 LOGIN
LOGINเขายื่นคำขาดให้ส่งหญิงสาวคนหนึ่งในตระกูลคอทลินไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ใครบ้างจะไม่รู้ว่านี่เป็นกับดัก ไม่มีทางที่ตระกูลคอทลินจะส่งลูกสาวสุดที่รักไปเด็ดขาด ดังนั้นใครจะเหมาะสมไปมากกว่าลูกนอกกฏหมายกัน
View Moreแสงไฟสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วงาน หยดน้ำที่เกาะบนดอกกุหลาบสีขาวเมื่อกระทบแสงไฟส่องแสงระยิบระยับเป็นประกาย
ภาพที่แสนสวยงาม บรรยากาศที่อบอุ่น บวกกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลั่งไหลกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี ช่างเป็นความทรงจำที่น่ายินดีสำหรับคู่บ่าวสาว ฉับพลันประตูบานใหญ่ก็เปิดขึ้น เรียวขายาวระหงเดินก้าวออกมา บนกายประดับด้วยชุดเดรสยาวสีขาวสะอาด ผมดำขลับถูกม้วนขึ้นไปกลางศีรษะ แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าเนื่องจากบนศีรษะถูกคลุมด้วยผ้าบางๆสีขาวไว้ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเจ้าสาวน่าจะเป็นหญิงสาวที่งดงามมากคนหนึ่ง " เจ้าสาวเดินเข้ามาในงานแล้ว ไหนเจ้าบ่าวล่ะ " เสียงซุบซิบดังมาจากบรรดาแขกเรื่อ " นั่นสิ.ได้ข่าวว่างานนี้ฝั่งตระกูลลูอิซเอ่ยปากขอแต่งงานกับตระกูลคอทลินเองไม่ใช่หรอ " " เธอไม่รู้อะไรน่ะสิ ที่ตระกูลลูอิซขอแต่งงานก็เพราะแค้นน่ะสิ " " ตายแล้ว!! แค้นเรื่องอะไรกัน " " ก็เรื่องลูกสาวคนเล็กของตระกูลลูอิซที่แต่งเข้าไปในตระกูลคอทลินน่ะสิ ได้ข่าวว่าตายอย่างปริศนา ตระกูลลูอิซโกรธมาก " " ถ้าอย่างนั้น การแต่งงานวันนี้ก็เพื่อแก้แค้นน่ะสิ " " ฉันว่าน่าจะใช่ ไม่อย่างนั้นจะแต่งงานทำไม ลำพังแค่ตระกูลลูอิซที่ยิ่งใหญ่ก็สามารถจัดการตะกูลคอทลินได้แล้วเพียงแค่พลิกผ่ามือ " " น่าสงสารเจ้าสาว รู้ทั้งรู้ว่าแต่งเข้าไปยังไงก็อาจจะมีชีวิตรอดกลับมายาก แต่ก็ยังต้องแต่งเข้าไป " " นั่นน่ะสิ " เสียงกระซิบดังระงมไปทั่วงาน คำพูดทุกคนได้ยินเข้าโสตประสาททั้ง 2 ข้าง แต่เจ้าสาวก็ยังยืนนิ่งเฉยอยู่กลางเวทีอย่างสงบเสงี่ยม พลั๊ก!!! ฉับพลันประตูก็เปิดออกอย่างแรง ตามมาด้วยฝีเท้าหนักแน่นทรงพลัง ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย ไม่แสดงอาการใดๆ ด้านหลังของชายหนุ่มยังตามมาด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก ที่คาดว่าน่าจะเป็นบอดีการ์ดประจำตัว เจ้าบ่าวเดินเข้ามากลางงาน พลางกวาดตามองไปรอบๆ โอลิเวอร์ คอทลิน ประมุขตระกูลคอทลิน กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ก่อนจะค่อยๆยืนขึ้นเพื่อทักทายว่าที่ลูกเขย " คุณมาคอส... " มาคอส ลูอิซ มองประมุขคอทลินด้วยหางตา ก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ ทิ้งให้โอลิเวอร์ขบฟันอย่างโมโหที่ถูกทำให้เสียหน้า ร่างหนาเดินขึ้นเวทีไปอย่างช้าๆ สายตาจับจ้องมองไปที่ร่างบางที่กำลังจะเป็นผู้หญิงของเขาในไม่กี่นาทีข้างหน้า เท้ายาวก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาว มือหนากำลังจะเชยคางมนขึ้นมาเพื่อให้มองหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าสาวดึงป้าคลุมหน้าออกด้วยตนเองก่อนจะเงยหน้าสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าสวยหวานปรากฏอยู่ในสายตาของมาคอส