"ซี้ด"
"อย่านะ"
"อ๊าาาส์" น้ำอุ่นกระฉูดใส่หน้าน้ำหนึ่งโดยที่เธอไม่ทันระวัง ราเชนทร์แตกนอกจากการใช้สองมือชักว่าวและใช้ใบหน้าสวยรองรับน้ำกาม คนเบื้องล่างนั่งคุกเข่าผงกหัวขึ้นเต็มแรงบนใบหน้าอาบไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นและมีกระเด็นเข้าปากไปบ้างเล็กน้อย
"ทำบ้าอะไร"
"รู้จักตอบแทนบุญคุณคนอื่นบ้าง"
หยิบเสื้อสูทที่ไหลกองกับพื้นขึ้นมาเสร็จหน้าตัวเองเพื่อเอาคราบคาวอสุจิออกไป ราเชนทร์นั่งมองผู่หญิงตัวบางอยู่อย่างนั้นและสงสัยว่าเธอไปทำอะไรมาถึงโดนผู้ชายตั้ง 4 คนตามระรานถึงขั้นจะเอาชีวิต
"ไปยุ่งกับผัวคนอื่นมาเหรอ" เขาเอ่ยถาม ผู้หญิงตัวคนเดียวรอดน้ำมือชายฉกรรจ์มาได้ถือว่าเก่งพอสมควร
"ไม่บ้าไปแย่งผัวใคร" ยกขวดน้ำเปล่าล้างหน้าให้คราบได้หลุดออกจากใบหน้าทั้งยังถุยน้ำลายเอากลิ่นคาวออกจากปาก
"....."
"แต่ก็ขอบคุณที่ช่วย แม้จะช่วยด้วยวิธีนี้ก็เหอะ" จากนั้นลุกสะบัดก้นเดินหายไปยังประตูฉุกเฉินด้านหลัง มีเพียงหางตาของราเชนทร์ที่ยังมองตามร่างแน่งน้อยจนหายไปกับตา หลังจากนั้นราเชนทร์เป็นฝ่ายเดินออกไปเช่นกันโดยมีตุลย์ที่นั่งรออยู่บนรถ
"เฮียจะกลับแล้วเหรอ"
"อืม ไม่มีอารมณ์อยู่ต่อ" ถือว่ากลับไวกว่าทุกวันที่มาปกติไม่ตีสองหรือตีสามเขาถึงจะกลับ แต่วันนี้แค่เที่ยงคืนก็ออกจากเลานจ์มาแล้ว ตุลย์สตาร์จรถและเคลื่อนตัวออกช้าๆโดยที่ราเชนทร์นั่งเบาะหลังดื่มแอลกอฮอล์ที่พกติดรถไว้ตลอดจิบไปพลางๆ
เอี๊ยด !!
