กรีน
จู่ๆ เขาก็ยื่นข้อเสนอที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเป้าหมายการมาเที่ยวในครั้งนี่ไม่ใช่แค่การมาพักผ่อนเพียงอย่างเดียว ใช่ค่ะฉันบอกเขาไปตรง ๆ ว่าฉันมาเที่ยวที่นี้คนเดียวอยากจะลองซื้อผู้ชายญี่ปุ่น ทุกคนฟังไม่ผิดค่ะ ชีวิตฉันตอนนี้มันแย่มากจนต้องอยากลองอะไรใหม่ ๆ บางทีชีวิตการทำงานวน ๆ ซ้ำ ๆ หาเงินจนไม่มีเวลาใช้มันก็น่าเบื่อ จะลองเปิดใจให้ใครเข้ามามันก็ไม่มีเวลาดูแลใครจนเขานอกใจหรือท้อแล้วหยุดสานสัมพันธ์กันต่อ แต่ด้วยหน้าที่การงานทางสังคมจะซื้อกินที่ไทยก็ห่วงภาพลักษณ์เลยหนีมาญี่ปุ่นเพื่อลองเปิดประสบการณ์ดี ๆ ใช้ชีวิตให้สุดเวี่ยงไปเลยเข้าใจอารมณ์แบบ มาสิ! ชีวิตคนบ้างานอย่างฉันมีเงินมันต้องซื้อได้ทุกอย่างให้สมกับที่หาเงินมาสิว่ะ!! “วันนี้คุณนอนห้องผมนะ” “ห้ะ!” ขณะที่เธอนั่งเหม่อลอย คิดโน่นนี่นั่นชายหนุ่มก็เอ่ยปากชวนเธอให้ไปนอนด้วยกับเขา “กลับพร้อมผมและนอนห้องผมนะครับ ” “ทำไมคะ ” “5 วันนี้ เราควรใช้เวลาให้คุ้มค่านะคะกับการเป็นแฟนกัน” เขาก็หันมาสบตาพร้อมอมยิ้มให้กับเธอไป “แล้วคุณไม่ต้องทำงานหรอ มีเวลาพาฉันไปเที่ยวขนาดนั้นเลย ” “มีก็เคลียร์ได้ครับ อื้ม… เราไปเที่ยวแถวยามากูจิไหม พอดีผมมีงานแถวนั้น 2 วันครับ ผมต้องไปทำธุระแถวนั้นหน่อยอ่าพอเสร็จงานแล้วผมจะพาคุณไปเที่ยวแถวนั้นคุณโอเคไหม หรือว่าคุณอยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?” “ไม่มีค่ะ งั้นก็ไปด้วยกันก็ได้ค่ะคุณแฟน” หลังจากที่เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตอบเขาไปซึ่งเหมือนว่าเขาอึ้งไปสักพักกับคำพูดของเธอก่อนหันหน้าไปสบตากับเธอ จนเธอเขินจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงร้านอาหารขณะเดียวกันอาชิก็มองเธอด้วยสายตาที่มีเลศนัยเพราะเขาเห็นเธอเดินมาพร้อมกับเขา “อาหารมาพอดีเลยครับ เชิญนั่งเลยครับ” หญิงสาวนั่งตรงกลางระหว่างเขากับอาชิเพราะว่าเขาไม่ยอมที่จะนั่งอีกที่ที่พนักงานเตรียมเอาไว้ให้ “ยังไง ๆ หายไปนานเลยนะ กว่าจะมาได้ คงคุยงานเพลินเลยนะ” เพื่อนของเธอกระซิบเบา ๆ เธอหันไปยิ้มให้ด้วยตาสระอิให้เขาก่อนจะตอบคำตามของเพื่อนเธอ “ไม่ต้องยุ่งครับ!” “อุ๊ยแรง ชิ!” เพื่อนเธอทำท่าทางงอนเธอซึ่งก็ได้แต่สายหน้าเบา ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนเธอไม่ได้จริงจังอะไร “ฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้ตอนเช้าเลยนะ แล้วแกจะอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกกี่วัน” “อีก 5 วันนะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนแต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนบ้างนะ ” “แล้วนี้แกจะเที่ยวคนเดียวจริง ๆ หรอหรือไง ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม” “ทำเหมือนกับตัวเองว่างมากเลยนะ ไม่เป็นไรฉันขอพักผ่อนก่อน เพื่อเจอหนุ่ม ๆ แซ่บ ๆ พาไปพักกายพักใจ” อาชิถามพร้อมยักคิ้วให้กับเธอ เธอก็ตอบไปกวนพร้อมยักคิ้วคืนไปบ้างก่อรชนที่เธอจะรู้สึกว่าเธอเผลอพูดมากกับอาชิไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาหันมาทำใส่ตาดุใส่เธอ “อุ้ย!” “นึกว่าเจอแล้วสะอีก แล้วนี่ทานข้าวเสร็จจะกลับพร้อมฉันเลยไหมจะได้ไปส่งที่โรงแรม” “ได้สิ แกก็ไปส่งฉันที่โรงแรมก่อนแล้วกัน แต่พรุ่งนี้ฉันไม่ไปส่งแกที่สนามบินนะ พอดีฉันไม่อยากตื่นเช้าอ่ะ” “ได้ ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอก” เธอที่เพิ่งนึกออกว่ารับปากเขาไปแล้วนั้น เขาหันมองเธอมาเพียงหางตาที่บอกได้เลยว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เธอไม่รู้จะทำยังไงเมื่อได้สติ เธอตัดสินใจพิมพ์แชทข้อความไปหาเขา แชทกรีน:ขอโทษนะพอดีว่าลืมว่านัดกับนาย ฉันไม่ได้ตั้งใจถ้างั้นฉันขอไปเก็บเสื้อผ้าแล้วคุณมารับฉันที่โรงแรมได้ไหม ติ้ง! แชทไทกะ:คุณต้องกลับพร้อมผม! เดี๋ยวผมจะพาไปเก็บเสื้อผ้าเอง แชทกรีน: ฉันรับปากกับอาชิแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้ คุณช่วยรอฉันที่โรงแรมหรือจะให้ฉันไปเจอคุณที่คอนโดดี นะนะ…น๊าาา แชทไทกะ: ไม่! วันนี้คุณเป็นแฟนผมฉะนั้นก็ต้องฟังผม เธออ่านข้อความแชทที่เขาส่งมาบอกตรง ๆ เลยตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมด ถ้าเธอไปกับเขาอาชิก็ต้องรู้แน่ว่าเธอกับเขาต้องมี Something กันแน่นอนฉันคิดหนักก่อนตัดสินใจพิมพ์แชทกับเขาต่อ แชทกรีน: เอางี้ ถ้าคุณให้ฉันกลับไปพร้อมอาชิฉันจะให้ของขวัญคุณดีไหม “หึ!ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลแผนนี้น่าจะได้ผล” เธอพึมพำเบา ๆ แชทไทกะ: อะไร? ข้อเสนอคุณมันจะพอทำให้ผมอนุญาตให้คุณกลับไปกับผู้ชายคนอื่นได้จริง ๆ หรอ แชทกรีน: ก็ต้องลองค่ะ แชทไทกะ: ได้ ผมจะลองเชื่อใจคุณสักครั้งผมให้เวลาคุณแค่ 10 นาที แล้วผมจะรอคุณที่ลานจอดรถของโรงแรมของคุณโอเคไหม แชทกรีน; ได้ค่ะ ๆ ขอบคุณนะคะ หลังจากนั้นเธอตัดสินใจชวนอาชิกลับโรงแรมเพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอได้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ พวกเราทั้งสองหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกนะครับ ไว้ถ้าได้มีโอกาสครั้งหน้าผมขอเลี้ยงข้าวตอบแทนพวกคุณบ้างนะครับ” “ยังไงโอกาสหน้ากรีนขอเป็นเจ้าภาพนะคะ” “วันนี้ขออนุญาตขอตัวกลับก่อนนะครับ” เธอบอกลาทุกคนพร้อมกับหันหน้าไปสบตากับคนที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ในตอนนี้ “ยังไงครับยังไง กับผู้บริหารหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นสานสัมพันธ์เกินกว่านายจ้างลูกจ้างหรือเปล่าน๊าาาา หล่อดีเนอะว่าไหม” ขณะที่กำลังเดินทางกลับโรงแรมอาชิก็เอ่ยปากแซวเธอขึ้นมา “ตลกล่ะ สานอะไรคะเอาเวลาที่ไหนไปสานก่อน แกก็รู้ว่าฉันบ้างานขนาดไหนแถมนี่ก็..อยู่คนละประเทศ เอาเวลาที่ไหนครับพูดไปเลื่อยเลยนะแก” “ก็ไม่รู้อ่ะ เห็นมองหน้ากันตั้งแต่เข้าห้องประชุม แถมยังมาด้วยกันอีก หึ! คิดว่าฉันไม่รู้หรอสเปคเลยนิ ไม่ลองเปิดใจบ้างอ่าจะว่าไปก็..” “หยุดเลย ๆ เอาเวลาสนใจเรื่องของคนอื่นไปสนใจเรื่องของตัวเองก่อนไหมครับ” ไม่นานเธอก็ถึงห้องพัก จากนั้นเธอก็รีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและรีบขึ้นรถของชายหนุ่มที่มารออยู่ก่อนแล้วทันที พอเขาขับรถออกจากโรงแรมได้สักพัก จ๊อกกก ~ เสียงท้องของเธอร้อง เขาก็หันมามองหน้าเธอก่อนสบตากันครู่หนึ่ง “หิวหรอแวะทานข้าวก่อนไหม พอดีเลยผมจะขอเข้าไปเอาเอกสารกับเพื่อนนะ คุณก็ทานข้าวรอก่อนได้ไหม” “แฮร่ ๆ..งั้นก็ได้ค่ะ ตามนั้นเลย” “ครับ” ไม่นานพวกเราก็ถึงร้านอาหารไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยมาก เป็นร้านที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามันลงตัวมาก ๆ “คุณจะทานอะไรครับ” “ขอราเมงกับเบียร์และน้ำแข็งใส่แก้วมาได้ไหมคะ” “ห้ะ!..เอ่อได้สิ” ไทกะ ผมเดินไปสั่งอาหารให้เธอก่อนจะถามพนักงานงานเพื่อไปหาไดม่อนหรือไอ้ม่อนเพื่อนของผมเอง “ไดม่อนอยู่ที่ร้านไหมวันนี้” “คุณไดม่อนอยู่ข้างบนชั้นสองครับ เดี๋ยวผมจะแจ้งว่าคุณไทกะมานะครับ เชิญที่ชั้นสองได้เลยครับ” “ลมอะไรหอบแกมาตอนนี้ครับคุณเพื่อน คนเขาตามหาแกให้ควักเลยนะรู้ป่ะ? ไหนว่าจะมาเอาเอกสารพรุ่งนี้” “เปลี่ยนใจนะ พอดีกูจะไปแถว ๆ ยามากูจิพรุ่งนี้เลยนะ”พอผมเห็นแบบนั้น ผมจับขาสองข้างของเธอให้กว้างมากพอและใช้มือกดเล็กน้อยไว้ไม่ให้เธอหุบขาเข้าหากันก่อนจะโน่มใบหน้าเลียตวัดกลีบยิ่งเพิ่มระดับความเร็วและความถี่เข้าไปที่ติ่งเสียวที่ทำเห็นอาการเธอมากที่สุดเป็นจังหวะรัว