Share

Chapter 7

last update Last Updated: 2025-12-11 03:37:35

Chapter 7

          จันทร์สุดาก้าวเท้าเข้ามาในห้างหรูย่านสี่แยกราช-ประสงค์ ห้างที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา มีสินค้าแบรนด์เนมแทบทุกแบรนด์ให้เลือกจับจ่าย เธอตรงดิ่งไปยังร้านกาแฟที่นัดหมายไว้กับวัชรีพร

          “เฮ้อ มาทันเวลานัดเป๊ะ” จันทร์สุดาพูดขณะหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้

          “แกนี่รักษาเวลาดีเหมือนเดิม”

          “ก็ต้องรักษาเวลาสิ มีนัดกับแกทีไร แกมาก่อนฉันทุกที แล้วนี่รอนานไหม”

          “มาก่อนแค่สิบนาทีเอง แกจะสั่งอะไรดื่มก่อนไหม ฉันสั่งให้”

          “ไม่ล่ะ ไปซื้อของกันเลยดีกว่า เผื่อแกเลือกนาน” คนพูดรู้นิสัยวัชรีพรดีว่าช่างเลือกมากแค่ไหน หากไม่ถูกใจจริงๆ ไม่มีทางซื้อ “ว่าแต่แกจะซื้ออะไร ฉันจะได้เล็งร้านให้แกถูก ขืนปล่อยให้แกเดินทุกร้าน ขาลากพอดี”

          เมื่อคืนนี้วัชรีพรโทรมาชวนไปซื้อของ จันทร์สุดาไม่ได้ถามรายละเอียดว่าไปซื้ออะไร เพื่อนชวนและเธอว่างพอดีจึงตกปากรับคำ

          “ฉันจะซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่เติร์ดน่ะ วันเกิดพี่เติร์ดวันมะรืน ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรให้ เพราะพี่เติร์ดคงมีหมดแล้ว ฉันก็เลยชวนแกมาช่วยคิด ช่วยเลือกไง” วัชรีพรบอกจุดประสงค์ให้จันทร์สุดารู้ “เนี่ย ถึงตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลย แกช่วยฉันคิดหน่อยนะ”

          “ฉันคิดว่า การให้ของขวัญใครสักคน หากคิดว่าคนนั้นคงมีแล้ว มันก็เป็นโจทย์ที่ยากมาก ที่จะหาของที่ไม่มีให้คนนั้นน่ะ ของขวัญคือการให้ เป็นน้ำใจจากคนให้มอบให้คนรับ แกอย่าคิดมากเลยว่า ของที่แกให้พี่เติร์ด เขาจะมีหรือไม่มี ฉันเชื่อว่า แกให้อะไรพี่เติร์ดก็ชอบทั้งนั้นแหละ“ จันทร์สุดาพูดในมุมของตน

          “ก็จริงนะ ฉันให้ด้วยใจ พี่เติร์ดต้องชอบแน่ๆ” วัชรีพรเห็นพ้องกับเพื่อนรัก “ว่าแต่ฉันจะซื้ออะไรให้พี่เติร์ดดีล่ะ ช่วยฉันคิดหน่อยสิสุดา”

          คนถูกร้องขอให้ช่วยทำหน้าคิดเดี๋ยวเดียวก็ตอบ

          “เนคไทไง พี่เติร์ดเป็นนักธุรกิจ ใส่สูทผูกไทเวลาไปทำงานหรือออกงาน ก็ต้องใช้เนคไทด้วย”

          “เออจริงด้วย ทำไมในหัวฉันไม่มีเนคไทอยู่เลย ทั้งที่เห็นพี่เติร์ดใส่บ่อยๆ”

          “งั้นไปหาซื้อเนคไทกัน ซื้อเสร็จจะได้ไปกินเตี๋ยวไก่ต่อ”

เมื่อมีเป้าหมายว่าจะซื้ออะไร สองสาวมุ่งตรงไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่มีเนคไทขาย แน่นอนว่าคนช่างเลือกอย่างวัชรีพรไม่ถูกใจเพียงแค่เข้าไปดูร้านแรก ต้องมีร้านที่สองและสามตามมา

          ในขณะที่จันทร์สุดากับวัชรีพรเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้เตมินทร์ คนที่กำลังได้ของขวัญเดินเข้ามาในตัวห้างหลังจากจอดรถเสร็จเรียบร้อย วันนี้เขามีนัดกินอาหารญี่ปุ่นกับศุภกฤษณ์ ทั้งคู่นัดเจอกันที่ร้านอาหาร ทว่าเพียงแค่ก้าวผ่านประตูห้างก็เห็นเพื่อนรักอยู่ห่างตนราวสิบเมตร เตมินทร์จึงเรียกเพื่อน ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังร้านนั้นพร้อมกัน

