Início / โรแมนติก / รักนี้อยู่ในออฟฟิศ / บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

Compartilhar

บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

Autor: Tawan miki
last update Última atualização: 2025-12-12 02:32:49

บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

แฮ่ก... แฮ่ก...

เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังมาจากร่างของคนตัวอ้วนที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าลิฟต์มาอย่างรวดเร็ว และรีบเดินกะเผลกๆ ไปที่แผนกด้วยความเร่งรีบ เขาเหนื่อยจากการวิ่งหนี ลูคัส บนดาดฟ้า แถมยังไปกวนประสาทร่างสูงคนนั้นเข้าอีก คิดแล้วก็หมั่นไส้ คนอะไรถามดีๆ ก็ไม่ยอมบอกความจริง ให้เราทำแผลให้ตั้งนาน แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยว่าไปโดนอะไรมา มันน่าตีจริงๆ!

พอเดินมาถึงที่โต๊ะทำงาน พี่ชมพู่ ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาแทบจะทันที

แฮ่ก... แฮ่ก…

“เจ้าเด็ก! เตรียมตัวเร็ว!”

“มีอะไรครับพี่ชมพู่”

“เรียกประชุมด่วน! ผู้บริหารคนใหม่เรียกแผนกของเราทั้งหมดให้เข้าไปประชุมตอนนี้เลย!”

“โอ๊ย! เหนื่อยหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย” ชมพู่โอดครวญ

“ใจเย็นสิครับ หายใจลึกๆ” ธารน้ำพยายามปลอบ แต่สายตาก็ยังเร่งเร้า

“ไปเร็ว! เดี๋ยวโดนหาว่าไปสายนะ”

“ครับ!”

มาแบบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เมื่อกี้ก็ว่าเหนื่อยจากการวิ่งหนีไอ้คนปากแข็งบนดาดฟ้าแล้ว นี่พี่ชมพู่ยังพาเหนื่อยอีกรอบเพราะความรีบร้อน ‘โอ้ย! ทำไมกันนะ ชีวิตของไอ้ธารน้ำคนนี้มักจะมีแต่เรื่องให้วิ่งเข้าใส่จังเลย’ เรียกประชุมอะไรเอาตอนนี้ แทนที่จะเรียกตั้งแต่เช้าจะได้วางแผนงานถูก ไม่เข้าใจเลย! ‘ใช้สมองทำงานบ้างหรือเปล่าวะเนี่ย แมร่งเอ๊ย!’ ธารน้ำบ่นพึมพำในใจอย่างหงุดหงิดพลางรีบเดินตามพี่ชมพู่ไปที่ห้องประชุมทันที

.

.

.

ห้องประชุม

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ ธารน้ำก็ต้องตกใจกับบรรยากาศที่เงียบสงัดและจริงจัง ผู้คนในห้องมีประมาณสิบกว่าคน กำลังนั่งรออย่างสงบเรียบร้อย รวมถึง พี่เพ็ญ หัวหน้าแผนกที่นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่ด้วย ‘เห้อ... เหนื่อยจัง’ ธารน้ำได้แต่บ่นในใจพลางหย่อนก้นอันอวบอั๋นลงกับเก้าอี้เบาะสีดำอย่างระมัดระวัง เขาเตรียมสมุดจดและอุปกรณ์การประชุมรออย่างเงียบๆ

ไม่นานนัก... เสียงฝีเท้าหนักแน่นที่ก้าวเข้ามาในห้องประชุมก็ดึงความสนใจจากทุกคน

ตึก... ตึก... ตึก...

ครืด... ครืด...

บุคคลที่มาใหม่สามคนก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม ทุกคนดูดี มีราศี และมีใบหน้าคมคายตามแบบฉบับชาวยุโรป แต่แล้ว... ภาพที่เห็นก็ทำให้ธารน้ำต้องผงะลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจสุดขีด จนพี่ชมพู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องรีบดึงแขนให้เขานั่งลงทันที

ที่ตกใจ... เพราะคนสามคนที่เดินนำเข้ามานั้น คือคนที่เขาเพิ่งจะเจออยู่บนดาดฟ้าเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา! คนที่บอกตัวเองว่าเป็นแค่ผู้จัดการ! แล้วทำไมถึงมาเดินนำหน้าคณะผู้บริหารได้!‘หึ! ตั้งใจจะหลอกกันนี่หว่า!’ ธารน้ำกัดฟันกรอดในใจ พลางส่งสายตาคาดโทษอย่างแรงกล้าไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหัวโต๊ะ

แต่ทว่า…ร่างสูงคนนั้นกลับไม่สะทกสะท้าน แถมยังยักคิ้วให้เขาอย่างกวนประสาทและเย้ยหยัน ธารน้ำได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงและส่งสายตาอาฆาตไปให้ ‘เชอะ!’

