“ห้ะ!! อีก 2 วันไม่ใช่หรอว่ะ รีบไปทำไมปกติมึงงานยุ่งจนหัวหมุนไม่ใช่หรอ?..แปลก ๆ นะมึงเนี่ย”
ติ้ง! เสียงแชทของงเขาเด้งเข้าพอดี แชทกรีน: คุณได้สั่งเบียร์หรือยัง ไม่รู้ว่าร้านนี้เขามีหรือเปล่าอ่า คุณถามเขายัง แชทไทกะ: ได้สิ เดี๋ยวผมจัดการให้ “กูรบกวนมึงสั่งลูกน้องมึงไปเสริฟเบียร์คุณผู้หญิงโต๊ะริมในสุดให้กูหน่อยดิ” “หื้มม กูต้องอึ้งอันไหนก่อนดีระหว่างมึงพาผู้หญิงมากินข้าวหรือมึงสั่งเบียร์ม่อมผู้หญิง” “เสือก! เร็ว ๆ เข้า” ไอ้ม่อนก็หัวเราะชอบใจก่อนจะสั่งลูกน้องให้นำเบียร์ไปเสริฟเธอปกติร้านมันไม่มีขายหรอกแต่มันเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้วบางทีเราก็มานั่งกินที่ร้านมันอยู่บ่อย ๆ ทำให้ผมรู้ดีว่ามันมีแน่ ๆ “กูเห็นมึงมูฟออนได้กูก็ดีใจนะ แม่งยังไงมึงก็รับสายไอ้กันต์หน่อยก็ดีนะเว้ย ยังไง ๆ ก็เพื่อนกันเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว กูคนกลางก็ลำบากใจนะครับ” “มึงไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้เอาเอกสารมาให้กูเร็ว ๆ ” “เรื่องโครงการนี้กูจะไอ้ไวท์เร่งอีกทีนะ” “ป่ะ เดี๋ยวกูเดินไปส่ง” “ กูว่ามึงไม่ได้อยากไปส่งกูหรอกแต่มึงอยากอย่างอื่นมากกว่า” “เอ่อน๊า กูไม่ยุ่งกับคนของมึงหรอกให้กูทักทายหน่อย เดี๋ยวกูจะดูเป็นคนเสียมรรยาท” จากนั้นพวกเราเดินมาถึงโต๊ะของเธอ ซึ่งตอนนี้หน้าเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังเมาได้ที “ทำไมมาช้าจังเลยคะ ปล่อยให้ฉันนั่งรอคุณแบบนี้มันไม่ดีเลยรู้ไหมคะแล้วนี่..ใครอ่า” เธอบ่นผมก่อนจะขมวดคิ้วแล้วชี้หน้าไอ้ม่อนมันที่เห็นก็รีบทักทาย “สวัสดีครับผมชื่อไดม่อน ผมเป็นเพื่อนไอ้ไทกะครับ” “ฉันกรีนค่ะ เป็นแฟนของคุณไทกะ แฮร่ ๆ” เธอพูดก่อนจะหันหน้ามายิ้มสดใสใส่ไอ้ม่อน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบที่เธอยิ้มแบบนี้ให้ใครเท่าไรเลย “ว๊าว นี่กูตกข่าวอะไรไปรึเปล่าว่ะ กูจำได้ว่ามึงเพิ่งห่างกูไปสองวันกลับมามีแฟนแล้วหรอว่ะ” ไอ้ม่อนมันกระซิบกระซาบก่อนจะขำผมออกมา “มึงเงียบ ๆ ไปเลย” “ป่ะเรากลับกันเหอะ เธอเมามากแล้ว” ผมบอกกับกรีน เธอพยักหน้างึกๆ ก่อนจะเดินออกจากร้านผมก็พาเธอกลับคอนโดทันที พอมาถึงลานจอดรถผมกำลังลังเลว่าทำไงดีจะอุ้มเธอไปที่ห้องหรือปลุกเธอดี ผมคิดสักพักก่อนที่ผมจะตัดสินใจ ช้อนร่างบางขึ้นมาจากรถและเดินไปที่ห้องของผม ดูท่าจะเหนื่อยจริงๆ หลับสนิทเลย อื้อ~ เสียงงัวเงียของเธอระหว่างทางจะถึงห้อง