LOGIN“ผมขอโทษ”เขาเอ่ยขอโทษฉันด้วยนำ้เสียงที่รู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่เป็นไรหรอก”ฉันบอกเขาพลางอย่างไม่สนใจ ถ้ามันคิดจะปล้ำฉันน่ะ ฉันจะกระทืบน้องชายมันให้สูญพันธุ์ไปเลยคอยดู “ไม่เป็นไร?”เขามองหน้าฉันอย่างไม่อยากเชื่อ “แล้วทำไมล่ะ หรือว่านายอยากให้ฉันโกรธนาย” “ก็ไม่อ่ะ ผมมีศัตรูก็เยอะพอตัวอยู่แล้วอยากจะหาพันธมิตรบ้าง”เขาบอกฉันพลางเอนแผ่นหลังพิงเข้ากับพนักเก้าอี้ตัวเดียวกับฉัน นำ้เสียงของเขาฟังดูเหนื่อยๆ “นายไม่มีเพื่อนหรือไง?” “ไม่อ่ะ แล้วคุณล่ะ?”เขาตอบฉันและถามฉันกลับเขาเหลือบตามามองหน้าฉัน ฉันก็มองหน้าเขาและยิ้มขำๆออกมา “มีสิ เพื่อนฉันเยอะแยะแต่ไม่ได้อยู่ที่นี้” “เออจริงสินะ คุณเป็นคนไทยนี้น่า” “ใช่แล้วคุณล่ะ?เป็นลูกครึ่งเหรอ?” “เปล่าหรอก พ่อแม่ผมก็เป็นคนญี่ปุ่นทั้งคู่แต่พอดีพ่อผมมีภรรยาลองเพราะท่านอยากมีลูกสาวและท่านก็ไปมีภรรยาเป็นคนไทยผมจึงมีน้องสาวเป็นคนไทยแต่ธุรกิจของผมมันอันตรายเกินไปน่ะที่จะพาน้องสาวมาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกันผมเลยต้องไปญี่ปุ่นกลับไทยอยู่บ่อยๆเลยทำให้ผมพูดภาษาไทยได้คล่อง”เขาบอกฉันมาเหมือนเขาอยากจะระบายความในใจกับใครสักคน “แต่ชีวิตคุณก็น่าจะมีความสุขมากไม่ใช่เหรอ?” “ก็ใช่น่ะ แต่มันก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปอยู่ดี”เขาพูดเสร็จเขาก็เงียบไปฉันจึงหันหน้าไปมองหน้าเขาก็เห็นว่าเขาหลับตาอยู่ ใบหน้าที่หล่อไร้ที่ติขาวใสไม่มีริ้วรอยไม่รอบแผลเป็นริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ไม่ต้องแต่งเติม เป็นโครงหน้าที่เพอร์เฟคที่สุด “แล้วคุณล่ะ มาทำอะไรที่นี้?”เขาถามฉันทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองฉัน “เล่ามาเถอะยังไงๆพอพ้นคืนนี้ไปเราก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี”เขาพูดออกมา ฉันก็คิดตามใช่เดี๋ยวพอพ้นวันนี้ไปเราก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี “นั้นสิเนอะ^_^” “อืม” “พ่อฉันเป็นคนญี่ปุ่นแต่ไปพบรักกับแม่ฉันที่ประเทศไทยและท่านทั้งสองก็ตกลงที่จะแต่งงานอยู่กินกันที่ประเทศไทยและมีฉันเกิดมาแต่พอฉันได้สิบขวบพ่อกับแม่ก็หย่ากันและเขาก็ทิ้งให้ฉันอยู่กับแม่แค่สองคนฉันต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” “น่าเหนื่อยจริงๆ”เขาบอกฉันอย่างคนที่เห็นใจฉัน ฉันก็อมยิ้มและเริ่มเล่าต่อ “ใช่ ฉันเหนื่อยมากจริงๆแหละและพอฉันอายุสิบแปดแม่ก็มีสามีและที่บัดซบไปกว่านั้นคือแฟนใหม่และลูกชายของแฟนใหม่แม่ฉันจ้องจะปล้ำฉันทั้งสองคนเลย” “เห้ยจริงดิ!”