เขายื่นคำขาดให้ส่งหญิงสาวคนหนึ่งในตระกูลคอทลินไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ใครบ้างจะไม่รู้ว่านี่เป็นกับดัก ไม่มีทางที่ตระกูลคอทลินจะส่งลูกสาวสุดที่รักไปเด็ดขาด ดังนั้นใครจะเหมาะสมไปมากกว่าลูกนอกกฏหมายกัน
ดูเพิ่มเติมแสงไฟสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วงาน หยดน้ำที่เกาะบนดอกกุหลาบสีขาวเมื่อกระทบแสงไฟส่องแสงระยิบระยับเป็นประกาย
ภาพที่แสนสวยงาม บรรยากาศที่อบอุ่น บวกกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลั่งไหลกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี ช่างเป็นความทรงจำที่น่ายินดีสำหรับคู่บ่าวสาว ฉับพลันประตูบานใหญ่ก็เปิดขึ้น เรียวขายาวระหงเดินก้าวออกมา บนกายประดับด้วยชุดเดรสยาวสีขาวสะอาด ผมดำขลับถูกม้วนขึ้นไปกลางศีรษะ แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าเนื่องจากบนศีรษะถูกคลุมด้วยผ้าบางๆสีขาวไว้ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเจ้าสาวน่าจะเป็นหญิงสาวที่งดงามมากคนหนึ่ง " เจ้าสาวเดินเข้ามาในงานแล้ว ไหนเจ้าบ่าวล่ะ " เสียงซุบซิบดังมาจากบรรดาแขกเรื่อ " นั่นสิ.ได้ข่าวว่างานนี้ฝั่งตระกูลลูอิซเอ่ยปากขอแต่งงานกับตระกูลคอทลินเองไม่ใช่หรอ " " เธอไม่รู้อะไรน่ะสิ ที่ตระกูลลูอิซขอแต่งงานก็เพราะแค้นน่ะสิ " " ตายแล้ว!! แค้นเรื่องอะไรกัน " " ก็เรื่องลูกสาวคนเล็กของตระกูลลูอิซที่แต่งเข้าไปในตระกูลคอทลินน่ะสิ ได้ข่าวว่าตายอย่างปริศนา ตระกูลลูอิซโกรธมาก " " ถ้าอย่างนั้น การแต่งงานวันนี้ก็เพื่อแก้แค้นน่ะสิ " " ฉันว่าน่าจะใช่ ไม่อย่างนั้นจะแต่งงานทำไม ลำพังแค่ตระกูลลูอิซที่ยิ่งใหญ่ก็สามารถจัดการตะกูลคอทลินได้แล้วเพียงแค่พลิกผ่ามือ " " น่าสงสารเจ้าสาว รู้ทั้งรู้ว่าแต่งเข้าไปยังไงก็อาจจะมีชีวิตรอดกลับมายาก แต่ก็ยังต้องแต่งเข้าไป " " นั่นน่ะสิ " เสียงกระซิบดังระงมไปทั่วงาน คำพูดทุกคนได้ยินเข้าโสตประสาททั้ง 2 ข้าง แต่เจ้าสาวก็ยังยืนนิ่งเฉยอยู่กลางเวทีอย่างสงบเสงี่ยม พลั๊ก!!! ฉับพลันประตูก็เปิดออกอย่างแรง ตามมาด้วยฝีเท้าหนักแน่นทรงพลัง ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย ไม่แสดงอาการใดๆ ด้านหลังของชายหนุ่มยังตามมาด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก ที่คาดว่าน่าจะเป็นบอดีการ์ดประจำตัว เจ้าบ่าวเดินเข้ามากลางงาน พลางกวาดตามองไปรอบๆ โอลิเวอร์ คอทลิน ประมุขตระกูลคอทลิน กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ก่อนจะค่อยๆยืนขึ้นเพื่อทักทายว่าที่ลูกเขย " คุณมาคอส... " มาคอส ลูอิซ มองประมุขคอทลินด้วยหางตา ก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ ทิ้งให้โอลิเวอร์ขบฟันอย่างโมโหที่ถูกทำให้เสียหน้า ร่างหนาเดินขึ้นเวทีไปอย่างช้าๆ สายตาจับจ้องมองไปที่ร่างบางที่กำลังจะเป็นผู้หญิงของเขาในไม่กี่นาทีข้างหน้า เท้ายาวก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาว มือหนากำลังจะเชยคางมนขึ้นมาเพื่อให้มองหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าสาวดึงป้าคลุมหน้าออกด้วยตนเองก่อนจะเงยหน้าสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าสวยหวานปรากฏอยู่ในสายตาของมาคอส