะ แกไม่ต้องมาตอกย้ำฉันเรื่องคาน เรื่องมดลูกนี่หรอก”

“เปล่าตอกย้ำ ฉันแค่สนับสนุนให้แกลงจากคาน คนนี้เป็นไง หล่อดีออก ฉันว่าเขาเหมาะกับแกดีนะพิณ” โปรดตอบกรุ้มกริ่ม 

“เหมาะตรงไหน แกนี่ก็เพ้อระดับสิบ” แม้จะพูดแบบนี้ แต่อีกใจก็อดหวั่นไหวหนุ่มมาดเซอร์ มัดจุกคนนี้ไม่ได้จริงๆ นะ แต่ก็คงเพ้อแค่ในมโนตัวเองเท่านั้น 

“เอ้า! แกก็...”

“หยุด…เก๊กแมนบัดเดี๋ยวนี้ เขาเดินออกมานู่นแล้ว” เพลงพิณหันมาส่งสายตาดุๆ ให้โปรด เมื่อเห็นเฟร์เรเดินตรงมาหาพวกเขา 

“ท่าทางมันไม่ค่อยสู้ดี” ทันทีที่ออกจากห้องตรวจภายในคลินิก เฟร์เรก็เอ่ยขึ้น

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมอยู่เฝ้าให้เอง” โปรดเอ่ยบอกเสียงทุ้ม ตัดจริตจะกร้านทิ้งไปชั่วคราว ผิดไปกับโปรดคนเมื่อครู่

“งั้นฝากแกด้วยนะโปรด พรุ่งนี้ฉันจะแวะมาดูแต่เช้า”

“ไม่มีปัญหา” 

“ฉันกลับก่อนแล้วกัน แกจะได้ทำงาน”

“อืม” โปรดเอ่ยรับในคอ ก่อนจะมองมายังเฟร์เรจนเพลงพิณหมั่นไส้ เฟร์เรโค้งคำนับให้เป็นการบอกลา แต่ก่อนจะกลับออกไปจากคลินิก เขาก็ยังชะเง้อเข้าไปมองแมวด้วยความเป็นห่วง ได้แต่ภาวนาให้มันใจสู้ เพราะถ้าหาย เขาจะรับมันไปเลี้ยงเอง

เพราะความที่คลินิกของหมอโปรดอยู่ใกล้ เพลงพิณขับรถไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงหน้าบ้านเสียแล้ว ทำไม๊...ทำไม เวลาแบบนี้ถึงเดินเร็วนักก็ไม่รู้ 

“หวังว่าพรุ่งนี้เราจะได้ข่าวดีจากหมอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หลังก้าวลงจากรถแล้วมายืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง 

“อื้อ…ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน” 

“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณพิณ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้า 

“เชิญค่ะ ฉันก็จะเข้าบ้านเหมือนกัน” เอ่ยเสร็จ เพลงพิณก็หมุนตัวเข้าบ้าน เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเฟร์เรเหมือนกัน 

เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาภายในบ้าน ทำให้ฟาโรห์หันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าคือพี่ชายที่เอาขยะไปทิ้ง แต่ทว่ากลับหายไปเป็นชั่วโมงๆ กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นคราบเลือดบนเสื้อตัวที่เฟร์เรสวม จึงรีบถาม

“นายหายไปไหนมา แล้วนั่นเลือดอะไร” คนอยากรู้เดินมาถาม มองดูว่าเลือดของใคร พี่ชายได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า การเอาขยะไปทิ้งช่างอันตรายเหลือเกินสินะสำหรับที่นี่

“พอดีเจอแมวถูกรถชนที่หน้าบ้าน ก็เลยพาไปหาหมอ”

“พาไปหาหมอ นายไปยังไง รถนายก็ยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ใช่เหรอ” ฟาโรห์เลิกคิ้วสงสัย 

“บ้านหลังข้างๆ พาไป”