“วันนี้แกดูอารมณ์ดีนะ เจรจาเงินร้อยล้านพันล้านได้หรือไง” เตมินทร์ทักเมื่อเห็นเพื่อนเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“เจอสาวถูกใจ” ศุภกฤษณ์ตอบแบบไม่ปิดบัง “มองดูไกลๆ ว่ายิ้มสวยแล้ว พอได้มองใกล้ๆ สวยยิ่งกว่า หัวใจเต้นระรัวเลยมึง”

ได้ยินคำตอบเพื่อน เตมินทร์ชักอยากรู้ขึ้นมาว่า หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร ถึงทำให้ศุภกฤษณ์ตกอยู่ในอาการเพ้อฝันขนาดนี้ นับแต่รู้จักกันมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ศุภกฤษณ์แสดงออกว่า สนใจสาวรอยยิ้มสวยเป็นพิเศษ

“ใครวะ บอกหน่อยดิ อยากรู้” ศุภกฤษณ์พูดเช่นนี้ ไม่อยากรู้คงไม่ได้ คนถูกถามยังไม่ทันตอบ เสียงเรียกชื่อใครคนหนึ่งดังขึ้น เตมินทร์มองตามร่างศุภกฤษณ์ที่เดินไปหาเจ้าของชื่อนั้น

“สุดา” คนถูกเรียกหันมาพร้อมกับวัชรีพร

“คุณแทค” จันทร์สุดาเรียกชื่อเจ้านาย และเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่เห็นอีกคนด้านหลังเขา

เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสนิทที่ยิ้มไม่หุบ แถมหน้าระรื่นกับการพบเจอจันทร์สุดา เตมินทร์ตงิดใจว่า หญิงสาวยิ้มสวยอาจเป็นจันทร์สุดา

ใช่แน่เหรอวะ...ไม่น่าใช่นะ เพราะไม่เห็นจะยิ้มสวยตรงไหนเลย

ความคิดค้านในหัวเตมินทร์

“พี่เติร์ด” วัชรีพรยิ้มกว้าง ก้าวเดินมาหาว่าที่คู่หมั้น “พี่เติร์ดมาทำอะไรที่นี่คะ”

“พี่มีนัดกินอาหารญี่ปุ่นกับแทคน่ะ แล้วหมวยล่ะ มาซื้อของหรือครับ” เตมินทร์เห็นถุงกระดาษในมือวัชรีพร เขาจึงเดาไม่ยากค่ะ

“ใช่ค่ะ ซื้อเสร็จแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงใส

“แล้วสุดาล่ะ มาซื้ออะไร หรือว่ายังไม่ได้ของ” ศุภกฤษณ์ดีใจมากที่ได้เจอจันทร์สุดาโดยบังเอิญ

“สุดามาซื้อของเป็นเพื่อนหมวยค่ะ” จันทร์สุดาตอบ                                                               

“หมวยบอกว่า ซื้อของเสร็จแล้ว แล้วจะไปที่ไหนต่อหรือเปล่า ถ้าไม่ไป ไปกินอาหารญี่ปุ่นกับพี่ไหม ร้านนี้อร่อยนะ พี่มากินประจำ” เตมินทร์กล่าวชวน ไม่แม้แต่มองหน้าจันทร์สุดาที่ยืนอยู่ข้างศุภกฤษณ์

“หมวยกะว่าจะไปกินเตี๋ยวไก่กับสุดาค่ะ ร้านนี้อร่อยเหาะ อยู่ไม่ไกลกับห้างค่ะ เดินไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง”

คำตอบวัชรีพร ทำให้อีกคนนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้

“เติร์ด ฉันว่าเราเปลี่ยนบรรยากาศไปกินเตี๋ยวไก่กันดีกว่า ฉันไม่ได้กินนานแล้ว อยากกินขึ้นมาทันทีเลย ไปนะเพื่อน ส่วนอาหารญี่ปุ่น วันหน้าค่อยมากินก็ได้” ศุภกฤษณ์เปลี่ยนแพลนรวดเร็ว พยักหน้าให้เตมินทร์ ราวกับบอกว่า ให้ตกลงตามนี้

