Início / โรแมนติก / รักนี้อยู่ในออฟฟิศ / บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

Compartilhar

บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

Autor: Tawan miki
last update Última atualização: 2025-12-12 02:33:41

บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

หลังเลิกงานเย็น ธารน้ำรีบเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ลานจอดรถ เขารีบคล่อมน้องฟักทองมอเตอร์ไซค์คู่ใจทันที เขากลัวว่าถ้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องเผชิญหน้ากับ ลูคัส ผู้บริหารปากแข็งที่หลอกลวงเขาอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทรถอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาจับคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้แน่น

กริ๊ดดดด!

ธารน้ำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจจนตัวโยน นึกว่าโดนผีอำหรือโดนใครมาทำร้ายยามวิกาล

“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ! เดี๋ยวลูกช้างจะทำบุญไปให้! ฮือๆ”

“พี่เอง! จะร้องทำไมเนี่ย”เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง

“เอ้า! แล้วใครเขามาเงียบๆ แบบนี้ล่ะ! ตกใจหมด!”

ธารน้ำหันไปโวยวายทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้คนด้านหลัง

“ถ้าไม่มาแบบนี้จะรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่อยากเจอหน้าพี่” ลูคัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ก็ไม่อยากเจอไง! ไม่เข้าใจที่พูดเหรอไง!”

“ไม่!”

“ปล่อยนะ! จะกลับบ้าน!”

“เดี๋ยวไปส่ง”

“ไม่ไปกับคนแปลกหน้า!”

“เหรอ”

พูดไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่รั้งคอเสื้อเขาไว้ก็จัดการปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเขาอย่างรวดเร็วเสียเอง! ธารน้ำถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ‘คนยิ่งไม่อยากเจอ ไม่อยากจะคุย ยังจะมาตามวุ่นวายอีก อะไรของเขาวะเนี่ย! ไอ้ตาลุงนี่!’

“ลงไปเลยครับ!”

“ไม่ลง”

“คุณลูคัส!”

“พี่!!”

“คุณ! อย่ามากวนตีน! เราจะกลับบ้าน!”

“พี่กลับด้วย”

“มันคนละทางไหมเล่า!”

“แล้ว?”

“โอ้ย! เลิกวุ่นวายกับเราเสียที! เราง่วงนอนแล้วนะ!”

“งั้นพี่ขับให้”

“เห้ออออ... วันนี้มันวันบ้าอะไรวะเนี่ย!”

ธารน้ำบ่นออกมาด้วยความโมโหที่อยู่ดีๆ ร่างสูงก็มาวุ่นวายอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็แสดงออกชัดเจนแล้วว่าไม่อยากเจอหน้า แต่เมื่อรู้ตัวว่าเถียงต่อไปก็ไม่มีทางชนะคนดื้อด้านตรงหน้าได้ เขาจึงยอมจำนนแต่โดยดี

ธารน้ำจัดการสตาร์ทเครื่องรถมอเตอร์ไซค์คันโปรด แล้วปล่อยให้ร่างกายใหญ่โตของลูคัสนั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิด แถมมือหนาๆ ของอีกฝ่ายยังถือวิสาสะเลื่อนมาจับเอวของเขาไว้อย่างแนบแน่นอีกด้วย!

.

.

.

ใช้เวลาไม่นานนัก ธารน้ำก็ขี่ น้องฟักทอง มาถึงหน้าคอนโดของตัวเอง เขาค่อยๆ หันไปสะกิดคนข้างหลังให้ลงจากรถ พอจอดรถเรียบร้อย ลูคัสก็ลงยืนข้างๆ แล้ว ธารน้ำก็กำลังจะถอดหมวกกันน็อกสีเหลืองออก แต่ร่างสูงตรงหน้ากลับยื่นมือเข้ามาช่วยถอดให้เสียก่อนอย่างอ่อนโยน ‘หึ! ทำมาเป็นคนดี! ไม่เนียนเลยนะ!’

“ถึงแล้ว คุณก็กลับบ้านคุณไปสิ” ธารน้ำบอกด้วยน้ำเสียงที่ยังคงแฝงความไม่พอใจ

“ครับ”

“ ‘ครับ’ ก็ไปสิ! อย่าคิดว่าคุณเป็นเจ้านายแล้วผมจะกลัวนะ! ตอนนี้เลิกงานแล้ว ฉะนั้นแล้วคุณไม่ได้เป็นเจ้านายผมแล้ว!” ธารน้ำพยายามเน้นย้ำขอบเขตให้ชัดเจน เพื่อคนให้ตรงหน้ากลับไปเสียที ไม่รู้จะตามมาทำไมวุ่นวาย

“ครับ”

“พูดคำอื่นไม่เป็นหรือไง!” เขาเริ่มหงุดหงิดกับคำตอบที่ซ้ำซากนี้พูดอยู่ได้ครับไม่ไปสักทีจะมาไม้ไหนอีก

“เป็น”

“แล้วทำไมไม่พูด!”

“พอใจ”

“คุณ!!”

“ผมไม่คุยด้วยแล้ว!” เขาตัดบท พลางหมุนตัวเตรียมเดินหนีเข้าคอนโด

“เดี๋ยว! อยากคุยด้วย”

“ว่ามา”

ธารน้ำจำต้องหยุดชะงักและหันหลังกลับมาอย่างจำนนต่อสถานการณ์ ดวงตาของเขาทอประกายแห่งความยอมแพ้ ยามที่สบเข้ากับดวงตาอันยากจะหยั่งถึงของลูคัส

ทันใดนั้น คำพูดที่หลุดออกมาจากริมฝีปากของลูคัสก็ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจ ทำให้หัวใจของธารน้ำเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง

“ขอขึ้นห้องได้ไหม”

ตายแล้ว! ไอ้ธารน้ำ! ผู้ชายขอขึ้นห้อง! เขาคิดอะไรกับเราป่ะวะเนี่ย!’ ความคิดวุ่นวายตีกันในหัวจนสมองรวนไปหมด ‘แต่... แต่เป็นคนหล่อให้อภัยได้นะ ตายแล้ว! ทำไงดี! คิดสิ! สมองคิดสิ!’ ใบหน้าของธารน้ำเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาทันที

“ได้ไหมครับ”

ลูคัสถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างที่เขาไม่เคยใช้มาก่อน

“ดะ... ได้... ครับ”

ธารน้ำตอบออกไปอย่างตะกุกตะกักโดยไม่รู้ตัวใบหน้าของเขาแดงก่ำไปหมด ‘ตายแล้ว! เขินไม่ไหวแล้วนะไอ้ธารน้ำเอ๊ย! ถ้าน้องชายรู้โดนล้อแน่! แล้วพ่อกับแม่จะดุไหมเนี่ย!’ เขาสะบัดศีรษะเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ ก่อนจะเดินนำลูคัสเข้าสู่ตัวอาคารด้วยหัวใจที่เต้นรัวเหมือนกำลังบรรเลงกลองชุด

พอมาถึงห้องพักของธารน้ำที่อยู่บนของคอนโด เขาเชื้อเชิญให้ลูคัสนั่งรอที่ห้องโถงรับแขกก่อนจะเดินไปหยิบน้ำและของว่างมาเสิร์ฟตามมารยาทของเจ้าบ้านที่ดี

“น้ำครับ” ธารน้ำวางแก้วลงบนโต๊ะกระจกเบา ๆ

“อืม” ลูคัสตอบรับสั้นๆ โดยสายตายังคงสำรวจห้องของเขา

“คุณ... มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม”ธารน้ำยิงคำถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับปรับสีหน้าให้ดูเป็นงานเป็นการเพื่อเข้าสู่บทสนทนาสำคัญ

“พี่!”

“เห้อ เรื่องมาก” ธารน้ำบ่นออกมาพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังอย่างหมดความอดทน

“หึ” ลูคัสหัวเราะในลำคอด้วยความขบขัน

“พี่ลูคัส มีเรื่องอะไรจะคุยกับเรา”

“ไม่มี”

“อ้าว! ไม่มีแล้วขึ้นมาทำไมเนี่ย!”

คำพูดที่เปลี่ยนประเด็นของลูคัสทำให้ธารน้ำถึงกับพูดโพล่งออกมาอย่างมึนงง ความรู้สึกสับสนปนโมโหเริ่มก่อตัวขึ้นในอก เมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะหลีกเลี่ยงคำถามและเบี่ยงเบนเรื่องไปเสียเฉยๆ

“อยู่คนเดียวเหรอ”

“เห็นคนอื่นไหมล่ะครับ” ธารน้ำประชดกลับ

“ก็ลองมีคนอื่นดู... พี่จะฆ่ามันทิ้ง” น้ำเสียงของลูคัสเปลี่ยนไปทันที จากที่เคยยียวนกลับกลายเป็นเย็นเยียบและจริงจังอย่างน่ากลัว

“เป็นบ้าเหรอ?” ธารน้ำโพล่งถามออกไปอย่างอดไม่ได้ เขาเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจและมองลูคัสด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความฉุนเฉียว

“ใช่”

“พี่จะหวง จะหึงเราทำไม! เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

“ทำไมต้องตอบ?”

“พี่กำลังกวนตีนเราอยู่ใช่ไหม!” ธารน้ำทุบเบาะโซฟาเบา ๆ ด้วยความอัดอั้น

“ไว้สักวันพี่จะบอก” ลูคัสกล่าวอย่างนุ่มนวลขึ้น แต่ก็ยังคลุมเครือ

“เราอยากรู้ตอนนี้!”

“กลับละ”

พูดจบ ลูคัสก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวถูกซักไซ้ต่อ โดยไม่ยอมตอบคำถามอะไรเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้ธารน้ำนั่งงงอยู่คนเดียวบนโซฟา‘การกระทำนี้มันหมายความว่าอะไรกันแน่’

ธารน้ำขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจเลยว่าผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานจะมาแสดงความเป็นเจ้าของและหึงหวงอย่างหน้าตาเฉยได้อย่างไร ทั้งความอันตรายที่เขาต้องเจอ ความลับที่ปิดบัง และท่าทีที่วุ่นวายไม่เลิกของผู้บริหารคนใหม่ ทำให้ธารน้ำรู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังถูกดึงเข้าไปสู่ความวุ่นวายอย่างไม่มีทางเลี่ยง

.

.

.

.

หลังจากร่างสูงที่มาอย่างวุ่นวายและจากไปอย่างรวดเร็วได้ลับหายไปสักพัก ธารน้ำก็ลุกขึ้นจากโซฟาไปจัดการธุระส่วนตัว เขาอาบน้ำ เตรียมข้าวเย็น และเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาโทรศัพท์หาเพื่อนรักที่ไม่ได้คุยกันตั้งแต่เริ่มทำงาน

“ฮัลโหล พร้าว ว่างป่าว”

“นี่! อีธารน้ำ กูบอกให้เรียก มะพร้าว มึงนี่!”

เสียงของเพื่อนสาวในร่างชายที่เคยชื่อพงษ์ แต่ตอนนี้แปลงเพศเปลี่ยนเป็นมะพร้าว ดังตอบกลับมาอย่างจีบปากจีบคอ ธารน้ำชอบเรียกสั้นๆ ว่า 'พร้าว' ซึ่งทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจที่ไม่เรียกเต็มยศ

“โอเคจ้า! คุณมะพร้าวคนสวยของพี่ธารน้ำ พอใจยังคะ” ธารน้ำรีบประจบประแจง

“ดีค่ะลูกสาว ว่าแต่โทรหากูมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่า”

“ไม่มี แค่คิดถึง”

“ไม่จริง! มึงมีพิรุธค่ะ!”

เสียงที่เปล่งออกมาอย่างรู้ทันเหมือนมีญาณทิพย์ ทำให้ธารน้ำยอมรับแต่โดยดีว่าต้องขอคำปรึกษาจริงๆ

“เอ่อๆ”

“สมมุติว่า... มีผู้ชายมาหวงเรา มาหึงเรา มาตามเราแบบไม่มีเหตุผล มึงว่าเขาคิดอะไรกับเราไหมวะ”

ธารน้ำยังคงใช้คำว่า 'สมมุติ' เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

“เรื่องจริงใช่ไหมไม่ต้องสมมุติ! กูรู้ทันค่ะ! เล่ามา!”

