Share

รักสลายใต้เงาจันทร์
รักสลายใต้เงาจันทร์
Author: เฉินเสี่ยวอวี๋

บทที่ 1

Author: เฉินเสี่ยวอวี๋
ความสุขในวันวานทำให้ฉันรู้สึกเหม่อลอยไปชั่วขณะ

ฉันกับเสิ่นเจิงเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เราตกลงคบหากันตอนอายุสิบแปดปี

หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ฉันอยู่เคียงข้างเขาในห้องใต้ดิน ผ่านความลำบากมาด้วยกันนับไม่ถ้วน และเฝ้ามองเขาค่อย ๆ สร้างบริษัทจนใหญ่โต

ต่อมา เขาก็ซื้อบ้านและรถราคาแพงให้ฉัน

ฉันชอบแต่งตัว คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของแต่ละแบรนด์ดังก็จะถูกส่งตรงมาถึงบ้านทันที

ฉันชอบท่องเที่ยว เขาก็มักจะหาเวลาจากงานที่ยุ่งเหยิงเพื่อไปเที่ยวกับฉัน

ไม่ว่าจะเป็นวันเทศกาลหรือวันครบรอบ เซอร์ไพรส์ของเขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง

แม้กระทั่งตอนที่รู้ว่าฉันไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เขาก็ยังรับผิดชอบทุกอย่างไว้ที่ตัวเองคนเดียว

ทุกคนต่างก็พูดว่าเสิ่นเจิงรักฉันมากเหลือเกิน

แต่ก็เป็นเขาคนเดียวกัน ที่แอบไปมีบ้านอีกหลังกับเลขาสาวในปีที่เจ็ดหลังแต่งงาน

เขาซื้อวิลล่าให้เมิ่งหนิงหลังหนึ่ง เพื่อสร้าง ‘รังรัก’ ของพวกเขาขึ้นมา

ผู้ชายที่เคยกลับบ้านทุกวัน ก็ค่อย ๆ ไม่กลับบ้านในตอนกลางคืน

เขาดีต่อเมิ่งหนิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ท่าทีที่มีต่อฉันกลับแย่ลงทุกวัน

ราวกับว่าแค่ได้เห็นหน้าฉัน เขาก็จะต้องขมวดคิ้วแน่น

ฉันไม่อยากจะคิดถึงมันอีกต่อไป จึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเริ่มเก็บกวาดเศษแก้วที่แตกกระจายบนพื้น

นี่คือเศษแก้วที่แตกเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่ทะเลาะกับเสิ่นเจิง

วันนั้นเป็นวันครบรอบแต่งงานของเรา ฉันทำอาหารเตรียมไว้พร้อมและรอเขาอยู่ที่บ้าน

เขาสัญญากับฉันว่าจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกงาน แต่สุดท้ายเขากลับมาถึงบ้านตอนตีสอง

เขาไปอยู่กับเมิ่งหนิงอีกแล้ว

เราทะเลาะกันอย่างรุนแรง และในวันนั้นเสิ่นเจิงก็ได้พูดคำที่ทำให้หัวใจของฉันแตกสลายโดยสิ้นเชิงออกมาว่า

“กู้เนี่ยนอี ฉันต้องการลูก”

ฉันวิ่งหนีออกจากบ้านอย่างสับสน ไม่กล้าที่จะฟังคำพูดต่อไปของเขา และเขาก็ไม่ได้วิ่งตามออกมา

ฉันไปอยู่ที่บ้านเก่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ จนกระทั่งปวดท้องจนต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล

เมื่อมองดูฝุ่นบนพื้น ฉันก็รู้ว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน

ขณะที่ฉันก้มตัวลงเก็บของ ผลตรวจก็หล่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

เมื่อมองดูกระดาษแผ่นนั้น ฉันก็หยุดการกระทำในมือลง

ควรจะบอกเขาดีไหม?

ถ้าเขารู้ว่าฉันกำลังจะตาย เขาจะเสียใจบ้างไหม?

ขอบตาของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วก็ถูกความคิดของตัวเองทำให้หัวเราะออกมา

เขาไม่ใช่เสิ่นเจิงคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขาในตอนนี้คงจะพูดอย่างเย็นชาแค่ว่า สมควรแล้วล่ะ

ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วจัดของต่อ

ทันใดนั้น ห้องที่มืดสนิทก็สว่างวาบขึ้น มีคนเปิดไฟ

ฉันหรี่ตามองไปที่ประตู เสิ่นเจิงยืนอยู่ตรงนั้น บนปกเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขามีรอยลิปสติกเด่นชัด

เขามองมาที่ฉัน แล้วเลิกคิ้วขึ้น

“อาละวาดพอหรือยัง?”

ฉันไม่ได้ตอบ ค่อย ๆ สอดรายงานผลตรวจกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้ออย่างเงียบ ๆ

เพราะไม่คิดว่าเขาจะกลับมา ฉันจึงตกใจจนเผลอทำเศษแก้วบาดมือ

ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อล้างแผลด้วยน้ำเย็น

“ลูกไม้ใหม่เหรอ? ทำร้ายตัวเอง? กู้เนี่ยนอี เธอนี่มันถูกตามใจจนเสียคนจริง ๆ!”

ถึงแม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาอีกแล้ว แต่หัวใจของฉันก็ยังคงเจ็บปวด

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เสิ่นเจิงคนก่อนไม่เคยพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้เลย

เขารู้ว่าฉันเป็นคนขี้กังวล ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาจะคอยง้อฉันอย่างใจเย็น

บางครั้งฉันหนีออกจากบ้าน เขาก็ไม่เคยโกรธ และมักจะตามหาฉันเจอทุกครั้ง

ฉันถามเขาว่าทำไมไม่โกรธ เขามักจะพูดเสมอว่า “ฉันก็ตั้งใจจะตามใจให้เธอเสียคนแบบนี้แหละ เธอจะได้หนีไปจากฉันไม่ได้ตลอดชีวิตไง”

ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีข้อยกเว้น

แต่หลังจากที่เมิ่งหนิงปรากฏตัวขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ฉันปิดก๊อกน้ำ แล้วหยิบกล่องยาออกมาทำแผลให้ตัวเอง

เมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป เสิ่นเจิงก็อ่อนเสียงลง “เนี่ยนอี อย่าหาเรื่องเลย ฉันกับเมิ่งหนิงก็แค่เล่นละครไปตามสถานการณ์เท่านั้น”

“เจ้านายคนอื่น ๆ ก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น ครอบครัวก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่?”

“รอให้เธอท้องแล้วคลอดลูกก่อน ฉันจะส่งเธอไปต่างประเทศ”

ยังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ของเสิ่นเจิงก็ดังขึ้น เขามองดูแวบหนึ่ง แล้วหันหลังเดินไปทางห้องนั่งเล่น

“ประธานเสิ่น คุณอยู่ที่ไหนคะ? ฉันอยู่คนเดียวแล้วกลัวมากเลย รีบกลับมาได้ไหมคะ...”

เสียงหวานหยดย้อยเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ เป็นเสียงของเมิ่งหนิง

เขาปลอบโยนอีกฝ่ายด้วยสีหน้าอ่อนโยน ท่าทางระมัดระวังราวกับกำลังประคบประหงมของล้ำค่า

ฉันไม่ได้พูดอะไร หลังจากทำแผลเสร็จ ก็เก็บอาหารบนโต๊ะที่วางทิ้งไว้หลายวันต่อ

เสิ่นเจิงวางสาย แล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

“เสิ่นเจิง” ฉันเรียกเขาไว้

“มีอะไรอีก?” เขาตอบอย่างรำคาญ “วันนี้อาหนิงเป็นไข้ ฉันต้องไปดู เธออย่ามาชวนทะเลาะไร้สาระนะ”

“เราหย่ากันเถอะ”

“กู้เนี่ยนอี เธอเป็นบ้าอะไรอีก?!” เสิ่นเจิงขมวดคิ้วมองฉัน

“เมื่อกี้ก็ทำร้ายตัวเอง ตอนนี้ก็มาขอหย่า ทำไม ครั้งหน้าจะบอกว่าตัวเองกำลังจะตายหรือไง?”