“เออก็ได้” ตอบรับแบบไม่เต็มใจนัก

“พี่เติร์ดกับพี่แทคจะกินได้เหรอคะ ร้านไม่มีแอร์นะคะ มันร้อน” วัชรีพรกลัวว่าลูกเศรษฐีทั้งสองไม่เคยกินของข้างทาง เธอจึงเป็นกังวล

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่กินได้ เมื่อตอนกลางวันยังไปกินข้าวกับสุดาในร้านริมถนน อร่อยดีนะ ไม่ร้อนด้วย” เตมินทร์มองหน้าคนพูด ความคิดสองทางกำลังตีกันยุ่งคือ ศุภกฤษณ์จริงจังกับจันทร์สุดาหรือแค่ของเล่นเช่นผู้หญิงหลายคนที่ผ่านมา เขาคาดเดายากมาก

“แล้วพี่เติร์ดล่ะคะ กินได้ไหม” วัชรีพรถามว่าที่คู่หมั้น

“พี่กินได้ ไปกันเลยดีกว่า พี่หิวแล้ว” ทั้งสี่จึงพากันเดินออกจากห้าง มุ่งหน้าไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านประจำของสองสาวที่อยู่ห่างราวสามร้อยเมตร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักร้าว   Chapter 10

    Chapter 10พูดแค่นี้จันทร์สุดาเข้าใจแล้วว่า เขาต้องการส่งเธอถึงหน้าบ้าน เธอไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งเขากำลังเลี้ยวรถเข้าซอยย่อย “คุณเติร์ดจอดตรงต้นก้ามปูนะคะ” “นี่มันกี่ทุ่มแล้วแม่คุณ แถมไฟทางก็ห่างกันมองไม่ค่อยเห็น ฉันจะเห็นต้นก้ามปูได้ยังไง” ดูเหมือนว่า จันทร์สุดาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูเตมินทร์เลย เวลานี้เธอเศร้าหนักมาก “แล้วไอ้ต้นก้ามปูที่ว่ามันอยู่ทางซ้ายหรือขวามือ” “ซ้ายมือค่ะ จอดตรงตีนสะพานก็ได้ค่ะ”จันทร์สุดาบอกแบบนี้เขาน่าเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เตมินทร์ขับรถไปอีกยี่สิบเมตร รถยนต์หรูก็จอดนิ่ง “บ้านเธอหลังไหนล่ะ” เตมินทร์ถาม “ต้องเดินเข้าไปในซอยนี้ค่ะ รถเข้าไปไม่ได้ เข้าได้แค่จักรยานกับมอไซร์ค่ะ” เธอบอกขณะปลดเข็มขัดนิรภัย “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะที่มาส่งสุดา” “เดินเข้าไปลึกไหม” “ประมาณสามร้อยเมตรค่ะ” “เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะ สุดาเดินเข้าบ้านเองได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณเติร์ดมากแล้วค่ะ” จันทร์สุดารีบพูด “เธอนี่ยังไงนะ ฉันบอกว่าจะเดินไปส่งก็ตามนั้นสิ พูดมากอยู

  • รักร้าว   Chapter 9

    Chapter 9 หัวใจเต้นระรัว... ไม่ได้...จันทร์สุดาไม่มีอะไรคู่ควรกับความรู้สึกนี้ และไม่คู่ควรกับศุภกฤษณ์ ทว่าเตมินทร์คงห้ามเพื่อนสนิทไม่ได้ หัวใจใครหัวใจมัน “ดีใจจังที่สุดาไปด้วย วันงานเลิกงานปุ๊บเราไปพร้อมกันเลยนะ” เสียงศุภกฤษณ์เสมือนเชือกดึงสติเตมินทร์ที่กำลังไหลไปกับรอยยิ้มแสนสวยของจันทร์สุดาให้หวนกลับมา “ค่ะ” จันทร์สุดาตอบรับ ยิ้มให้ศุภกฤษณ์ก่อนลงมือกินอาหาร โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ใครบางคนกำลังไม่พอใจที่เธอส่งยิ้มเมื่อครู่ เพราะเตมินทร์เกิดหวงรอยยิ้มเธอขึ้นมาอย่างอธิบายยากยิ่ง ทำไมรู้สึกอย่างนี้วะ...เป็นคำถามที่เตมินทร์หาคำตอบไม่ได้อีกตามเคย การกินอาหารของทั้งสี่ดำเนินต่อไปราวยี่สิบนาที พวกเขาและเธอออกจากร้าน มุ่งตรงกลับห้างนั้นเพื่อเดินทางกลับบ้าน 21.05 น. อึดอัด... เป็นความรู้สึกของจันทร์สุดาขณะนั่งในรถของเตมินทร์ การนั่งรถมากับคนที่ไม่ชอบหน้าตนไม่ใช่เรื่องง่ายในการรับมือ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขากล่าวชวนไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดก็ตาม ซึ่งเธอก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาว่า การชวนนั้นเพื่อให้ตนอ