“สวัสดีครับ ผม ลูคัส มัตเตโอ้”ลูคัสเริ่มต้นแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ

“ผมจะมาดำรงตำแหน่งผู้บริหารใหม่ของสาขานี้อย่างถาวรนับจากนี้เป็นต้นไป”

‘หึหึ ทำมาเป็นพูดดี! โกหกเรา! จำไว้เลยนะว่าเราจะไม่ยอมพูดดีด้วยเด็ดขาด!’ ธารน้ำได้แต่ทำหน้าบึ้งตึง คาดโทษ และโมโหที่โดนคนที่กำลำพูดอยู่หน้าต้มจนเปื่อยเป็นโจ๊ก เสียงของลูคัสที่อยู่ตรงหัวโต๊ะก็ยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

“ผมหวังว่าทุกคนจะตั้งใจทำงานกันเหมือนเดิม และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม”

“ครับ/ค่ะ”

ทุกคนในห้องตอบรับพร้อมกันอย่างเป็นระเบียบ แสดงถึงการรับทราบและยอมรับทุกอย่างที่เรียกมาประชุม

“ถ้างั้นทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้ ส่วนคุณธารน้ำ... รบกวนอยู่สักครู่นะครับ”ลูคัสกล่าวปิดท้าย ก่อนจะจ้องมองมาที่เขาอย่างมีเลศนัย

ไม่นานนัก ทุกคนในห้องประชุมก็ทยอยกันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว พี่ชมพู่เดินผ่านเขาไปพร้อมกับตบไหล่เบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ธารน้ำไม่ได้รู้สึกกลัวคนที่ยืนอยู่ตรงหัวโต๊ะตอนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับโมโหมากกว่าที่ถูกหลอกกันตั้งแต่แรก!

‘หึย! คิดแล้วโมโห อยากจะใช้เล็บข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้ลายไปเลย คนอะไรโกหกเก่งชะมัด’เขาได้แต่กอดอก ทำหน้านิ่ง ไม่ยอมสบตา ไม่อยากจะเริ่มต้นบทสนทนากับคนตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงไม่อยากคุยยังไง ก็หนีความจริงไม่พ้น

พอทุกคนเดินออกไปกันจนหมดสิ้น รวมถึงลูกน้องที่ติดตามร่างสูงมาด้วย ตอนนี้ทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่จึงเหลือเพียงแค่เขาสองคน

“ไม่ทราบว่า คุณ ลูคัส มัตเตโอ้ มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับผมครับ” ธารน้ำเปิดฉากถามด้วยน้ำเสียงห่างเหินและเป็นทางการอย่างจงใจ

“หึ” ลูคัสหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ถ้าไม่มีอะไร... ผมขอตัวไปทำงานก่อน”

แต่ยังไม่ทันที่ธารน้ำจะได้ลุกขึ้น ขายาวๆ ของลูคัสก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็ว แล้วใช้สองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกักตัวเขาไว้กับเก้าอี้ ไม่ให้เขาหนีไปไหนได้ พร้อมกับพูดด้วยเสียงเรียบๆ เหมือนกำลังหยอกล้ออย่างสนุกสนาน

“เดี๋ยวก่อนสิ อ้วน”

“บอกว่าชื่อธารน้ำ!”

เขาเถียงกลับทันควัน ทั้งๆ ที่ตอนนี้ใบหน้าของเขากับคนตัวสูงใกล้กันจนแทบจะชนกันอยู่แล้ว ‘ทำมาเรียกอ้วนกลบเกลื่อนความผิด! แล้วกูเป็นอะไรเนี่ย! จะหงุดหงิดทำไมวะ! เห้อ!’

“โกรธอะไร”

ร่างสูงถามออกมา เพราะใบหน้าของธารน้ำบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างรุนแรงที่โดนหลอก

“ป่าว”

“เหรอ? ทำไมหน้าหงิกเป็นตูด”

ปึก!