ลูอิซ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองตาสีเม็ดอัลมอนด์อย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ชายหนุ่มจะกระตุกรอยยิ้มร้ายเรียกให้คนที่มองเห็นถึงกับขนลุกเกรียว " ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตระกูลลูอิซ เจ้าสาวของฉัน " เสียงดังกังวานประกาศก้องก่อนที่มือหนาจะคว้าเอวบางยกร่างเล็กขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย " คุณจะทำอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ " เจ้าสาวหวีดร้องเล็กน้อยก่อนจะแย้ง " พาเธอเข้าสู่ตระกูลลูอิซไง " " แต่งานแต่งยังไม่เริ่ม คุณจะพาฉันออกไปแบบนี้ไม่ได้ " เคท คอทลิน เริ่มดิ้น " ทำไมจะไม่ได้ มีงานแต่งหรือไม่มีงานแต่งเธอก็ต้องไปกับฉันอยู่ดี พ่อเธอยกเธอให้ฉันแล้วสาวน้อย " เสียงหัวเราะในลำคอทำให้เคทขนลุกเกรียว มารร้ายในคราบซาตานอย่างเขาไม่สนใจกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น ทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถึงแม้งานแต่งครั้งนี้เธอจะเต็มใจมาเอง แต่ซาตานร้ายที่อยู่ตรงหน้าก็เกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้ เธอทราบดีว่าแต่งงานไปก็คงได้รับการดูแลที่ไม่ดีนัก หรืออาจจะถูกทรมานต่างๆนาๆ เพื่อระบายความเเค้นของตระกูลลูอิซ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองกับตระกูลคอทลินได้ บุญคุณครั้งนี้ตระกูลคอทลินต้องชดใช้ให้เธอเท่านั้น หญิงสาวเม้มปากแน่นรู้ดีว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์จึงได้หยุดดิ้นรน มาคอสมองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ก่อนจะกระดกยิ้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจทีเดียว " เธอคิดว่ากำลังจะได้เป็นนายหญิงของตระกูลลูอิซสินะ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก " " นายหญิงของตระกูลลูอิซหรอ หึ..น่าขำ คิดว่าคุณมีดีขนาดที่ชั้นต้องไขว่คว้ามาครอบครองรึไงกัน " คำพูดสบประมาททำให้มาคอสฉุนกึก เขาวางร่างบางลง มือหนาคว้าเข้าที่ปลายคางมนก่อนจะออกแรงบีบ " กล้าสบประมาทฉันคงไม่รู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น " " หึ..มาคอส ลูอิซ คุณมันก็แค่นี้แหละ เผื่อคุณจะไม่รู้ว่าไม่ได้มีผู้หญิงทุกคนหรอกนะที่อยากเข้าหาคุณ ผู้หญิงที่รังเกียจคุณก็มีเหมือนกัน " ร่างบางกระซิบเสียงเบา แม้ว่าเธอจะเต็มใจแต่งงานแทนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอพิสวาทซาตานอย่างเขาเสียเมื่อไหร่ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเองก็มีประโยชน์ต่อเธอไม่มีทางที่เธอจะเฉียดเข้าใกล้เด็ดขาด " เธอสินะ ผู้หญิงที่ว่า " ร่างสูงปรายยิ้มอย่างมารร้าย พลางเดาะลิ้นในปาก ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจกว่าที่คิด ก็ดี...