“อ้อ…ผู้หญิงคนนั้น”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 7

    “อื้อ…คนที่ฟาดนายด้วยไม้เบสบอลนั่นแหละ เธอยังเข้าใจผิดว่าฉันคือนาย” พูดไปแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์เข้าใจผิดว่าคนไหนคือเขา คนไหนคือน้องชายฝาแฝด แต่เฟร์เรกลับไม่รู้สึกอะไร แต่ครั้งนี้ทำไมเขาถึงไม่ชอบก็ไม่รู้ “เอ้า! แล้วนายได้บอกไปมั้ย ว่านายเป็นใคร” งานนี้น้องชายแปลกใจ ปกติเฟร์เรจะออกตัวว่าตนมีฝาแฝดป้องกันการเข้าใจผิด“ไม่ได้บอก”“อืม…อีกหน่อยเธอก็คงรู้เองว่าเราเป็นฝาแฝดกัน” ฟาโรห์เลิกคิ้วสูง ในเมื่อดูเหมือนพี่ชายไม่อยากบอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะต้องไปออกตัว“แต่ฉันกลับไม่อยากให้เธอรู้” เฟร์เรเอ่ยกับตัวเอง เขามีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากให้ผู้หญิงบ้านข้างๆ รู้ว่าเขานั้นมีฝาแฝด เพราะถ้ารู้ก็กลัวว่าเธอจะหลงความหล่อของฟาโรห์จนไม่มีใจมองมาที่เขา แต่ทว่า…ความคิดนี้ก็ต้องหยุดลง เพราะเหตุผลหลักๆ ที่เฟร์เรมาที่นี่คือการมาตามหาหญิงสาวในภาพถ่ายคนนั้นให้พบ คนที่เขาหลงรักอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่แบ่งใจไปรักผู้หญิงอื่น แต่ก็ไม่วายที่จะมองไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน“จะไม่เข้าบ้านเหรอ” พอเห็นว่าพี่ชายเอาแต่ยืนนิ่ง ฟาโรห์ก็เอ่ยขึ้น“อืม” เสียงทุ้มเอ่ยรับในลำคอ ก่อนจะเดินผ่านน้องชาย และเสี

    Last Updated : 2025-04-01
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 8

    “แล้วใครจะได้สิทธิ์เลี้ยงก่อน” คำถามของเพลงพิณทำเอาโปรดคิ้วขมวด เพราะกำลังหาทางออกให้“เอางี้ เล่นกับดวงเลยแล้วกัน ถ้ารถที่เลี้ยวเข้ามาคลินิกทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคู่ พิณเอาไปเลี้ยงก่อน แต่ถ้าลงท้ายด้วยเลขคี่ เบคเอาไปเลี้ยง โอเคนะ” “โอเค” เพลงพิณเอ่ยรับ ใครมันจะไปกล้าขัดสัตวแพทย์โปรดได้...หืม “ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับเช่นกัน ก่อนจะภาวนาให้รถที่เล่นเข้ามาภายในคลินิกคันต่อไปทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคี่ ส่วนเพลงพิณก็ภาวนาตรงกันข้าม เลขคู่ เลขคู่ เลขคู๊!!! เสียงแอคโค่เธอดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาท แต่ทว่าโชคกลับไม่เข้าข้างคนสวยอยากเลี้ยวแมว“เลขที่ออก...เจ็ด…จบข่าว อาทิตย์แรกเบคได้เลี้ยงเจ้าลัคกี้ก่อน ส่วนอาทิตย์ต่อไปก็แกพิณ” โปรดเอ่ยสรุปให้เสร็จสรรพ ก่อนจะได้ยินเสียงคนผิดหวังเบาๆ “อื้อ” เมื่อตกลงเรื่องใครจะเลี้ยงก่อนเลี้ยงหลังลงตัว เฟร์เรและเพลงพิณจึงเข้าไปดูอาการของเจ้าแมวน้อยใกล้ๆ และคนที่ขอตัวก่อนคนแรกคือเพลงพิณ เพราะใกล้ได้เวลาทำงานแล้ว ตามด้วยเฟร์เรโปรดยืนกอดอกมองรถสองคันที่กำลังขับออกไปจากคลินิก อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลแปลกๆ หรือทั้งคู่กำลังชอบพอกันอยู่“ไม่จริงมั้ง” โปรดส่าย

    Last Updated : 2025-04-01
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 9

    “บ้า…มาจูบสิ รสปลาร้าเต็มๆ” พี่ใหญ่ของกลุ่มค้อนควักให้คนแซวเรื่องปาก ที่มาแซวอะไรเอาตอนนี้ เดี๋ยวตบด้วยข้าวเหนียวในมือซะเลย “เผ็ดเหรอเจ้” สีหน้าของลลินดานั้นแสดงออกว่าห่วงเจ้ของเธอแบบสุดๆ “อื้อ…วันนี้ป้าแกโกรธอะไรเจ้เปล่า ใส่พริกซะเยอะซะแยะ เคี้ยวคำไหนเจอแต่พริก”“ไม่ได้โกรธหรอก คงเป็นพริกค้างครกมากกว่า เอ้า...น้ำๆ จะได้แก้เผ็ด” เอ่ยเสร็จ ลลินดาก็ส่งน้ำเย็นๆ ให้เพลงพิณดื่มดับเผ็ด“ขอบใจจ้ะ”“นี่เจ้…เค้ากำลังจะแต่งงานแหละ” ประโยคนี้ของลลินดาทำเอาเพลงพิณแทบจะบ้วนน้ำเย็นๆ ลงแก้วที่ถืออยู่ ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนรุ่นน้องตาปริบๆ “นี่เจ้เผ็ดจนหูแว่วไปเลยเหรอที่ได้ยินมิ้นบอกว่าจะแต่งงาน” เพลงพิณยิ้มแห้งๆ ให้ เพราะคิดว่าตัวเองหูฟาด “ไม่ได้หูแว่ว เค้ากำลังจะแต่งงานจริงๆ” ลลินดาย้ำให้ได้ยินอีกครั้ง ส่วนบุหลันนั้นก็ดูจะอึ้งไปอีกคน อึ้งจนข้าวเหนียวที่เพิ่งส่งเข้าปากหล่นมากองบนโต๊ะอย่างไม่รู้ตัว “แต่งกับใคร” คนที่เอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าบ่าวของลลินดาคือเพลงพิณ เพราะดูท่าเธอจะตั้งสติได้แล้ว “ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละเจ้ก็” ท่าทางของว่าที่เจ้าสาวดูขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด เพราะผักบุ้งที่อยู่ในมือตอนน