ธารน้ำใช้กำปั้นทุบเข้าที่อกของลูคัสอย่างแรงด้วยความโมโห แต่มันก็แทบไม่สะทกสะท้านผิวของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ถอยไปเลย!”

“ไม่ถอย”

“ผมไม่ได้อยากคุยกับคุณ!”

“แต่พี่อยากคุยกับอ้วน”

“ผมไม่มีอะไรจะคุย คุณลูคัส!”

ธารน้ำยังคงเน้นคำว่า ‘คุณลูคัส’ อย่างชัดเจนเพื่อแสดงความห่างเหิน

“ห่างเหินจัง”

ลูคัสกล่าวอย่างนุ่มนวล ธารน้ำยิ่งโกรธที่อีกคนไม่ยอมบอกความจริง แถมยังมาทำเป็นเล่น เขาได้แต่กอดอกและหันหน้าไปทางอื่นอย่างดื้อดึง ก็คนไม่พอใจอ่ะ แล้วใครจะทำไม! จนในที่สุด ลูคัสก็ต้องยอมแพ้ เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของธารน้ำให้หันกลับมาสบตากันอย่างอ่อนโยน

“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงกับเราตั้งแต่แรก”

“แค่นี้ใช่ไหมครับ ผมจะไปทำงาน” ธารน้ำยังคงวางมาดเฉยชา

“โอเคๆ พี่ยอมแพ้ เราไปทำงานก่อน เดี๋ยวตอนเย็น... เจอกัน” ลูคัสลดแขนลงอย่างช้าๆ

“ไม่ครับ ผมไม่อยากเจอคุณ”

พูดจบ ธารน้ำก็รีบผละร่างสูงให้ออกไปจากทางทันที แล้วลุกขึ้นหยิบสมุดและปากกา เดินออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนที่อยู่ในห้องได้แต่นั่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับความขี้งอนของเด็กอ้วนที่น่ารักของเขา‘ไม่เจอก็จะตามไปเจออยู่ดีนั่นแหละธารน้ำ’ ลูคัสคิดในใจอย่างมั่นคง

(มีคนโดนงอน 1 อัตราครับ🤭)

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 9 ขยันแกล้ง

    บทที่ 9 ขยันแกล้ง พาร์ทลูคัส ผมรู้อยู่แล้วว่าเด็กอ้วนจะต้องหาทางหลบหน้าผมหลังเลิกงาน ผมเลยมาแอบดักรอไว้ที่ลานจอดรถ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเจ้าตัวอยู่ในสายตาผมทั้งหมด ผมจึงตั้งใจแกล้งเข้าไปจับคอเสื้อด้านหลัง เพื่อทำให้เด็กคนนี้ตกใจเล่นที่ไหนได้... เจ้าตัวกริ๊ดเสียงดังจนหูผมเกือบดับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงจะเสียงดังแค่ไหน ผมก็ยังคงชอบที่จะแกล้งอยู่ดีผมรู้ดีว่าเด็กตรงหน้าไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ผมปิดบังสถานะตัวเอง ถ้าผมบอกความจริงทั้งหมดว่าผมต้องพัวพันกับธุรกิจแบบไหน คนตรงหน้าก็จะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมอีก และนั่นคือสิ่งที่ผมทำใจยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตามไปวุ่นวายกับน้อง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเองผมเลยแกล้งขอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปด้วย ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของรถไม่อยากให้ไป แต่มีหรือที่คนอย่างผมจะฟังเสียงคัดค้าน ตลอดทางผมจงใจจับเอว... จะเรียกว่าเอวไหมนั้นก็ไม่รู้ หึหึ แต่พุงเด็กนี่นุ่มนิ่มไปหมด สัมผัสที่ได้ช่างน่าหลงใหลจนอยากจะจับกดคาเตียงฟังแล้วเหมือนผมเป็นคนเลว... มันก็เลวจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งธุรกิจสีเทา ธุรกิจมืด ไหนจะต้องจัดการคนที่มาขัดผลประโยชน์จนถึง