“ถ้า ฉันกำลังจะตายจริง ๆ ล่ะ?”

ฉันถามเสียงเบา แต่เสิ่นเจิงก็ปิดประตูไปแล้ว

หลังเสียงประตูปิดดังสนั่น บ้านหลังใหญ่ก็กลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดขึ้นมาที่ช่องท้อง ฉันรีบหายาแก้ปวดกรอกเข้าปาก

เจ็บจัง

ฉันอยากจะบอกเขาว่า ฉันกำลังจะตายจริง ๆ

ฉันใช้มือที่สั่นเทาโทรหาเขา แต่สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงสัญญาณสายไม่ว่าง

ฉันถูกบล็อกเบอร์แล้ว

ฉันหัวเราะอย่างขมขื่น พลางมองปฏิทินบนผนัง “เสิ่นเจิง นี่คือวันแรกแห่งการอำลาของฉันกับนาย”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 19

    พริบตาเดียว ก็ถึงวันครบรอบแต่งงานอีกครั้งเสิ่นเจิงถือเค้กที่สั่งไว้ล่วงหน้ากลับมาบ้าน แต่กลับพบว่าในบ้านไม่มีใครอยู่เลยเขาหาทั่วทั้งบ้าน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้เนี่ยนอีความหวาดกลัวที่จะต้องสูญเสียถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เสิ่นเจิงกำลังจะโทรแจ้งตำรวจอย่างลนลาน แต่แล้วก็มีเสียงจานแตกดังมาจากในครัวเสิ่นเจิงรีบวิ่งเข้าไปในครัว ก็เห็นดวงตาของกู้เนี่ยนอีแดงก่ำ“ที่รัก ฉันเป็นมะเร็ง”เสิ่นเจิงยังไม่ทันได้อ้าปาก สภาพแวดล้อมรอบกายก็พลันมืดมิดลง ร่างของกู้เนี่ยนอีปรากฏขึ้นอีกครั้งจากอีกทิศทางหนึ่งและครั้งนี้ เธอผอมจนเหลือแต่กระดูกเธอมองมาที่เขา ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “เสิ่นเจิง หลอกตัวเองแบบนี้มันสนุกมากเหรอ?”ในหัวของเสิ่นเจิงมีเสียงดังกระหึ่มวินาทีต่อมา เธอก็เห็นเขาหลั่งน้ำตา“เสิ่นเจิง ขอโทษนะ ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้อภัยคุณแล้ว”“เพราะว่าฉันไม่ได้รักคุณแล้วจริง ๆ”พื้นดินยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว เสิ่นเจิงพยายามยื่นมือออกไปเพื่อคว้าไว้ แต่ก็ทำได้เพียงมองอีกฝ่ายค่อย ๆ ห่างไกลออกไปความกลัวที่จะสูญเสียเข้าครอบงำ เขาดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แล้วก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ ข้างกาย

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 18

    เขานั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพลบค่ำเพราะไม่อยากกลับไปที่บ้านว่างเปล่าที่ไม่มีกู้เนี่ยนอีอีกแล้ว เสิ่นเจิงจึงแอบหลบการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จนกระทั่งม่านราตรีโรยตัวลงมา เขาถึงได้กลับไปยังที่ตั้งของป้ายหลุมศพอีกครั้งสุสานในยามดึกสงัดมีลมเย็นพัดโชยมาเป็นระยะ ทั่วทุกแห่งอบอวลไปด้วยไอเย็นยะเยือกแต่เสิ่นเจิงกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อยเพราะที่นี่คือที่ฝังร่างของคนที่เขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนเขานอนลงข้างหลุมศพ ลูบไล้ป้ายหินที่เย็นเฉียบอย่างอ่อนโยนเขารู้สึกสงบใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่ามกลางสายลมที่พัดมาเป็นระลอก เสิ่นเจิงก็ผล็อยหลับไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เสิ่นเจิงก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องเข้ามาในห้อง เฟอร์นิเจอร์รอบกายล้วนย้ำเตือนเขาว่านี่คือบ้านของเขาเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?เขาจำได้ชัดเจนว่าตัวเองอยู่ที่สุสาน...มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตู ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูก็ถูกเปิดออกและคนที่เข้ามา ก็คือกู้เนี่ยนอี!เนี่ยนอี...เธอ...ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วเหรอ?เสิ่นเจิงมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ กู้เนี่ยนอียิ้มแล้วนั่งลงข้

