MasukChapter 17 คนที่นั่งรอจันทร์สุดาถึงกับตาค้าง เมื่อคนที่ตนรอปรากฏกายให้เห็น จันทร์สุดาตอนนี้ต่างกับตอนกลางวันที่เขาเห็น ก่อนเปลี่ยนเป็นชุดนี้ เธอสวมใส่ชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีส้มอ่อนกับกระโปรงเสมอเข่าสีดำ ทว่าเวลานี้เธอกลายร่างเป็นเทพธิดา สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ศุภกฤษณ์มองเธอนิ่งนาน มองด้วยรอยยิ้ม มองอย่างชื่นชมจากหัวใจ จนคนถูกมองถึงกับเขิน ยิ้มเอียงอาย โดยที่จันทร์สุดาไม่รู้ตัวเลยว่า ความน่ามองคูณร้อยเท่า “วันนี้คุณสวยมากเลยนะ” เขาชมจากใจ “ต้องขอบคุณหมวยค่ะที่ให้สุดายืมชุดกับรองเท้า ไม่งั้นสุดาคงไม่ถูกคุณแทคชม” จันทร์สุดาออกตัว ยกความดีความชอบให้เจ้าของชุดสวย “ชุดสวยแต่ถ้าคนใส่ไม่สวย ชุดก็ไม่มีประโยชน์นะครับ คนต้องสวยด้วย” ศุภกฤษณ์พูดอย่างมีเหตุผล “เราไปกันดีกว่านะ ผมอยากให้เพื่อนอิจฉาผมจะแย่แล้ว ที่ควงคนสวยไปงาน” จันทร์สุดายิ้ม เดินเคียงคู่ศุภกฤษณ์ไปยังลิฟต์โดยสาร ที่จะนำทั้งสองไปยังชั้น 2A ชั้นลานจอดรถของอาคาร หลังจากทั้งสองนั่งประจำที่ในรถของศุภกฤษณ์ เจ้าของรถขับรถออกจากจุดจอด มุ่งตรงไปยังบ้านของเตมินทร์ แขกที่มาร่
Chapter 16เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงที่วัชรีพรหลับอยู่บนตักคนเป็นพ่อ ที่ไม่มีทีท่าว่าจะเมื่อย กลับให้ลูกสาวพักกายพักใจได้อย่างเต็มที่ รอเวลาวัชรีพรตื่นเอง“คุณพ่อ” วัชรีพรเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด“ตื่นแล้วเหรอลูกสาวพ่อ” น้ำเสียงยังคงอ่อนโยนเช่นเดิม“หมวยหลับไปนานไหมคะ คุณพ่อเมื่อยแย่”เธอพูดขณะทำท่าจะลงจากตักบิดา ทว่าอดิเทพกลับกอดร่างเธอไว้“หมวยนั่งทั้งวันพ่อยังไหวเลย” วัชรีพรยิ้ม หอมแก้มคนเป็นพ่อ“รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ”“พ่อก็รักหมวยที่สุดเหมือนกัน” สองพ่อลูกกอดกันกลม ขณะนั้นสุดาพรเดินมาหาทั้งสอง“หมวยตื่นแล้วเหรอ กินข้าวเลยดีกว่านะ เพราะคุณพ่อต้องกินยาหลังอาหาร”“ไปล้างหน้านะลูก เดี๋ยวจะได้มากินข้าวกัน พ่อให้ปูทำผัดพริกปลาดุกทอดที่หมวยชอบกินเพิ่มอีกอย่างด้วยนะ” อดิเทพบอกลูกสาว“ค่ะคุณพ่อ”วัชรีพรลุกจากตักบิดา เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ สุดาพรจึงตั้งสำรับสำหรับมื้อเย็น จังหวะนั้นสุนิสา ลูกสาวที่เกิดจากอดิเทพกับสุดาพรกลับมาถึงบ้านพอดี“พี่หมวย” สุนิสาเรียกชื่อพี่สาว วิ่งไปกอดด้วยความคิดถึง “คิดถึงจังเลย”“ปากหวานอีกแล้วนะ” วัชรีพรตอบกอดน้องสาว “คิดถึงอะไร เมื่อคืนยังโทรคุยกัน”“ก็ไม่ได้