ๆ อะ อ้ะ อ๊าา~ เธอที่เสียวก็ครางไม่เป็นภาษาไม่หยุด ไม่นานร่างกายเธอก็กระตุกรัว ๆ บ่งบอกว่าในที่สุดเธอก็เสร็จสม ผมกินน้ำหวานที่ไหลมาเป็นทางได้ครบทุกหยด ก่อนจะขึ้นคร่อมเธอต่อ ก่อนจะโน้มตัวกระซิบเธอด้วยเสียงกระเส่า “พี่ขอนะ” สวบ! ตับ ตับ ตับ จบประโยคนั้นเธอก็พยักหน้างึก ๆ การเริงรักครั้งนี้เธอดูผ่อนคลายและเป็นความรู้สึกที่โหยหากันทั้งคู่ แม้จะมีบ้างครั้งที่เกร็ง ๆ อยู่บ้าง แต่สำหรับผมนั้นต้องบอกว่าติดใจในรสชาติบนตัวเธอเข้าแล้วจริงๆ ผมเริ่มเร่งจังหวะกระแทกทั้งถี่ ๆ ทั้งช้า ๆ เพื่อต้องการไม่ให้ตัวเองถึงที่หมายเร็วเกินไป ผมจับขาอีกข้างให้ซีกและยกมาพาดเอวผมไว้ข้างหนึ่งและกระแทกเธอต่อ ผมที่เสียวมากเช่นกันก็ได้แต่เงยหน้ามองเพดานก่อนจะหันหน้าไปบอกเธอด้วยเสียงกระเส่า “ เสียวมากเลยค่ะ กรีนช่วยครางชื่อพี่ได้ไหมกรีน” “พิ..พี่ไทกะกรีนขอลึกกว่านี้
ไทกะ กรีนเธอพาผมเดินอยู่หลายชั้นพอสมควร ผมสังเกตเห็นเธอเดินช้าลง เท้าเธอก็เริ่มแดงผิดปกติ เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนทำหน้าตาละห้อย “พี่ว่าเท้ากรีนน่าจะเจ็บเท้านะ” “นิดหน่อยค่ะ น่าจะเดินเยอะไป เอางี้ดีกว่าเราไปซื้อร้องเท้าผ้าใบเปลี่ยนหน่อยน่าจะโอเคนะคะ” ผมพยักหน้าพร้อมมองหาร้านรองเท้าผ้าใบให้หลังจากเจอร้านผมก็พาเธอเข้าร้าน พนักร้านแนะนำและเลือกร้องเท้าให้เธอ เมื่อผมเห็นเท้าของเธอ ผมค่อนข้างตกใจว่าเธอทนเจ็บขนาดนั้นได้ยังไง หลังจากเลือกเสร็จพนักงานเอ่ยถาม “คุณผู้ชายรับด้วยไหมคะ คู่สองมีโปรโมชั่น ลด50% นะคะเป็นรองเท้าคู่รักด้วยนะคะรุ่นนี้ลิมิเต็ดสุด ๆ ค่ะ” พนักส่งสายตาให้ผมเพื่อที่เธอต้องการจะขายร้องเท้าให้ผม ผมกำลังจะปฏิเสธเธอไปแต่.. “ได้ค่ะ พี่ไทกะไซต์อะไรคะ? “รับนะคะ ถือเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ” ผมกำลังปฏิเสธเธอไป เธอกลับยิ้มสดใสพร้อมสายตาออดอ้อนผม..ทำขนาดนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ ผมแจ้งไซต์พนักงานไปสักพักพนักงานหยิบรองเท้าคู่นั้นมาให้ผม “คุณผู้ชายจะรับกลับหรือจะใส่เลยคู่คุณผู้หญิงดีคะ?” “เดะผมใส่เลยครับ” เธอหันมาสบตา
