Share

Chapter 8

last update Last Updated: 2025-12-11 03:37:45

Chapter 8

          แม้สองหนุ่มเป็นลูกคนรวยมีเงินเหลือใช้ จะกินอาหารราคาแพงมื้อละหมื่นหรือหลักแสนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กลับทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ทว่าเตมินทร์กับศุภกฤษณ์กลับกินอาหารร้านริมทาง ร้านที่อยู่ในตึกแถว ตามซอกหลืบที่ต้องเดินลัดเลาะไปกินได้ อาจเป็นเพราะช่วงเรียนปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่ร่ำเรียนติดกับโซนอาหารขึ้นชื่อ ทั้งสองพร้อมเพื่อนสนิทอีกหลายคนเดินไปกินบ่อยๆ การมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ครั้งนี้ถือว่า สบายมาก

          “โห...ไก่นุ่มมาก ตีนไก่เปื่อยสุดๆ อร่อยมากๆ เลย” ศุภกฤษณ์ไม่พูดเกินจริง รสชาติก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อยสมชื่อเสียงสะสมมากกว่าสามสิบปี ร้านนี้ยังมีข้าวมันไก่สูตรเด็ดที่อร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย

          “บอกแล้วว่าอร่อยค่ะ อร่อยจนอยากเบิ้ล” วัชรีพรพูดต่อ “คนที่เจอร้านนี้คือสุดาค่ะ สุดาพาหมวยมากิน หมวยติดใจเลยค่ะ มาแถวนี้ต้องมากินค่ะ ซื้อไปฝากคุณแม่และคุณยาย ท่านยังติดใจเลยนะคะ นี่ก็กะว่าจะซื้อไปฝากท่านคนละถุง และไม่ลืมสั่งตีนไก่เปล่าไปนั่งกินเพลินๆ ด้วยค่ะ”

          “อร่อยใช่ไหมเติร์ด แกสั่งเพิ่มอีกจานแล้วนี่” ศุภกฤษณ์ถามเตมินทร์ที่นั่งอยู่ตรงข้าม “แล้วสุดาอิ่มหรือยัง จะสั่งเพิ่มอีกไหม ผมว่าจะสั่งข้าวมันไก่มาลองกินสักจานดีกว่า เอาเครื่องในด้วย”

          “สุดาอิ่มแล้วค่ะ”

          “แล้วหมวยล่ะครับ เอาอะไรเพิ่มไหม” ศุภกฤษณ์ถามวัชรีพร แต่ไม่ถามเตมินทร์เพราะรายนั้นเพิ่งสั่งก๋วยเตี๋ยวเพิ่มไปหมาดๆ

          “เดี๋ยวค่อยสั่งกลับบ้านค่ะ” คนถูกถามตอบ

          “งั้นพี่สั่งคนเดียวนะ” ว่าแล้วก็เรียกเด็กในร้านมาสั่งข้าวมันไก่ ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ส่งยิ้มหวานหยดให้จันทร์สุดา “อ่ะ ผมให้หัวใจไก่คุณนะ แล้วหัวใจอย่างอื่นคงตามมาไม่ช้านี้”

          เป็นการจีบแบบเปิดเผยมาก จันทร์สุดาอึ้ง มองหน้าเจ้านายหนุ่ม แก้มทั้งสองข้างเห่อร้อน ปั้นหน้าไม่ถูก ทำอะไรไม่ถูกด้วย เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกจีบซึ่งหน้า และไม่คิดว่าคนจีบตนคนแรกในชีวิตคือ เจ้านายของตน

          “ขอบคุณค่ะ”

จันทร์สุดากล่าวเบาๆ วัชรีพรยิ้มเมื่อเห็นศุภกฤษณ์ให้ความสนใจเพื่อนรัก ส่วนเตมินทร์มองอยู่เงียบๆ สีหน้าเรียบเฉย กินก๋วยเตี๋ยวต่อไป ทว่าในใจผิดแปลก เหตุใดต้องรู้สึกไม่พอใจกับภาพที่เห็น ไม่ปรารถนาให้ชิดสุดรับหัวใจไก่จากศุภกฤษณ์ อยากเอาตะเกียบคีบหัวใจไก่ชิ้นนั้นมากินเอง เขาควรดีใจกับศุภกฤษณ์ที่เจอสาวในฝันมิใช่หรือ

          นั่นสิทำไม...เหตุใดใจเตมินทร์เป็นเช่นนี้ เขาหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

