LOGIN" มาคอส ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ " ร่างบางเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ รังสีบางอย่างกำลังแผ่ออกมาจากร่างสูง ดูคล้ายยมทูตกำลังมาตามเอาชีวิตเธอ
" ที่นี่บ้านฉัน ฉันจะอยู่ที่ไหนต้องรายงานเธอด้วยหรอ " เขาตอบห้วนๆ " เฮ้อ..ฉันผิดเองแหละที่ถาม " เคทถอนหายใจอย่างปลงๆ วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันไม่อยากทะเลาะอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ ร่างบางจึงเดินเลี่ยงออกมาเพื่อกลับขึ้นห้อง ในมือถือถุงกระดาษที่ซื้อมาจากข้างนอกพะรุงพะรังไปหมด " จะไปไหน! ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วรึไง " มาคอสเอื้อมมือไปคว้าแขนร่างบางไว้ ดวงตาคมมองเสื้อคลุมที่เธอสวมใส่อยู่อย่างพิจารณา " เอาเสื้อใครมาใส่! " เขาจำได้ว่าเสื้อคลุมแบบนี้เขาเคยให้กับลูกน้องคนสนิทไปสองสามคนแล้วมันมาอยู่บนตัวหญิงสาวได้ยังไง " เสื้อนี่หรอ ฉันยืมบอดี้การ์ดคุณมาน่ะ " " ไอ้บอดี้การ์ดคนนั้นมันเป็นใคร! " มาคอสตวาดเสียงดังจนหญิงสาวสะดุ้งโหยง " คุณเป็นอะไร ทำไมต้องเสียงดังด้วย " " ฉันถาม..ว่ามันเป็นใคร " ชายหนุ่มพยายามกลั้นอารมณ์ที่คุกรุ่นภายในใจ เอ่ยปากถามอย่างใจเย็นอีกครั้ง " ไม่รู้ จำหน้าไม่ได้แล้ว " เคทรู้สึกถึงความผิดปกติเลยไม่ตอบตามความจริง เธอไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนด้วยโดยเฉพาะตอนนี้ที่มาคอสเหมือนหมาบ้าเข้าไปทุกที จะแว้งกัดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ " ถอดออก! " มาคอสตวาดอีกรอบ เคทมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ สามีเธอไร้เหตุผลขนาดนี้เลยหรอ ถึงแม้ว่าจะเป็นสามีแค่ในนามก็เถอะ แต่ถ้าอยู่กับคนประสาทเสียแบบนี้ทุกวันต้องเป็นบ้าตามแน่ๆ " ถอดก็ถอดสิ ทำไมต้องตวาดเสียดังด้วยล่ะ " หญิงสาวบ่นเสียงไม่เบานัก มือบางค่อยๆปลดเสื้อคลุมออกอย่างระมัดระวังเพราะกลัวเสื้อผ้าจะยับ ของที่ไม่ใช่ของตัวเองในเมื่อยืมคนอื่นมาก็ต้องระวังเป็นพิเศษ พอได้เห็นชุดสีแดงตัวจิ๋วที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ข้างใน มาคอสก็ตาลุกวาวด้วยความโกรธ ดึงแขนของหญิงสาวแรงๆจนเสื้อคลุมหลุดไปกองกับพื้น " โอ๊ยยย ฉันเจ็บนะ คุณทำบ้าอะไรเนี้ย " หญิงสาวพยายามบิดแขนตัวเองออก แต่มือหนาดุจคีมเหล็กของมาคอสก็ไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ง่ายๆ " ใครใช้ให้เธอใส่เสื้อตัวนี้ออกไปข้างนอก ชอบนักใช่ไหมอ่อยผู้ชายน่ะ! " ชายหนุ่มดึงร่างบางให้เข้ามาใกล้ แต่เคทก็พยายามดิ้นจนหลุดออกไปได้ เธอขยับตัวออกไปยืนไกลๆจนมาคอสมองด้วยความโมโห รังเกียจนักใช่ไหม ถึงจะรังเกียจยังไงฉันก็เป็นผัวเธอทั้งทางนิตินัยและก็พฤตินัย ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีวันหนีฉันพ้นจนกว่าพ่อเธอจะส่งตัวพี่ชายของเธอมาให้ฉัน " เป็นบ้ารึไง! ก็ฉันไม่มีเสื้อใส่จะให้ทำยังไง ให้เดินแก้ผ้าออกไปเลยไหมล่ะ " หญิงสาวตวาดเสียงดังไม่แพ้กัน ตอนนี้เธอก็เริ่มมีอารมณ์โมโหแล้วเหมือนกัน คนอะไรใช้แต่อารณ์ไม่เคยใช้เหตุผลเลย " แก้ผ้าหรอ เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนี่ " พูดจบมาคอสก็สาวเท้าเข้ามาใกล้มือหนาคว้าไหล่บอบบางไว้แน่นก่อนจะพยายามถอดชุดตัวจิ๋วออกจากร่าง " กรี๊ดดดด " เคทกรีดร้องพยายามปัดป้องไม่ให้เขาทำได้สำเร็จ ไอ้คนป่าเถื่อน! ทำอะไรไม่อายฟ้าอายดิน ยืนอยู่กลางบ้านยังจะจับเธอถอดเสื้อผ้าอีก " มาคอส! คุณมีสติหน่อยสิ นี่มันกลางบ้านเลยนะ ไม่อายคนอื่นรึไง " " ทำไมฉันต้องอาย คนที่ต้องอายคือเธอต่างหาก " ชายหนุ่มจับร่างบางหันหลัง จากนั้นมือแกร่งก็กอดรัดจากทางด้านหลังไว้แน่น ริมฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วซอกคอขาวผ่อง " หรือจะลองเรียกคนอื่นๆเข้ามาดูบ้างก็ดี จะได้เห็นเวลาผัวเมียเค้าเอากันเนี้ยมันเป็นยังไง... " มาคอสเอ่ยเสียงเข้ม ริมฝีปากอุ่นขบเม้มที่ติ่งหูของหญิงสาวแรงๆทีนึง พลั๊วะ! " นายครับ! " ยังไม่ทันที่เจ้านายหนุ่มจะทำอะไรได้มากไปกว่านั้น ออกัสลูกน้องคนสนิทอีกคนก็เปิดประตูเข้ามาพอดี " มีอะไร! " เจ้านายหนุ่มถามเสียงห้วน เขาไม่ชอบให้มีอะไรมาขัดโดยเฉพาะในเวลาแบบนี้ ถ้าเรื่องที่จะรายงานไม่สำคัญจริงๆวันนี้คงต้องมีคนถูกทำโทษซะแล้ว " ผมเองครับ ที่เป็นคนเอาเสื้อคลุมให้นายหญิงใส่ " บอดี้การ์ดหนุ่มสารภาพผิดออกมา " แกนี่เองไอ้ออกัส! " " นายลงโทษผมเถอะครับอย่าลงโทษนายหญิงเลย " มาคอสได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาวไปด้วยความโกรธ ลูกน้องคนสนิทที่เขาไว้ใจกำลังพยายามปกป้องเมียของเขาอยู่ " มึงจะตีท้ายครัวกูหรอไอ้ออกัส! " พูดจบร่างสูงก็เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคำว่าผู้นำประจำตระกูลมันค้ำคอ มาคอสจึงถูกบังคับให้ฝึกการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าใครถ้าคิดจะเอาชนะเขาคงต้องรออีกนานหลายปีทีเดียว หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ใบหน้าหล่ออย่างจัง ออกัสเซไปด้านหลัง แต่ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่หลบไปไหนปล่อยให้เจ้านายลงไม้ลงมือกับตัวเองเพื่อระบายอารมณ์ " พอแล้วมาคอส พอแล้ว " เคทเห็นว่าเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่เลยวิ่งเข้าไปห้ามทับ ด้วยขนาดตัวที่เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดทำให้เธอไม่มีความสามารถมากพอที่จะเดินไปตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อหยุดเรื่องราวต่างๆลงได้ เธอจึงวิ่งอ้อมไปด้านหลัง มือบางโอบกอดชายหนุ่มไว้ไม่ให้ถึงตัวบอดี้การ์ดหนุ่มได้ " ใครก็ได้เข้ามานี่หน่อย บรูซ! นายอยู่ไหน เข้ามาช่วยห้ามหน่อย " นายหญิงคนสวยร้องเรียกลูกน้องคนสนิทอีกคนเข้ามา ไม่นานนักบอดี้การ์ดหลายคนก็วิ่งตรงมาที่ห้องโถง พร้อมๆกับแม่นมอาวุโสและสาวใช้บางส่วน หนึ่งในนั้นมีโมนาที่พยายามสอดส่องว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น . .