เธอตื่นจังหวะที่ผมกำลังเข้าห้องพอดี แกร๊ก “คุณอุ้มฉันมาที่ห้องคุณหรอ” “นอนพักต่อนะครับเด็กดี” จากนั้นผมวางเธอลงบนเตียงนอนของผมพร้อมถอดรองเท้าให้เธอ ก่อนผมจะลงไปลานจอดรถคอนโดผม เพื่อขนกระเป๋า 2 ใบที่อยู่ในรถเอาขึ้นมาที่ห้อง ผมอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินมาดูแมวน้อยขี้เซาที่หลับสนิท “ไหนของขวัญที่คุณจะให้ผมล่ะ สงสัยอย่างนี้ต้องทบต้นทบดอกแล้วมั่ง” ผมพรึมพรำออกไป แล้วลูบผมออกตรงหน้าเธอก่อนจะห่มผ้าให้เธอ จากนั้นผมเดินไปที่โต๊ะทำงานเคลียร์เอกสารให้เรียบร้อยก่อน เผื่อพรุ่งนี้จะได้พาเธอเที่ยวให้สบายใจ มันแปลกๆอยู่เหมือนกัน ทำไมผมรู้สึกดีแบบนี้ ทั้งๆที่เราเองก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน อาจเป็นเพราะนิสัยหรือเคมีอะไรบ้างอย่างที่ทำให้เราเข้ากันได้ เกือบจะตีหนึ่งที่ผมเคลียร์งานเสร็จ จากนั้นผมก็ขึ้นเตียงเพื่อนอนพักสายตาตื่นขึ้นมาค่อยจัดการเด็กดื้อที่ไม่ยอมเชื่อฟังผม กรีน อื้ออ~ฉันตื่นมาจากอาการเมามึน ๆ ก่อนหน้านี้ที่ฉันจำได้ คือฉันกินราเมงก่อนจะขอสั่งเบียร์เพื่อยอมใจ ไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านมาก แต่ด้วยสกิลการดื่มที่อ่อนหัดของฉันบวกกับการดื่มที่อาจจะหนักไปหน่อย พอฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนอุ้มฉันขึ้นมาที่ห้อง ฉันรู้สึกเสียอาการหนักมากพร้อมความเขิน บ้าจริง! ฉันนั่งที่หัวเตียงสักพักก่อนจะหามือถือตัวเอง เวลา03:00น. หลับลึกเหมือนกันนะเร..ฉันเข้าเช็คแชทข้อความดูว่ามีใครทักมาบ้างหรือเปล่า แชทอาชิ: ฉันถึงห้องพักแล้วนะ เจอกันที่ไทยนะ แชทกรีน: โอเค เดินทางปลอดภัยนะเจอกันที่ไทย จากนั้นฉันเดินไปหากระเป๋าเพื่อหาเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ เดินสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าสงสัยเขายังไม่ได้เอาของฉันขึ้นมา “ขอใช้ของนายก่อนแล้วกันนะไทกะ” ฉันเดินผ้าขนหนูพร้อมเสื้อเชิ้ตขาวตัวโตโอเวอร์ไซด์มาตัวหนึ่ง พอฉันอาบน้ำเสร็จก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย ๆ ก่อนเดินไปมองหน้าเขาที่หล่อ ๆ ที่กำลังหลับสนิท “น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยหลับปุ๋ยเลย หึ ๆ” จากนั้นฉันก็จะนอนต่อฉันหันหน้าไปทางเขาระยะห่างหน้าเขากับหน้าฉันห่างแค่คืบเดียว ลมหายใจที่รดผ่านกันทำเอาใจฉันสั่นขึ้นมา ไม่ได้นะกรีนแกจะมาหิวเขาตอนนี้ไม่ได้.. ฉันพึมพำกับความคิดบ้า ๆ นี้ ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มของเขาและหลับตากะว่าจะนอนต่อ “หิวหรอ..