          คราแรกเตมินทร์ไม่มั่นใจว่า ผู้หญิงยิ้มสวยที่มัดใจศุภกฤษณ์คือจันทร์สุดาหรือไม่ เขามั่นใจตอนเดินมาร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ เพราะเพื่อนรักขอร้องให้ตนทำบางอย่าง เป็นเรื่องที่เตมินทร์ไม่อยากทำสักนิดเดียว ความเป็นเพื่อนกันมานาน ทำให้เขายอมทำในเรื่องขัดใจ

          ขณะที่ทั้งสี่กินอาหาร เท้าศุภกฤษณ์สะกิดขาเตมินทร์ที่เงยหน้ามองเพื่อน และเห็นศุภกฤษณ์พยักหน้า ราวกับบอกว่า ให้ทำเรื่องที่เขาขอร้อง

          “หมวยครับ วันมะรืนพี่ไปรับที่บ้านนะ” ก่อนทำตามที่ศุภกฤษณ์ขอให้ช่วย เตมินทร์ต้องเกริ่นนำเสียก่อน

          “หมวยว่า หมวยไปเองดีกว่าค่ะ ขากลับพี่เติร์ดจะได้ไม่ต้องมาส่งหมวย เผื่อพี่เติร์ดอยากไปต่อกับเพื่อน” วัชรีพรพูดอย่างเข้าใจเตมินทร์ “หมวยจะให้น้าส่งขับรถให้ค่ะ สะดวกสุดแล้ว”

          “เอาอย่างนั้นก็ได้ พี่ตามใจหมวย” เตมินทร์ตอบพร้อมยิ้มให้ หัวใจจันทร์สุดาหมองลงเมื่อเห็นรอยยิ้มเตมินทร์ส่งให้วัชรีพร ชั่วขณะหนึ่งจันทร์สุดาอยากได้รอยยิ้มจากเขาบ้าง หาใช่ความเฉยชา ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา ทั้งที่เธอก็อยู่ในระยะมองเห็น บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า ตนเป็นลม  เป็นอากาศที่เขามองไม่เห็น “วันงานเพื่อนพี่มากันหลายคน พี่ขอโทษหมวยล่วงหน้านะ ถ้าหากวันนั้นพี่ดูแลหมวยไม่ดี”

          “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หมวยเข้าใจค่ะ”

          “แต่พี่ก็กลัวว่าหมวยจะเหงาน่ะสิ เอาไงดีนะ” เตมินทร์แสร้งทำเป็นห่วงว่าที่คู่หมั้น เพื่อจะเข้าหลักสำคัญของเรื่อง “เอางี้ดีไหม พี่ชวนสุดาไปร่วมงานด้วยดีกว่า นอกจากจะสนุกด้วยกันแล้วยังไปเป็นเพื่อนหมวยด้วย อย่างน้อยๆ หมวยก็มีสุดานั่งเป็นเพื่อน”

          “ดีค่ะพี่เติร์ด” วัชรีพรเห็นด้วยจากใจจริง

          “สุดา วันมะรืนเธอว่างไหม ฉันชวนไปงานวันเกิดฉันน่ะ งานจัดที่บ้านฉันเอง” เตมินทร์ทำตามคำขอร้องเพื่อนอย่างจำใจ จันทร์สุดามองหน้าคนชวน หัวใจสาวเต้นแรงมาก ไม่คิดว่าเขากล่าวขวนไปงานวันคล้ายวันเกิด ซึ่งถือว่าเป็นงานส่วนตัว เชิญไปเฉพาะญาติและเพื่อนสนิท และแม้ว่าเหตุผลหลักคือ ให้ตนไปเป็นเพื่อนวัชรีพร เพียงแค่นี้ เธอก็ดีใจมากแล้ว

          “ไปนะสุดา สุดาจะได้รู้จักเพื่อนของผมไง รับรองว่าเพื่อนผมน่ารักทุกคน เลิกงานเราก็ไปกันเลย” ศุภกฤษณ์พูดเสริม เร่งให้เธอตัดสินใจ

          “ไปด้วยกันนะสุดา นะนะนะ” วัชรีพรเร่งเพื่อนอีกคน

          ‘เล่นตัวชะมัด กว่าจะตอบ นึกว่าฉันอยากให้เธอไปนักหรือไง ถ้าไม่ติดว่าไอ้แทคให้ช่วยล่ะก็ ฉันไม่มีทางชวนเธอแน่นอน’ เตมินทร์หมั่นไส้จันทร์สุดาขึ้นมาทันทีทันใด ทว่าใบหน้ากลับปั้นตรงกันข้าม

          “ค่ะ สุดาจะไปงานวันเกิดคุณเติร์ดค่ะ” จันทร์สุดารับปาก ยิ้มให้เตมินทร์ เป็นรอยยิ้มกระจ่างเต็มดวงหน้า

          ตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก...