ที่นี้หมอนี่ลืมตาตื่นมาจ้องมองหน้าฉันอย่างตกใจ “คุณไปอ่อยเขารึเปล่า?” “นี่นาย!”ฉันลุกขึ้นนั่งตัวตรงชี้หน้าเขาด้วยความไม่พอใจ “ขอโทษๆผมล้อเล่น^_^”เขายกมือสองข้างขึ้นมาทำท่ายอมแพ้ “ไม่เล่าแล้ว!” “เล่าเหอะ ผมอยากฟัง”เขามองมาที่ฉันพลางทำสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นจริงๆนั้นแหละ “แล้วตกลงเขาสองคนพ่อลูกปลุกปล้ำคุณได้ป่ะ?” “นี่นาย!!!” “พอโกรธแล้วสรรพนามเปลี่ยนทันทีเลยวุ้ย^_^”เขาทำท่าล้อเลียนฉัน ฉันก็มองค้อนเขาและยกแขนขึ้นมากอดอก “มาทำอะไรที่นี้อ่ะ?”อยู่ดีๆเขาก็เอ่ยถามฉัน “แล้วนายล่ะมาทำอะไร?” “ผมถามคุณก่อนนะคุณก็ต้องตอบผมก่อนดิ” “พ่อฉันมารับตำแหน่งที่นี้” “รับตำแหน่ง?”เขาทวนคำตอบฉันพลางขมวดคิ้วอย่างงุนงง “ก็พ่อฉันเป็นท่านนายกรัฐมนตรีน่ะสิ!”ฉันกระแทกเสียงใส่เขาไป เขาก็หน้าเหวอมองหน้าฉันด้วยความตกใจ “ทำไม พ่อฉันเป็นหนึ่งในศัตรูของนายรึไง?”ฉันถามเขาไป เขาก็จ้องมองหน้าฉันตาไม่กระพริบ ฉันก็มองหน้าเขาพลางขมวดคิ้วอย่างงุนงง “เธอชื่อซาโยโกะจังอย่างงั้นเหรอ?” “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”ฉันเอ่ยกวนเขาไป “พ่อเธอชื่ออะไร?” “เอ้าอีตานี่ถามแปลกๆก็พ่อฉันเพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งขึ้นเป็นนายกจะให้ชื่ออะไรล่ะย่ะ!”ฉันก็โวยใส่เขาและในจังหวะนั้นฉันเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้ “หาตัวนังซาโยโกะให้เจอ มีคำสั่งให้จับเป็น!”เสียงเหี้ยมเกรียมตะโกนดังลั่นทำให้ฉันหันไปชะเง้อคอมองหาต้นเสียงเพราะรู้สึกเหมือนเขาจะเรียกชื่อฉันไม่ใช่เหรอไง แต่ร่างของฉันก็โดนกระชากลงไปบนร่างของผู้ชายคนนั้นอย่างไว พรึบ “ทำอะอื้อออ”ฉันเบิกตาโพรงขึ้นด้วยความตกใจเมื่อริมฝีปากของฉันถูกอีตาบ้านี่บดขยี้อย่างรุนแรงมือทั้งสองข้างของฉันก็ทุบตีลงไปบนแผ่นหลังของเขาหลายตุบยิ่งฉันทุบเขาแรงมากขึ้นเท่าไหร่อีตาบ้านี่ก็ยิ่งบดขยี้ริมฝีปากฉันแรงมากขึ้นเท่านั้น ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย! “เห้ยอะไรของเด็กสมัยนี้ว่ะ ไม่รู้จักอายกันบ้างเลย!”เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ฉันกำลังจะหันหน้าไปขอความช่วยเหลือ “อื้อออออออ่ยโอออ” “จ๊วฟฟฟ จ๊วฟฟฟฟ”อีตาบ้านี่มันดูดริมฝีปากฉันแรงขึ้นแถมยังส่งลิ้นสากๆของเขาเข้ามาในโพรงปากฉันด้วยอีกน่ะ ต้นฝนจะบ้าตาย ตุ๊บๆๆๆ “รุนแรงจริงๆเว้ยฮ่าๆๆๆ”เสียงหัวเราะชอบใจของคนปริศนาพวกนั้นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฉันทุบกำปั้นลงไปบนแผ่นหลังของอีตาบ้านี่หนักขึ้น “ไปเว้ย!เดี๋ยวนายจะด่าเอา!” “เอ่อใช่ๆๆ!” “นี่เป็นโอกาสทองเลยน่ะเว้ยที่เราจะได้ตัวนังคุณหนูนั้น!” ตึกๆๆๆๆ เสียงพูดคุยหายลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่วิ่งไปทางอื่น “อ่ออยย!!”คราวนี้ฉันดึงกลุ่มผมนิ่มๆของอีตาบ้านี่อย่างแรงและออกแรงกระชากให้เขาปล่อยริมฝีปากฉัน พรึบ “เพลี้ยย!” “ตบผมทำไมเนี่ย?”เขาหันหน้ากลับมาเอ่ยถามฉันพร้อมกับยื่นมือมาจับแก้มตัวเองที่โดนฉันตบหลังจากที่เขาปล่อยริมฝีปากฉันให้เป็นอิสละ “จูบแรกของฉันนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!” “จะแหกปากทำไมเดี๋ยวพวกมันก็มาหรอก!!จูบแรกของคุณคนเดียวซะเมื่อไหร่กัน”เขาพูดดุฉันเสียงดังแต่ประโยคหลังฉันได้ยินไม่ค่อยชัดว่าเขาพูดว่าอะไร “เห้ย!นั้นมันอยู่นั้น!!” “นั้นไง ซวยแล้วไหมล่ะ!!” “ก็ใครใช้ให้นายจูบฉันเล่า!!” “ผมช่วยคุณน่ะ!” “ช่วยอะไร!!” “จับมัน!!” “หนีเร็ว!!”เขาพูดเสร็จก็คว้ามือฉันออกวิ่งอย่างไว ฉันก็มองแผ่นหลังกว้างที่วิ่งนำฉันอยู่ ทำไมฉันรู้สึกปลอดภัยเวลาหลบอยู่ข้างหลังแผ่นหลังกว้างๆนี่น่ะ น่าจะอบอุ่นน่าดู^_^“ละครเวทีเหรอ?”ฉันทวนคำของมิโกะไปอย่างสงสัยเพราะฉันไม่ค่อยรู้เรื่องของประเทศนี้สักเท่าไหร่และเพิ่งจะรู้ว่าญี่ปุ่นมีละครเวทีด้วย^\^ ฉันนี่มันบ้านนอกจริงๆ!เป็นถึงลูกสาวนายกแต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะวันๆหนึ่งฉันก็เหนื่อยจากเรียนที่มหาลัยและยังต้องกลับไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่บ้านอีก เพราะฉันไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ฟังรู้เรื่องแต่เขียนไม่ค่อยได้มิซาโนะเลยจ้างครูมาสอนพิเศษให้ฉันสะงั้นหาเรื่องไม่ให้ฉันพัก!!“ใช่…พอดีฉันได้ตั๋วมาสองที่นั่งน่ะ…เพราะฉันมีแค่เธอที่เป็นเพื่อนฉัน”มิโกะจังว่าพลางยิ้มอ่อนลง สีหน้าของฉันแสดงถึงความไม่อยากไปมากขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ทำไงได้ล่ะวันนี้คือวันพักผ่อนของฉันหนิหน่าแต่ฉันจะทำร้ายนำ้ใจเธอได้ยังไง ฉันเองก็มีแค่เธอที่เป็นเพื่อนของฉันนี่หน่า“ตกลงฉันจะไปกับเธอ^_^”ฉันรีบตอบรับคำมอโกะจังทันทีเพราะสีหน้าที่เศร้าของเธอทำให้ฉันปฏิเสธเธอไม่ลงจริงๆ“จริงเหรอฉันดีใจจัง^_^”มิโกะว่าพลางยิ้มกว้างให้ฉันรอยยิ้มของเธอช่างสดใส เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยจริงๆ“กี่โมงอ่ะ…ต้องกลับไปเปลี่ยนชุดสวยๆ”“ไม่ต้อง!”