ตั้งแต่วันนั้นพี่เอกก็ไม่ได้กลับบ้านมาแล้วสามวัน.. หลังจากวันที่พี่เอกออกไปกลางดึกเช้ารุ่งขึ้นเธอก็ซื้ออาหารเช้าไปฝากพี่เอก เธอเข้าไปหาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูก่อนและนั่นมันก็ทำให้พี่เอกไม่ค่อยพอใจเธอสักเท่าไร.. เธอเองก็รู้ดีว่าเธอทำเรื่องที่เสียมารยาทออกไป.. วันนี้เธอเลยกลับมาอีกครั้งเพื่อที่จะมาขอโทษพี่เอก...
"เอ่อ.. พี่ตุ๊กค่ะพี่เอกอยู่รึเปล่าคะ?" เธอถามเลขาส่วนตัวของพี่เอกก่อนเพราะว่าครั้งก่อนเธอไม่ได้ถามและเปิดประตูเข้าไปเลยมันเลยทำให้เธอโดนดุ.. ครั้งนี้เพื่อความมั่นใจว่าพี่เอกกำลังติดงานอยู่รึเปล่า....
" เอ่อ.. คุณเอกพลไม่อยู่นะคะยังไม่เข้ามาเลยค่ะ.. พี่นึกว่าวันนี้น้องแก้วไปเที่ยวกับคุณเอกพลซะอีก..." หรือเธอเข้าใจผิด?
" ไม่นะคะ.. พี่เอกไม่ได้กลับบ้านมาสามวันแล้วค่ะ... เห็นว่าที่โรงแรมมีปัญหาพี่เอกเลยมานอนที่นี่เพื่ออยู่แก้ปัญหา.. "
" ไม่นะคะ.. ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น.. พี่คิดว่าน้องแก้วไปเที่ยวกับคุณเอกพลซะอีก.. เห็นวันนั้นน้องแก้วออกมาคล้ายว่าจะร้องไห้.. พี่ก็คิดว่าคุณเอกพลกลับไปง้อน้องแก้วที่บ้านและพากันไปเที่ยว.. ส่วนเรื่องปัญหาของโรงแรมและที่คุณเอกพลนอนที่นี่.. พี่รับรองเลยค่ะว่าไม่มี.. คุณเอกพลไม่ได้มานอนที่นี่..." เธอพูดเรื่องจริงนะ.. คุณเอกพลไม่ได้มานอนที่นี่และโรงแรมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วย...
"พี่ขอถามน้องแก้วอะไรสักอย่างได้ไหมคะ?"
" ว่ามาเลยค่ะพี่ตุ๊ก.." เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่ตุ๊กต้องการจะพูดอะไรกับเธอหรือว่าอยากจะถามอะไรเธอบ้าง...
"น้องแก้วกับคุณเอกทะเลาะกันรึเปล่าคะ? หรือว่า.. อยากจะหย่ากันอะไรทำนองนี้..." เธอไม่รู้ว่าถ้าเธอพูดออกไปน้องแก้วจะรู้สึกยังไงเธอเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักแต่เธอต้องการถามเพื่อความแน่ใจและเป็นหนึ่งในบางสิ่งที่เธอต้องการจะบอกกล่าว...
" ไม่ค่ะ เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันเลยนอกจากเมื่อวานที่แก้วแวะเข้าไปโดยไม่เคาะประตูห้องทำงานก่อน.. วันนี้แก้วเลยแวะมาอีกครั้งก่ะว่าจะมาขอโทษพี่เอกเขา.. ทำไม.. พี่ตุ๊กถามแก้วแบบนั้นล่ะคะ? พี่ตุ๊กมีอะไรจะพูดกับแก้วใช่รึเปล่าคะ?" ทำไมเธอรู้สึกว่าพี่ตุ๊กรู้อะไรบางอย่างที่มันดูเหมือนว่า.. มันร้ายแรงเสียด้วย.. ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกำลังหายใจหายขอไม่คล่อง.. เธอกลัวไปหมดแล้วเนี่ย...