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

    บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ หลังเลิกงานเย็น ธารน้ำรีบเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ลานจอดรถ เขารีบคล่อมน้องฟักทองมอเตอร์ไซค์คู่ใจทันที เขากลัวว่าถ้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องเผชิญหน้ากับ ลูคัส ผู้บริหารปากแข็งที่หลอกลวงเขาอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทรถอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาจับคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้แน่นกริ๊ดดดด!ธารน้ำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจจนตัวโยน นึกว่าโดนผีอำหรือโดนใครมาทำร้ายยามวิกาล“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ! เดี๋ยวลูกช้างจะทำบุญไปให้! ฮือๆ”“พี่เอง! จะร้องทำไมเนี่ย”เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง“เอ้า! แล้วใครเขามาเงียบๆ แบบนี้ล่ะ! ตกใจหมด!” ธารน้ำหันไปโวยวายทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้คนด้านหลัง“ถ้าไม่มาแบบนี้จะรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่อยากเจอหน้าพี่” ลูคัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ก็ไม่อยากเจอไง! ไม่เข้าใจที่พูดเหรอไง!” “ไม่!”“ปล่อยนะ! จะกลับบ้าน!”“เดี๋ยวไปส่ง”“ไม่ไปกับคนแปลกหน้า!” “เหรอ”พูดไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่รั้งคอเสื้อเขาไว้ก็จัดการปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกระโดดขึ้

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

    บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่แฮ่ก... แฮ่ก...เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังมาจากร่างของคนตัวอ้วนที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าลิฟต์มาอย่างรวดเร็ว และรีบเดินกะเผลกๆ ไปที่แผนกด้วยความเร่งรีบ เขาเหนื่อยจากการวิ่งหนี ลูคัส บนดาดฟ้า แถมยังไปกวนประสาทร่างสูงคนนั้นเข้าอีก คิดแล้วก็หมั่นไส้ คนอะไรถามดีๆ ก็ไม่ยอมบอกความจริง ให้เราทำแผลให้ตั้งนาน แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยว่าไปโดนอะไรมา มันน่าตีจริงๆ!พอเดินมาถึงที่โต๊ะทำงาน พี่ชมพู่ ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาแทบจะทันทีแฮ่ก... แฮ่ก…“เจ้าเด็ก! เตรียมตัวเร็ว!”“มีอะไรครับพี่ชมพู่”“เรียกประชุมด่วน! ผู้บริหารคนใหม่เรียกแผนกของเราทั้งหมดให้เข้าไปประชุมตอนนี้เลย!”“โอ๊ย! เหนื่อยหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย” ชมพู่โอดครวญ“ใจเย็นสิครับ หายใจลึกๆ” ธารน้ำพยายามปลอบ แต่สายตาก็ยังเร่งเร้า“ไปเร็ว! เดี๋ยวโดนหาว่าไปสายนะ”“ครับ!”มาแบบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เมื่อกี้ก็ว่าเหนื่อยจากการวิ่งหนีไอ้คนปากแข็งบนดาดฟ้าแล้ว นี่พี่ชมพู่ยังพาเหนื่อยอีกรอบเพราะความรีบร้อน ‘โอ้ย! ทำไมกันนะ ชีวิตของไอ้ธารน้ำคนนี้มักจะมีแต่เรื่องให้วิ่งเข้าใส่จังเลย’ เรียกประชุมอะไรเอาตอนนี้ แทนที่จะเรียกตั้งแต่เช

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 6 กลับมา

    บทที่ 6 กลับมาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่พี่ชมพู่กระซิบบอกเรื่องข่าววงในเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้บริหารคนใหม่ ธารน้ำก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของใครคนนั้น หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับอิตาลีไปแล้ว? ช่างเถอะ... มันไม่ใช่เรื่องของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกใจและทำให้ธารน้ำเป็นกังวลมากกว่าคือ ลูคัส ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุแล้วลูคัสมาส่งเขาที่คอนโด ชายหนุ่มคนนั้นก็หายตัวไปดื้อๆ เหมือนไม่เคยมีตัวตน ธารน้ำตั้งใจว่าจะติดต่อเขาเพื่อสอบถามเรื่องค่าซ่อมรถเก๋งที่โดนชนท้าย และค่าซ่อมมอเตอร์ไซค์ของเขาเองที่จู่ๆ ก็กลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่... แต่ก็ไม่รู้จะตามหาได้ที่ไหนไปดูที่ลานจอดรถของบริษัทก็ไม่เห็นรถสปอร์ตคันหรูของเขาเลย ‘เอ๊ะ! หรือว่าโดนไล่ออกไปแล้วนะ’ ความคิดผุดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง แต่ก็รีบสะบัดมันทิ้งไปว่าแล้วเขาก็กลับมาก้มหน้าทำงานของตัวเองต่ออย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงเรียกของพี่ชมพู่ที่ดังขึ้นข้างๆ“เจ้าเด็กๆ!”“ครับ?”ธารน้ำหันไปมองด้วยความสงสัยเต็มที่ เพราะอยู่ดีๆ พี่ชมพู่ก็หันมาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและตกใจราวกับเพิ่งเจอเรื่องเหลือเชื่อมา