    Last Updated : 2025-04-01
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 10

    งานแต่งงานของยลดาและเจ้าบ่าวร้อยล้าน ที่ได้ชื่อแบบนี้เพราะเจ้าบ่าวอย่างบูรพานั้น เป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง แค่เอ่ยชื่อ คนครึ่งค่อนประเทศก็ร้องอ๋อ ภายในงานประดับประดาด้วยดอกไม้สีม่วงขาว ซึ่งเป็นสีโปรดของเจ้าสาว และคนที่โดดเด่นที่สุดของงานก็คงหนีไม่พ้นยลดา ที่วันนี้มาในชุดแต่งงานสีขาวจากแบรนด์ดัง ยิ่งส่งให้เธอเหมือนเจ้าหญิงที่ควงแขนมากับเจ้าชายผู้หล่อเหลา ธีมงานแต่งงาน คือธีมในฝันของสาวโสดหลายๆ คน ทุกอย่างดูโรแมนติกมาก มากเสียจนต่อมอิจฉาของเพลงพิณทำงานอย่างแรง“เฮ้อ...เราจะมีงานแบบนี้กับเขาบ้างมั้ยน้อ” คนโสดที่รั้งตำแหน่งคนสุดท้ายของกลุ่มตัดพ้อในโชคชะตา เรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม เธอมักจะคว้าที่หนึ่งหรือลำดับต้นๆ มาครองเสมอ แต่เรื่องสละคานกลับรั้งที่สุดท้ายเสียได้ แต่ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เพลินๆ ช่อบูเก้เจ้าสาวก็หล่นตุ้บมาอยู่บนตัก สายตาแทบทุกคู่ในงานจับจ้องมาที่ทันตแพทย์คนสวยทันที เพลงพิณยิ้มแห้งๆ ให้ทุกคน ก่อนจะถูกลากตัวขึ้นไปบนเวที“ว่าที่เจ้าสาวคนต่อไป” คำพูดของพิธีกรในงานยิ่งทำให้เพลงพิณเป็นจุดสนใจ และยิ่งสนใจยกกำลังสอง เมื่อทุกคนในงานรู้ว่าเธอยัง ‘โสด’“ว้าว! ไม่น่าเชื่อ

    Last Updated : 2025-04-01
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 11

    ตลอดเวลาที่เจ้าโชคดีหรือลัคกี้ รักษาตัวอยู่ที่คลินิกสัตว์ของโปรด ทั้งเพลงพิณและเฟร์เรก็ต่างแวะเวียนไปเยี่ยมเจ้าแมวน้อย แต่ไปทีไรก็คลาดกันตลอด กระทั่งครั้งล่าสุดที่เพลงพิณแวะไปก็เห็นว่าโชคดีนอนอยู่บนตักเฟร์เร“หมั่นไส้”“เอ้า! แกนี่ก็แปลก อยู่ๆ มาบอกหมั่นไส้ฉัน” เพลงพิณหันมาแหวใส่คนข้างๆ “แกนี่เลยจุดว่าหมั่นไส้ไปนานแล้วย่ะ ที่ฉันหมั่นไส้คืออีแมวนั่นต่างหาก แหม…ทีอย่างนี้มาทำเป็นอ้อน นอนตักผู้ชาย ทีฉัน…แค่จับนางมาตรวจแผลหน่อยเดียว มีข่วน มีขู่ฟ่อๆ ยังกะงูเห่า” โปรดเบ้ปาก หมั่นไส้แมวได้น่าหมั่นไส้มาก แต่ความจริงคือเขาเป็นคนชอบสัตว์ทุกชนิดต่างหาก ไม่งั้นคงไม่เรียนและเลือกที่จะมาเป็นหมอสัตว์หรอก “นังบ้า อิจฉาได้แม้กระทั่งแมว”“หรือไม่จริง” สีหน้าของโปรดยังคงจริงจังอยู่ เพลงพิณหมั่นไส้จึงตีลงไปบนแขนแรงๆ จนสัตวแพทย์หนุ่มสะดุ้ง “สงสัยแมวมันจะรู้ว่าแกคือชะนีในร่างผู้ชาย นางเลยไม่ยอมให้เข้าใกล้”“สู่รู้ไปนะนังแมวน้อย...ชิส์” สะบัดหน้าใส่แมวเสร็จก็เดินกลับไปทำงานต่อ เพราะมีเคสผ่าตัดคลอดให้สุนัขอยู่อีกเคส แต่พอนึกขึ้นได้ว่าลืมบอกเพลงพิณ จึงเดินกลับมาใหม่“ฉันมีเคสผ่าตัดหมาคลอดลูก คงอีกนานกว่าจ