" ถ้าอย่างนั้น.. พี่ขอถามอะไรหน่อยนะคะ.. น้องแก้วรู้จักคนในรูปนี้ไหม?" ตุ๊กยื่นมือถือของเธอให้กับน้องแก้วดู.. เธอเห็นผู้หญิงคนนี้มาที่นี่บ่อยมาก.. อันที่จริงไม่ใช่เธอหรอกแต่เป็นพนักงานคนอื่นมากกว่า.. และทุกครั้งที่เธอคนนี้มาคุณเอกพลมักจะแวะขึ้นไปหาครั้งละสองสามชั่วโมง.. และเวลามีคนไปเก็บห้อง..สภาพก็ไม่ต้องเดาให้ยากว่าคนทั้งสองคนทำอะไรกัน.. คงจะไม่ได้ไปนั่งสวดมนต์ข้ามคืนกันหรอก.. เตียงยังยู่ยี่เสียขนาดนั้น...
แก้วรับมือถือของพี่ตุ๊กมาพร้อมกับมือที่สั่นเทา... ตอนนี้เธอเริ่มกลัวความจริงที่เธอจะได้เห็นแล้วสิ... มันเป็นยังไง.. มันคืออะไรกันแน่... และเพียงแค่เธอเพ่งมองไปที่รูปภาพ.. หัวใจของเธอมันก็เต้นเร็วราวกับมันจะทะลุออกมาให้ได้... สองคนนั้น.. พี่เอกกับหนิง..
" รู้.. รู้จักค่ะ.. เพื่อน.. เพื่อนแก้วเอง.. ทำไมคะ? ทำไมพี่ตุ๊กถึงให้ดูรูปพี่เอกกับเพื่อนของแก้วคะ?" ถึงแม้ว่าเธอพอจะเดาทิศทางของคำตอบถูก.. แต่เธอก็ยังต้องการคำยืนยันที่แน่ชัดอยู่ดี...
" คือ.. มีพนักงานเห็นคุณเอกพลเข้าไปในห้องของเธอคนนี้ค่ะ.. คนที่น้องแก้วเรียกว่าเพื่อน.. หายเข้าไปบางครั้งก็สองชั่วโมง.. และสภาพห้องหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้เช็กเอาท์ออกไป.. พนักงานต่างก็ลงความไปในทิศทางเดียวกันว่า... น้องแก้วค่ะ.. นั่นไม่ใช่เพื่อนนะคะ.. เพื่อนที่ไหนเขาจะมานอนกับสามีเพื่อน.. น้องแก้วค่ะ.. พี่แนะนำให้เลยนะ.. ในฐานะที่พี่ก็มีผ้วแบบนี้.. ฟ้องหย่าค่ะ ฟ้องทั้งสามีและชู้ค่ะ แต่น้องแก้วต้องมีหลักฐานให้มาก.. รูปแค่นี้.. เราทำอะไรไม่ได้.. พี่จะช่วยน้องแก้วเองขอแค่น้องแก้วบอก.. พี่พร้อมช่วย..." ตุ๊กจับมือบางของแก้วเอาไว้แน่น.. เธอสงสารน้องแก้วเป็นอย่างมาก.. ผู้หญิงนิสัยดีเรียบร้อยเชื่อฟังและเกื้อหนุนสามีมาตลอดแต่กลับต้องมาเจอแบบนี้.. เธอจะไม่ทนอีกต่อไป....
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่มันไหลออกมามันทำให้แก้วในตอนนี้ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอนั่นเดินออกมานอกโรงแรมแล้ว.. หัวใจของเธอมันร้องไห้.. ชีวิตของเธอมันเหมือนกับว่ามันพังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาในแค่ไม่กี่วินาที...
" ไม่เชื่อ.. แก้วไม่เชื่อ.. แก้วไม่เชื่อว่าพี่เอกกับหนิงจะทำแบบนั้นกับแก้ว... แก้วไม่เชื่อ...."