ผมนึกว่าคุณจะลักหลับผมซ่ะอีก ทำไมจับแค่แก้มผมอ่า คุณแฟน” พรึบ สักพักเขาลุกขึ้นคร่อมร่างกายฉันจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนเราสบตากันและกันและเขากระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะเริ่มโน้มตัวมาหอมแก้มป้อง ๆ ของฉันเบา ๆ ฉันที่โดนจับได้ก็ตัวแข็งทื่อกระพริบตาปริบ ๆ “ของขวัญที่คุณจะให้ผมเนี่ยคืออะไรหรอ ผมชักอยากได้แล้วสิ” เขากระซิบข้างหูเบา ๆ ก่อนจะกัดติ่งหูของฉันเล่นเอาเสียวไปถึงท้องน้อยเลยตอนนี้ “คุ..คุณตื่นแล้วหรอคะ ฉันทำให้คุณตื่นรึเปล่า” เขากลับยกยิ้มที่มุมปากหนาพร้อมพึมพำ หอมจัง.. เอาใบหน้าซุกไซ้ไปทั่วทั้งคอของฉัน ลมหายใจของเราทั้งคู่ที่เริ่มเพิ่มความถี่มากขึ้นเลื่อย ๆ อ๊าาา.. ฉันที่ตอนนี้แทบจะคลั่งเขาอยู่แล้ว แต่ยังคงอดกั้นความอยากเอาไว้ “ผมขอนะครับ” อื้มมม..อา ใจที่ไหวหวั่นอยู่แล้วบอกเลยว่าตอนนี้เตลิดไปไหนก็ไม่รู้ ฉันที่ไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจได้ขนาดนี้มาก่อน ฉันเลือกที่จะไม่ตอบแต่เลือกที่ถางขาให้กว้างและจะส่งเสียงครางแทนการอนุญาต เขาที่รู้ทันเริ่มขย่ำหน้าอกที่คับแน่นของฉันก่อนจะใช้ลิ้นเลียวนไปซอกคอ ไล่ระดับขึ้นลงเหมือนเด็กขี้สงสัย “ได้มั้ยครับ ตอบผมหน่อย” “แฟนก็เป็นแล้ว ทำไมจะไม่ได้ละคะ” เขาที่เริ่มที่จะไม่ไหว แต่ก็อยากฟังคำอนุญาตจากปากฉัน ฉันก็ยิ้มพร้อมหลบหน้าเขาด้วยความเขินอาย เขาไม่รอช้าพุ่งจูบฉันอย่างดูดดื่มและดุเดือดแทบจะกระชากวิญญาณออกจากร่างอยู่แล้ว จ๊วบบบ อื้มมม~ เขาแลกลิ้นซุกซนไปครู่ใหญ่ไม่ปล่อยให้ฉันหายใจหายคอ อ๊าาส์ เขาเร้าร้อนกว่าครั้งแรกแถมดุดันแต่ก็รู้เสียวและดีเกินคาดจริง ๆ เขาใช้มือหนาสำรวจน้องสาวของฉัน ที่ฉ่ำน้ำหวานมากในตอนนี้ เขายกยิ้มริมฝีปากหนาที่บ่งบอกว่าพอใจแค่ไหน “ดูคุณจะพร้อมแล้วนะ” เขากระซิบข้างใบหูฉัน ฉันได้แต่เขินอาย เขาใช้นิ้วหนาสอดเข้าไปสำรวจรอบนอกก่อนจะขยับพื้นที่ในร่องข้างใน “อะ อ๊าาาา ทะ ไทกะ” ..ฉันที่เสียวจนต้องร้องเสียงหลง บ้าไปแล้วเขาจะทำให้ฉันคลั่งไคล้เขาไปถึงไหน เขาเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ แล้วเริ่มเพิ่มจังหวะ ปากเขาดูดเลียยอดประทุมทันหน้าอกฉันเขาก็ขบกัดเบา ๆพอผมเห็นแบบนั้น ผมจับขาสองข้างของเธอให้กว้างมากพอและใช้มือกดเล็กน้อยไว้ไม่ให้เธอหุบขาเข้าหากันก่อนจะโน่มใบหน้าเลียตวัดกลีบยิ่งเพิ่มระดับความเร็วและความถี่เข้าไปที่ติ่งเสียวที่ทำเห็นอาการเธอมากที่สุดเป็นจังหวะรัว