Share

บทที่ 12

Penulis: เฉินเสี่ยวอวี๋
เธอเขียนเต็มหน้ากระดาษ แต่กลับไม่เกี่ยวกับเสิ่นเจิงเลย

ยกเว้นประโยคสุดท้าย

นัยน์ตาของเสิ่นเจิงหรี่ต่ำลงอย่างทำอะไรไม่ถูก ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยความเสียใจและรู้สึกผิด

ในวันสุดท้ายที่ต้องอยู่เพียงลำพัง เธอคงจะกลัวมากขนาดไหน

คนที่แม้แต่ฉีดยายังกลัวเจ็บ มะเร็งตับอ่อน นั่นจะเจ็บปวดขนาดไหน

ชีวิตใกล้จะดับสูญ แต่ยังต้องมองดูคนรักของตนเองโอบกอดคนอื่นไว้ในอ้อมแขน...

เสิ่นเจิงจินตนาการไม่ออกเลยว่าในใจของเธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน

ตั้งแต่วันที่สารภาพรักกับกู้เนี่ยนอี เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเป็นเธอ จะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต

เขาเคยจินตนาการถึงอนาคตของพวกเขานับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีครั้งไหนที่ไม่ใช่ฉากจบที่สวยงาม

แต่ว่า เขาเดินออกนอกเส้นทางไปได้ยังไง?

เขาเกลียดตัวเองที่สุด และยิ่งเกลียดเมิ่งหนิงที่สุด

ถ้าหากไม่มีเมิ่งหนิง เรื่องทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นใช่ไหม?

เสิ่นเจิงเฝ้าบ้านที่ว่างเปล่าเพียงลำพัง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยความอ้างว้างและโดดเดี่ยว

เขานำสมุดไดอะรีและข้อตกลงการหย่ามาวางไว้ด้วยกันอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้นก็ล็อกพวกมันไว้ในตู้

นี่คือสิ่งของเพียงชิ้นเดียวที่กู้เนี่ยนอีทิ้งไว้ ทำให้เ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 19

    พริบตาเดียว ก็ถึงวันครบรอบแต่งงานอีกครั้งเสิ่นเจิงถือเค้กที่สั่งไว้ล่วงหน้ากลับมาบ้าน แต่กลับพบว่าในบ้านไม่มีใครอยู่เลยเขาหาทั่วทั้งบ้าน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้เนี่ยนอีความหวาดกลัวที่จะต้องสูญเสียถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เสิ่นเจิงกำลังจะโทรแจ้งตำรวจอย่างลนลาน แต่แล้วก็มีเสียงจานแตกดังมาจากในครัวเสิ่นเจิงรีบวิ่งเข้าไปในครัว ก็เห็นดวงตาของกู้เนี่ยนอีแดงก่ำ“ที่รัก ฉันเป็นมะเร็ง”เสิ่นเจิงยังไม่ทันได้อ้าปาก สภาพแวดล้อมรอบกายก็พลันมืดมิดลง ร่างของกู้เนี่ยนอีปรากฏขึ้นอีกครั้งจากอีกทิศทางหนึ่งและครั้งนี้ เธอผอมจนเหลือแต่กระดูกเธอมองมาที่เขา ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “เสิ่นเจิง หลอกตัวเองแบบนี้มันสนุกมากเหรอ?”ในหัวของเสิ่นเจิงมีเสียงดังกระหึ่มวินาทีต่อมา เธอก็เห็นเขาหลั่งน้ำตา“เสิ่นเจิง ขอโทษนะ ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้อภัยคุณแล้ว”“เพราะว่าฉันไม่ได้รักคุณแล้วจริง ๆ”พื้นดินยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว เสิ่นเจิงพยายามยื่นมือออกไปเพื่อคว้าไว้ แต่ก็ทำได้เพียงมองอีกฝ่ายค่อย ๆ ห่างไกลออกไปความกลัวที่จะสูญเสียเข้าครอบงำ เขาดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แล้วก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ ข้างกาย

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 18

    เขานั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพลบค่ำเพราะไม่อยากกลับไปที่บ้านว่างเปล่าที่ไม่มีกู้เนี่ยนอีอีกแล้ว เสิ่นเจิงจึงแอบหลบการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จนกระทั่งม่านราตรีโรยตัวลงมา เขาถึงได้กลับไปยังที่ตั้งของป้ายหลุมศพอีกครั้งสุสานในยามดึกสงัดมีลมเย็นพัดโชยมาเป็นระยะ ทั่วทุกแห่งอบอวลไปด้วยไอเย็นยะเยือกแต่เสิ่นเจิงกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อยเพราะที่นี่คือที่ฝังร่างของคนที่เขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนเขานอนลงข้างหลุมศพ ลูบไล้ป้ายหินที่เย็นเฉียบอย่างอ่อนโยนเขารู้สึกสงบใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่ามกลางสายลมที่พัดมาเป็นระลอก เสิ่นเจิงก็ผล็อยหลับไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เสิ่นเจิงก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องเข้ามาในห้อง เฟอร์นิเจอร์รอบกายล้วนย้ำเตือนเขาว่านี่คือบ้านของเขาเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?เขาจำได้ชัดเจนว่าตัวเองอยู่ที่สุสาน...มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตู ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูก็ถูกเปิดออกและคนที่เข้ามา ก็คือกู้เนี่ยนอี!เนี่ยนอี...เธอ...ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วเหรอ?เสิ่นเจิงมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ กู้เนี่ยนอียิ้มแล้วนั่งลงข้

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่17

    ช่วงนี้ เสิ่นเจิงพยายามติดต่อเธอมาตลอดเธอรู้ว่าเขาอยากจะเจอเนี่ยนอี แต่เธอก็ปฏิเสธไปทุกครั้งแต่ซูเหยียนไม่เคยคิดเลยว่า สุดท้ายแล้วเสิ่นเจิงจะใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือในการติดต่อเธอความเป็นเพื่อนกันมาหลายปีทำให้เธอใจแข็งได้ไม่สุด เพราะเธอก็กลัวว่าเสิ่นเจิงจะก่อเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมาจริง ๆเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ร้ายแรง ซูเหยียนก็หันหลังเตรียมจะจากไปแต่กลับได้ยินเสียง “ตุ้บ” เสิ่นเจิงคุกเข่าลงเขาก้มหน้าลง ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทาไม่หยุด“ซูเหยียน ขอร้องล่ะ ขอร้องเธอล่ะ... พาฉันไปเจอเธอหน่อยเถอะนะ...”ซูเหยียนไม่เคยเห็นเขาตกต่ำถึงเพียงนี้มาก่อน ในที่สุดใจที่เคยแข็งกระด้างก็อ่อนลงวันที่ไปหากู้เนี่ยนอี เสิ่นเจิงตั้งใจใส่สูทเป็นพิเศษนี่คือของขวัญวันเรียนจบที่เธอมอบให้เขาตอนที่พวกเขาเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆเขาซื้อช่อดอกเดซีช่อใหญ่มา และในขณะเดียวกันก็ไปร้านตัดผมเพื่อจัดแต่งทรงผมตลอดทาง ทั้งสองคนต่างก็เงียบรถวิ่งมาได้สองชั่วโมง ก็จอดลงที่สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีภูเขาและสายน้ำที่สวยงามเมื่อมองไปที่ประตูสุสาน เสิ่นเจิงก็ยืนนิ่งงันอยู่กับที่สถานที่แห่งนี้ เขาเคยเห็นอย่างชัดเจนก่

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 16

    “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วว่าเขาทนไม่ไหวหรอก!”“ไม่ใช่ว่าเขารักมั่นคงอะไรหรอก แต่เป็นเพราะผู้หญิงรอบตัวมันไม่ถูกใจ!”“แต่ว่านะ เสิ่นเจิง นายก็น่าจะลองเปลี่ยนรสชาติบ้าง เอาแต่แบบเมียนายตลอด ไม่เบื่อรึไง?”“แต่ขอแค่เพื่อนเราชอบ จะให้หาผู้หญิงที่เหมือนน้องสะใภ้แค่ไหน พวกเราก็หามาให้ได้...”เสียงหัวเราะอย่างเปิดเผยของผู้ชายดังขึ้นในห้องส่วนตัว เสิ่นเจิงรู้สึกถึงโทสะที่พุ่งขึ้นมาอยู่ที่หว่างคิ้วเขาผลักเด็กสาวออกไปอย่างแรง แล้วใช้มืออีกข้างบีบคอเธอกดลงกับโต๊ะฝ่ามือใหญ่ค่อย ๆ บีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าของเด็กสาวแดงก่ำเด็กสาวดิ้นรนไม่หยุด พยายามที่จะหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา“เสิ่นเจิง หยุดเดี๋ยวนี้! จะฆ่าคนหรือไง!”หลายคนรีบเข้ามาดึงเขาออกอย่างทุลักทุเล เด็กสาวเห็นดังนั้นก็รีบคลานหนีออกจากห้องไปเสิ่นเจิงกวาดสายตาเย็นชาไปทั่วทุกคน“ฉันขอเตือนพวกนาย ถ้าใครกล้าพูดจาไม่ให้เกียรติภรรยาผมฉัน ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!”“แล้วก็ถ้าใครกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้า!”ทุกคนมองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี“เหอะ แค่เพื่อผู้หญิงแก่ ๆ คนเดียว ทำมาเป็นเสแสร้งจริง ๆ”ในกลุ่ม