ตุลย์เบรกหัวทิ่มอย่างไม่ตั้งใจเมื่อถูกคนวิ่งตัดหน้าจนเกือบชน
"ขอโทษครับเฮีย มีคนวิ่งตัดหน้า" จากนั้นเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นเข้ามาด้านใน ราเชนทร์เปิดกระจกรถชะโงกคอมอง ทว่าเป็นร่างผู้หญิงคนเดิมที่เคยขอความช่วยเหลือ กำลังถูกผู้ชายรุมตบตีจะลากเธอขึ้นรถ
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย" เสียงหวีดร้องดังแต่ไม่มีใครกล้าเข้าช่วย
"รังแกผู้หญิงไม่หน้าตัวเมียไปหน่อยเหรอ" เดินลงจากรถพร้อมปืนคู่ใจชี้ไปที่ท้ายทอยชายฉกรรจ์หนึ่งคนที่กำลังง้างฝ่ามือ หากมันกระทบใบหน้าเล็กมีหวังกรามคงแตกผิดรูปแน่
"ผมว่าไม่ต้องยุ่งดีกว่า" ชายฉกรรจ์พูดขึ้นเป็นการเตือนไม่ให้ราเชนทร์เข้ามาวุ่นวายในเรื่องนี้ ดวงตาคมกริบมองไปยังร่างแน่งน้อยที่ถูกล็อคตัวและมองกลับด้วยสายตาอ้อนวอน เธอกำลังจะถูกผู้ชายพวกนี้ทำร้าย
"ติดหนี้พวกแกอยู่เท่าไหร่" ตามล่ากันขนาดนี้คงไม่พ้นเรื่องเงิน ราเชนทร์แค่เดาและเขาก็เดาถูกจากนั้นชายฉกรรจ์ที่ถูกปืนจ่อด้านหลังหันกลับมามองอย่างเชื่องช้า
"สองล้าน"
ราเชนทร์มองน้ำหนึ่งอีกรอบก่อนจะสั่งให้ตุลย์หยิบสมุดเช็คออกมาแล้วยื่นให้ผู้ชายตรงหน้าระบุจ่ายเป็นจำนวนสองล้านห้าแสน
"เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนี้"
รับเช็คจากมือราเชนทร์ สำรวจดูมันคือของจริงก่อนจะพากันปล่อยตัวน้ำหนึ่งทิ้งลงกับพื้นและเดินขึ้นรถขับแยกย้ายกันออกไป คนตัวบางนั่งทรุดกับพื้นหายใจแรงหลังจากวิ่งหนีมาราธอนทั้งคืนก็ไปไม่รอด
"มานี่" ดึงแขนเล็กขึ้นยกตัวเองขึ้น
"ไปไหน"
"ไปกับฉัน"
“ไม่ไป” น้ำหนึ่งสะบัดแขนออก รอดพ้นจากการชายฉกรรจ์หลายคนทว่าจะมาถูกลากไปไหนต่อไหนกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ลุกขึ้นจะเดินหนีแต่กลับถูกราเชนทร์คว้าเอวกิ่วอุ้มตัวลอยห้อยโตงเตงแล้วจับยัดเข้ารถ
“เข้าไปนั่งดีๆ” ใช้เท้ายันขอบประตูเมื่อน้ำหนึ่งจะมุดออก
“ฉันไม่ไป” จะเอาตัวเองออกไปให้ได้ยันร่างคนตัวหนาให้พ้นทางเดินในรถเล็กๆ ก็ทำไม่ได้ ประตูอีกฝั่งถูกล็อคด้วยปุ่มควบคุมด้านหน้า น้ำหนึ่งไม่มีทางหนีออกไปจากรถหรูคันนี้ได้
“คิดว่าเงินที่ฉันช่วยใช้หนี้แทนคือเงินการกุศลเหรอน้ำหนึ่ง” เสียงทุ้มกดต่ำจ้องด้วยสายตาดุดันน่าสะพรึงยิ่งกว่าชายฉกรรจ์พวกนั้นเสียอีก เวลานี้คล้ายหนีเสือปะจระเข้เป็นจระเข้ป่าอเมซอนแน่ๆ ทำไมแววตาผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ทว่าก็ไม่ได้กังวลใจมาก นั่งสูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงในยามที่ไร้สิ้นหนทางออกไปจากจุดนี้ มือหนาดึงประตูฝั่งด้านขวาดังปัก จากนั้นตุลย์ก็ขับเคลื่อนออกไป