“ไม่ร้อง ๆ ไม่ต้องร้องแล้วนะคะเด็กดี กูพาเธอไปพักก่อนนะ ราเมงก็กินเสร็จแล้วด้วย น่าจะไม่งอแงเท่าไรแล้ว” ไอ้ซา: เอ่อ ๆ พากลับเหอะว่ะ น่าจะเต็มกราฟสุดกว่านี้ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว อุ..อ้วกก~ เธอวิ่งเซ่เพื่อจะไปอ้วก พร้อมทั้งจะร้องไห้ ผมได้แต่แต่ลูบหลังให้เธอ หลังจากอ้วกเสร็จผมก็อุ้มเธอและพากลับห้องทันที จากนั้นก็ถอดรองเท้าและป้อนยาแก้เมาค้างให้ก่อนจะจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนแล้วนอนข้าง ๆ เธอ วันนี้เธอเมาจนแทบไม่ได้สติทำให้ผมต้องอดมีอะไรไปด้วยเพราะจะให้ผมเอาตอนนี้ก็ดูจะไม่สมควรเท่าไร ช่วงเช้าวันถัดมา กรีน ฉันตื่นมาด้วยอาการปวดหัวอยู่ไม่น้อยเมื่อคืนฉันน่าจะดื่มหนักไปหน่อย อืมมม~~ จู่ ๆ พี่ไทกะก็เดินมาจูบริมฝีบางฉันเบา ๆ “อรุณสวัสค่ะ” “หนูยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนะคะ” ฉันทำหน้ามุ้ยใส่พี่เขา พี่เขากับทำหน้าระรื่นยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงพี่ก็รักกรีนนะคะ หิวรึยังให้พี่เอาอาหารมาให้ที่ห้องไหม” ฉันว่าเขาจะเล่นสมบทบาทเกินไปแล้วนะ เขาจะรู้บ้างไหม..ว่ามันทำให้คน ๆ นี้หวั่นไหวมาก หัวใจเริ่มเป็นของเ
“อากาศข้างนอกเย็นกรีนใส่เสื้อตัวหนาๆหน่อยนะ” “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” ผมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ เธอจึงเลือกเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะแต่งตัวมิดชิดซึ่งผมก็มองว่ามันก็ดีแล้ว “พี่ไทกะทำรอยเยอะไปแล้วนะคะ ครีมก็จะหมดแล้วปิดไม่หมดแล้วเนี่ย แบบนี้ต้องโดนพี่ม่อนต้องล้อกรีนแน่ ๆ เยอะจนหนูปกปิดไม่หมดแล้วเนี่ย..หิวก็หิว” “ใครจะกล้าล้อ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไปเหอะไม่เป็นไรหรอกคะ” เธอหน้ามุ่ยเหมือนแอบงอน ๆ ก่อนจะเดินไปที่ริมสระน้ำที่พวกเพื่อนผมมันตั้งวงเปลี่ยนบรรยากาศไว้มารอดื่มชิว ๆ ให้แล้ว ไอ้ม่อน: อ้าวอยู่บ้านพักหรอ กูนึกว่ามึงไปข้างนอกเลยไม่ได้ไปตามนะ ไอ้ม่อน: สาวน้อยกินอะไรมาหรือยัง มา ๆ กินเหล้า เห้ย! กินข้าวกัน เธอยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อนที่ผมจะให้เธอนั่งลงข้าง ๆ ผม จากนั้นผมก็ตักอาหารให้เธอทันทีเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอหิวมาก ๆ ไอ้เลย์: กูว่าน่าจะกินมาแล้วนะ..แต่กูหมายถึงไอ้ไทนะ ดูจากอาการไอ้คุณแฟนอารมณ์ดีหน้าบาน ส่วนสาวน้อยไอ้ม่อนก็หิวโซเชียว คุณแฟนมึงก็ให้น้องมันกินข้าวกินปลาหน่อยสิว่ะ หักโหมไปมันไม่ดีนะเว้ย ครืดด!! โอ้ย..ไอ้ห่าเดี๋ยวกูก็ตกน้ำหรอก แค่หยอ
