LOGIN4.ความรู้สึกถูกกระตุ้น
ฝ่ามือเล็กเอื้อมสัมผัสบริเวณหน้าผาก นิ้วเรียวยาวกดขยี้นวดเส้นเลือดบนขมับตัวเองเบาๆ หลับตาพริ้มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อน แต่สมองคล้ายจะไม่อยากทำงานดั่งใจตนเลยยามนี้ พยายามปรับม่านสายตาตนเองอย่างถี่ระรัว จ้องมองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ซึ่งมันเพิ่งจะตีห้าเองนะเนี่ย มองขึ้นบนเพดานภายในห้องพัก ก่อนจะกรอกเสียงพูดให้ปลายสายได้รับฟัง "ป้องกันแค่ข้อมูลเอาไว้พอพี่ขอนอนก่อน แกควรจะนอนพักบ้างนะแดน นี่มันพึ่งจะเช้าตรู่เองนะ" กล่าวด้วยน้ำเสียงยานคาง พร้อมหลับตาพักผ่อนต่อราวกับว่าไม่ใส่ใจน้องชายเลยด้วยซ้ำ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปได้หลายชั่วโมง หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย คว้าโทรศัพท์มือถือมากดเลื่อนจออ่าน ซึ่งมันเป็นกลุ่มครอบครัวช่วงแรกก็ยิ้มหวาน แต่พอเจอข้อความจากคุณลุงไคโรเท่านั้น คิ้วก็กระตุกพร้อมทั้งขนลุกซู่ ราวกับว่ามีลางสังหรณ์ใจแปลกๆ กำลังเตรียมรอต้อนรับอยู่เสียอย่างนั้น ตลอดทั้งวันนี้ยังไม่มีใครมาก่อความไม่สงบเลย เพราะกดปุ่มตั้งค่าภายในโทรศัพท์เป็นโหมดห้ามรบกวน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หาได้ยากจริงๆ พอฟ้ามืดก็กลับไปนอนโรงแรมอย่างเดิม ใจ๋กับเจ๋งไปทำงานสำคัญแทนฉันเลยต้องมาอยู่คนเดียวเพียงลำพัง ซึ่งน้องๆ คนอื่นงานคงรัดตัวเช่นกัน หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หลังจากแผลตกสะเก็ดแห้งจนเรียบร้อยแล้วได้เวลาออกเฉิดฉายอย่างเช่นเคย ตอนนี้มานั่งเสริมความงามอยู่ เพราะเตรียมตัวจะไปงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของบอนไซ อายุเธอเท่ากับฉันเนี่ยแหละ พวกเราเกิดปีเดียวกัน ส่วนฉันไม่ค่อยชอบจัดงานหรอก ขี้เกียจจะปั้นหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา และด้วยเหตุผลนี้ถึงต้องไปงานเธอแบบพลาดไม่ได้ งบประมาณวันเกิดคุณย่าคันศรออกให้หลานทุกคน ซึ่งปีนี้คุณลุงไคโรเล่นจับฉันมาฉลองพร้อมกับเธอ คำสั่งสอนจากคุณย่าที่ฟังจนท่องจำได้ขึ้นใจคือ "มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู" บอนไซเป็นทายาทจากตระกูลมาเฟียแก๊งบีเวอร์ ลำดับคนที่หกถ้านับไล่จากพี่บีกิน ซึ่งแก๊งนี้ยังเป็นสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ที่สนิทสนมกับแก๊งหมียักษ์มาอย่างยาวนานและลึกซึ้ง ทำให้ทุกครั้งที่มีใครจัดงานฉลองอะไร ต้องไปร่วมงานเลี้ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประหนึ่งเป็นคำมั่นสัญญาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อและรุ่นคุณลุงที่จำเป็นต้องรักษาเอาไว้ พันธมิตรที่สำคัญกับแก๊งหมียักษ์ มีเพียงแค่สองแก๊งเท่านั้นคือ แก๊งจระเข้กับแก๊งบีเวอร์เนี่ยแหละ ทุกคนคิดภาพออกกันใช่ไหม ภายในระยะเวลาหนึ่งปีเต็มจัดไม่รู้ตั้งกี่งาน เพราะแต่ละแก๊งทายาทไม่ใช่แค่คนหรือสองคน ถ้าไม่ถึงครึ่งโหลก็เกินโหลกันน่ะ "สวยเหลือเกินนะคะเนี่ยคุณน้อง~ ผมปล่อยตรงยาวสลวยดีกว่ามัดนะ จะให้อารมณ์เป็นสาวสวยที่อ่อนหวานนิดหนึ่งมันน่าดีกว่าไหมคะ" เจ๊ที่แต่งหน้ากล่าวยั้งเมื่อเห็นฉันกำลังจะรวบผมมัดเป็นทรงหางม้า "ได้เลยค่ะ หนูไม่มัดแล้วก็ได้ค่ะ" ของขวัญกล่าวด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมฉีกยิ้มกว้างให้เจ๊แกอย่างอารมณ์ดี แม้ฉันจะเป็นสาวห้าวแต่หากใครมาทำดีด้วยฉันย่อมดีตอบเสมอ "ไปเปลี่ยนชุดได้เลยค่ะคนสวย~" เจ๊กล่าวบอกเมื่อเห็นทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างสวยงาม ไปงานไม่รู้มีกี่ชีวิตจะมาแซวกันนะ เมื่อหยิบชุดที่พนักงานเตรียมเอาไว้ได้ ก็เร่งเปลี่ยนภายในห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เป็นกระโปรงผ้ายืดตัวยาวสีดำเว้าช่วงหน้าอกเป็นรูปสามเหลี่ยม แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกจนได้ ใครเขาคิดค้นซิปทางด้านหลัง เนื้อผ้ายืดแบบนี้กันล่ะเนี่ยพอรูดขึ้นก็ดันมาติด เจ้ากลุ่มเส้นผมสยายพลิ้วไหวอย่างช่วยไม่ได้เลย แง้มประตูห้องเปลี่ยนชุดพร้อมเอียงคอ จะเรียกว่าคล้ายซอมบี้ก็ยังได้กับท่าทางในตอนนี้ เมื่อตอนเข้ามาเห็นผู้คนยังเดินพลุกพล่านอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเงียบสงัดราวกับป่าช้าเสียอย่างนั้น จู่ๆ มีเสียงดังกึกกักอยู่ข้างห้องฉันคิดว่าต้องเป็นคน น่าจะไม่ใช่หนูตัวเล็กกระจิริดหรอกมั้ง พอประตูเปิดออก เห็นแค่ชายกระโปรงแบบสาวชาวโลลิต้ามันคล้ายจะเป็นชุดคอสเพลย์ เอื้อมมือคว้ากระตุกรั้งเขาเอาไว้อย่างว่องไว "ช่วยด้วยค่ะ พอดีซิปด้านหลังมันติด รบกวนรูดขึ้นให้หน่อยจะได้ไหมคะ หรือคุณช่วยเรียกพนักงานให้หน่อยก็ได้ค่ะ" ของขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อนขอร้องอีกฝ่ายทันที แต่เขาเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไรกลับมา "ถ้าช่วยอยากได้อะไรหรือเป็นค่าชุดที่ใส่อยู่ ฉันยินดีออกให้คุณได้นะคะ ได้โปรดเถอะค่ะ" ของขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เพื่อให้เขาเปลี่ยนใจแต่เหมือนจะเป็นผลสำเร็จแล้ว เขาดันร่างกายฉันเข้ามาภายในห้องแคบ ก่อนจะเดินแทรกเข้ามาพร้อมปิดประตู เพราะเมื่อสักครู่ฉันแหงนใบหน้าจนปวดลำคอ ถึงต้องก้มต่ำมองพื้นเบื้องล่างแทน กลิ่นน้ำหอมที่โชยเข้าจมูกมันช่างคุ้นเคยเสียจริง แต่คิดว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นได้หรอก