บรรยากาศอย่างกับจะถูกพาไปลงนรกอยู่ร่อมรอ มองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถและใช้มือน้อยกดปุ่มบานกระจกทว่ามันก็ไม่เคลื่อนตัวลงมาเพราะมันถูกสั่งล็อกไว้อยู่
“บ้านอยู่ไหน” ราเชนทร์เอ่ยถามขึ้นที่ลากน้ำหนึ่งขึ้นรถมาเพียงเพราะจะมาส่งเท่านั้น แต่อีกฝ่ายดันคิดไปใกล้และนั่งกลัวมาตั้งนาน
“มาส่งฉันเหรอ”
“แค่บอกว่าบ้านอยู่ไหนจะมาย้อนถามทำไม” เธอนั่งเงียบไม่มีคำตอบถอนหายใจดังฟอดใหญ่เหมือนคนคับอกคับใจ
“ไม่มีบ้าน” เป็นประโยคที่ทำให้ราเชนทร์หันมองคนด้านข้างคิ้วขมวดเป็นปมจางๆ ใบหน้าเล็กก้มต่ำนั่งก้มหน้าเม้มริมฝีปาก บ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ถูกเจ้าหนี้ยึดไปแล้วเพราะไม่มีเงินหาไปชดใช้อีกทั้งถูกทุบทำลายเตรียมสร้างเป็นโกดังเก็บของ
“จอดให้ฉันตรงนี้ก็ได้” ตุลย์ตบไฟเลี้ยวเข้าจอดริมฟุตบาทตามคำร้องขอของคนในรถ โดยที่ราเชนทร์ยังนั่งมองร่างแน่งน้อยไม่กะพริบตา น้ำหนึ่งเอื้อมมือดันประตูก้าวขาลงได้เพียงหนึ่งข้างและกำลังจะยกก้นลอยเหนือเบาะเพื่อยืน มือหนากระชากชุดเดรสเว้าโค้งตามสรีระร่างกายดึงเธอกลับเข้ามาในรถ ไม่ทันระวังตัวน้ำหนึ่งกระเด็นไปตามแรงดึงล้มนอนลงตักคนตัวโต ราเชนทร์ดึงประตูที่เปิดเอาไว้ปิดมันเข้ามา
“กลับบ้าน” เป็นการสั่งมือขวาคนสนิท ตุลย์ใส่เกียร์รถและเหยียบคันเร่งไปด้วยความเร็วสูง โดยไม่ฟังการร้องขอของน้ำหนึ่ง คนที่สั่งเขาได้คือเจ้านายของเขาคนเดียว
“ปล่อยฉันลงสิ ฉันจะกลับเลานจ์” ทุบประตูและจะดันไม่ออกแต่ก็ไม่ทันความไวจองตุลย์กดปุ่มล็อกทันที น้ำหนึ่งนั่งโวยวายเสียงดังสั่งคนขับให้จอดทั้งทุบตีรถ แม้ราเชนทร์จะเริ่มรำคาญกับเสียงแหลมดังกระทบรูหูข้างซ้ายก็ต้องทำเป็นเพิกเฉยไว้ก่อน รอให้ถึงบ้านแล้วจะจับยัยนี้มัดมือมัดปากเอาให้ดิ้นไม่ได้
หัวใจเธอเต้นแรง พวงแก้มแดงก่ำหนักกว่าเดิมและร้อนผ่าวจนเขินอายทั้งที่อยู่ด้วยกันมานาน น้ำหนึ่งเดินมาอีกมุมของห้องเพื่อหลบสายตา จัดการถอดชุดบนกายออกเพื่อจะเข้าห้องอาบชำระร่างกายแล้วออกมานอน ซิปด้านหลังพยายามจะรูดลงอย่างเงอะงะ ทว่าราเชนทร์รีบเข้ามาช่วยในทันที“จะอาบน้ำเหรอ”“อืม...