ณ เมืองโตเกียว
กรีนนักธุรกิจสาวและยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ผู้หญิงแกร่งที่มองหาอิสระในชีวิตเธอจึงทำงานอย่างบ้าคลั่งจนทำให้วันหนึ่งเธอรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจจึงบินมาญี่ปุ่นเพื่อทำอะไรตามใจตัวเองสักครั้งโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น กรีนนักธุรกิจสาวทั้งยังควบตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุนเธอมีเป้าหมายในชีวิตคือต้องการอิสระทางด้านการเงินและมีความมั่นคงในชีวิตด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมาเธอจึงพยายามตั้งใจเรียนตั้งแต่เด็กและทำงานอย่างบ้าคลั่งมาตลอดจนกระทั่งในที่สุดเธอก็รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจกรีนตัดสินใจบินมาญี่ปุ่นเพื่อหนีห่างจากสังคมที่เคยอยู่ หวังที่จะทำอะไรตามใจตัวเองเปิดโลกในเรื่องเซ็กส์ครั้งแรกสักครั้งโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น ค่ำคืนนี้เธอนั่งอยู่ที่บาร์ชิว ๆ แห่งหนึ่งในโตเกียว เครื่องดื่มที่เรียงรายหลากหลายยี่ห้อ แสงสีและไฟสลัวพี่ส้มอ่อนสลับสีม่วงสีน้ำเงินไปมาสร้างความโรแมนติกชั้นดีแม้ผู้คนจะมากมายแต่เป้าหมายผู้ชายที่ตรงสเปคของเธอในค่ำคืนนี้ก็ยังคงดูไรวี่แวว “หึ!..นี้สินะชีวิตของฉันเอาไงดีว่ะคืนนี้ สงสัยคงต้องลองซื้อกินจริง ๆ สินะ” เธอพึมพำอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากบาร์แห่งนี้เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายผู้ชายคนใหม่ ตึก ตึก ตึก โอ๊ย! ขณะที่กำลังเดินออกไปจากบาร์เธอเดินปะทะร่างกายแข็งแรงของหนุ่มวัยกลางคน เธอกล่าวขอโทษกับหนุ่มตรงหน้าเป็นเวลาเดียวกันที่สายตาเธอปะทะกับสายตาคมที่มีเสน่ห์ชวนหน้าหลงไหล ความสูงอกแกร่ง หน้าตา บ้าจริง หนุ่มหล่อมองหน้าเธอพร้อมกล่าวขอโทษเธอเองก็ขอโทษเขากลับไปเช่นกันเธอและเขารับรู้ถึงแรงดึงดูดบ้างอย่างระหว่างกัน เขาจึงชวนเธอนั่งต่อที่บาร์เดิม ในเมื่อมีผู้ชายพี่หมายตาชวนเธอขนาดนี้มีหรือว่าเธอจะปฏิเสธเขา “เอ่อ..คุณชื่ออะไรครับ”(ภาษาญี่ปุ่น) หญิงสาวนิ่งไปสักพัได้แต่คิดในใจว่าลืมเรื่องภาษาไปเลย ชายหนุ่มที่เห็นว่าฉันนั่งยิ้มแห้ง ๆ ทำหน้างง ๆ ให้กับเขา เขาจึงสนทนาอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษเธอจึงตอบกลับไปทันที “ชื่อกรีนค่ะ” รอยยิ้มที่สดใสของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มตรงหน้านิ่งไปครู่นึง จากนั้นเธอและเขาก็คุยกันด้วยภาษาอังกฤษซึ่งชายหนุ่มบอกว่าวันนี้เขาโดนเพื่อนของเขาเทมาเลยหาที่มานั่งดื่ม