“ห้ะ!! อีก 2 วันไม่ใช่หรอว่ะ รีบไปทำไมปกติมึงงานยุ่งจนหัวหมุนไม่ใช่หรอ?..แปลก ๆ นะมึงเนี่ย”
ติ้ง! เสียงแชทของงเขาเด้งเข้าพอดี แชทกรีน: คุณได้สั่งเบียร์หรือยัง ไม่รู้ว่าร้านนี้เขามีหรือเปล่าอ่า คุณถามเขายัง แชทไทกะ: ได้สิ เดี๋ยวผมจัดการให้ “กูรบกวนมึงสั่งลูกน้องมึงไปเสริฟเบียร์คุณผู้หญิงโต๊ะริมในสุดให้กูหน่อยดิ” “หื้มม กูต้องอึ้งอันไหนก่อนดีระหว่างมึงพาผู้หญิงมากินข้าวหรือมึงสั่งเบียร์ม่อมผู้หญิง” “เสือก! เร็ว ๆ เข้า” ไอ้ม่อนก็หัวเราะชอบใจก่อนจะสั่งลูกน้องให้นำเบียร์ไปเสริฟเธอปกติร้านมันไม่มีขายหรอกแต่มันเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้วบางทีเราก็มานั่งกินที่ร้านมันอยู่บ่อย ๆ ทำให้ผมรู้ดีว่ามันมีแน่ ๆ “กูเห็นมึงมูฟออนได้กูก็ดีใจนะ แม่งยังไงมึงก็รับสายไอ้กันต์หน่อยก็ดีนะเว้ย ยังไง ๆ ก็เพื่อนกันเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว กูคนกลางก็ลำบากใจนะครับ” “มึงไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้เอาเอกสารมาให้กูเร็ว ๆ ” “เรื่องโครงการนี้กูจะไอ้ไวท์เร่งอีกทีนะ” “ป่ะ เดี๋ยวกูเดินไปส่ง” “ กูว่ามึงไม่ได้อยากไปส่งกูหรอกแต่มึงอยากอย่างอื่นมากกว่า” “เอ่อน๊า กูไม่ยุ่งกับคนของมึงหรอกให้กูทักทายหน่อย เดี๋ยวกูจะดูเป็นคนเสียมรรยาท” จากนั้นพวกเราเดินมาถึงโต๊ะของเธอ ซึ่งตอนนี้หน้าเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังเมาได้ที “ทำไมมาช้าจังเลยคะ ปล่อยให้ฉันนั่งรอคุณแบบนี้มันไม่ดีเลยรู้ไหมคะแล้วนี่..ใครอ่า” เธอบ่นผมก่อนจะขมวดคิ้วแล้วชี้หน้าไอ้ม่อนมันที่เห็นก็รีบทักทาย “สวัสดีครับผมชื่อไดม่อน ผมเป็นเพื่อนไอ้ไทกะครับ” “ฉันกรีนค่ะ เป็นแฟนของคุณไทกะ แฮร่ ๆ” เธอพูดก่อนจะหันหน้ามายิ้มสดใสใส่ไอ้ม่อน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบที่เธอยิ้มแบบนี้ให้ใครเท่าไรเลย “ว๊าว นี่กูตกข่าวอะไรไปรึเปล่าว่ะ กูจำได้ว่ามึงเพิ่งห่างกูไปสองวันกลับมามีแฟนแล้วหรอว่ะ” ไอ้ม่อนมันกระซิบกระซาบก่อนจะขำผมออกมา “มึงเงียบ ๆ ไปเลย” “ป่ะเรากลับกันเหอะ เธอเมามากแล้ว” ผมบอกกับกรีน เธอพยักหน้างึกๆ ก่อนจะเดินออกจากร้านผมก็พาเธอกลับคอนโดทันที พอมาถึงลานจอดรถผมกำลังลังเลว่าทำไงดีจะอุ้มเธอไปที่ห้องหรือปลุกเธอดี ผมคิดสักพักก่อนที่ผมจะตัดสินใจ ช้อนร่างบางขึ้นมาจากรถและเดินไปที่ห้องของผม ดูท่าจะเหนื่อยจริงๆ หลับสนิทเลย อื้อ~ เสียงงัวเงียของเธอระหว่างทางจะถึงห้อง เธอตื่นจังหวะที่ผมกำลังเข้าห้องพอดี แกร๊ก “คุณอุ้มฉันมาที่ห้องคุณหรอ” “นอนพักต่อนะครับเด็กดี” จากนั้นผมวางเธอลงบนเตียงนอนของผมพร้อมถอดรองเท้าให้เธอ ก่อนผมจะลงไปลานจอดรถคอนโดผม เพื่อขนกระเป๋า 2 ใบที่อยู่ในรถเอาขึ้นมาที่ห้อง ผมอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินมาดูแมวน้อยขี้เซาที่หลับสนิท “ไหนของขวัญที่คุณจะให้ผมล่ะ สงสัยอย่างนี้ต้องทบต้นทบดอกแล้วมั่ง” ผมพรึมพรำออกไป แล้วลูบผมออกตรงหน้าเธอก่อนจะห่มผ้าให้เธอ จากนั้นผมเดินไปที่โต๊ะทำงานเคลียร์เอกสารให้เรียบร้อยก่อน เผื่อพรุ่งนี้จะได้พาเธอเที่ยวให้สบายใจ มันแปลกๆอยู่เหมือนกัน ทำไมผมรู้สึกดีแบบนี้ ทั้งๆที่เราเองก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน อาจเป็นเพราะนิสัยหรือเคมีอะไรบ้างอย่างที่ทำให้เราเข้ากันได้ เกือบจะตีหนึ่งที่ผมเคลียร์งานเสร็จ จากนั้นผมก็ขึ้นเตียงเพื่อนอนพักสายตาตื่นขึ้นมาค่อยจัดการเด็กดื้อที่ไม่ยอมเชื่อฟังผม กรีน อื้ออ~ฉันตื่นมาจากอาการเมามึน ๆ ก่อนหน้านี้ที่ฉันจำได้ คือฉันกินราเมงก่อนจะขอสั่งเบียร์เพื่อยอมใจ ไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านมาก แต่ด้วยสกิลการดื่มที่อ่อนหัดของฉันบวกกับการดื่มที่อาจจะหนักไปหน่อย พอฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนอุ้มฉันขึ้นมาที่ห้อง ฉันรู้สึกเสียอาการหนักมากพร้อมความเขิน บ้าจริง! ฉันนั่งที่หัวเตียงสักพักก่อนจะหามือถือตัวเอง เวลา03:00น. หลับลึกเหมือนกันนะเร..ฉันเข้าเช็คแชทข้อความดูว่ามีใครทักมาบ้างหรือเปล่า แชทอาชิ: ฉันถึงห้องพักแล้วนะ เจอกันที่ไทยนะ แชทกรีน: โอเค เดินทางปลอดภัยนะเจอกันที่ไทย จากนั้นฉันเดินไปหากระเป๋าเพื่อหาเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ เดินสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าสงสัยเขายังไม่ได้เอาของฉันขึ้นมา “ขอใช้ของนายก่อนแล้วกันนะไทกะ” ฉันเดินผ้าขนหนูพร้อมเสื้อเชิ้ตขาวตัวโตโอเวอร์ไซด์มาตัวหนึ่ง พอฉันอาบน้ำเสร็จก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย ๆ ก่อนเดินไปมองหน้าเขาที่หล่อ ๆ ที่กำลังหลับสนิท “น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยหลับปุ๋ยเลย หึ ๆ” จากนั้นฉันก็จะนอนต่อฉันหันหน้าไปทางเขาระยะห่างหน้าเขากับหน้าฉันห่างแค่คืบเดียว ลมหายใจที่รดผ่านกันทำเอาใจฉันสั่นขึ้นมา ไม่ได้นะกรีนแกจะมาหิวเขาตอนนี้ไม่ได้.. ฉันพึมพำกับความคิดบ้า ๆ นี้ ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มของเขาและหลับตากะว่าจะนอนต่อ “หิวหรอ..