เหนียวตัว”เสียงซิปรูดรั้งลง โชว์แผ่นหลังขาวเนียนแก่สายตาคนมอง จากนั้นลมร้อนจากปลายจมูกปะทะลง ทำเธอสะดุ้งตัวเมื่อริมฝีปากคนด้านหลังจุมประทับลง“ที่จริงก็ยังไม่เหนียวเลยนะ”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบแล้วรั้งทั้งชุดลงจนเธอตัวเปลือย มองหน้าอกอวบเต่งตึงจนเกิดเส้นเลือดบนบริเวณเนื้อนมนั้น หน้าท้องมีพุงน้อยๆ โผล่ขึ้นไม่ต่างจากคนเพิ่งกินข้าว ส่วนด้านล่างนั้นเกลี้ยงเกลาน่ารักราวกับเด็กน้อยเพราะเธอไปเลเซอร์มา“ไม่เหนียวก็จะอาบ”กำลังจะเดินหนีก็ถูกโอบกอดเอาไว้ ราเชนทร์จูบลงต้นคอและไซ้เบาๆ ทำขนอ่อนบนร่างชูชันขึ้น“หนึ่ง”“ไม่เอานะเฮีย วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย”“เฮียมีความสุขมาก”“….”“ในที่สุดเราก็เป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์”“ค่ะ – หนึ่งจะเป็นภรรยาที่ดีของเฮียนะ”ราเชนทร์ต้องการแสดงความรักด้วยการกอดเท่านั้น กระชับร่างขาวลงจม
สองอาทิตย์ต่อมากำหนดงานแต่งที่วางแผนกันไว้ตอนนี้ล่วงเลยมาแล้ว ครั้นเกิดเหตุการณ์อันตรายจนได้รับบาดเจ็บกันทั้งสอง แผลที่เกิดจากการโดนยิงเริ่มหาย ส่วนแขนของน้ำหนึ่งที่หักก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่เพราะความไม่เคยเจ็บตัวทำให้เธอระแวงในการใช้แขนเพราะกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีกรอบ“ฤกษ์แต่งงาน – เราค่อยหากันใหม่”“หนึ่งไม่อยากได้ฤกษ์แล้ว”เธอตอบเขา พลางหยิบผลไม้รสเปรี้ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เปิดหนังสือจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ส่งมาให้เลือกทุกสามเดือน ทว่าน้ำหนึ่งไม่ชอบเสื้อผ้าแฟชั่นพวกนี้เท่าไหร่“ไม่มีฤกษ์ ก็ไม่ได้แต่งน่ะสิ”“เอาที่สะดวกดีกว่า”“….”“เราอยู่ด้วยกันมานาน ใครๆ รู้ว่าเป็นผัวเมียกัน ไม่ต้องทำอะไรที่เป็นพิธีรีตองแล้วก็ได้ แค่ได้อยู่กับเฮียในทุกๆ วันนั่นแหละคือความสุขของหนึ่ง”ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีงานมงคลเกิดขึ้น ทุกอย่างมาจากความต้องการของราเชนทร์เพราะอยากให้เกียรติ แต่พอผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆ กันมาได้ ทำให้เธอรู้ว่าการได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวินาทีนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลา มองเมียรักนั่งไขว่ห้างเปิดหนังสือในอิริยาบถที่สบายตา เธอสบายใจขึ้นในการใช้ชีวิตจ