Chapter 15“พรุ่งนี้วันเกิดเติร์ด แกเตรียมของขวัญแล้วหรือยัง” ธัญญาเรศเปลี่ยนเรื่องใหม่ “หมวยไปซื้อแล้วค่ะ ไปซื้อเมื่อวานไงคะ ไปกับสุดา” ได้ยินชื่อเล่นนี้ ความไม่พอใจของธัญญาเรศพุ่งอีกครั้ง “เรื่องยัยสุดาก็อีกคน เมื่อไหร่แกจะเลิกคบกับมันนะ มันทั้งจนทั้งมีอาชีพอย่างว่า แกจะคบมันให้เสียเกียรติทำไม มีแต่เกาะแกกิน” “สุดาไม่เคยเกาะหมวยกิน เวลาไปกินอะไรก็หารกันตลอด ไม่เคยยืมเงินหมวยเลยสักครั้งทั้งที่ครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงิน แล้วสุดาก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่หมวยอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด” วัชรีพรรู้ดีว่า จันทร์สุดาเป็นอย่างไร “แล้วสุดาก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างว่าด้วย แค่ทำงานในสถานที่ที่คนเข้าใจแบบนั้นแค่นั้นเองค่ะ” วัชรีพรพูดให้มารดากับยายหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่ทั้งสองเข้าใจ “แกเห็นมันดีกว่าฉันใช่ไหม ถึงไม่เลิกคบกับมัน” ธัญญาเรศเสียงเขียวใส่ “หมวยขอล่ะคะ หมวยถูกคุณแม่กับคุณยายบังคับให้ทำนู่นทำนี่มาตลอด ขอให้หมวยได้คบกับสุดาเป็นเพื่อน ตามใจหมวยเถอะค่ะ แค่เรื่องเดียวค่ะ”วัชรีพรเหนื่อยใจกับเรื่องนี้ไม่น้อย เธอต้องการให้มารดากับยาย ม
Chapter 14 “ได้ครับ เอาตามที่สุดาว่าก็ได้” ศุภกฤษณ์ตอบรับ “แหม...พรุ่งนี้เที่ยงฉันชักอยากมาร่วมแจมด้วยจัง” อีกคนที่นั่งฟังพูดแทรกขึ้น “แต่น่าเสียดาย ฉันมีนัดกับคุณอมรแล้ว” “ก็ไม่ใช่เรื่องยากนี่หว่า เราก็นัดกันเย็นนี้ดีไหม ให้สุดาทำกับข้าวให้เรากินไง ชวนหมวยกับไอ้สองตัวมาด้วยก็ได้ เจอกันที่บ้านฉัน” ศุภกฤษณ์หาโอกาสใกล้ชิดจันทร์สุดา “ดีเหมือนกันนะ” เตมินทร์เห็นด้วย “เย็นนี้สุดาว่างไหม ไปเป็นแม่ครัวที่บ้านผมได้ไหมครับ” ศุภกฤษณ์กล่าวชวน “เย็นนี้สุดาไม่ว่างค่ะ ต้องไปทำงานพิเศษที่รับไว้ค่ะ” จันทร์สุดาตอบตามจริง เตมินทร์ไม่ได้พูดอะไร กระตุกยิ้มโดยที่ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นส่วนศุภกฤษณ์ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะจันทร์สุดาบอกกับเขาว่า เธอมีงานพิเศษหลายอย่าง แต่งหน้าให้พี่สาวและพีอาร์หลายคนในคลับฟรอร่า วันเสาร์อาทิตย์ทำงานออกบูธสินค้าต่างๆ และเริ่มร้องเพลงในคลับต้นเดือนหน้าทุกวันพฤหัส เสาร์และอาทิตย์ “งั้นวันศุกร์นี้ คุณว่างไหม ผมจองตัวคุณไว้ก่อนเลย” “ว่างค่ะ” จันทร์สุดาตอบ “สรุปว่าวันศุกร์นะ ผมจะได้โทรชวนโฟมกั