สนามหญ้าของตระกูลลูอิซถูกตัดแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้บรรดานายท่านตัวน้อยได้มาวิ่งเล่นบรรดาพี่เลี้ยง สาวใช้ และบอดี้การ์ด ต่างรับหน้าที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ ผู้ดูแล และผู้รับใช้ในคราวเดียวกัน" โอ้ยยย คุณๆหยุดวิ่งเถอะค่ะ นมเวียนหัวจะแย่แล้ว " แม่นมอาวุโสที่มีอายุยืนยาวจนได้เลี้ยงลูกชายของมาคอสนั่งดมยาดมอยู่บนเก้าอี้หลังจากเล่นกับเด็กๆมาเป็นเวลานาน คาร์ล ลูอิซ ลูกชายคนโตในวัย 5 ขวบ วิ่งเข้ามาหานมพร้อมกับยื่นพัดลมให้ เด็กชายเป็นเด็กที่ฉลาด รู้จักเอาใจคนรอบข้าง จนทุกคนพากันหลงรัก" ตายแล้ววว เป็นเด็กดีจริงๆเลยนายท่านคาร์ล " หญิงอาวุโสลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน" แด๊ดดี้กับมัมมี่ไปไหน " ลูกชายคนรองของมาคอส คาเลน ลูอิซ ถามขึ้น เมื่อไม่เห็นแม่ลงมาเล่นด้วย" เอ่ออ " สาวใช้ทุกคนต่างทำท่าอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงดี" เฮอะ..แด๊ดดี้ก็คงขโมยตัวมัมมี่ไปอีกนั่นแหละ " คาร์ลพูดเสียงขึ้นจมูกอย่างอารมณ์เสีย ตั้งแต่ที่เขาจำความได้ เขากับพ่อก็แข่งกันแย่งความโปรดปรานจากแม่มาโดยตลอด จนมีน้องๆคลานตามออกมาอีก 4 คน ถึงได้เพิ่งเข้าใจว่าพ่อไม่มีทางปล่อยแม่มาให้พวกเขาหรอก " มัมมี่ๆๆ " คาเลนที่ยังไม่รู้สถานการณ์โบกมื
อุแว้~เสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้นระงม เหล่าพี่เลี้ยงและสาวใช้ต่างรีบวิ่งซอยเท้าเข้าไปที่ห้องนอนเด็ก พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเด็กทารกกำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อยู่ในเปล " ตายแล้ว นายน้อยร้องไห้ใหญ่เลย "" รีบๆปลอบเร็วเข้า ก่อนที่นายท่านจะกลับมา " " สงสัยนายน้อยจะหิวนม " พี่เลี้ยงพากันมองหน้าเด็กน้อยที่แผดเสียงร้องระงมจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด" เกิดอะไรขึ้น " ร่างเพรียวระหงเปิดประตูเข้ามาพอดี แม้เคทจะเป็นคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานแต่ไม่น่าเชื่อที่เธอยังคงมีรูปร่างที่สวยงามและเย้ายวนอยู่เหมือนเดิม มิน่า..นายท่านตระกูลลูอิซถึงได้รักได้หลงขนาดนี้" นายน้อยน่าจะหิวนมค่ะ " พี่เลี้ยงอุ้มเด็กทารกส่งให้เคท เธอมองหน้าลูกชายที่อยู่ในอ้อมอก เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เด็ก สงสัยคราวนี้เชื้อพ่อจะแรงล่ะมั้ง" ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไปพักผ่อนกันเถอะ " เด็กน้อยเมื่อได้รับความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ก็หยุดร้องไห้โวยวายทันทีเคทอุ้มลูกชายของเธอเข้าเต้าเพื่อให้เขาได้ดูดนมจากอกอิ่มจ๊วบบ จ๊วบบ จ๊วบบเด็กน้อยดูดนมเสียงดัง อย่างหิวกระหาย สักพักพอเริ่มอิ่มหนังตาก็เริ่มหนัก นอนหลับคาอกของแม่ทันทีผลัวะ!" ยังไม่อิ่