แก้วเดินไปที่รถของตนเองเธอเลือกที่จะกลับบ้านและไปตั้งหลักที่นั่น.. เมื่อเธอเข้ามาอยู่ในตัวบ้านบ้านของเธอไม่มีแม้แต่รถของพี่เอก พี่เอกไปไหน.. ในเมื่อเขาไม่ไปทำงาน.. แล้วตอนนี้พี่เอกไปไหน....
หญิงสาวต่อสายหาสามีของตัวเองทันที.. เธอต้องรู้ให้ได้...
" พี่เอกคะ? ทำงานอยู่รึเปล่าคะ?"
"ใช่ครับทำงานอยู่ กำลังยุ่งอยู่เลย.. แก้วมีอะไรรึเปล่า? พี่กำลังจะไปประชุมน่ะ...."
น้ำตาของเธอถึงกับไหลลงมาอีกครั้ง.. จริงแท้แน่นอน.. พี่เอกโกหกเธอ... เธอพึ่งออกมาจากโรงแรมเองนะ.. พี่เอกจะทำงานอยู่ได้ยังไงกัน...
" พอดีแก้วว่าจะแวะไปหาน่ะค่ะพี่เอก.. แก้วว่าจะขอโทษเรื่องเมื่อวานที่แก้วพลีพลามเข้าไปตอนที่พี่เอกกำลังยุ่งอยู่...." ปากก็บอกอยากขอโทษ.. แต่หัวใจของเธอในตอนนี้มันสุดแสนจะเจ็บปวด.. เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เธอรักจะทำกับเธอแบบนี้...
"อ๋อ... ช่างมันเถอะพี่ไม่ถือ.. เมื่อวานพี่ก็ใจร้อนไปหน่อย.. เรื่องงานนั่นแหละครับ.. เอาเป็นว่ารอให้พี่เคลียร์งานที่โรงแรมให้เสร็จก่อนนะน่าจะประมาณสองวันพี่ก็จะกลับไปนอนบ้านเราแล้ว.. นอนโรงแรมไม่ดีเลย.. ไม่มีแก้วให้กอด...."
"ค่ะ.. แล้วแก้วจะรอนะคะ.. รักนะคะ..."
เพียงแค่พี่เอกวางสายลงเธอก็เซล้มลงไปกับพื้นทันที... เสียงร้องไห้อันน่าสงสารดังออกมาจากตัวบ้าน.. ไม่เหลือแล้ว.. ความรักของเธอมันไม่เหลือให้พี่เอกได้เห็นค่าอีกต่อไป.. เธอเป็นคนผิดในเรื่องนี้.. ถ้าเธอไม่พาเพื่อนของเธอเข้าบ้าน.. เรื่องมันก็คงไม่ออกมาเป็นเช่นนี้... เธอผิดเอง...
คนที่อยู่ด้านนอกอยากจะเข้าไปโอบกอดและปลอบโยนคนในบ้านเหลือเกิน.. แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น.. เขารู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ เขาเป็นแค่คนนอก.. เขาทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้...
แก้วแทบจะกินข้าวไม่ลง... เธอที่คิดว่าเธอจะต้องกินข้าวเพื่อเอาแรงไว้ต่อสู้กับความเสียใจ.. แต่เพียงแค่เธอกลืนมันลงท้องเท่านั้นแหละ... ทุกอย่างมันก็วิ่งคืนออกมาจากทางที่เธอนำมันลงไป...
เสียงอาเจียนที่ดังออกมาเป็นระยะๆจนเจ้าตัวรับรู้ว่าถ้าเธอยังอาเจียนอยู่แบบนี้... เธอคงจะตายเอาแน่ๆ... มือเรียวของเธอพยายามควานหามือถือ.. ปลายนิ้วเลื่อนหาเบอร์โทรที่เธอต้องการโทร.. แต่เมื่อเธอเห็นรายชื่อของทั้งสองคน.. มันก็ทำให้เธอต้องอาเจียนออกมาอีกครั้ง..