จะได้สนุกหน่อย " ใช่ " " แคร์ คอทลิน เธอพยายามจะยั่วโมโหฉันใช่ไหม " เขาเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวเธอ ใช่ เธอสวมรอยเป็นแคร์เพื่อแต่งงานเข้ามาในตระกูลลูอิซ " ใช่ " เธอตอบอย่างไม่ลังเล มาคอสยิ้มมุมปาก มือหนาดึงร่างบางเข้ามาใกล้ก่อนจะบดขยี้เรียวปากของเธออย่างรุนแรง " อื้อ.. " เคทดิ้นยกมือขึ้นทุบกลางหลังของมาคอสดังปักแต่ก็ไม่สะเทือนร่างสูงเท่าไหร่ มือหนาบีบปลายคางให้เธออ้าปากก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปอย่างตระกละตระกราม มืออีกข้างก็ล็อกหลังศรีษะเธอไม่ให้ดิ้นไปไหนได้ จูบที่แสนยาวนานทำให้เคทหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนที่เธอกำลังจะหมดแรงมาคอสก็พลักร่างบางออก ขาที่อ่อนแรงทำให้เคทถึงกับเข่าอ่อนกลางเวที เธอปลายตาขึ้นมองซาตานร้ายอย่างแค้นเคือง แต่กลับเรียกรอยยิ้มขบขันจากชายหนุ่มแทน เขาสนใจในตัวเธอซะเเล้ว แคร์ คอทลิน " พาเจ้าสาวของฉันกลับคฤหาสน์ วันนี้มีอะไรสนุกรออยู่อีกเยอะ " สิ้นคำสั่งบอดีการ์ดจำนวนหนึ่งก็กรูกันเข้ามากึ่งลากกึ่งพยุงร่างบางให้เดินออกไปพร้อมกัน ใครบอกว่านี่เป็นการรับเจ้าสาวกลับบ้านกัน นี่มันนักโทษชัดๆ แขกเรื่อพากันมองอย่างตกตะลึงที่เห็นเจ้าบ่าวพาเจ้าสาวเดินออกจากงานไปโดยที่งานยังไม่ทันเริ่ม " อ้อ...ไม่ต้องเสนอหน้าไปหาฉันที่ตระกูลลูอิซ ถ้าฉันไม่ได้เรียก ส่วนลูกสาวของนาย ฉันขอก็แล้วกัน หึ.." มาคอสพูดต่อหน้าโอลิเวอร์และภรรยาก่อนจะเดินออกจากงานไป ทิ้งให้คนจัดงานถึงกับหน้าเสีย กัดฟันอย่างโมโห . . .หญิงสาวนั่งหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์อยู่บนโซฟาตัวเดิม เมื่อวานไม่นึกว่าจะเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกทีมาคอสก็หนีไปทำงานอีกแล้ว เพราะฉะนั้นคืนนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่หลับไปก่อนเด็ดขาด" ขอกาแฟอีกแก้วค่ะ " เคทร้องเรียกให้สาวใช้มาเติมกาแฟ แน่นอนว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งโดปกาแฟอยู่บนโซฟา เพื่อที่จะรอให้ชายหนุ่มกลับมา ดูซิว่าวันนี้ใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน ฮึ่ม!" เติมอีกหรอคะ แต่ว่านายหญิงดื่มไปหลายแก้วแล้วนะคะ " สาวใช้เอ่ยเตือน" ไม่เป็นไรหรอกมารีน ไม่ว่ายังไงก็ตามวันนี้ฉันจะไม่หลับก่อนเด็ดขาด " คราวนี้เธอมุ่งมั่นและตั้งใจมาก เพราะทนกับพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ไหวแล้ว" ค่ะ ค่ะ แต่ระวังคืนนี้จะนอนไม่หลับเอานะคะ " ถึงแม้จะบ่นไปพลางแต่สาวใช้คนสวยก็ยังรินกาแฟใส่แก้วให้อยู่ดี" ขอบใจจ๊ะ เสร็จแล้วเธอก็ไปพักผ่อนได้เลยนะ เดี๋ยวฉันอยู่เอง " เคทเอ่ยปากไล่สาวใช้คนสวยให้ไปพักผ่อนเมื่อหันไปเห็นนาฬิกาบอกเวลา 5 ทุ่มกว่าแล้ว " ค่ะ " เมื่อไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน คฤหาสน์หลังใหญ่ก็ดูเงียบเหงาลงทันที ปกติแล้วคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็มีเพียง มาคอส เคทและแม่นมอาวุโสเท่านั้น ส่วนสาวใช้จะมีที่พักหลังคฤหาสน์ และสำหรับบอดี้การ์ดจะได้ร
เเสงแดดอ่อนตอนเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบร่างบางที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหน้าอย่างสบายอารมณ์ หญิงสาวลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจซ้ายขวา ขาเรียวยาวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ มือบางดันผ้าม่านทึบออกเพื่อเปิดทางให้แสงแดดส่องเข้ามามากขึ้นวันนี้อากาศดีจริงๆร่างบางรีบอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องเห็นสาวใช้กำลังเตรียมอาหารเช้ากันอย่างขมักเขม้น" รู้เรื่องรึเปล่าว่าเมื่อคืนนายท่านโกรธมากที่คุณมากาเร็ตเทน้ำใส่มือนายหญิง