ลูอิซ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองตาสีเม็ดอัลมอนด์อย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ชายหนุ่มจะกระตุกรอยยิ้มร้ายเรียกให้คนที่มองเห็นถึงกับขนลุกเกรียว " ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตระกูลลูอิซ เจ้าสาวของฉัน " เสียงดังกังวานประกาศก้องก่อนที่มือหนาจะคว้าเอวบางยกร่างเล็กขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย " คุณจะทำอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ " เจ้าสาวหวีดร้องเล็กน้อยก่อนจะแย้ง " พาเธอเข้าสู่ตระกูลลูอิซไง " " แต่งานแต่งยังไม่เริ่ม คุณจะพาฉันออกไปแบบนี้ไม่ได้ " เคท คอทลิน เริ่มดิ้น " ทำไมจะไม่ได้ มีงานแต่งหรือไม่มีงานแต่งเธอก็ต้องไปกับฉันอยู่ดี พ่อเธอยกเธอให้ฉันแล้วสาวน้อย " เสียงหัวเราะในลำคอทำให้เคทขนลุกเกรียว มารร้ายในคราบซาตานอย่างเขาไม่สนใจกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น ทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถึงแม้งานแต่งครั้งนี้เธอจะเต็มใจมาเอง แต่ซาตานร้ายที่อยู่ตรงหน้าก็เกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้ เธอทราบดีว่าแต่งงานไปก็คงได้รับการดูแลที่ไม่ดีนัก หรืออาจจะถูกทรมานต่างๆนาๆ เพื่อระบายความเเค้นของตระกูลลูอิซ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองกับตระกูลคอทลินได้ บุญคุณครั้งนี้ตระกูลคอทลินต้องชดใช้ให้เธอเท่านั้น หญิงสาวเม้มปากแน่นรู้ดีว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์จึงได้หยุดดิ้นรน มาคอสมองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ก่อนจะกระดกยิ้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจทีเดียว " เธอคิดว่ากำลังจะได้เป็นนายหญิงของตระกูลลูอิซสินะ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก " " นายหญิงของตระกูลลูอิซหรอ หึ..น่าขำ คิดว่าคุณมีดีขนาดที่ชั้นต้องไขว่คว้ามาครอบครองรึไงกัน " คำพูดสบประมาททำให้มาคอสฉุนกึก เขาวางร่างบางลง มือหนาคว้าเข้าที่ปลายคางมนก่อนจะออกแรงบีบ " กล้าสบประมาทฉันคงไม่รู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น " " หึ..มาคอส ลูอิซ คุณมันก็แค่นี้แหละ เผื่อคุณจะไม่รู้ว่าไม่ได้มีผู้หญิงทุกคนหรอกนะที่อยากเข้าหาคุณ ผู้หญิงที่รังเกียจคุณก็มีเหมือนกัน " ร่างบางกระซิบเสียงเบา แม้ว่าเธอจะเต็มใจแต่งงานแทนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอพิสวาทซาตานอย่างเขาเสียเมื่อไหร่ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเองก็มีประโยชน์ต่อเธอไม่มีทางที่เธอจะเฉียดเข้าใกล้เด็ดขาด " เธอสินะ ผู้หญิงที่ว่า " ร่างสูงปรายยิ้มอย่างมารร้าย พลางเดาะลิ้นในปาก ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจกว่าที่คิด ก็ดี...