" พี่พัท.. ฮึก.. ช่วยแก้วที.. พี่พัท.. ฮือ..." คนเดียวที่เธอนึกถึงในตอนนี้ก็คือพี่พัท.. พี่ชายที่แสนดีของเธอ.. พี่พัทคือคนเดียวที่เธอนั้นอยากให้มาหามากที่สุด....
"แก้ว.. แก้วเป็นอะไร.. แก้วรอพี่ก่อน.. พี่จะรีบไป.. รอพี่นะ.. รอพี่..."
เพียงแค่เขาได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆของแก้วมันก็ทำให้เขาถึงกับร้อนรน.. เขาอยากจะมีปีกบินและบินไปหาแก้วตอนนี้ให้ได้.. แต่ติดที่เขาทำไม่ได้...
20 นาทีต่อมา....
ติ๊งต่อง... ติ๊งต่อง....
พัทกดออดหน้าบ้านสองครั้งแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของแก้วที่จะขานรับหรือออกมาเปิดประตูให้กับเขาเลย.. ไม่ได้การแล้วเขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง...
พัทรีบปีนข้ามรั้วและเขาก็รีบวิ่งเข้าไปยังตัวบ้านทันที.. เพียงแค่ก้าวเข้าไปเขาก็ตะโกนหาแก้วนานสองนาน.. เขาถือวิสาสะขึ้นไปด้านบน.. แต่เขาก็ไม่เจอแล้ว.. ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือ.. โทรหาแก้วทันที....
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงโทรเข้าและเขาก็รีบตามไปยังเสียงของโทรศัพท์...
"แก้ว.. แก้ว.. แก้วตื่นก่อน.. แก้ว.. แก้วได้ยินพี่ไหม.. แก้วครับแก้ว..." พัทตบลงไปที่หน้าของแก้วเบาๆเพื่อปลุกให้แก้วตืนหรือให้แก้วได้รับรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงนี้แล้ว...
แก้วปรือตามองและสิ่งที่เธอเห็นก็คือ..
" พี่พัท.. ฮือ..."
และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่พัทได้ยิน.. เขาไม่รอช้าเขารีบอุ้มแก้วออกมาจากตัวบ้าน.. เขารีบเปิดประตูบ้านของแก้วและพาขึ้นไปยังรถขอ
งเขาทันที...พัทนั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยด้วยสายตาเลื่อนลอย... เขาควรจะดีใจหรือควรจะเสียใจดี.. เขาจะทำยังไงต่อไป..
ในที่สุดหญิงสาวก็ฟื้นขึ้นมา.. เพียงแค่เธอลืมตาเธอก็เห็นสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด...
"แก้ว.. ฟื้นแล้วเหรอ? เป็นยังไงบ้าง.. "
น้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความเป็นห่วงเป็นใยมันทำให้น้ำตาสีใสของเธอถึงกับไหลออกมาโดยอัตโนมัติ...
" ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ.. แก้วคงเครียด.. ขอบคุณพี่พัทนะคะ..."
พัทอยากจะบอกแก้วกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแก้วเหลือเกิน...แต่เขาก็ทำไม่ได้เลยสักอย่าง เขาทำได้แค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ.. ความห่วงใยที่เขามีให้ก็ยังคงในฐานะพี่ชายที่แสนดี….