ซึ่งหญิงสาวก็คิดว่าเขาคงไม่ได้มาแค่นั่งดื่มอย่างเดียวหรอกมั่งใครดูก็รู้ เธอได้แต่สงสัยว่าหน้าตาแบบนี้เขาจะมีแฟนหรือเปล่านะ แน่นอนว่าถึงเป้าหมายเธอคือหาชายหนุ่มสักคนที่พร้อมวันไนท์กับเธอแต่เธอก็ไม่ต้องการคนมีเจ้าของ ซึ่งตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่ายิ่งคุยกับชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งน่าหลงใหลบวกกับน้ำเมาที่ทั้งสองคนดวลกันไม่ขาดสาย เธอเริ่มรู้สึกว่าเธอเมาได้ที่และเธอก็พร้อมเต็มที่สำหรับค่ำคืนนี้เช่นกัน เธอจึงชวนให้ชายหนุ่มไปต่อในใจเธอก็แอบคิดว่าเขาจะไปด้วยไหมนะ..ใจเธอเริ่มหวั่นไว ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเรียกพนักงานเช็คบิล หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็รีบควักบัตรเครดิตของตนเพื่อจ่ายค่าเหล้าในคืนนี้ทันที ชายหนุ่มอมยิ้มที่มุมปากพร้อมกับใบหน้าที่นิ่ง ๆ เรียบเฉยและสบตากับเธอผิวขาวเนียน ผมดำสนิทคนนี้พร้อมเอ่ยปากปฏิเสธเธอและเปลี่ยนบัตรเครดิตสีดำพรีเมียร์ใบใหม่ของตนและคืนบัตรของหญิงสาวให้แกเธอ หญิงสาวรับบัตรมาก็เก็บไว้ในกระเป๋าแบบไม่ได้คิดอะไรเพราะตอนนี้ต้องเรียกว่าเธอเมาได้ที่ขั้นสุดเธอที่รู้สึกมึนอึนไปหมด หมับ หลังจากชายหนุ่มรับบัตรเครดิตของตนคืนมาจากบริกร จากนั้นก็ได้คว้าเอวบางของหญิงสาวพร้อมเดินออกจากร้านโดยชายหนุ่มได้เดินไปที่จอดรถวีไอพีและไปเปิดประตูรถคันหรูสีดำของชายหนุ่มให้เธอ เธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด รถคันหรูจอดสนิทที่คอนโดของชายหนุ่มจากนั้นทั้งคู่ขึ้นไปยังห้องพักพร้อมกับความรู้สึกของเธอที่พอเอาเข้าจริงเธอก็รู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมา “เธอจะมาปอดแหกกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะกรีน” เธอที่พึมพำบอกกับตัวเองเพราะตอนนี้เธอมีความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมาขึ้นมาในใจ “มีอะไรรึเปล่าครับ” “อ่อ ๆ..เปล่าค่ะ ” เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ ในเมื่อเธอปฏิเสธก็ไม่อะไรที่จะกวนใจเข้าได้อีก พอถึงห้องพักชายหนุ่มตรงหน้าไม่รอช้าเริ่มจับเธอพิงกับโซฟาตัวโตที่อยู่ตรงกลางห้อง ทั้งสองคนต่างสบตากันและกัน ภายในใจหญิงสาวเธอรู้สึกว่าเขาหล่อเป็นบ้า จากนั้นมือหนาของเขาเลื่อนมือมาสัมผัสกับใบหน้าของเธอก่อนที่จะเลื่อนมือลงมาจับที่ผมแววตาหื่นกระหายของเขายิ่งทำให้เธอหวั่นใจ เขาเลื่อนมือสัมผัสไล่ระดับเลื่อนปลายมือสัมผัสไปทั่วร่างกายทำเอาเธอสยิวเสียวไปทั่วร่าง ใจเธอเริ่มสั่นไหวมากขึ้นไปเลื่อย ๆ หมับ เธอตัดสินใจใช้สองมือจับใบหน้าเขาขึ้นมา เขาเองก็ดูจะตกใจเล็กน้อยกับท่าทีของเธอ จากนั้นเธอก็รีบพุ่งเข้าจูบอย่างเร้าร้อนลิ้มลองรสชาติของเขาทันที ปลายลิ้นที่พุ่งเข้าหากันอย่างกระหายมันยิ่งสร้างแรงปรารถนาในตัวเขามากกว่าเดิม อื้ม~ จ๊วบ จ๊วบ อ๊าส์..จ๊วบ จ๊วบ รสชาติน้ำเมาทั้งริมฝีปากหนาของเขารสชาติจูบที่ดุเดือนครั้งนี้ต่างไม่มีใครยอมใครและได้ลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่ใจพวกเขาตต่างก็เต้นรัว ๆ เธอรู้สึกว่าคนสองคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงนี่เธอพาตัวเองมาไกลขนาดนี้เลยหราเนี่ย เธอเริ่มเกิดความลังเลและเหมือนกับว่ากำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่ จากนั้นมือหนาที่เริ่มเลื่อนมาจับขย่ำเนินอกทั้งยังใช้นิ่วเขี่ยสกิดปลายยอด เขาเริ่มออกแรงใช้มือหนาบีบคั้นหน้าอกและเริ่มออกแรงหนักขึ้นเลื่อย ๆ อ๊าส์..อื้ม..อ๊าส์ ซี๊ดส์…อ๊าส์ แม้แรก ๆ เธอก็แอบเจ็บอยู่บ้างแต่เธอก็รู้สึกดีปะปนสลับกันไป เขาที่ได้ยินเสียงครางของเธอ เขาค่อย ๆ ถอดเสื้อตัวนอกของเธอออกปลายนิ่วของเขาที่ผ่านเฉียดๆกับเนื้อร่างกายของเธอ ยิ่งทำให้เธอมีอารมณ์พลุ่งพล่านเสียวซ่านหนักกว่าเดิม เขาก้มลงบรรจงดูดดื่มลงบนยอดเม็ดบัวทั้งเลียละเลงวนบนปลายยอดทั้งขบเม้นเม็ดบัว อ๊าา..ซี๊ดส์ เสียวจัง..อื้ม เสียงเธอที่เผลอครางออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่าตอนนี้เธอนั้นหลุดลอยไปไกลเพียงใด มือที่ฉันไม่รู้จะเอาไว้ไหน เธอก็เกาะจิกที่โซฟาเอาไว้แน่น ๆ ขาทั้งสองข้างเริ่มเกร็งบิดเบียดกันไปเขาที่เห็นอาการของเธอแบบนั้นจึงกระซิบบอกให้เธอผ่อนคลายขึ้น “ไม่ต้องเกร็งนะครับ” เขาพูดปลอบประโลมเธอก่อจะขบเม้นและเลียที่ติงหูข้างขวาที่ถึงกระซิบเธอไปจากนั้นเขาก็เริ่มซุกไว้ต้นของเธอก่อนจะจูบปากบางเธออีกครั้งอย่างนุ่มนวลและหยอกเย้าอย่างเอาใจ ปลายลิ้นที่ถูกเขาสัมผัสถูกปลายลิ้นเธอบ้างไม่ถูกบ้าง เธอที่มีแรงปรารถนาอยู่แล้วก็พยายามเกี่ยวลิ้นของเขาไว้พอเขาก็ใจที่ได้หยอกเย้าก็กดจูบดูดดื่มอย่างเอาเป็นเอาตาย จ๊วบ จ๊วบ อื้ม..