    Last Updated : 2025-04-10
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 12

    ของคาวผ่านไปก็ตามด้วยของหวาน เฟร์เรได้แต่มอง ขณะที่เพลงพิณสั่งของหวานมาทาน สีหน้าเขาดูงุนงงกับของหวานที่ได้เห็น เพราะนึกว่าจะเป็นไอศกรีมหรือเค้กเสียอีก“ลองทานดูไหมคะ”“ของหวานของคุณหน้าตาแปลกดี” เฟร์เรมองไปยังถ้วยของหวานที่มีน้ำแข็งและอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จักลอยอยู่ในนั้น “มันเรียกว่าสละลอยแก้ว ทานตอนอากาศร้อนๆ อร่อย” สีหน้าของคนพูดดูจะมีความสุขกับการได้กินเมนูโปรดหน้าร้อน “ชื่อก็แปลก”“แน่สิ…ก็อาหารไทยนี่นา ลองชิมดู” เพลงพิณหยิบช้อนอีกคันมาตักสละลอยแก้วแล้วยื่นให้เฟร์เร ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือไปรับช้อนคันนั้นมาถือไว้ ก่อนจะลองชิมรสชาติดู “อร่อยไหม” คำถามของเพลงพิณ เฟร์เรตอบด้วยการส่ายหน้า นั่นทำให้เธอหัวเราะออกมา สงสัยเขาจะไม่ชอบรสหวานอมเปรี้ยวติดเค็มที่ปลายลิ้นของสละลอยแก้วถ้วยนี้ แต่สำหรับเธอ บอกเลยว่า ปลื้มมากเมื่อทานอิ่ม เฟร์เรก็ขับรถพาเพลงพิณกลับมาที่คลินิกสัตว์ของโปรด ช่วยเธอถือของไปเก็บไว้ในรถที่จอดอยู่ “ขอบคุณมากนะคะ สำหรับบัตรส่วนลด รวมถึงข้าวหนึ่งมื้อด้วย” ทันตแพทย์สาวเอ่ยขอบคุณเจ้าภาพใจดีของวันนี้ “ยินดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกขึ้นรถข

    Last Updated : 2025-04-10
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 13

    “ใช่…สลับกันเลี้ยงคนละอาทิตย์กับผู้หญิงบ้านข้างๆ คนที่ตีนายจนน่วมนั่นแหละ”“นายให้เธอเลี้ยงคนเดียวไม่ได้หรือไง” สีหน้าของฟาโรห์ช่างดูน่าสงสาร ตัวก็โตกว่า แต่มาแพ้แมวตัวเล็กๆ เสียได้ “คงไม่ได้ นายมีปัญหาอะไรมั้ย”“พอดีว่าฉัน…ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!” ยังไม่ทันจะได้บอก ฟาโรห์ก็จามติดกัน “ว่างๆ ก็ไปให้หมอตรวจหน่อย” สีหน้าของเฟร์เรนั้นแสดงออกว่าห่วงน้องชายอยู่ไม่น้อยที่เอาแต่จามอยู่แบบนี้ และจังหวะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ น้องชายก็จามออกมาอีกสองสามครั้ง พร้อมกับรีบขยับหนีไปอีกทาง“นายยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามาใกล้”“ทำไม ไม่อยากอุ้มเจ้านี่เหรอ” เจ้านี่ที่ว่าคือแมวน้อยสีขาวที่เฟร์เรอุ้มอยู่ แล้วยังหวังดี ทำท่าส่งให้ฟาโรห์อุ้มบ้างอีกต่างหาก “ไม่…เอาออกไปห่างๆ ฮัดเช้ย!”“เอ้า! จามขนาดนี้ รีบไปหาหมอซะไป” เฟร์เรไล่น้องชายไปหาหมออีกครั้ง นั่นเพราะเขายังไม่รู้ว่าฟาโรห์แพ้ขนแมว เพราะไม่รู้จึงทำให้ไม่ได้เอะใจอาการจามนี้ว่ามาจากแพ้ขนสัตว์ หากแต่คิดว่าฟาโรห์คงแค่แพ้อากาศเท่านั้น “รู้แล้วน่า งั้นฉันขึ้นไปข้างบนก่อนดีกว่า ฮัดเช้ย!” ขณะที่กำลังจำอ้าวกลับขึ้นไปด้านบน เสียงจามของฟาโรห์ก็ยังคงดังมาให้ได้ยิ