ผมนึกว่าคุณจะลักหลับผมซ่ะอีก ทำไมจับแค่แก้มผมอ่า คุณแฟน” พรึบ สักพักเขาลุกขึ้นคร่อมร่างกายฉันจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนเราสบตากันและกันและเขากระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะเริ่มโน้มตัวมาหอมแก้มป้อง ๆ ของฉันเบา ๆ ฉันที่โดนจับได้ก็ตัวแข็งทื่อกระพริบตาปริบ ๆ “ของขวัญที่คุณจะให้ผมเนี่ยคืออะไรหรอ ผมชักอยากได้แล้วสิ” เขากระซิบข้างหูเบา ๆ ก่อนจะกัดติ่งหูของฉันเล่นเอาเสียวไปถึงท้องน้อยเลยตอนนี้ “คุ..คุณตื่นแล้วหรอคะ ฉันทำให้คุณตื่นรึเปล่า” เขากลับยกยิ้มที่มุมปากหนาพร้อมพึมพำ หอมจัง.. เอาใบหน้าซุกไซ้ไปทั่วทั้งคอของฉัน ลมหายใจของเราทั้งคู่ที่เริ่มเพิ่มความถี่มากขึ้นเลื่อย ๆ อ๊าาา.. ฉันที่ตอนนี้แทบจะคลั่งเขาอยู่แล้ว แต่ยังคงอดกั้นความอยากเอาไว้ “ผมขอนะครับ” อื้มมม..อา ใจที่ไหวหวั่นอยู่แล้วบอกเลยว่าตอนนี้เตลิดไปไหนก็ไม่รู้ ฉันที่ไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจได้ขนาดนี้มาก่อน ฉันเลือกที่จะไม่ตอบแต่เลือกที่ถางขาให้กว้างและจะส่งเสียงครางแทนการอนุญาต เขาที่รู้ทันเริ่มขย่ำหน้าอกที่คับแน่นของฉันก่อนจะใช้ลิ้นเลียวนไปซอกคอ ไล่ระดับขึ้นลงเหมือนเด็กขี้สงสัย “ได้มั้ยครับ ตอบผมหน่อย” “แฟนก็เป็นแล้ว ทำไมจะไม่ได้ละคะ” เขาที่เริ่มที่จะไม่ไหว แต่ก็อยากฟังคำอนุญาตจากปากฉัน ฉันก็ยิ้มพร้อมหลบหน้าเขาด้วยความเขินอาย เขาไม่รอช้าพุ่งจูบฉันอย่างดูดดื่มและดุเดือดแทบจะกระชากวิญญาณออกจากร่างอยู่แล้ว จ๊วบบบ อื้มมม~ เขาแลกลิ้นซุกซนไปครู่ใหญ่ไม่ปล่อยให้ฉันหายใจหายคอ อ๊าาส์ เขาเร้าร้อนกว่าครั้งแรกแถมดุดันแต่ก็รู้เสียวและดีเกินคาดจริง ๆ เขาใช้มือหนาสำรวจน้องสาวของฉัน ที่ฉ่ำน้ำหวานมากในตอนนี้ เขายกยิ้มริมฝีปากหนาที่บ่งบอกว่าพอใจแค่ไหน “ดูคุณจะพร้อมแล้วนะ” เขากระซิบข้างใบหูฉัน ฉันได้แต่เขินอาย เขาใช้นิ้วหนาสอดเข้าไปสำรวจรอบนอกก่อนจะขยับพื้นที่ในร่องข้างใน “อะ อ๊าาาา ทะ ไทกะ” ..