“เอ่อ... ๆ เรื่องจริงก็ได้”

“เขามีแนวโน้ม ชอบมึง ค่ะลูกสาว”

“แต่เราเพิ่งเจอกันนะ เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานเอง” ธารน้ำแย้งอย่างไม่แน่ใจ

“ไม่เกี่ยวหรอกค่ะคนมันจะชอบ! เจอกันแค่ 1 นาทีมันก็ชอบแล้ว! สรุปว่ามันใช่ไหมล่ะ”

“เหรอ...ไม่รู้เหมือนกัน”

“ว่าแต่หล่อป่ะ”

มะพร้าวเข้าสู่โหมดสแกนหนุ่มทันที

“อืม”

“‘อืม’ นี่คือยังไงคะ! หล่อหรือไม่หล่อ! ตอบมาเร็ว!”

“หล่อ... หล่อมาก” ธารน้ำยอมรับอย่างแผ่วเบาด้วยความเขิน

“กริ๊ดดด! ถ้าลูกสาวไม่เอาคุณแม่จะเอาเองนะคะ! มึงอย่าเรื่องมาก!”

“ไม่ได้! เขาเป็นเจ้านาย”

“ตายแล้ว! ว่าที่เมีย CEO นี่หว่า! มึงมันวาสนาดีจริงๆ อีธารน้ำ!”

มะพร้าวร้องเสียงดังจนหูแทบแตก

“เว่อร์! แค่นี้แหละ นอนดีกว่า”

ธารน้ำรีบตัดบทก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปไกล

“บายค่ะลูกสาว! ว่างๆ มาดิ้งด่องกันหน่อยนะคะ”

“เออ ไว้เจอกัน”

ติ๊ด!

ธารน้ำวางสายลงอย่างเหนื่อยหน่าย ‘เหมือนจะปรึกษารู้เรื่อง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเลย...’ มะพร้าวบอกว่าเขาชอบ แต่การแสดงออกของลูคัสมันช่างอันตรายและเอาแต่ใจเกินกว่าจะเรียกว่าความรักได้ ธารน้ำถอนหายใจยาว ก่อนจะตัดสินใจว่า ค่อยว่ากันพรุ่งนี้แล้วกัน นอนดีกว่า!

(ผีอะไรหล่อขนาดนี้😂)

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 9 ขยันแกล้ง

    บทที่ 9 ขยันแกล้ง พาร์ทลูคัส ผมรู้อยู่แล้วว่าเด็กอ้วนจะต้องหาทางหลบหน้าผมหลังเลิกงาน ผมเลยมาแอบดักรอไว้ที่ลานจอดรถ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเจ้าตัวอยู่ในสายตาผมทั้งหมด ผมจึงตั้งใจแกล้งเข้าไปจับคอเสื้อด้านหลัง เพื่อทำให้เด็กคนนี้ตกใจเล่นที่ไหนได้... เจ้าตัวกริ๊ดเสียงดังจนหูผมเกือบดับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงจะเสียงดังแค่ไหน ผมก็ยังคงชอบที่จะแกล้งอยู่ดีผมรู้ดีว่าเด็กตรงหน้าไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ผมปิดบังสถานะตัวเอง ถ้าผมบอกความจริงทั้งหมดว่าผมต้องพัวพันกับธุรกิจแบบไหน คนตรงหน้าก็จะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมอีก และนั่นคือสิ่งที่ผมทำใจยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตามไปวุ่นวายกับน้อง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเองผมเลยแกล้งขอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปด้วย ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของรถไม่อยากให้ไป แต่มีหรือที่คนอย่างผมจะฟังเสียงคัดค้าน ตลอดทางผมจงใจจับเอว... จะเรียกว่าเอวไหมนั้นก็ไม่รู้ หึหึ แต่พุงเด็กนี่นุ่มนิ่มไปหมด สัมผัสที่ได้ช่างน่าหลงใหลจนอยากจะจับกดคาเตียงฟังแล้วเหมือนผมเป็นคนเลว... มันก็เลวจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งธุรกิจสีเทา ธุรกิจมืด ไหนจะต้องจัดการคนที่มาขัดผลประโยชน์จนถึง