          เสียงหัวใจเตมินทร์ดังแรงมากขณะมองเห็นรอยยิ้มจันทร์สุดา เขาเจอจันทร์สุดาหลายครั้ง ทุกครั้งเธอแค่ยิ้มอ่อนและทักทายปกติ ไม่มีการเสวนาเพิ่มเติมมากกว่านี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เตมินทร์สนทนากับจันทร์สุดาแบบจริงจัง และได้เห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจน่าพิสมัยเหลือเกิน เขาได้เห็นกับตา รู้ด้วยตัวเองแล้วว่า จันทร์สุดายิ้มสวย แฝงไว้ด้วยเสน่หาโดยที่เธอไม่รู้ตัว คำพูดศุภกฤษณ์ไม่เกินจริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักร้าว   Chapter 10

    Chapter 10พูดแค่นี้จันทร์สุดาเข้าใจแล้วว่า เขาต้องการส่งเธอถึงหน้าบ้าน เธอไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งเขากำลังเลี้ยวรถเข้าซอยย่อย “คุณเติร์ดจอดตรงต้นก้ามปูนะคะ” “นี่มันกี่ทุ่มแล้วแม่คุณ แถมไฟทางก็ห่างกันมองไม่ค่อยเห็น ฉันจะเห็นต้นก้ามปูได้ยังไง” ดูเหมือนว่า จันทร์สุดาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูเตมินทร์เลย เวลานี้เธอเศร้าหนักมาก “แล้วไอ้ต้นก้ามปูที่ว่ามันอยู่ทางซ้ายหรือขวามือ” “ซ้ายมือค่ะ จอดตรงตีนสะพานก็ได้ค่ะ”จันทร์สุดาบอกแบบนี้เขาน่าเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เตมินทร์ขับรถไปอีกยี่สิบเมตร รถยนต์หรูก็จอดนิ่ง “บ้านเธอหลังไหนล่ะ” เตมินทร์ถาม “ต้องเดินเข้าไปในซอยนี้ค่ะ รถเข้าไปไม่ได้ เข้าได้แค่จักรยานกับมอไซร์ค่ะ” เธอบอกขณะปลดเข็มขัดนิรภัย “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะที่มาส่งสุดา” “เดินเข้าไปลึกไหม” “ประมาณสามร้อยเมตรค่ะ” “เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะ สุดาเดินเข้าบ้านเองได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณเติร์ดมากแล้วค่ะ” จันทร์สุดารีบพูด “เธอนี่ยังไงนะ ฉันบอกว่าจะเดินไปส่งก็ตามนั้นสิ พูดมากอยู

  • รักร้าว   Chapter 9

    Chapter 9 หัวใจเต้นระรัว... ไม่ได้...จันทร์สุดาไม่มีอะไรคู่ควรกับความรู้สึกนี้ และไม่คู่ควรกับศุภกฤษณ์ ทว่าเตมินทร์คงห้ามเพื่อนสนิทไม่ได้ หัวใจใครหัวใจมัน “ดีใจจังที่สุดาไปด้วย วันงานเลิกงานปุ๊บเราไปพร้อมกันเลยนะ” เสียงศุภกฤษณ์เสมือนเชือกดึงสติเตมินทร์ที่กำลังไหลไปกับรอยยิ้มแสนสวยของจันทร์สุดาให้หวนกลับมา “ค่ะ” จันทร์สุดาตอบรับ ยิ้มให้ศุภกฤษณ์ก่อนลงมือกินอาหาร โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ใครบางคนกำลังไม่พอใจที่เธอส่งยิ้มเมื่อครู่ เพราะเตมินทร์เกิดหวงรอยยิ้มเธอขึ้นมาอย่างอธิบายยากยิ่ง ทำไมรู้สึกอย่างนี้วะ...เป็นคำถามที่เตมินทร์หาคำตอบไม่ได้อีกตามเคย การกินอาหารของทั้งสี่ดำเนินต่อไปราวยี่สิบนาที พวกเขาและเธอออกจากร้าน มุ่งตรงกลับห้างนั้นเพื่อเดินทางกลับบ้าน 21.05 น. อึดอัด... เป็นความรู้สึกของจันทร์สุดาขณะนั่งในรถของเตมินทร์ การนั่งรถมากับคนที่ไม่ชอบหน้าตนไม่ใช่เรื่องง่ายในการรับมือ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขากล่าวชวนไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดก็ตาม ซึ่งเธอก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาว่า การชวนนั้นเพื่อให้ตนอ