ฉันที่เสียวจนต้องร้องเสียงหลง บ้าไปแล้วเขาจะทำให้ฉันคลั่งไคล้เขาไปถึงไหน เขาเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ แล้วเริ่มเพิ่มจังหวะ ปากเขาดูดเลียยอดประทุมทันหน้าอกฉันเขาก็ขบกัดเบา ๆ“รบกวนคุณน้าปล่อยมือออกจากแขนกรีนได้แล้วครับ” “แกไม่เกี่ยวออกไปซ่ะ ยังไงฉันก็ไม่ให้มันได้รักกับแกหรอก” “ผมเป็นแฟนกรีนครับ รบกวนคุณน้าปล่อยมือและคุยกันดี ๆ ดีกว่าครับ” “หึ! แฟนหรือผัวกันแน่ คิดว่าฉันไม่เห็นพวกแกหรอ เมื่อคืนกล้ามากเลยนะ! พวกแกสองคนนะ ไม่มียางอายากันสักคน!” พี่ไทกะที่เห็นว่าแม่บัวยังคงบีบแขนฉันและเริ่มจะออกแรงเวียงไปด้วยความโมโห พี่เขาก็จับมือแม่บัวออกจากแขนฉันด้วยแรงผู้ชายแน่นอนว่าพี่เขาก็ทำให้มือของแม่บัวหลุดออกจากแขนฉัน “โอ้ยย พวกแกนี้มันเลี้ยงไม่เชื่องจริง ๆ ” “เกิดอะไรขึ้นครับ คุณจะทำอะไรแม่ผม” “แกยังจะพูดอีกหรอ แกก็รู้ใช่ไหมว่าน้องมันมีผัวแล้ว แกจะรออะไรอีกทำไมไม่บอกฉัน! พูดมาสิว่าแกอยากได้น้องแกรักน้อง แม่รู้ว่าตะวันแกรักน้องมาตลอด พูดมาว่าแกอยากได้น้องแค่นี้แม่พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูกตะวัน” “แม่หยุดเถอะครับ! ปล่อยน้องให้มีความสุขกับทางที่น้องเลือกเถอะ” “เพื่ออะไรตะวันถ้าแม่ไม่อยู่แล้วใครจะดูแลแก เวลาแกป่วยไม่สบายขึ้นมาอีกล่ะ ห้ะ!” “พอเถอะครับ! ผมแข็งแรงแล้วครับแม่เชื่อใจผมนะ” พอพูดแบบนั้นพี่ตะวันก็เดินไปกอดแม่บัวทั
ฉันเดินเข้าบ้านตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืน รอบบ้านตอนนี้ค่อนเงียบสงบไม่ค่อยมีอะเสียงอะไรรบกวนแต่พอฉันเข้ามาในบ้านฉันก็เห็นพี่ตะวันนั่งอยู่ห้องนั่งเล่นเงียบ ๆ คนเดียว “ยังไม่นอนหรอคะ” “กรีนกลับมายังไง ทำไมไม่บอกพี่ หื้ม” “พอดีว่าแฟ..เพื่อนมาส่งค่ะ” “พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจ ทำไมเราไม่ให้พี่ไปรับล่ะ พรุ่งนี้ตอนเช้าเราไปเที่ยวกับพี่นะ พอดีพี่นัดเพื่อนสมัยเด็กไว้ไปเจอพวกเขาเป็นเพื่อนหน่อยพี่เองก็เขินเพื่อน ๆ ด้วยนาน ๆ เจอกันที” “เอ่อ..กรีนนัดเพื่อนไว้แล้วด้วยสิคะ เอาไงดี” หน้าพี่ตะวันดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันก็ลำบากใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าจะให้เลือกฉันก็ต้องเลือกพี่ไทกะอยู่แล้ว “เหรองั้น เราไปอาบนอนเถอะ มันดึกแล้ว” “ค่ะฝันดีค่ะ พี่ตะวันอย่านอนดึกมากนะคะ” ตะวัน หลังจากที่กรีนเข้าห้องนอนของเธอไป ผมก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเปิดไวท์ เพื่อยอมรับความจริง สองวันมานี้ผมพยายามลองใกล้ชิดเธอและลองทำกิจกรรมร่วมกัน เผื่อเธอนั้นจะเปลี่ยนใจบ้าง แต่เท่าที่พยายามคงมีแค่ผมที่คิดกับน้องมากเกินไปเอง ผมคุยกับ
“ฉันว่าพี่เขายังมีใจให้ฉันอยู่ไม่น้อยนะ เธอว่าป่ะ” “ดูพยายามจังนะคะน้อง มุกเฉิม ๆ แบบนี้ พี่ว่าน้องพยายามอีกนิดนะ เรียนนิเทศน่าจะมีสกิลกว่านี้นะ” “นิ! แกดูจะมั่นอกมั่นใจจังเลยนะ แค่ของมือสองต่อจากฉันเนี่ย” “แล้วไงค่ะน้อง ฉันไม่เคยแอบกินขโมยกินแบบแม่ของเธอหรอกนะ” “อร้ายยยย!!! มึงจำไว้นะ! อีกรีนกูนี้แหละจะทำให้มึงต้องเลิกกับพี่ไทกะและชีวิตมึงต้องพังเพราะกูอีกครั้ง เหมือนที่แม่กูเคยทำกับแม่มึง!” “ถ้างั้นก็รีบ ๆ ไปเรียนกับแม่เธอซ่ะนะ!ดูแล้วยังห่างชั้นเยอะเลย” “กูฝากไว้ก่อนเถอะ!” ติ้ด! “อีบ้า!!” ฉันที่เอาจริง ๆ ก็โกรธพี่ไทกะอยู่แต่จะมาให้ฉันยอมรับต่อหน้ามัน มีหรอคนอย่างฉันจะยอมกับแผนโง่ ๆ สักพักสายมือถือก็ดังอีกครั้ง แน่นอนว่าคือคนที่มีความผิดอยู่ แถมรัว ๆ ข้อความมาในไลน์ไม่หยุดแต่ฉันยังไม่เปิดเข้าไปอ่าน “กรีนไม่รับสายคนมีความผิดหรอกค่ะ” ฉันตัดสายไปและไปทำอย่างอื่นสักพักใหญ่จนเวลาค่ำแล้ว ฉันตัดสินใจจับมือถือดูว่าพี่เขายังโทรมาอีกไหม? แปลกจัง?..สรุปว่าตอนเย็นกับเป็นพี่ม่อนที่โทรมาแทน สงสัยจะกลับญี่ปุ่นรึเปล่านะ ฉ
เช้าวันใหม่. วันนี้ฉันกับพี่ตะวันเราไปทำกิจกรรมด้วยกันโดยการมาบ้านเด็กกำพร้าที่แถวชุมชนหนึ่ง “สนุกไหม?” “ก็ดีค่ะ พี่ตะวันหิวรึยังคะไปทานข้าวกันดีกว่านะเดี๋ยวไม่สบายเอา กรีนว่านี้ก็สายแล้วด้วย” “พี่โอเคครับ ส่วนเราก็เลิกทำเหมือนพี่ป่วยหนักเหมือนแม่พี่สักที” “เปล่านะคะ กรีนเห็นพี่เป็นพี่ชายคนนึงที่ทั้งหุ่นดีขนาดนี้ แถมหน้าตาก็หล่ออีกต่างหากใครจะว่าพี่เป็นคนป่วยกันคะ เลิกทำหน้ามุ้ยงอนเป็นเด็กเลยค่ะ” “ถ้าได้เป็นแฟนก็คงจะดี..พี่อยากเห็นรอยยิ้มของกรีนแบบนี้ในทุก ๆ วันเลย” ฉันที่ได้ยินแต่ก็ทำได้เพียงเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรไปอีก. ไทกะ “ดูวันนี้มึงเหม่อ ๆ นะไอ้ไท” “ไม่เหม่อได้ไงสาวน้อยเมียมันไปต่างจังหวัดกับผู้ชาย ฮ่า ฮ่า” เช้านี้ผมก็มาคุยงานกับพวกเพื่อนผมแต่เช้า ผมมองไอ้ม่อนด้วยสายตาพิฆาต ก่อนที่มันจะหุบปากไป “พวกมึงก็รีบเคลียร์ให้งานเสร็จเร็ว ๆ ดิ กูจะได้ตามไป” “มึงไม่กลัวพวกนั้นจะรู้หรอว่ะ ข่าวที่ได้รับมามันก็แอบน่าเป็นห่วงนะเว้ย” ใช่ครับผมได้รับข่าวจากไอ้ไวท์เกี่ยวกับพวกมาเฟียสิงค์โปร์