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่17

    ช่วงนี้ เสิ่นเจิงพยายามติดต่อเธอมาตลอดเธอรู้ว่าเขาอยากจะเจอเนี่ยนอี แต่เธอก็ปฏิเสธไปทุกครั้งแต่ซูเหยียนไม่เคยคิดเลยว่า สุดท้ายแล้วเสิ่นเจิงจะใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือในการติดต่อเธอความเป็นเพื่อนกันมาหลายปีทำให้เธอใจแข็งได้ไม่สุด เพราะเธอก็กลัวว่าเสิ่นเจิงจะก่อเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมาจริง ๆเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ร้ายแรง ซูเหยียนก็หันหลังเตรียมจะจากไปแต่กลับได้ยินเสียง “ตุ้บ” เสิ่นเจิงคุกเข่าลงเขาก้มหน้าลง ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทาไม่หยุด“ซูเหยียน ขอร้องล่ะ ขอร้องเธอล่ะ... พาฉันไปเจอเธอหน่อยเถอะนะ...”ซูเหยียนไม่เคยเห็นเขาตกต่ำถึงเพียงนี้มาก่อน ในที่สุดใจที่เคยแข็งกระด้างก็อ่อนลงวันที่ไปหากู้เนี่ยนอี เสิ่นเจิงตั้งใจใส่สูทเป็นพิเศษนี่คือของขวัญวันเรียนจบที่เธอมอบให้เขาตอนที่พวกเขาเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆเขาซื้อช่อดอกเดซีช่อใหญ่มา และในขณะเดียวกันก็ไปร้านตัดผมเพื่อจัดแต่งทรงผมตลอดทาง ทั้งสองคนต่างก็เงียบรถวิ่งมาได้สองชั่วโมง ก็จอดลงที่สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีภูเขาและสายน้ำที่สวยงามเมื่อมองไปที่ประตูสุสาน เสิ่นเจิงก็ยืนนิ่งงันอยู่กับที่สถานที่แห่งนี้ เขาเคยเห็นอย่างชัดเจนก่

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 16

    “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วว่าเขาทนไม่ไหวหรอก!”“ไม่ใช่ว่าเขารักมั่นคงอะไรหรอก แต่เป็นเพราะผู้หญิงรอบตัวมันไม่ถูกใจ!”“แต่ว่านะ เสิ่นเจิง นายก็น่าจะลองเปลี่ยนรสชาติบ้าง เอาแต่แบบเมียนายตลอด ไม่เบื่อรึไง?”“แต่ขอแค่เพื่อนเราชอบ จะให้หาผู้หญิงที่เหมือนน้องสะใภ้แค่ไหน พวกเราก็หามาให้ได้...”เสียงหัวเราะอย่างเปิดเผยของผู้ชายดังขึ้นในห้องส่วนตัว เสิ่นเจิงรู้สึกถึงโทสะที่พุ่งขึ้นมาอยู่ที่หว่างคิ้วเขาผลักเด็กสาวออกไปอย่างแรง แล้วใช้มืออีกข้างบีบคอเธอกดลงกับโต๊ะฝ่ามือใหญ่ค่อย ๆ บีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าของเด็กสาวแดงก่ำเด็กสาวดิ้นรนไม่หยุด พยายามที่จะหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา“เสิ่นเจิง หยุดเดี๋ยวนี้! จะฆ่าคนหรือไง!”หลายคนรีบเข้ามาดึงเขาออกอย่างทุลักทุเล เด็กสาวเห็นดังนั้นก็รีบคลานหนีออกจากห้องไปเสิ่นเจิงกวาดสายตาเย็นชาไปทั่วทุกคน“ฉันขอเตือนพวกนาย ถ้าใครกล้าพูดจาไม่ให้เกียรติภรรยาผมฉัน ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!”“แล้วก็ถ้าใครกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้า!”ทุกคนมองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี“เหอะ แค่เพื่อผู้หญิงแก่ ๆ คนเดียว ทำมาเป็นเสแสร้งจริง ๆ”ในกลุ่ม