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 15

    หลังจากสะสางเรื่องของเมิ่งหนิงเสร็จ ขานั่งกระดกเหล้าอยู่ในห้องส่วนตัวของเสิ่นเจิงก็ลาพักร้อนยาวเพราะไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่ากู้เนี่ยนอีได้จากไปแล้ว เสิ่นเจิงจึงเลือกที่จะจมตัวเองอยู่กับสุรา“ถ้ารู้ว่าเธอเป็นมะเร็งเร็วกว่านี้ก็คงดี”“ถ้าฉันไม่โดนเมิ่งหนิงยั่วยวนก็คงดี”“ถ้าหาก...”เขานั่งกระดกเหล้าอยู่ในห้องส่วนตัวของบาร์อย่างปวดร้าวเสิ่นเจิงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้นอนมากี่คืนแล้วที่บ้านไม่มีกลิ่นอายของกู้เนี่ยนอีอีกต่อไป ทำให้เขาอยู่ไม่ได้บ้านเก่าที่โดยพื้นฐานแล้วกลับคืนสู่สภาพเดิม กลับไม่ใช่ที่ที่คุ้นเคยอีกต่อไปเขาอยากใช้แอลกอฮอล์มอมเมาตัวเอง เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานจากความคิดถึงแต่ถึงแม้จะดื่มเหล้าลงท้องไปนับไม่ถ้วน เขากลับไม่เมามาย ตรงกันข้าม สติกลับยิ่งแจ่มชัดขึ้นเขารู้ตัวอย่างแจ่มชัดว่า ข้างกายของเขาไม่มีเธออีกต่อไปแล้วเสิ่นเจิงหัวเราะอย่างขมขื่นก่อนจะกระดกเหล้าอีกขวด จากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมจะเรียกบาร์เทนเดอร์ทว่าทันทีที่ก้าวออกจากห้อง เขาก็เดินชนเข้ากับชายคนหนึ่งอีกฝ่ายขมวดคิ้วสบถ กำลังจะอาละวาด แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครสีหน้าก็เปลี่ยนไป“ประธานเสิ่น ท

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 14

    เธอคุกเข่าคลานเข้าไปหาเสิ่นเจิงเธอกุมข้อมือของเขาไว้แน่น น้ำตานองหน้าอ้อนวอนอย่างขมขื่นแต่เสิ่นเจิงกลับไม่ไหวติงแม้แต่น้อยเมิ่งหนิงรีบหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เธอชูมันขึ้นตรงหน้าเสิ่นเจิงแล้วตะโกนสุดเสียงว่า“ประธานเสิ่น ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ได้โปรดเห็นแก่ลูก ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ!”“ไหนว่าคุณอยากมีลูกมาตลอดไม่ใช่เหรอคะ? ดูสิ ในที่สุดเราก็กำลังจะมีแล้ว!”“ครอบครัวพ่อแม่ลูกสามคนที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด ใกล้จะเป็นจริงแล้วนะคะ...”“เหอะ!” เสิ่นเจิงแค่นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา บีบคางของเมิ่งหนิงอย่างแรงจนเป็นรอยนิ้วมือสีม่วงคล้ำ“ใครบอกว่าอยากจะสร้างครอบครัวสามคนกับเธอ?”“ในภาพที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอด มีเพียงกู้เนี่ยนอีคนเดียวเท่านั้น”“ส่วนเธอ สำหรับฉันแล้ว เป็นแค่เครื่องมือ”พูดจบ เขาก็สะบัดมือของเมิ่งหนิงออกอย่างเย็นชาเมิ่งหนิงทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ฉันจำได้ว่าเคยเตือนเธอหลายครั้งแล้วให้เจียมตัว แต่เธอกลับลืม แถมยังไปทำร้ายภรรยาของฉันลับหลังฉันอีก”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ควรจะได้รับผลของการกระทำของตัวเอง!”“ส่วนเด็กคนนั้น แม่ของเขาตายไปแล้ว เขาก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status