    Last Updated : 2025-04-10
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 14

    หลังรับยาเสร็จ ฟาโรห์ก็ตรงกลับบ้าน เพื่อบอกพี่ชายเรื่องจะย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียม แต่ยังไม่ทันจะได้พูดเรื่องนี้ ก็เห็นเฟร์เรสะพายกล้องเหมือนจะออกไปที่ไหนสักแห่ง“นั่นนายจะไปไหน” “มีงานด่วนเข้ามา ฉันฝากนายดูแลลัคกี้สักสามสี่ชั่วโมงสิ” งานด่วนที่ว่าคืองานถ่ายภาพที่สตูดิโอของเพื่อนสนิท ซึ่งมาเปิดธุรกิจผลิตสื่อโฆษณาที่เมืองไทยแม้จะไม่อยากรับงานด่วน แต่งานด่วนที่ว่าก็ช่างน่าสนใจ เพราะเป็นการถ่ายแบบที่มีสัตว์อย่างม้าเป็นองค์ประกอบหลัก ปกติ เฟร์เรนั้นชอบสัตว์อยู่แล้ว เขาจึงไม่เกี่ยงหากจะทำงานร่วมกับมัน “ห๊า!” คนฟังอุทานเสียงหลง แค่อยู่ใกล้ชีวิตเขายังลำบาก นี่เฟร์เรยังฝากให้ดูแลเจ้าแมวอีกเหรอ แค่คิดฟาโรห์ก็หน้าซีด “อย่าทำหน้าแบบนั้นไอ้น้องชาย แค่ดูแลแมว มันก็งานง่ายๆ เหมือนกับที่นายคอยเทคแคร์สาวๆ นั่นแหละ” เอ่ยจบเฟร์เรก็ก้าวตรงไปยังรถแล้วขับออกไปทันทีปล่อยให้ฟาโรห์ยืนอึ้ง ก่อนจะก้มมองถุงยาในมือตาปริบๆ งานนี้ดูท่าเขาจะรอดยาก ยืนถอนหายใจดังเฮือกสองสามครั้ง ก่อนจะเดินไปยืนด้อมๆ มองๆ แมวที่มุมห้องปีกซ้ายของบ้าน ซึ่งพี่ชายกั้นเป็นอาณาเขตพร้อมทั้งตกแต่งไว้อย่างดิบดี ลัคกี้เหมือนจะรู้ว่าเฟร์เ

    Last Updated : 2025-04-10

Latest chapter

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 48

    แม้จะไม่เคยเสียจิ้นกินตับกับใคร แต่เรื่องจูบ เพลงพิณก็พอมีประสบการณ์มาบ้าง แหม…เธออายุปูนนี้แล้วนี่นา ไม่ใช่สาวรุ่นวัยขบเผาะเสียเมื่อไหร่ แต่ดูท่าประสบการณ์จะน้อยนิดไปหน่อย เพราะตามความช่ำชองของเฟร์เรไม่ทัน ส่งผลให้เพลงพิณหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลม ยามที่ริมฝีปากอุ่นจัดบดขยี้ลงบนปากอิ่ม บางครั้งก็อ้อยอิ่งคลอเคลียหยอกเย้าเอาใจการจูบโต้ตอบของเพลงพิณทำให้เฟร์เรพอใจ แม้เธอจะเก้ๆ กังๆ บ่งบอกว่ายังอ่อนประสบการณ์ไปบ้าง แต่เขาเชื่อว่าอีกไม่นานจะทำให้เธอเร่าร้อนได้ไม่ยาก ปากอุ่นจัดของเฟร์เรยังคงทำหน้าที่มอบจูบให้คนในอ้อมกอดอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะยกมืออีกข้างขึ้นมาจับคางมนของเพลงพิณแล้วสัมผัสเบาๆ เพื่อให้ริมฝีปากเธอเผยอออก จากนั้นก็ส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เพื่อดูดดื่มความหวานจากเธอ“อื้อ…” เสียงครางคล้ายจะต่อต้านดังมาจากเพลงพิณ นั่นเพราะความเร่าร้อนที่มากขึ้นของเฟร์เร ทำให้เธอถึงกับขาอ่อน อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจูบเขามากถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ไหนจะกอดแน่นๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้อีก แน่นเสียจนเธอหายใจไม่ออก เกือบจะแทรกเข้าไปในตัวเขาได้