ๆ อะ อ้ะ อ๊าา~ เธอที่เสียวก็ครางไม่เป็นภาษาไม่หยุด ไม่นานร่างกายเธอก็กระตุกรัว ๆ บ่งบอกว่าในที่สุดเธอก็เสร็จสม ผมกินน้ำหวานที่ไหลมาเป็นทางได้ครบทุกหยด ก่อนจะขึ้นคร่อมเธอต่อ ก่อนจะโน้มตัวกระซิบเธอด้วยเสียงกระเส่า “พี่ขอนะ” สวบ! ตับ ตับ ตับ จบประโยคนั้นเธอก็พยักหน้างึก ๆ การเริงรักครั้งนี้เธอดูผ่อนคลายและเป็นความรู้สึกที่โหยหากันทั้งคู่ แม้จะมีบ้างครั้งที่เกร็ง ๆ อยู่บ้าง แต่สำหรับผมนั้นต้องบอกว่าติดใจในรสชาติบนตัวเธอเข้าแล้วจริงๆ ผมเริ่มเร่งจังหวะกระแทกทั้งถี่ ๆ ทั้งช้า ๆ เพื่อต้องการไม่ให้ตัวเองถึงที่หมายเร็วเกินไป ผมจับขาอีกข้างให้ซีกและยกมาพาดเอวผมไว้ข้างหนึ่งและกระแทกเธอต่อ ผมที่เสียวมากเช่นกันก็ได้แต่เงยหน้ามองเพดานก่อนจะหันหน้าไปบอกเธอด้วยเสียงกระเส่า “ เสียวมากเลยค่ะ กรีนช่วยครางชื่อพี่ได้ไหมกรีน” “พิ..พี่ไทกะกรีนขอลึกกว่านี้
ไทกะ กรีนเธอพาผมเดินอยู่หลายชั้นพอสมควร ผมสังเกตเห็นเธอเดินช้าลง เท้าเธอก็เริ่มแดงผิดปกติ เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนทำหน้าตาละห้อย “พี่ว่าเท้ากรีนน่าจะเจ็บเท้านะ” “นิดหน่อยค่ะ น่าจะเดินเยอะไป เอางี้ดีกว่าเราไปซื้อร้องเท้าผ้าใบเปลี่ยนหน่อยน่าจะโอเคนะคะ” ผมพยักหน้าพร้อมมองหาร้านรองเท้าผ้าใบให้หลังจากเจอร้านผมก็พาเธอเข้าร้าน พนักร้านแนะนำและเลือกร้องเท้าให้เธอ เมื่อผมเห็นเท้าของเธอ ผมค่อนข้างตกใจว่าเธอทนเจ็บขนาดนั้นได้ยังไง หลังจากเลือกเสร็จพนักงานเอ่ยถาม “คุณผู้ชายรับด้วยไหมคะ คู่สองมีโปรโมชั่น ลด50% นะคะเป็นรองเท้าคู่รักด้วยนะคะรุ่นนี้ลิมิเต็ดสุด ๆ ค่ะ” พนักส่งสายตาให้ผมเพื่อที่เธอต้องการจะขายร้องเท้าให้ผม ผมกำลังจะปฏิเสธเธอไปแต่.. “ได้ค่ะ พี่ไทกะไซต์อะไรคะ? “รับนะคะ ถือเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ” ผมกำลังปฏิเสธเธอไป เธอกลับยิ้มสดใสพร้อมสายตาออดอ้อนผม..ทำขนาดนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ ผมแจ้งไซต์พนักงานไปสักพักพนักงานหยิบรองเท้าคู่นั้นมาให้ผม “คุณผู้ชายจะรับกลับหรือจะใส่เลยคู่คุณผู้หญิงดีคะ?” “เดะผมใส่เลยครับ” เธอหันมาสบตา