“อ่อ..วันนี้ว่าจะพักอยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ กรีนนเห็นว่าพี่ ๆ มีงานกันไม่ใช่หรอคะ ขออยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ” ฉันหันหน้าไปสบตาพี่ไทกะก่อนจะยิ้มให้พี่เขาไป พี่ไทกะเองทก็ส่งสายตาหวาน ๆ ตอบฉันกลับทำเอาทุกคนออกอาการหมั่นไส้พวกเราขึ้นมาบ้าง พี่ม่อน: สาวน้อยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ตาย ๆ ไอ้ไทกะมันจะคลั่งรักเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้นะสาวน้อย..ฮ่า ฮ่า พี่กันต์:ฉันกับไอยูไปรอที่ห้องประชุมก่อนนะ พวกแกค่อยตามมาแล้วกัน ขณะที่ทุกคนหัวเหราะขำขัน พี่กันต์นี้ก็แอบช็อตฟิวส์ทุกคนเบา ๆ เหมือนกันนะเนี่ย ทุกคนพยักหน้ารับทราบมีเพียงพี่ไทกะที่นั่งนิ่ง และมองหน้าฉันที่กินข้าวต่อ พี่ไทกะ: ไม่อยากไปไหนจริง ๆ หรอ พี่พาไปได้นะ “วันนี้กรีนขอพักก่อนดีกว่าค่ะ รู้สึกเพลีย ๆ แต่ก่อนจะบินกลับไทยกรีนขอรบกวนพี่ไทกะพาไปซื้อของฝากให้ลูกน้องหน่อยนะคะ” พี่ไทกะ: ได้สิคะ พี่เขาส่งรอยยิ้มและเอื้อมมือมาทัดผมให้ฉันเพราะกลัวว่าผมจะไปบังหน้าฉันและตกไปในชามข้าว พี่ไวท์: เหม็นความรักว่ะ! กูไปรอห้องประชุมนะ พี่ม่อนและพี่เลย์ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พี่เลย์: กูก็ว่าอย่างงั้น
ไอ้ไวท์:มึงก็เลยจับลินมานี้แทนอ่านะ ไอ้ซา: ไอ้สัส!..ไม่ได้จับเว้ย แค่พามาตั้งหลักก่อน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับมึงว่ะกูงง..โอ้ยยย” ผมที่พูดตรง ๆ ด้วยความสงสัย กรีนเธอหยิกแขนผมแรงพอสมควรก่อนจะทำหน้าดุซึ่งผมก็ลืมตัวไปว่าน้องลินก็อยู่ ไอ้ซา: กูคือกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทลินด้วย เกี่ยวยังไอ้ไท! กรีน: เราก็ต้องมีหลักฐานพอสมควรเหมือนกันนะคะ ยิ่งมีหน่วยงานรัฐโทษก็จะหนักกว่าบริษัทเอกชนกับเอกชน พูดตรง ๆ นะคะ กรีนไม่รับงานคนรู้จักเท่าไรค่ะ ถ้าเป็นเรื่องพวกมีความผิดอาญา..แต่กรีนเป็นที่ปรึกษาให้ได้ แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็พอมีทาง เดี๋ยวกรีนแนะนำบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือให้นะคะ ผมหันไปกระซิบกับเธอทันทีที่อาสาช่วยพวกผม “ไม่สะดวกใจไม่ต้องรับก็ได้นะ” เธอยิ้มให้ผมบางๆ พร้อมพยักหน้าเบา ๆ กรีน:กรีนเต็มใจค่ะ ไอ้ซา: ได้ ๆ รายละเอียดพี่จะส่งให้เราอีกทีนะ เอกสารบางอย่างต้องใช้เวลาหน่อยนะ กรีน: ได้ค่ะ..เรื่องธรรมดา ไอ้เลย์: กูว่าเท่าที่ฟังแม่งแปลก ๆ นะ มึงเล่าหมดยังพวกมึงคิดเหมือนกูไหม ไอ้ซา: อืมใช่ แม่เลี้ยงลินเสน