น้ำหนึ่งตาเบิกโพลง ราเชนทร์กำลังมีความต้องการทั้งที่สภาพร่างกายแต่ละคนก็เจ็บมากพอสมควร“หนึ่งแขนหัก เฮียโดยยิงตรงท้องและต้นแขน ขย่มไม่ได้หรอกนะ”ประโยคอ้อยอิ่งทั้งเขินอายปฏิเสธทางอ้อม ครั้นรู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร ที่เป็นอยู่มันไม่ได้เอื้ออำนวยแก่การร่วมรักเลยสักนิด“คxยเฮียไม่หักนี่”“ไม่เอา”“อยากเลีย”“เลียอะไร”ถามกลับอย่างไร้เดียงสา อันที่จริงน้ำหนึ่งรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มหมายถึงอะไร ราเชนทร์ขยับกายลงจากโซฟาแล้วนั่งย่อ จากนั้นคล้องเรียวขาเล็กลากมายังฝั่งที่ตนนั่ง เขารั้งกางเกงผู้ป่วยของเธอลง แล้วยกเท้ายันชันเข่าขึ้น“ขอเลียหน่อยนะครับ”“โรงพยาบาลนะ”“ไม่มีใครเข้ามา เฮียสั่งไว้แล้วห้ามรบกวน”“บ้า”คำพูดที่เอ่ยออกเหมือนจะปฏิเสธ ทว่าก็รู้สึกไม่ต่าง พลันมือหนาจับเรียวขาแหกออกกว้าง มองเนินกุหลาบอวบอูมที่ไม่มีชุดชั้นในห่อเอาไว้ เขาสอดมือใต้ร่มผ้า เลื่อนสูงขึ้นกำเข้าเต้านมสวยบีบมันเบาๆ แล้วใช้มืออีกข้างบดขยี้เม็ดคลิตอริสที่โผล่ขึ้นมาจากรอยแยกเล็กน้อย น้ำหนึ่งสะดุ้งตัวแต่ยังไม่มีเสียงครางเล็ดออกมาเพราะเธอกัดปากแน่นเอาไว้ กลัวว่าจะเผลอร้องจนเจ้าหน้าที่และลูกน้องที่ยืนเฝ้าลอบได้ยินและสงสั
ร่างหนาอยู่บนเตียง จะไม่ตกใจหากราเชนทร์นอนแบบคนปกติ ทว่าตอนนี้มีผ้าสีขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่เห็น ลมหายใจแรงขึ้นและหยาดน้ำตาร่วงหล่นอาบใบหน้าที่ไร้การแต่งทันทีราเชนทร์ตายแล้ว...“ฮึ่ก”ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าขยับไปทีละน้อยให้ใกล้เตียงแต้ม ยกมือปิดปากตัวเองไม่ให้เสียงเล็ดลอดครั้นไม่อยากให้คนตายนั้นได้ห่วง ทว่าความเสียใจที่เกิดแบบไม่ทันได้เตรียมเกินกว่าจะอดทน พลันปล่อยโฮร้องไห้อย่างหนัก ซบตัวลงกอดร่างหนานั้นอย่างไม่กลัว ทั้งที่ปกติเป็นคนกลัวผี“หนึ่งขอโทษ – ฮือ ขอโทษที่ช่วยเฮียไม่ได้”สะอึกสะอื้นพร้อมกับเอ่ยโทษตัวเองเสียงสั่น เพราะผู้หญิงตัวคนเดียวก็ทำได้เพียงเท่านี้ น้ำสีใสจากเบ้าตาไหลเปียกผ้าสีขาว ทั้งน้ำมูกที่ไหลออกจากรูจมูกยามร้องไห้แบบเอาเป็นเอาตาย“ขอโทษที่ปกป้องเฮียไม่ได้”“หนึ่ง”“ฮือ!! ขอโทษ”“หนึ่ง”เจ้าของชื่อชะงักในทันที เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกเธอกลางวันแสกๆ ราเชนทร์กลายเป็นผีมาหลอกเธอได้แล้วเหรอเนี่ย“ไม่กลัว เฮียจะเป็นผี หนึ่งก็ไม่กลัว”“จะตายจริงๆ เพราะโดนเมียทับแผลนี่แหละ”เหยียดตัวยืนขึ้น จากนั้นดึงผ้าที่ห่อขึ้นคลุมศีรษะ ราเชนทร์ลืมตาแล้วกะพริบถี่