  • รักร้าว   Chapter 8

    Chapter 8 แม้สองหนุ่มเป็นลูกคนรวยมีเงินเหลือใช้ จะกินอาหารราคาแพงมื้อละหมื่นหรือหลักแสนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กลับทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ทว่าเตมินทร์กับศุภกฤษณ์กลับกินอาหารร้านริมทาง ร้านที่อยู่ในตึกแถว ตามซอกหลืบที่ต้องเดินลัดเลาะไปกินได้ อาจเป็นเพราะช่วงเรียนปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่ร่ำเรียนติดกับโซนอาหารขึ้นชื่อ ทั้งสองพร้อมเพื่อนสนิทอีกหลายคนเดินไปกินบ่อยๆ การมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ครั้งนี้ถือว่า สบายมาก “โห...ไก่นุ่มมาก ตีนไก่เปื่อยสุดๆ อร่อยมากๆ เลย” ศุภกฤษณ์ไม่พูดเกินจริง รสชาติก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อยสมชื่อเสียงสะสมมากกว่าสามสิบปี ร้านนี้ยังมีข้าวมันไก่สูตรเด็ดที่อร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย “บอกแล้วว่าอร่อยค่ะ อร่อยจนอยากเบิ้ล” วัชรีพรพูดต่อ “คนที่เจอร้านนี้คือสุดาค่ะ สุดาพาหมวยมากิน หมวยติดใจเลยค่ะ มาแถวนี้ต้องมากินค่ะ ซื้อไปฝากคุณแม่และคุณยาย ท่านยังติดใจเลยนะคะ นี่ก็กะว่าจะซื้อไปฝากท่านคนละถุง และไม่ลืมสั่งตีนไก่เปล่าไปนั่งกินเพลินๆ ด้วยค่ะ” “อร่อยใช่ไหมเติร์ด แกสั่งเพิ่มอีกจานแล้วนี่” ศุภกฤษณ์ถามเตมินทร์ที่นั่งอยู่ตรงข้าม “แล้วสุดาอิ่มหรือยัง จะสั่งเพิ่มอี

  • รักร้าว   Chapter 7

    Chapter 7 จันทร์สุดาก้าวเท้าเข้ามาในห้างหรูย่านสี่แยกราช-ประสงค์ ห้างที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา มีสินค้าแบรนด์เนมแทบทุกแบรนด์ให้เลือกจับจ่าย เธอตรงดิ่งไปยังร้านกาแฟที่นัดหมายไว้กับวัชรีพร “เฮ้อ มาทันเวลานัดเป๊ะ” จันทร์สุดาพูดขณะหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ “แกนี่รักษาเวลาดีเหมือนเดิม” “ก็ต้องรักษาเวลาสิ มีนัดกับแกทีไร แกมาก่อนฉันทุกที แล้วนี่รอนานไหม” “มาก่อนแค่สิบนาทีเอง แกจะสั่งอะไรดื่มก่อนไหม ฉันสั่งให้” “ไม่ล่ะ ไปซื้อของกันเลยดีกว่า เผื่อแกเลือกนาน” คนพูดรู้นิสัยวัชรีพรดีว่าช่างเลือกมากแค่ไหน หากไม่ถูกใจจริงๆ ไม่มีทางซื้อ “ว่าแต่แกจะซื้ออะไร ฉันจะได้เล็งร้านให้แกถูก ขืนปล่อยให้แกเดินทุกร้าน ขาลากพอดี” เมื่อคืนนี้วัชรีพรโทรมาชวนไปซื้อของ จันทร์สุดาไม่ได้ถามรายละเอียดว่าไปซื้ออะไร เพื่อนชวนและเธอว่างพอดีจึงตกปากรับคำ “ฉันจะซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่เติร์ดน่ะ วันเกิดพี่เติร์ดวันมะรืน ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรให้ เพราะพี่เติร์ดคงมีหมดแล้ว ฉันก็เลยชวนแกมาช่วยคิด ช่วยเลือกไง” วัชรีพรบอกจุดประสงค์ให้จันทร์สุดารู้