ตั้งแต่วันนั้นพี่เอกก็ไม่ได้กลับบ้านมาแล้วสามวัน.. หลังจากวันที่พี่เอกออกไปกลางดึกเช้ารุ่งขึ้นเธอก็ซื้ออาหารเช้าไปฝากพี่เอก เธอเข้าไปหาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูก่อนและนั่นมันก็ทำให้พี่เอกไม่ค่อยพอใจเธอสักเท่าไร.. เธอเองก็รู้ดีว่าเธอทำเรื่องที่เสียมารยาทออกไป.. วันนี้เธอเลยกลับมาอีกครั้งเพื่อที่จะมาขอโทษพี่เอก... "เอ่อ.. พี่ตุ๊กค่ะพี่เอกอยู่รึเปล่าคะ?" เธอถามเลขาส่วนตัวของพี่เอกก่อนเพราะว่าครั้งก่อนเธอไม่ได้ถามและเปิดประตูเข้าไปเลยมันเลยทำให้เธอโดนดุ.. ครั้งนี้เพื่อความมั่นใจว่าพี่เอกกำลังติดงานอยู่รึเปล่า.... " เอ่อ.. คุณเอกพลไม่อยู่นะคะยังไม่เข้ามาเลยค่ะ.. พี่นึกว่าวันนี้น้องแก้วไปเที่ยวกับคุณเอกพลซะอีก..." หรือเธอเข้าใจผิด? " ไม่นะคะ.. พี่เอกไม่ได้กลับบ้านมาสามวันแล้วค่ะ... เห็นว่าที่โรงแรมมีปัญหาพี่เอกเลยมานอนที่นี่เพื่ออยู่แก้ปัญหา.. " " ไม่นะคะ.. ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น.. พี่คิดว่าน้องแก้วไปเที่ยวกับคุณเอกพลซะอีก.. เห็นวันนั้นน้องแก้วออกมาคล้ายว่าจะร้องไห้.. พี่ก็คิดว่าคุณเอกพลกลับไปง้อน้องแก้วที่บ้านและพากันไปเที่ยว.. ส่วนเรื่องปัญหาของโรงแรมและที่คุณเอกพลนอนที่นี่.
แก้วที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสามีว่าอย่างไรเธอก็ว่าอย่างนั้น.. เธอเป็นห่วงพี่เอกอยู่นะแต่พอพี่เอกส่งรูปและวีดีโอมาให้เธอก็เบาใจขึ้นมาก.. ดูจากหน้าแดงๆของพี่เอกแล้ว.. คงจะดื่มเยอะน่าดู.. “ อรุณสวัสดิ์ค่ะ..” แก้วทักทายพนักงานของในออฟฟิศด้วยความเป็นกันเอง… ทุกคนในนี้คือครอบครัวของเธอถ้าไม่มีพวกเขาบริษัทของเธอก็คงจไม่มีมาถึงทุกวันนี้… แก้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองต่อไป.. ไม่นานโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น… “ ค่ะ.. ตื่นแล้วได้กินอะไรรึยังคะ? ให้หนูซื้อไปฝากไหม?” สามีเธอเองที่โทรมา.. ฟังจากเสียงน่าจะพึ่งตื่นสิท่า… “ ยังครับ.. ไม่ต้องซื้อมาหรอก.. พี่จะกลับบ้านแล้ว.. จะไปนอนต่อที่บ้านน่ะ..นอนที่โรงแรมโดนกวนจากคนอื่น.. เดินไปเดินมาเสียงลาก กระเป๋าอีก.. แทบจะไม่ได้นอนเลย อื้อม์….” เอกพลก้มลงไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาเผลอหลุดเสียงครางออกมา… “ เป็นอะไรรึเปล่าคะ? ” “ ไม่มีอะไรครับ.. พอดีพี่กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่.. แค่นี้นะคะ.. เจอกันตอนเย็นเด็กดี…” เพียงแค่วางสายจากแก้วเขาก็รีบไปจัดการกับตัวต้นเรื่องทันที… เอกพลทวนความเงี่ยx ครั้งสุดท้ายก่อนกลับบ้าน.. เพราะถ้าเขากลับบ้านแล้