จะได้สนุกหน่อย " ใช่ " " แคร์ คอทลิน เธอพยายามจะยั่วโมโหฉันใช่ไหม " เขาเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวเธอ ใช่ เธอสวมรอยเป็นแคร์เพื่อแต่งงานเข้ามาในตระกูลลูอิซ " ใช่ " เธอตอบอย่างไม่ลังเล มาคอสยิ้มมุมปาก มือหนาดึงร่างบางเข้ามาใกล้ก่อนจะบดขยี้เรียวปากของเธออย่างรุนแรง " อื้อ.. " เคทดิ้นยกมือขึ้นทุบกลางหลังของมาคอสดังปักแต่ก็ไม่สะเทือนร่างสูงเท่าไหร่ มือหนาบีบปลายคางให้เธออ้าปากก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปอย่างตระกละตระกราม มืออีกข้างก็ล็อกหลังศรีษะเธอไม่ให้ดิ้นไปไหนได้ จูบที่แสนยาวนานทำให้เคทหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนที่เธอกำลังจะหมดแรงมาคอสก็พลักร่างบางออก ขาที่อ่อนแรงทำให้เคทถึงกับเข่าอ่อนกลางเวที เธอปลายตาขึ้นมองซาตานร้ายอย่างแค้นเคือง แต่กลับเรียกรอยยิ้มขบขันจากชายหนุ่มแทน เขาสนใจในตัวเธอซะเเล้ว แคร์ คอทลิน " พาเจ้าสาวของฉันกลับคฤหาสน์ วันนี้มีอะไรสนุกรออยู่อีกเยอะ " สิ้นคำสั่งบอดีการ์ดจำนวนหนึ่งก็กรูกันเข้ามากึ่งลากกึ่งพยุงร่างบางให้เดินออกไปพร้อมกัน ใครบอกว่านี่เป็นการรับเจ้าสาวกลับบ้านกัน นี่มันนักโทษชัดๆ แขกเรื่อพากันมองอย่างตกตะลึงที่เห็นเจ้าบ่าวพาเจ้าสาวเดินออกจากงานไปโดยที่งานยังไม่ทันเริ่ม " อ้อ...ไม่ต้องเสนอหน้าไปหาฉันที่ตระกูลลูอิซ ถ้าฉันไม่ได้เรียก ส่วนลูกสาวของนาย ฉันขอก็แล้วกัน หึ.." มาคอสพูดต่อหน้าโอลิเวอร์และภรรยาก่อนจะเดินออกจากงานไป ทิ้งให้คนจัดงานถึงกับหน้าเสีย กัดฟันอย่างโมโห . . .สนามหญ้าของตระกูลลูอิซถูกตัดแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้บรรดานายท่านตัวน้อยได้มาวิ่งเล่นบรรดาพี่เลี้ยง สาวใช้ และบอดี้การ์ด ต่างรับหน้าที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ ผู้ดูแล และผู้รับใช้ในคราวเดียวกัน" โอ้ยยย คุณๆหยุดวิ่งเถอะค่ะ นมเวียนหัวจะแย่แล้ว " แม่นมอาวุโสที่มีอายุยืนยาวจนได้เลี้ยงลูกชายของมาคอสนั่งดมยาดมอยู่บนเก้าอี้หลังจากเล่นกับเด็กๆมาเป็นเวลานาน คาร์ล ลูอิซ ลูกชายคนโตในวัย 5 ขวบ วิ่งเข้ามาหานมพร้อมกับยื่นพัดลมให้ เด็กชายเป็นเด็กที่ฉลาด รู้จักเอาใจคนรอบข้าง จนทุกคนพากันหลงรัก" ตายแล้ววว เป็นเด็กดีจริงๆเลยนายท่านคาร์ล " หญิงอาวุโสลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน" แด๊ดดี้กับมัมมี่ไปไหน " ลูกชายคนรองของมาคอส คาเลน ลูอิซ ถามขึ้น เมื่อไม่เห็นแม่ลงมาเล่นด้วย" เอ่ออ " สาวใช้ทุกคนต่างทำท่าอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงดี" เฮอะ..แด๊ดดี้ก็คงขโมยตัวมัมมี่ไปอีกนั่นแหละ " คาร์ลพูดเสียงขึ้นจมูกอย่างอารมณ์เสีย ตั้งแต่ที่เขาจำความได้ เขากับพ่อก็แข่งกันแย่งความโปรดปรานจากแม่มาโดยตลอด จนมีน้องๆคลานตามออกมาอีก 4 คน ถึงได้เพิ่งเข้าใจว่าพ่อไม่มีทางปล่อยแม่มาให้พวกเขาหรอก " มัมมี่ๆๆ " คาเลนที่ยังไม่รู้สถานการณ์โบกมื
อุแว้~เสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้นระงม เหล่าพี่เลี้ยงและสาวใช้ต่างรีบวิ่งซอยเท้าเข้าไปที่ห้องนอนเด็ก พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเด็กทารกกำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อยู่ในเปล " ตายแล้ว นายน้อยร้องไห้ใหญ่เลย "" รีบๆปลอบเร็วเข้า ก่อนที่นายท่านจะกลับมา " " สงสัยนายน้อยจะหิวนม " พี่เลี้ยงพากันมองหน้าเด็กน้อยที่แผดเสียงร้องระงมจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด" เกิดอะไรขึ้น " ร่างเพรียวระหงเปิดประตูเข้ามาพอดี แม้เคทจะเป็นคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานแต่ไม่น่าเชื่อที่เธอยังคงมีรูปร่างที่สวยงามและเย้ายวนอยู่เหมือนเดิม มิน่า..