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 47

    “ก็มันน่าคิดออก” ได้ยินแบบนี้ เฟร์เรก็ทำท่าจะดีดหน้าผากเธออีกครั้ง นั่นทำให้เพลงพิณต้องรีบห้าม “อย่าดีดนะ เจ็บแล้ว”“คุณนี่ ไม่ไว้ใจกันเลย”“เอ้า! หรือไม่จริง”“ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจทำ แต่สำหรับผม ไม่…ก็คือไม่” เฟร์เรตอบเสียงหนักแน่น พลอยทำให้เพลงพิณยิ้มออกและรู้สึกชอบเขามากขึ้นไปอีก ผู้ชายดีๆ แบบนี้หาได้ที่ไหน เข้าบ้านไปเอาไม้เบสบอลมาตีหัวแล้วลากเลยซะดีมั้ยเนี่ย รวมทั้งร้องขออยู่ในใจว่า รักนี้…เจ้ขอ ได้ไหมส้ม...กรี๊ดดดด!!!“แล้วคุณให้เหตุผลอะไรไป เธอถึงปล่อยให้คุณรอด ทั้งๆ ที่ลงทุนทั้งจูบ ทั้งกอด อ้อ…มีเปลือยหน้าอกด้วยแบบนั้น” อารมณ์หึงนิดๆ กำลังมา แต่ดูเหมือนเพลงพิณจะยังไม่รู้ตัว“ผมบอกเธอไปว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย แล้วแสดงละครนิดๆ หน่อยๆ เธอก็เชื่อสนิทใจ ผมก็เลยรอดปลอดภัย ไม่เสียตัวให้คนที่ผมไม่ได้รัก” เฟร์เรเน้นคำว่า ‘คนที่ผมไม่ได้รัก’ ให้ชัดๆ พร้อมกับสบตาเพลงพิณไปด้วย แม้รอบข้างจะมืด แต่แสงสว่างจากไฟบนถนนและริมรั้วที่ส่องเข้ามาก็ทำใ

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 46

    “ที่นี่สวยจังเลยค่ะ” นี่คือประโยคแรกที่เพลงพิณเอ่ยเมื่อมาถึงร้านอาหาร เธอหย่อนตัวลงนั่งบนเบาะนุ่มๆ ตรงหน้าคือวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะเลือนหายลับไปจากขอบฟ้า แต่ก็ยังคงทอแสงสีทองยามอัสดงที่ระยิบระยับ“ชอบมั้ยครับ”“ชอบค่ะ” ต่อให้เป็นร้านอาหารริมทาง แต่ถ้าได้นั่งทานกับเฟร์เร เพลงพิณก็ดูเหมือนจะชอบหมด ไม่เคยคิดว่าหนุ่มมาดเซอร์ๆ จะโรแมนติกกับเขาได้เหมือนกัน“ดีใจที่คุณชอบ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันเลือกว่ามื้อนี้จะทานอะไร เมื่อสรุปลงตัวก็สั่งกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่แล้วและขณะที่รออาหารมาเสิร์ฟ เพลงพิณก็มองบรรยากาศเลิศๆ ตรงหน้าอย่างเพลินตา นานๆ จะมานั่งกินข้าวริมน้ำแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เพราะบรรยากาศมันช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี กระทั่งสมองหวนคิดถึงบุหลันขึ้นมา นั่นเพราะยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ เกิดมองหน้ากันไม่ติดจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่“คุณรู้ใช่มั้ย ว่าส้มชอบคุณ”“ผมรู้ครับ”“แล้วคุณคิดยังไงกับส้มคะ”&ldquo

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 45

    “อ้อ…นิดหน่อยน่ะจ้ะ” เพลงพิณเอ่ยรับ ก่อนจะตั้งสติทำงานของตัวเธอต่อ กระทั่งได้เวลาเลิกงาน ขณะที่ทันตแพทย์สาวกำลังก้มๆ เงยๆ เก็บของบนโต๊ะ ใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา“เลิกงานแล้วใช่มั้ยครับ” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้น ก็ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง“คุณนี่! ฉันตกใจหมดเลย”“พึ่งรู้ว่าคุณขวัญอ่อน” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ แต่คนฟังกลับแยกเขี้ยวใส่“ชิส์…ใครจะไม่ขวัญอ่อน อยู่ๆ ก็โผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ นี่ถ้ามีไม้เบสบอลอยู่ในมือ ฉันฟาดคุณไม่เลี้ยงเหมือนตอนนั้นแน่ๆ” ตอนนั้นที่ว่า คือตอนที่อยู่ๆ ฟาโรห์ก็โผล่เข้าไปในบ้านของเพลงพิณ ด้วยเหตุผลว่าตนเข้าบ้านผิด ซึ่งถึงตอนนี้ทันตแพทย์สาวก็ยังเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือเฟร์เร“คุณนี่โหดกว่าที่ผมคิดไว้อีก” หนุ่มมาดเซอร์เออออตามน้ำไปก่อน เพราะเขาตั้งใจให้เธอได้พบกับน้องชายฝาแฝดของเขาอยู่แล้ว“แน่ล่ะ”“สรุปคุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉัน...หืม”