ซี๊ด อ๊าาส์ เขาจับมือเรียวของเธอให้สัมผัสที่หน้าท้องซิกแพคของเขา เธอที่ได้สัมผัสลูบไล้จนพอใจก็ใช้มือคล้องคอของเขาไว้ เมื่อเขาเห็นว่าเธอผ่อนคลายมากขึ้น เขาจึงเริ่มลูบไล้ไปมาที่ต้นขาและจับอ้าขาเธอให้กว้างก่อนที่จะสัมผัสตรงกลางกลีบงามและเนินกระสันของเธอ เธอสดุ้งตัวนิดหน่อยกับมือหนาที่ถูไถไปมา จากนั้นเขาเอามือล้วงเข้าไปในพื้นที่สงวนของเธอ เขาสัมผัสได้ถึงน้ำหวานไหลเป็นทางผ่านนิ่วมือหนาของเขาพี่ไทกะยิ้มขึ้นมาเอาตรง ๆ ฉันก็อึดอัดนะจะมานั่งมองกันแบบนี้ แถมพูดเสร็จก็ส่งสายตาเจ้าเลห์ เหอะ! ฝันไปเถอะไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน หลังจากนั้นฉันเอาแต่เงียบไม่พูดต่อพอกินเสร็จฉันก็เก็บจานไม่แคร์พี่เขาเลย “ใจร้ายจังเลยนะ เราไม่สงสารพี่บ้างหรอ” “ใครบังคับพี่คะ กรีนเรียกพี่แล้วแต่พี่ปฏิเสธเองฉะนั้นจะมากล่าวหาว่ากรีนใจร้ายไม่ได้นะคะ” “เรากลับห้องเราเถอะนะพี่เกรงใจอาชิเขา อีกอย่างพี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยแถมเสื้อผ้าไม่ได้เอามาอีกแต่..ทำไมกรีนมีเสื้อผ้าเปลี่ยนที่คอนโดอาชิด้วย” ฉันกำลังจะจัดการล้างจานพี่เขาก็เขามาช่วย ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรพอพี่เขาพูดจบพี่เขาก็หน้ามุ้ยทันทีคงจะโกรธ แต่เห็นว่าฉันยังคงโกรธอยู่จึงไม่กล้าโกรธหรืองอน “ปกติสมัยก่อนกรีนก็มาพักที่นี้บ้างค่ะ เพราะมาช่วยงานอาชิ จึงมีเสื้อผ้าสำรองไว้“ “พี่กับกัสเราจบกันไปนานแล้ว พี่เคยคบกับเธอจริง ๆ สมัยเรียนมหาลัยและช่วงที่กัสเข้ามหาลัยปี 1 พี่มาต่อโทที่ไทยอีกใบ จากนั้นพี่กับกัสก็เลิกกันไปแล้วและก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย” “เลิกกันเพราะอะไรคะ” “พี่แค่รู้สึกว่าพี่เข้ากับเธอไม่ได้อีกอย่างพี่
ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันทำให้กรีนรู้สึกแย่แน่ ๆ จากนั้นผมพยายามเดินไปจับมือกรีนให้เดินไปที่รถ ตอนนี้ผมทั้งสับสนและกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกกลัวว่าน้องจะไม่เข้าใจผม กรีน หลังจากที่ฉันได้รู้ว่าพี่ไทกะกับนางนั้นเคยสนิทกันใจฉันมันก็สั้นไหวอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาฉันตอนนี้ไหลมาไม่หยุดในหัวคิดวนเวียนเรื่องราวระหว่างเขาสองคน ฉันทำใจไม่ได้ที่รู้ความจริง มันเร็วเกินจะรับไม่ไหวจริง ๆ “เรากลับบ้านก่อนค่อยคุยกันนะกรีน” “กรีนขอเวลาหน่อยนะคะ พี่ไทกะกลับไปก่อนได้เลย” “กรีน! อย่างี่เง่าพี่ขอ กลับคอนโดก่อนพี่จะอธิบายเอง” พี่เขาคงทั้งเหนื่อยและกังวลใจฉันเองก็ไม่ต่างแต่สภาพฉันตอนนี้บอกเลยว่าไม่พร้อมรับฟังอะไรทั้งนั้น “กรีนไม่พร้อมที่จะฟังค่ะ เดี๋ยวกรีนให้อาชิไปส่งเองพี่กลับไปเถอะ” “ทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย กลับไปคุยกันที่คอนโด เรื่องแค่นี้เองแถมมันก็เป็นอดีตด้วย” ฉันไม่อยากจะรับฟังจึงเลือกที่จะกดโทรหาอาชิทันที “ฮื่อ..อาชิมารับฉันที่โรงจอดรถอาคารเอชั้นใต้ดินหน่อยฮื่อ..” “อืม รอก่อนฉันจะรีบไป” “ท