ถึงขั้นตามไปเอาเรื่องถึงคฤหาสน์เล็กเลยนะ " สาวใช้คนหนึ่งกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงาน" ตายจริง! แล้วคุณมากาเร็ตเป็นอะไรมากรึเปล่า " " เห็นว่าโดนน้ำร้อนลวกเหมือนที่นายหญิงโดน แต่ไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหนนะ เช้านี้คฤหาสน์เล็กยังไม่เปิดประตูให้ใครเข้าไปเลย "" ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ก็คุณมากาเร็ตทำนายหญิงก่อน " " ใช่ ถ้างั้นก็หมายความว่านายท่านอยู่ข้างนายหญิงน่ะสิ ถ้างั้นเรื่องเมื่อวานที่เราไม่ช่วยนายหญิงจะถูกลงโทษรึเปล่านะ " สาวใช้รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา" นั่นสิ " " อ่ะแฮ่ม " เคทกระแอมขัดจังหวะ" อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหญิง " บรรดาสาวใช้รีบทำความเคารพเพราะกลัวความผิดที่ตน
ร่างสูงเดินตรงไปที่คฤหาสน์หลังเล็กด้วยอารมณ์โกรธ ยิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจของเจ้าของคฤหาสน์" วันนี้นะคะลูกสะใจมากเลย ป่านนี้ผิวหนังยัยนั่นคงถลอกปอกเปิกไปหมดล่ะ " มากาเร็ตหัวเราะเสียงดังหารู้ไม่ว่ากำลังจะนำภัยมาสู่ตัว" ทำไมลูกไม่เอาน้ำชาเทใส่หน้าไปเลยล่ะ หน้าสวยๆจะได้แหกไปเลย " ลิเดียพูดสนับสนุน" อุ้ย! นั่นสิค่ะ ลูกลืมคิดไป น่าเสียดายจริงๆรู้งี้เทราดหน้ามันจะดีกว่า " สิ้นเสียงพูดสองแม่ลูกก็หัวเราะอย่างชอบใจ คิดจะเข้ามาเป็นนายหญิงของตระกูลลูอิซไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก" กำลังพูดถึงใครอยู่หรอ ดูสนุกเชียว " เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขัดจังหวะขึ้น ลิเดียและมาการเร็ตหุบยิ้มฉับ เส้นขนพากันลุกเกรียวอย่างพร้อมเพรียง เพราะแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร" มาคอส! " " ใช่..ฉันเอง ตกใจอะไรกัน " " ปะ เปล่า " มากาเร็ตปฏิเสธหน้าซีด" หรอ...วันนี้ฉันได้ยินเรื่องสนุกๆมาด้วยสิ รู้ไหมว่าเรื่องอะไร " ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาหรู มือหนาลูบไล้โซฟาเนื้อดีอย่างแผ่วเบา สงสัยที่ผ่านมาเขาคงจะเลี้ยงพวกคนไร้ประโยชน์ไว้ดีเกินไปสินะ ให้กินดีอยู่ดีแต่กลับแว้งกัดเจ้าของ มันน่าจับถอนฟันให้ร
" เป็นไง เห็นแล้วรู้สึกตะลึงไปเลยใช่ม่ะ " มากาเร็ตถามอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ในบรรดาธุรกิจที่มีทั้งหมดของตระกูลเธอถูกมอบหมายให้รับผิดชอบธุรกิจอัญมณีและเพชรพลอย ตลอดจนเครื่องประดับทั้งหมดในร้านก็ต้องผ่านมือเธอทั้งนั้น" อ่ออ ก็ตะลึงอยู่พอสมควร " ตะลึงว่าไปสรรหาเพชรคุณภาพต่ำแบบนี้มาจากไหนกันน่ะสิไม่ว่า" เนี้ย เป็นบุญตาของเธอแล้วนะที่ได้เห็นเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ ใส่เลยสิเผื่อมันจะช่วยขับออร่าของความเป็นนายหญิงตระกูลลูอิซขึ้นมาได้บ้าง " มากาเร็ตแหน็บ" ไม่เป็นไรดีกว่าจ๊ะ พี่ว่าไว้ใส่วันหลังแล้วกันนะ " เคทรีบคว้ากล่องเครื่องเพชรมาปิดอย่างรวดเร็ว รับไม่ได้จริงๆกับการที่มาเห็นทั้งเพชรและการออกแบบที่ล้าสมัยขนาดนี้" ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวขึ้นไปพักข้างบนนะคะ " หญิงสาวเอ่ยขอตัวกลับก่อน ใจจริงวันนี้เธอตั้งใจไว้ว่าจะออกไปพบเพื่อนซักหน่อย แต่สองแม่ลูกนี่ก็กลับทำเสียเรื่องเสียนี่" เดี๋ยวสิ ฉันกับแม่อุตส่ามาเยี่ยม เธอจะไม่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเลี้ยงน้ำชากับขนมหน่อยหรอ " หะ! ฉันหูฝาดไปรึเปล่า สองแม่ลูกนี่อยากนั่งทานขนมกับเธอหรอ" อ่อออ เอางั้นก็ได้ ช่วยไปเตรียมน้ำชากับขนมทีจ๊ะ " เคทหันไปสั่งส
ตระกูลลูอิซเป็นตระกูลใหญ่ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักเนื่องจากผู้นำตะกูลคนก่อนได้นำพาตระกูลลูอิซเข้ามาบุกเบิกธุรกิจหลายประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งตัว เครื่องประดับนำเข้า และอื่นๆอีกมากมายการทำธุรกิจที่หลากหลายในเมื่อก่อนอาจจะไม่เป็นปัญหาเพราะคนในตระกูลมีจำนวนมากจึงสามารถช่วยกันบริหารได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานทายาทตระกูลลูอิซก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้บิดาของผู้ตระกูลคนปัจจุบันจะมีภรรยาหลายคนแต่จำนวนทายาทนั้นก็นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อนหนึ่งในนั้นก็คือมากาเร็ต ลูกสาวคนโตของตระกูลลูอิซที่เกิดจากภรรยาคนที่ 2 พวกเธออาศัยอยู่ในตระกูลลูอิซแต่ไม่ใช่คฤหาสน์ใหญ่ เนื่องจากตามกฎแล้วคฤหาสน์ใหญ่จะให้ผู้นำตระกูลและครอบครัวอยู่เท่านั้น ดังนั้นเมื่อสามีสิ้นชีพลงเธอกับลูกสาวก็จำเป็นต้องย้ายลงมาอยู่คฤหาสน์หลังเล็กแทน" คุณแม่คะคุณแม่ " หญิงสาวร่างบางแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีแดงสั้นคลุมทับด้วยเสื้อโค้ดสีแดงเดินเข้ามาในสวน " หืมม ว่าไงลูก " มารดาของเธอกำลังนั่งจิบชายามบ่ายรับอากาศเย็นหลังจากที่เพิ่งผ่านฝนมาเมื่อคืน" คุณแม่รู้ไหมว่าตึกใหญ่มีเรื่อง " มากาเร็ตเอ่ยถามขึ้
ช่วงเวลาเช้าตรูของทุกวันนายใหญ่เจ้าของบ้านจะต้องมาฝึกการต่อสู้เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับรับความเสี่ยงทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ธุรกิจที่ชายหนุ่มทำจะเป็นธุรกิจที่ขาวสะอาด แต่เมื่อเป็นเจ้าของธุรกิจก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะล่วงเกินผู้มีอำนาจใหญ่โตบางคนจนเกิดเรื่องทะเลาะหรือบาดหมางกันอยู่ร่ำไป เห็นได้จากการที่ตระกูลลูอิซมีบอดี้การ์ดฝีมือดีอยู่หลายร้อยคน ถ้าให้คนภายนอกมองเข้ามาก็เหมือนกับมาเฟียดีๆนี่เอง" วันนี้นายท่านยังไม่ลงมาหรอ " เสียงสาวใช้ที่ทำความสะอาดอยู่แถวโรงฝึกกระซิบกระซาบกัน ทุกเช้าเหล่าบรรดาสาวๆจะแย่งกันมาทำความสะอาดบริเวณนี้ เพราะนอกจากจะได้เห็นมัดกล้ามเนื้ออันเต่งตึงของนายท่านสุดหล่อแล้วก็ยังนับว่าเป็นการสร้างโอกาสให้ได้รับความโปรดปรานิีกด้วย ดีไม่ดีถ้านายท่านหลงรักเข้าอาจได้รับการยกย่องขึ้นเป็นเมียคนหนึ่ง ได้สบายไปทั้งชาติล่ะทีนี้" นั่นสิ ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน เมื่อวานก็ไม่ได้มานะ " สาวใช้อีกคนพูดขึ้น เมื่อวานหล่อนก็ได้มาทำความสะอาดบริเวณนี้เหมือนกัน หลังจากตบตีแย่งชิงกับบรรดาสาวๆคนอื่น แต่ก็ต้องผิดหวังไปเพราะเมื่อวานอยู่ๆเจ้านายก็ตื่นสายทำให้พลาดเวลาการฝึกในตอนเช้า สร้าง
ความคิดเห็น