กรีน
จู่ๆ เขาก็ยื่นข้อเสนอที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเป้าหมายการมาเที่ยวในครั้งนี่ไม่ใช่แค่การมาพักผ่อนเพียงอย่างเดียว ใช่ค่ะฉันบอกเขาไปตรง ๆ ว่าฉันมาเที่ยวที่นี้คนเดียวอยากจะลองซื้อผู้ชายญี่ปุ่น ทุกคนฟังไม่ผิดค่ะ ชีวิตฉันตอนนี้มันแย่มากจนต้องอยากลองอะไรใหม่ ๆ บางทีชีวิตการทำงานวน ๆ ซ้ำ ๆ หาเงินจนไม่มีเวลาใช้มันก็น่าเบื่อ จะลองเปิดใจให้ใครเข้ามามันก็ไม่มีเวลาดูแลใครจนเขานอกใจหรือท้อแล้วหยุดสานสัมพันธ์กันต่อ แต่ด้วยหน้าที่การงานทางสังคมจะซื้อกินที่ไทยก็ห่วงภาพลักษณ์เลยหนีมาญี่ปุ่นเพื่อลองเปิดประสบการณ์ดี ๆ ใช้ชีวิตให้สุดเวี่ยงไปเลยเข้าใจอารมณ์แบบ มาสิ! ชีวิตคนบ้างานอย่างฉันมีเงินมันต้องซื้อได้ทุกอย่างให้สมกับที่หาเงินมาสิว่ะ!! “วันนี้คุณนอนห้องผมนะ” “ห้ะ!” ขณะที่เธอนั่งเหม่อลอย คิดโน่นนี่นั่นชายหนุ่มก็เอ่ยปากชวนเธอให้ไปนอนด้วยกับเขา “กลับพร้อมผมและนอนห้องผมนะครับ ” “ทำไมคะ ” “5 วันนี้ เราควรใช้เวลาให้คุ้มค่านะคะกับการเป็นแฟนกัน” เขาก็หันมาสบตาพร้อมอมยิ้มให้กับเธอไป “แล้วคุณไม่ต้องทำงานหรอ มีเวลาพาฉันไปเที่ยวขนาดนั้นเลย ” “มีก็เคลียร์ได้ครับ อื้ม… เราไปเที่ยวแถวยามากูจิไหม พอดีผมมีงานแถวนั้น 2 วันครับ ผมต้องไปทำธุระแถวนั้นหน่อยอ่าพอเสร็จงานแล้วผมจะพาคุณไปเที่ยวแถวนั้นคุณโอเคไหม หรือว่าคุณอยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?” “ไม่มีค่ะ งั้นก็ไปด้วยกันก็ได้ค่ะคุณแฟน” หลังจากที่เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตอบเขาไปซึ่งเหมือนว่าเขาอึ้งไปสักพักกับคำพูดของเธอก่อนหันหน้าไปสบตากับเธอ จนเธอเขินจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงร้านอาหารขณะเดียวกันอาชิก็มองเธอด้วยสายตาที่มีเลศนัยเพราะเขาเห็นเธอเดินมาพร้อมกับเขา “อาหารมาพอดีเลยครับ เชิญนั่งเลยครับ” หญิงสาวนั่งตรงกลางระหว่างเขากับอาชิเพราะว่าเขาไม่ยอมที่จะนั่งอีกที่ที่พนักงานเตรียมเอาไว้ให้ “ยังไง ๆ หายไปนานเลยนะ กว่าจะมาได้ คงคุยงานเพลินเลยนะ” เพื่อนของเธอกระซิบเบา ๆ เธอหันไปยิ้มให้ด้วยตาสระอิให้เขาก่อนจะตอบคำตามของเพื่อนเธอ “ไม่ต้องยุ่งครับ!” “อุ๊ยแรง ชิ!” เพื่อนเธอทำท่าทางงอนเธอซึ่งก็ได้แต่สายหน้าเบา ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนเธอไม่ได้จริงจังอะไร “ฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้ตอนเช้าเลยนะ แล้วแกจะอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกกี่วัน” “อีก 5 วันนะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนแต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนบ้างนะ ” “แล้วนี้แกจะเที่ยวคนเดียวจริง ๆ หรอหรือไง ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม” “ทำเหมือนกับตัวเองว่างมากเลยนะ ไม่เป็นไรฉันขอพักผ่อนก่อน เพื่อเจอหนุ่ม ๆ แซ่บ ๆ พาไปพักกายพักใจ” อาชิถามพร้อมยักคิ้วให้กับเธอ เธอก็ตอบไปกวนพร้อมยักคิ้วคืนไปบ้างก่อรชนที่เธอจะรู้สึกว่าเธอเผลอพูดมากกับอาชิไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาหันมาทำใส่ตาดุใส่เธอ “อุ้ย!” “นึกว่าเจอแล้วสะอีก แล้วนี่ทานข้าวเสร็จจะกลับพร้อมฉันเลยไหมจะได้ไปส่งที่โรงแรม” “ได้สิ แกก็ไปส่งฉันที่โรงแรมก่อนแล้วกัน แต่พรุ่งนี้ฉันไม่ไปส่งแกที่สนามบินนะ พอดีฉันไม่อยากตื่นเช้าอ่ะ” “ได้ ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอก” เธอที่เพิ่งนึกออกว่ารับปากเขาไปแล้วนั้น เขาหันมองเธอมาเพียงหางตาที่บอกได้เลยว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เธอไม่รู้จะทำยังไงเมื่อได้สติ เธอตัดสินใจพิมพ์แชทข้อความไปหาเขา แชทกรีน:ขอโทษนะพอดีว่าลืมว่านัดกับนาย ฉันไม่ได้ตั้งใจถ้างั้นฉันขอไปเก็บเสื้อผ้าแล้วคุณมารับฉันที่โรงแรมได้ไหม ติ้ง! แชทไทกะ:คุณต้องกลับพร้อมผม! เดี๋ยวผมจะพาไปเก็บเสื้อผ้าเอง แชทกรีน: ฉันรับปากกับอาชิแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้ คุณช่วยรอฉันที่โรงแรมหรือจะให้ฉันไปเจอคุณที่คอนโดดี นะนะ…น๊าาา แชทไทกะ: ไม่! วันนี้คุณเป็นแฟนผมฉะนั้นก็ต้องฟังผม เธออ่านข้อความแชทที่เขาส่งมาบอกตรง ๆ เลยตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมด ถ้าเธอไปกับเขาอาชิก็ต้องรู้แน่ว่าเธอกับเขาต้องมี Something กันแน่นอนฉันคิดหนักก่อนตัดสินใจพิมพ์แชทกับเขาต่อ แชทกรีน: เอางี้ ถ้าคุณให้ฉันกลับไปพร้อมอาชิฉันจะให้ของขวัญคุณดีไหม “หึ!ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลแผนนี้น่าจะได้ผล” เธอพึมพำเบา ๆ แชทไทกะ: อะไร? ข้อเสนอคุณมันจะพอทำให้ผมอนุญาตให้คุณกลับไปกับผู้ชายคนอื่นได้จริง ๆ หรอ แชทกรีน: ก็ต้องลองค่ะ แชทไทกะ: ได้ ผมจะลองเชื่อใจคุณสักครั้งผมให้เวลาคุณแค่ 10 นาที แล้วผมจะรอคุณที่ลานจอดรถของโรงแรมของคุณโอเคไหม แชทกรีน; ได้ค่ะ ๆ ขอบคุณนะคะ หลังจากนั้นเธอตัดสินใจชวนอาชิกลับโรงแรมเพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอได้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ พวกเราทั้งสองหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกนะครับ ไว้ถ้าได้มีโอกาสครั้งหน้าผมขอเลี้ยงข้าวตอบแทนพวกคุณบ้างนะครับ” “ยังไงโอกาสหน้ากรีนขอเป็นเจ้าภาพนะคะ” “วันนี้ขออนุญาตขอตัวกลับก่อนนะครับ” เธอบอกลาทุกคนพร้อมกับหันหน้าไปสบตากับคนที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ในตอนนี้ “ยังไงครับยังไง กับผู้บริหารหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นสานสัมพันธ์เกินกว่านายจ้างลูกจ้างหรือเปล่าน๊าาาา หล่อดีเนอะว่าไหม” ขณะที่กำลังเดินทางกลับโรงแรมอาชิก็เอ่ยปากแซวเธอขึ้นมา “ตลกล่ะ สานอะไรคะเอาเวลาที่ไหนไปสานก่อน แกก็รู้ว่าฉันบ้างานขนาดไหนแถมนี่ก็..อยู่คนละประเทศ เอาเวลาที่ไหนครับพูดไปเลื่อยเลยนะแก” “ก็ไม่รู้อ่ะ เห็นมองหน้ากันตั้งแต่เข้าห้องประชุม แถมยังมาด้วยกันอีก หึ! คิดว่าฉันไม่รู้หรอสเปคเลยนิ ไม่ลองเปิดใจบ้างอ่าจะว่าไปก็..” “หยุดเลย ๆ เอาเวลาสนใจเรื่องของคนอื่นไปสนใจเรื่องของตัวเองก่อนไหมครับ” ไม่นานเธอก็ถึงห้องพัก จากนั้นเธอก็รีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและรีบขึ้นรถของชายหนุ่มที่มารออยู่ก่อนแล้วทันที พอเขาขับรถออกจากโรงแรมได้สักพัก จ๊อกกก ~ เสียงท้องของเธอร้อง เขาก็หันมามองหน้าเธอก่อนสบตากันครู่หนึ่ง “หิวหรอแวะทานข้าวก่อนไหม พอดีเลยผมจะขอเข้าไปเอาเอกสารกับเพื่อนนะ คุณก็ทานข้าวรอก่อนได้ไหม” “แฮร่ ๆ..งั้นก็ได้ค่ะ ตามนั้นเลย” “ครับ” ไม่นานพวกเราก็ถึงร้านอาหารไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยมาก เป็นร้านที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามันลงตัวมาก ๆ “คุณจะทานอะไรครับ” “ขอราเมงกับเบียร์และน้ำแข็งใส่แก้วมาได้ไหมคะ” “ห้ะ!..เอ่อได้สิ” ไทกะ ผมเดินไปสั่งอาหารให้เธอก่อนจะถามพนักงานงานเพื่อไปหาไดม่อนหรือไอ้ม่อนเพื่อนของผมเอง “ไดม่อนอยู่ที่ร้านไหมวันนี้” “คุณไดม่อนอยู่ข้างบนชั้นสองครับ เดี๋ยวผมจะแจ้งว่าคุณไทกะมานะครับ เชิญที่ชั้นสองได้เลยครับ” “ลมอะไรหอบแกมาตอนนี้ครับคุณเพื่อน คนเขาตามหาแกให้ควักเลยนะรู้ป่ะ? ไหนว่าจะมาเอาเอกสารพรุ่งนี้” “เปลี่ยนใจนะ พอดีกูจะไปแถว ๆ ยามากูจิพรุ่งนี้เลยนะ”พี่ไทกะยิ้มขึ้นมาเอาตรง ๆ ฉันก็อึดอัดนะจะมานั่งมองกันแบบนี้ แถมพูดเสร็จก็ส่งสายตาเจ้าเลห์ เหอะ! ฝันไปเถอะไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน หลังจากนั้นฉันเอาแต่เงียบไม่พูดต่อพอกินเสร็จฉันก็เก็บจานไม่แคร์พี่เขาเลย “ใจร้ายจังเลยนะ เราไม่สงสารพี่บ้างหรอ” “ใครบังคับพี่คะ กรีนเรียกพี่แล้วแต่พี่ปฏิเสธเองฉะนั้นจะมากล่าวหาว่ากรีนใจร้ายไม่ได้นะคะ” “เรากลับห้องเราเถอะนะพี่เกรงใจอาชิเขา อีกอย่างพี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยแถมเสื้อผ้าไม่ได้เอามาอีกแต่..ทำไมกรีนมีเสื้อผ้าเปลี่ยนที่คอนโดอาชิด้วย” ฉันกำลังจะจัดการล้างจานพี่เขาก็เขามาช่วย ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรพอพี่เขาพูดจบพี่เขาก็หน้ามุ้ยทันทีคงจะโกรธ แต่เห็นว่าฉันยังคงโกรธอยู่จึงไม่กล้าโกรธหรืองอน “ปกติสมัยก่อนกรีนก็มาพักที่นี้บ้างค่ะ เพราะมาช่วยงานอาชิ จึงมีเสื้อผ้าสำรองไว้“ “พี่กับกัสเราจบกันไปนานแล้ว พี่เคยคบกับเธอจริง ๆ สมัยเรียนมหาลัยและช่วงที่กัสเข้ามหาลัยปี 1 พี่มาต่อโทที่ไทยอีกใบ จากนั้นพี่กับกัสก็เลิกกันไปแล้วและก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย” “เลิกกันเพราะอะไรคะ” “พี่แค่รู้สึกว่าพี่เข้ากับเธอไม่ได้อีกอย่างพี่
ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันทำให้กรีนรู้สึกแย่แน่ ๆ จากนั้นผมพยายามเดินไปจับมือกรีนให้เดินไปที่รถ ตอนนี้ผมทั้งสับสนและกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกกลัวว่าน้องจะไม่เข้าใจผม กรีน หลังจากที่ฉันได้รู้ว่าพี่ไทกะกับนางนั้นเคยสนิทกันใจฉันมันก็สั้นไหวอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาฉันตอนนี้ไหลมาไม่หยุดในหัวคิดวนเวียนเรื่องราวระหว่างเขาสองคน ฉันทำใจไม่ได้ที่รู้ความจริง มันเร็วเกินจะรับไม่ไหวจริง ๆ “เรากลับบ้านก่อนค่อยคุยกันนะกรีน” “กรีนขอเวลาหน่อยนะคะ พี่ไทกะกลับไปก่อนได้เลย” “กรีน! อย่างี่เง่าพี่ขอ กลับคอนโดก่อนพี่จะอธิบายเอง” พี่เขาคงทั้งเหนื่อยและกังวลใจฉันเองก็ไม่ต่างแต่สภาพฉันตอนนี้บอกเลยว่าไม่พร้อมรับฟังอะไรทั้งนั้น “กรีนไม่พร้อมที่จะฟังค่ะ เดี๋ยวกรีนให้อาชิไปส่งเองพี่กลับไปเถอะ” “ทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย กลับไปคุยกันที่คอนโด เรื่องแค่นี้เองแถมมันก็เป็นอดีตด้วย” ฉันไม่อยากจะรับฟังจึงเลือกที่จะกดโทรหาอาชิทันที “ฮื่อ..อาชิมารับฉันที่โรงจอดรถอาคารเอชั้นใต้ดินหน่อยฮื่อ..” “อืม รอก่อนฉันจะรีบไป” “ท