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 15

    หลังจากสะสางเรื่องของเมิ่งหนิงเสร็จ ขานั่งกระดกเหล้าอยู่ในห้องส่วนตัวของเสิ่นเจิงก็ลาพักร้อนยาวเพราะไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่ากู้เนี่ยนอีได้จากไปแล้ว เสิ่นเจิงจึงเลือกที่จะจมตัวเองอยู่กับสุรา“ถ้ารู้ว่าเธอเป็นมะเร็งเร็วกว่านี้ก็คงดี”“ถ้าฉันไม่โดนเมิ่งหนิงยั่วยวนก็คงดี”“ถ้าหาก...”เขานั่งกระดกเหล้าอยู่ในห้องส่วนตัวของบาร์อย่างปวดร้าวเสิ่นเจิงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้นอนมากี่คืนแล้วที่บ้านไม่มีกลิ่นอายของกู้เนี่ยนอีอีกต่อไป ทำให้เขาอยู่ไม่ได้บ้านเก่าที่โดยพื้นฐานแล้วกลับคืนสู่สภาพเดิม กลับไม่ใช่ที่ที่คุ้นเคยอีกต่อไปเขาอยากใช้แอลกอฮอล์มอมเมาตัวเอง เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานจากความคิดถึงแต่ถึงแม้จะดื่มเหล้าลงท้องไปนับไม่ถ้วน เขากลับไม่เมามาย ตรงกันข้าม สติกลับยิ่งแจ่มชัดขึ้นเขารู้ตัวอย่างแจ่มชัดว่า ข้างกายของเขาไม่มีเธออีกต่อไปแล้วเสิ่นเจิงหัวเราะอย่างขมขื่นก่อนจะกระดกเหล้าอีกขวด จากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมจะเรียกบาร์เทนเดอร์ทว่าทันทีที่ก้าวออกจากห้อง เขาก็เดินชนเข้ากับชายคนหนึ่งอีกฝ่ายขมวดคิ้วสบถ กำลังจะอาละวาด แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครสีหน้าก็เปลี่ยนไป“ประธานเสิ่น ท

  • รักสลายใต้เงาจันทร์   บทที่ 14

    เธอคุกเข่าคลานเข้าไปหาเสิ่นเจิงเธอกุมข้อมือของเขาไว้แน่น น้ำตานองหน้าอ้อนวอนอย่างขมขื่นแต่เสิ่นเจิงกลับไม่ไหวติงแม้แต่น้อยเมิ่งหนิงรีบหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เธอชูมันขึ้นตรงหน้าเสิ่นเจิงแล้วตะโกนสุดเสียงว่า“ประธานเสิ่น ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ได้โปรดเห็นแก่ลูก ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ!”“ไหนว่าคุณอยากมีลูกมาตลอดไม่ใช่เหรอคะ? ดูสิ ในที่สุดเราก็กำลังจะมีแล้ว!”“ครอบครัวพ่อแม่ลูกสามคนที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด ใกล้จะเป็นจริงแล้วนะคะ...”“เหอะ!” เสิ่นเจิงแค่นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา บีบคางของเมิ่งหนิงอย่างแรงจนเป็นรอยนิ้วมือสีม่วงคล้ำ“ใครบอกว่าอยากจะสร้างครอบครัวสามคนกับเธอ?”“ในภาพที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอด มีเพียงกู้เนี่ยนอีคนเดียวเท่านั้น”“ส่วนเธอ สำหรับฉันแล้ว เป็นแค่เครื่องมือ”พูดจบ เขาก็สะบัดมือของเมิ่งหนิงออกอย่างเย็นชาเมิ่งหนิงทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ฉันจำได้ว่าเคยเตือนเธอหลายครั้งแล้วให้เจียมตัว แต่เธอกลับลืม แถมยังไปทำร้ายภรรยาของฉันลับหลังฉันอีก”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ควรจะได้รับผลของการกระทำของตัวเอง!”“ส่วนเด็กคนนั้น แม่ของเขาตายไปแล้ว เขาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status