กำลังคนด้านนอกของราเชนทร์กระจายออกไปโดยรอบ สำรวจทางหนีทีไล่ในยามต้องเข้าชิงตัวเขาออกมา“เฮียตุลย์ จะเอายังไงก็เอาเถอะ เรานั่งกันแบบนี้นานแล้ว”“ใจร้อนแบบมึงก็มีแต่พาเฮียเชนทร์ไปตาย – มองไม่เห็นคนของไอ้เสี่ยเหรอ เดินเข้าเดินกันเป็นขบวน”จริงอย่างที่เขาพูด ไม่นึกว่าคนของชลัมพลจะขนมาเยอะขนาดนี้ ต้องรอจังหวะในการเก็บทีละคน กระทั่งมีชายฉกรรจ์เป็นลูกน้องฝั่งศัตรูออกมาปลดทุกข์เบา ตุลย์ที่หมอบต่ำในพงหญ้า ลุกขึ้นช้าๆ พร้อมกันกับน้องคนสนิทอย่างปืน จากนั้นเข้าทางด้านหลัง ใช้มือปิดปากคนฝั่งตรงข้ามพร้อมกับใช้มีดเฉือนเข้าลำคออย่างเหี้ยมโหด ไม่ได้เป็นคนจิตใจอำมหิตโดยสันดาน แต่สถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอดและช่วยเหลือเจ้านายผู้มีพระคุณจำเป็นต้องทำ หากมันไม่ตายราเชนทร์ก็ต้องตายน้ำหนึ่งที่ยังเกาะกิ่งไม้ดูลาดเลา ยามส่องกล้องทางไกลเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อชายฉกรรจ์นอนชักดิ้นชักงอจนหมดลมหายใจ พลันหัวใจเต้นรัวและหวาดกลัวไม่น้อยครั้นเห็นคนตายต่อหน้า ทว่าพยายามตบสติตัวเอง เข้าใจว่าเป็นการป้องกันตัวและเข้าช่วยเหลือ ไม่มีใครอยากเป็นฆาตกร“โอเคไหมหนู”ลุงที่รออยู่ด้านเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะได้ยินเสียงลมหายใจของน้
เพียะ!!ฝ่ามือหนาฟาดลงใบหน้าราเชนทร์จนหมุนไปตามแรงกระทบ แรงผู้ชายที่ง้างมือตบครั้งเดียวทำมุมปากเขาแตก เลือดไหลเพียงเล็กน้อยทว่ามีรอยแดงขึ้นกลางหน้าปรากฏเด่นชัด เล็บจิกลงกับพื้นคอนกรีต กลืนน้ำลายยามที่คับแค้นใจ อยากจะลุกตอบโต้ด้วยการเตะเสยปลายคางก็ต้องอดกลั้นเอาไว้อย่างที่สุดครั้นตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นรอง เป็นครั้งแรกที่เขาอดทนได้มากขนาดนี้ อดเพื่อรอเวลาเป่ากบาลไอ้สารเลวที่มันกำลังคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น“ไงมึง ลุกขึ้นมาสิ ลุกขึ้นมา”“อ๊า—”ชลัมพลกำเข้าเส้นผมอีกฝ่ายแน่น จากนั้นกระชากจนใบหน้าแหงนขึ้นสูง ราเชนทร์เอียงสายตาโกรธแค้นมองคนเลวที่ยังทำชั่วลอยหน้าลอยตาหนักแผ่นดินไม่เลิก พลันสีหน้าของมันบ่งบอกว่าสะใจมาก เมื่อตอนนี้เขาตกเป็นรองทุกอย่างจะบีบก็ตาย จะคายก็ตาย...“กูจะส่งมึงตามพ่อมึงไป ส่วนแม่มึง...แค่ดึงสายออกซิเจนออกไปก็หมดลมหายใจทันที ถึงตอนนั้นพวกมึงคงไปรอกันที่ทางช้างเผือ""....""ครอบครัวคงจะสมบูรณ์ มีความสุขแล้วสินะไอ้ลูกหมา"แสยะยิ้มร้ายกาจแล้วตบหน้าชายหนุ่มเบาๆ พูดอย่างเย้ยหยันแล้วแผดเสียงหัวเราะอย่างผู้ชนะ ก่อนนจะจับหน้าผากของราเชนทร์กระแทกลงพื้นดังปักไปหลายทีและหัวแตกใ