“ไงหายหน้าหายตาไปเลยนะ ไลน์ไปก็บอกว่ายุ่งตลอดเลย เป็นไงบ้างช่วงนี้ สรุปคือเป็นแฟนกับคุณไทกะยัง” เฮ้ออ~ “ก็ยุ่งจริง ๆ อ่า..แถมพี่ตะวันก็กลับมาแล้วด้วยและฉันก็กำลังคบกับพี่ไทกะอยู่อีกต่างหาก เป็นไงแกว่า” “หึ หึ เอาน่า ๆ ยังไงฉันก็อยู่ข้างเธอนะกรีน มีไรให้ช่วยก็บอกอยากปรึกษาอะไรก็ติดต่อฉันมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ แต่วันนี้สวยมากเลยนะดูจึ้งมาก” “จริงหรอ? ขอบคุณนะ แต่ฉันออกมานานแล้วอ่า ขอตัวไปหาพี่ไทกะก่อนนะเดี๋ยวพี่เขาเป็นห่วงอ่ะ” อาชิพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทันที่ที่เข้าไปในงาน ฉันก็เจอพี่กันต์และไอยูฉันยิ้มให้พวกเขาที่เดินมาแต่ไกลก่อนฉันจะเดินไปทักทาย “สวัสดีค่ะพี่กันต์/ไอยู” “ สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ วันนี้คุณกรีนสวยจังเลยนะคะ” “คุณไอยูก็เหมือนกันนะคะ” “ไอ้ไทกะไปไหนหรอ ทำไมปล่อยให้เราอยู่คนเดียว” “กรีนหนีไปสูดอากาศข้างนอกมาค่ะ น่าจะอยู่แถว ๆ นี้นะคะ” จากนั้นฉันกวาดสายตามองทันใดนั้นพี่ไทกะก็เดินมาพอดี พี่ไทกะหยักคิ้วให้พี่กันต์และยิ้มให้ไอยู ทั้งสามคนตอนนี้ก็ค่อนข้างที่จะกลับมาปกติกันมากขึ้นหลังจากจบเรื
เธอที่เห็นอาการผมเธอก็เริ่มถอดเสื้อถอดกางเกงและกางเกงในผมก่อนจะลูบไล้ลูกชายผมออกมารูดขึ้นลงผมเองก็ใช้นิ้วเขี่ยถูไถ่ช่องทางรักภายในก็ตอดรัดนิ้วเขาตุบ ๆ อา..อื้ม “อื้ม..หนูจะทำให้พี่คลั่งแล้วนะ” ผมที่ยืนแทบไม่ติดปล่อยให้เธอจัดการลูบไล้ไม่นานเธอก็นั่งคุกเข่าก่อนที่ปากเล็ก ๆ ของเธอก็ยัดท่อนเอ็ดที่ผงาดเต็มเข้าไป ปากเล็ก ๆ ขยับเข้าออกและเร่งจังหวะบ้างผ่อนจังหวะบ้าง สายตาและท่าทางของเธอผมยิ่งเสียวจนเกือบจะเสร็จ จากนั้นผมก็จับตัวเธอลุกขึ้นมาพร้อมทั้งจูบอันเร้าร้อน จ๊วบบบ จ๊วบบบ “อื้ม อาา..พี่ทะไทกะ.. หนูไม่ไหวแล้วนะคะ” พอผมถอนจูบผมที่เห็นอาการเธอก็ยิ่งดูดสองเต้าบีบขย่ำเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามันส์ หลังจากนั้นผมก็จัดการให้เธอหันหน้าชนผนังห้องน้ำส่วนก่อนที่ผมจะจับขาเธอให้แยกออกจากกันและผมก็ใส่ท่อนเอ็นแทงเข้าไปในใจกลางกายเธอ เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นพอ ๆ กับเสียงครางของเธอ ยิ่งเห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งกระแทกร่างบางไม่หยุดจนใจที่สุดเราก็จุดสุดหมาย พออาบน้ำร่างตัวเสร็จก็ก็อุ้มเธอมาที่เตียงและบรรเลงเพลงรักใหม่เราทั้งคู่เสร็จสมไปรอบที่เท่าไรไม่รู้ จนเกือบจะเช้าถึงจะได้นอนกั