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

    บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ หลังเลิกงานเย็น ธารน้ำรีบเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ลานจอดรถ เขารีบคล่อมน้องฟักทองมอเตอร์ไซค์คู่ใจทันที เขากลัวว่าถ้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องเผชิญหน้ากับ ลูคัส ผู้บริหารปากแข็งที่หลอกลวงเขาอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทรถอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาจับคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้แน่นกริ๊ดดดด!ธารน้ำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจจนตัวโยน นึกว่าโดนผีอำหรือโดนใครมาทำร้ายยามวิกาล“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ! เดี๋ยวลูกช้างจะทำบุญไปให้! ฮือๆ”“พี่เอง! จะร้องทำไมเนี่ย”เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง“เอ้า! แล้วใครเขามาเงียบๆ แบบนี้ล่ะ! ตกใจหมด!” ธารน้ำหันไปโวยวายทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้คนด้านหลัง“ถ้าไม่มาแบบนี้จะรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่อยากเจอหน้าพี่” ลูคัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ก็ไม่อยากเจอไง! ไม่เข้าใจที่พูดเหรอไง!” “ไม่!”“ปล่อยนะ! จะกลับบ้าน!”“เดี๋ยวไปส่ง”“ไม่ไปกับคนแปลกหน้า!” “เหรอ”พูดไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่รั้งคอเสื้อเขาไว้ก็จัดการปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกระโดดขึ้

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

    บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่แฮ่ก... แฮ่ก...เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังมาจากร่างของคนตัวอ้วนที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าลิฟต์มาอย่างรวดเร็ว และรีบเดินกะเผลกๆ ไปที่แผนกด้วยความเร่งรีบ เขาเหนื่อยจากการวิ่งหนี ลูคัส บนดาดฟ้า แถมยังไปกวนประสาทร่างสูงคนนั้นเข้าอีก คิดแล้วก็หมั่นไส้ คนอะไรถามดีๆ ก็ไม่ยอมบอกความจริง ให้เราทำแผลให้ตั้งนาน แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยว่าไปโดนอะไรมา มันน่าตีจริงๆ!พอเดินมาถึงที่โต๊ะทำงาน พี่ชมพู่ ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาแทบจะทันทีแฮ่ก... แฮ่ก…“เจ้าเด็ก! เตรียมตัวเร็ว!”“มีอะไรครับพี่ชมพู่”“เรียกประชุมด่วน! ผู้บริหารคนใหม่เรียกแผนกของเราทั้งหมดให้เข้าไปประชุมตอนนี้เลย!”“โอ๊ย! เหนื่อยหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย” ชมพู่โอดครวญ“ใจเย็นสิครับ หายใจลึกๆ” ธารน้ำพยายามปลอบ แต่สายตาก็ยังเร่งเร้า“ไปเร็ว! เดี๋ยวโดนหาว่าไปสายนะ”“ครับ!”มาแบบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เมื่อกี้ก็ว่าเหนื่อยจากการวิ่งหนีไอ้คนปากแข็งบนดาดฟ้าแล้ว นี่พี่ชมพู่ยังพาเหนื่อยอีกรอบเพราะความรีบร้อน ‘โอ้ย! ทำไมกันนะ ชีวิตของไอ้ธารน้ำคนนี้มักจะมีแต่เรื่องให้วิ่งเข้าใส่จังเลย’ เรียกประชุมอะไรเอาตอนนี้ แทนที่จะเรียกตั้งแต่เช

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 6 กลับมา

    บทที่ 6 กลับมาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่พี่ชมพู่กระซิบบอกเรื่องข่าววงในเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้บริหารคนใหม่ ธารน้ำก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของใครคนนั้น หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับอิตาลีไปแล้ว? ช่างเถอะ... มันไม่ใช่เรื่องของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกใจและทำให้ธารน้ำเป็นกังวลมากกว่าคือ ลูคัส ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุแล้วลูคัสมาส่งเขาที่คอนโด ชายหนุ่มคนนั้นก็หายตัวไปดื้อๆ เหมือนไม่เคยมีตัวตน ธารน้ำตั้งใจว่าจะติดต่อเขาเพื่อสอบถามเรื่องค่าซ่อมรถเก๋งที่โดนชนท้าย และค่าซ่อมมอเตอร์ไซค์ของเขาเองที่จู่ๆ ก็กลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่... แต่ก็ไม่รู้จะตามหาได้ที่ไหนไปดูที่ลานจอดรถของบริษัทก็ไม่เห็นรถสปอร์ตคันหรูของเขาเลย ‘เอ๊ะ! หรือว่าโดนไล่ออกไปแล้วนะ’ ความคิดผุดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง แต่ก็รีบสะบัดมันทิ้งไปว่าแล้วเขาก็กลับมาก้มหน้าทำงานของตัวเองต่ออย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงเรียกของพี่ชมพู่ที่ดังขึ้นข้างๆ“เจ้าเด็กๆ!”“ครับ?”ธารน้ำหันไปมองด้วยความสงสัยเต็มที่ เพราะอยู่ดีๆ พี่ชมพู่ก็หันมาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและตกใจราวกับเพิ่งเจอเรื่องเหลือเชื่อมา