“ไงหายหน้าหายตาไปเลยนะ ไลน์ไปก็บอกว่ายุ่งตลอดเลย เป็นไงบ้างช่วงนี้ สรุปคือเป็นแฟนกับคุณไทกะยัง” เฮ้ออ~ “ก็ยุ่งจริง ๆ อ่า..แถมพี่ตะวันก็กลับมาแล้วด้วยและฉันก็กำลังคบกับพี่ไทกะอยู่อีกต่างหาก เป็นไงแกว่า” “หึ หึ เอาน่า ๆ ยังไงฉันก็อยู่ข้างเธอนะกรีน มีไรให้ช่วยก็บอกอยากปรึกษาอะไรก็ติดต่อฉันมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ แต่วันนี้สวยมากเลยนะดูจึ้งมาก” “จริงหรอ? ขอบคุณนะ แต่ฉันออกมานานแล้วอ่า ขอตัวไปหาพี่ไทกะก่อนนะเดี๋ยวพี่เขาเป็นห่วงอ่ะ” อาชิพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทันที่ที่เข้าไปในงาน ฉันก็เจอพี่กันต์และไอยูฉันยิ้มให้พวกเขาที่เดินมาแต่ไกลก่อนฉันจะเดินไปทักทาย “สวัสดีค่ะพี่กันต์/ไอยู” “ สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ วันนี้คุณกรีนสวยจังเลยนะคะ” “คุณไอยูก็เหมือนกันนะคะ” “ไอ้ไทกะไปไหนหรอ ทำไมปล่อยให้เราอยู่คนเดียว” “กรีนหนีไปสูดอากาศข้างนอกมาค่ะ น่าจะอยู่แถว ๆ นี้นะคะ” จากนั้นฉันกวาดสายตามองทันใดนั้นพี่ไทกะก็เดินมาพอดี พี่ไทกะหยักคิ้วให้พี่กันต์และยิ้มให้ไอยู ทั้งสามคนตอนนี้ก็ค่อนข้างที่จะกลับมาปกติกันมากขึ้นหลังจากจบเรื
เธอที่เห็นอาการผมเธอก็เริ่มถอดเสื้อถอดกางเกงและกางเกงในผมก่อนจะลูบไล้ลูกชายผมออกมารูดขึ้นลงผมเองก็ใช้นิ้วเขี่ยถูไถ่ช่องทางรักภายในก็ตอดรัดนิ้วเขาตุบ ๆ อา..อื้ม “อื้ม..หนูจะทำให้พี่คลั่งแล้วนะ” ผมที่ยืนแทบไม่ติดปล่อยให้เธอจัดการลูบไล้ไม่นานเธอก็นั่งคุกเข่าก่อนที่ปากเล็ก ๆ ของเธอก็ยัดท่อนเอ็ดที่ผงาดเต็มเข้าไป ปากเล็ก ๆ ขยับเข้าออกและเร่งจังหวะบ้างผ่อนจังหวะบ้าง สายตาและท่าทางของเธอผมยิ่งเสียวจนเกือบจะเสร็จ จากนั้นผมก็จับตัวเธอลุกขึ้นมาพร้อมทั้งจูบอันเร้าร้อน จ๊วบบบ จ๊วบบบ “อื้ม อาา..พี่ทะไทกะ.. หนูไม่ไหวแล้วนะคะ” พอผมถอนจูบผมที่เห็นอาการเธอก็ยิ่งดูดสองเต้าบีบขย่ำเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามันส์ หลังจากนั้นผมก็จัดการให้เธอหันหน้าชนผนังห้องน้ำส่วนก่อนที่ผมจะจับขาเธอให้แยกออกจากกันและผมก็ใส่ท่อนเอ็นแทงเข้าไปในใจกลางกายเธอ เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นพอ ๆ กับเสียงครางของเธอ ยิ่งเห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งกระแทกร่างบางไม่หยุดจนใจที่สุดเราก็จุดสุดหมาย พออาบน้ำร่างตัวเสร็จก็ก็อุ้มเธอมาที่เตียงและบรรเลงเพลงรักใหม่เราทั้งคู่เสร็จสมไปรอบที่เท่าไรไม่รู้ จนเกือบจะเช้าถึงจะได้นอนกั