“ แฟนหนูทำไมน่ารักแบบนี้นะ” พูดเสร็จเธอก็จูบผม แน่นอนว่าผมก็จูบตอบกับอย่างออกรสออกชาติ จ๊วบ จ๊วบ อื้มม เสียงมือถือผมสั่นจึงทำให้ผมผละออกจากจูบที่แสนหวานนี้ ผมดูเบอร์โทรเป็นของริว คงจะโทรมาตามไปประชุมต่อ “ว่าไง โอเคไปตอนนี้ล่ะ ” “พี่ไปประชุมก่อนนะ เราก็พักผ่อนรอพี่ก่อนแล้วกัน พี่จะรีบมานะคะ” “ค่ะ ไม่ต้องรีบหรอกค่ะเอางานพี่ก่อนเลย พี่ไทกะไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะแต่.หนูขอสำรวจห้องนี้ได้ไหมคะ” “ได้สิครับ สำรวจได้ทั้งห้องและได้ทั้งเจ้าของห้องเลย” ผมยิ้มแบบมีเลสนัยให้เธอ เธอทำตาโตเพราะรู้ความหมายที่จะสื่อ “ไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะสายให้คนอื่นรอนาน ๆ ไม่ดีนะคะ” จากนั้นผมก็ประชุมต่อ จนถึง00:30 นาฬิกา เอาตรง ๆ ผมตั้งใจจะเลิกเร็วนะ แต่พอทำงานแล้วผมก็ลืมเวลาไปเลย พอผมเข้ามาในห้องก็เจอกรีนกำลังหลับบนโซฟาอยู่ เธอคงเหนื่อยจริง ๆ ผมเก็บของและเข้าไปปลุกเธอ “กรีนครับ ๆ เรากลับบ้านกันเถอะ” “ประชุมเสร็จแล้วหรอคะ” “ค่ะ มาเอากระเป๋ามาพี่ถือให้เราเอง” เธอสะลึมสะลื้องั้วเงี้ยตื่นก่อนจะพยักหน้างึก ๆ ด้วยอาการคนเพิ่
“กรีนทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ กรีนรักเขาไปแล้วพี่ตะวันช่วยเข้าใจด้วยนะคะ” “ได้ พี่จะให้โอกาสผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาทำให้กรีนเสียใจ พี่จะทวงคืนเอง หวังว่าวันนั้นกรีนจะแต่งงานกับพี่นะเราโอเคหรือเปล่า” “ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ตะวันคิดว่าจะยอมถอยในครั้งนี้กรีนก็รับปากค่ะ” คงเป็นทางเดียวที่ฉันจะหาทางออกได้ในตอนนี้อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเรื่อง “งั้นเราค่อยขึ้นไปภูเก็ตอาทิตย์หน้าดีไหมคะ กรีนขอเคลียร์งานที่บริษัทซักสามสี่วันก่อนนะคะ” “ได้ค่ะ งั้นเรากินข้าวกันเถอะ” หลังจากนั้นเราก็กินข้าวคุยกันถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันปกติ สายตาฉันก็ปะทะเข้ากับผู้ชายสูงวัยและสาวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินคุยกันอย่างมีความสุขและออกรถออกชาติ ฉันปลายมองแค่นั้นหัวใจฉันก็เจ็บปวด แต่ฉันต้องเข้มแข็งและตัวเองจะต้องทำเป็นไม่สนใจ แต่พวกเขากับเดินมาที่โต๊ะของเรา “แกไม่คิดจะกลับมาแก้ไขปัญหาบริษัทบ้างเลยรึไง” หึ!! คำพูดที่แรกที่เขาทักทายฉัน “มันมีความจำเป็นด้วยหรอค่ะ อยากพากันได้หนักก็แก้ปัญหาเองสิ” “นางลูกอกตัญญู ฉันกับแม่แกสร้างมาด้วย