เสียงของมิโกะทำให้ฉันตกใจมองหน้าเธอทันทีและหลุดจากจินตนาการของฉัน“พอดีฉันหมา
1เดือนต่อมา…..ร้านอาหารฝรั่งเศส….20:30น.“ฉันมีงานให้เธอสองคนทำ”เสียงเข้มขรึมเอ่ยขึ้นหลังจากที่ร่างบางสองร่างนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขาพร้อมๆกัน“งานอะไรเหรอคะคุณพ่อ?”มินตราเอ่ยถามผู้เป็นพ่ออย่างสงสัย วันนี้หล่อนอยู่ในชุดเดรสสั้นสีแดงแปร๊ดขับกับผิวขาวๆของเธอให้เปล่งประกายออร่ายิ่งขึ้นตลอดทางเดินที่เธอเดินมาสายตาผู้ชายทั้งร้านจับจ้องมองไปที่เธอเป็นตาเดียวเพราะหน้าตาของเธอคลับคล้ายดาราเอวีชื่อดังด้วยก็เป็นได้“ไปเอาตัวยัยโยโกะมาให้ฉัน!”ฮิเรนตอบมินตราไปพลางตวัดสายตาดุดันไปมองเธอทำให้มินตราสะดุ้งด้วยความตกใจ“อะเอามาทำไมคะคุณลุง?”เสียงกลัวๆของฮามิโกะผู้เป็นหลายสาวแท้ๆของฮิเรนเอ่ยขึ้น “เอามันมาเป็นตัวต่อรองไอ้ซาโนะ!”ฮิเรนว่าพลางกำแก้วนำ้สีใสในมือแน่นด้วยความโกรธเพราะเมื่อต้นเดือนที่แล้วมิซาโนะและมิซานเข้ามาต่อรองเจรจาธุรกิจของเขาแต่ไม่เป็นผลเพราะธุรกิจของเขาเติบโตช้ามากเพราะโดนพวกซานโต้ปิดทางการค้าขายทั้งทางเรือและทางน้ำ อาวุธเถื่อนก็ส่งออกไปยังประเทศที่มีสงครามอยู่ในขณะนี้ไม่ได้และหญิงสาวเคาะร้ายก็ไม่สามารถส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านได้เพราะมิซาโนะผู้คุมประเทศนี้เกลียดการค้ามนุษย
“นุ่มมากครับ^//^”“และชอบไหมคะ?”“ชอบมากครับ^//^”มิซาโนะตอบฉันและจ้องหน้าฉันเราสองคนสบตากันและกัน และใบหน้าของเราสองคนก็ค่อยๆขยับเข้าหากันอย่างช้าๆจนทำให้ริมฝีปากของเราแนบชิดกันและเราสองคนก็ยิ้มออกมาพร้อมกัน มือของฉันเอื้อมไปโอบกอดรอบคอของซาโนะและเราสองคนก็ค่อยๆมอบจุมพิตที่แสนอ่อนหวานให้กันและกันอย่างร้อนแรงและเร้าร้อนไปในตัว จุมพิตที่อ่อนหวานในคาแรกเริ่มเพิ่มทวีคูณขึ้นไปตามอารมณ์ของเราทั้งคู่ มือหนาก็ค่อยๆบรรจงบีบหน้าอกอวบอิ่มทั้งสองข้างของฉันอย่างนุ่มนวลและใช้จังหวะพอดีกันเพื่อไม่ให้ลำเอียงกัน “จ๊วฟฟฟอื้อออ”“อื้อออจ๊วฟ”เราทั้งคู่ครวญครางออกมาอย่างสุขสมและพึงพอใจ ฉันก็เปลี่ยนมือจากโอบรอบคอไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของมิซาโนะแทนจนหมดทุกเม็ดและเอามือเล็กลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งสุดล่ำของเขาจนร่างหนาวั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่านเขาเองก็ไม่น้อยหน้าฉันใช้ปลายนิ้วเขี่ยยอดอกที่แข็งชูชันของฉันและบีบมันอย่างเบาๆยิ่งทำให้ความต้องการของฉันมากเพิ่มขึ้นไปอีก“อื้ออออออ”ฉันแอ่นหน้าอกสู้มือหนาของมิซาโนะเขาก็ค่อยๆผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของฉันและค่อยๆซุกไซร้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นของฉันจากต้นคอลงไปเรื่อยๆจนไปถึง
“ใช่ค่ะ…เพราะได้ยาดีของพี่เลยนะคะ^_^”ฉันว่าพลางยื่นมือไปบีบจมูกโด่งๆของมิซาโนะอย่างหมั่นเขี้ยว ก็เขาน่ารักอ่ะ “จริงเหรอครับ…งั้นถ้าหายแล้วก็ต้องกินจนกว่าจะหายไปเป็นปกตินะครับ” “ค่าาาาา….คุณพ่อคนที่สอง!”ฉันว่าพลางทำปากทำตาใส่เขา ทำให้มิซาโนะยื่นมืิมาขยี้ผมฉันอย่างแผ่วเบาเพราะความหมั่นไส้ฉันน่ะสิ “ยัยตัวแสบ!” “แล้วรักไหมล่ะ?”ฉันเอียงคอถามซาโนะไป เขาก็ยิ้มและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน นี่เขารุกฉันอย่างงั้นเหรอไม่ได้แล้วฉันจะน้อยหน้าเขาไม่ได้! “รักอุ๊บ”ดวงตาคู่คมสวยเบิกโตขึ้นเมื่อฉันไม่รอให้เขาพูดจบจัดการโน้มคอเขามาประกบริมฝีปากจูบเขาทันที “จ๊วฟฟฟฟ”ฉันหลับตาและค่อยๆบรรจงจูบอ้อยอิ่งให้เขาและเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นให้เป็นจูบอย่างเร้าร้อนเมื่อเขาเริ่มจูบฉันตอบ “จ๊วฟฟฟฟ”เราทั้งคู่ยื่นลิ้นสากของกันและกันไปจวัดเกี่ยวกันและดูดชิมความหวานจากโพรงปากของกันและกันจนฉันรู้สึกได้ว่ามีอบอุ่นของมิซาโนะเริ่มซุกซนล้วงเข้าไปในเสื้อคนไข้ของโรงพยาบาลที่บางแสนบางนี่แบ้วและที่สำคัญฉันไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในและกางเกงชั้นใน “อื้ออออ” “อื้อออ”เราทั้งคู่ครวญครางออกมาอย่างสุขสมด้วยความพึงพอใจในรสชาติจูบของกันและกันแล
“ไอ้ภามแกจะไปไหน!!”“กลับมาพูดกับฉันก่อน!!”เสียงของฮิเรนตะโกนร้องเรียกภามให้กลับไป แต่เขาไมได้หันกลับไปหาผู้เป็นพ่อเพราะภามคิดในใจว่าเขาโตแล้ว เขาควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง….เขาแค่อยากมีความสุขอยู่กับคนที่เขารักวันต่อมา…โรงพยาบาล นางานิชัง ในเครือการดูแลของตระกูลซานโต้ห้องพักผู้ป่วยระดับVIPชั้น20ต้นฝน ซาโยโกะจัง…..