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด

    บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด หลังจากหาหมอเสร็จ ลูคัสก็ให้ลูกน้องจัดการขับรถมาส่งธารน้ำถึงหน้าคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว พอรถเก๋ง BMW จอดเทียบ เขาก็ลดกระจกแล้วพูดสั้นๆ ว่า “ถึงแล้ว” ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็วธารน้ำยืนงงอยู่หน้าคอนโด ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ‘อะไรเนี่ย... รีบไปไหนของเขา’ พลางหันกลับไปที่ลานจอดรถของอาคาร และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถมอไซด์เวสป้าคู่ใจสีเหลืองที่เขาตั้งชื่อเล่นว่า 'น้องฟักทอง' จอดอยู่ในช่องจอดเรียบร้อย ‘เอ๊ะ! เขารู้ได้ไงวะ ว่ารถเราจอดอยู่ตรงไหน แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้เขาเลิกสนใจความสงสัยนั้นไปในทันที ‘ช่างเถอะ! ขอขึ้นห้องนอนก่อนละกัน’ ว่าแล้วก็เดินกะเผลกๆ ตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 20 ทันทีทันทีที่เข้าห้อง ธารน้ำก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย วันนี้เจอศึกหนักมาทั้งวัน ทั้งเข้างานสาย รถชน เจ็บตัว แถมยังต้องมานั่งเถียงกับผู้ชายหน้าหล่อที่กวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีก ‘เอ๊ะ หรือเราจะโทรหาแม่ก่อนดี? ไม่สิ... อาบน้ำก่อนดีกว่า!’เขาใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ไม่ใช่อะไรนะ... ลีลาจ้า! เนอะ ตามประสาคนหล่อที่ดูดีทุกอณูอย่างเขา ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย! พออาบน้ำเส

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่

    บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่โห..รถอย่างสวย!ทันทีที่ธารน้ำก้าวขึ้นมานั่งในรถ เบาะหนังนุ่มนิ่มหอมกลิ่นใหม่ ๆ ทำเอาแทบอยากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียวแม่เจ้า... รถหรูขนาดนี้ คนขับก็หล่อ ลูกน้องยังดูดีอีก นี่มันชีวิตในฝันของใครสักคนแน่ ๆ แต่ทำไมมันดันเป็นเขานะ เขาเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบสำรวจเงียบ ๆ ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นบนสูทดี น้ำหอมแพง หน้าแบบนี้ไม่ได้อยู่แผนกเดียวกับพี่เพ็ญแน่ ๆ …แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ว่าแล้วก็เปิดบทสนทนาเลยดีกว่า“เอ่อ... คุณทำงานแผนกอะไรอ่ะ ถึงได้มีรถหรูแบบนี้?”เสียงถามเต็มไปด้วยความอยากรู้แบบเด็กซื่อ ๆ ที่พยายามทำเนียนไม่ให้ดูอยากรู้อยากเห็นจนเกินไป“ทำไมต้องบอก?”เสียงตอบกลับเรียบเฉย แต่แฝงรอยยิ้มมุมปากบาง ๆ“คุณจะเล่นตัวทำไมเนี่ย เราถามดี ๆ นะ ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนะ ยังไม่ตอบเลย”ธารน้ำเถียงเสียงอ่อย ๆ พร้อมทำหน้ามุ่ยนิด ๆ เหมือนงอน“ผู้จัดการ”คำตอบสั้น ๆ ทำเอาธารน้ำชะงักไปนิด แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคือลูกน้องทั้งสองที่นั่งข้างหน้าดีนกับคาลหันมามองหน้ากันผ่านกระจกมองหลังแทบจะพร้อมกันผู้จัดการ?ในเมื่อเจ้านายตัวจริงคือเจ้าของบริษัททั้งคน จะโกหกท

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status