  • รักร้าว   Chapter 6

    Chapter 6 “สุดาขอโทษค่ะ สุดารีบเลยไม่ทันมองค่ะ” จันทร์สุดาพูด ขณะกำลังใช้ปลายนิ้วกดไปยังปุ่มเปิดประตู ทว่าไม่ทันเสียแล้ว ศุภกฤกษณ์กดปุ่มตัวเลข 43 เสียก่อน “ผมไม่ซี ไปด้วยกันนี่แหละ ดีซะอีกที่มีคุณขึ้นลิฟต์เป็นเพื่อน ขึ้นคนเดียวมาหลายปีแล้ว เหงา” เขายิ้มให้จันทร์สุดา ที่ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาจากความอาย “คุณร้องเพลงเพราะมากเลยนะ คุณไปร้องประจำที่ฟรอร่าเมื่อไหร่ ผมคงต้องไปนั่งฟังคุณร้องทุกคืนแน่” จันทร์สุดาเงยหน้ามองคนพูด ไม่คิดว่า ในคืนนั้นศุภกฤษณ์จะอยู่ในคลับนั้นด้วย “คุณหงส์บอกว่า คุณเริ่มมาร้องเพลงต้นเดือนใช่ไหม” “ใช่ค่ะ เริ่มวันพฤหัสหน้าค่ะ” “ว่าแต่คุณทำงานแผนกอะไร ตอนที่เห็นคุณขึ้นร้องเพลง ผมคุ้นหน้าคุณนะ แต่นึกไม่ออก” “ท่านรองคงจำสุดาไม่ได้ สุดาเคยเข้าประชุมผลประกอบการประจำปีเมื่อต้นเดือนไงคะ วันนั้นพนักงานมีหลายฝ่ายในหลายแผนก ท่านรองโฟกัสเรื่องงาน เลยไม่ได้สนใจอย่างอื่นค่ะ” จันทร์สุดาตอบเจ้านาย “อ๋อ จำได้แล้ว วันนั้นพนักงานเป็นสิบคน ผมยอมรับว่าจำไม่หมด จำได้เฉพาะคนที่เคยคุยกันเป็นประจำเท่านั้น ผมขอโทษน

  • รักร้าว   Chapter 5

    Chapter 5ข้าวสวยร้อนๆ ถูกตักใส่กล่องข้าวพอดีกินในมื้อกลางวัน ก่อนหันมาตักแกงส้มผักรวมใส่ปลานิลหั่นเป็นชิ้นใส่ถุงร้อน จันทร์สุดาเลือกตักหัวปลากับหางปลา ส่วนชิ้นเนื้อแน่นๆ เอาไว้ให้คนในบ้านกิน และไข่เค็มอีกหนึ่งฟองวางลงอีกช่องในกล่องข้าว ก่อนปิดฝานำทั้งหมดที่เตรียมไว้ใส่กระเป๋าใส่กล่องอาหาร เสร็จจากงานในครัวจันทร์สุดาเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน “แม่จ๋า วันนี้หนูกลับบ้านดึกหน่อยนะ มีนัดกับหมวยจ้ะ” จันทร์สุดาในชุดทำงานเอ่ยบอกรุ่งรัตน์ที่เพิ่งตื่นนอน “มีเงินไหม ขอสักห้าร้อยสิ” คนเป็นแม่ไม่ถามว่า ที่ว่ากลับดึกจะกลับกี่ทุ่ม ตามประสาแม่ห่วงลูก กลับแบมือขอเงิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับจันทร์สุดาที่ควักเงินให้ง่ายๆ ไม่ถามว่ามารดานำเงินไปใช้จ่ายอะไร “มะรืนนี้ต้องจ่ายค่าบ้านนะ เตรียมไว้ด้วยล่ะ พี่เอ็งคงไม่เงินจ่าย” “รู้แล้วจ้ะ สุดาเอาไปให้ป้าพลอยเอง” จันทร์สุดารู้หน้าที่ “รู้หน้าที่ก็ดี ฉันไปกินข้าวก่อน หิวจนไส้จะขาดแล้ว”รุ่งรัตน์เดินไปยังห้องครัว หาอาหารกินบรรเทาความหิว ขณะนั้นสร้อยทิพย์เดินลงมาจากชั้นบน เธอยิ้มให้น้องสาว “พี่สร้อยไปท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status