“ไม่ร้อง ๆ ไม่ต้องร้องแล้วนะคะเด็กดี กูพาเธอไปพักก่อนนะ ราเมงก็กินเสร็จแล้วด้วย น่าจะไม่งอแงเท่าไรแล้ว” ไอ้ซา: เอ่อ ๆ พากลับเหอะว่ะ น่าจะเต็มกราฟสุดกว่านี้ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว อุ..อ้วกก~ เธอวิ่งเซ่เพื่อจะไปอ้วก พร้อมทั้งจะร้องไห้ ผมได้แต่แต่ลูบหลังให้เธอ หลังจากอ้วกเสร็จผมก็อุ้มเธอและพากลับห้องทันที จากนั้นก็ถอดรองเท้าและป้อนยาแก้เมาค้างให้ก่อนจะจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนแล้วนอนข้าง ๆ เธอ วันนี้เธอเมาจนแทบไม่ได้สติทำให้ผมต้องอดมีอะไรไปด้วยเพราะจะให้ผมเอาตอนนี้ก็ดูจะไม่สมควรเท่าไร ช่วงเช้าวันถัดมา กรีน ฉันตื่นมาด้วยอาการปวดหัวอยู่ไม่น้อยเมื่อคืนฉันน่าจะดื่มหนักไปหน่อย อืมมม~~ จู่ ๆ พี่ไทกะก็เดินมาจูบริมฝีบางฉันเบา ๆ “อรุณสวัสค่ะ” “หนูยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนะคะ” ฉันทำหน้ามุ้ยใส่พี่เขา พี่เขากับทำหน้าระรื่นยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงพี่ก็รักกรีนนะคะ หิวรึยังให้พี่เอาอาหารมาให้ที่ห้องไหม” ฉันว่าเขาจะเล่นสมบทบาทเกินไปแล้วนะ เขาจะรู้บ้างไหม..ว่ามันทำให้คน ๆ นี้หวั่นไหวมาก หัวใจเริ่มเป็นของเ
“อากาศข้างนอกเย็นกรีนใส่เสื้อตัวหนาๆหน่อยนะ” “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” ผมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ เธอจึงเลือกเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะแต่งตัวมิดชิดซึ่งผมก็มองว่ามันก็ดีแล้ว “พี่ไทกะทำรอยเยอะไปแล้วนะคะ ครีมก็จะหมดแล้วปิดไม่หมดแล้วเนี่ย แบบนี้ต้องโดนพี่ม่อนต้องล้อกรีนแน่ ๆ เยอะจนหนูปกปิดไม่หมดแล้วเนี่ย..หิวก็หิว” “ใครจะกล้าล้อ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไปเหอะไม่เป็นไรหรอกคะ” เธอหน้ามุ่ยเหมือนแอบงอน ๆ ก่อนจะเดินไปที่ริมสระน้ำที่พวกเพื่อนผมมันตั้งวงเปลี่ยนบรรยากาศไว้มารอดื่มชิว ๆ ให้แล้ว ไอ้ม่อน: อ้าวอยู่บ้านพักหรอ กูนึกว่ามึงไปข้างนอกเลยไม่ได้ไปตามนะ ไอ้ม่อน: สาวน้อยกินอะไรมาหรือยัง มา ๆ กินเหล้า เห้ย! กินข้าวกัน เธอยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อนที่ผมจะให้เธอนั่งลงข้าง ๆ ผม จากนั้นผมก็ตักอาหารให้เธอทันทีเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอหิวมาก ๆ ไอ้เลย์: กูว่าน่าจะกินมาแล้วนะ..แต่กูหมายถึงไอ้ไทนะ ดูจากอาการไอ้คุณแฟนอารมณ์ดีหน้าบาน ส่วนสาวน้อยไอ้ม่อนก็หิวโซเชียว คุณแฟนมึงก็ให้น้องมันกินข้าวกินปลาหน่อยสิว่ะ หักโหมไปมันไม่ดีนะเว้ย ครืดด!! โอ้ย..ไอ้ห่าเดี๋ยวกูก็ตกน้ำหรอก แค่หยอ