  • รักร้าว   Chapter 8

    Chapter 8 แม้สองหนุ่มเป็นลูกคนรวยมีเงินเหลือใช้ จะกินอาหารราคาแพงมื้อละหมื่นหรือหลักแสนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กลับทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ทว่าเตมินทร์กับศุภกฤษณ์กลับกินอาหารร้านริมทาง ร้านที่อยู่ในตึกแถว ตามซอกหลืบที่ต้องเดินลัดเลาะไปกินได้ อาจเป็นเพราะช่วงเรียนปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่ร่ำเรียนติดกับโซนอาหารขึ้นชื่อ ทั้งสองพร้อมเพื่อนสนิทอีกหลายคนเดินไปกินบ่อยๆ การมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ครั้งนี้ถือว่า สบายมาก “โห...ไก่นุ่มมาก ตีนไก่เปื่อยสุดๆ อร่อยมากๆ เลย” ศุภกฤษณ์ไม่พูดเกินจริง รสชาติก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อยสมชื่อเสียงสะสมมากกว่าสามสิบปี ร้านนี้ยังมีข้าวมันไก่สูตรเด็ดที่อร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย “บอกแล้วว่าอร่อยค่ะ อร่อยจนอยากเบิ้ล” วัชรีพรพูดต่อ “คนที่เจอร้านนี้คือสุดาค่ะ สุดาพาหมวยมากิน หมวยติดใจเลยค่ะ มาแถวนี้ต้องมากินค่ะ ซื้อไปฝากคุณแม่และคุณยาย ท่านยังติดใจเลยนะคะ นี่ก็กะว่าจะซื้อไปฝากท่านคนละถุง และไม่ลืมสั่งตีนไก่เปล่าไปนั่งกินเพลินๆ ด้วยค่ะ” “อร่อยใช่ไหมเติร์ด แกสั่งเพิ่มอีกจานแล้วนี่” ศุภกฤษณ์ถามเตมินทร์ที่นั่งอยู่ตรงข้าม “แล้วสุดาอิ่มหรือยัง จะสั่งเพิ่มอี

  • รักร้าว   Chapter 7

    Chapter 7 จันทร์สุดาก้าวเท้าเข้ามาในห้างหรูย่านสี่แยกราช-ประสงค์ ห้างที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา มีสินค้าแบรนด์เนมแทบทุกแบรนด์ให้เลือกจับจ่าย เธอตรงดิ่งไปยังร้านกาแฟที่นัดหมายไว้กับวัชรีพร “เฮ้อ มาทันเวลานัดเป๊ะ” จันทร์สุดาพูดขณะหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ “แกนี่รักษาเวลาดีเหมือนเดิม” “ก็ต้องรักษาเวลาสิ มีนัดกับแกทีไร แกมาก่อนฉันทุกที แล้วนี่รอนานไหม” “มาก่อนแค่สิบนาทีเอง แกจะสั่งอะไรดื่มก่อนไหม ฉันสั่งให้” “ไม่ล่ะ ไปซื้อของกันเลยดีกว่า เผื่อแกเลือกนาน” คนพูดรู้นิสัยวัชรีพรดีว่าช่างเลือกมากแค่ไหน หากไม่ถูกใจจริงๆ ไม่มีทางซื้อ “ว่าแต่แกจะซื้ออะไร ฉันจะได้เล็งร้านให้แกถูก ขืนปล่อยให้แกเดินทุกร้าน ขาลากพอดี” เมื่อคืนนี้วัชรีพรโทรมาชวนไปซื้อของ จันทร์สุดาไม่ได้ถามรายละเอียดว่าไปซื้ออะไร เพื่อนชวนและเธอว่างพอดีจึงตกปากรับคำ “ฉันจะซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่เติร์ดน่ะ วันเกิดพี่เติร์ดวันมะรืน ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรให้ เพราะพี่เติร์ดคงมีหมดแล้ว ฉันก็เลยชวนแกมาช่วยคิด ช่วยเลือกไง” วัชรีพรบอกจุดประสงค์ให้จันทร์สุดารู้