“ แฟนหนูทำไมน่ารักแบบนี้นะ” พูดเสร็จเธอก็จูบผม แน่นอนว่าผมก็จูบตอบกับอย่างออกรสออกชาติ จ๊วบ จ๊วบ อื้มม เสียงมือถือผมสั่นจึงทำให้ผมผละออกจากจูบที่แสนหวานนี้ ผมดูเบอร์โทรเป็นของริว คงจะโทรมาตามไปประชุมต่อ “ว่าไง โอเคไปตอนนี้ล่ะ ” “พี่ไปประชุมก่อนนะ เราก็พักผ่อนรอพี่ก่อนแล้วกัน พี่จะรีบมานะคะ” “ค่ะ ไม่ต้องรีบหรอกค่ะเอางานพี่ก่อนเลย พี่ไทกะไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะแต่.หนูขอสำรวจห้องนี้ได้ไหมคะ” “ได้สิครับ สำรวจได้ทั้งห้องและได้ทั้งเจ้าของห้องเลย” ผมยิ้มแบบมีเลสนัยให้เธอ เธอทำตาโตเพราะรู้ความหมายที่จะสื่อ “ไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะสายให้คนอื่นรอนาน ๆ ไม่ดีนะคะ” จากนั้นผมก็ประชุมต่อ จนถึง00:30 นาฬิกา เอาตรง ๆ ผมตั้งใจจะเลิกเร็วนะ แต่พอทำงานแล้วผมก็ลืมเวลาไปเลย พอผมเข้ามาในห้องก็เจอกรีนกำลังหลับบนโซฟาอยู่ เธอคงเหนื่อยจริง ๆ ผมเก็บของและเข้าไปปลุกเธอ “กรีนครับ ๆ เรากลับบ้านกันเถอะ” “ประชุมเสร็จแล้วหรอคะ” “ค่ะ มาเอากระเป๋ามาพี่ถือให้เราเอง” เธอสะลึมสะลื้องั้วเงี้ยตื่นก่อนจะพยักหน้างึก ๆ ด้วยอาการคนเพิ่
“กรีนทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ กรีนรักเขาไปแล้วพี่ตะวันช่วยเข้าใจด้วยนะคะ” “ได้ พี่จะให้โอกาสผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาทำให้กรีนเสียใจ พี่จะทวงคืนเอง หวังว่าวันนั้นกรีนจะแต่งงานกับพี่นะเราโอเคหรือเปล่า” “ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ตะวันคิดว่าจะยอมถอยในครั้งนี้กรีนก็รับปากค่ะ” คงเป็นทางเดียวที่ฉันจะหาทางออกได้ในตอนนี้อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเรื่อง “งั้นเราค่อยขึ้นไปภูเก็ตอาทิตย์หน้าดีไหมคะ กรีนขอเคลียร์งานที่บริษัทซักสามสี่วันก่อนนะคะ” “ได้ค่ะ งั้นเรากินข้าวกันเถอะ” หลังจากนั้นเราก็กินข้าวคุยกันถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันปกติ สายตาฉันก็ปะทะเข้ากับผู้ชายสูงวัยและสาวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินคุยกันอย่างมีความสุขและออกรถออกชาติ ฉันปลายมองแค่นั้นหัวใจฉันก็เจ็บปวด แต่ฉันต้องเข้มแข็งและตัวเองจะต้องทำเป็นไม่สนใจ แต่พวกเขากับเดินมาที่โต๊ะของเรา “แกไม่คิดจะกลับมาแก้ไขปัญหาบริษัทบ้างเลยรึไง” หึ!! คำพูดที่แรกที่เขาทักทายฉัน “มันมีความจำเป็นด้วยหรอค่ะ อยากพากันได้หนักก็แก้ปัญหาเองสิ” “นางลูกอกตัญญู ฉันกับแม่แกสร้างมาด้วย