“อ่อ..วันนี้ว่าจะพักอยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ กรีนนเห็นว่าพี่ ๆ มีงานกันไม่ใช่หรอคะ ขออยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ” ฉันหันหน้าไปสบตาพี่ไทกะก่อนจะยิ้มให้พี่เขาไป พี่ไทกะเองทก็ส่งสายตาหวาน ๆ ตอบฉันกลับทำเอาทุกคนออกอาการหมั่นไส้พวกเราขึ้นมาบ้าง พี่ม่อน: สาวน้อยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ตาย ๆ ไอ้ไทกะมันจะคลั่งรักเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้นะสาวน้อย..ฮ่า ฮ่า พี่กันต์:ฉันกับไอยูไปรอที่ห้องประชุมก่อนนะ พวกแกค่อยตามมาแล้วกัน ขณะที่ทุกคนหัวเหราะขำขัน พี่กันต์นี้ก็แอบช็อตฟิวส์ทุกคนเบา ๆ เหมือนกันนะเนี่ย ทุกคนพยักหน้ารับทราบมีเพียงพี่ไทกะที่นั่งนิ่ง และมองหน้าฉันที่กินข้าวต่อ พี่ไทกะ: ไม่อยากไปไหนจริง ๆ หรอ พี่พาไปได้นะ “วันนี้กรีนขอพักก่อนดีกว่าค่ะ รู้สึกเพลีย ๆ แต่ก่อนจะบินกลับไทยกรีนขอรบกวนพี่ไทกะพาไปซื้อของฝากให้ลูกน้องหน่อยนะคะ” พี่ไทกะ: ได้สิคะ พี่เขาส่งรอยยิ้มและเอื้อมมือมาทัดผมให้ฉันเพราะกลัวว่าผมจะไปบังหน้าฉันและตกไปในชามข้าว พี่ไวท์: เหม็นความรักว่ะ! กูไปรอห้องประชุมนะ พี่ม่อนและพี่เลย์ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พี่เลย์: กูก็ว่าอย่างงั้น
ไอ้ไวท์:มึงก็เลยจับลินมานี้แทนอ่านะ ไอ้ซา: ไอ้สัส!..ไม่ได้จับเว้ย แค่พามาตั้งหลักก่อน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับมึงว่ะกูงง..โอ้ยยย” ผมที่พูดตรง ๆ ด้วยความสงสัย กรีนเธอหยิกแขนผมแรงพอสมควรก่อนจะทำหน้าดุซึ่งผมก็ลืมตัวไปว่าน้องลินก็อยู่ ไอ้ซา: กูคือกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทลินด้วย เกี่ยวยังไอ้ไท! กรีน: เราก็ต้องมีหลักฐานพอสมควรเหมือนกันนะคะ ยิ่งมีหน่วยงานรัฐโทษก็จะหนักกว่าบริษัทเอกชนกับเอกชน พูดตรง ๆ นะคะ กรีนไม่รับงานคนรู้จักเท่าไรค่ะ ถ้าเป็นเรื่องพวกมีความผิดอาญา..แต่กรีนเป็นที่ปรึกษาให้ได้ แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็พอมีทาง เดี๋ยวกรีนแนะนำบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือให้นะคะ ผมหันไปกระซิบกับเธอทันทีที่อาสาช่วยพวกผม “ไม่สะดวกใจไม่ต้องรับก็ได้นะ” เธอยิ้มให้ผมบางๆ พร้อมพยักหน้าเบา ๆ กรีน:กรีนเต็มใจค่ะ ไอ้ซา: ได้ ๆ รายละเอียดพี่จะส่งให้เราอีกทีนะ เอกสารบางอย่างต้องใช้เวลาหน่อยนะ กรีน: ได้ค่ะ..เรื่องธรรมดา ไอ้เลย์: กูว่าเท่าที่ฟังแม่งแปลก ๆ นะ มึงเล่าหมดยังพวกมึงคิดเหมือนกูไหม ไอ้ซา: อืมใช่ แม่เลี้ยงลินเสน