“เมื่ิอวานเสร็จงานแล้วกลับไปนอนที่บ้านมาเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามซาโนะในขณะที่เขานั่งนิ่งๆไม่ไหวติ่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับฉัน“อืม”ซาโนะเงยหน้าขึ้นมาตอบฉันแววตาของเขาดูเหมือนกังวลอะไรบางอย่างอยู่ เขามีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?“แล้วเมื่อวานมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในตอนที่พี่ไม่อยู่รึเปล่า?”ซาโนะเอ่ยถามฉันมาแววตาของเขาสั่นไหว หรือว่าเขาจะเห็นฉันอยู่กับอาจารย์ภาม?“แล้วมีไปรายงานพี่ซาโนะว่ายังไงก็อย่างงั้นแหละค่ะ!”ฉันตอบเขาไปอย่างไม่ใส่เท่าไหร่ คำพูดที่สื่อไปทั้งความรำคาญของฉันทำให้ซาโนะมองฉันด้วยแววตาสั่นไหวยิ่งกว่าเก่า ทำไมเขาไม่ไว้ใจฉันอย่างงั้นเหรอ?“โยโกะจัง”เสียงที่เอ่ยเรียกชื่อฉันที่เปล่งอิกมาจากเขาช่างแผ่วเบา “ไม่เชื่อใจโยโกะเหรอคะ?”“เชื่อสิพี่เชื่อใจโยโกะนะ”ซาโนะว
“โอ๊ะ!นายผมเจ็บน่ะ”“แล้วที่นี้ผมจะไปจูบปากสาวๆได้ไงอ่ะ!”ไอ้ซาต้าโวยวายใส่ผมพลยกนิ้วขึ้นไปเช็ดเลือดที่มุมปากของมันเพราะผมใช้มือตบปากมันไป“แล้วใครใช้ให้มึงเสียงดัง!”ผมมองมันด้วยสายตาเบื่อหน่าย“ก็ดูนู้นดิ!”ไอ้ซาต้าว่าพลางชี้นิ้วไปที่ซาโยโกะจังอยู่ผมก็มองตามนิ้วมันไปและภาพเบื้องหน้าที่ผมเห็นคือ ไอ้ภามมันอุ้มร่างเล็กของซาโยโกะจังขึ้นอุ้มในท่าเจ้าหญิงแล้ว ทำให้ผมหายใจฟุดฟิดกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ ดูเธอยิ้มให้มันสิ โอ้ย!หึงเว้ยหึง!!!”ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บพรึบ“นาย!ต่อยหน้าผมแทนต้นไม้ก็ได้นะครับ!”เสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของคนที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องในเวลาเดียวกันเอ่ยขึ้นพร้อมกับแรงคว้าที่ข้อมือผมที่ต่อยลงไปบนต้นไม้ใหญ่อย่างไม่ยั้งมือและไม่กลัวว่าจะเจ็บแต่ตอนนี้ผมรับรู้ได้ถึงนำ้เหนียวๆที่สีแดงสดกำลังไหลออกมาจากข้อนิ้วของผมทุกนิ้ว แต่แววตาของผมกลับไม่ได้มองไปที่ซาต้าเลยสักนิดแต่มันอยู่ที่ร่างเล็กบอบบางของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนั้นมากกว่า แต่ผมมั่นใจว่าเธอจะไม่ทิ้งผมแต่ผมไม่ไว้ใจมันเลยไอ้ภาม!!!พรึบ โพล๊ะ“โอ้ย!จมูกใหม่ผม!”ไอ้ซาต้าลงไปนอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดเมื่อผมบันดาลโทสะ