“อืมเรื่องบางเรื่องมึงก็ต้องบอกเพื่อนดิว่ะ จะเก็บไว้ให้ตัวเองแบกรับคนเดียวไม่ได้หรอกนะเว้ย” “กูขอโทษนะที่ดึงพวกมึงมาเกี่ยวข้องจนเรื่องบานปลายขนาดนี้” “ไอ้นี่อีกคนสบาย ๆ ครับ มีปัญหาก็แก้ปัญหากันไป คิดเหี้ยอะไรมากเพื่อนกันนะเนี่ย ไปครับกลับออฟฟิศ” ผมที่ได้ข่าวจากไอ้ไวท์เรื่องพวกมาเฟียแก๊งหยกมังกรดูพวกมันจะเสียหน้าจากรอบก่อนพอสมควรพวกมันเลยเริ่มที่จะพยายามเข้ามาหาข้อมูลและอาจจะทำให้พวกเราตกอยู่ในอันตราย ซึ่งหากเป็นช่วงที่ผมโสดผมคงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นี้ผมมีจุดอ่อนคือกรีนและคนในครอบครัวผม ผมไม่รู้ว่าพวกมันจะมาไม้ไหนอีก พวกผมเลยต้องปรึกษากันอีกครั้งเพื่อหาวิธีรับมือและป้องกันเรื่องพวกนี้ หลังจากปรึกษากันเสร็จผมก็กลับมาบ้านใหญ่เพื่อมาหายัยเล็กและไอ้น้องชายตัวแสบโอตะที่ผมก็ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลพวกเขาเท่าไรในช่วงหลัง ๆ ยัยเล็กก็แอบงอนผมเหมือนกันวันนี้เลยต้องไปง้อเธอสักหน่อย “ไงเฮีย ลมอะไรหอบเฮียมาได้เนี่ย ซ้อไม่มาด้วยหรอครับ” “เธอไปภูเก็ตนะ วันนี้ว่างไหมไปกินข้าวข้างนอกกัน” ยัยเล็กที่ได้ยินเสียงผมก็รีบวิ่งมายิ้มร่าหน้าบานมาแต่ไกลก่อนจะทำหน้ามุ้ยทำท
พี่ไทกะยิ้มขึ้นมาเอาตรง ๆ ฉันก็อึดอัดนะจะมานั่งมองกันแบบนี้ แถมพูดเสร็จก็ส่งสายตาเจ้าเลห์ เหอะ! ฝันไปเถอะไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน หลังจากนั้นฉันเอาแต่เงียบไม่พูดต่อพอกินเสร็จฉันก็เก็บจานไม่แคร์พี่เขาเลย “ใจร้ายจังเลยนะ เราไม่สงสารพี่บ้างหรอ” “ใครบังคับพี่คะ กรีนเรียกพี่แล้วแต่พี่ปฏิเสธเองฉะนั้นจะมากล่าวหาว่ากรีนใจร้ายไม่ได้นะคะ” “เรากลับห้องเราเถอะนะพี่เกรงใจอาชิเขา อีกอย่างพี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยแถมเสื้อผ้าไม่ได้เอามาอีกแต่..ทำไมกรีนมีเสื้อผ้าเปลี่ยนที่คอนโดอาชิด้วย” ฉันกำลังจะจัดการล้างจานพี่เขาก็เขามาช่วย ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรพอพี่เขาพูดจบพี่เขาก็หน้ามุ้ยทันทีคงจะโกรธ แต่เห็นว่าฉันยังคงโกรธอยู่จึงไม่กล้าโกรธหรืองอน “ปกติสมัยก่อนกรีนก็มาพักที่นี้บ้างค่ะ เพราะมาช่วยงานอาชิ จึงมีเสื้อผ้าสำรองไว้“ “พี่กับกัสเราจบกันไปนานแล้ว พี่เคยคบกับเธอจริง ๆ สมัยเรียนมหาลัยและช่วงที่กัสเข้ามหาลัยปี 1 พี่มาต่อโทที่ไทยอีกใบ จากนั้นพี่กับกัสก็เลิกกันไปแล้วและก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย” “เลิกกันเพราะอะไรคะ” “พี่แค่รู้สึกว่าพี่เข้ากับเธอไม่ได้อีกอย่างพี่