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 44

    “ครับๆ ไว้ผมจะส่งรูปที่เราถ่ายวันนี้ให้” ขณะเอ่ยก็โน้มตัวมาใกล้ๆ อามาเรีย เพราะรังเกียจ เธอจึงผลักเขาให้ออกห่าง แล้วกระโดดลงจากเตียงรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมทันที“ถ้าจะส่งก็ส่งผ่านมาทางพี่ลูกศรเลยนะ ระหว่างเราจบแค่นี้ เพราะฉันไม่ได้อยากมีเพื่อนสาวเพิ่ม”“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับได้น่าฟัง แต่สำหรับอามาเรียกลับไม่เป็นเช่นนั้น เฟร์เรกลับมาเก็บกล้องและอุปกรณ์ใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จก็กลับออกไปปล่อยให้อามาเรียยืนหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธ ทั้งอาย เพราะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ ที่อ่อยใครไม่อ่อย กลับมาอ่อยชายที่ไม่ใช่ชาย“กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้า…บ้าๆ” เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของอามาเรีย ทำให้ลูกศรรีบเข้าไปดู ส่วนเฟร์เรนั้นได้แต่หัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินผิวปากตรงไปยังรถอย่างอารมณ์ดี“หยุด ไม่ต้องถามอะไรเลยนะพี่ลูกศร” พอเห็นหน้าผู้จัดการส่วนตัวที่ตั้งท่าจะถาม อามาเรียก็รีบยกมือห้าม“สรุป…นี่มีอะไรกันแล้วเหรอ” แม้จะถูกห้าม แต่ลูกศรก็อดที่จะถามไม่ได้จ

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 43

    อามาเรียจึงไม่รีรอ เธอกระโดดขึ้นนอนบนเตียงทันที การกระทำของเธอทำให้เฟร์เรชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ตั้งสติทำงานของตัวเองต่อไป“เซ็ตนี้ อามาเรียอยากได้รูปครึ่งตัวนะคะเบค”“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ แต่การกระทำต่อจากนี้ของอามาเรียก็ยิ่งทำให้เฟร์เรอึ้ง เพราะอยู่ๆ เธอก็โยนหมอนที่กอดอยู่ไปอีกทาง เผยให้เห็นหน้าอกคู่สวยท้าทายสายตาชายหนุ่มเป็นอย่างมาก จากที่อึ้งอยู่แล้วคราวนี้เฟร์เรถึงกับอึ้งยกกำลังสอง และเขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไรกับภาพที่เห็น“เบคขา ถ่ายรูปอามาเรียให้สวยๆ นะคะ” อามาเรียยิ้มหวาน เอ่ยเสียงกระเส่า ไหนจะสีหน้าท่าทางที่ยั่วยวนนั่นอีกเฟร์เรได้แต่กัดฟันกรอดๆ ตัดความคิดบ้าๆ ให้ออกไปจากสมอง เพราะไม่อยากเป็นคนเชิญความยุ่งยากเข้ามาในชีวิตเสียเอง แต่ยิ่งเขาไม่สนใจ อามาเรียก็ยิ่งอยากเอาชนะ เธอใช้ทีเผลอที่เฟร์เรขยับมาถ่ายรูปใกล้ๆ คว้าตัวเขาไว้ แล้วออกแรงรั้งจนร่างหนาลงไปนอนบนเตียงพร้อมเธอ จากนั้นก็ขยับมาขึ้นคร่อมทับตัวเฟร์เรไว้“คุณไม่ชอบแบบนี้เหรอ” แบบนี้ที่ว่าคือการที่อามาเรียจงใจโน้มตัวลงมาห