จะเกิดอารมณ์บ้ามาเปลี่ยนชุดกระโปรงทำไมล่ะ พอฝ่ามือถูโดนบริเวณแผ่นหลังขาวเนียน ทำให้ต้องเบิกตากว้างสะดุ้งโหยง เพราะมันทั้งสากและดูหนาราวกับไม่ใช่ผู้หญิงเลย ไล่สายตามองเห็นขนหน้าแข้งก็รู้เลย รีบหันขวับขึ้นเมื่อเส้นผมหลุดจากซิปเรียบร้อย จ้องเขม็งจะเอาเรื่องแต่อีกฝ่ายผลักฉันกดลงกับม้านั่งยาว หัวคิ้วเริ่มย่นชนกันคิดว่าเป็นศัตรู แต่ไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงเขาเอ่ยออกมา "เมื่อกี้หนูเป็นคนพูดเองนะครับ ถ้าอยากได้อะไรยินดีจะทำให้หมดน่ะ" โทนเสียงนุ่มลึกของบีกินกล่าวหยอกล้ออย่างอารมณ์ดี "อะไรก็ได้แต่ห้ามเกี่ยวกับแก๊งหมียักษ์ และอีกข้อคือการกลับไปคบกันอีกรอบ มีแค่เพียงสองข้อนี้เท่านั้นค่ะ" ของขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกอดอกอย่างมั่นใจ "ถ้าอย่างนั้นตกลงตามนี้ครับ หึ~" บีกินกล่าวด้วยโทนเสียงนุ่มลึกพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก คล้ายว่าจะมีแผนร้ายเสียอย่างนั้นแหละ ริมฝีปากทาลิปสติกสีส้มอิฐบางๆ ถูกจู่โจมกะทันหันแทบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ หัวใจเต้นระส่ำระสายไม่เป็นจังหวะอย่างเช่นเคย ความรู้สึกที่โหยหาเขามันทะลักล้น จนเก็บอาการหลบซ่อนต่อไม่ไหว ดวงตาหลับพริ้มเต็มใจรับสัมผัสนุ่มละมุน จนเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะหนึ่ง ราวกับถูกกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปทั่วทั้งเรือนร่าง ความแข็งกระด้างลดฮวบลงทันตาเห็น ฝ่ามือหนาลูบละไล้อย่างแผ่วเบา แต่รู้สึกเจ็บจี๊ดเมื่อเขาโดนรอยแผลตกสะเก็ด รอยฟกช้ำมันยังคงไม่จางหายสนิทดี สติปัญญาถูกดึงกลับมาอัตโนมัติ สองมือเล็กผลักหน้าอกอันแข็งแกร่งออก รีบเบือนใบหน้าแดงก่ำ ซึ่งยังคงเห่อร้อนผะผ่าวคล้ายรูปทรงไข่ของตน เพื่อห่างไกลจากใบหน้าหล่อคมเข้มทันที สายตาคมกริบจ้องคนตรงหน้าพลันเหลือบเห็น รอยตรงแขนเล็กทำให้ต้องย่นหัวคิ้วชนกัน กลีบปากบางเฉียบเผยอขึ้นก่อนจะเอ่ยออกมา "ใครเป็นคนทำ!" บีกินกล่าวถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำเอาอีกฝ่ายที่ยังคงหวั่นไหวเลือกที่จะเงียบสงบ ก่อนจะพูดให้เขาฟัง "ต่อสู้มาเลยเป็นแผลอีกไม่นานก็หายแล้ว พี่ไปเถอะค่ะ หนูต้องร่วมงานฉลองของบอนไซอีก แต่ว่าพี่แต่งตัวอะไรเหรอคะเนี่ย น่าขนลุกจะตาย" ของขวัญกล่าวอย่างตะกุกตะกัก พร้อมเอียงคอมองอย่างสงสัยยกมือปิดปาก เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะชุดที่เขาสวมใส่ คล้ายชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านเป็นกระโปรงสั้น แม้จะดูน่ารักมากแค่ไหน แต่พอสวมอยู่ภายในร่างหนาซึ่งมันอดตลกไม่ได้เสียจริง "บอนไซบังคับว่าให้ใส่ชุดนี้ไปงาน~" บีกินกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคาง ก้มสำรวจชุดอีกครั้งว่ามันเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง "พี่ทำอะไรให้เธอโกรธอีกแล้วใช่ไหม ถึงได้โดนแกล้งขนาดนี้ เป็นถึงลูกชายคนโตจากตระกูลมาเฟียแก๊งบีเวอร์ทายาทลำดับหนึ่ง เฮ้อ~ โชคดีภายในงานวันเกิดมีแค่คนสนิทสนมหรอกนะ" ของขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะรู้จักนิสัยบอนไซ เธอเป็นสาวร่าเริงชอบทำอะไรไม่ไว้หน้าคนอื่น กรณีหากทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจน่ะ ค่อนข้างทำอะไรตามอำเภอใจยิ่งกว่าฉันเสียอีก เขาเงียบสงบไม่ตอบอะไรกลับมา จู่ๆ เสียงเจื้อยแจ้วจนน่าหมั่นไส้ยืนตะโกนอยู่หน้าประตูห้อง ฉันยังคงจำได้ไม่เคยลืมเลือน เธอชื่อน้ำตาลจากแก๊งกระซู่ หันใบหน้ามองค้อนอีกฝ่ายอย่างอดกลั้นอารมณ์โมโห ลุกขึ้นยืนตรงเตรียมจะเปิดประตูหนี แต่เขากลับสวมกอดทางด้านหลังพร้อมกระซิบเบาๆ ข้างใบหูให้เธอได้รับฟัง "พี่คิดถึงหนูมากเลยนะครับ ช่วยดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ด้วยนะ อย่าทำอะไรอย่างกับไม่หวงแหนชีวิตตนเองเลย ต่อให้พวกเราไม่มีสถานะกันแล้ว แต่ความเป็นห่วงจากใจนี้ยังไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป~" บีกินกล่าวจบเขาก็หอมแก้มฟอดใหญ่ลาจากเธอ ไม่คิดจะรั้งให้อยู่ต่อเพราะรู้จักนิสัยกันดี สองมือเล็กรีบยกมาเช็ดปากตน กลัวว่าคาบลิปสติกจะเลอะใบหน้า เพื่อไม่ให้ใครมาเข้าใจผิดพวกเราได้5.เกิดมาสวยแต่ดันลืมหยิบวิธีใช้หลังจากประตูห้องเปลี่ยนชุดถูกเปิดอ้ากว้างได้เท่านั้นแหละ แม่สาวคนที่ตะโกนเรียกเมื่อสักครู่ เธอวิ่งพรวดพราดเข้ามาดักยืนอยู่ตรงด้านหน้าขวางทางฉันเอาไว้แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามเดินเลี่ยงหนีคนน่ารำคาญนี้ คล้ายว่าเธอจะอยากมีเรื่องมากไม่ยอมถอยให้กันเลยแม้เพียงสักนิด ได้แต่หยุดยืนก่อนจะปรายหางตามอง พร้อมพูดจาอย่างไม่สบอารมณ์ใส่เธอ"มีปัญหาอะไรมิทราบ!" ของขวัญกล่าวถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"เธออยู่กับพี่เขาแค่เพียงลำพัง ภายในห้องเปลี่ยนชุดนั้นใช่ไหม" น้ำตาลกัดฟันกรอดถามด้วยความโกรธ ตอนแรกฉันไม่อยากจะให้ใครรู้หรอกนะ แต่สำหรับเธอคนนี้เป็นข้อยกเว้น"ใช่! พวกเรารำลึกความรักอันเร่าร้อนกันอยู่ แต่เธอดันมาขัดจังหวะช่วงเวลาสำคัญ หากไม่เชื่อก็ลองสังเกตดูใบหน้าพี่เขาเอาเองสิ หึ~"ของขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมแสยะยิ้มอย่างสะใจที่เห็นเธอยืนโกรธจนตัวสั่น แต่ก็ไม่สามารถแตะต้องตัวฉันได้เลยสักนิดเดียว นับว่าเธอยังพอฉลาดอยู่บ้าง หากว่ากล้าแตะคงได้เจอดีกันแน่!น้ำตาลคือผู้หญิงซึ่งเป็นศัตรูเพียงหนึ่งเดียว เธอเป็นผู้ก่อประกายไฟแห่งความร้าวฉาน ระหว่างพวกเราเธอเข้ามาแทรกต