ตั้งแต่หนิงกลับมาอยู่ที่เมืองไทยครอบครัวของเธอก็มีสีสรรมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ.. พี่เอกดูผ่อนคลายและเป็นกันเองกับหนิงมากด้วยเธอดีใจมากที่อย่างน้อยทั้งสองคนไม่ต้องมานั่งฟาดฟันกันเหมือนเมื่อก่อน… “ แล้ววันนี้จะกลับบ้านดึกไหมคะ?” แก้วถามสามีของเธอออกไปเพราะช่วงนี้พี่เอกกลับบ้านดึกบ่อยมากเธอก็เข้าใจนะว่าลูกค้าคนสำคัญจองโรงแรมนานมากและพวกเขาก็อยากให้พี่เอกพาเที่ยวพาดื่ม.. แต่เธอก็คิดถึงสามีเธอเหมือนกันนะ.. ไม่ได้ๆเธอจะต้องไม่งอแงเหมือนเด็กจนทำให้พี่เอกเสียงานเสียการ… “พี่ก็ไม่แน่ใจเท่าไรพี่ต้องดูก่อนว่าลูกค้าเขาจะปล่อยให้กลับบ้านกี่โมง.. ไม่งอแงนะคะคนดี..ยังไงพี่ก็จะโทรมาบอกหนูก่อนนะคะ.. แล้วก็ห้ามไปทำอะไรพิเรนๆล่ะ.. ไม่ดื้อไม่สนนะคะรู้ไหม…” เอกพลลูบลงมาท่ีหัวของแก้วอย่างแผ่วเบา.. มันมีหลายเรื่องที่เขายังบอกไม่ได้ดังนั้นเขาปล่อยให้แก้วรู้แบบนี้ดีกว่า… “ ไม่ดื้อไม่สนค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะไปทำงานเถอะ.. ยังไงโทรบอกหนูด้วยนะว่ากลับกี่โมง.. อย่าดื่มจนเมามายนะคะ.. ” เธอกลัวว่าถ้าเมาเกินไปแล้วพี่เอกจะเผลอทำตัวโก๊ะๆออกมาน่ะสิ.. เธอยังจำได้ว่าวันแต่งงานของเราสองคนพี่เอกโดนเพื่อนๆคยั้นคะยอให้ดื
เอกพลบอกให้เพื่อนของเมียนั่งรอด้านล่างก่อนเพราะเขาจะไปเปิดห้องรับแขกให้ส่วนเมียของเขาเขาก็จัดการพาขึ้นไปบนห้องนอนแล้ว.. และดูเหมือนเจ้าตัวจะเมามากเสียด้วย.. ดสินอนแผ่ไม่มีความเป็นแก้วของเขาหลงเหลืออยู่เลยสักนิด.. หึหึ… “ จับคนเมาปล้ำดีไหมเนี่ย.. มันน่าตีนักนะ..พรุ่งนี้ต้องคุยกันหน่อยแล้วนะคนดีของพี่…” เอกพลลูบใบหน้าเนียนสวยของเมียเขาเบาๆและจุ๊บลงไปที่หน้าผากมนทันที… เมื่อเขาจัดแจงให้เมียรักของเขานอนหลับสบายเขาก็รีบไปเปิดห้องรับแขกและรีบลงไปดูเพื่อนของเมียทันที…. “ คุณ.. ตื่นก่อน.. ลุกขึ้นไปนอนข้างบน…” เอกพลปลุกคนที่นอนเลื้อยอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก.. ดูสิแทบจะเห็นกางเกงชั้นในแล้วนั่น… “อื้อ.. อย่ายุ่งน๊า… ” คนเมาตอบออกมาด้วยความรำคาญ… คนจะนอนจะมาวุ่นวายอะไรกับเธอนักหนา… เฮ้อ…. เอกพลถึงกับถอนหายใจออกมาเพราะอะไรล่ะ.. เขาคงจะต้องแบกคนเมาขึ้นไปข้างบนน่ะสิ…. ตึกตึกตึก… ทุกอย่างก้าวของฝีเท้าเขามันเกิดหวั่นไหวขึ้นเล็กน้อยเพราะตอนนี้ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเริ่มใช้จมูกและริมฝีปากของเธอซุกไซ้ลงมาที่ลำคอของเขาอยู่… “ คุณ.. อย่าทำแบบนี้.. อืม..” เพียงแค่หลังถ