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 42

    บทที่ 42เพราะมีงานถ่ายแบบด่วนจากซิโน่ แถมยังเป็นงานที่เฟร์เรชอบเป็นพิเศษและไว้ใจ นั่นทำให้เขาตอบรับงานนี้ไปทันที โดยไม่ถามรายละเอียดมากนัก ก่อนจะเดินทางไปยังสถานที่ทำงานของเขาในวันนี้ตามแผนที่ที่ซิโน่แนบมาให้ทางอีเมล์แต่เมื่อมาถึง เฟร์เรก็ถึงกับคิ้วขมวดกันเป็นปม เพราะตรงหน้าคือบ้านหลังหนึ่ง ขณะที่กำลังยืนลังเลๆ ว่าเขามาผิดบ้านหรือไม่ คนที่อยู่ภายในก็ก้าวออกมาเปิดประตูให้ เขาคุ้นหน้าเธอเป็นอย่างดี แม้จะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ตาม“เชิญค่ะ”“ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับคำเชิญของลูกศร คิ้วหนายังคงขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก หรือเขากำลังถูกปั่นหัวจากนางแบบที่ชื่อว่าอามาเรียเข้าให้แล้ว“ขอบคุณที่มาเป็นช่างภาพให้วันนี้นะคะคุณเบค”“ยินดีครับ” แม้จะไม่รู้สึกยินดี แต่เฟร์เรก็ไม่อาจเอ่ยคำนั้นออกไปได้“งั้นเชิญข้างในค่ะ” เฟร์เรพยักหน้ารับคำเชิญของลูกศร แล้วจึงสาวเท้าเดินตามเธอเข้าไปภายใน ผ่านห้องรับแขกที่อยู่ชั้นล่าง กระทั่งขึ้นไปชั้นบนลูกศร

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 41

    “ฉันเกรียมหมดแล้วแก ไม่ต้องเผาแล้ว...พอ” เพลงพิณหันมาแยกเขี้ยวให้ แต่ยลดากลับหัวเราะก๊ากกับท่าทางของเพื่อนแทน และเพราะสงสารจึงไม่ได้เผาต่อยลดาอยากจะพูดเหลือเกินว่าตอนนี้เพลงพิณนั้นโสดสนิท แต่ก็ไม่ยอมพูดออกไป เพราะถ้าออกตัวแรงว่าอยากให้เฟร์เรกับเพลงพิณคบหากัน มันจะไม่งาม ที่สำคัญคือเกรงใจบูรพาสามีด้วยคุยไปคุยมาก็ชักเพลิน ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงทั้งสองฝ่ายจึงแยกย้าย เฟร์เรขับรถพาเพลงพิณไปเอารถที่จอดไว้หน้าร้านขายต้นไม้ ซึ่งระหว่างทางทั้งคู่ก็สรรหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยเพื่อฆ่าเวลา“นั่งรถผ่านที่ทำงานก็รู้สึกแปลกๆ ดีเนอะ” ขณะพูดก็หันไปมองตึกของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ สถานที่ทำงานของเธอ เพราะนอกเหนือเวลางานแล้ว เพลงพิณแทบไม่เฉียดมาทางนี้ท่าทางของเธอทำให้เฟร์เรพลอยชะเง้อมองไปดูด้วยอีกคน เขารู้ว่าเพลงพิณเป็นทันตแพทย์ ทำงานที่โรงพยาบาลและยังเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง“ฉันพึ่งรู้ ว่าคุณอายุน้อยกว่าฉัน”“อายุสำคัญเหรอครับ” คำตอบของเฟร์เรทำเอาเพล

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 40

    “อ้อ…พอดีบ้านผมกับบ้านคุณพิณอยู่ติดกัน เลยทำให้เรารู้จักกันไปโดยปริยายน่ะครับ” คำตอบของเฟร์เรทำเอายลดารีบหันมามองหน้าเพื่อน“บ้านติดกัน บ้านใหม่แกน่ะเหรอพิณ” จะว่าไป ตั้งแต่เพลงพิณย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ เธอก็ยังไม่มีโอกาสแวะไปเยี่ยมเลยนี่นา“อื้อ”“ผมว่าเราไปหาร้านนั่งคุยกันก่อนดีมั้ย” บูรพาเสนอขึ้น อีกสามคนที่เหลือจึงพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งหมดเดินตรงมาอีกหน่อยก็พบกับร้านกาแฟที่ออกแบบได้อย่างลงตัว จึงเข้าไปนั่ง ก่อนที่หนุ่มๆ จะเดินไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ยลดาจึงใช้จังหวะนั้นหันมามองเพลงพิณ ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องหนุ่มมาดเซอร์ตาเป็นประกายวิบวับ ยิ่งมองก็ยิ่งชวนให้สงสัย จนต้องเอ่ยถามเอาความจริง“แต่ดูท่าทางแกกับเบคจะไม่ได้รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนบ้านธรรมดาๆ นะยัยพิณ แกมีอะไรจะบอกฉันมั้ยยะ” ขณะถามก็จ้องหน้า สบตาเพลงพิณไปด้วย นั่นทำเอาเพลงพิณชักจะร้อนตัว นั่งไม่ค่อยติดที่ซะแล้ว“ไม่มีเลย แกคิดมากไปเปล่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status