นายท่านตระกูลลูอิซถึงได้รักได้หลงขนาดนี้" นายน้อยน่าจะหิวนมค่ะ " พี่เลี้ยงอุ้มเด็กทารกส่งให้เคท เธอมองหน้าลูกชายที่อยู่ในอ้อมอก เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เด็ก สงสัยคราวนี้เชื้อพ่อจะแรงล่ะมั้ง" ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไปพักผ่อนกันเถอะ " เด็กน้อยเมื่อได้รับความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ก็หยุดร้องไห้โวยวายทันทีเคทอุ้มลูกชายของเธอเข้าเต้าเพื่อให้เขาได้ดูดนมจากอกอิ่มจ๊วบบ จ๊วบบ จ๊วบบเด็กน้อยดูดนมเสียงดัง อย่างหิวกระหาย สักพักพอเริ่มอิ่มหนังตาก็เริ่มหนัก นอนหลับคาอกของแม่ทันทีผลัวะ!" ยังไม่อิ่
บอดี้การ์ดมาคอสพาทั้งสองคนมาจนถึงสะพานสูงกลางแม่น้ำ เคนจัดการมัดมือมัดเท้ามาร์ชอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เขาหลุดไปไหนได้ พร้อมทั้งใช้หินก้อนใหญ่ถ่วงขาไว้" มึงปล่อยกู! " มาร์ชดิ้นรนขัดขืนเพื่อเอาตัวรอด" มึงอยู่เฉยๆดีกว่า ยังไงวันนี้มึงก็ต้องตายแทนกู "" ไอ้เคน! ถ้ากูตายกูมึงคิดว่ามึงจะรอดหรอ ไอ้มาคอสไม่เก็บมึงไว้แน่! " มาร์ชดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้น" ถ้ามึงตายกูถึงจะมีโอกาสรอด " " อโหสิได้กูนะมาร์ช กูไม่ได้อยากจะฆ่ามึง แต่ก็ต้องทำจริงๆ " พูดจบเคนก็ใช้เท้าถีบร่างของมาร์ชลงไปในน้ำ" ไอ้เคนนนน! "ตู้ม!เสียงน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้างเนื่องจากมีของหนักตกลงไปมาคอสมองร่างที่จมดิ่งลงไปในน้ำอย่างเลือดเย็น นี่คือโทษที่แกควรจะได้รับ มาร์ช ออสซิสทีนี้ก็เหลืออีก 1 คน เขาคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับแกยังไงดี รอไม่นานหรอกเคน แกจะได้มีจุดจบที่ไม่ต่างกันแน่นอนก๊อกๆๆ" กูจัดการตามที่มึงบอกแล้วมาคอส ทีนี้มึงจะปล่อยกูไปแล้วใช่ไหม " เคนเดินมาเคาะกระจกที่รถตู้คันหรู มาคอสเปิดประตูรถออกทำให้เคนเจอเข้ากับสายตาดุดันของคนที่นั่งอยู่ในรถ" ใช่ กูจะปล่อยมึงไป ถ้ามึงวิ่งหนีออกไปได้ทัน " ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมป
" กูผิดไปแล้ว กูผิดไปแล้ว ยกโทษให้กูด้วย " เคนยกมือกราบกรานมาคอสอีกครั้ง" กูถูกมาร์ชบังคับ กูไม่ได้ตั้งใจที่จะจับเคทมาจริงๆนะ เคท..เธอให้อภัยฉันเถอะ " เมื่อขอร้องมาคอสไม่ได้ผล เคนก็หันมาขอร้องพี่สาวของตัวเองแทน" ไอ้ชั่วเคน! มึงคิดจะโยนความผิดให้กู แล้วหนีเอาตัวรอดคนเดียวหรอ " มาร์ชตะโกนแย้งขึ้นมาทันทีที่เคนพูดจบ" ก็กูพูดเรื่องจริง มึงบังคับให้กูไปจับเคทมาเองนี่ "" แต่ที่มึงทำก็เพราะต้องการยาจากกูไง มึงมันทั้งโลภ ทั้งติดยา ต่อให้กูไม่บอกมึงก็คงเต็มใจประเคนเมียไอ้มาคอสให้กูอยู่ดีนั่นแหละ " สองสามีภรรยานั่งมองเคนกับมาร์ชเถียงกันเอง พอเสียประโยชน์เข้าหน่อยแต่ละคนก็แว้งกัดกันเหมือนหมาทันที" ไม่จริง! ฉันไม่คิดจะทำแบบนั้น จริงๆนะเคท " " ฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจได้ ถ้าอยากรอดนายก็ขอร้องมาคอสแล้วกัน " เคทโยนเรื่องวุ่นวายทั้งหมดให้สามีจัดการ ตอนนี้เธอปวดระบบไปทั้งตัวไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งนั้น" กลับบ้านไปพักก่อนดีไหม เหนื่อยมาทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนิ " ชายหนุ่มสงสารภรรยาที่ต้องอุ้มท้องมาตกระกำลำบากด้วย" ก็ดีค่ะ ถ้างั้นคุณรีบกลับบ้านนะคะ " เคทกล่าวลาสามีแล้วขอตัวกลับก่อน
ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัก!ร่างของมาคอสกระเด็นไปตามแรงกระแทก ชายหนุ่มลุกขึ้นมาด้วยสภาพสะบักสะบอมและมีบาดแผลเต็มตัว เขาใช้หลังมือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก เลือดสีแดงฉานเปื้อนติดมือออกมาจนดูน่ากลัว ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเคทยังอยู่ในมือพวกมันอยู่" มาคอส... " เคทยืนมองสามีด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้มาคอสตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เธอไม่น่าพลาดถูกจับมาเป็นตัวประกันได้เลย" ซ้อมมันสิว่ะ ซ้อมมันอีก ฮ่าฮ่าฮ่า " มาร์ชหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เหมือนเค้าจะยังไม่พอใจเท่าไหร่นัก เขาต้องการให้มาคอสล้มลงตรงหน้าแทบเท้าเขา อยากได้ยินเสียงอ้อนวอนร้องขอชีวิตจากมัน ถึงจะสาสมกับความแค้นที่โดนมาตลอดทั้งชีวิตตุบ! ร่างสูงโดนเตะเข้าที่หลังข้อพับ ทำให้เข่าข้างหนึ่งทรุดตัวลงกับพื้น ต่อด้วยการเตะเข้าที่กลางหน้าท้อง จนมาคอสงอตัวลงกับพื้นด้วยความจุก " หยุดๆๆ พอแล้วๆ " เคทกำลังจะถลาเข้าไปหาร่างสูงแต่กลับถูกมาร์ชรวบตัวเอาไว้ก่อน มาคอสเงยหน้าขึ้นมองภรรยาสาว แก้มและจมูกเธอแดงก่ำจากการร้องไห้ น้ำตาที่ไหลรินออกจากดวงตาคู่งามยังไม่เหือดแห้งไปจากแก้มทั้งสองข้าง" ปล่อยฉัน! ปล่อย
ร่างสูงเข้าไปตะลุมบอนกับลูกน้องคนสนิทมาร์ช มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะเหวี่ยงไปกระแทกใบหน้าคู่ต่อสู้จนถลาล้มลงกับพื้น" ไอ้มาคอส มึง! " ผู้ชายคนนั้นหันมาเหวี่ยงหมัดใส่ร่างสูงบ้าง มาคอสหลบหมัดลุนๆได้อย่างหวุดหวิดก่อนจะสวนกลับอย่างรวดเร็ว กำปั้นหนักกระแทกโดนใบหน้าอย่างจังจนล้มลงไปนอนกับพื้น " มึงงง!! " พอเห็นเพื่อนล้มลงไป ลูกน้องคนสนิทอีกคนของมาร์ชก็ใช้กระบองที่ถือมาด้วย ฟาดไปที่ร่างของชายหนุ่ม แต่ความเร็วนั้นก็ยังน้อยกว่ามาคอสที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี เขาก้าวถอยหลังเพื่อหลบความยาวของกระบอง ก่อนจะใช้เท้าเตะกระบองออกให้หลุดออกจากมืออีกฝ่าย ตามด้วยการใช้วิชาต่อสู้ที่เรียนมาแต่เด็กถีบเข้าที่กลางลำตัวคู่ต่อสู้ ถึงแม้จะไม่มีปืน แต่ถ้าหากสู้ในระยะประชั้นชิดนับว่ามาคอสได้เปรียบอยู่มากทีเดียวปัง!เสียงปืนที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาแต่ละคนรีบหลบเพื่อเอาตัวรอด มาคอสเหลือบไปเห็นบรูซโดนยิงนอนจมกองเลือดอยู่ทางด้านหลัง คาดว่ากระสุนนัดเมื่อกี้คงจะตั้งใจยิงเพื่อเอาชีวิตมาคอส แต่โชคดีที่บรูซเอาตัวเองเข้ามาขวางไว้เขาถึงไม่เป็นอะไร" ไอ้บรูซ! " เจ้านายหนุ่มลากบอดี้การ์ดคนสนิทเข้ามา บรูซลืมตาขึ้น แม้จะเสียเลือดแต

Comments