ปี พุทธศักราช 256x , 202x “พี่เอกค่ะวันนี้แก้วอาจจะกลับบ้านดึกหน่อยนะคะเพราะว่าเพื่อนแก้วสมัยเรียนนัดไปทานข้าวน่ะค่ะ… เพื่อนคนนี้สนิทกับแก้วด้วยพี่เอกน่าจะรู้จัก… พี่เอกจำหนิงได้ไหมคะ?…” เธอดีใจนะที่วันนี้เพื่อนสมัยเรียนของเธอโทรมาหาบอกว่ากลับไทยแล้ว.. และหนิงอยากจะชวนเธอไปกินข้าวด้วย.. เห็นว่ามีเรื่องจะปรึกษาด้วย… เพื่อนมาทั้งท่ีต่อให้ยุ่งขนาดไหนเธอก็ต้องทำตัวให้ว่างไว้ก่อน เพราะเธอไม่ได้เจอเพื่อนมานานเหมือนกันตั้งแต่เรียนจบเพราะมัวแต่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว.. อู้งานวันเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก.. “ อ๋อ.. คนนั้นน่ะเหรอที่เมื่อก่อนตัดผมม้าใช่ไหม.. ถ้าใช่พี่พอจะจำได้เพราะเพื่อนหนูคนนั้นไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไร.. หึหึ…” เอกพลนึกถึงใบหน้าบึ้งตึงของเพื่อนเมียแล้วก็ทำให้เขาต้องหัวเราะออกมาเพราะเธอมักจะไม่ชอบใจเวลาที่เขาเดินไปนั่งรอที่หน้าคณะ.. ถึงแม้ว่าเราสองคนจะเรียนบริหารเหมือนกันแต่ด้วยที่ว่าเราสองคนเรียนห่างกันตั้งสองปีตารางเรียนมันก็ไม่ตรงกันบ้างมันคือเรื่องปกติ.. แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถพิสูจน์ความรักของเขาให้เพื่อนของแก้วได้เห็นว่าเขานั้นรักแก้ว
แก้ว หรือ แก้วกัลญา หญิงสาวอายุ 35 ปี ที่ครั้งหนึ่งชีวิตเธอใครต่างก็อิจฉาเพราะเธอและสามีของเธอต่างประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งสองคนตั้งแต่อายุยังน้อย.. เธอและเขาต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการก่อร่างสร้างตัวจนตอนนี้ทั้งเธอและเขาต่างประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจด้วยกันทั้งคู่ เธอที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวก่อนแล้วเรื่องลูกค่อยว่ากันทีหลัง.. เธออยากให้ทุกอย่างพร้อมมากกว่านี้.. เธอรู้ดีว่าการมีลูกและต้องเลี้ยงลูกนั้นมันจำเป็นต้องใช้เงินเยอะดังนั้นเธอจึงขอเลื่อนเวลาในการท้องออกไปอีกสักนิด.. และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง.. เธอท้องแล้ว เธอท้องได้สองสัปดาห์แล้ว.. เธอดีใจมาก เธอดีใจจนไม่สามารถเก็บมันเอาไว้คนเดียวเธอจึงรีบขับรถไปหาสามีของเธอที่ที่ทำงาน.. แต่เมื่อไปถึงที่นั่นมันก็ทำให้เธอต้องพบกับสิ่งที่เขาปกปิดมาตลอด…. เธอพยายามยิ้มให้ตัวเอง.. เธอไม่คิดเลยว่าคนนึงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของเธอตั้งแต่สมัยเรียนกับเขา.. คนที่ขึ้นว่าเป็นสามีของเธอ.. ทั้งสองคนจะทำกับเธอแบบนี้.. เธอ พยายามนิ่งเข้าไว้.. เธอรวบรวมหลักฐานต่างๆเท่าที่เธอจะทำได้.. แต่ผลสุดท้าย.. เธอก็พ่ายแพ้ให้กับความคิดของเธอ.