4.ความรู้สึกถูกกระตุ้นฝ่ามือเล็กเอื้อมสัมผัสบริเวณหน้าผาก นิ้วเรียวยาวกดขยี้นวดเส้นเลือดบนขมับตัวเองเบาๆ หลับตาพริ้มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อน แต่สมองคล้ายจะไม่อยากทำงานดั่งใจตนเลยยามนี้พยายามปรับม่านสายตาตนเองอย่างถี่ระรัว จ้องมองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ซึ่งมันเพิ่งจะตีห้าเองนะเนี่ย มองขึ้นบนเพดานภายในห้องพัก ก่อนจะกรอกเสียงพูดให้ปลายสายได้รับฟัง"ป้องกันแค่ข้อมูลเอาไว้พอพี่ขอนอนก่อน แกควรจะนอนพักบ้างนะแดน นี่มันพึ่งจะเช้าตรู่เองนะ" กล่าวด้วยน้ำเสียงยานคาง พร้อมหลับตาพักผ่อนต่อราวกับว่าไม่ใส่ใจน้องชายเลยด้วยซ้ำจนเวลาล่วงเลยผ่านไปได้หลายชั่วโมง หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย คว้าโทรศัพท์มือถือมากดเลื่อนจออ่าน ซึ่งมันเป็นกลุ่มครอบครัวช่วงแรกก็ยิ้มหวาน แต่พอเจอข้อความจากคุณลุงไคโรเท่านั้น คิ้วก็กระตุกพร้อมทั้งขนลุกซู่ ราวกับว่ามีลางสังหรณ์ใจแปลกๆ กำลังเตรียมรอต้อนรับอยู่เสียอย่างนั้นตลอดทั้งวันนี้ยังไม่มีใครมาก่อความไม่สงบเลย เพราะกดปุ่มตั้งค่าภายในโทรศัพท์เป็นโหมดห้ามรบกวน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หาได้ยากจริงๆ พอฟ้ามืดก็กลับไปนอนโรงแรมอย่างเดิม ใจ๋กับเจ๋งไปทำงานสำคัญแทนฉันเลยต้องม
3.มีแต่เรื่องเสียจริงไอ้เจ้าของสิ่งนั้นมันคือ RPG ซึ่งย่อมาจาก rocket-propelled grenade ศัพท์ทางการทหารนิยมเรียกกันว่าเครื่องยิงจรวด ลักษณะเป็นปล้องช่วงปลายส่วนหัวติดวัตถุระเบิดเอาไว้ อาร์พีจีบางประเภทอาจจะใช้ได้แค่เพียงครั้งเดียว ซึ่งบางประเภทสามารถบรรจุซ้ำได้ แต่ที่ทำให้คิดหนักเพราะมันใช้ซ้ำได้เนี่ยแหละ โดยส่วนใหญ่บรรจุจรวดเข้าทางปากปล้อง เพื่อยิงขับไล่ไสส่งผู้รุกรานประเทศ นี่มันอาวุธยุทโธปกรณ์ทางสงครามเลยนะนั่น ใจป้ำไม่เบาเลยนะคนเบื้องหลังที่ลอบฆ่ากันเนี่ย โอ๊ย~ ลูกน้องกำลังอยู่ในช่วงอันตรายจะมัวชื่นชมศัตรูไม่ได้สิ"ใจ๋กระโดดออกมาเดี๋ยวนี้เลย!" ของขวัญตะคอกโวยวายเสียงดังลั่นแต่โชคดีหน่อย เหมือนเธอจะเห็นตอนฝั่งตรงข้ามหยิบมาประทับบ่าแล้ว จึงรีบวิ่งออกมาพร้อมปืนกระบอกยาวเหยียดวัตถุระเบิดยิงเข้าใส่รถคันหรู ฉันแทบจะกรีดร้องเสียงหลง คันนี้สั่งนำเข้ามาแพงอย่างเดียวไม่พอ ชื่นชมมันยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าจะกันกระสุนได้ทุกชนิดแต่มันกันระเบิดไม่ได้ เกิดความรู้สึกสะเทือนใจอย่างหนัก เพราะของรักของหวงเล่นมาพังทลายคาตากะทันหัน "เจ้านายแกไม่รู้เหรอว่ามันผิดกฎหมาย ซื้อมาใช้ทำบ้าอะไรเนี่ย