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด

    บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด หลังจากหาหมอเสร็จ ลูคัสก็ให้ลูกน้องจัดการขับรถมาส่งธารน้ำถึงหน้าคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว พอรถเก๋ง BMW จอดเทียบ เขาก็ลดกระจกแล้วพูดสั้นๆ ว่า “ถึงแล้ว” ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็วธารน้ำยืนงงอยู่หน้าคอนโด ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ‘อะไรเนี่ย... รีบไปไหนของเขา’ พลางหันกลับไปที่ลานจอดรถของอาคาร และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถมอไซด์เวสป้าคู่ใจสีเหลืองที่เขาตั้งชื่อเล่นว่า 'น้องฟักทอง' จอดอยู่ในช่องจอดเรียบร้อย ‘เอ๊ะ! เขารู้ได้ไงวะ ว่ารถเราจอดอยู่ตรงไหน แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้เขาเลิกสนใจความสงสัยนั้นไปในทันที ‘ช่างเถอะ! ขอขึ้นห้องนอนก่อนละกัน’ ว่าแล้วก็เดินกะเผลกๆ ตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 20 ทันทีทันทีที่เข้าห้อง ธารน้ำก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย วันนี้เจอศึกหนักมาทั้งวัน ทั้งเข้างานสาย รถชน เจ็บตัว แถมยังต้องมานั่งเถียงกับผู้ชายหน้าหล่อที่กวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีก ‘เอ๊ะ หรือเราจะโทรหาแม่ก่อนดี? ไม่สิ... อาบน้ำก่อนดีกว่า!’เขาใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ไม่ใช่อะไรนะ... ลีลาจ้า! เนอะ ตามประสาคนหล่อที่ดูดีทุกอณูอย่างเขา ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย! พออาบน้ำเส

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่

    บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่โห..รถอย่างสวย!ทันทีที่ธารน้ำก้าวขึ้นมานั่งในรถ เบาะหนังนุ่มนิ่มหอมกลิ่นใหม่ ๆ ทำเอาแทบอยากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียวแม่เจ้า... รถหรูขนาดนี้ คนขับก็หล่อ ลูกน้องยังดูดีอีก นี่มันชีวิตในฝันของใครสักคนแน่ ๆ แต่ทำไมมันดันเป็นเขานะ เขาเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบสำรวจเงียบ ๆ ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นบนสูทดี น้ำหอมแพง หน้าแบบนี้ไม่ได้อยู่แผนกเดียวกับพี่เพ็ญแน่ ๆ …แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ว่าแล้วก็เปิดบทสนทนาเลยดีกว่า“เอ่อ... คุณทำงานแผนกอะไรอ่ะ ถึงได้มีรถหรูแบบนี้?”เสียงถามเต็มไปด้วยความอยากรู้แบบเด็กซื่อ ๆ ที่พยายามทำเนียนไม่ให้ดูอยากรู้อยากเห็นจนเกินไป“ทำไมต้องบอก?”เสียงตอบกลับเรียบเฉย แต่แฝงรอยยิ้มมุมปากบาง ๆ“คุณจะเล่นตัวทำไมเนี่ย เราถามดี ๆ นะ ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนะ ยังไม่ตอบเลย”ธารน้ำเถียงเสียงอ่อย ๆ พร้อมทำหน้ามุ่ยนิด ๆ เหมือนงอน“ผู้จัดการ”คำตอบสั้น ๆ ทำเอาธารน้ำชะงักไปนิด แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคือลูกน้องทั้งสองที่นั่งข้างหน้าดีนกับคาลหันมามองหน้ากันผ่านกระจกมองหลังแทบจะพร้อมกันผู้จัดการ?ในเมื่อเจ้านายตัวจริงคือเจ้าของบริษัททั้งคน จะโกหกท

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status