บอดี้การ์ดมาคอสพาทั้งสองคนมาจนถึงสะพานสูงกลางแม่น้ำ เคนจัดการมัดมือมัดเท้ามาร์ชอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เขาหลุดไปไหนได้ พร้อมทั้งใช้หินก้อนใหญ่ถ่วงขาไว้" มึงปล่อยกู! " มาร์ชดิ้นรนขัดขืนเพื่อเอาตัวรอด" มึงอยู่เฉยๆดีกว่า ยังไงวันนี้มึงก็ต้องตายแทนกู "" ไอ้เคน! ถ้ากูตายกูมึงคิดว่ามึงจะรอดหรอ ไอ้มาคอสไม่เก็บมึงไว้แน่! " มาร์ชดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้น" ถ้ามึงตายกูถึงจะมีโอกาสรอด " " อโหสิได้กูนะมาร์ช กูไม่ได้อยากจะฆ่ามึง แต่ก็ต้องทำจริงๆ " พูดจบเคนก็ใช้เท้าถีบร่างของมาร์ชลงไปในน้ำ" ไอ้เคนนนน! "ตู้ม!เสียงน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้างเนื่องจากมีของหนักตกลงไปมาคอสมองร่างที่จมดิ่งลงไปในน้ำอย่างเลือดเย็น นี่คือโทษที่แกควรจะได้รับ มาร์ช ออสซิสทีนี้ก็เหลืออีก 1 คน เขาคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับแกยังไงดี รอไม่นานหรอกเคน แกจะได้มีจุดจบที่ไม่ต่างกันแน่นอนก๊อกๆๆ" กูจัดการตามที่มึงบอกแล้วมาคอส ทีนี้มึงจะปล่อยกูไปแล้วใช่ไหม " เคนเดินมาเคาะกระจกที่รถตู้คันหรู มาคอสเปิดประตูรถออกทำให้เคนเจอเข้ากับสายตาดุดันของคนที่นั่งอยู่ในรถ" ใช่ กูจะปล่อยมึงไป ถ้ามึงวิ่งหนีออกไปได้ทัน " ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมป
" กูผิดไปแล้ว กูผิดไปแล้ว ยกโทษให้กูด้วย " เคนยกมือกราบกรานมาคอสอีกครั้ง" กูถูกมาร์ชบังคับ กูไม่ได้ตั้งใจที่จะจับเคทมาจริงๆนะ เคท..เธอให้อภัยฉันเถอะ " เมื่อขอร้องมาคอสไม่ได้ผล เคนก็หันมาขอร้องพี่สาวของตัวเองแทน" ไอ้ชั่วเคน! มึงคิดจะโยนความผิดให้กู แล้วหนีเอาตัวรอดคนเดียวหรอ " มาร์ชตะโกนแย้งขึ้นมาทันทีที่เคนพูดจบ" ก็กูพูดเรื่องจริง มึงบังคับให้กูไปจับเคทมาเองนี่ "" แต่ที่มึงทำก็เพราะต้องการยาจากกูไง มึงมันทั้งโลภ ทั้งติดยา ต่อให้กูไม่บอกมึงก็คงเต็มใจประเคนเมียไอ้มาคอสให้กูอยู่ดีนั่นแหละ " สองสามีภรรยานั่งมองเคนกับมาร์ชเถียงกันเอง พอเสียประโยชน์เข้าหน่อยแต่ละคนก็แว้งกัดกันเหมือนหมาทันที" ไม่จริง! ฉันไม่คิดจะทำแบบนั้น จริงๆนะเคท " " ฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจได้ ถ้าอยากรอดนายก็ขอร้องมาคอสแล้วกัน " เคทโยนเรื่องวุ่นวายทั้งหมดให้สามีจัดการ ตอนนี้เธอปวดระบบไปทั้งตัวไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งนั้น" กลับบ้านไปพักก่อนดีไหม เหนื่อยมาทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนิ " ชายหนุ่มสงสารภรรยาที่ต้องอุ้มท้องมาตกระกำลำบากด้วย" ก็ดีค่ะ ถ้างั้นคุณรีบกลับบ้านนะคะ " เคทกล่าวลาสามีแล้วขอตัวกลับก่อน
ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัก!ร่างของมาคอสกระเด็นไปตามแรงกระแทก ชายหนุ่มลุกขึ้นมาด้วยสภาพสะบักสะบอมและมีบาดแผลเต็มตัว เขาใช้หลังมือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก เลือดสีแดงฉานเปื้อนติดมือออกมาจนดูน่ากลัว ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเคทยังอยู่ในมือพวกมันอยู่" มาคอส... " เคทยืนมองสามีด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้มาคอสตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เธอไม่น่าพลาดถูกจับมาเป็นตัวประกันได้เลย" ซ้อมมันสิว่ะ ซ้อมมันอีก ฮ่าฮ่าฮ่า " มาร์ชหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เหมือนเค้าจะยังไม่พอใจเท่าไหร่นัก เขาต้องการให้มาคอสล้มลงตรงหน้าแทบเท้าเขา อยากได้ยินเสียงอ้อนวอนร้องขอชีวิตจากมัน ถึงจะสาสมกับความแค้นที่โดนมาตลอดทั้งชีวิตตุบ! ร่างสูงโดนเตะเข้าที่หลังข้อพับ ทำให้เข่าข้างหนึ่งทรุดตัวลงกับพื้น ต่อด้วยการเตะเข้าที่กลางหน้าท้อง จนมาคอสงอตัวลงกับพื้นด้วยความจุก " หยุดๆๆ พอแล้วๆ " เคทกำลังจะถลาเข้าไปหาร่างสูงแต่กลับถูกมาร์ชรวบตัวเอาไว้ก่อน มาคอสเงยหน้าขึ้นมองภรรยาสาว แก้มและจมูกเธอแดงก่ำจากการร้องไห้ น้ำตาที่ไหลรินออกจากดวงตาคู่งามยังไม่เหือดแห้งไปจากแก้มทั้งสองข้าง" ปล่อยฉัน! ปล่อย
ร่างสูงเข้าไปตะลุมบอนกับลูกน้องคนสนิทมาร์ช มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะเหวี่ยงไปกระแทกใบหน้าคู่ต่อสู้จนถลาล้มลงกับพื้น" ไอ้มาคอส มึง! " ผู้ชายคนนั้นหันมาเหวี่ยงหมัดใส่ร่างสูงบ้าง มาคอสหลบหมัดลุนๆได้อย่างหวุดหวิดก่อนจะสวนกลับอย่างรวดเร็ว กำปั้นหนักกระแทกโดนใบหน้าอย่างจังจนล้มลงไปนอนกับพื้น " มึงงง!! " พอเห็นเพื่อนล้มลงไป ลูกน้องคนสนิทอีกคนของมาร์ชก็ใช้กระบองที่ถือมาด้วย ฟาดไปที่ร่างของชายหนุ่ม แต่ความเร็วนั้นก็ยังน้อยกว่ามาคอสที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี เขาก้าวถอยหลังเพื่อหลบความยาวของกระบอง ก่อนจะใช้เท้าเตะกระบองออกให้หลุดออกจากมืออีกฝ่าย ตามด้วยการใช้วิชาต่อสู้ที่เรียนมาแต่เด็กถีบเข้าที่กลางลำตัวคู่ต่อสู้ ถึงแม้จะไม่มีปืน แต่ถ้าหากสู้ในระยะประชั้นชิดนับว่ามาคอสได้เปรียบอยู่มากทีเดียวปัง!เสียงปืนที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาแต่ละคนรีบหลบเพื่อเอาตัวรอด มาคอสเหลือบไปเห็นบรูซโดนยิงนอนจมกองเลือดอยู่ทางด้านหลัง คาดว่ากระสุนนัดเมื่อกี้คงจะตั้งใจยิงเพื่อเอาชีวิตมาคอส แต่โชคดีที่บรูซเอาตัวเองเข้ามาขวางไว้เขาถึงไม่เป็นอะไร" ไอ้บรูซ! " เจ้านายหนุ่มลากบอดี้การ์ดคนสนิทเข้ามา บรูซลืมตาขึ้น แม้จะเสียเลือดแต