Chapter 13 “ท่านรองไม่ได้มาจีบสุดาหรอกค่ะ ท่านรองเป็นเพื่อนคุณเติร์ดค่ะ คุณเติร์ดเป็นว่าที่คู่หมั้นเพื่อนสุดาค่ะ เมื่อวานท่านรองเลยแวะชวนไปกินข้าวเที่ยงค่ะ”ตอนแรกจันทร์สุดาไม่รู้ว่า ศุภกฤษณ์กับเตมินทร์เป็นเพื่อนกัน มารู้ตอนกินอาหาร ศุภกฤษณ์บอกรื่องนี้ให้ตนรู้ เธอยังคิดว่า โลกมันกลม “จริงแน่นะ ไม่ได้มาจีบสุดาแน่เหรอ” วาสนาถามอีกคล้ายไม่เชื่อ “นั่นสิ ถ้าไม่จีบเธอ แล้วจะมาชวนกินข้าวเที่ยงทำไม” รุ้งแก้วถามเพิ่ม มีความสงสัยไม่น้อย “แน่ค่ะ ท่านรองจะมาสนใจสุดาทำไมคะ สุดาไม่มีอะไรคู่ควรกับท่านรองได้เลย มีสาวสวยระดับเดียวกับท่านรองให้เลือกเยอะแยะ มันไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ ค่ะ” จันทร์สุดาเจียมตัวเสมอ แม้ในความเป็นจริง ศุภกฤษณ์ให้ความสนใจตนอย่างเปิดเผย เธอตั้งใจว่า จะบอกเขาตามตรง ไม่ให้ความหวัง สถานนะที่เป็นได้คือ เจ้านายลูกน้อง เพื่อน พี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น “สุดาทำงานก่อนนะคะ พี่นิดจะเอาสรุปบัญชีจัดซื้อวันนี้ สุดาต้องรีบทำค่ะ” เป็นการตัดการสนทนาไม่น่าเกลียด วาสนากับอีกสองสาวรีบถอนร่นกลับไปยังโต๊ะทำงานอีกตัว “พี่นิดเชื่อเหรอว่า ท่านรอ
Chapter 12 “นายเป็นลูกผู้ชาย อายุก็เลยยี่สิบปีแล้ว ทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องที่ทำ ไม่ใช่โยนภาระให้คนอื่นแบบนี้ ฉันถือว่าคนประเภทนี้เป็นหมา ที่เจ้าของต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเวลาพาออกไปเดินเล่น นายอยากเป็นอะไรล่ะ คนหรือหมาขี้เรื้อน” ฉัตรชัยถึงกับหน้าชา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ถูกต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้า ปกติยามถูกสร้อยทิพย์หรือจันทร์สุดาตำหนิ ก็จะมีบิดามารดาให้ท้าย ทว่าวันนี้ทั้งสองไม่อยู่บ้าน ไปฝึกลับสติปัญญาที่บ้านเจ๊พร กว่าจะกลับก็คงสว่าง จึงไม่มีใครคอยกันให้ ฉัตรชัยโต้ตอบอะไรไม่ได้มาก ทำได้เพียงแค่เดินหนีเข้าไปในห้องนอนของตน “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะ ที่จ่ายเงินให้สุดา” เมื่อทุกคนออกไปจากบ้าน จันทร์สุดายกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ“เรื่องแค่นี้เอง ฉันช่วยได้ฉันเลยช่วย” เตมินทร์ไม่เข้าใจตัวเองว่า เหตุใดต้องช่วยจันทร์สุดา เขาไม่ช่วยเธอก็ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเลย “ฉันทำความเข้าใจกับเธอข้อนึงนะว่า ที่ฉันช่วยเธอเพราะเห็นแก่หมวยกับแทค เพราะถ้าสองคนนี้รู้ว่า ฉันอยู่ในเหตุการณ์แล้วไม่ช่วยเธอ ทั้งที่ช่วยได้ สองคนนั้นด่าฉันเปิง แล้วอีกข้อคือ ไม่ต้องบอกเรื่องนี้ให้หมวยกับแทครู้