  • รักร้าว   Chapter 6

    Chapter 6 “สุดาขอโทษค่ะ สุดารีบเลยไม่ทันมองค่ะ” จันทร์สุดาพูด ขณะกำลังใช้ปลายนิ้วกดไปยังปุ่มเปิดประตู ทว่าไม่ทันเสียแล้ว ศุภกฤกษณ์กดปุ่มตัวเลข 43 เสียก่อน “ผมไม่ซี ไปด้วยกันนี่แหละ ดีซะอีกที่มีคุณขึ้นลิฟต์เป็นเพื่อน ขึ้นคนเดียวมาหลายปีแล้ว เหงา” เขายิ้มให้จันทร์สุดา ที่ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาจากความอาย “คุณร้องเพลงเพราะมากเลยนะ คุณไปร้องประจำที่ฟรอร่าเมื่อไหร่ ผมคงต้องไปนั่งฟังคุณร้องทุกคืนแน่” จันทร์สุดาเงยหน้ามองคนพูด ไม่คิดว่า ในคืนนั้นศุภกฤษณ์จะอยู่ในคลับนั้นด้วย “คุณหงส์บอกว่า คุณเริ่มมาร้องเพลงต้นเดือนใช่ไหม” “ใช่ค่ะ เริ่มวันพฤหัสหน้าค่ะ” “ว่าแต่คุณทำงานแผนกอะไร ตอนที่เห็นคุณขึ้นร้องเพลง ผมคุ้นหน้าคุณนะ แต่นึกไม่ออก” “ท่านรองคงจำสุดาไม่ได้ สุดาเคยเข้าประชุมผลประกอบการประจำปีเมื่อต้นเดือนไงคะ วันนั้นพนักงานมีหลายฝ่ายในหลายแผนก ท่านรองโฟกัสเรื่องงาน เลยไม่ได้สนใจอย่างอื่นค่ะ” จันทร์สุดาตอบเจ้านาย “อ๋อ จำได้แล้ว วันนั้นพนักงานเป็นสิบคน ผมยอมรับว่าจำไม่หมด จำได้เฉพาะคนที่เคยคุยกันเป็นประจำเท่านั้น ผมขอโทษน

  • รักร้าว   Chapter 5

    Chapter 5ข้าวสวยร้อนๆ ถูกตักใส่กล่องข้าวพอดีกินในมื้อกลางวัน ก่อนหันมาตักแกงส้มผักรวมใส่ปลานิลหั่นเป็นชิ้นใส่ถุงร้อน จันทร์สุดาเลือกตักหัวปลากับหางปลา ส่วนชิ้นเนื้อแน่นๆ เอาไว้ให้คนในบ้านกิน และไข่เค็มอีกหนึ่งฟองวางลงอีกช่องในกล่องข้าว ก่อนปิดฝานำทั้งหมดที่เตรียมไว้ใส่กระเป๋าใส่กล่องอาหาร เสร็จจากงานในครัวจันทร์สุดาเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน “แม่จ๋า วันนี้หนูกลับบ้านดึกหน่อยนะ มีนัดกับหมวยจ้ะ” จันทร์สุดาในชุดทำงานเอ่ยบอกรุ่งรัตน์ที่เพิ่งตื่นนอน “มีเงินไหม ขอสักห้าร้อยสิ” คนเป็นแม่ไม่ถามว่า ที่ว่ากลับดึกจะกลับกี่ทุ่ม ตามประสาแม่ห่วงลูก กลับแบมือขอเงิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับจันทร์สุดาที่ควักเงินให้ง่ายๆ ไม่ถามว่ามารดานำเงินไปใช้จ่ายอะไร “มะรืนนี้ต้องจ่ายค่าบ้านนะ เตรียมไว้ด้วยล่ะ พี่เอ็งคงไม่เงินจ่าย” “รู้แล้วจ้ะ สุดาเอาไปให้ป้าพลอยเอง” จันทร์สุดารู้หน้าที่ “รู้หน้าที่ก็ดี ฉันไปกินข้าวก่อน หิวจนไส้จะขาดแล้ว”รุ่งรัตน์เดินไปยังห้องครัว หาอาหารกินบรรเทาความหิว ขณะนั้นสร้อยทิพย์เดินลงมาจากชั้นบน เธอยิ้มให้น้องสาว “พี่สร้อยไปท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status