2.ความแสบเธอนั้นเมื่อเกิดมาภายในตระกูลที่ไม่ได้แบ่งแยกชายหญิง แต่ก็ไม่ได้ถูกบังคับด้วยว่าจะต้องทำอะไรที่ฝืนใจตน น้องๆ ร่วมสายเลือดคนอื่นล้วนมีลักษณะนิสัยแตกต่าง พวกเราทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งฉันเป็นลูกสาวคนโตสนิทสนมกับคุณลุงไคโร ย่อมพิเศษกว่าคนอื่นภายในครอบครัวผู้คนภายนอกที่ไม่รู้จักฉันดีพอ ล้วนแต่พากันหวาดกลัวฉันมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารลูกน้องหรือเจรจาธุรกิจ นิสัยใจคอค่อนข้างได้คุณลุงมาเยอะอีกต่างหาก ด้วยความเก่งกาจเกินหน้าเกินตาผู้ชาย ทำให้แก๊งอื่นรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันสักเท่าไหร่ การถูกลอบสังหารแทบจะนับครั้งไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่ามันรวมกันได้กี่รอบแล้วตั้งแต่เกิดมาสองขาเรียวเล็กยังคงก้าวเดินพร้อมเชิดใบหน้าอยู่ ประหนึ่งนางงามบนเวทีกองประกวด สวมใส่รองเท้าบูตส้นสูงแบบหนังสัตว์ เสื้อผ้าแบบแขนและขายาวพอดีกับลำตัว ทุกอย่างเป็นสีดำราวกับคนไว้ทุกข์ ส่วนดวงหน้าตึงกระชับเปรี๊ยะ เพราะพึ่งไปร้อยไหมทองคำมายังไม่เข้าที่ดีย่างกรายอยู่ภายในโกดังผลิตสินค้าต้องห้าม ประจำแก๊งตัวเองซึ่งเป็นสาขารอง เพราะสาขาหลักอยู่ต่างประเทศ ลูกน้องพอเห็นเธอก็ก้มหัวโค้งคำนับเรียงแถว รู้ส
1.คนที่ไม่อยากเจอหน้ากันสภาพภูมิอากาศภายในต่างประเทศของวันนี้ มันช่างสุดแสนวิเศษมากนัก แต่เมื่อเหม่อมองหวังดื่มด่ำบรรยากาศ พอสายตาไล่จนถึงจุดกำหนดเส้นขอบทะเลไปไกลลิบลับหน่อยจะเห็นเครื่องบินไอพ่นขนาดใหญ่ลำหนึ่ง ยังคงเคลื่อนตัวลอยเด่นอยู่เหนือบริเวณน่านฟ้า ซึ่งเป็นเครื่องบินเจ็ทแบบส่วนตัว สามารถบรรจุผู้โดยสารได้เยอะพอสมควร เหมาะสำหรับการบินระยะไกลได้เลยแหละโซนภายในยังมีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกอย่างอื่น เช่นห้องอาบน้ำกับห้องนอนแยกกัน ซึ่งยังไม่นับรวมห้องต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกสั่งทำอย่างประณีต มีทองคำประดับประดาหรูหรามากเครื่องบินเจ็ทประเภทนี้ให้ความรวดเร็วและหรูหราที่สุด มันเดินทางได้ไกลมากกว่า 3,000 ถึง 7,500 ไมล์ทะเลและแน่นอนเครื่องบินลำนี้ ตระกูลเธอได้ถือกรรมสิทธิ์เป็นผู้ครอบครองมันอยู่สาวสวยนั่งหย่อนขา สองเท้าเหยียบตรงขั้นบันไดทางขึ้น ตั้งท่ารออยู่บริเวณหน้าประตูเรียบร้อยแล้ว กระดี๊กระด๊าเหมือนคนร่าเริง เธอกำลังเตรียมพร้อมจะทิ้งตัวลงมาเลยเอาแต่ก้มมองสำรวจชุดตัวเองอีกครั้ง เธอสวมชุดจั๊มสูทสำหรับกระโดดร่ม Skydiving Jumpsuits ดวงตาจับจ้องถุงมือหนังทั้งสองข้าง ซึ่งมันถูกสั่งท





![NightZ [V] CLINGY JUNIOR](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

